เข้าสู่ระบบK-TECH Engineering Group หรือที่ทุกคนเรียกกันสั้น ๆ ว่า KTEG คือหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศที่พัฒนาเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมก่อสร้างอัจฉริยะ มีโปรเจกต์นับไม่ถ้วนที่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างเมืองทั้งระบบ
และกันต์ก็เป็นหนึ่งในคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จเหล่านั้น
เขาใช้ชีวิตเรียบง่ายภายใต้ตำแหน่งที่ใคร ๆ ก็คิดว่าเป็นเพียงซีเนียร์โปรเจคเอ็นจิเนียริ่งธรรมดา ๆ ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นใคร และจริง ๆ แล้วร่ำรวยขนาดไหน เขาเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องบอก เพราะในใจ...มีเรื่องอื่นให้คิดมากกว่านั้น
โดยเฉพาะเด็กข้างบ้านที่เขาเคยคิดว่า ‘ไม่เอา’ แต่ตอนนี้...เขากลับอยากได้จนแทบทนไม่ไหว
กันต์จำได้ดีว่าเธอเคยวิ่งตามเขาในชุดนักเรียนมัธยมปลาย พร้อมกล่องขนมในมือและรอยยิ้มกว้างที่สดใสที่สุดในโลก
จำได้ว่าเธอเคยสารภาพรัก ก่อนจะร้องไห้ออกมา เพราะเขาปฏิเสธเธออย่างไม่ไยดี
เขาคิดว่าเธอแค่เด็ก คิดว่าอีกหน่อยก็ลืม แต่ตอนนี้คนที่ดันไม่ลืมกลับกลายเป็นเขาเอง
และเพราะแบบนั้น เขาถึงไม่กล้ามองเธอตรง ๆ
ไม่กล้าพูด ไม่กล้าถาม ไม่กล้ารุกแรง...แต่ก็หยุดความคิดของตัวเองไม่ได้เลยสักวัน
เขาเริ่มคิดว่า จะจีบเธอแบบไหน ถึงจะเนียนพอและไม่โป๊ะแตก ไม่ให้ขนมรู้ตัวว่า เขารู้สึกกับเธอมากแค่ไหน
“เริ่มจากอะไรดีวะ…”
กันต์เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ในห้องประชุมไซต์งาน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนภาพเก่า ๆ ในอินสตาแกรมของใครบางคนอย่างตั้งใจ
โพสต์รีวิวร้านกาแฟเมื่อสองปีก่อน ยังอยู่ครบ และเขาก็ยังจำได้ดี ว่าขนมเป็นสาวสายอเมริกาโน่ ไม่หวาน
โคลด์บรูว์ ไม่มีไซรัป...ร้านโปรดชื่อ 'สตาร์ไลท์' ที่อยู่ชั้นล่างของตึกสำนักงาน
ใครจะคิดล่ะ ว่าเขาจะไปไล่ย้อนดูโพสต์ไอจีเธอจนเจอเมนูโปรดได้...
ใครจะรู้ ว่าจริง ๆ แล้ว เขาทำงานอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตึกของเธอในฐานะวิศวกรโครงการไซต์เมืองทดลองระบบบ้านอัจฉริยะ ...และใครเลยจะรู้ว่าแท้จริงแล้ว บริษัทวิสต้า คอร์เปอร์เรชั่น ที่ขนมทำงานอยู่นั้น ก็เป็นบริษัทในเครือของ KTEG เหมือนกัน
แต่เขาไม่รีบเปิดเผยอะไรทั้งนั้น เพราะตอนนี้...สิ่งเดียวที่เขาอยากเปิดคือ...เกมจีบเด็กข้างบ้านแบบเนียน ๆ
กันต์ยกมือถือขึ้นโทรหาร้านกาแฟประจำทันที
“โคลด์บรูว์เย็น 1 แก้วครับ ส่งให้ ‘เลขาท่านประธานบริษัทวิสต้า’ ที่ชั้น 12 แล้วช่วยติดโน้ตให้หน่อยนะครับ ‘ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีนะ :) ’ ”
“…ไม่ต้องใส่ชื่อครับ”
ปลายสายรับคำเรียบร้อย เขาวางสายก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
“เริ่มที่กาแฟก่อนแล้วกัน...มาดูซิว่าหัวใจเด็กน้อย จะหวั่นไหวขึ้นบ้างมั้ย”
...
