ตำแหน่งองค์รัชทายาท ผมไม่เอาแล้ว

ตำแหน่งองค์รัชทายาท ผมไม่เอาแล้ว

By:  หออักษรUpdated just now
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
Not enough ratings
100Chapters
17views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

ทะลุมิติมาเป็นองค์รัชทายาทแห่งต้าเฉียน ทว่ากลับต้องมาเจอเสด็จพ่อที่ลำเอียง รักใคร่เพียงองค์ชายที่เกิดจากสนม! ไม่ว่าตนเองจะสร้างคุณงามความดียิ่งใหญ่เพียงใด ล้วนถูกมองข้ามไปหมด! เมื่อเห็นพวกเขาร่วมมือกับคนในราชสำนักเพื่อเล่นงานตนเอง ฉินหมิงก็โกรธขึ้นมา องค์รัชทายาทแห่งจักรวรรดิอย่างนั้นหรือ? ข้าไม่เป็นมันแล้ว! เขาออกจากเมืองหลวง นำทัพเข้าสู่หลิ่งหนาน พัฒนาอุตสาหกรรม! สร้างกองทัพติดอาวุธ! กระตุ้นเศรษฐกิจ! ปราบปรามชนเผ่าหนานหมาน! เชื่อมสัมพันธ์กับถู่ปัว! สร้างเรือลงสู่ทะเลใต้ สร้างผลงานอันยิ่งใหญ่สืบทอดไปนับหมื่นปี! ในเวลานี้ ราชสำนักก็พลันตระหนักได้ว่า แม้จะไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง แต่ฉินหมิงกลับโดดเด่นไม่ว่าจะไปที่ใด! ทว่าเมื่อราชสำนักไร้ซึ่งองค์รัชทายาทผู้นี้ กลับปรากฏช่องโหว่ที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ! ฮ่องเต้เฉียนร้อนรน : เจ้ากลับมาเถอะ เป่ยหมั่งต้านเอาไว้ไม่อยู่แล้ว! เหล่าขุนนางต่างตื่นตระหนก : องค์รัชทายาท ท่านกลับมาเถิดพ่ะย่ะค่ะ! ท้องพระคลังว่างเปล่า รับไม่ไหวแล้ว! องค์ชายเก้า : ท่านพี่ บัลลังก์นี้ข้ายกให้ท่าน ข้านั่งต่อไปไม่ไหวแล้ว!

View More

Chapter 1

บทที่ 1

“เจ้าคอยช่วยงานราชการมาหลายปี แต่กลับผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า ช่างไร้ความสามารถเสียจริง!”

“ปีนี้แม้แต่บัญชีของกรมคลังก็ยังขาดดุล ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย!”

“หากมอบแผ่นดินนี้ไว้ในมือเจ้า เราจะวางใจได้อย่างไร?”

เสียงตำหนิติเตียนประโยคแล้วประโยคเล่า ดังก้องอยู่ในหู

ฉินหมิงยืนนิ่งอยู่กลางท้องพระโรงจินหลวน

เหล่าขุนนางที่อยู่เบื้องล่าง ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์

บ้างก็รู้สึกมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น บ้างก็ก้มหน้าถอนหายใจ

ความทรงจำหลั่งไหลเข้ามาในหัว เขาทะลุมิติมาแล้ว

ชาติที่แล้ว เขาเป็นนักศึกษาปริญญาโทสาขาฟิสิกส์ อุตส่าห์ทุ่มเทแรงกายแรงใจเขียนบทความลงในวารสารชั้นนำ แต่กลับถูกอาจารย์ที่ปรึกษาขโมยผลงานไปเปลี่ยนชื่อผู้เขียน

ยื่นเรื่องร้องเรียนก็ไม่เป็นผล แถมยังถูกกลั่นแกล้งสารพัด จนอายุสามสิบกว่าแล้วก็ยังเรียนไม่จบ

สุดท้ายก็เก็บความอัดอั้นตันใจไว้ ทำงานหามรุ่งหามค่ำ จนป่วยตายอยู่หน้าคอมพิวเตอร์

เมื่อมาถึงราชวงศ์ต้าเฉียน ในชาตินี้เขาคือองค์รัชทายาทแห่งราชวงศ์ต้าเฉียน ผู้มีอำนาจสูงสุดในราชสำนักรองจากฮ่องเต้

ในฐานะผู้สืบทอดจักรวรรดิในอนาคต ชีวิตของเขาควรจะรุ่งโรจน์โชติช่วงและยิ่งใหญ่เกรียงไกร

แต่องค์รัชทายาทอย่างเขากลับแตกต่างออกไป เพราะมีเสด็จพ่อผู้ลำเอียงอยู่เบื้องบน

นับตั้งแต่ที่มารดาผู้ให้กำเนิดของฉินหมิงซึ่งเป็นฮองเฮาได้สิ้นพระชนม์ไป ฮ่องเต้เฉียนก็มอบความรักใคร่โปรดปรานทั้งหมดให้แก่เซียวซูเฟย

สถานการณ์เช่นนี้ดำเนินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเจ็ดปีก่อน

ในตอนนั้น โอรสของเซียวซูเฟย องค์ชายเก้าฉินเยว่ได้ประสูติ

แม้จะยังเยาว์วัย แต่ฮ่องเต้เฉียนกลับมอบทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่จะมอบให้ได้แก่เขา

ทันทีที่ประสูติ ฉินเยว่ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นจิ้นอ๋อง

