เข้าสู่ระบบเช้าวันแรกของการเริ่มงานที่บริษัทวิสต้า คอร์เปอร์เรชั่น สาขาเมืองต้นแบบ ขนมเดินเข้าสำนักงานด้วยท่าทางคล่องแคล่ว และความตื่นเต้นเล็ก ๆ ในหัวใจ
ออฟฟิศแห่งนี้ตกแต่งอย่างเรียบหรู ผสานความล้ำสมัยเข้ากับความอบอุ่น ทุกคนดูเป็นกันเอง ไม่มีความเคร่งเครียดแบบที่เธอเคยจินตนาการถึง
เพียงไม่กี่นาทีหลังเธอเซ็นชื่อเข้าทำงาน ร่างสูงในสูทสีน้ำตาลอ่อนก็ก้าวเข้ามาทักทาย
“ขนม?”
หญิงสาวหันขวับตามเสียง และเบิกตากว้างเมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย
“พี่วิน!?”
“ใช่แล้ว จำพี่ได้ด้วย ดีใจจัง” ราวินหัวเราะอย่างเป็นมิตร ดวงตาคมกริบยังคงอบอุ่นเหมือนเดิม
“แหม~ พี่วิน เพื่อนสนิทของพี่กันต์ ใครจะลืมได้ลงล่ะคะ” ขนมหัวเราะอย่างสบายใจขึ้นมาทันทีที่เจอคนคุ้นหน้า
“เราทำงานที่นี่เหรอ?”
“ค่ะ ขนมมาเป็นเลขาฯ ท่านประธานค่ะ”
เธอพูดด้วยรอยยิ้ม โดยไม่ทันได้สังเกตเลยว่า หลายสายตาในออฟฟิศแอบมองพวกเขาอยู่เงียบ ๆ
“อย่างนี้ก็แสดงว่า...เราได้ทำงานด้วยกันน่ะสิ” ราวินเอ่ยพร้อมรอยยิ้มมีเลศนัย
“หืม?” ขนมเลิกคิ้วงง ๆ
“ยังไงคะ?”
“มาเถอะ เดี๋ยวก็รู้”
ราวินยักคิ้วให้เธอเล็กน้อย ก่อนจะเดินนำไปทางลิฟต์ฝั่งผู้บริหาร ซึ่งขนมลังเลเล็กน้อยแต่ก็ตามไปอย่างว่าง่าย
ลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นบนสุด ทันทีที่ประตูเปิดออก เธอก็ได้กลิ่นหอมจาง ๆ ของไม้และดอกไม้แห้งผสมกัน เสียงเท้ากระทบพื้นไม้ขัดเงาเบา ๆ ดังขึ้น ขนมมองไปรอบ ๆ อย่างประหลาดใจ
“ที่นี่...”
เธอพึมพำกับตัวเอง เมื่อเห็นบรรยากาศของชั้นนี้แตกต่างจากด้านล่างโดยสิ้นเชิง เงียบขรึม เป็นส่วนตัว และดูหรูหราในระดับผู้บริหารระดับสูง
“พี่วิน...” ขนมหันไปมองเขาอย่างสงสัย
“พี่พาหนูมาที่นี่ทำไมคะ?”
ราวินไม่ตอบ แต่เปิดประตูห้องหนึ่งที่ป้ายหน้าห้องเขียนว่า ‘ประธานบริหาร’
“ยินดีต้อนรับสู่ห้องทำงานของพี่...เลขาคนใหม่” เขาหันมายิ้มพร้อมผายมือ
ขนมอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะยกมือขึ้นแตะหน้าอกตัวเองเบา ๆ
“เดี๋ยวนะคะ…พี่วินคือ—?”
