"เตอร์ วันนี้มินไปร้านเตอร์ด้วยสิ"
"ทำไม" "มินอยากไปเช็คเรทติ้ง " "หืม" เราสองคนกำลังดูซีรีย์เรื่องโปรดของเธอ ผมที่นอนอยู่บนโซฟา เงยหน้าเลิกคิ้วเข้มมองเธอที่นั่งอยู่ใกล้ ยัยซื่อบื่อนี่นะชอบหาเรื่องให้ผมคอยแกล้งอยู่เรื่อย ผมค่อยค่อยเลื่อนตัวขึ้นและพลิกตัวเล็กน้อยจนหน้าผมอยู่บริเวณซอกคอขาวหอมของเธอ อยากจะงับสักที "เตอร์เช็คให้ เตอร์เช็คเก่ง" "ชะ เช็คยังไง" เธอเหมือนแมวน้อยขนพองพยายามย่นคอหนีผม เมื่อลมหายใจอุ่นๆ ของผมกระทบเข้ากับผิวของเธอ "ก็เช็คคค...ทุกซอกทุกมุม หึ" "เช็คบ่อยละสิ" ฉันพยายามใช้สองมือดันอกแกร่งไว้ และมองสู้สายตาเจ้าเล่ห์ของเขาที่มันดูมีประกายระยิบระยับ สู้มา สู้กลับ ไม่โกง! "ไม่บ่อย แค่กับมิน" "ลองมั้ย" ผมใช้หน้าผากกว้างของผมแตะกับหน้าผากมนของเธอ เอ่ยถามแผ่วเบา "ละ ลองอะไร" "ลองให้เตอร์เช็ค ตรงนี้ ตรงนี้ และตรงนี้" ผมใช้ริมฝีปากชมพูคล้ำของผมไปจูบที่ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูพีช ที่แก้มป่องๆ สองข้าง และเปลือกตาที่มีขนตางอนยาวทั้งซ้ายและขวา "ลองเช็คคค... ตรงนี้" ผมกระซิบข้างหูเล็กของเธอเบาเบา ก่อนจะก้มไปจูบซอกคอหอมหอมของเธอหนึ่งครั้ง...ที่ไหปลาร้าหนึ่งครั้ง...ที่หัวไหล่มนหนึ่งครั้ง แล้วเลื่อนหน้ามาหยุดซบลงตรงหน้าอกของเธอที่มีเสื้อยืดคอกว้างกั้นอยู่ 'จุ๊บ' สองแขนของผมที่ตอนแรกคร่อมตัวเธอเอาไว้ กลับเลื่อนมากอดเธอหลวมหลวม ปลายนิ้วเรียวยาวค่อยๆ ขยับไปที่ชายเสื้อด้านหลังทีละนิดละนิด ผิวเธอเนียนนุ่มลื่นจนผมเปลี่ยนจากปลายนิ้วเป็นฝ่ามือสากลูบสัมผัสผิวเธอเบาเบาไปมา มือซุกซนค่อยๆ เลิกเสื้อเธอขึ้นจนมันกองรวมเหนือก้อนกลมกลึงที่มีบราลูกไม้สีขาวปกปิดอยู่ ผมกดจมูกมีสันลงหน้าอกนุ่มนิ่มของเธอซ้ำซ้ำ ฟอด... "ตะ เตอร์" "หืม ขอเตอร์อยู่อย่างนี้สักพักนะ" เสียงผมอู้อี้อยู่ในลำคอ ก่อนจะกระชับสองแขนให้แน่นขึ้น จนหน้าผมแนบชิดไปกับก้อนนุ่มนุ่ม "เตอร์ขอต่อได้มั้ย นะมิน" "อะ อืม" เธอตอบผมด้วยเสียงติดขัดแผ่วเบา ผมเลื่อนหน้าขึ้นไปจูบเธออีกครั้ง จากที่อยากจะชิมริมฝีปากหวานหวานของเธอ ก็เปลี่ยนเป็นสัมผัสที่ค่อยๆ ร้อนแรง