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ทุกเช้าวันทำงานของขนม เวลาเก้าโมงตรงเป๊ะ จะมีกาแฟโคลด์บรูว์เย็น ไม่หวาน ถูกวางไว้ที่โต๊ะทำงานของเธอ พร้อมโน้ตแผ่นเล็ก ๆ เขียนด้วยลายมือสวยจัดเรียงเป็นระเบียบ
‘ขอให้เช้านี้สดใสนะครับ :) ’
‘กาแฟขม ๆ เผื่อทำให้ยิ้มหวานได้บ้าง’
‘เจอเรื่องเครียดเมื่อวาน หายหรือยัง?’
ทุกข้อความดูใส่ใจจนขนมแทบอยากละลาย แต่กลับไม่มีชื่อเจ้าของข้อความเลยสักครั้งเดียว...
“เฮ้ยยย ขนม! แฟนแกรึเปล่าเนี่ย ส่งกาแฟมาทุกวันเลย~” เสียงพี่แพรวที่มารอส่งเอกสารให้เจ้านาย สะกิดถามพร้อมยิ้มแซว
อีกคนที่เดินมาถึงก็รีบเสริมทันที
“วันนี้ใส่โน้ตลายน่ารักอีกแล้วอะ หวานไปมั้ยยย?”
“มีแฟนมาเสิร์ฟกาแฟทุกวันเลยเหรอคะ เลขาคนสวย~”
เสียงแซวจากพี่ฝ่ายบุคคลที่เดินมาส่งงาน ดังขึ้นทันทีที่เธอยกแก้วขึ้นมาดื่ม
“อุ๊ย ไม่ใช่แฟนค่าาา~” ขนมรีบปฏิเสธ พร้อมแก้มที่แดงเป็นลูกตำลึง
“เอ๊...หรือว่าจะเป็นคนที่มาส่งทุกเช้ากันนะ หล่อมากเลยค่า~”
พนักงานสาวอีกคนแกล้งกระเซ้าเสียงหวาน เล่นเอาเพื่อนข้าง ๆ หลุดหัวเราะกันคิกคัก
ขนมทำหน้าทำตาไม่รู้ไม่ชี้ มือหมุนแก้วกาแฟไปมาแต่ใบหน้ากลับร้อนผ่าว
“อะแฮ่ม! พวกคุณจะแซวเลขาผมอีกนานมั้ยครับ?”
เสียงทุ้ม ๆ ที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง ทำเอาทั้งกลุ่มสะดุ้งเฮือก
“อุ๊ย! ท่านประธาน!”
ทุกคนรีบวางแฟ้มเสนอเซ็นลงตรงหน้าขนมแบบเนียน ๆ ก่อนจะพากันหายวับไปจากโต๊ะเหมือนสายลม
ขนมหัวเราะเบา ๆ แล้วส่ายหน้าอย่างระอา
“แหม~ พี่ชักอยากรู้ขึ้นมาบ้างแล้วล่ะว่า...ใครเป็นเจ้าของกาแฟโคลด์บรูว์ ที่ส่งให้เลขาพี่ทุกเช้า?”
ราวินว่า พลางยักคิ้วหยอกอย่างรู้ทัน
ขนมหันมายิ้มหวาน ถามตาแป๋ว พลางแกล้งตีหน้าซื่อ
“อ้าว...ไม่ใช่พี่วินเหรอคะ?”
“หึ...” ราวินหัวเราะเบา ๆ แต่ไม่ได้ตอบอะไร
ความจริงน่ะเหรอ...ขนมรู้ดี
เพราะเมื่อสองวันก่อน มิวก็เพิ่งมากระซิบบอกเธอ พร้อมทำหน้าเจ้าเล่ห์
“ฉันรู้แล้วนะ ว่าใครเป็นคนสั่งกาแฟให้ทุกเช้า...”
“ร้านสตาร์ไลท์เค้าบอกมาเองเลย...พี่กันต์ สั่งเองทุกวัน!”
