Share

ไปดื่มกับพี่ไหม

last update Last Updated: 2025-10-22 14:00:57

ครืดด 

ฉันมองประตูที่ถูกเปิดออกโดยพนักงานสาวก่อนจะเผยให้เห็นพี่มอสแฟนของฉันที่นั่งอยู่ก่อนแล้วไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อคำพูดของไอบ้าเซฟนะแต่ที่ฉันยืนยันที่จะเข้ามาก็เพราะอยากทดสอบด้วยตัวเอง

“ว้าวน้องข้าวนี่น้องข้าวจริงๆเหรอครับ” พี่มอสดูตกใจมากกับการแปลงโฉมครั้งใหญ่ของฉันส่วนฉันก็ทำได้แค่ส่งยิ้มอ่อนๆให้เขาพอได้ฟังเรื่องที่เซฟเล่าร่างกายของฉันมันก็รู้สึกขนลุกแปลกๆขึ้นมา

“มันไม่ได้ดูแปลกใช่ไหมคะ?” ฉันเอ่ยถามมองพี่มอสที่ส่ายหน้ารัวๆ

“ไม่ครับสวยมากเหมือนคนละคนเลย” ฉันหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินไปนั่งพร้อมกับประตูที่ปิดลง

“ทานข้าวกันครับ” คนตรงหน้าเอ่ยชวนเราสองคนนั่งทานข้าวกันอย่างปกติทุกอย่างเป็นปกติมากและพี่มอสเองก็ไม่ได้แสดงท่าทางที่น่าสงสัยอะไรเลยสักนิด

หรือเรื่องที่เซฟเล่าจะไม่ใช่ความจริง ตาบ้านั่นต้องแต่งเรื่องมาหลอกให้ฉันขวัญเสียแน่ๆคงจะอิจฉาที่ฉันมีแฟนที่แสนดีแบบพี่มอสสินะ

“อาหารถูกปากไหมพี่ตั้งใจจองร้านนี้มากเลยนะ”

“อร่อยมากเลยค่ะ^^” ฉันพูดพร้อมฉีกยิ้มกว้างเพราะอาหารมันอร่อยจริงๆ

“ว่าแต่ทำไมถึงเปลี่ยนลุคขนาดนี้เลยล่ะครับ”

“อ๋า..กะก็มันคือเดทแรกนิคะพี่มอสเองก็เป็นแฟนคนแรกของข้าวด้วย” ฉันบอกไปอย่างเขินอายมาเดททั้งทีจะมาในสภาพเฉิ่มๆแบบนั้นได้ไงกันพี่มอสเองก็ดูดีถึงขนาดนี้ฉันไม่อยากถูกมองว่าเป็นแฟนที่ไม่เหมาะสมกับเขาหรอกนะ

“น่ารักจัง” ฉันยิ้มเขินกับคำชมของอีกฝ่ายบรรยากาศตอนนี้ช่างหวานแหววและตัวฉันเองก็ค่อยๆคลายความกังวลและความกลัวออกไปจนเกือบหมดแล้ว

คอยดูเถอะกลับบ้านไปฉันจะไปด่าไอบ้าเซฟแน่นอนบังอาจมาใส่ความแฟนของฉันงั้นรึ!

“เอ่อข้าวครับ..” ในขณะที่เรากำลังพูดคุยกันอย่างปกติจู่ๆใบหน้าหล่อก็ดูเขร่งขรึมขึ้นมา

“คะ?”

