เข้าสู่ระบบสองวันถัดมา...
หลังจากที่ขนมรู้ว่า คนส่งกาแฟให้เธอทุกวันคือใคร ก็ถึงเวลาอ่อยกลับแบบเนียน ๆ แล้วล่ะ
ขนมนั่งทำงานหน้าคอมเงียบ ๆ แต่มือกลับไถดูมือถือที่เพิ่งค้นประวัติร้านขนมเจ้าเก่าที่อยู่ในตลาดใกล้โรงเรียนมัธยมเก่า
“ขนมเปียกปูนมะพร้าวอ่อน” ขนมที่เขาเคยกินตอนมัธยมซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเธอจำได้ขึ้นใจ
ตอนนั้นเธอยังเป็นเด็กน้อยที่เอาแต่แอบมองพี่กันต์นั่งกินใต้ต้นมะม่วงหลังตึกเรียน
แต่ตอนนี้...เธอโตพอจะซื้อให้เขาแล้ว
เธอสั่งขนมเปียกปูน 2 กล่องจากร้านดั้งเดิม พร้อมกับฝากโน้ตเล็ก ๆ ไปด้วย ให้ไรเดอร์ส่งตรงไปยังสำนักงานของ KTEG
“ไม่รู้ว่ายังชอบขนมเหมือนเดิมมั้ย แต่หนูจำได้...ว่าพี่เคยกินทุกเย็นหลังเลิกเรียน"
โดยที่เธอก็ไม่ลงชื่อในโน้ตเหมือนกัน
...
ช่วงบ่าย — ที่ไซต์ก่อสร้างสำนักงานใหญ่ KTEG
กันต์กำลังคุมหน้างานอยู่ จู่ ๆ ก็พนักงานรปภ. ก็เดินถือถุงขนมพร้อมโน้ตเล็ก ๆ มาส่งให้ เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะหยิบมาเปิดดู
‘ขนมเปียกปูนมะพร้าวอ่อน’
แถมยังมาจากร้านเดิมที่เขาเคยซื้อทุกวันสมัยม.ปลาย ร้านที่เขาเองยังนึกไม่ถึงว่าเธอจะจำได้
มือใหญ่เปิดโน้ต อ่านเพียงไม่กี่บรรทัด ก็หลุดยิ้มกว้าง...ชนิดที่ลูกน้องหันมามองด้วยความสงสัย
กันต์เก็บโน้ตไว้ในกระเป๋าเสื้อ ก่อนจะนั่งลงใต้เพิงพักริมไซต์งาน กินขนมคำแรก รสชาตินุ่ม หอม หวานน้อย ๆ เหมือนเดิม เหมือนเมื่อวันวาน
เขาหลุบตามองกล่องขนมแล้วพึมพำเบา ๆ
“อยากรู้จริง ๆ ว่าเด็กคนนี้...จะไม่รู้สึกอะไรเลยกับพี่แล้วจริง ๆ เหรอวะ”
เย็นวันนั้น
หลังกลับจากทำงาน ขนมก็จัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ใส่เสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นตัวโปรด ก่อนจะนั่งลงที่โซฟาในห้องนั่งเล่น มือก็ไถอินสตาแกรมในมือถือไปเรื่อย ๆ
แต่ทันทีที่เห็นสตอรี่ล่าสุดของพี่กันต์ มือบางก็หยุดกดทันที
โพสต์ของเขามีเพียง ‘กล่องขนมเปียกปูน’ วางอยู่บนโต๊ะไม้ พร้อมแคปชันเรียบง่าย
🖤 “ของโปรดจากใครบางคน :) ”
ขนมหลุดยิ้มกว้าง ก่อนจะรีบยกมือถือขึ้นปิดหน้าเพราะรู้สึกได้ว่าหน้าร้อนผ่าวไปหมด หัวใจเต้นเร็วเหมือนจะทะลุอก ทั้งเขิน ทั้งหวั่นไหว และแอบมีความสุขเล็ก ๆ ที่บอกใครไม่ได้
“ใครแอบเขินอยู่ตรงนี้เอ่ย~”
เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลัง ทำเอาขนมสะดุ้งเฮือก
หมับ!