ในบรรดาอ๋องทั้งหลาย ฉินและจิ้นถือเป็นบรรดาศักดิ์ที่สูงที่สุด

แม้จะเป็นองค์ชายลำดับที่เก้า แต่กลับได้ตำแหน่งจิ้นอ๋องที่เทียบเท่ากับฉินอ๋อง ซึ่งสามารถเทียบเคียงกับฉินหมิงผู้เป็นองค์รัชทายาทได้ แสดงให้เห็นถึงความโปรดปรานที่ฮ่องเต้เฉียนมีต่อเขาอย่างชัดเจน

เมื่อเทียบกันแล้ว

สถานการณ์ของฉินหมิงกลับยากลำบากขึ้นเรื่อย ๆ

หลายปีมานี้ ไม่ว่าจะเป็นในสนามรบหรือในราชสำนัก เขาได้สร้างคุณงามความดีไว้มากมายนับไม่ถ้วน แต่กลับถูกมองข้าม

แถมยังถูกจับผิดไปเสียทุกเรื่อง

หากมีข้อบกพร่องใด ๆ ก็จะถูกฮ่องเต้เฉียนตำหนิว่า เขาไร้คุณธรรมไม่คู่ควรกับตำแหน่ง!

วันนี้ก็เช่นกัน ฮ่องเต้เฉียนทอดพระเนตรรายงานของกรมคลังปีนี้แล้ว ก็เริ่มตำหนิฉินหมิงทันที

พระองค์ทรงลืมไปแล้วว่าเงินที่ใช้ไปในปีนี้ คือการสร้างคลองเหนือใต้ และจัดตั้งกรมการค้าทางทะเลปั๋วซือ

เงินที่ได้จากการค้าทางทะเลในปีหน้า สามารถชดเชยค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างและพัฒนาของต้าเฉียนได้ถึงสามปี!

แต่เสด็จพ่อผู้ลำเอียงคนนี้ กลับมองแค่บัญชีของกรมคลังในปีนี้ แล้วรู้สึกว่าไม่ดีเท่าปีก่อน ๆ

จึงใช้โอกาสนี้ ตำหนิเขาต่อหน้าขุนนางทั้งหลาย

ดูเหมือนสถานการณ์ของเขาจะไม่สู้ดีนัก

ฉินหมิงเบ้ปาก

ทำไมถึงเป็นบทละครที่ต้องทำงานหนักฟรี ๆ แบบนี้อีกแล้ว?

ถูกเสด็จพ่อแบบนี้กดขี่มาหลายปี แต่ไม่ได้อะไรดี ๆ ตอบแทนสักอย่าง

เจ้าของร่างเดิมกลับยังทนได้

เป็นเต่าหรือไง?

แต่เขาทนไม่ไหวแล้ว!

ได้เกิดใหม่ทั้งที ใครก็อย่าหวังว่าจะมากดขี่เขาได้อีก!

ทำหน้าบึ้งใส่เขาอย่างนั้นหรือ?

ขอโทษด้วย ข้าจะไม่รับใช้อีกต่อไปแล้ว!

ต่อไปนี้ข้าอยากทำอะไรก็จะทำ ใครจะพอใจหรือไม่พอใจก็ช่าง แค่ข้าพอใจก็พอ!

“ในเมื่อเสด็จพ่อทรงคิดว่าลูกไร้คุณธรรมไม่คู่ควรกับตำแหน่ง ไร้ความสามารถ ลูกเองก็รู้สึกว่ามิอาจแบกรับภาระบ้านเมืองอันใหญ่หลวงนี้ได้ เช่นนั้นก็ขอให้เสด็จพ่อส่งลูกไปรักษาการณ์ชายแดนที่หลิ่งหนานเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”

ร่างกายของฮ่องเต้เฉียนแข็งทื่อไปชั่วขณะ ราวกับยังประมวลผลคำพูดของฉินหมิงไม่ทัน

แต่หลังจากนั้นก็ทรงกริ้วอย่างยิ่ง ชี้หน้าตำหนิว่า

“เจ้าเป็นถึงองค์รัชทายาท! นึกจะไปก็ไป เจ้าเห็นกฎเกณฑ์ของราชสำนักและกฎหมายบ้านเมืองอยู่ในสายตาบ้างหรือไม่!?”

“ตำแหน่งองค์รัชทายาทอย่างนั้นหรือ? ลูกไม่ต้องการแล้ว!”

หากเป็นองค์รัชทายาทแล้ว ต้องทนกับเรื่องแย่ ๆ แบบนี้ทุกวัน

แล้วจะเป็นไปทำพระแสงอะไรกัน?

ให้องค์ชายเก้าสุดที่รักของท่านมาเป็นเถอะ!

“อะไรนะ!?”

เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา เหล่าขุนนางต่างตกตะลึง!

อัครมหาเสนาบดีเฉินซื่อเม่าไม่สนใจธรรมเนียมระหว่างกษัตริย์และขุนนางอีกต่อไป รีบพุ่งไปข้างหน้าดึงฉินหมิงไว้

“องค์รัชทายาท อย่าทำอะไรตามอารมณ์เลยพ่ะย่ะค่ะ!”

เฉียนไฉเสนาบดีกรมคลังตัวสั่นเทา รีบกล่าวแก้ต่าง

“ฝ่าบาท องค์รัชทายาทเพียงแค่พลั้งเผลอไปชั่วขณะ โปรดอย่าถือเป็นจริงเป็นจังเลยพ่ะย่ะค่ะ!”