“เอ่อพี่ขอ..จูบไม่สิขอกอดข้าวหน่อยได้ไหม?” ฉันนิ่งไปทันทีกับคำขอของพี่มอส

“พี่ไม่ได้โรคจิตนะข้าวคือ..พี่แค่อยากแสดงความรักกับแฟนเฉยๆถ้าข้าวอึดอัดใจจะปฏิเสธก็ได้” พี่มอสคงเห็นท่าทางของฉันที่ดูช็อกกับคำพูดของเขาเจ้าตัวเลยรีบพูดอธิบายทันที

แสดงความรักกับแฟนงั้นเหรอ

ปกติเราสองคนสกินชิพมากสุดก็แค่จับมือสินะเพราะว่าพึ่งคบกันด้วยแต่ก็แค่กอดมันก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

“ได้สิคะ” ฉันตอบตกลงพี่มอสก็เบิกตาโตด้วยความดีใจทันที

“ถ้างั้นมาตรงนี้สิครับ” พี่มอสตบที่นั่งข้างๆตัวเองด้วยรอยยิ้มฉันลุกขึ้นก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆเขาภายในใจรู้สึกตื่นตัวไปหมดไม่รู้ว่าเขินหรือกำลังกลัวอยู่กันแน่

หมับ

“อ๊ะพี่มอส?” ฉันสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อพอก้นถึงที่นั่งพี่มอสก็คว้าตัวฉันไปกอดทันทีแถมยังกอดแน่นจนฉันหายใจไม่ออกอีกด้วย

“ตัวข้าวหอมจังเลย”

“พะพี่มอสจมูก..” ฉันเม้มปากแน่นเมื่อจมูกของพี่มอสสัมผัสเข้ากับร่างกายของฉันและวันนี้ก็ดันเลือกใส่ชุดแบบเปิดไหล่มาอีก

“พี่มอสพอแล้วอ๊ะ!” ฉันพยายามดันพี่มอสออกเพราะเริ่มรู้สึกว่ามันจะแนบชิดกันเกินไปแล้วแต่ทว่าพี่มอสกลับยกตัวฉันขึ้นไปนั่งบนตักของเขาแทน

“ข้าวพี่รักข้าวนะ” จู่ๆอีกฝ่ายก็บอกรักฉันออกมามันก็ดีใจแหละแต่ว่าท่าทางตอนนี้มันล่อแหลมสุดๆเลยไม่ใช่รึไงกัน

“ข้าวก็รักพี่มอสค่ะแต่ว่าปล่อยข้าวลง..”

ฟอดด

ฉันเบิกตาโตเมื่อพี่มอสก้มลงมาหอมแก้มฉันอย่างรวดเร็วก่อนจะผละออกไป

“พี่มอสทำอะไรคะข้าวยังไม่ได้อนุญาตให้หอมแก้มเลยนะ!” ฉันเอ่ยขึ้นด้วยความไม่พอใจที่โดนฉวยโอกาสแบบนี้

“เราเป็นแฟนกันนะข้าวมันเรื่องปกติที่คนรักกันเขาจะทำแบบนี้” พี่มอสพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มสองมือของเขากอดเอวฉันไม่ปล่อยแถมยังใช้ใบหน้าถูไถไปกับร่างกายของฉันอีก

และตอนนี้ฉันก็รับรู้ได้ถึงสิ่งแข็งๆด้านล่างที่มันกำลังทิ่มก้นฉันอยู่ด้วยไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันคืออะไร

“ตะแต่ว่าเราพึ่งคบกันนะคะ” ฉันเอ่ยบอกมันก็จริงที่คนรักกันจะกอดจะหอมกันไม่แปลกแต่ฉันกับพี่มอสเราพึ่งคบกันเอง

“พูดแบบนี้พี่เสียใจนะ” พี่มอสทำหน้างอนใส่ฉันทำเอาฉันไปไม่ถูกเลยหรือว่าฉันจะเข้มงวดมากเกินไปรึเปล่านะ

“ข้าวขอโทษนะคะถ้าพูดอะไรทำร้ายจิตใจออกไป” ฉันบอกอย่างรู้สึกผิดเล็กๆเอาจริงๆฉันก็ไม่ได้เป็นคนหวงเนื้อหวงตัวอะไรมากแต่แค่รู้สึกว่ามันยังเร็วไปที่จะใกล้ชิดกันมากขนาดนี้