มือของมิวโผล่มาจับหน่มน้มของขนมเต็ม ๆ แบบไม่ให้ตั้งตัว
“ย๊าาา!!! ยัยบ้า!”
ขนมร้องเสียงหลง พยายามดันเพื่อนออกอย่างตกใจ แก้มแดงแจ๋ทันที
มิวหัวเราะร่าอย่างสะใจ พร้อมพูดแซวเสียงดัง
“หน้าแดงยิ่งกว่าตูดลิงอีกนะคะ เพื่อนขา~”
“ยัยมิว!! เดี๋ยวเหอะ!!”
“อะไรจ๊ะ~ ก็เห็นคนยิ้มหวาน ตางี้ล่องลอย มองสตอรี่ผู้ชายแล้วหน้าแดง มันน่าแกล้งมั้ยล่ะ!”
มิวแกล้งทำหน้าตายียวนใส่ ก่อนจะหันไปคว้ามือถือของขนมมาดู
“โห...ลงสตอรี่แบบนี้ จิ้นแรงมากค่ะ คุณเพื่อน!”
“น้องส่งขนมให้ พี่โพสต์ตอบ ชัดเว่อร์”
“ชัดบ้าอะไร! คนส่งอาจเป็นใครก็ได้ปะ!” ขนมพยายามแก้ตัว น้ำเสียงติดตื่น ๆ แต่รอยยิ้มมุมปากกลับซ่อนไม่มิด
มิวหรี่ตามองอย่างรู้ทัน
“อย่าให้รู้นะว่าแกเริ่มใจอ่อน ฉันจะเอาคลิปที่แกเขินลงต๊อกแต๊กแน่ ๆ”
“ยัยบ้า! อย่านะ!!” ขนมหยิบหมอนเขวี้ยงใส่เพื่อนเสียงหลง มิวหัวเราะลั่นห้องพลางวิ่งหนีแบบสะใจ
และเมื่อทั้งสองหยุดวิ่งเล่นไล่จับ ก็พากันทิ้งตัวนอนหอบอยู่บนโซฟา สายตาของขนมก็เผลอมองไปที่จอมือถืออีกครั้ง ภาพกล่องขนมเปียกปูนกับแคปชั่นเรียบ ยังโพสอยู่แบบนั้น
หัวใจเธอเต้นตึกตักอยู่ในอก แม้จะทำเป็นปฏิเสธทุกอย่าง แต่มือเธอกลับยกขึ้นแตะแก้มตัวเองเบา ๆ
ก็เขาเป็นคนเดียวในโลก ที่รู้ว่าเธอชอบกาแฟไม่ใส่น้ำตาล
แล้วเขาก็ยังเป็นคนเดียว ที่เธอรู้ว่า ชอบขนมเปียกปูนที่สุดในโลกเหมือนกัน
ขนมหยิบหมอนขึ้นมากอดไว้แน่น ๆ ดวงตากลมโตเป็นประกายแพรวพราวระยับ
เธอยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย
‘ระวังตัวให้ดีนะคะพี่กันต์...หนูไม่ใช่แค่เด็กข้างบ้านอีกต่อไปแล้ว’
‘คราวนี้...ที่หนูกลับมา หนูจะทำให้พี่หลงหนูจนโงหัวไม่ขึ้นเลยคอยดู’
สองวันถัดมา...หลังจากที่ขนมรู้ว่า คนส่งกาแฟให้เธอทุกวันคือใคร ก็ถึงเวลาอ่อยกลับแบบเนียน ๆ แล้วล่ะขนมนั่งทำงานหน้าคอมเงียบ ๆ แต่มือกลับไถดูมือถือที่เพิ่งค้นประวัติร้านขนมเจ้าเก่าที่อยู่ในตลาดใกล้โรงเรียนมัธยมเก่า“ขนมเปียกปูนมะพร้าวอ่อน” ขนมที่เขาเคยกินตอนมัธยมซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเธอจำได้ขึ้นใจตอนนั้นเธอยังเป็นเด็กน้อยที่เอาแต่แอบมองพี่กันต์นั่งกินใต้ต้นมะม่วงหลังตึกเรียนแต่ตอนนี้...เธอโตพอจะซื้อให้เขาแล้วเธอสั่งขนมเปียกปูน 2 กล่องจากร้านดั้งเดิม พร้อมกับฝากโน้ตเล็ก ๆ ไปด้วย ให้ไรเดอร์ส่งตรงไปยังสำนักงานของ KTEG“ไม่รู้ว่ายังชอบขนมเหมือนเดิมมั้ย แต่หนูจำได้...