หลายปีมานี้ องค์รัชทายาทได้นำกรมคลังสร้างผลงานมามากมาย

ใครจะไปก็ได้ แต่เขาไปไม่ได้!

นอกจากพวกเขาแล้ว ขุนนางอีกหกกรมก็พากันก้าวออกมาขัดขวาง

ฮ่องเต้เฉียนแค่นเสียงเย็น

ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว แสดงท่าทีของประมุขในระบอบศักดินา

“ฉินหมิง หากเจ้ากลับไปกักบริเวณสามเดือน สำนึกผิดดี ๆ เราจะถือว่าเมื่อครู่เจ้าเพียงแค่พลั้งปากไป!”

เมื่อเห็นฮ่องเต้เฉียนตรัสเช่นนั้น ทุกคนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

แต่ฉินหมิงกลับส่ายหน้า แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ

“เสด็จพ่อ ลูกพูดคำไหนคำนั้น องค์รัชทายาทนี้ ลูกไม่เป็นแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“บังอาจ! คิดว่าเราไม่กล้าปลดเจ้าออกจากตำแหน่งองค์รัชทายาทจริง ๆ หรือ?”

ฮ่องเต้เฉียนรู้สึกว่าถูกลบหลู่พระเกียรติ ทรงตบโต๊ะเบื้องหน้าอย่างแรง แล้วตวาดเสียงดังลั่น!

“เช่นนั้นก็ขอบพระทัยเสด็จพ่อ โปรดออกราชโองการมาเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินหมิงโค้งคำนับ แสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้ง

ทันใดนั้น เขาก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้

“จริงสิ ตามกฎหมายของต้าเฉียน ผู้ที่ไม่ใช่องค์รัชทายาท ก็ไม่มีสิทธิ์ยืนอยู่ในท้องพระโรงจินหลวนแห่งนี้เพื่อช่วยเหลืองานราชการแล้ว ลูกขอทูลลา”

ฉินหมิงหันหลังกลับ ก้าวเท้าออกไปอย่างรวดเร็วโดยไม่หันกลับมามอง

ภาพนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง

องค์รัชทายาทผู้ที่เคยซื่อสัตย์ภักดีมาตลอด เหตุใดจู่ ๆ ถึงเปลี่ยนไปเช่นนี้!

ขุนนางจำนวนมากรีบวิ่งออกไปขวางอยู่ที่ประตูท้องพระโรงจินหลวน

“องค์รัชทายาท ท่านไปไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ!”

ทั้งในและนอกท้องพระโรงจินหลวนเกิดความโกลาหล

ในพระทัยของฮ่องเต้เฉียนยิ่งทรงกริ้ว ตวาดใส่ฉินหมิงที่ถูกขวางอยู่ที่หน้าประตูไกล ๆ ว่า

“กำเริบเสิบสานนัก! ฉินหมิง เจ้าจะไปก็ได้ แต่ถ้าไปแล้ว ก็อย่าได้กลับมาอีกเลย!”

เสียงตวาดดังลั่น ทำให้ทุกคนใน ณ ทีนี้ตกใจจนเงียบลงในทันที

ฉินหมิงหันกลับมา จ้องมองไปยังเสด็จพ่อผู้ลำเอียงที่อยู่ไกลออกไปแล้วเอ่ยว่า

“ลูกน้อมรับพระบัญชา!”

ฉินหมิงหันหลังกลับ ทิ้งให้ฮ่องเต้เฉียนผู้ที่กริ้วจนหน้าแดงก่ำประทับอยู่ในท้องพระโรง

เหล่าขุนนางรายล้อมอยู่รอบกายพยายามทัดทานไม่หยุด ถึงขนาดเดินตามเขาออกไปจากท้องพระโรง

ปลายระเบียงทางเดินนอกพระราชวัง ร่างหนึ่งพลันวิ่งมาจากที่ไกล ๆ

ด้านหลังของนาง มีขันทีและนางกำนัลนับสิบคนที่หน้าตาตื่นตระหนกตามมา

“พระสนม...”

เมื่อเหล่าขุนนางเห็นผู้มาเยือน ในใจก็พลันหนักอึ้ง

เซียวซูเฟย!

“องค์รัชทายาท บนบ่าของท่านแบกรับภาระบ้านเมืองเอาไว้ จะไปง่าย ๆ เช่นนี้ได้อย่างไร?”

เมื่อเซียวซูเฟยเห็นฉินหมิง ก็รีบขวางเขาไว้ทันที

ภาพนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกเคลือบแคลงสงสัยอย่างยิ่ง

หลายปีมานี้ใครบ้างจะไม่รู้

ฮ่องเต้เฉียนทรงเข้มงวดกับองค์รัชทายาทถึงเพียงนี้ ก็ล้วนเป็นเพราะเซียวซูเฟยและองค์ชายเก้าวัยเจ็ดขวบผู้นั้น

สองแม่ลูกเฝ้าคิดฝันทั้งวันทั้งคืนว่า จะทำอย่างไรจึงจะได้ตำแหน่งองค์รัชทายาทมาไว้ในมือ

การที่ฉินหมิงสละตำแหน่งองค์รัชทายาทด้วยตนเอง ผู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุดย่อมเป็นนางอย่างไม่ต้องสงสัย

เหตุใดตอนนี้จึงยังมาขัดขวาง?