“ไม่เป็นไรพี่เข้าใจเพราะข้าวพึ่งจะเคยมีแฟนมันก็ไม่แปลกที่ข้าวจะรู้สึกไม่ชินอะไรแบบนี้” พี่มอสพูดอย่างอ่อนโยนก่อนจะอุ้มฉันลงจากตักของตัวเองฉันเลยเลือกที่จะเดินกลับไปนั่งที่เดิมแทนแต่ทว่าสีหน้าพี่มอสก็ดูหงอยมากจนฉันรู้สึกผิด

นี่ฉันหัวโบราณเกินไปรึเปล่านะ

“พี่มอสคะ”

“ครับ”

“หลังจากนี้เราไปต่อกันไหมคะ?”

“แต่ข้าวบอกว่าต้องกลับบ้านก่อน5โมงไม่ใช่เหรอ?” มันเป็นเรื่องจริงที่ฉันบอกกับเขาไว้แบบนั้นเพราะฉันไม่อยากกลับบ้านดึกเดี๋ยวป้าจะเป็นห่วงแต่ทว่าตอนนี้ฉันก็ไม่อยากให้เดทแรกของเราต้องจบด้วยความรู้สึกไม่ดีแบบนี้

“ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวข้าวโทรบอกที่บ้านก็ได้”

“จะจริงเหรอครับ” พี่มอสเริ่มออกอาการดีใจอีกครั้งซึ่งฉันก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มเป็นคำตอบไป

“ถ้างั้นไปดื่มกับพี่ไหม”

“ดื่มเหรอคะ..ข้าวไม่เคยดื่มมาก่อนด้วยสิ” ฉันเกาแก้มอย่างเป็นกังวลแค่คำว่าดื่มก็พอรู้ได้อยู่ว่ามันคงไม่ใช่น้ำเปล่าหรือน้ำอัดลมแต่อย่างใดมันจะต้องเป็นน้ำมึนเมาอย่างแน่นอนและฉันก็ไม่เคยดื่มมาก่อนด้วย

“เดี๋ยวพี่สอนเอง..นะๆไปดื่มกับพี่นะครับ” พี่มอสทำตาปริบๆส่งมาให้ฉันพอคิดว่าตัวเองเคยทำให้บรรยากาศเสียไปครั้งนึงแล้วฉันก็ไม่อยากทำให้บรรยากาศมันเสียไปอีกเป็นครั้งที่สองสุดท้ายเลยตอบตกลงไปแต่ก็บอกว่าอาจจะอยู่ดึกไม่ได้ประมาณ2ทุ่มก็คงต้องกลับพี่มอสก็รับปากว่าจะไม่ให้ฉันดื่มเยอะแค่พาไปลองดื่มเฉยๆ

“ถ้างั้นข้าวขอโทรบอกพี่บ้านก่อนนะคะ”

“ครับงั้นพี่ไปเอารถก่อนนะเจอกันทางเข้าได้เลย” พี่มอสพูดอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินไปส่วนฉันก็หยิบมือถือขึ้นมาโทรบอกป้าซึ่งป้าก็อนุญาตให้ฉันไปได้แต่ก็ย้ำให้ฉันระวังตัวด้วย

ติ๊ง

เซฟ (ไอคนไร้มารยาท) : กลับยัง 

ฉันอ่านข้อความของเซฟที่ส่งมาได้จังหวะมาก

ข้าวเจ้า : ว่าจะไปต่อที่ผับxxน่ะ

เซฟ (ไอคนไร้มารยาท) : บ้ารึไงยัยข้าวเน่า! เธอกำลังจับตัวเองใส่พานถวายมันอยู่นะเว้ย! 