“ประธานบริษัทวิสต้า คอร์เปอร์เรชั่นเองครับ” ราวินพูดพร้อมหัวเราะเบา ๆ
“โอ๊ย!! ขนมจะเป็นลม!” หญิงสาวทิ้งตัวลงบนโซฟาในห้องทันทีอย่างตกใจ
“ใจเย็นสิครับ เดี๋ยวกระโปรงเปิดหมดแล้ว~” เขาแกล้งแซวเรียบ ๆ ก่อนเดินไปวางเอกสารบนโต๊ะ
เสียงหัวเราะของทั้งสองคลอไปทั่วห้องท่ามกลางแสงแดดอ่อน ๆ ที่ลอดผ่านม่านหน้าต่าง
“แบบนี้ ขนมก็แอบอู้งาน แอบกินขนมได้สิคะ~” หญิงสาวส่งยิ้มทะเล้นแบบที่เธอถนัดให้ประธานหนุ่ม
“เชิญเลย แต่ขอแค่เรื่องงานต้องเป๊ะนะครับ” ราวินยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ดวงตาคมกริบยังคงจับจ้องใบหน้าเธออย่างอารมณ์ดี
“แหม~ พี่วินก็รู้อยู่แล้วว่า ขนมตั้งใจทำงานสุด ๆ” เธอแกล้งเบะปากใส่ ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ
“รู้สิ... รู้ด้วยว่าเมื่อก่อนตั้งใจจีบไอ้กันต์แค่ไหน” ราวินหัวเราะในลำคอ ริมฝีปากคลี่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“พี่วิน!!!” ขนมถึงกับเขินจนหน้าแดงระเรื่อ เธอยกมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเองทันที
“นั่นมันเรื่องเก่านานแล้วนะคะ” เธอพยายามตอบเรียบ ๆ แม้หัวใจจะเต้นโครมคราม
“งั้นแปลว่าตอนนี้ไม่ได้ชอบไอ้กันต์แล้ว?”
ขนมยิ้มยั่วนิด ๆ ดวงตาเปล่งประกายเหมือนจงใจท้าทาย
“...จะว่าแบบนั้นก็ได้ค่ะ”
“โอ้โห งั้นพี่ก็มีสิทธิ์ลุ้นล่ะสิ” ราวินยิ้มกริ่ม ขยับตัวเข้าใกล้จนขนมต้องก้าวถอยห่างอัตโนมัติ
“พี่วินอย่ามาล้อเล่นกับหนูนะ” ขนมหรี่ตามอง สีหน้าจริงจัง
“ถ้าพี่คิดไม่ซื่อ หนูจะฟ้องมิวจริง ๆ ด้วย!” เธอเชิดหน้าใส่ จมูกรั้น ๆ ทำเอาราวินถึงกับหัวเราะลั่น
“โอเค ๆ พี่ไม่แกล้งแล้ว” เขายกมือยอมแพ้ ยิ้มอย่างนึกเอ็นดู
“เอาล่ะ โต๊ะเราน่าจะจัดเสร็จแล้ว อยู่หน้าห้องพอดี ไปเริ่มงานได้แล้ว”
เขาขยับเนกไทให้เข้าที่ ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะทำงานที่มีมุมโปร่งมองเห็นวิวเมืองได้ชัดเจน
“รับแซ่บค่ะ ท่านประธาน~” ขนมยิ้มกว้าง แกล้งทำท่าตะเบ๊ะล้อเลียน ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องไปด้วยท่าทีคล่องแคล่ว
ราวินมองตามร่างบางที่หายออกไปจากห้อง เขาส่ายหน้า แล้วพึมพำกับตัวเอง
“ไอ้กันต์... คราวนี้มึงจะรอดจากน้องขนมมั้ยวะ?”
...