“มั่วรึเปล่า~” ขนมหรี่ตามองเพื่อนอย่างจับผิด
“ไม่มั่ว! สาบานเลย!” มิวรีบยกสามนิ้วชูเหมือนสาบานตนเป็นลูกเสือ
“คนส่งบอกเลยว่า ‘คุณกันต์’ เป็นคนโทรมาเองทุกเช้า แล้วให้ติดโน้ตหวาน ๆ ด้วยทุกครั้ง~”
ขนมได้แต่แอบซ่อนรอยยิ้มหลังแก้วกาแฟ หัวใจดวงน้อย ๆ ที่เคยนิ่งเฉย เริ่มสั่นไหวทุกครั้งที่เห็นแผ่นโน้ตเล็ก ๆ บนแก้วที่วางอยู่ตรงหน้า
แต่ไม่มีทางเสียล่ะ ที่เธอจะยอมให้เขาอ่อยเธออยู่ฝ่ายเดียว
ขนมวางแก้วกาแฟลงช้า ๆ ก่อนจะเอนหลังพิงเก้าอี้ ดวงตากลมใสเปล่งประกายเหมือนคิดแผนอะไรบางอย่าง
‘ถ้าอยากดูแลขนาดนี้...หนูก็ไม่ขัดนะคะ’
‘แต่ถ้าคิดว่าเด็กอย่างหนูจะไม่รู้ทัน...พี่คิดผิดแล้วล่ะ :) ’
คราวนี้...ถึงตาหนูบุกบ้างแล้วนะคะ พี่กันต์
สองวันถัดมา...หลังจากที่ขนมรู้ว่า คนส่งกาแฟให้เธอทุกวันคือใคร ก็ถึงเวลาอ่อยกลับแบบเนียน ๆ แล้วล่ะขนมนั่งทำงานหน้าคอมเงียบ ๆ แต่มือกลับไถดูมือถือที่เพิ่งค้นประวัติร้านขนมเจ้าเก่าที่อยู่ในตลาดใกล้โรงเรียนมัธยมเก่า“ขนมเปียกปูนมะพร้าวอ่อน” ขนมที่เขาเคยกินตอนมัธยมซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเธอจำได้ขึ้นใจตอนนั้นเธอยังเป็นเด็กน้อยที่เอาแต่แอบมองพี่กันต์นั่งกินใต้ต้นมะม่วงหลังตึกเรียนแต่ตอนนี้...เธอโตพอจะซื้อให้เขาแล้วเธอสั่งขนมเปียกปูน 2 กล่องจากร้านดั้งเดิม พร้อมกับฝากโน้ตเล็ก ๆ ไปด้วย ให้ไรเดอร์ส่งตรงไปยังสำนักงานของ KTEG“ไม่รู้ว่ายังชอบขนมเหมือนเดิมมั้ย แต่หนูจำได้...ว่าพี่เคยกินทุกเย็นหลังเลิกเรียน"โดยที่เธอก็ไม่ลงชื่อในโน้ตเหมือนกัน...ช่วงบ่าย — ที่ไซต์ก่อสร้างสำนักงานใหญ่ KTEGกันต์กำลังคุมหน้างานอยู่ จู่ ๆ ก็พนักงานรปภ. ก็เดินถือถุงขนมพร้อมโน้ตเล็ก ๆ มาส่งให้ เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะหยิบมาเปิดดู‘ขนมเปียกปูนมะพร้าวอ่อน’แถมยังมาจากร้านเดิมที่เขาเคยซื้อทุกวันสมัยม.ปลาย ร้านที่เขาเองยังนึกไม่ถึงว่าเธอจะจำได้มือใหญ่เปิดโน้ต อ่านเพียงไม่กี่บรรทัด ก็หลุดยิ้มกว้าง...
K-TECH Engineering Group หรือที่ทุกคนเรียกกันสั้น ๆ ว่า KTEG คือหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศที่พัฒนาเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมก่อสร้างอัจฉริยะ มีโปรเจกต์นับไม่ถ้วนที่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างเมืองทั้งระบบและกันต์ก็เป็นหนึ่งในคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จเหล่านั้นเขาใช้ชีวิตเรียบง่ายภายใต้ตำแหน่งที่ใคร ๆ ก็คิดว่าเป็นเพียงซีเนียร์โปรเจคเอ็นจิเนียริ่งธรรมดา ๆ ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นใคร และจริง ๆ แล้วร่ำรวยขนาดไหน เขาเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องบอก เพราะในใจ...มีเรื่องอื่นให้คิดมากกว่านั้นโดยเฉพาะเด็กข้างบ้านที่เขาเคยคิดว่า ‘ไม่เอา’ แต่ตอนนี้...