ครืดด
ฉันมองประตูที่ถูกเปิดออกโดยพนักงานสาวก่อนจะเผยให้เห็นพี่มอสแฟนของฉันที่นั่งอยู่ก่อนแล้วไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อคำพูดของไอบ้าเซฟนะแต่ที่ฉันยืนยันที่จะเข้ามาก็เพราะอยากทดสอบด้วยตัวเอง
“ว้าวน้องข้าวนี่น้องข้าวจริงๆเหรอครับ” พี่มอสดูตกใจมากกับการแปลงโฉมครั้งใหญ่ของฉันส่วนฉันก็ทำได้แค่ส่งยิ้มอ่อนๆให้เขาพอได้ฟังเรื่องที่เซฟเล่าร่างกายของฉันมันก็รู้สึกขนลุกแปลกๆขึ้นมา
“มันไม่ได้ดูแปลกใช่ไหมคะ?” ฉันเอ่ยถามมองพี่มอสที่ส่ายหน้ารัวๆ
“ไม่ครับสวยมากเหมือนคนละคนเลย” ฉันหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินไปนั่งพร้อมกับประตูที่ปิดลง
“ทานข้าวกันครับ” คนตรงหน้าเอ่ยชวนเราสองคนนั่งทานข้าวกันอย่างปกติทุกอย่างเป็นปกติมากและพี่มอสเองก็ไม่ได้แสดงท่าทางที่น่าสงสัยอะไรเลยสักนิด
หรือเรื่องที่เซฟเล่าจะไม่ใช่ความจริง ตาบ้านั่นต้องแต่งเรื่องมาหลอกให้ฉันขวัญเสียแน่ๆคงจะอิจฉาที่ฉันมีแฟนที่แสนดีแบบพี่มอสสินะ
“อาหารถูกปากไหมพี่ตั้งใจจองร้านนี้มากเลยนะ”
“อร่อยมากเลยค่ะ^^” ฉันพูดพร้อมฉีกยิ้มกว้างเพราะอาหารมันอร่อยจริงๆ
“ว่าแต่ทำไมถึงเปลี่ยนลุคขนาดนี้เลยล่ะครับ”
“อ๋า..กะก็มันคือเดทแรกนิคะพี่มอสเองก็เป็นแฟนคนแรกของข้าวด้วย” ฉันบอกไปอย่างเขินอายมาเดททั้งทีจะมาในสภาพเฉิ่มๆแบบนั้นได้ไงกันพี่มอสเองก็ดูดีถึงขนาดนี้ฉันไม่อยากถูกมองว่าเป็นแฟนที่ไม่เหมาะสมกับเขาหรอกนะ
“น่ารักจัง” ฉันยิ้มเขินกับคำชมของอีกฝ่ายบรรยากาศตอนนี้ช่างหวานแหววและตัวฉันเองก็ค่อยๆคลายความกังวลและความกลัวออกไปจนเกือบหมดแล้ว
คอยดูเถอะกลับบ้านไปฉันจะไปด่าไอบ้าเซฟแน่นอนบังอาจมาใส่ความแฟนของฉันงั้นรึ!
“เอ่อข้าวครับ..” ในขณะที่เรากำลังพูดคุยกันอย่างปกติจู่ๆใบหน้าหล่อก็ดูเขร่งขรึมขึ้นมา
“คะ?”
