Share

บทที่ 224

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ชั่วขณะนั้น เซี่ยหลานตกตะลึง เหม่อลอยและมิตอบสนอง

ตอนนี้ฉินซูลืมความเจ็บปวดที่ท้ายทอยไปแล้ว เขาตกใจและมิรู้ว่าควรตอบสนองอย่างไร

“อึก!”

เซี่ยหลานกลืนน้ำลายโดยมิรู้ตัว

เดิมทีนางคิดจะลุกขึ้น ทว่าเมื่อนึกถึงครั้งก่อนที่ฉินซูถอดอาภรณ์ของนางแต่กลับมิแตะต้องนาง นางก็โกรธขึ้นมา

วันนี้ได้โอกาสดี นางจึงตัดสินใจแก้แค้นฉินซูให้สาสม ดังนั้นในฉากเร่าร้อนนี้ แทนที่นางจะถอนริมฝีปากสีแดงออกไป แต่กลับจูบเขาเข้าไปอีก!

ทันใดนั้นดวงตาของฉินซูก็เบิกกว้างด้วยความเหลือเชื่อ!

เซี่ยหลานจะทำอะไร?

ขณะที่เขากำลังงุนงง แขนเรียวทั้งสองข้างของเซี่ยหลานโอบรอบคอของเขาแล้ว และนางก็เบียดเข้าไปในอ้อมแขนของเขาอย่างแนบแน่น

หลังจากที่สัมผัสถึงความอ่อนโยนและความอบอุ่นจากร่างกายอันบอบบางของเซี่ยหลาน ฉินซูก็มิสนใจสิ่งใจอีกต่อไป เขาตอบรับด้วยการเอามือทั้งสองข้างโอบรอบเอวของเซี่ยหลาน

จากนั้นทั้งสองก็จูบกันอย่างเร่าร้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมิอาจหยุดยั้งได้

เวลาผ่านไป อาภรณ์ของทั้งคู่ก็กระจัดกระจายไปคนละทาง

ทันใดนั้น

จู่ ๆ จิตใจของเซี่ยหลานก็สั่นไหว เดิมทีนางแค่ต้องการปลุกเร้าฉินซูแล้วหนีไป และปล่อยให้เขาอารมณ์ค้างมิใช่หร
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
โลกทั้งใบ ให้นายคนเดียว
ขอบคุณมากที่อัพหลายตอน สุดยอดเลย
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 225

    “อย่าคิดให้เปลืองสมองเลย ฝ่าบาททรงมิเปลี่ยนความคิดที่จะปลดท่านอย่างแน่นอน”“พระองค์อาจทรงมิเปลี่ยนความคิด ทว่าหากทรงไม่มีทางเลือกเล่า?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซี่ยหลานก็ตกใจอย่างมากพลางถามว่า “ฉินซู หรือว่าท่านคิดจะทำให้อ๋องฉีกับคนอื่น ๆ …”“ผู้ใดมิเห็นแก่ตัว ผู้นั้นย่อมถูกสวรรค์ลงทัณฑ์ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาเป็นฝ่ายยั่วยุข้าก่อน ข้าจะทำลายพวกเขาทีละคน และจะทำให้ฝ่าบาททรงไม่มีทางเลือก มิว่าบัลลังก์หรือสตรีงาม ข้าฉินซูจะเอามันมาให้หมด!”หลังจากได้ยินคำพูดที่องอาจน่าเกรงขามของฉินซู เซี่ยหลานก็อดมิได้ที่จะตะลึงสายตาที่นางใช้มองฉินซูนั้นเจือไปด้วยความศรัทธาฉินซูมองตรงไปที่เซี่ยหลานและถามอย่างจริงจัง “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าทำได้?”เซี่ยหลานถูกถามหากเป็นเมื่อก่อนนางคงมิเชื่ออย่างแน่นอนแต่วันนี้ฉินซูมิเพียงแต่บีบบังคับให้ฝ่าบาททรงปลดอ๋องจิ้นเท่านั้น ทว่ายังสามารถออกมาได้อย่างปลอดภัย และยังมีท่าทีสบาย ๆ อีกเมื่อรวมกับความจริงที่ว่า ตอนนี้ตัวฉินซูดูเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ เซี่ยหลานจึงเชื่อเขานางเชื่อว่าฉินซูสามารถทำได้!แต่หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว ก็คิดว่าเป็นไปได้ยาก เ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 226