เขากลับอยากได้จนแทบทนไม่ไหวกันต์จำได้ดีว่าเธอเคยวิ่งตามเขาในชุดนักเรียนมัธยมปลาย พร้อมกล่องขนมในมือและรอยยิ้มกว้างที่สดใสที่สุดในโลกจำได้ว่าเธอเคยสารภาพรัก ก่อนจะร้องไห้ออกมา เพราะเขาปฏิเสธเธออย่างไม่ไยดีเขาคิดว่าเธอแค่เด็ก คิดว่าอีกหน่อยก็ลืม แต่ตอนนี้คนที่ดันไม่ลืมกลับกลายเป็นเขาเองและเพราะแบบนั้น เขาถึงไม่กล้ามองเธอตรง ๆไม่กล้าพูด ไม่กล้าถาม ไม่กล้ารุกแรง...แต่ก็หยุดความคิดของตัวเองไม่ได้เลยสักวันเขาเริ่มคิดว่า จะจีบเธอแบบไหน ถึงจะเนียน
ที่มุม VIP ด้านในสุดของ Glow Room ราวินกับกันต์นั่งเอนกายบนโซฟาหนังนุ่ม จิบวิสกี้เย็น ๆ ท่ามกลางเสียงหัวเราะของกลุ่มเพื่อนเก่าสมัยมัธยมที่นัดกันมาสังสรรค์บรรยากาศเต็มไปด้วยความเป็นกันเอง เสียงดนตรีเร้าใจแต่ไม่กลบเสียงพูดคุย เพลงเปลี่ยนจังหวะเบา ๆ ไปเรื่อย ๆ แสงไฟหมุนช้า ๆ พาดผ่านโต๊ะและใบหน้าของคนในกลุ่มเป็นจังหวะจู่ ๆ เพื่อนคนหนึ่งที่นั่งหันหน้าออกไปทางประตูร้านก็เบิกตากว้าง“เห้ยยย...นั่นน้องขนมนี่หว่า! โตแล้วสวยขนาดนี้เลยเหรอ?”กันต์ที่ตอนแรกนั่งหันหลังให้ฝั่งประตูหูผึ่งทันทีที่ได้ยินชื่อ เขารีบหันไปตามสายตาเพื่อน...แล้วก็เห็นขนมกำลังก้าวเข้ามาในผับร่างบางที่เดินเยื้องกรายภายใต้สปอร์ตไลต์ ประกอบกับแสงไฟสีม่วงอมทองก็สาดส่องบนร่างระหงนั้นพอดีกันต์ถึงกับสตั๊นราวกับโดนสาปให้กลายเป็นหิน ดวงตาคมใต้คิ้วเข้มจ้องมองทุกท่วงท่าของเธอเสื้อเชิ้ตครอปสีขาวไข่มุกแนบเนื้อแนบใจ หน้าอกอวบอิ่ม กางเกงยีนส์เอวต่ำขับผิวขาวเนียนจนอยากยื่นมือไปสัมผัสร่างบาง ผมลอนนุ่มแกว่งไปตามการก้าวเดินริมฝีปากเคลือบกลอสสีชมพูอ่อนที่ตอนนี้กำลังยิ้มกับเพื่อนอย่างเป็นธรรมชาติ‘แม่งเอ๊ย! อยากกดให้จมเตียง!!’กันต์ได้แต่
สองวันต่อมา...ช่วงเย็น ขนมที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านหลังสีพีชสองชั้นที่ตอนนี้เธออาศัยอยู่คนเดียว เดิมทีบ้านหลังนี้เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของครอบครัวแต่เมื่อพ่อกับแม่ของเธอตัดสินใจย้ายไปอยู่ญี่ปุ่นอย่างถาวรหลังจากธุรกิจลงทุนของคุณพ่อ ดันเกิดปังปุริเย่ระเบิดเถิดเทิงแบบไม่ตั้งใจ ชีวิตของขนมจึงพลิกผันกลายเป็นสาวโสดในบ้านหลังใหญ่โดยสมบูรณ์แม้ใครจะมองว่าน่าเหงา...แต่ไม่ใช่สำหรับเธอก็แหม...อยู่ตัวคนเดียว มีบ้าน มีรถ แถมยังมีอิสระให้ใช้ชีวิตแบบไม่ต้องมีคุณพ่อคุณแม่คอยสแกนชุดก่อนออกจากบ้าน ใครจะไม่ชอบล่ะ?ส่วนบ้านข้าง ๆ ที่แทบจะแชร์รั้วเดียวกัน ก็เป็นของมิวเพื่อนสนิทที่กลายเป็นเหมือนฝาแฝดคนละบ้าน และพี่กันต์ พี่ชายสุดฮอตเจ้าของฉายา ‘คาสโนว่า’ ที่ทำเอาเธอแอบเขินทุกครั้งเวลาเผลอเดินสวนกันครอบครัวของมิวกับพี่กันต์ก็ไม่ได้ต่างจากครอบครัวของขนมเท่าไหร่นัก หลังจากประสบความสำเร็จในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับอินเตอร์ พ่อแม่ของพวกเขาก็บินไปบริหารงานสาขาต่างประเทศอยู่บ่อย ๆ ทิ้งสองพี่น้องไว้ในเมืองไทยอย่างอิสระเสรีไม่แพ้กันและนั่นเอง...คือจุดเริ่มต้นของความสนิทที่กลายเป็นความคุ้นเคยและสุดท้าย...เหมือน