ขนมทำงานได้อย่างคล่องแคล่วตั้งแต่เช้าวันแรก ด้วยความที่เธอเคยผ่านประสบการณ์เป็นเลขาบริษัทชั้นนำในเมืองหลวงมาก่อน ทำให้การปรับตัวกับที่นี่ไม่ใช่เรื่องยากเลยแม้แต่น้อย
เธอจัดระเบียบเอกสาร เข้าประชุมกับทีม และดูแลงานของประธานบริษัทอย่างไม่ติดขัด แม้จะเป็นเพียงวันแรก แต่ทุกคนในแผนกต่างก็เริ่มคุ้นชินกับความสดใสและมืออาชีพของเธออย่างรวดเร็ว
ราวินเองก็สังเกตเห็นความสามารถของเธอเช่นกัน เขาไม่ได้สอนงานมากนัก เพียงแค่แนะนำภาพรวมของระบบงานที่บริษัทใช้ แต่ขนมกลับสามารถเรียนรู้และจัดการทุกอย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ไม่ธรรมดาเลยนะเรา” เขาเอ่ยขึ้นเบา ๆ ระหว่างเดินผ่านโต๊ะทำงานของเธอ
“ขอบคุณค่ะ ขนมชอบงานแบบนี้อยู่แล้ว” เธอตอบพร้อมรอยยิ้ม
ช่วงบ่ายของวัน ราวินชวนเธอออกไปประชุมกับลูกค้ารายสำคัญนอกสถานที่ ขนมรับหน้าที่จัดการเอกสารและช่วยสรุปประเด็นต่าง ๆ ระหว่างการพูดคุย และด้วยความกระตือรือร้น บวกกับไหวพริบในการตอบคำถามและเข้ากับลูกค้าได้ดี ทำให้เธอได้รับคำชมจากผู้บริหารฝั่งลูกค้าโดยตรง
“เลขาคนใหม่ของคุณ ดูมีเสน่ห์และเก่งใช้ได้เลยนะครับ” ลูกค้าคนหนึ่งหันมากระซิบกับราวินตอนท้าย
“ครับ ผมก็คิดแบบนั้น” ราวินตอบยิ้ม ๆ สายตาเหลือบมองขนมที่กำลังเก็บเอกสารอย่างตั้งใจอยู่ข้างโต๊ะ
เมื่อเสร็จภารกิจในวันนั้น ราวินอาสาพาขนมกลับมาส่งที่หน้าบ้าน รถยนต์คันหรูแล่นชะลอเข้าจอดที่หน้ารั้วบ้านสีขาวครีมของเธอ ขนมปลดเข็มขัดนิรภัย พลางหันมายิ้มหวานให้
“ขอบคุณที่ไปส่งนะคะ ท่านประธาน” เธอแกล้งเรียกอย่างประชดเบา ๆ
“วันนี้เราเก่งมากเลยนะ พี่ไม่คิดว่าเด็กที่เคยวิ่งตามกันต์จะโตมาเป็นมืออาชีพได้ขนาดนี้” ราวินพูดติดตลกปนชื่นชม
“อ้าว~ พี่วินยังเอาเรื่องนั้นมาพูดอีก” ขนมหัวเราะเขิน ๆ
“พี่พูดเพราะภูมิใจต่างหาก” เขายิ้ม
“ว่าแต่กลับมาคราวนี้ ตั้งใจจะอยู่ยาวเลยเหรอ?”
“ค่ะ ขนมอยากตั้งหลักให้ได้ แล้วที่นี่ก็น่ารักกว่าที่คิด”
“แล้ว...”
“ยัยขนม!!”
เสียงตะโกนพร้อมใบหน้าใส ๆ ที่แนบติดกับกระจกหน้าต่างฝั่งที่ขนมนั่ง ทำเอาทั้งราวินและขนมหัวเราะออกมาพร้อมกัน
“ยัยมิว! ตกใจหมดเลย!” ขนมเปิดประตูรถลงมา พลางแกล้งเอ็ดเพื่อนเสียงแหลม
“ก็เห็นนั่งรถมากับหนุ่มหล่อระดับพี่วิน จะไม่มาแซวได้ไงเล่า” มิวเดินเข้ามาแกล้งดึงแขนเพื่อน แล้วหันไปยกมือไหว้ราวินด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีค่ะพี่วิน ไม่เจอกันตั้งนาน”
“สวัสดีครับน้องมิว ไม่เปลี่ยนเลยนะครับ ยังสดใสเหมือนเดิม” ราวินยิ้มให้ แววตาอ่อนโยนเป็นพิเศษแบบที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ว่ากำลังเผยความรู้สึกบางอย่างออกมา
“โอ๊ย~ ปากหวานเหมือนเดิมเลยนะคะ พี่วิน” มิวหัวเราะ
ขนมยืนมองเพื่อนกับชายหนุ่มตรงหน้า พลางแอบอมยิ้ม
‘เขามองแกขนาดนี้...แกยังไม่รู้ตัวอี๊ก! ยัยมิว!’