ว่าพี่เคยกินทุกเย็นหลังเลิกเรียน"โดยที่เธอก็ไม่ลงชื่อในโน้ตเหมือนกัน...ช่วงบ่าย — ที่ไซต์ก่อสร้างสำนักงานใหญ่ KTEGกันต์กำลังคุมหน้างานอยู่ จู่ ๆ ก็พนักงานรปภ. ก็เดินถือถุงขนมพร้อมโน้ตเล็ก ๆ มาส่งให้ เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะหยิบมาเปิดดู‘ขนมเปียกปูนมะพร้าวอ่อน’แถมยังมาจากร้านเดิมที่เขาเคยซื้อทุกวันสมัยม.ปลาย ร้านที่เขาเองยังนึกไม่ถึงว่าเธอจะจำได้มือใหญ่เปิดโน้ต อ่านเพียงไม่กี่บรรทัด ก็หลุดยิ้มกว้าง...
K-TECH Engineering Group หรือที่ทุกคนเรียกกันสั้น ๆ ว่า KTEG คือหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศที่พัฒนาเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมก่อสร้างอัจฉริยะ มีโปรเจกต์นับไม่ถ้วนที่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างเมืองทั้งระบบและกันต์ก็เป็นหนึ่งในคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จเหล่านั้นเขาใช้ชีวิตเรียบง่ายภายใต้ตำแหน่งที่ใคร ๆ ก็คิดว่าเป็นเพียงซีเนียร์โปรเจคเอ็นจิเนียริ่งธรรมดา ๆ ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นใคร และจริง ๆ แล้วร่ำรวยขนาดไหน เขาเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องบอก เพราะในใจ...มีเรื่องอื่นให้คิดมากกว่านั้นโดยเฉพาะเด็กข้างบ้านที่เขาเคยคิดว่า ‘ไม่เอา’ แต่ตอนนี้...เขากลับอยากได้จนแทบทนไม่ไหวกันต์จำได้ดีว่าเธอเคยวิ่งตามเขาในชุดนักเรียนมัธยมปลาย พร้อมกล่องขนมในมือและรอยยิ้มกว้างที่สดใสที่สุดในโลกจำได้ว่าเธอเคยสารภาพรัก ก่อนจะร้องไห้ออกมา เพราะเขาปฏิเสธเธออย่างไม่ไยดีเขาคิดว่าเธอแค่เด็ก คิดว่าอีกหน่อยก็ลืม แต่ตอนนี้คนที่ดันไม่ลืมกลับกลายเป็นเขาเองและเพราะแบบนั้น เขาถึงไม่กล้ามองเธอตรง ๆไม่กล้าพูด ไม่กล้าถาม ไม่กล้ารุกแรง...แต่ก็หยุดความคิดของตัวเองไม่ได้เลยสักวันเขาเริ่มคิดว่า จะจีบเธอแบบไหน ถึงจะเนียน
ที่มุม VIP ด้านในสุดของ Glow Room ราวินกับกันต์นั่งเอนกายบนโซฟาหนังนุ่ม จิบวิสกี้เย็น ๆ ท่ามกลางเสียงหัวเราะของกลุ่มเพื่อนเก่าสมัยมัธยมที่นัดกันมาสังสรรค์บรรยากาศเต็มไปด้วยความเป็นกันเอง เสียงดนตรีเร้าใจแต่ไม่กลบเสียงพูดคุย เพลงเปลี่ยนจังหวะเบา ๆ ไปเรื่อย ๆ แสงไฟหมุนช้า ๆ พาดผ่านโต๊ะและใบหน้าของคนในกลุ่มเป็นจังหวะจู่ ๆ เพื่อนคนหนึ่งที่นั่งหันหน้าออกไปทางประตูร้านก็เบิกตากว้าง“เห้ยยย...