“เอ่อพี่ขอ..จูบไม่สิขอกอดข้าวหน่อยได้ไหม?” ฉันนิ่งไปทันทีกับคำขอของพี่มอส
“พี่ไม่ได้โรคจิตนะข้าวคือ..พี่แค่อยากแสดงความรักกับแฟนเฉยๆถ้าข้าวอึดอัดใจจะปฏิเสธก็ได้” พี่มอสคงเห็นท่าทางของฉันที่ดูช็อกกับคำพูดของเขาเจ้าตัวเลยรีบพูดอธิบายทันที
แสดงความรักกับแฟนงั้นเหรอ
ปกติเราสองคนสกินชิพมากสุดก็แค่จับมือสินะเพราะว่าพึ่งคบกันด้วยแต่ก็แค่กอดมันก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
“ได้สิคะ” ฉันตอบตกลงพี่มอสก็เบิกตาโตด้วยความดีใจทันที
“ถ้างั้นมาตรงนี้สิครับ” พี่มอสตบที่นั่งข้างๆตัวเองด้วยรอยยิ้มฉันลุกขึ้นก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆเขาภายในใจรู้สึกตื่นตัวไปหมดไม่รู้ว่าเขินหรือกำลังกลัวอยู่กันแน่
หมับ
“อ๊ะพี่มอส?” ฉันสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อพอก้นถึงที่นั่งพี่มอสก็คว้าตัวฉันไปกอดทันทีแถมยังกอดแน่นจนฉันหายใจไม่ออกอีกด้วย
“ตัวข้าวหอมจังเลย”
“พะพี่มอสจมูก..” ฉันเม้มปากแน่นเมื่อจมูกของพี่มอสสัมผัสเข้ากับร่างกายของฉันและวันนี้ก็ดันเลือกใส่ชุดแบบเปิดไหล่มาอีก
“พี่มอสพอแล้วอ๊ะ!” ฉันพยายามดันพี่มอสออกเพราะเริ่มรู้สึกว่ามันจะแนบชิดกันเกินไปแล้วแต่ทว่าพี่มอสกลับยกตัวฉันขึ้นไปนั่งบนตักของเขาแทน
“ข้าวพี่รักข้าวนะ” จู่ๆอีกฝ่ายก็บอกรักฉันออกมามันก็ดีใจแหละแต่ว่าท่าทางตอนนี้มันล่อแหลมสุดๆเลยไม่ใช่รึไงกัน
“ข้าวก็รักพี่มอสค่ะแต่ว่าปล่อยข้าวลง..”
ฟอดด
ฉันเบิกตาโตเมื่อพี่มอสก้มลงมาหอมแก้มฉันอย่างรวดเร็วก่อนจะผละออกไป
“พี่มอสทำอะไรคะข้าวยังไม่ได้อนุญาตให้หอมแก้มเลยนะ!” ฉันเอ่ยขึ้นด้วยความไม่พอใจที่โดนฉวยโอกาสแบบนี้
“เราเป็นแฟนกันนะข้าวมันเรื่องปกติที่คนรักกันเขาจะทำแบบนี้” พี่มอสพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มสองมือของเขากอดเอวฉันไม่ปล่อยแถมยังใช้ใบหน้าถูไถไปกับร่างกายของฉันอีก
และตอนนี้ฉันก็รับรู้ได้ถึงสิ่งแข็งๆด้านล่างที่มันกำลังทิ่มก้นฉันอยู่ด้วยไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันคืออะไร
“ตะแต่ว่าเราพึ่งคบกันนะคะ” ฉันเอ่ยบอกมันก็จริงที่คนรักกันจะกอดจะหอมกันไม่แปลกแต่ฉันกับพี่มอสเราพึ่งคบกันเอง
“พูดแบบนี้พี่เสียใจนะ” พี่มอสทำหน้างอนใส่ฉันทำเอาฉันไปไม่ถูกเลยหรือว่าฉันจะเข้มงวดมากเกินไปรึเปล่านะ
“ข้าวขอโทษนะคะถ้าพูดอะไรทำร้ายจิตใจออกไป” ฉันบอกอย่างรู้สึกผิดเล็กๆเอาจริงๆฉันก็ไม่ได้เป็นคนหวงเนื้อหวงตัวอะไรมากแต่แค่รู้สึกว่ามันยังเร็วไปที่จะใกล้ชิดกันมากขนาดนี้
“ไม่เป็นไรพี่เข้าใจเพราะข้าวพึ่งจะเคยมีแฟนมันก็ไม่แปลกที่ข้าวจะรู้สึกไม่ชินอะไรแบบนี้” พี่มอสพูดอย่างอ่อนโยนก่อนจะอุ้มฉันลงจากตักของตัวเองฉันเลยเลือกที่จะเดินกลับไปนั่งที่เดิมแทนแต่ทว่าสีหน้าพี่มอสก็ดูหงอยมากจนฉันรู้สึกผิด
นี่ฉันหัวโบราณเกินไปรึเปล่านะ
“พี่มอสคะ”
“ครับ”
“หลังจากนี้เราไปต่อกันไหมคะ?”