    เซี่ยหลานส่ายหัวและพูดอย่างจนใจ “หม่อมฉันหัวเราะให้กับโชคชะตา ฝ่าบาทเพิ่งจะทรงแต่งตั้งให้หม่อมฉันเป็นอาจารย์ขององค์รัชทายาทและทำงานร่วมกับชูโม่คอยจับตาดูท่าน แต่ในเวลามิถึงหนึ่งชั่วยาม หม่อมฉันก็… หม่อมฉันก็กลายมาเป็นสตรีของท่านแล้ว มิน่าขำหรือเพคะ?”ในคำพูดของนางแฝงการดูถูกตัวเองเอาไว้ฉินซูยิ้มอย่างมิเห็นด้วยและพูดว่า “นี่คือพรหมลิขิตต่างหาก สวรรค์ต้องการให้เจ้ากลายมาเป็นสตรีของข้า”“หึ แม้หม่อมฉันจะถูกท่านเอาเปรียบ แต่หม่อมฉันยังมิได้ตัดสินใจจะแต่งงานกับท่าน เพราะหากท่านถูกปลด หม่อมฉันก็จะมิได้อะไรเลย ฉะนั้นหม่อมฉันจะยังทำตามรับสั่งคอยจับตาดูท่านต่อไป ต่อไปท่านก็ระวังตัวเอาไว้และอย่าเผยจุดอ่อนให้หม่อมฉันเห็น มิเช่นนั้นอย่ามาหาว่าหม่อมฉันไม่มีความชอบธรรม!”เซี่ยหลานโบกกำปั้นด้วยท่าทางดุร้ายฉินซูจับมือของนางมาวางบนหน้าอกของเขา “เซี่ยหลาน ข้าฉินซูรับรองว่าจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเจ้าเมื่อครู่ให้ได้ และจะทำให้เจ้ากลายเป็นสตรีที่มีความสุขที่สุด!”“ถุย ทำให้หม่อมฉันมีความสุขที่สุด แล้วหลินชิงเหยาเล่า? นางจะมีความสุขที่สุดเป็นอันดับสองหรือ?”“เอ่อคือ… พวกเจ้าทั้งคู่ก็มีความสุขเท่า

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 227

    ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เอื้อมมือไปกดจุดตันเถียนของเซี่ยหลานสองครั้งเซี่ยหลานเพียงรู้สึกเสียวแปลบบริเวณจุดตันเถียนของนาง พลางถามอย่างสงสัย “องค์รัชทายาท ท่านทำอะไรหม่อมฉัน”“ไม่มีอะไร ข้าปิดผนึกกลิ่นอายกำลังภายในให้เจ้าแล้ว ตราบใดที่เจ้ามิได้เปิดเผยมันออกมา คนอื่นก็จะมิรู้ระดับวรยุทธของเจ้า”“จริงหรือ?”เซี่ยหลานเชื่อครึ่งมิเชื่อครึ่งฉินซูพูดอย่างจริงจัง “แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริง ข้าจะหลอกเจ้าได้รึ”“เช่นนั้นก็ดีเลย แต่หม่อมฉันก็ยังมิเข้าใจอยู่ดีว่าเหตุใดจู่ ๆ หม่อมฉันถึงได้แข็งแกร่งเพียงนี้” เซี่ยหลานยังคงรู้สึกเหลือเชื่อนางขมวดคิ้วและพูดต่อ “จริงสิ แล้วท่านรู้ระดับวรยุทธของหม่อมฉันได้อย่างไร ท่านมิใช่จอมยุทธนี่”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ นางก็นึกอะไรออกและถามด้วยความตกใจ “องค์รัชทายาท ท่านคงมิใช่ยอดฝีมือที่ปิดบังความสามารถไว้หรอกใช่หรือไม่?”ฉินซูพูดอย่างกำกวม “ข้าเป็นยอดฝีมือที่ไหนกันเล่า แค่เคยอ่านเจอในตำราที่เขียนเกี่ยวกับเคล็ดลับการแยกระดับวรยุทธ์จอมยุทธ์ก็เท่านั้น”“จริงหรือ?”“แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริง หากข้าเป็นยอดฝีมือจริง ๆ ข้าจะยังถูกอ๋องฉีและคนอื่น ๆ รังแ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 228