“เสแสร้งได้เหมือนจริงนัก ในเมื่อเป็นการขอโทษ เหตุใดไม่โขกหัวให้ข้าสักทีล่ะ?”

ฉินหมิงบ่นพึมพำในใจ ปากก็ไม่ยอมแพ้ กำลังจะอ้าปากด่าสักสองสามคำเพื่อระบายอารมณ์

แต่ใครจะคาดคิดว่า เกิดเสียงตุบดังขึ้น เซียวซูเฟยคุกเข่าลงต่อหน้าฉินหมิงจริง ๆ !

“หม่อมฉันรู้ว่าตลอดหลายปีมานี้ มีเรื่องที่ทำผิดพลาดไปบ้าง แต่นั่นไม่เกี่ยวกับฝ่าบาท องค์รัชทายาทไยต้องทำถึงขั้นนี้ด้วยเล่า!”

“ถือว่าหม่อมฉันขอร้องเถิดเพคะ ล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน ระหว่างพ่อลูก จะมีเรื่องบาดหมางกันข้ามคืนได้อย่างไร?”

“พระสนม ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ!”

“อ้ายเฟย!”

เหล่าขุนนางรีบวิ่งเข้ามา หมายจะประคองเซียวซูเฟยให้ลุกขึ้น

แม้แต่ฮ่องเต้เฉียนที่ประทับอยู่ในท้องพระโรงจินหลวน ก็ทรงลุกจากบัลลังก์ แล้วรีบวิ่งออกมาจากท้องพระโรง

“จบสิ้นแล้ว”

ท่ามกลางฝูงชน เฉินซื่อเม่าและเฉียนไฉต่างหลับตาด้วยความเจ็บปวด

ในขณะนี้ พวกเขาถึงได้เข้าใจวัตถุประสงค์ที่เซียวซูเฟยมาที่นี่

การคุกเข่าของเซียวซูเฟยครั้งนี้ เป็นการมัดมือชกฉินหมิงอย่างแท้จริง

ต่อให้เขาไม่อยากไป ฮ่องเต้เฉียนก็จะไม่ยอมแล้ว!

สตรีใจคอโหดเหี้ยมผู้นี้!

ฉินหมิงมองเซียวซูเฟยที่กำลังแสดงละครฉากใหญ่อยู่เบื้องหน้า แล้วส่ายศีรษะเบา ๆ

แม้แต่ตอนที่เขาจะออกจากราชสำนักไป นางก็ยังจะใช้ประโยชน์ให้ถึงที่สุด มาแสดงละครฉากนี้ เพื่อแสร้งทำเป็นสตรีที่มีจิตใจใสซื่อบริสุทธิ์อีกหรือ?

ดูเหมือนว่า การตัดสินใจออกจากราชสำนักของเขานั้นถูกต้องแล้ว

ส่วนนางอยากจะคุกเข่า เช่นนั้นก็คุกเข่าอยู่ตรงนี้ต่อไปเถอะ

นางสมควรจะยอมรับผิดกับตนบ้าง

“พอแล้ว ยังจะมาแสดงละครอะไรกับข้าอีก? หรือว่ากำลังรอให้เสด็จพ่อมาพยุงท่านล่ะ?”

ฉินหมิงก้มหน้าลง กระซิบข้างหูเซียวซูเฟยด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เมื่อได้ยินเช่นนั้น สายตาของนางก็หรี่ลง แล้วเงยหน้าจ้องมองฉินหมิงทันที

เห็นเพียงรอยยิ้มเย้ยหยันเล็กน้อยที่มุมปากของฉินหมิง กำลังจ้องมองนางอย่างเงียบ ๆ

สิ่งนี้ทำให้เซียวซูเฟยรู้สึกระแวงอย่างมาก

นางสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามอันใหญ่หลวง!

องค์รัชทายาทที่เคยโอบอ้อมอารีมาตลอด เหตุใดจู่ ๆ ถึงได้พูดจาเชือดเฉือนเช่นนี้?

ทันใดนั้น ร่างหนึ่งก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

“อ้ายเฟย ลุกขึ้นเถิด!”

“เจ้าจะคุกเข่าให้เจ้าลูกทรพีนี่ได้อย่างไร!”

ฮ่องเต้เฉียนเสด็จมาถึงข้างกายเซียวซูเฟย แล้วประคองนางขึ้นมา

จากนั้นก็หันไปมองฉินหมิงด้วยความโกรธ

“เจ้าลูกอกตัญญู! กุ้ยเฟยคุกเข่าต่อหน้าเจ้าแล้ว เจ้ากลับไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย!”

“ดี เราจะทำให้เจ้าสมหวัง!”

“ถ่ายทอดราชโองการของเรา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ให้ถอดถอนตำแหน่งองค์รัชทายาทของฉินอ๋อง และส่งไปรักษาการณ์ชายแดนที่หลิ่งหนาน!”

“ฝ่าบาท!!”

เฉินซื่อเม่าคุกเข่าลงเสียงดังตุบต่อหน้าฮ่องเต้เฉียนทันที

“องค์รัชทายาทจะไปไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท พระองค์จะต้องเสียพระทัย!”

“เราไม่มีวันเสียใจ!”

ฮ่องเต้เฉียนจ้องมองฉินหมิงด้วยความรังเกียจแวบหนึ่ง แล้วก้มลงปลอบโยนเซียวซูเฟย

ท่าทางที่ห่วงใยและทะนุถนอมอย่างยิ่งนั้น ทำให้ในใจของฉินหมิงรู้สึกดูแคลน

ฮ่องเต้เฒ่าไร้สมอง ไม่ช้าก็เร็วคงได้ตายอยู่ใต้กระโปรงสตรี!