“แต่ข้าวบอกว่าต้องกลับบ้านก่อน5โมงไม่ใช่เหรอ?” มันเป็นเรื่องจริงที่ฉันบอกกับเขาไว้แบบนั้นเพราะฉันไม่อยากกลับบ้านดึกเดี๋ยวป้าจะเป็นห่วงแต่ทว่าตอนนี้ฉันก็ไม่อยากให้เดทแรกของเราต้องจบด้วยความรู้สึกไม่ดีแบบนี้
“ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวข้าวโทรบอกที่บ้านก็ได้”
“จะจริงเหรอครับ” พี่มอสเริ่มออกอาการดีใจอีกครั้งซึ่งฉันก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มเป็นคำตอบไป
“ถ้างั้นไปดื่มกับพี่ไหม”
“ดื่มเหรอคะ..ข้าวไม่เคยดื่มมาก่อนด้วยสิ” ฉันเกาแก้มอย่างเป็นกังวลแค่คำว่าดื่มก็พอรู้ได้อยู่ว่ามันคงไม่ใช่น้ำเปล่าหรือน้ำอัดลมแต่อย่างใดมันจะต้องเป็นน้ำมึนเมาอย่างแน่นอนและฉันก็ไม่เคยดื่มมาก่อนด้วย
“เดี๋ยวพี่สอนเอง..นะๆไปดื่มกับพี่นะครับ” พี่มอสทำตาปริบๆส่งมาให้ฉันพอคิดว่าตัวเองเคยทำให้บรรยากาศเสียไปครั้งนึงแล้วฉันก็ไม่อยากทำให้บรรยากาศมันเสียไปอีกเป็นครั้งที่สองสุดท้ายเลยตอบตกลงไปแต่ก็บอกว่าอาจจะอยู่ดึกไม่ได้ประมาณ2ทุ่มก็คงต้องกลับพี่มอสก็รับปากว่าจะไม่ให้ฉันดื่มเยอะแค่พาไปลองดื่มเฉยๆ
“ถ้างั้นข้าวขอโทรบอกพี่บ้านก่อนนะคะ”
“ครับงั้นพี่ไปเอารถก่อนนะเจอกันทางเข้าได้เลย” พี่มอสพูดอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินไปส่วนฉันก็หยิบมือถือขึ้นมาโทรบอกป้าซึ่งป้าก็อนุญาตให้ฉันไปได้แต่ก็ย้ำให้ฉันระวังตัวด้วย
ติ๊ง
เซฟ (ไอคนไร้มารยาท) : กลับยัง
ฉันอ่านข้อความของเซฟที่ส่งมาได้จังหวะมาก
ข้าวเจ้า : ว่าจะไปต่อที่ผับxxน่ะ
เซฟ (ไอคนไร้มารยาท) : บ้ารึไงยัยข้าวเน่า! เธอกำลังจับตัวเองใส่พานถวายมันอยู่นะเว้ย!
แม้จะเป็นเพียงข้อความแต่อ่านแล้วก็นึกถึงน้ำเสียงหัวร้อนได้อย่างชัดเจน
Rrrrr
ฉันมองมือถือที่เป็นสายของไอบ้าเซฟโทรมา
“อือว่าไง”
(อยู่ไหนจะไปรับ)
“ก็บอกแล้วไงว่าจะไปต่อ”
(นี่ข้าวเจ้า!) ฉันนิ่งไปนี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ยินไอบ้าเซฟเรียกชื่อฉันถูกและเป็นเสียงของเขาจริงๆไม่ใช่ผ่านตัวหนังสือ
“ไม่ต้องเป็นห่วง..พี่มอสบอกว่าจะแค่สอนฉันดื่มเฉยๆและฉันก็บอกแล้วว่าจะกลับบ้านตอน2ทุ่ม”
ฉันพูดออกไปแต่ปลายสายกลับเงียบสนิท
ติ๊ด
“เอ้า?”ฉันร้องขึ้นเมื่อจู่ๆสายก็ถูกตัดไปอย่างไร้มารยาทแต่ก็ช่างเถอะไอบ้าเซฟก็ไม่ใช่คนมีมารยาทอยู่แล้วแหละ
ทำไมหนูดื้อแบบนี้ล่ะลูกกก