    ฉินซูพยักหน้าช้า ๆ “สำเร็จ ในสายตาของคนอื่น เจ้าโอวหยางขุยได้ตายไปแล้ว”“ขอบพระทัยองค์รัชทายาทสำหรับพระกรุณาอันยิ่งใหญ่ ข้าน้อยจะไม่มีวันลืมพ่ะย่ะค่ะ”หลังจากถูกฉินซูควบคุม โอวหยางขุยก็รู้ว่าตนคงจะต้องตายอย่างหลีกเลี่ยงมิได้โชคดีที่ฉินซูคิดแผนการอันยอดเยี่ยมขึ้นมาได้ ซึ่งก็คือการแกล้งตายตอนที่ฉินซูใช้มีดแทงเขาในท้องพระโรง คมมีดได้หลีกเลี่ยงอวัยวะทั้งหมด ดังนั้นโอวหยางขุยจึงได้รับบาดเจ็บที่เนื้อหนังเพียงเท่านั้นเมื่อรวมกับทักษะการฝังเข็มลับสุดยอดของฉินซู หลังจากที่โอวหยางขุยถูกแทง ลมปราณของเขาก็มิต่างจากคนตาย สุดท้ายก็หลอกทุกคนได้สำเร็จฉินซูพูดด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “ขอบคุณข้ารึ? เจ้าคงมิได้พูดออกมาจากใจหรอกกระมัง เพราะสำนักอาทิตย์อัสดงของเจ้าจบเห่ไปแล้วนี่”“องค์รัชทายาท อันที่จริงข้าน้อยได้จัดการให้กองกำลังชั้นยอดแห่งสำนักอาทิตย์อัสดงหลบหนีไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ ผู้ที่อยู่ในสำนักตอนนี้เป็นเพียงคนที่มิได้มีความสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น ข้าน้อยหาได้มีครอบครัวไม่ และอยู่ตัวคนเดียวมาครึ่งชีวิตแล้วจึงมิได้สนโทษประหารล้างตระกูลพ่ะย่ะค่ะ”“เช่นนั้นเจ้าก็เต็มใจยอมจำนนต่อข้าแล้วใช่หรือไม่?”โอวหยาง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 229