เช้าวันแรกของการเริ่มงานที่บริษัทวิสต้า คอร์เปอร์เรชั่น สาขาเมืองต้นแบบ ขนมเดินเข้าสำนักงานด้วยท่าทางคล่องแคล่ว และความตื่นเต้นเล็ก ๆ ในหัวใจออฟฟิศแห่งนี้ตกแต่งอย่างเรียบหรู ผสานความล้ำสมัยเข้ากับความอบอุ่น ทุกคนดูเป็นกันเอง ไม่มีความเคร่งเครียดแบบที่เธอเคยจินตนาการถึงเพียงไม่กี่นาทีหลังเธอเซ็นชื่อเข้าทำงาน ร่างสูงในสูทสีน้ำตาลอ่อนก็ก้าวเข้ามาทักทาย“ขนม?”หญิงสาวหันขวับตามเสียง และเบิกตากว้างเมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย“พี่วิน!?”“ใช่แล้ว จำพี่ได้ด้วย ดีใจจัง” ราวินหัวเราะอย่างเป็นมิตร ดวงตาคมกริบยังคงอบอุ่นเหมือนเดิม“แหม~ พี่วิน เพื่อนสนิทของพี่กันต์ ใครจะลืมได้ลงล่ะคะ” ขนมหัวเราะอย่างสบายใจขึ้นมาทันทีที่เจอคนคุ้นหน้า“เราทำงานที่นี่เหรอ?”“ค่ะ ขนมมาเป็นเลขาฯ ท่านประธานค่ะ”เธอพูดด้วยรอยยิ้ม โดยไม่ทันได้สังเกตเลยว่า หลายสายตาในออฟฟิศแอบมองพวกเขาอยู่เงียบ ๆ“อย่างนี้ก็แสดงว่า...เราได้ทำงานด้วยกันน่ะสิ” ราวินเอ่ยพร้อมรอยยิ้มมีเลศนัย“หืม?” ขนมเลิกคิ้วงง ๆ“ยังไงคะ?”“มาเถอะ เดี๋ยวก็รู้”ราวินยักคิ้วให้เธอเล็กน้อย ก่อนจะเดินนำไปทางลิฟต์ฝั่งผู้บริหาร ซึ่งขนมลังเลเล็กน้อยแต่ก็ตามไปอย่าง
เช้าวันต่อมา...แดดอ่อน ๆ ส่องลอดม่านเข้ามาในห้องของขนม เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นพอดีกับที่เธอลืมตาตื่น วันนี้เป็นวันแรกของการทำงานตำแหน่งเลขาของท่านประธานขนมลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉง คว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำก่อนจะเดินออกมาในชุดเดรสสีพาสเทลเข้ารูป ทับด้วยเบลเซอร์สีครีมบางเบา กระโปรงยาวเหนือเข่าเล็กน้อย ผมลอนคลายถูกรวบครึ่งหัวดูหวานละมุน และเผยให้เห็นลำคอขาวเนียนรับกับต่างหูไข่มุกเม็ดเล็กขนมยืนหน้ากระจก ปรับปกเบลเซอร์ให้เข้าที่อีกครั้งก่อนหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นบ่า ทันทีที่เปิดประตูบ้านออก ก็เห็นมิวกำลังยืนหาวอยู่หน้าบ้านตัวเองพอดี“จะไปแล้วเหรอ ยัยขนม? ไปทำงานที่ไหนอะ?” มิวถามเสียงงัวเงีย“บริษัทวิสต้า คอร์เปอร์เรชั่นน่ะ” ขนมตอบ“ว่าแต่...น่าอิจฉาแกจริงๆ แม่อินฟลูเอ็นเซอร์ ได้ทำงานอยู่บ้าน ไม่ต้องรีบตื่นนอน”ขนมแซะเพื่อน ก่อนยื่นมือมาหยิกแก้มกลมของมิวเบา ๆมิวพึมพำเบา ๆ“…วิสต้าเหรอ? เฮ้ย! นั่นมันบริษัทที่อยู่ใกล้แยกใหญ่นี่! ทางเดียวกับบริษัทพี่กันต์เลย!”แล้วก็ไม่รอให้ขนมตอบอะไร มิวหันกลับเข้าไปในบ้าน ตะโกนเสียงดังลั่น“พี่กันต์! ที่ทำงานของขนมไปทางเดียวกับพี่อะ! ไปส่งหน่อย!!”ไม่นาน เส







