“หลินเฟิง นายกล้าฆ่าคนของตระกูลซือหม่าต่อหน้าฉัน นายใจกล้ามากเลยนะ!”บริวารเหลียงส่งเสียงไม่พอใจ คนทั้งคนลุกขึ้นฉับพลันทันทีเท้าเหยียบกำแพงสองข้างของทางเดิน โฉบเข้ามาหาหลินเฟิงเหมือนกับนกอินทรีมือของเขากลายเป็นกรงเล็บ พลังชี่แท้รุ่มร้อนมีแสงวูบวาบสีแดงลมจากกรุงเล็บนี้ ตวัดผ่านอากาศที่อยู่รอบๆ เสียงลมแรงพัดจนแสบแก้วหู ทำให้บอดี้การ์ดทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์อุดหูของตัวเองเอาไว้บริวารเหลียงคนนี้ก็เป็นนักบู๊แดนแปรภาพ ไม่แปลกใจเลยที่มีความมั่นใจแบบนี้แต่เขาอยู่แค่แดนแปรภาพระดับเริ่มแรกอยู่ต่อหน้าหลินเฟิงยังไม่เพียงพอให้ดูด้วยซ้ำ“หึ รนหาที่ตาย..”หลินเฟิงไม่ได้หันกลับไปก็รู้ถึงการโจมตีของบริวารเหลียงคนนี้ เขายืนทรงตัวนิ่ง สูดหายใจเข้าลึกๆจากนั้นหันหลังไป หมัดที่เต็มไปด้วยพลังชี่แท้สีทองปะทะกับกรงเล็บอินทรีของบริวารเหลียงกำปั้นกรงเล็บปะทะกัน คลื่นกระแทกอันทรงพลังทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ยืนได้ไม่มั่นคงด้านบนของทางเดินตรงห้องผ่าตัดมีเลือดสดที่เดือดผุดลอยออกมา กระเด็นไปบนกำแพง กลิ่นคาวเลือดคลุ้งไปทั่วหลังจากที่ทุกคนในที่เกิดเหตุทรงตัวได้ก็นิ่งอึ้งไปเพราะว่าเลือดที่กร
ในตอนที่บอดี้การ์ดสองคนที่อยู่ด้านหน้าสุดยังไม่ทันตั้งตัว เขาใช้มือจับข้างละคน บีบคอของทั้งสองคนจนหักดังแกร่กทันที“ลุยสิ! ฆ่าเขาซะ!”เห็นหลินเฟิงลงมือกะทันหัน พวกบอดี้การ์ดก็รู้แล้วว่าวันนี้พวกเขาเจอของแข็งเข้าแล้วหนีก็ไม่มีทางหนีพ้นแน่นอนจึงนำมีดสปาต้าและกระบองที่อยู่ในมือออกมา พุ่งไปทางหลินเฟิงโดยตรง“หึ!”หลินเฟิงโยนศัตรูสองคนที่สูญเสียพลังชีวิตไปในกลุ่มคนอย่างง่ายดายในตอนที่บอดี้การ์ดเหล่านี้กรูกันเข้ามาตามทางเดิน หลินเฟิงกลับเหยียบกำแพง กระโดดไปทางด้านหลังสุดของกลุ่มคนในทันที“นายอยากจะหนีไปงั้นเหรอ? ขอโทษด้วย ไม่มีทางทำแบบนั้นได้แน่นอน”หลินเฟิงกระโดดไปยังด้านหลังสุดของกลุ่มคนเขาเห็นด้านหลังกลุ่มมีบอดี้การ์ดคนหนึ่งเตรียมจะหนีไป จากนั้นพูดประโยคสุดท้ายที่เขาได้ยินในขณะที่มีชีวิตคำพูดเมื่อครู่ที่อยู่ด้านบนกลุ่มคน เป็นเขาที่ตะโกนออกมาผลปรากฏว่าขณะที่เขายืนอยู่ด้านหลังสุดของกลุ่มคน และตะโกนประโยคนี้ออกมา อยากให้พวกบอดี้การ์ดที่อยู่ตรงทางเดินดึงดูดความสนใจของหลินเฟิง เพื่อที่จะหนีออกไปได้เพียงลำพัง“ผลัวะ!”หลินเฟิงปล่อยหมัดไปที่คอของเขาโดยตรง มองดูเขาล้มลงบนพื้นด