    ซุนฉีประสานมือคำนับเล็กน้อยจากนั้นก็หันหลังจากไปฉินเหยี่ยนกระโดดขึ้นไปบนรถม้าแล้วพูดสารถีว่า “สายมากแล้ว ออกเดินทางเถอะ”สารถีสะบัดแส้แล้วควบรถม้าไปตามถนน……จวนอ๋องฉีฉินหงรู้สึกใจหาย “คาดมิถึงจริง ๆ ฉินเหยี่ยนมิเพียงแต่จะล้มเหลวในการโค่นฉินซู ซ้ำยังตกหลุมพรางอีกฝ่าย เจ้าสารเลวฉินซูผู้นี้ช่างมีเล่ห์เหลี่ยมนัก!”เซี่ยเหอพูดอย่างจริงจัง “ท่านอ๋อง ต้องมียอดฝีมือคอยชี้แนะอยู่เบื้องหลังฉินซูแน่พ่ะย่ะค่ะ ท่านควรส่งคนไปจับตาดูเขาให้มากกว่าเดิม รีบหาคนผู้นั้นให้เจอและกำจัดทิ้งโดยเร็วที่สุด มิเช่นนั้น หากท่านทรงปล่อยไว้เช่นนี้ ฉินซูก็จะมีอำนาจมากขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”“ข้าส่งคนไปแล้ว เชื่อว่าอีกมินานคนที่อยู่เบื้องหลังฉินซูจะโผล่หัวออกมา”“ท่านอ๋อง หากทรงต้องการโค่นองค์รัชทายาทจริง ๆ ตอนนี้โอกาสทองได้มาอยู่ตรงหน้าแล้วพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินคำพูดของหลินซี ฉินหงก็ถามอย่างสงสัย “เสนาบดีหลิน โอกาสที่ท่านว่าคืออะไร?”หลินซีพูดอย่างมุ่งร้าย “ท่านอ๋อง ขณะนี้เฉินหลิวอ๋องได้ออกจากเมืองหลงเฉิงไปแล้ว หากเกิดอะไรขึ้นกับเขาระหว่างทาง เช่นนั้นฝ่าบาทจะทรงสงสัยใครเป็นคนแรกพ่ะย่ะค่ะ?”ดวงตาของฉินหงเป็นประกา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 230

    มู่หรงฟู่พยักหน้าช้า ๆ “ไปเถอะ นำสิ่งนี้ติดตัวไปด้วย หลังจากสังหารฉินเหยี่ยนแล้ว ให้ทิ้งป้ายนี้เอาไว้บริเวณใกล้ ๆ ก็พอ!”เมื่อมองไปยังป้ายที่อีกฝ่ายยื่นมา หนานกงจื่อชินก็ยกนิ้วให้!“องค์ชายทรงเตรียมพร้อมมาอย่างดีจริง ๆ ด้วยป้ายขององครักษ์แห่งตำหนักบูรพานี้ เป็นไปมิได้เลยที่ฉินซูจะรอดไปได้!”หนานกงจื่อชินรับป้ายมามู่หรงจื่อเยียนพูดด้วยความกังวล “ช้าก่อน นี่อาจเป็นกับดักก็ได้กระมัง? พวกเรายังมิรู้แน่ชัดเลยว่าผู้ใดเป็นคนแอบส่งข่าวนี้มาให้”“หากข้าเดามิผิด ต้องเป็นหนึ่งในบรรดาองค์ชายแห่งต้าเหยียนแน่ ๆ เพราะถึงอย่างไรพวกเขาก็คงอยากให้องค์รัชทายาทหมดอำนาจโดยเร็วที่สุดเพื่อที่จะได้แข่งขันแย่งชิงตำแหน่งในตำหนักบูรพา”“ทว่าหากพวกเราไปลอบสังหารฉินเหยี่ยนจริง ๆ มันจะมิเท่ากับเป็นการลำบากทำงานให้ผู้อื่นหรอกหรือ?”มู่หรงฟู่หัวเราะเบา ๆ และกล่าวว่า “เจ้าก็คิดมากเกินไป เป้าหมายของพวกเราคือการทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายในราชสำนักต้าเหยียน ทันทีที่ฉินเหยี่ยนเสียชีวิต เป้าหมายของพวกเราก็จะลุล่วง”หนานกงจื่อชินเปิดดูแผนที่แล้วพูดว่า “ฉินเหยี่ยนกำลังมุ่งหน้าไปที่เฉินหลิว และมีศาลาสิบลี้แห่งเขาเซียง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 231