แม้จะเป็นเพียงข้อความแต่อ่านแล้วก็นึกถึงน้ำเสียงหัวร้อนได้อย่างชัดเจน

Rrrrr

ฉันมองมือถือที่เป็นสายของไอบ้าเซฟโทรมา

“อือว่าไง”

(อยู่ไหนจะไปรับ)

“ก็บอกแล้วไงว่าจะไปต่อ”

(นี่ข้าวเจ้า!) ฉันนิ่งไปนี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ยินไอบ้าเซฟเรียกชื่อฉันถูกและเป็นเสียงของเขาจริงๆไม่ใช่ผ่านตัวหนังสือ

“ไม่ต้องเป็นห่วง..พี่มอสบอกว่าจะแค่สอนฉันดื่มเฉยๆและฉันก็บอกแล้วว่าจะกลับบ้านตอน2ทุ่ม”

ฉันพูดออกไปแต่ปลายสายกลับเงียบสนิท

ติ๊ด

“เอ้า?”ฉันร้องขึ้นเมื่อจู่ๆสายก็ถูกตัดไปอย่างไร้มารยาทแต่ก็ช่างเถอะไอบ้าเซฟก็ไม่ใช่คนมีมารยาทอยู่แล้วแหละ

ทำไมหนูดื้อแบบนี้ล่ะลูกกก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อย่าแตะต้องยัยเฉิ่มของผม   ตอนพิเศษ2

    หลายปีต่อมาฟอดดด“ตั้งใจทำงานนะ^^” ฉันหอมแก้มสามีฟอดใหญ่ก่อนที่เราสองคนจะแยกย้ายกันไปทำงานของตัวเองซึ่งโต๊ทำงานของฉันก็เพียงแค่อยู่นอกประตูเท่านั้นที่จริงเคยนั่งอยู่ในห้องเดียวกันแล้วแหละแต่ตัดสินใจย้ายไปนั่งข้างนอกแทนก็จะอะไรซะอีกล่ะหมอนั่งอยู่ด้วยกันไอหื่นกามนี่ก็เล่นจับฉันกดเช้ากดเย็นจนงานการล่าช้าไปหมดสุดท้ายฉันเลยตัดสินใจที่จะย้ายโต๊ะออกมาข้างนอกแทนบ้ากามจริงๆสามีใครก็ไม่รู้“สวัสดีครับพี่ข้าว”“อ่าวหวัดดี” ฉันมองพนักงานใหม่ที่พึ่งเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงสัปดาห์ร่างสูงส่งยิ้มให้กับพร้อมกับวางกล่องขนมลงตรงหน้าฉัน“ทานให้อร่อยนะครับ^^”“อะเอ่อ..ขอบใจนะ” ฉันพูดอย่างเกร็งๆคือทุกคนในบริษัทต่างรู้ว่าฉันกับเซฟเราสองคนเป็นสามีภรรยากันแต่สำหรับน้องคนนี้คงยังไม่รู้สินะแกร้กฉันมองเซฟที่เปิดประตูออกมาได้จังหวะพอดีใบหน้าหล่อจ้องอีกฝ่ายอย่างไม่เป็นมิตรทันทีฉันพึ่งจะออกมาแท้ๆเขาจะออกมาทำไมเนี่ย“สวัสดีครับท่านประธาน”“มาทำอะไร”“เอาขนมมาให้พี่ข้าวเจ้าครับ^^”“จะจีบ?”“อะเอ่อจะว่างั้นก็ได้ครับ^^” ฉันได้แต่ยืนเหงื่อแตกพลั่กๆหนูลูกพึ่งมาทำงานแท้ๆจะโดนตาบ้านั่นไล่ออกมั้ยเนี่ยนิสัยหวงเมียใครๆก็รู้