ผมกัดริมฝีปากบางเบาเบาให้พอเปิดอ้าก่อนจะใช้ลิ้นเข้าไปหาความหวานจากปากของเธอนานหลายนาที จนเธอเริ่มใช้กำปั้นเล็กเล็กทุบลงอกแกร่งของผม "มะ ไม่ให้เช็คแล้ว" ผมค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่งพยักหน้าที่ซบลงแนบอก กระชับกอดราวกับกลัวเธอจะหายไปไหน พยายามระงับอารมณ์พลุ่งพล่านอยู่ข้างใน ไม่น่าหาเรื่องแกล้งเธอเลย... "โกรธเตอร์มั้ย" "โกรธ...ได้มั้ย" "ไม่ให้โกรธ" เขาพูดอย่างเอาแต่ใจ ฉันเผลอปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสัมผัสของเขาอยู่นานสองนาน ก่อนจะใช้สติอันน้อยนิดเอ่ยห้ามเขา ใบหน้าของฉันตอนนี้มันร้อนผ่าว หัวใจของฉันมันเต้นรัวปั่นป่วนอยู่ข้างใน เขาจะเจ้าเล่ห์กับฉันเกินไปแล้ว ฉันทำลายบรรยากาศเงียบงันชวนเขาดูซีรีย์ต่อ แล้วเลื่อนตัวนอนบนโซฟาโดยที่เขาขยับตามมากอดฉันไว้จากด้านหลังให้ฉันได้นอนหนุนแขนที่มีกล้ามแน่นของเขา "มินหิว" "อยากกินอะไร เตอร์สั่งให้" เราสองคนนอนดูซีรีย์ด้วยกันจนค่ำ จนท้องของฉันมันร้องประท้วงเพราะความหิว และอยากหาอะไรมาดับความร้อนที่ยังปะทุอยู่เล็ก ๆ ข้างใน "ไก่ทอดเกาหลีกับน้ำเย็นๆ เหมือนในซีรี่ย์" "อืม เตอร์หาร้านแปป" กริ๊ง ฉันกับเขากำลังนั่งกินไก่ทอดอย่างเอร็ดอร่อยอยู่ตรงโต๊ะญี่ปุ่นหน้าทีวี อยู่ๆ เสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้น ฉันว่าฉันไม่ได้นัดใครไว้นี่นา ก่อนจะลุกไปเปิดประตูโดยที่ในมือยังมีไก่ทอดอยู่ "เซอร์ไพรส์... " ฉันเบิกตากว้างอ้าปากค้างด้วยความตกใจ "ย... ยัยหนูมาย ลลิล" "กินข้าวอยู่หรอ ฉันสองคนซื้อชุดสุกี้มาทำกินกับแก สนุกๆ" ผมหันไปมองตามเสียง อืม... เซอร์ไพรส์ของจริง จึงรีบแอบหยิบโทรศัพท์เข้าห้องแชทตามไอ้สองคนให้รีบมา ห้องแชท 'TTKN' Tutor.T : มึงสองคนรีบมาห้องมิน K.NAI : กูไปได้? KKAI : กูว่าง? Tutor. T: 10 นาทีถึง ไอเทมในเกมส์ "ฮัลโล ติวเตอร์" "หวัดดีลลิล หวัดดีมาย" "ทำไมมาอยู่ห้องยัยมิน" มายเอ่ยถามผมด้วยสายตาจ้องจับผิด ผมพยายามเก็บอาการไม่ให้ดูมีพิรุธ เพราะมินตอนนี้สีหน้าเลิ่กลักมาก ยืนเม้มปากอยู่ข้างหลังพวกเธอสองคน "เรามาเอาไฟล์งานที่มินอะ นั่งก่อนสิ" แถได้แถครับชั่วโมงนี้ "อะ...