    “ช่วยเหลือข้ารึ? หมายความว่าอย่างไร?”มู่หรงจื่อเยียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เท่าที่หม่อมฉันรู้ ตอนนี้ในราชสำนักต้าเหยียนของพวกท่าน องค์รัชทายาทผู้รอวันปลดมีอิทธิพลเป็นอย่างมาก แม้แต่ท่านอ๋องจิ้นก็ถูกเขาโค่นล้ม กลับกันหากท่านเป็นองค์รัชทายาท ท่านจะมิฉวยโอกาสไล่บี้ศัตรูหรือเพคะ?”ฉินเซียวพูดอย่างสงบเยือกเย็น “ดูเหมือนเจ้าจะรู้เรื่องเกี่ยวกับราชสำนักต้าเหยียนอยู่มาก มิทราบว่าหากองค์รัชทายาททรงต้องการจะไล่บี้ข้าจริง ๆ เจ้าคิดจะช่วยเหลือข้าอย่างไรหรือ?”“เร็ว ๆ นี้ จะมีข่าวการสิ้นพระชนม์ของเฉินหลิวอ๋อง ถึงตอนนั้น ท่านอ๋องหนิงแค่ต้องหาวิธีทำให้เรื่องนี้ตกเป็นความผิดของฉินซู เมื่อถึงเวลานั้น ฝ่าบาทที่ทรงกริ้วฉินซูมากก็จะมิเหลือข้ออ้างใดจนต้องทรงปลดเขาในทันทีเพคะ”“ว่ากระไรนะ! พวกเจ้าคิดจะสังหารฉินเหยี่ยนรึ!”ฉินเซียวอุทาน สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ!“ไฉนท่านอ๋องหนิงถึงได้ตกพระทัยปานนั้นเพคะ ฉินเหยี่ยนถูกลดตำแหน่งเป็นเฉินหลิวอ๋องและไม่มีประโยชน์อีกต่อไป ให้เขาเป็นชิ้นส่วนสุดท้ายที่จะใช้โค่นล้มองค์รัชทายาทจะดีกว่า หากเป็นเช่นนั้น ก็ถือว่าได้ล้างแค้นแทนเขาไปด้วยมิใช่หรือเพคะ?”“เหลวไหล! ฉิ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 232

    องครักษ์ตอบด้วยความเคารพว่า “มิทราบพ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นให้ข้าน้อยไปสอบถามให้ดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”ฉินซู่โบกมือ “มิต้อง ชูโม่น่าจะอยู่ในห้อง เสี่ยวหวน เจ้าไปแจ้งชูโม่ทีสิ”สาวใช้นามว่าเสี่ยวหวนรับคำสั่งด้วยความเคารพและเดินไปยังห้องนอนของฉงชูโม่ฉงชูโม่สะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินว่าอ๋องหนิงมาหานางเมื่อนางมาถึงประตูตำหนักบูรพา นางก็เดินตรงไปถามว่า “ท่านอ๋องหนิง ได้ยินว่าท่านเสด็จมาหาหม่อมฉันหรือเพคะ?”“ใช่แล้วชูโม่ คุยที่นี่มิเหมาะ พวกเราไปคุยกันทางนั้นเถอะ”ฉงชูโม่พยักหน้าตอบรับและตามฉินเซียวไปยังศาลาที่อยู่มิไกลฉินเซียวมองไปรอบ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ ๆ แล้วพูดว่า “ชูโม่ ก่อนที่จะมาที่นี่ข้าได้รับรายงานลับมา มีคนต้องการทำร้ายฉินเหยี่ยนแล้วโยนความผิดไปให้องค์รัชทายาท!”“ว่ากระไรนะ! จริงหรือเพคะ?”ฉงชูโม่ประหลาดใจและมิค่อยอยากเชื่อฉินเซียวพยักหน้าพูดอย่างจริงจัง “จริงแท้แน่นอน วันนี้คนของข้าไปดื่มสุราที่โรงเตี๊ยมและได้ยินมาโดยบังเอิญ เพื่อหลีกเลี่ยงการแหวกหญ้าให้งูตื่น เขาจึงกลับมารายงานให้ข้ารู้ แต่ตอนที่ข้าพาคนไปยังโรงเตี๊ยมแห่งนั้น ก็พบว่าคนพวกนั้นออกไปนานแล้ว”เมื่อได้