“ว่าแต่ขนมทำงานเหนื่อยมั้ย วันนี้?” มิวหันมาถาม
“ก็สนุกดีนะ งานที่บริษัทน่ารักกว่าที่คิด มีพี่วินช่วยอีกแรง เลยไม่มีอะไรต้องห่วง” ขนมตอบ
“อย่างนั้นก็ดีแล้ว~”
ทันใดนั้น ประตูรั้วเหล็กหน้าบ้านก็เปิดออกพร้อมเสียงเครื่องยนต์ดังใกล้เข้ามา รถยนต์คันหรูจอดชิดริมทาง ก่อนที่กันต์ในชุดเสื้อเชิ้ตพับแขนกับกางเกงสแลคสีเข้มจะก้าวลงมา พร้อมกระเป๋าโน้ตบุ๊กในมือ
แววตาคมกริบของเขาสะดุดทันทีที่เห็นขนมยืนอยู่หน้าบ้าน...พร้อมกับราวิน
สายตาคมกวาดมองตั้งแต่เพื่อนรักไปจนถึงหญิงสาวข้างกาย ก่อนจะแอบหรี่ตาลงเล็กน้อยอย่างไม่ปิดบังความรู้สึก
“กลับมาแล้วเหรอ พี่กันต์~” มิวทักเสียงใส
“อืม” เขาพยักหน้าตอบ พลางเดินเข้ามาหาทั้งกลุ่ม แววตามองไปที่ราวินนานกว่าปกติเล็กน้อย
“ทำไมมาด้วยกันได้วะ? วิน”
“แวะมาส่งน้องขนมน่ะ” ราวินตอบพลางยิ้มมุมปาก แต่เหมือนคำว่า ‘น้องขนม’ จะทำให้กันต์ยิ่งรู้สึกขัดหูเข้าไปใหญ่
“ประธานต้องบริการดีขนาดนี้เลยเหรอวะ” กันต์พูดเรียบ ๆ แต่ดวงตาที่มองเพื่อนรักไม่ค่อยพอใจนัก
มิวรีบเดินมากอดแขนพี่ชายแล้วพูดแทรกขึ้นทันทีราวกับสัมผัสได้ถึงบรรยากาศบางอย่างที่อาจจะเริ่มตึง
“เอ้า พี่กันต์ พี่วิน ขนม เข้าไปในบ้านก่อนเลยค่ะ! วันนี้มิวทำอาหารไว้รออยู่แล้วนะ เลี้ยงต้อนรับขนมแบบจัดเต็ม!”
“หือ? จริงเหรอมิว” ขนมหันไปถามอย่างตื่นเต้น
“จริงสิ~” มิวพยักหน้าแรง
“วันนี้จัดเมนูเด็ดเลยนะ มีต้มยำปลาทูบ้าน ยำแซลมอนใส่มะม่วงเบา หมูสามชั้นทอดน้ำปลา แล้วก็ของโปรดพี่วินด้วย~”
“ของโปรดพี่?” ราวินเลิกคิ้ว
“ไข่เจียวปู! ใช่มั้ยล่ะคะ~ มิวจำได้หมดนะว่าพี่ชอบอะไร”
มิวกะพริบตาปริบ ๆ พร้อมรอยยิ้มใสซื่อ แต่ไม่รู้เลยว่าการพูดแบบนั้นทำให้ราวินถึงกับยิ้มออกอย่างจริงใจ
“โอ้โห แบบนี้ประธานก็มีแรงทำงานพรุ่งนี้แล้วสิครับ” ราวินหันไปแซวขนมเบา ๆ
“ดีเลยค่ะ หนูจะได้ยื่นแฟ้มงานเพิ่มอีกสามเล่ม” ขนมหัวเราะคิก ๆ
“เดี๋ยวเถอะ” ราวินหัวเราะบ้าง ก่อนทั้งหมดจะเดินเข้าบ้านกันไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นและเสียงหัวเราะ
มีเพียงกันต์คนเดียวที่ยังไม่พูดอะไร...แต่จังหวะก้าวของเขาที่เร็วขึ้นนั้น ก็บอกได้มากพอว่า เขาไม่ได้ชอบ ‘ไข่เจียวปู’ สักเท่าไหร่เลยในวันนี้