  • อย่าแตะต้องยัยเฉิ่มของผม   ตอนพิเศษ

    2ปีต่อมาฉันกลายเป็นนักศึกษาปี4และที่สำคัญคือ…ฉันเรียนจบแล้วจ้าา!! ซึ่งวันนี้ก็เป็นวันรับปริญญาฉันเองแหละทุกคน>“ยินดีด้วยนะลูก”“ยินดีกับเกียรตินิยมอันดับ1ด้วยนะลูกสะใภ้” ฉันรับช่อดอกไม้มาด้วยความเขินอาย2ปีที่ผ่านมาฉันได้รับความรักจากพวกท่านทั้งสองเยอะมากๆพวกท่านเอ็นดูฉันสุดๆเดี๋ยวก็พาไปอวดคนนั้นคนนี้อ๊ะจริงสิฉันน่ะไม่ได้เป็นสาวเฉิ่มแล้วนะแว่นตาก็ไม่ได้ใส่แล้วเหตุเพราะฉันเองก็อยากปรับตัวให้เข้ากับเซฟด้วยเช่นกันแม้ว่าเจ้าตัวจะย้ำนักย้ำหนาว่าไม่เป็นไรแต่ที่ฉันปรับเปลี่ยนตัวเองมันไม่ใช่เพื่อคนอื่นแต่ก็เพื่อตัวฉันเองด้วยเช่นกันความจริงแล้วตาบ้านั่นก็แค่หึงน่ะเพราะฉันน่ะมันเป็นสาวสวยนี่“ยินดีด้วยนะข้าว” ฉันยิ้มรับอ้อมกอดจากป้าซึ่งก็ลาออกจากงานแม่บ้านแล้วแต่ก็ยังอยู่บ้านเหมือนเดิมไม่ได้ย้ายไปไหนเพราะพ่อกับแม่บอกว่าป้าได้เข้ามาเป็นครอบครัวด้วยตั้งแต่วันที่ฉันกับเซฟหมั้นกันแล้วแต่ป้าก็มักจะทำงานตามที่เคยทำแม้จะน้อยลงก็ตามที“น่าเสียดายนะที่ตาเซฟไม่ได้อยู่ด้วย” คุณแม่เอ่ยขึ้นพูดแล้วก็เศร้าเพราะหลังจากท่ีเซฟเรียนจบเขาก็เข้าทำงานที่บริษัทเพื่อเรียนรู้งานและตอนนี้ก็ทำงานอยู่สาขาต่างประเทศได

  • อย่าแตะต้องยัยเฉิ่มของผม   THE END

    หลังเลิกเรียนฉันก็กลับมาบ้านน่าตกใจตรงที่พอฉันกลับมาถึงพ่อกับแม่ของเซฟก็เรียกฉันไปคุยทันทีพวกท่านขอโทษฉันที่ทำให้ฉันต้องเจอกับเหตุการณ์แย่ๆในมหาลัยและบอกว่าเรื่องของนิต้าพวกท่านจะจัดการให้เองซึ่งฉันก็ได้แต่เอ่ยขอบคุณไปRrrr“อ๊ะเซฟ” ฉันยิ้มออกมาด้วยความดีใจเมื่อเซฟโทรเข้ามา“เซฟ!”(เอ่อไม่ใช่ไอเซฟหรอกพวกพี่เป็นเพื่อนมันเอง) ฉันชะงักไป“อ่าค่ะ..”(ไอเซฟมันเป็นไข้จนน่าจะกลับบ้านไม่ไหวแล้วน่ะน้องช่วยมารับมันหน่อยได้ไหม?) ฉันเบิกตาโตทันทีทั้งๆที่บอกแล้วว่าให้กลับมานอนพักก่อนแต่เซฟก็ยังดื้อดึงบอกงานใกล้เสร็จแล้วอยู่นั่น“ได้ค่ะจะรีบไปเลยค่ะ!” ฉันพูดก่อนจะตัดสายและรีบนั่งแท็กซี่ไปมหาลัยทันทีนี่เป็นครั้งแรกเลยแหะที่มามหาลัยช่วงกลางคืนบรรยากาศน่าขนลุกชะมัด“สวัสดีค่ะ” ฉันเอ่ยทักทายพวกเพื่อนๆของเซฟอย่างเกร็งๆกลิ่นน้ำมันเครื่องพุ่งออกมาจนฉันย่นจมูกสภาพแต่ละคนก็เปรอะเปื้อนไปหมดพวกพี่ๆเขาพอเห็นฉันก็ตกใจทันทีอ่าพวกเขาคงไม่ชินกับที่ฉันไม่ใส่แว่นรึเปล่านะ แล้วก็พอรู้ว่าจะมาเจอเพื่อนๆเขาฉันก็แอบแต่งหน้ามาเล็กน้อยด้วยก็นะมาหน้าสดๆก็เขินอยู่“มันนอนตายอยู่นู่นน่ะ”“เอ้าไอเวรไปแช่งเพื่อนอีก..มันแค่นอนห