เอ่อ แกสองคนซื้ออะไรมาบ้าง ฉันจะได้ไปเตรียมจานมาใส่" ฉันพยายามช่วยเขาแก้ไขสถานการณ์ให้ดูปกติที่สุด แล้วจูงมือลลิลไปที่ห้องครัว "ยัยมิน แกมีอะไรจะบอกพวกฉันมั๊ย" "ไก่ทอดอร่อยมาก แกชิมซิ" ฉันรู้ว่าลลิลหมายถึงเรื่องอะไร แต่จะให้ฉันเล่ายังไง ในเมื่อสถานะระหว่างฉันกับเขาตอนนี้ยังเป็นเพื่อนสนิทเหมือนเดิม ฉันเลยแกล้งยื่นไก่ทอดในมือไปชนริมฝีปากแดงของนาง ซึ่งนางก็กัดคำโตเคี้ยวตุ้ย ๆ จนแก้มป่อง พอช่วยกันเตรียมของเสร็จ ฉันกับลลิลก็เดินยกจานชามทั้งหมดกลับมาที่ห้องนั่งเล่น แต่ดูเหมือนว่าห้องฉันจะมีสมาชิกมาเพิ่มอีกสองคนนะ สายตาฉันเหลือบไปมองหน้าเขาที่มองอยู่ก่อนและยักคิ้วเข้มส่งมาให้ฉัน "นี่ ยัยลูกหมู ไม่คิดจะไปช่วยเพื่อนเธอบ้างรึไง" "แล้วทำไมนายถึงไม่ไปช่วยเล่า" รอบนี้นายเป็นคนเปิดศึกชวนยัยมายทะเลาะก่อน พอยกที่หนึ่งเริ่ม ยกที่สอง สาม... ก็ตามมา ฉันมองไม่ออกเลยว่าสุดท้ายแล้วสองคนนี้ใครจะชนะ กายลุกขึ้นมารับของในมือจากพวกฉันสองคน และพาตัวเองไปนั่งตรงที่ว่าง ก็คือ ข้างข้างเขา #เช็คเรทติ้งหน่อยคร้าาาา #อ่านเพลินๆ เน้นฟิลกู้ด ขำๆกันเนอะ 😘หลังจากวันนั้นที่เขาขอฉันแต่งงาน งานแต่งของเราสองคนก็ถูกจัดขึ้นหลังจากนั้นสองเดือนทันทีที่เราฝึกงานเสร็จ เราเลือกหนึ่งในโรงแรมของกายเป็นสถานที่จัดงาน เชิญแขกและญาติผู้ใหญ่ของสองครอบครัวมาร่วมงานเกือบพันคน มีหนูมายกับลลิลเป็นเพื่อนเจ้าสาวแสนสวยของฉัน ส่วนเขาก็มีสองหนุ่มอย่างนายกับกายเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว วันนั้นเป็นวันที่เราสองคนมีความสุขมากอีกวันหนึ่ง เพราะนอกจากจะเป็นวันแต่งงานของเราสองคนแล้วยังเป็นวันรวมตัวของคนที่เรารัก และเป็นวันที่ป๊า มามี๊ คุณพ่อ คุณแม่ ของเรายิ้มกว้างกว่าวันไหนๆแต่เพราะว่าเตอร์ลางานได้แค่ห้าวันเพราะต้องกลับมาเตรียมงานขยายสาขาในต่างประเทศ และเขาก็อยากจะพาฉันไปแก้ตัวที่ตอนครบรอบหนึ่งเดือนพาฉันไปแบบกระทันหันด้วย เราเลยตัดสินใจไปฮันนีมูนกันที่ญี่ปุ่น และการแช่ออนเซนมองดูน้องฟูจิ คือหนึ่งในแพลนของฉันกับเขา แต่ก็ต้องแอบลุ้นกันอีกทีว่าเราสองคนจะเป็นผู้โชคดีได้เห็นน้องฟูจิแบบคนอื่นหรือเปล่าและคำตอบก็คือ เราเป็นผู้โชคดี เหมือนอย่างในตอนนี้ที่ฉันกำลังนอนพิงอกแกร่งอยู่ในบ่อออนเซนส่วนตัวมองดูน้องฟูจิที่ออกมาให้เรายลโฉมโดยไม่มีเมฆมาปิดบังเลยสักนิด... "มิน เตอร์อยากมีเบบี๋"