ฉินหมิงแค่นเสียงเย็น กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ ลูกก็ไม่มีวันเสียใจเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ!”

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
100 Chapters
บทที่ 1
“เจ้าคอยช่วยงานราชการมาหลายปี แต่กลับผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า ช่างไร้ความสามารถเสียจริง!”“ปีนี้แม้แต่บัญชีของกรมคลังก็ยังขาดดุล ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย!”“หากมอบแผ่นดินนี้ไว้ในมือเจ้า เราจะวางใจได้อย่างไร?”เสียงตำหนิติเตียนประโยคแล้วประโยคเล่า ดังก้องอยู่ในหูฉินหมิงยืนนิ่งอยู่กลางท้องพระโรงจินหลวนเหล่าขุนนางที่อยู่เบื้องล่าง ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์บ้างก็รู้สึกมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น บ้างก็ก้มหน้าถอนหายใจความทรงจำหลั่งไหลเข้ามาในหัว เขาทะลุมิติมาแล้วชาติที่แล้ว เขาเป็นนักศึกษาปริญญาโทสาขาฟิสิกส์ อุตส่าห์ทุ่มเทแรงกายแรงใจเขียนบทความลงในวารสารชั้นนำ แต่กลับถูกอาจารย์ที่ปรึกษาขโมยผลงานไปเปลี่ยนชื่อผู้เขียนยื่นเรื่องร้องเรียนก็ไม่เป็นผล แถมยังถูกกลั่นแกล้งสารพัด จนอายุสามสิบกว่าแล้วก็ยังเรียนไม่จบสุดท้ายก็เก็บความอัดอั้นตันใจไว้ ทำงานหามรุ่งหามค่ำ จนป่วยตายอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เมื่อมาถึงราชวงศ์ต้าเฉียน ในชาตินี้เขาคือองค์รัชทายาทแห่งราชวงศ์ต้าเฉียน ผู้มีอำนาจสูงสุดในราชสำนักรองจากฮ่องเต้ในฐานะผู้สืบทอดจักรวรรดิในอนาคต ชีวิตของเขาควรจะรุ่งโรจน์โชติช่วงและยิ่งใหญ่เ
Read more
บทที่ 2
“ทุกท่านอย่าได้ขัดขวางเลย ขุนเขาและสายน้ำยังมีวันบรรจบกัน วันหน้าย่อมมีโอกาสได้พบกัน ขอให้เป็นไปตามนี้เถิด”ฉินหมิงหันหลังกลับ ก้าวออกจากพระราชวังไปเมื่อมองแผ่นหลังที่แน่วแน่และเด็ดเดี่ยวนี้เฉินซื่อเม่าและเฉียนไฉ รวมถึงกลุ่มขุนนางตงฉินอีกหลายคนต่างเจ็บปวดใจอย่างยิ่ง ขอบตาแดงก่ำส่วนขุนนางบางคน สายตากลับเปล่งประกาย ในใจรู้สึกยินดีเมื่อองค์รัชทายาทจากไป ในราชสำนักนี้ ก็เท่ากับศัตรูคู่อาฆาตลดลงไปหนึ่งคนชีวิตของพวกเขาก็จะสบายขึ้นอีกมาก!เซียวซูเฟยที่อยู่ในอ้อมกอดของฮ่องเต้เฉียนหรี่ตาลงเล็กน้อย ไม่แสดงอาการเสียใจใด ๆ ให้เห็นตรงกันข้าม กลับมีความรู้สึกโล่งใจราวกับแผนการอันชั่วร้ายสำเร็จลุล่วงนางรอคอยวินาทีนี้มานานเกินไปแล้ว!เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย เส้นทางในอนาคตของเจ้าเก้าย่อมราบรื่นไร้อุปสรรค!“กรมพิธีการ ร่างราชโองการ!”ฮ่องเต้เฉียนเสด็จกลับมายังท้องพระโรง และมีรับสั่งโดยตรง“ในเมื่อมิใช่องค์รัชทายาทแล้ว ครั้งนี้ก็ไม่ต้องมีผู้ใดไปส่ง!”ฉินหมิงเป็นถึงองค์ชาย ตามราชประเพณีแล้ว การเดินทางไปยังที่ดินศักดินาเพื่อรักษาการณ์ชายแดนนั้น จำเป็นต้องมีขุนนางไปส่งแต่เห็นได้ชัดว่าตอ
Read more
บทที่ 3