สองวันถัดมา...หลังจากที่ขนมรู้ว่า คนส่งกาแฟให้เธอทุกวันคือใคร ก็ถึงเวลาอ่อยกลับแบบเนียน ๆ แล้วล่ะขนมนั่งทำงานหน้าคอมเงียบ ๆ แต่มือกลับไถดูมือถือที่เพิ่งค้นประวัติร้านขนมเจ้าเก่าที่อยู่ในตลาดใกล้โรงเรียนมัธยมเก่า“ขนมเปียกปูนมะพร้าวอ่อน” ขนมที่เขาเคยกินตอนมัธยมซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเธอจำได้ขึ้นใจตอนนั้นเธอยังเป็นเด็กน้อยที่เอาแต่แอบมองพี่กันต์นั่งกินใต้ต้นมะม่วงหลังตึกเรียนแต่ตอนนี้...เธอโตพอจะซื้อให้เขาแล้วเธอสั่งขนมเปียกปูน 2 กล่องจากร้านดั้งเดิม พร้อมกับฝากโน้ตเล็ก ๆ ไปด้วย ให้ไรเดอร์ส่งตรงไปยังสำนักงานของ KTEG“ไม่รู้ว่ายังชอบขนมเหมือนเดิมมั้ย แต่หนูจำได้...ว่าพี่เคยกินทุกเย็นหลังเลิกเรียน"โดยที่เธอก็ไม่ลงชื่อในโน้ตเหมือนกัน...ช่วงบ่าย — ที่ไซต์ก่อสร้างสำนักงานใหญ่ KTEGกันต์กำลังคุมหน้างานอยู่ จู่ ๆ ก็พนักงานรปภ. ก็เดินถือถุงขนมพร้อมโน้ตเล็ก ๆ มาส่งให้ เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะหยิบมาเปิดดู‘ขนมเปียกปูนมะพร้าวอ่อน’แถมยังมาจากร้านเดิมที่เขาเคยซื้อทุกวันสมัยม.ปลาย ร้านที่เขาเองยังนึกไม่ถึงว่าเธอจะจำได้มือใหญ่เปิดโน้ต อ่านเพียงไม่กี่บรรทัด ก็หลุดยิ้มกว้าง...
K-TECH Engineering Group หรือที่ทุกคนเรียกกันสั้น ๆ ว่า KTEG คือหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศที่พัฒนาเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมก่อสร้างอัจฉริยะ มีโปรเจกต์นับไม่ถ้วนที่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างเมืองทั้งระบบและกันต์ก็เป็นหนึ่งในคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จเหล่านั้นเขาใช้ชีวิตเรียบง่ายภายใต้ตำแหน่งที่ใคร ๆ ก็คิดว่าเป็นเพียงซีเนียร์โปรเจคเอ็นจิเนียริ่งธรรมดา ๆ ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นใคร และจริง ๆ แล้วร่ำรวยขนาดไหน เขาเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องบอก เพราะในใจ...มีเรื่องอื่นให้คิดมากกว่านั้นโดยเฉพาะเด็กข้างบ้านที่เขาเคยคิดว่า ‘ไม่เอา’ แต่ตอนนี้...เขากลับอยากได้จนแทบทนไม่ไหวกันต์จำได้ดีว่าเธอเคยวิ่งตามเขาในชุดนักเรียนมัธยมปลาย พร้อมกล่องขนมในมือและรอยยิ้มกว้างที่สดใสที่สุดในโลกจำได้ว่าเธอเคยสารภาพรัก ก่อนจะร้องไห้ออกมา เพราะเขาปฏิเสธเธออย่างไม่ไยดีเขาคิดว่าเธอแค่เด็ก คิดว่าอีกหน่อยก็ลืม แต่ตอนนี้คนที่ดันไม่ลืมกลับกลายเป็นเขาเองและเพราะแบบนั้น เขาถึงไม่กล้ามองเธอตรง ๆไม่กล้าพูด ไม่กล้าถาม ไม่กล้ารุกแรง...แต่ก็หยุดความคิดของตัวเองไม่ได้เลยสักวันเขาเริ่มคิดว่า จะจีบเธอแบบไหน ถึงจะเนียน