  • อย่าแตะต้องยัยเฉิ่มของผม   ไม่ต้องมาเสือกกับเรื่องของฉัน

    เซฟ PARTปรื๊ดด!!“เวรเอ้ย” ผมสถบออกมาเมื่อจู่ๆก็มีใครไม่รู้มาตัดหน้ารถผมถ้าตีนไม่ไวมีหวังร่างแหลกไปแล้ว“นิต้า?” ผมขมวดคิ้วเป็นเธอนั่นเองที่กระโดดมาตัดหน้ารถผม“ไม่อยากเจอเลยว่ะแม่ง” ผมสถบในใจกะจะรีบไปคุยกับข้าวเจ้าแท้ๆ“อะไรของเธออีก” ผมลดกระจกลงพร้อมกับเอ่ยถาม“นิต้ามีเรื่องจะคุย”“พูดมา”“ตรงนี้น่ะหรอ” เวรเอ้ยลืมไปเลยว่าอยู่กลางถนน“ขึ้นมา” สุดท้ายผมก็ต้องให้นิต้าขึ้นมาบนรถสงสัยต้องขายรถนี้ทิ้งซะแล้วสิ“สีหน้าดูไม่ดีเลยนะไม่สบายหรอ”“ไม่ต้องมายุ่ง” ผมตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์และหันมาตั้งใจขับรถแทนไว้เดี๋ยวค่อยปล่อยเธอลงก่อนถึงมหาลัยก็ได้“จะคุยอะไรก็รีบๆพูดมา” ทั้งๆที่บอกว่ามีเรื่องจะคุยแต่ก็เอาแต่นั่งเงียบอยู่ได้ผู้หญิงมันเป็นงี้หมดทุกคนเลยรึไงกันชอบยั่วให้โมโหอยู่ได้วันนี้สภาพร่างกายก็ไม่ดีสุดทั้งปวดหัวตัวร้อนจนแม่บอกให้พักผ่อนแต่เพราะผมต้องรีบทำโปรเจคจบให้เสร็จคืนนี้เพื่อที่พรุ่งนี้ที่เป็นวันเกิดผมจะได้ใช้เวลาอยู่กับข้าวเจ้าทั้งวัน“นี่นายจะให้ผู้หญิงแบบนั้นมาอยู่ข้างกายนายจริงๆหรอ?” ผมขมวดคิ้วทันทีเปิดปากพูดออกมาก็ไม่เข้าหูสักนิด“แบบนั้นมันแบบไหน”“ก็ยัยนั่นทั้งขี้เหร่ฐานะก็ไม่