ภายในจวนองค์รัชทายาท ฉินหมิงนั่งฟังอย่างเงียบ ๆ อยู่ในห้องโถง จ้าวสี่ขุนนางของกรมพิธีการแสดงสีหน้าราวกับคางคกขึ้นวอ พลางถ่ายทอดราชโองการของฮ่องเต้เฉียน “ฝ่าบาทตรัสว่า หากองค์ชายจะไปยังหลิ่งหนาน ก็ให้พาคนทั้งหมดในจวนไปด้วยกัน จวนองค์รัชทายาทก็ต้องย้ายออก...” “ที่หลิ่งหนานมีกองทัพรักษาการณ์ชายแดนอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเกณฑ์คนจากเมืองหลวงไปอีก” “อ้อ จริงสิ ยังมีเรื่องพระราชพิธีอีกนะพ่ะย่ะค่ะ เนื่องจากท่านเป็นฝ่ายร้องขอไปรักษาการณ์ชายแดนด้วยตนเอง ราชสำนักไม่เคยมีกรณีเช่นนี้มาก่อน พวกเราจึงจัดการทุกอย่างให้เรียบง่ายที่สุด พิธีการที่ขุนนางทั้งหลายต้องมาส่งเสด็จก็ให้งดเว้นไป...” จ้าวสี่คือหนึ่งในศัตรูคู่อาฆาตในราชสำนักของฉินหมิง เพื่อที่จะแก้แค้นฉินหมิง เขาทุ่มเทความพยายามไปไม่น้อย จนในที่สุดก็ได้โอกาสจากในมือของโจวหลี่ มาดูหมิ่นฉินหมิงด้วยตนเองถึงที่นี่ แต่สิ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขาก็คือ ฉินหมิงเพียงแค่ยกถ้วยชาขึ้นจิบ แล้วนั่งฟังอย่างเงียบ ๆ ใบหน้าถึงกับปรากฏความคาดหวังอยู่หลายส่วน “พูดจบหรือยัง?” “จบแล้วพ่ะย่ะค่ะ” จ้าวสี่ตอบกลับอย่างไร้อารมณ์ ภาพที่เข
Read more
บทที่ 4
ฝูงชนที่มุงดูอยู่โดยรอบต่างส่งเสียงอุทานด้วยความตกตะลึง!“เขาจะแต่งจริง ๆ หรือ!?”“หากองค์ชายแต่งงานครั้งนี้ ในอนาคตก็ยากที่จะดึงกองกำลังอื่นมาช่วยเขาได้แล้ว”“นั่นสิ อย่างน้อยก็น่าจะหาบุตรสาวของขุนนางใหญ่สักคน เช่นนี้แล้วในอนาคตก็ยังพอจะมีกำลังสนับสนุนอยู่บ้าง”ใบหน้าของกวนเยว่เต็มไปด้วยความลังเล ความขุ่นเคืองก่อนหน้านี้ก็จางหายไปไม่น้อยอันที่จริงนางไม่รู้เลยว่า หลังจากที่ฉินหมิงได้เห็นนางแล้ว เขาก็ไม่ลังเลเรื่องการแต่งงานอีกต่อไปก็แค่แต่งงาน จะมีเรื่องอะไรมากมายนักไม่ใช่ทุกคนที่จำเป็นต้องไต่เต้าเกาะผู้มีอำนาจ ชั่งน้ำหนักผลได้ผลเสีย หรือต้องคิดหน้าคิดหลังเสียหน่อย ชาตินี้ ฉินหมิงขอเพียงแค่ได้ใช้ชีวิตอย่างสบายใจ ไม่ให้เสียชาติเกิดก็พอ!“องค์ชาย ขอบพระทัยที่ทรงช่วยหม่อมฉันแก้ไขสถานการณ์ แต่ท่านไม่จำเป็นต้องสงสารตระกูลกวน”กวนเยว่มองไปยังฉินหมิงอย่างลังเล ท่าทีไม่ได้โกรธเกรี้ยวเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป“ใครสงสารเจ้า?”“เจ้าคิดว่า ข้าอยากจะแต่งงานกับเจ้า เพราะสงสารตระกูลกวนอย่างนั้นหรือ?”“แต่ข้าก็จะต้องไปรักษาการณ์ชายแดนที่หลิ่งหนานแล้ว เจ้าไม่กลัวหรือ?”ฉินหมิงเหลือบมอ
Read more
บทที่ 5
บนใบหน้าของจ้าวสี่เผยสีหน้าตื่นเต้นดีใจแทบอยากจะปรบมือเฉลิมฉลองการลงโทษของฉินหมิงในตอนนี้เลยทีเดียวขุนนางหลายคนที่อยู่ฝ่ายเดียวกับเซียวซูเฟย ต่างก็แอบถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อองค์รัชทายาทไปยังหลิ่งหนานแล้ว คาดว่าคงจะไม่มีโอกาสได้กลับมาอีกการที่ศัตรูตัวฉกาจในราชสำนักลดลงไปหนึ่งคน ย่อมเป็นเรื่องดีสำหรับทุกคนแต่ในขณะนั้นเอง อัครมหาเสนาบดีเฉินซื่อเม่าก็ขมวดคิ้วแล้วก้าวออกมา“ฝ่าบาท เรื่องนี้ยังไม่ได้ผ่านการไต่สวน จะอาศัยเพียงคำพูดฝ่ายเดียวของพวกเขา มาตัดสินพระทัยเช่นนี้ได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้เฉียนพลันรู้สึกว่าตนเองเสียหน้า จึงตรัสถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เฉินซื่อเม่า เจ้ากำลังจะบอกว่าฉินหมิงไม่ได้ลงมือหรือ?”“ฝ่าบาท กระหม่อมเพียงแค่รู้สึกว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำ ควรจะไต่สวนให้แน่ชัดก่อนแล้วจึงค่อยตัดสินพระทัย มิเช่นนั้นจะดูผลีผลามเกินไปพ่ะย่ะค่ะ”ใบหน้าของเฉินซื่อเม่าไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย เขากล่าวอย่างไม่นอบน้อมแต่ก็ไม่อวดดีจนเกินไป“บังอาจ!”“การทำร้ายคนเป็นเรื่องจริง การก่อความวุ่นวายบนท้องถนนก็เป็นเรื่องจริง นี่มิใช่ว่าเจ้าลูกทรพีนั่นเก็บความแค้นไว้ในใจ จงใจทำให้