"ถ่ายงานให้เตอร์ทั้งวัน เหนื่อยมั้ย""ไม่เหนื่อยนะ มินสนุก""แต่...""ขอค่าตัวด้วยค่ะบอส""ค่าตัวแพง ผมไม่มีจ่ายหรอกครับ""โห นี่มินทำงานฟรีหรอเนี่ย""เสียใจจัง""หึ" "เตอร์ขอจ่ายค่าจ้างเป็นดินเนอร์มื้อพิเศษแทนได้มั้ย""อืม..." "นี่ถ้าไม่ใช่เตอร์ มินไม่ยอมหรอกนะ""ขอบคุณครับผม"ฟอดผมนั่งรอเธอที่กำลังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่ผมออกแบบและสั่งตัดมาให้เธอโดยเฉพาะ เดรสสั้นเกาะอกขนนกสีฟ้าพาสเทลพร้อมรองเท้าแก้วส้นสูงรัดข้อ ที่ดูเข้ากันกับผมในเสื้อเชิ้ตคอจีนสีฟ้าพาสเทลเฉดเดียวกัน เพื่อพาไปดินเนอร์ที่โรงแรมหรูบนตึกที่สูงที่สุดของประเทศซึ่งผมขอปิดโซนเพื่อเธอโดยเฉพาะ พอเสียงประตูเปิดขึ้น พร้อมกับการปรากฎตัวของร่างบางน่าทะนุถนอมที่กำลังยืนส่งยิ้มให้ผม ใบหน้าของเธอถูกเติมแต่งด้วยเครื่องสำอางบางเบาเผยผิวใสสุขภาพดี ปากอวบอิ่มถูกทาด้วยลิปสติกสีชมพูพีช เส้นผมสีน้ำตาลคาราเมลตรงสวยดูมีน้ำหนักปกคลุมไหล่มนเล็กน้อยราวกับไม่ได้ตั้งใจ เสริมความน่ารักด้วยเดรสสีโปรดของเธอ ผมไม่รอช้าที่จะเดินไปใส่สร้อยทองคำขาวมีจี้เป็นไข่มุกเม็ดเล็กที่ผมหยิบเตรียมมาถือไว้ที่ลำคอขาวของเธอจากด้านหลัง พร้อมกับจุมพิตลงไหล่
เช้าวันแรกของการฝึกงาน ฉันต้องตื่นเช้ากว่าปกติ เพื่อเตรียมอาหารเช้าง่ายๆ อย่างแซนวิชทูน่าสลัดและชงกาแฟสำหรับเราสองคนไว้กินกันในรถเหมือนตอนที่ไปมหาวิทยาลัยฯ ก่อนจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนักศึกษาที่ดูเรียบร้อยเพราะไม่อยากให้ใครว่าได้ทีหลังว่าไม่เหมาะสมเดี๋ยวจะกระทบไปถึงเขา"มิน เสร็จยัง""จะเสร็จแล้ว ขอห้านาที""ไม่ต้องสวยมากหรอก""เตอร์ไม่อยากให้ใครมอง""เอ้า""มีแฟนสวยเตอร์ต้องดีใจสิ""เตอร์ดีใจ แต่อยากเก็บไว้คนเดียว""ถ้าแต่งงาน เตอร์จะให้มินอยู่แต่บ้าน""ไม่ได้สิ ร้านมินละ""มินตอบตกลงแล้วนะ""ห๊ะ""หึ" ฟอดฉันหลงกลเขาอีกแล้วสินะ พอดูเรียบร้อยแล้วว่าไม่ได้ลืมอะไร