ที่มุม VIP ด้านในสุดของ Glow Room ราวินกับกันต์นั่งเอนกายบนโซฟาหนังนุ่ม จิบวิสกี้เย็น ๆ ท่ามกลางเสียงหัวเราะของกลุ่มเพื่อนเก่าสมัยมัธยมที่นัดกันมาสังสรรค์บรรยากาศเต็มไปด้วยความเป็นกันเอง เสียงดนตรีเร้าใจแต่ไม่กลบเสียงพูดคุย เพลงเปลี่ยนจังหวะเบา ๆ ไปเรื่อย ๆ แสงไฟหมุนช้า ๆ พาดผ่านโต๊ะและใบหน้าของคนในกลุ่มเป็นจังหวะจู่ ๆ เพื่อนคนหนึ่งที่นั่งหันหน้าออกไปทางประตูร้านก็เบิกตากว้าง“เห้ยยย...นั่นน้องขนมนี่หว่า! โตแล้วสวยขนาดนี้เลยเหรอ?”กันต์ที่ตอนแรกนั่งหันหลังให้ฝั่งประตูหูผึ่งทันทีที่ได้ยินชื่อ เขารีบหันไปตามสายตาเพื่อน...แล้วก็เห็นขนมกำลังก้าวเข้ามาในผับร่างบางที่เดินเยื้องกรายภายใต้สปอร์ตไลต์ ประกอบกับแสงไฟสีม่วงอมทองก็สาดส่องบนร่างระหงนั้นพอดีกันต์ถึงกับสตั๊นราวกับโดนสาปให้กลายเป็นหิน ดวงตาคมใต้คิ้วเข้มจ้องมองทุกท่วงท่าของเธอเสื้อเชิ้ตครอปสีขาวไข่มุกแนบเนื้อแนบใจ หน้าอกอวบอิ่ม กางเกงยีนส์เอวต่ำขับผิวขาวเนียนจนอยากยื่นมือไปสัมผัสร่างบาง ผมลอนนุ่มแกว่งไปตามการก้าวเดินริมฝีปากเคลือบกลอสสีชมพูอ่อนที่ตอนนี้กำลังยิ้มกับเพื่อนอย่างเป็นธรรมชาติ‘แม่งเอ๊ย! อยากกดให้จมเตียง!!’กันต์ได้แต่
สองวันต่อมา...ช่วงเย็น ขนมที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านหลังสีพีชสองชั้นที่ตอนนี้เธออาศัยอยู่คนเดียว เดิมทีบ้านหลังนี้เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของครอบครัวแต่เมื่อพ่อกับแม่ของเธอตัดสินใจย้ายไปอยู่ญี่ปุ่นอย่างถาวรหลังจากธุรกิจลงทุนของคุณพ่อ ดันเกิดปังปุริเย่ระเบิดเถิดเทิงแบบไม่ตั้งใจ ชีวิตของขนมจึงพลิกผันกลายเป็นสาวโสดในบ้านหลังใหญ่โดยสมบูรณ์แม้ใครจะมองว่าน่าเหงา...แต่ไม่ใช่สำหรับเธอก็แหม...อยู่ตัวคนเดียว มีบ้าน มีรถ แถมยังมีอิสระให้ใช้ชีวิตแบบไม่ต้องมีคุณพ่อคุณแม่คอยสแกนชุดก่อนออกจากบ้าน ใครจะไม่ชอบล่ะ?ส่วนบ้านข้าง ๆ ที่แทบจะแชร์รั้วเดียวกัน ก็เป็นของมิวเพื่อนสนิทที่กลายเป็นเหมือนฝาแฝดคนละบ้าน และพี่กันต์ พี่ชายสุดฮอตเจ้าของฉายา ‘คาสโนว่า’ ที่ทำเอาเธอแอบเขินทุกครั้งเวลาเผลอเดินสวนกันครอบครัวของมิวกับพี่กันต์ก็ไม่ได้ต่างจากครอบครัวของขนมเท่าไหร่นัก หลังจากประสบความสำเร็จในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับอินเตอร์ พ่อแม่ของพวกเขาก็บินไปบริหารงานสาขาต่างประเทศอยู่บ่อย ๆ ทิ้งสองพี่น้องไว้ในเมืองไทยอย่างอิสระเสรีไม่แพ้กันและนั่นเอง...คือจุดเริ่มต้นของความสนิทที่กลายเป็นความคุ้นเคยและสุดท้าย...เหมือน