Read more
บทที่ 6
วันรุ่งขึ้น ณ ท่าเรือขนส่งทางน้ำนอกเมืองหลวงเรือสินค้าจากขบวนเรือหนานหยางหลายร้อยลำจอดเทียบท่าอยู่ที่นี่ระยะห่างระหว่างเรือแต่ละลำมีเพียงหนึ่งจั้ง แทบจะเรียกได้ว่าเบียดชิดติดกันจ้าวสี่มองจากระยะไกล ยังกลัวว่าพวกมันจะเผลอไปขูดขีดกันเข้า“คนเยอะขนาดนี้เชียวหรือ?”เขาพึมพำพลางเดินเข้าไปข้างหน้า ถือรายการสินค้าของปีนี้ จากนั้นขมวดคิ้วเอ่ยขึ้นลูกน้องสองสามคนที่อยู่ข้าง ๆ รีบกล่าวว่า“ใต้เท้า จำนวนก็ประมาณนี้มาตลอดขอรับ”“ให้พวกเขาเข้ามาเถอะ ข้าจะเจรจาเรื่องราคาสินค้าที่ต้องการกับพวกเขาเอง”“ขอรับ!”ขุนนางที่รับผิดชอบการขนส่งทางน้ำชื่อว่าลู่โหย่ว เมื่อได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าอย่างนอบน้อม แล้วสั่งให้ลูกน้องรีบไปแจ้งให้ผู้ดูแลของกองคาราวานสินค้ามารวมตัวกันหลังจากดูรายการราคาสองสามรอบลูกตาของจ้าวสี่ก็กลอกไปมา แผนการหนึ่งผุดขึ้นในใจ เขาจึงเอ่ยถามลู่โหย่ว“ข้าขอถามเจ้าหน่อย ของสิ่งนี้เคยให้พวกเขาดูแล้วหรือยัง?”“ยังเลยขอรับ ใต้เท้า”“เช่นนั้นแล้วรายการพวกนี้ เจ้ามีสำเนาหรือไม่?”“มีขอรับ พวกเราต้องเก็บสำเนาไว้ เพื่อสะดวกในการตรวจสอบบัญชี”จ้าวสี่ลูบคางพลางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ
Read more
บทที่ 7
“องค์ องค์ชาย...?”ฉางไป๋ซานถึงกับตกตะลึงนี่มันไม่เหมือนกับบทที่เขาคาดคิดไว้เลยนี่นาในสถานการณ์เช่นนี้ องค์ชายไม่ควรจะพลิกสถานการณ์ กอบกู้การค้าของต้าเฉียนให้พ้นจากวิกฤต เพื่อได้รับคำชื่นชมจากราษฎรและรางวัลจากราชสำนักหรอกหรือ?“พอแล้ว เจ้าออกไปก่อนเถอะ”ฉินหมิงไม่รีบร้อนเรื่องของราชสำนัก แต่เรื่องระหว่างเขากับเสี่ยวชุ่ยนั้นรีบมากวันนี้จะสั่งสอนแม่นางน้อยคนนี้ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เหลือเพียงแค่ขั้นตอนสุดท้ายแล้วแต่ฉางไป๋ซานกลับเป็นพวกหัวรั้นอย่างแท้จริงเขาทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดังตุบ“องค์ชาย หากท่านไม่ยื่นมือเข้าช่วย ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าต้าเฉียนจะต้องสูญเสียเงินนับสิบล้านตำลึงนะพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินหมิงจ้องมองเขา ในตอนนี้อยากจะชกหน้าฉางไป๋ซานสักหมัดจริง ๆ ดูเหมือนจะรู้ว่าการที่ตนเองอยู่ที่นี่ จะรบกวนการสนทนาระหว่างฉินหมิงกับฉางไป๋ซานเสี่ยวชุ่ยรู้สึกกลัวเล็กน้อยนางลุกขึ้นยืนอย่างขัดขืนเล็กน้อย คิดจะถอยไปอยู่ข้าง ๆ ฉินหมิงปล่อยมือ แล้วประคองฉางไป๋ซานให้ลุกขึ้น“เจ้าพูดถูก ไปสืบความเคลื่อนไหวที่ท่าเรือก่อน มีสถานการณ์ใด ๆ ให้รีบแจ้งข้าทันที”ดวงตาของฉางไป๋ซานเป็น
Read more
บทที่ 8
“พ่ะย่ะค่ะ”หัวหน้าขันทีซุนเหลียนอิงรับคำแล้วรีบหันหลังเดินซอยเท้าถี่ ๆ นำคนออกจากวังไปเชิญฉินหมิงฉินหมิงในฐานะองค์รัชทายาท เดิมทีที่พำนักของเขาควรจะอยู่ที่ตำหนักบูรพาแต่เมื่อหลายปีก่อนเพราะลมปากของเซียวซูเฟยฮ่องเต้เฉียนจึงลำเอียง โดยอ้างเหตุผลว่าองค์รัชทายาทโตแล้ว ไม่จำเป็นต้องศึกษาเล่าเรียนในวังอีกต่อไปให้เขาย้ายออกจากตำหนักบูรพา เพื่อให้องค์ชายเก้า จิ้นอ๋องฉินเยว่ที่ยังทรงพระเยาว์ได้ประทับอยู่แทนอ้างว่าเพื่อความสะดวกในการศึกษาเล่าเรียนแต่ใคร ๆ ก็รู้ดีว่า ต่อให้องค์ชายจะยังทรงพระเยาว์และต้องศึกษาเล่าเรียน ราชวงศ์ก็มีที่พำนักเฉพาะจัดเตรียมไว้ให้อยู่แล้วเหตุใดจะต้องไปใช้ตำหนักบูรพาด้วย?