นั่นน้องขนมนี่หว่า! โตแล้วสวยขนาดนี้เลยเหรอ?”กันต์ที่ตอนแรกนั่งหันหลังให้ฝั่งประตูหูผึ่งทันทีที่ได้ยินชื่อ เขารีบหันไปตามสายตาเพื่อน...แล้วก็เห็นขนมกำลังก้าวเข้ามาในผับร่างบางที่เดินเยื้องกรายภายใต้สปอร์ตไลต์ ประกอบกับแสงไฟสีม่วงอมทองก็สาดส่องบนร่างระหงนั้นพอดีกันต์ถึงกับสตั๊นราวกับโดนสาปให้กลายเป็นหิน ดวงตาคมใต้คิ้วเข้มจ้องมองทุกท่วงท่าของเธอเสื้อเชิ้ตครอปสีขาวไข่มุกแนบเนื้อแนบใจ หน้าอกอวบอิ่ม กางเกงยีนส์เอวต่ำขับผิวขาวเนียนจนอยากยื่นมือไปสัมผัสร่างบาง ผมลอนนุ่มแกว่งไปตามการก้าวเดินริมฝีปากเคลือบกลอสสีชมพูอ่อนที่ตอนนี้กำลังยิ้มกับเพื่อนอย่างเป็นธรรมชาติ‘แม่งเอ๊ย! อยากกดให้จมเตียง!!’กันต์ได้แต่
สองวันต่อมา...ช่วงเย็น ขนมที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านหลังสีพีชสองชั้นที่ตอนนี้เธออาศัยอยู่คนเดียว เดิมทีบ้านหลังนี้เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของครอบครัวแต่เมื่อพ่อกับแม่ของเธอตัดสินใจย้ายไปอยู่ญี่ปุ่นอย่างถาวรหลังจากธุรกิจลงทุนของคุณพ่อ ดันเกิดปังปุริเย่ระเบิดเถิดเทิงแบบไม่ตั้งใจ ชีวิตของขนมจึงพลิกผันกลายเป็นสาวโสดในบ้านหลังใหญ่โดยสมบูรณ์แม้ใครจะมองว่าน่าเหงา...แต่ไม่ใช่สำหรับเธอก็แหม...อยู่ตัวคนเดียว มีบ้าน มีรถ แถมยังมีอิสระให้ใช้ชีวิตแบบไม่ต้องมีคุณพ่อคุณแม่คอยสแกนชุดก่อนออกจากบ้าน ใครจะไม่ชอบล่ะ?ส่วนบ้านข้าง ๆ ที่แทบจะแชร์รั้วเดียวกัน ก็เป็นของมิวเพื่อนสนิทที่กลายเป็นเหมือนฝาแฝดคนละบ้าน และพี่กันต์ พี่ชายสุดฮอตเจ้าของฉายา ‘คาสโนว่า’ ที่ทำเอาเธอแอบเขินทุกครั้งเวลาเผลอเดินสวนกันครอบครัวของมิวกับพี่กันต์ก็ไม่ได้ต่างจากครอบครัวของขนมเท่าไหร่นัก หลังจากประสบความสำเร็จในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับอินเตอร์ พ่อแม่ของพวกเขาก็บินไปบริหารงานสาขาต่างประเทศอยู่บ่อย ๆ ทิ้งสองพี่น้องไว้ในเมืองไทยอย่างอิสระเสรีไม่แพ้กันและนั่นเอง...คือจุดเริ่มต้นของความสนิทที่กลายเป็นความคุ้นเคยและสุดท้าย...เหมือน