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 716

    กู้เสวี่ยเจี้ยนถามด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง “ท่านว่ากระไรนะ? หนานเยวี่ยถูกทำลายแล้วหรือ?”“ใช่ เพิ่งได้รับข่าวเมื่อมินานมานี้ ฉินซูใช้กลอุบายเล็กน้อยก็บีบบังคับให้ทหารหนานเยวี่ยแสนนายยอมจำนน จากนั้นยังนำทหารชั้นยอดเพียงหมื่นนายบุกเข้ายึดเมืองหลวงของหนานเยวี่ย และสังหารเชื้อพระวงศ์หนานเยวี่ยจนหมดสิ้น”“มิจริงกระมัง? ท่านแน่ใจหรือว่าข่าวนั้นเป็นความจริง?” กู้เสวี่ยเจี้ยนแสดงสีหน้าเหลือเชื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข่าวนี้เป็นความจริงทุกประการ ต้องยอมรับว่าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดแห่งต้าเหยียนผู้นี้พอมีฝีมืออยู่บ้าง หากเขามา บางทีอาจจะช่วยข้าได้”“ท่านต้องการให้ฉินซูช่วยท่านทำกระไรหรือ?” กู้เสวี่ยเจี้ยนมองซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยความหวาดระแวง“ถึงเวลานั้นเจ้าก็จะรู้เอง เอาเถอะ เจ้าลงไปได้แล้ว ข้าจะฝึกวิชา”ซ่างกวนอวิ๋นซีออกคำสั่งไล่แขกดื้อ ๆกู้เสวี่ยเจี้ยนเบะปากแล้วหันหลังเดินลงบันไดไปซ่างกวนอวิ๋นซีกลับไปยังห้องฝึกตน จากนั้นก็ร่ายเวทด้วยสองมือ ตวัดนิ้วส่งพลังปราณไปยังกระจกทองเหลืองบานหนึ่งในเวลาเดียวกันภายในสำนักหอดูดาวหลวงแห่งต้าเหยียนเหลยเจิ้นกำลังนั่งสมาธิบำเพ็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 715

    มู่หรงเซี่ยวเทียนอธิบายว่า “คุณชายหยวน เทพธิดาซ่างกวนกำลังกักตนบำเพ็ญเพียรอยู่จริง ๆ หากท่านมิเชื่อ ท่านสามารถไปดูที่หอดารารักษ์ได้”“ข้าต้องไปแน่ ข้าขอพูดตามตรง ครั้งนี้ที่ข้ามาก็เพื่อสู่ขอนาง เทพธิดาซ่างกวน ข้าจะต้องแต่งกับนางให้ได้!”“การได้รับความเมตตาจากคุณชายหยวนนับเป็นบุญของเทพธิดาซ่างกวน คุณชายหยวนโปรดวางใจ เมื่อนางออกจากด่านกักตนบำเพ็ญเพียรแล้ว ข้าจะทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ท่านด้วยตนเอง”หยวนหัวยิ้มประสานมือคารวะมู่หรงเซี่ยวเทียน “เช่นนั้น ก็ขอบพระทัยฝ่าบาทแห่งเป่ยเยี่ยนยิ่งนัก”"คุณชายหยวนเกรงใจเกินไปแล้ว เชิญเถิด"จากนั้น มู่หรงเซี่ยวเทียนก็นำคณะของแคว้นฉีเข้าเมืองในหมู่เชื้อพระวงศ์แห่งเป่ยเยี่ยน หญิงสาววัยสิบแปดสิบเก้าปีคนหนึ่งแค่นเสียงเบา ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ว่า “หึ แคว้นฉีพูดเสียดิบดีว่าจะส่งองค์รัชทายาทมาตรวจราชการ เสด็จพ่อจึงเสด็จออกไปต้อนรับด้วยพระองค์เอง ใครจะคิดว่าคนที่มาจะเป็นเพียงบุตรชายของอ๋องเซียงหยาง ช่างมิเห็นหัวคนเสียนี่กระไร”“ใครว่ามิจริงเล่า ข้าเองก็รู้สึกแย่พอกัน หากเป็นอ๋องเซียงหยางเสด็จมาด้วยตนเอง เสด็จพ่อเสด็จออกไปต้อนรับก็ยังพอว่า แต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 714