เช้าวันแรกของการเริ่มงานที่บริษัทวิสต้า คอร์เปอร์เรชั่น สาขาเมืองต้นแบบ ขนมเดินเข้าสำนักงานด้วยท่าทางคล่องแคล่ว และความตื่นเต้นเล็ก ๆ ในหัวใจออฟฟิศแห่งนี้ตกแต่งอย่างเรียบหรู ผสานความล้ำสมัยเข้ากับความอบอุ่น ทุกคนดูเป็นกันเอง ไม่มีความเคร่งเครียดแบบที่เธอเคยจินตนาการถึงเพียงไม่กี่นาทีหลังเธอเซ็นชื่อเข้าทำงาน ร่างสูงในสูทสีน้ำตาลอ่อนก็ก้าวเข้ามาทักทาย“ขนม?”หญิงสาวหันขวับตามเสียง และเบิกตากว้างเมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย“พี่วิน!?”“ใช่แล้ว จำพี่ได้ด้วย ดีใจจัง” ราวินหัวเราะอย่างเป็นมิตร ดวงตาคมกริบยังคงอบอุ่นเหมือนเดิม“แหม~ พี่วิน เพื่อนสนิทของพี่กันต์ ใครจะลืมได้ลงล่ะคะ” ขนมหัวเราะอย่างสบายใจขึ้นมาทันทีที่เจอคนคุ้นหน้า“เราทำงานที่นี่เหรอ?”“ค่ะ ขนมมาเป็นเลขาฯ ท่านประธานค่ะ”เธอพูดด้วยรอยยิ้ม โดยไม่ทันได้สังเกตเลยว่า หลายสายตาในออฟฟิศแอบมองพวกเขาอยู่เงียบ ๆ“อย่างนี้ก็แสดงว่า...เราได้ทำงานด้วยกันน่ะสิ” ราวินเอ่ยพร้อมรอยยิ้มมีเลศนัย“หืม?” ขนมเลิกคิ้วงง ๆ“ยังไงคะ?”“มาเถอะ เดี๋ยวก็รู้”ราวินยักคิ้วให้เธอเล็กน้อย ก่อนจะเดินนำไปทางลิฟต์ฝั่งผู้บริหาร ซึ่งขนมลังเลเล็กน้อยแต่ก็ตามไปอย่าง
เช้าวันต่อมา...แดดอ่อน ๆ ส่องลอดม่านเข้ามาในห้องของขนม เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นพอดีกับที่เธอลืมตาตื่น วันนี้เป็นวันแรกของการทำงานตำแหน่งเลขาของท่านประธานขนมลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉง คว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำก่อนจะเดินออกมาในชุดเดรสสีพาสเทลเข้ารูป ทับด้วยเบลเซอร์สีครีมบางเบา กระโปรงยาวเหนือเข่าเล็กน้อย ผมลอนคลายถูกรวบครึ่งหัวดูหวานละมุน และเผยให้เห็นลำคอขาวเนียนรับกับต่างหูไข่มุกเม็ดเล็กขนมยืนหน้ากระจก ปรับปกเบลเซอร์ให้เข้าที่อีกครั้งก่อนหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นบ่า ทันทีที่เปิดประตูบ้านออก ก็เห็นมิวกำลังยืนหาวอยู่หน้าบ้านตัวเองพอดี“จะไปแล้วเหรอ ยัยขนม? ไปทำงานที่ไหนอะ?” มิวถามเสียงงัวเงีย“บริษัทวิสต้า คอร์เปอร์เรชั่นน่ะ” ขนมตอบ“ว่าแต่...น่าอิจฉาแกจริงๆ แม่อินฟลูเอ็นเซอร์ ได้ทำงานอยู่บ้าน ไม่ต้องรีบตื่นนอน”ขนมแซะเพื่อน ก่อนยื่นมือมาหยิกแก้มกลมของมิวเบา ๆมิวพึมพำเบา ๆ“…วิสต้าเหรอ? เฮ้ย! นั่นมันบริษัทที่อยู่ใกล้แยกใหญ่นี่! ทางเดียวกับบริษัทพี่กันต์เลย!”แล้วก็ไม่รอให้ขนมตอบอะไร มิวหันกลับเข้าไปในบ้าน ตะโกนเสียงดังลั่น“พี่กันต์! ที่ทำงานของขนมไปทางเดียวกับพี่อะ! ไปส่งหน่อย!!”ไม่นาน เส