เขาก็จูงมือฉันและแย่งกระเป๋าของฉันไปสะพายไว้เองจนฉันแอบคิดว่าวันเกิดเขาปีหน้าฉันจะซื้อให้เขาสักใบนึงน่าจะดี โชคดีที่เช้านี้ถนนค่อนข้างโล่งรถไม่ค่อยติด ทำให้เราสองคนมาถึงก่อนเวลาอย่างที่ตั้งใจกันไว้ เพราะถึงเขาจะเป็นลูกเจ้าของบริษัทและเป็นรองประธานบริษัท แต่เขาก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพนักงานและไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่โดนว่าแล้วพาลมาถึงฉันด้วย แฟนฉันน่ารักที่สุดเลย... พอถึงเวลาเริ่มงานพี่ฝ่ายบุคคลก็มาพาฉันไปส่งที
"ทำไมมินเมื่อยจังเลย""ควรเมื่อยอยู่นะ" "หึ" "หืม?" "ก็มินเล่นไม่พัก""..." "ถ้ารู้ว่าเมาแล้วมินขยันขนาดนี้" "เตอร์จะซื้อมาไว้ที่ห้องสักลังนึง"เพี๊ยะ! มือเล็กของฉันฟาดลงไปที่ต้นแขนแกร่งทันที ก่อนจะมุดตัวลงไปในผ้าห่มปิดใบหน้าที่แดงเป็นมะเขือเทศเพราะความเขินอาย จะไม่ให้ฉันอายได้ยังไง ดูเขาพูดซิ ภาพเมื่อคืนที่ฉันทำลอยมาเป็นฉากฉากเลย แล้วเขาก็พูดออกมาอย่างหน้าตาเฉยพร้อมกับรอยยิ้มกรุ่มกริ่มที่ดูมีความสุขจนน่าหมันไส้อีก แต่อยู่อยู่ฉันก็รู้สึกเหมือนว่าฉันคิดผิด เพราะภายใต้ผ้าห่มสีฟ้าผืนใหญ่มันมีอาวุธร้ายพร้อมรบซ่อนอยู่ ทั้งเขาและฉันตอนนี้ไม่มีเสื้อผ้าปกคลุมกันเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ให้ตายเถอะ! จะหนีตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว... "ยัยมิน แกจะไม่ไปฝึกงานที่บริษัทฉันจริงๆ หรอ""ฉันอยากให้แกไปด้วยจะได้ครบแก๊งค์""นั่นสิ ขาดขาเม้าท์ไปหนึ่ง เหงาแย่""ฉันก็อยากไปกับพวกแก""แต่เตอร์อยากให้ฉันไปช่วยทำพีอาร์ที่บริษัทเขา""พวกแกได้หยุดเสาร์อาทิตย์มั้ย""นัดกันไปช๊อปหรือไปกินของอร่อยกันก็ได้""หรือมาเจอกันที่นี่""อยู่ใกล้กันแค่นี่เอง"สองสาวแวะมาหาฉันที่คาเฟ่มินิมินนี่แหล่งกบดานหลักของพวกฉันเพราะเครื่องดื่ม
สุดท้ายฉันก็ต้องเอาเสื้อแจ๊คเก็ตสีดำของเขามาใส่ทับอีกที เพื่อปกปิดรอยจางจางและเปลี่ยนลุคให้ดูเท่ห์มากขึ้น ส่วนเขาก็ฉันเสื้อเชิ้ตตัวที่ฉันรีดไว้ให้ปลดกระดุมตั้งสามเม็ดโชว์กล้ามหน้าอกแน่นแน่น ทำฉันมองตาขวางจนต้องเอาคืนโดยการโน้มคอเขาลงมาแล้วกัดเข้าที่หน้าอกขาวขาวของเขาจนเป็นรอยฟัน