  • อย่าแตะต้องยัยเฉิ่มของผม   เธอเลิกกับพี่เซฟแล้วงั้นสิ

    เซฟ PART“เป็นอะไร”ผมเอ่ยถามข้าวเจ้าที่นั่งเงียบมาตลอดการเดินทาง“แค่กๆ” นี่ไม่ใช่เสียงไอของเธอแต่เป็นของผมเองรู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัวหลังจากที่ได้กินข้าวตอนเข้าเรียนคาบบ่ายก็แถมจะฟังอะไรไม่รู้เรื่องเลยสักนิดสงสัยน่าจะเป็นไข้แต่ก็สมควรอยู่เล่นหามรุ่งหามค่ำทำโปรเจ็กจบจนโดนยุงกัดตัวลายก็ยอมเพราะว่าใกล้ถึงวันเกิดของผมแล้วและผมก็อยากใช้เวลาในช่วงวันเกิดกับคนที่ผมชอบโชคดีที่พวกเพื่อนๆ มันเข้าใจพร้อมหามรุ่งหามค่ำไปกับผมด้วย“หูตึงรึไงยังข้าวเน่าฉันถามว่าเธอเป็นอะไร” หลังจากจอดติดไฟแดงผมก็หันมาถามเธอด้วยสีหน้าจริงจังแต่ทว่าในดวงตาของเธอกลับมีน้ำตาคลออยู่“เห้ยเป็นอะไรใครทำอะไรอีก” ผมใช้สองมือจับใบหน้าของเธอให้หันมามองผมตรงๆ รู้สึกกระวนกระวายกลัวว่าเธอจะโดนใครไม่รู้โจมตีอีก“ปะป่าวแค่ฝุ่นมันเข้าตาน่ะ” ผมขมวดคิ้วแต่ทว่าก็ต้องรีบปล่อยมือออกเพราะไฟเขียวแล้วไว้ถึงบ้านค่อยคุยกันก็ได้วะ“ฉันไปช่วยป้าเตรียมมื้อเย็นก่อนนะ” ผมมองข้าวเจ้าที่พูดขึ้นโดยไม่สบตาผม“เดี๋ยว” ผมรั้งแขนเธอไว้เพราะรู้สึกตะหงิดใจแปลกๆ“ไม่ได้เป็นอะไรแน่นะ..มีไรจะพูดก็พูดออกมาเลยฉันไม่ชอบที่เธอเป็นแบบนี้” ผมพูดตรงๆ ผมชอบที่เราสอง

  • อย่าแตะต้องยัยเฉิ่มของผม   ฉันชอบเธอ

    “นี่เดี๋ยวก็มีคนเห็นหรอก” ฉันรีบดันใบหน้าหล่อให้ถอยออกมองริมฝีปากของอีกฝ่ายที่เลอะลิปสติกของฉันเซฟในตอนนี้เขาหายใจแรงมากเหมือนพยายามควบคุมความต้องการของตัวเองอยู่แกร้กฉันกระพริบตาปริบๆมองเซฟที่ทำการปลดสร้อยเกรียร์ของเขาออกก่อนจะมาสวมให้กับฉันนี่มันหมายความว่ายังไงกัน..“เซฟ..” ฉันเอ่ยชื่อเขาอย่างไม่เข้าใจในการกระทำนี้การให้สร้อยเกรียร์ของคณะวิศวะเขาว่ากันว่ามันคือของแทนใจที่จะให้กับหญิงสาวที่รักไม่ใช่หรอร่างสูงเงียบไปแต่ทว่าใบหน้าของเขากลับขึ้นสีแดงอย่างเห็นได้ชัดนี่เขาชอบฉันจริงๆสินะ“ไหนบอกว่าไม่ได้ชอบฉันไง” ฉันเอ่ยถามมองเซฟที่หลบสายตาฉันเขาเขินแหละแต่เก๊กอยู่“ก็ไม่ได้ชอบ” เจ้าตัวตอบปฏิเสธกลับมาแต่ฉันดันคิดว่ามันน่าเอ็นดูมากที่ปากของเขาไม่ตรงกับใจถึงขนาดนี้“ไม่ได้ชอบแล้วให้สร้อยเกียร์กับฉันทำไม” ฉันถามพรางยื่นใบหน้าไปไกลๆจนอีกฝ่ายชะงักไป“นายรู้รึเปล่าว่าการให้นสร้อยนี่กับฉันมันหมายความว่าอะไร?“กะก็แค่สร้อยธรรมดาๆ” เซฟยังคงปากแข็ง“ถ้างั้นฉันถอดนะ” ฉันทำท่าจะถอด“ชอบ”“....”“ฉันชอบเธอข้าวเจ้า” ฉันได้แต่ยืนช็อกกับคำสารภาพรักของเซฟ“เพราะงั้น..” จู่ๆเซฟก็ดึงฉันไปกอดใบหน้าหล่อฝ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status