เช้าวันแรกของการเริ่มงานที่บริษัทวิสต้า คอร์เปอร์เรชั่น สาขาเมืองต้นแบบ ขนมเดินเข้าสำนักงานด้วยท่าทางคล่องแคล่ว และความตื่นเต้นเล็ก ๆ ในหัวใจออฟฟิศแห่งนี้ตกแต่งอย่างเรียบหรู ผสานความล้ำสมัยเข้ากับความอบอุ่น ทุกคนดูเป็นกันเอง ไม่มีความเคร่งเครียดแบบที่เธอเคยจินตนาการถึงเพียงไม่กี่นาทีหลังเธอเซ็นชื่อเข้าทำงาน ร่างสูงในสูทสีน้ำตาลอ่อนก็ก้าวเข้ามาทักทาย“ขนม?”หญิงสาวหันขวับตามเสียง และเบิกตากว้างเมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย“พี่วิน!?”“ใช่แล้ว จำพี่ได้ด้วย ดีใจจัง” ราวินหัวเราะอย่างเป็นมิตร ดวงตาคมกริบยังคงอบอุ่นเหมือนเดิม“แหม~ พี่วิน เพื่อนสนิทของพี่กันต์ ใครจะลืมได้ลงล่ะคะ” ขนมหัวเราะอย่างสบายใจขึ้นมาทันทีที่เจอคนคุ้นหน้า“เราทำงานที่นี่เหรอ?”“ค่ะ ขนมมาเป็นเลขาฯ ท่านประธานค่ะ”เธอพูดด้วยรอยยิ้ม โดยไม่ทันได้สังเกตเลยว่า หลายสายตาในออฟฟิศแอบมองพวกเขาอยู่เงียบ ๆ“อย่างนี้ก็แสดงว่า...เราได้ทำงานด้วยกันน่ะสิ” ราวินเอ่ยพร้อมรอยยิ้มมีเลศนัย“หืม?” ขนมเลิกคิ้วงง ๆ“ยังไงคะ?”“มาเถอะ เดี๋ยวก็รู้”ราวินยักคิ้วให้เธอเล็กน้อย ก่อนจะเดินนำไปทางลิฟต์ฝั่งผู้บริหาร ซึ่งขนมลังเลเล็กน้อยแต่ก็ตามไปอย่าง
เช้าวันต่อมา...แดดอ่อน ๆ ส่องลอดม่านเข้ามาในห้องของขนม เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นพอดีกับที่เธอลืมตาตื่น วันนี้เป็นวันแรกของการทำงานตำแหน่งเลขาของท่านประธานขนมลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉง คว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำก่อนจะเดินออกมาในชุดเดรสสีพาสเทลเข้ารูป ทับด้วยเบลเซอร์สีครีมบางเบา กระโปรงยาวเหนือเข่าเล็กน้อย ผมลอนคลายถูกรวบครึ่งหัวดูหวานละมุน และเผยให้เห็นลำคอขาวเนียนรับกับต่างหูไข่มุกเม็ดเล็กขนมยืนหน้ากระจก ปรับปกเบลเซอร์ให้เข้าที่อีกครั้งก่อนหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นบ่า ทันทีที่เปิดประตูบ้านออก ก็เห็นมิวกำลังยืนหาวอยู่หน้าบ้านตัวเองพอดี“จะไปแล้วเหรอ ยัยขนม? ไปทำงานที่ไหนอะ?” มิวถามเสียงงัวเงีย“บริษัทวิสต้า คอร์เปอร์เรชั่นน่ะ” ขนมตอบ“ว่าแต่...น่าอิจฉาแกจริงๆ แม่อินฟลูเอ็นเซอร์ ได้ทำงานอยู่บ้าน ไม่ต้องรีบตื่นนอน”ขนมแซะเพื่อน ก่อนยื่นมือมาหยิกแก้มกลมของมิวเบา ๆมิวพึมพำเบา ๆ“…วิสต้าเหรอ? เฮ้ย! นั่นมันบริษัทที่อยู่ใกล้แยกใหญ่นี่! ทางเดียวกับบริษัทพี่กันต์เลย!”แล้วก็ไม่รอให้ขนมตอบอะไร มิวหันกลับเข้าไปในบ้าน ตะโกนเสียงดังลั่น“พี่กันต์! ที่ทำงานของขนมไปทางเดียวกับพี่อะ! ไปส่งหน่อย!!”ไม่นาน เส