    เป่ยเยี่ยนทั่วทั้งเมืองจินหลิงตกอยู่ภายใต้การวางกำลังที่เข้มงวดภายในเมืองหลวงอันกว้างใหญ่ไพศาลของเป่ยเยี่ยนแห่งนี้ สามารถพบเห็นทหารกองรักษาการณ์พร้อมอาวุธได้ทุกหนทุกแห่งบริเวณประตูเมืองทางเหนือมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยมีกองทัพทหารม้าเกราะหนักซึ่งเป็นกองกำลังที่มีกำลังรบแข็งแกร่งที่สุดของเป่ยเยี่ยนเป็นผู้รักษาการณ์พรมแดงที่โดดเด่นสะดุดตาผืนหนึ่งทอดยาวจากถนนสายหลักเมืองทางฝั่งเหนือ ไปจนถึงนอกประตูเมืองทางทิศเหนือขุนนางทั้งบู๊และบุ๋นของเป่ยเยี่ยนต่างมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ราชรถหรูหราโอ่อ่าของจักรพรรดิจอดอยู่ภายนอกประตูเมืองทางเหนือมู่หรงเซี่ยวเทียนในชุดลายมังกรที่ยืนอยู่สุดปลายพรมแดงกำลังมองไปยังทิศทางอันห่างไกลเบื้องหลังของเขาคือเหล่าพระโอรสและพระธิดามิว่าจะเป็นขุนนางข้าราชบริพาร หรือมู่หรงเซี่ยวเทียน หรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์ ต่างก็ตั้งตารอคอยราวกับกำลังรอคอยบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ก็มิปาน“ฝ่าบาท พวกเขากำลังมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ในขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งดังมาจากกำแพงเมืองมู่หรงเซี่ยวเทียนและคนอื่น ๆ มองออกไป เห็นขบวนหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้า ๆ บนถนนหลวงที่อยู่ไกลออกไป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 713

    "บัดนี้องค์รัชทายาทยังได้แสดงวรยุทธ์อันน่าตื่นตะลึงออกมา ข้าน้อยเห็นว่าก็สามารถใช้ประโยชน์จากองค์รัชทายาทได้ในด้านการประลองยุทธ์พ่ะย่ะค่ะหากมีองค์รัชทายาทเข้าร่วมโดยไม่มีสิ่งใดผิดพลาด ราชวงศ์ต้าเหยียนน่าจะสามารถก้าวเข้าสู่สามสิบอันดับแรกได้และหากแสดงฝีมือได้ดี บางทีอันดับของต้าเหยียนในกลุ่มแคว้นลำดับรองอาจจะขยับขึ้นได้อีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอู๋ต้าวโบกมือ กล่าวด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เรื่องอันดับนั้นมิสำคัญ จุดประสงค์ที่เราเข้าร่วมการประชุมระหว่างแคว้นคือการเข้าสู่สามสิบอันดับแรก แล้วชิงสิทธิ์ในการเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน”“เช่นนั้นก็ง่ายดาย ข้าน้อยเตรียมพร้อมทุกประการแล้ว ตราบใดที่พวกเขาสามารถเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนได้ ย่อมต้องพบเทพศาสตราวุธในตำนานและเมล็ดพันธุ์พืชอันล้ำค่า ถึงยามนั้น การที่ต้าเหยียนจะก้าวขึ้นเป็นแคว้นผู้นำก็อยู่แค่เอื้อม”เหลยเจิ้นกล่าวแล้วก็อดตื่นเต้นมิได้ดังที่เคยกล่าวไว้แต่ต้น เมื่อสองร้อยปีก่อน ในแผ่นดินเฉินโจว ต้าเหยียนนั้นเป็นเพียงแคว้นเล็ก ๆ ที่ไม่มีผู้ใดสนใจต่อมาหลังจากได้เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน ก็บังเอิญได้ครอบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 712