ซึ่งเขาก็ไม่กล้าบ่นอะไรกลับดูชอบใจด้วยซ้ำ แต่ในเมื่อฉันไม่ได้เกิดเขาก็ต้องไม่ได้เกิดเหมือนกัน วินวิน"โห ลลิลแซ่บมากกก""แต่หนูมาย แกเหมือนไปวัดนะ""ผิดปกติมาก""ปกติสุดสุด ฉันแค่อยากเปลี่ยนลุคเป็นสาวเรียบร้อยบ้าง"พอมาถึงร้านเหล้าของเตอร์ เขาก็ขอแวะไปดูความเรียบร้อยในร้านแปปนึง ให้ฉันเดินมาหาเพื่อนๆ ที่โต๊ะวีไอพีที่ประจำของพวกเรา ซึ่งพอเดินมาถึงหนุ่มๆ ก็สั่งเครื่องดื่มพร้อมกับแกล้มรอไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนสองสาววันนี้ฉันขอมอบมงให้ลลิลเป็นสาวแซ่บที่สุด นางมาในชุดเกาะอกหนังสีดำกับกางเกงหนังสั้นสีเดียวกัน ดูมั่นและเปรี้ยวสุดสุด ผิดกับยัยหนูมายที่ปกติจะต้องเป็นสาวแซ่บแต่กลับใส่เสื้อฮู้ดสีดำตัวโคร่งกับกางเกงยีนส์ขาสั้นสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาวจนดูแปลกตาไปเลย ส่วนกายก็แต่งตัวคล้ายๆ เตอร์เป็นปกติ แต่ที่ดูไม่ค่อยปกต
และแล้ววันชี้ชะตาของพวกเราทั้งหกคนก็มาถึง ฉันรีบตื่นแต่เช้ามาทำอาหารเช้าง่ายๆ อย่างแซนวิชทูน่าแฮมใส่ผักสลัดกับมะเขือเทศเพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้เขาพร้อมกับอเมริกาโน่เย็นแก้วโปรด และไม่ลืมที่จะทำแซนวิชใส่กล่องไปเผื่อเพื่อนอีกสี่คนด้วย เพื่อเป็นกำลังใจให้มีแรงพรีเซนต์และผ่านไปได้ด้วยดีจะได้ไปฉลองพร้อมกัน"เตอร์จะกินแซนวิชเลยมั้ย" "มินป้อน เตอร์จะได้ขับรถสะดวก""ใจดีจัง""อ้าปาก""อร่อย" "ไม่อยากแบ่งให้ไอ้นายกับไอ้กายกิน""ให้พวกมันไปหากินเอง""เอ้า ไม่ได้สิ""เพื่อนนะ" "หวงหมด"พอมาถึงมหาวิทยาลัยฯ ฉันกับเขาก็รีบเดินไปหาเพื่อนๆ ที่นั่งรอกันอยู่ตรงโต๊ะหินอ่อนมุมเดิมที่เป็นจุดนัดพบ โดยเขาที่สะพายกระเป๋าใส่แมคบุคกับเล่มรายงานทำหน้าที่ถือถุงอาหารเช้าของเพื่อนให้ ส่วนฉันก็ช่วยถือแก้วเก็บความเย็นที่ใส่กาแฟของเราสองคนไว้และรีบก้าวให้ทันเขา พอมาถึงเขาก็รีบแจกขนมให้เพื่อนสาวสองคนไม่ยอมหยิบไปให้สองหนุ่ม ฉันจึงต้องกดดันเขาด้วยสายตาอำมหิตของฉัน จนเขาชักสีหน้างอแงทำปากจิ๊จ๊ะแล้วก็ยอมแบ่งให้อีกสองหนุ่มโดนการโยนไปให้ดีที่นายกับกายรับไว้ทันไม่อย่างนั้นอดกินกันแน่ๆ ฉันจึงชี้นิ้วอย่างคาดโทษใส่เขาขอ