เลี่ยวจงคิดได้ไม่ผิดหลินเฟิงจะไปเล่นงานตระกูลซือหม่าจริงๆ นั่นแหละทุกครั้งที่หลินเฟิงนึกถึงอาอวี๋ที่ถูกทารุณกรรม ในใจก็มีความโมโหและความดุร้ายเพิ่มขึ้นมาอาอวี๋รับเขามาอยู่ด้วยก็ถือว่าเป็นบุญคุณมากแล้วยิ่งไม่ต้องพูดว่าบาดแผลของอาอวี๋ได้รับมาเพราะเขา นี่จึงทำให้ขณะเดียวกันที่หลินเฟิงโมโห ก็ยังมีความรู้สึกทุกข์ใจจากความละอายอย่างถึงที่สุดถ้าหากให้อวี๋จื่อเสวียนรู้ คิดว่าอวี๋จื่อเสวียนต้องไม่มีทางแสดงท่าทีที่ดีต่อเขาอย่างมาก“ซือหม่าเหวิน...วันนี้ นายจะต้องตาย!”หลินเฟิงกำหมัดแน่น ในสายตาเกิดความโมโหรุนแรงขึ้นมาเขาจะให้ซือหม่าเหวินชดใช้อย่างสาสม จะให้คนที่เข้าร่วมการทารุณอาอวี๋ทุกคนต่างชดใช้ด้วยเลือดเนื้อ!ด้วยเหตุนี้ ต่อให้เปิดศึกกับทั้งตระกูลซือหม่า หลินเฟิงก็ไม่เห็นแก่ตัวเอง!รถของหลินเฟิงถูกหลี่ฮุ่ยหรานขับไปแล้วหลินเฟิงเดินออกมาจากโรงพยาบาล เรียกรถแท็กซี่ที่ข้างทางโดยตรง และมาถึงที่หน้าประตูคฤหาสน์ของตระกูลซือหม่าพอดีกับที่ เขาได้พบกับบอดี้การ์ดเฝ้าประตูคนนั้นที่อาอวี๋พูดถึง“เฮ้ย ไอ้หนุ่มนายมาทำอะไร?”บอดี้การ์ดคนนั้นหยิ่งผยองเหมือนที่อาอวี๋พูด ทั้งๆ เป็นแค่หมาเฝ
หลินเฟิงไม่มีอะไรจะพูดกับคนแบบนี้เขาออกแรง บีบคอของเขาจนแตกเป็นเศษดัง “แกร่ก”บอดี้การ์ดคนนี้ล้มลงบนกองเลือด ดวงตาสองข้างเบิกตากว้าง นอนตายตาไม่หลับจนตายเขาก็ยังไม่เข้าใจว่าตัวเองทำไมถึงได้ตายไปอย่างง่ายดายแบบนี้หรือว่ามีคนที่ใจกล้าแตะต้องตระกูลซือหม่าจริงๆ?“ฟู่ว...”บีบบอดี้การ์ดคนนี้จนตาย หลินเฟิงเดินไปที่ด้านหน้าประตูใหญ่ของคฤหาสน์ช้าๆ เขาสูดหายใจ จากนั้นคำรามเสียงต่ำ ถีบไปที่ประตูใหญ่ของตระกูลซือหม่าจนเปิดออกหลังจากประตูโลหะสองบานล้มลงบนพื้นเสียงดังสนั่น ยังมีรั้วที่เชื่อมต่อประตูโลหะ ก็ล้มลงกว่าครึ่งในทันที“ใคร? เกิดอะไรขึ้น?”“เกิดเรื่องอะไร? แผ่นดินไหวงั้นเหรอ?”หลังจากที่หลินเฟิงเดินออกมาจากควันฝุ่นของประตูใหญ่ที่ล้มลง บอดี้การ์ดของตระกูลซือหม่าทั้งหมดต่างนิ่งอึ้งไปพวกเขาพากันรวมตัวไปที่ประตูใหญ่ของคฤหาสน์ ทันใดนั้นเห็นผู้ชายวัยรุ่นสีหน้านิ่งเฉยคนหนึ่งมองตามทางที่คนผู้นี้เข้ามา พวกเขาก็เห็นบอดี้การ์ดเฝ้าประตูที่จมอยู่ในกองเลือดในจุดที่ไกลออกไป แต่ละคนก็นิ่งอึ้งอยู่กับที่เป็นเวลานาน“นี่มัน...เกิดอะไรขึ้น?”“หรือว่า...มีคนมาหาเรื่องที่ตระกูลซือหม่า?”“ไม่ใ
ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ เขาจริงจัง!มองดูสีหน้าสงบนิ่งของหลินเฟิง กลุ่มบอดี้การ์ดของตระกูลซือหม่าพากันเผยสีหน้าหวาดกลัวเป็นอย่างมากออกมาเพียงแค่กระบวนท่าเดียว ก็ทำให้หัวหน้าบอดี้การ์ดที่ฝึกวิทยายุทธจนมีกำลังภายในถูกฆ่าตายภายในวินาทีเดียว ความสามารถของไอ้หมอนี่เพียงพอที่จะเทียบเท่ากับพวกบริวารที่อยู่ภายในตระกูลได้เลย!นี่ไม่ใช่ตัวตนที่พวกเขาบอดี้การ์ดกลุ่มนี้จะสามารถต่อต้านได้!“เร็ว...รีบไปเชิญท่านบริวารมา!”บอดี้การ์ดคนหนึ่งหันหลังวิ่งหนีไป ส่วนหลินเฟิงก็มองดูบอดี้การ์ดคนนี้วิ่งหนีไปทั้งแบบนี้ เขาไม่ได้พูดอะไรอีกแม้แต่ประโยคเดียว“ไอ้หนุ่ม นายอย่ากำเริบเสิบสาน กล้ามาสร้างเรื่องที่ตระกูลซือหม่า วันนี้นายตายแน่!”มองดูศพของหัวหน้าที่ล้มอยู่บนพื้น บอดี้การ์ดคนหนึ่งอดใจไม่ไหว เอ่ยปากตะโกนใส่หลินเฟิงด้วยความโมโหทันที“หือ?”หลินเฟิงหันหน้ามากะทันหัน ส่งสายตามองไปทางเขาจากนั้น บอดี้การ์ดคนนั้นดวงตาพร่ามัว สบตากับดวงตาที่นิ่งเฉยไร้ความรู้สึกของหลินเฟิงทันที“นายพูดว่า...ฉันตายแน่งั้นเหรอ?”หลินเฟิงยืนอยู่ตรงหน้าเขาไม่ถึงครึ่งเมตร ถามขึ้นด้วยความนิ่งเฉย“นาย...นาย...”บอดี
“ผ่านไปห้านาทีแล้ว ในเมื่อพวกนายไม่ได้พาตัวซือหม่าเหวินมา งั้นก็พาฉันไปพบเขา”หลินเฟิงใบหน้านิ่งเฉยมองดูบอดี้การ์ดที่ตัวสั่นเทาตรงหน้าคนนี้ เขาก็แค่เห็นบอดี้การ์ดที่ขี้กลัวมากที่สุดอย่างเห็นได้ชัดคนนี้ท่ามกลางกลุ่มคนโดยทั่วไปแล้วคนที่ขี้กลัว ก็แสดงว่ากลัวตาย ควบคุมได้ง่ายถ้าหากเจอกับคนที่หัวแข็งดื้อรั้น กลับจะทำให้เขาเสียเวลา“อ๊ะ? คุณชายซือหม่าเหวิน?”บอดี้การ์ดคนนี้ถูกหลินเฟิงทำให้ตกใจจนกลัว เขาลังเลอยู่นาน และมองไปทางบอดี้การ์ดคนอื่นๆ อย่างอดไม่ได้และบอดี้การ์ดคนอื่นๆ ก็หวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด พวกเขากลัวว่าหลินเฟิงจะฆ่าบอดี้การ์ดคนนั้น และเล็งเป้ามาที่ตัวของพวกเขาต่างก็ได้เงินเดือนที่แน่นอน จะสู้ชีวิตไปทำไมกัน!หลินเฟิงบรรยายบอดี้การ์ดของตระกูลซือหม่าแค่สองคำอ่อนแอแน่นอนว่า นี่จะโทษบอดี้การ์ดของตระกูลซือหม่าไม่ได้ ในเมื่อพวกเขาไม่ใช่ตระกูลบู๊โดยเฉพาะ จึงไม่สามารถเทียบกับตระกูลหลงได้จุดที่พวกเขายิ่งใหญ่ก็มีเพียงแค่บริวารที่อยู่ภายในตระกูลก็เท่านั้นบอดี้การ์ดเหล่านี้ แทนที่จะพูดว่าเป็นบอดี้การ์ด ไม่สู้พูดว่าเป็นรปภ. จะดีกว่าเหตุผลที่พวกเขาสามารถรับรอบงานนี้ได้ไม่