    เซี่ยหลานตกใจลนลาน รีบแก้ตัวว่า “มิใช่อย่างนั้น ชูโม่ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าจะกอดพระองค์ได้อย่างไร เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำกับข้าเช่นไร”ฉงชูโม่จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยหลานเคยถูกฉินซูฉีกอาภรณ์และทำให้อับอายนางจึงคลายความสงสัยในใจ “ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง จะตกใจไปไยเล่า”“หึ กล้าล้อข้ารึ ข้ามิคุยกับเจ้าแล้ว” เซี่ยหลานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วหันหลังเดินไปฉงชูโม่เห็นดังนั้นจึงรีบตามไป “เซี่ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าใจน้อยนักเลย”มองดูทั้งสองคนที่ทำราวกับว่าตนเป็นอากาศธาตุ ฉินซูก็จนคำจะกล่าวโชคดีที่ในเวลานั้นหลินชิงเหยาเดินเข้ามานางคล้องแขนฉินซูพลางกล่าวด้วยความนัยลึกซึ้งว่า “องค์รัชทายาท อากาศหนาวเย็นเช่นนี้อย่าประทับอยู่ข้างนอกเลยเพคะ ข้างนอกแม้จะเย็น แต่ดีที่ตำหนักบูรพาของเรามีบ่อน้ำพุร้อน องค์รัชทายาทจะเสด็จลงไปแช่เพื่อคลายความหนาวเหน็บหรือไม่เพคะ?”“ไปสิ ไยจึงมิไป!”ฉินซูเข้าใจความหมายในทันที จึงจับมือหลินชิงเหยาแล้วรีบเข้าไปในโรงอาบน้ำอย่างใจจดใจจ่อจากนั้นเขาก็ได้รำลึกถึงความหลังกับหลินชิงเหยาอีกครั้งในขณะเดียวกันเหลยเจิ้นได้รับพระบัญชาให้มายังห้องทรงอัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 711

    “อืม เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างได้”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือจากวังหลวงได้ ตำแหน่งของเขาต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน หากคนเช่นนั้นลอบให้การช่วยเหลืออ๋องฉู่ ก็อาจจะปิดบังสายตาของสำนักโหรหลวงได้จริง ๆ”ฉินซูยักไหล่อย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าการจะสาวถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังอ๋องฉู่จะเป็นเรื่องยาก”“ถูกต้องแล้วเพคะ ครั้งนี้อ๋องฉู่ก่อกบฏมิสำเร็จ ต่อไปคงต้องระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น พวกเราคงจะจับจุดอ่อนของเขาได้ยากขึ้นด้วย” ฉงชูโม่เองก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง“ช่างเถอะ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน หากสืบสวนต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะทรงสงสัยว่าพวกเราสมคบคิดกันใส่ร้ายอ๋องฉู่”“แต่พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือเพคะ? ในเมื่อที่อ๋องฉู่ตั้งใจจะก่อกบฏก็เป็นเรื่องจริง”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มิอาจปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน สิ่งที่เราทำได้ในยามนี้คือรอ รอให้ฉินอวี่ทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้ซาลงไปแล้ว เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เมื่อใดที่มีการเคลื่อนไหว ก็จะต้องมีพิรุธเป็นแน่”ฉงชูโม่ถามว่า “ให้หม่อมฉ้นแอบจับตาดูเขาดีหรือไม่?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status