ผู้ที่มีสายตาเฉียบแหลมย่อมมองออกว่า นี่เป็นเพียงการหยั่งเชิงเหล่าขุนนางของเซียวซูเฟยผู้มีจิตใจคับแคบเท่านั้นองค์รัชทายาทในตอนนั้นช่างโอบอ้อมอารี ไม่ได้ใส่ใจกับขนบธรรมเนียมอันซับซ้อนเหล่านี้จึงได้สละตำหนักบูรพาให้อย่างใจกว้างส่วนตนเองก็ไปหาจวนแห่งหนึ่งในเมืองหลวงซึ่งก็คือสถานที่ที่ฉินหมิงอาศัยอยู่หลังจากที่มาถึงโลกใบนี้ก็เพราะการจัดการเช่นนี้ จึงทำให้การรอคอยในวันนี้ยาวนานเป็น
Read more
บทที่ 9
“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”ฮ่องเต้เฉียนทรงปฏิเสธเขาอย่างหนักแน่นค่ายทหารอู่เวยเดิมทีก็เป็นกองกำลังทหารชั้นยอดของราชสำนักอยู่แล้วแม้ว่าจะสูญเสียกำลังพลไปมาก หลังจากติดตามแม่ทัพใหญ่อู่เวยออกรบและหลังจากที่เขาเสียชีวิตก็ไม่ได้มีการขยายกำลังพลเพิ่มแต่กองกำลังชั้นยอดเช่นนี้ จะตกไปอยู่ในมือของฉินหมิงไม่ได้“ก็ได้พ่ะย่ะค่ะ”ฉินหมิงไม่พูดจาไร้สาระอีก เพียงประสานมือคารวะต่อฮ่องเต้เฉียนแล้วกล่าวว่า“เสด็จพ่อ ลูกร่างกายไม่ค่อยสบาย ขอทูลลาก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ ท่านทรงงานต่อไปเถิด”พูดจบก็เดินจากไปสีพระพักตร์ของฮ่องเต้เฉียนดูย่ำแย่ยิ่งนักส่วนเฉินซื่อเม่ากลับมองดูทั้งหมดนี้อย่างพึงพอใจแม้ว่าองค์รัชทายาทจะยังไม่ได้กลับคืนสู่ราชสำนักแต่อย่างน้อยวันนี้ก็ได้ระบายความโกรธออกมาหลายปีมานี้ฮ่องเต้เฉียนทรงปฏิบัติต่อฉินหมิงอย่างลำเอียงเกินไปจริง ๆ นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนต่างก็เห็นกันอยู่กับตาบัดนี้ ฉินหมิงไม่มีนิสัยที่ใจกว้างจนยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างอีกต่อไปแล้วนี่เป็นเรื่องที่ดี“หยุดนะ!”ฮ่องเต้เฉียนเห็นฉินหมิงกำลังจะจากไป ก็รีบเรียกเขาไว้ทันที“เสด็จพ่อ ยังมีเรื่องอันใดอีกหรือ
Read more
บทที่ 10
“ฮูหยินเฉิน”ฉินหมิงเข้ามาภายในจวนตระกูลกวน กล่าวทักทายฮูหยินเฉินอย่างสุภาพอันที่จริงตามธรรมเนียมของต้าเฉียน นางเฉินแต่งเข้าตระกูลไหน ก็ถือว่าเป็นคนของตระกูลนาง ตอนนี้ควรจะเรียกว่าฮูหยินกวนแต่ตอนนี้ตระกูลกวนท่านนั้นได้พลีชีพในสนามรบไปแล้วนางเฉินต้องค้ำจุนตระกูลด้วยตนเอง ดังนั้นจึงเรียกนางว่าฮูหยินเฉินโดยตรง“องค์ชายมาที่นี่ในวันนี้ มีธุระหรือเพคะ?”นางเฉินเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย นางเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับฉินหมิงมานานแล้วรู้ว่านี่คือเด็กหนุ่มที่มีความสามารถแต่เมื่อได้เห็นฉินหมิงในวันนี้ นางก็เริ่มสงสัยข่าวลือเหล่านั้นขึ้นมาบ้างเด็กหนุ่มตรงหน้านางผู้นี้ ดูท่าทางไม่เอาไหนแม้ว่าจะพยายามแสร้งทำเป็นปกปิด แต่กลิ่นอายของอันธพาลที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา ข้าเป็นใหญ่ไม่เกรงกลัวใครก็ยังคงแผ่ซ่านออกมานี่คือองค์รัชทายาทผู้ปกครองบ้านเมืองอย่างมีหลักการ และเป็นที่รักของเหล่าขุนนางอย่างนั้นหรือ?ท่าทางเช่นนี้ ยากที่จะทำให้ผู้ใหญ่ชื่นชอบได้นางเฉินจึงมีอคติต่อองค์ชายที่อาจจะได้มาเป็นลูกเขยของตระกูลกวนเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน“ใช่แล้ว แต่เรื่องนี้อาจจะยังบอกท่านไม่ได้ คุณหนูกวนอย
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status