ประมาณสิบนาที หลินเฟิงนั่งอยู่บนรถชมวิว ก็เห็นคฤหาสน์หรูหราที่ใหญ่โตหลังหนึ่งตรงหน้าคฤหาสน์มีรถหรูจอดอยู่หกเจ็ดคัน ต่างเป็นรุ่นลิมิเต็ดที่เมื่ออยู่ข้างนอกก็จะสร้างความดึงดูดได้ดูแล้วนี่ก็คือของสะสมของซือหม่าเหวินสินะหลินเฟิงลงจากรถชมวิว เขาก็ไม่ได้สร้างความลำบากใจให้บอดี้การ์ดที่ขี้กลัวคนนี้ ในเมื่อใครก่อหนี้เอาไว้ ก็ให้คนนั้นมารับผิดชอบ ก่อนหน้านี้ที่หลินเฟิงฆ่าคนเป็นเพราะโมโหและแสดงอำนาจตอนนี้เขามาถึงที่พักของซือหม่าเหวินแล้ว ไม่จำเป็นต้องฆ่าแกงจนใหญ่โตอีกแล้วหลินเฟิงไม่ใช่คนที่ชื่นชอบการสังหารอะไรสำหรับคนที่รู้จักเอาตัวรอด เขาเป็นคนที่ใจกว้างมาโดยตลอด“ไปเถอะ”หลินเฟิงโบกมือ ให้บอดี้การ์ดคนนั้นจากไปซะส่วนบอดี้การ์ดคนนี้ที่เดิมทีคิดว่าวันนี้ตัวเองต้องตายแน่นอน แต่คิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงกลับไม่ได้ฆ่าเขา นี่จึงทำให้เขาดีใจอย่างบ้าคลั่งไม่มีเรื่องอะไรที่น่าดีใจยิ่งกว่าการที่รักษาชีวิตเอาไว้ได้แล้วเขาถึงขั้นที่ขอบคุณหลินเฟิงคนนอกคนนี้ที่บุกเข้ามาในตระกูลซือหม่า ภาพนี้ทำให้หลินเฟิงส่ายหน้าไม่หยุดบอดี้การ์ดของต้นตระกูลซือหม่าท่าทางน่าเป็นกังวลมากจริงๆแน่นอนว่า นี่จะโทษ
“นายปรากฏตัวขึ้นที่นี่ นั่นก็หมายความว่า...”“เพียะ!”หลินเฟิงไม่ได้พูดอะไรมาก เขาตบหน้าของซือหม่าเหวินจนเสียงดังก้องทันที ฝ่ามือตบจนซือหม่าเหวินงุนงง“ฉันกำลังถามนาย นายตอบฉันมาดีๆ!”หลินเฟิงจับคอเสื้อของซือหม่าเหวินเอาไว้ ในดวงตาเต็มไปด้วยแรงสังหาร“แก...แกกล้าตบฉันงั้นเหรอ?”“แกแม่งกล้าตบฉัน? อยู่ที่ถิ่นฐานของตระกูลซือหม่า?”ซือหม่าเหวินยังไม่ทันได้ตั้งตัวเล็กน้อยเขาลูบใบหน้าของตัวเอง สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดบนหนังหน้า ถึงได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไปทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวเข้าด้วยกัน จากนั้นความโมโหและความอัปยศที่เกิดขึ้นก็ทำให้เขาเงยหน้าขึ้น จ้องมองหลินเฟิงตาเป็นมัน“หลินเฟิง แกแม่งบ้าไปแล้วเหรอวะ? แกรู้ไหมว่าตอนนี้แกกำลังทำอะไรอยู่?!”“ฉันพูดแล้วว่า ตอบคำถามของฉัน!”“เพียะ!”หลินเฟิงตวาดเสียงต่ำ โบกมือขึ้น และตบหน้าเสียงดังก้องอีกครั้ง ตบจนซือหม่าเหวินจนตาลาย และมีเลือดออกตรงริมฝีปากซือหม่าเหวินใช้เวลาหลายนาทีถึงตั้งสติกลับมาได้“หลินเฟิง...แก...”“เพียะ!”“ตอบคำถามของฉัน!”เมื่อเผชิญหน้ากับสีหน้าโมโหของหลินเฟิง ในใจของซือหม่าเหวินกลับเกิดความหวาดกลัวขึ้
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