ครืดด ฉันมองประตูที่ถูกเปิดออกโดยพนักงานสาวก่อนจะเผยให้เห็นพี่มอสแฟนของฉันที่นั่งอยู่ก่อนแล้วไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อคำพูดของไอบ้าเซฟนะแต่ที่ฉันยืนยันที่จะเข้ามาก็เพราะอยากทดสอบด้วยตัวเอง“ว้าวน้องข้าวนี่น้องข้าวจริงๆเหรอครับ” พี่มอสดูตกใจมากกับการแปลงโฉมครั้งใหญ่ของฉันส่วนฉันก็ทำได้แค่ส่งยิ้มอ่อนๆให้เขาพอได้ฟังเรื่องที่เซฟเล่าร่างกายของฉันมันก็รู้สึกขนลุกแปลกๆขึ้นมา“มันไม่ได้ดูแปลกใช่ไหมคะ?” ฉันเอ่ยถามมองพี่มอสที่ส่ายหน้ารัวๆ“ไม่ครับสวยมากเหมือนคนละคนเลย” ฉันหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินไปนั่งพร้อมกับประตูที่ปิดลง“ทานข้าวกันครับ” คนตรงหน้าเอ่ยชวนเราสองคนนั่งทานข้าวกันอย่างปกติทุกอย่างเป็นปกติมากและพี่มอสเองก็ไม่ได้แสดงท่าทางที่น่าสงสัยอะไรเลยสักนิดหรือเรื่องที่เซฟเล่าจะไม่ใช่ความจริง ตาบ้านั่นต้องแต่งเรื่องมาหลอกให้ฉันขวัญเสียแน่ๆคงจะอิจฉาที่ฉันมีแฟนที่แสนดีแบบพี่มอสสินะ“อาหารถูกปากไหมพี่ตั้งใจจองร้านนี้มากเลยนะ”“อร่อยมากเลยค่ะ^^” ฉันพูดพร้อมฉีกยิ้มกว้างเพราะอาหารมันอร่อยจริงๆ“ว่าแต่ทำไมถึงเปลี่ยนลุคขนาดนี้เลยล่ะครับ”“อ๋า..กะก็มันคือเดทแรกนิคะพี่มอสเองก็เป็นแฟนคนแรกของข้าวด้วย”
เซฟ PART“ตายจริงนี่หนูข้าวจริงๆหรอลูก”ผมเงยหน้าขึ้นจากถ้วยโจ๊กมองร่างเล็กที่เดินเข้ามาอย่างเขินอายเธออยู่ในชุดกระโปรงสีขาวผ้าชีฟองโชว์ไหล่ทั้งสองข้างผมจากที่เคยปล่อยและไม่เคยดูแลสนใจมันกลับม้วนขึ้นเผยให้เห็นลำคอขาวที่ประดับด้วยสร้อยสีเงินเส้นเล็กใบหน้าของเธอไม่มีแว่นตาและแม้จะมีหน้าม้าบดบังแต่ทว่ากลับดูมีสีสันจากการทาแก้มทาปากไม่จำเป็นต้องพูดถึงหุ่นเพราะถึงแม้ว่าเธอจะดูผอมไปนิดแต่ทุกสัดส่วนของเธอกลับเด่นชัดไม่ว่าจะเป็นหน้าอกหรือแม้ขาเรียวยาว“สวยจริงๆเลยน้า..ได้ข่าวว่าจะไปเดทกับแฟนใช่ไหม^^”“ชะใช่ค่ะ”เธอตอบกลับอย่างเขินอายก่อนจะหันมามองผมด้วยสายตาคาดเดาไม่ถูกทั้งๆที่บอกความจริงไปแล้วแต่ก็ยังไม่คิดที่จะบอกเลิกมันสินะแถมยังเปลี่ยนตัวเองจากสาวเฉิ่มเป็นสาวสวยเพื่อไปเดทกับสวะอย่างมันอีกเธอคิดอะไรอยู่ข้าวเจ้าอยากให้ใบหน้าและเรือนร่างของเธอถูกบันทึกไว้ในมือถือของสวะอย่างมันอย่างงั้นเหรอ“ตาเซฟหนูข้าวสวยมากเลยใช่ไหม^^”ผมมองแม่ที่ดูตื่นเต้นมากกว่าใครประหนึ่งว่าอีกฝ่ายเป็นลูกสาวคนโปรดก็ไม่ปาน“ก็พอดูได้ครับ” ผมเอ่ยตอบหน้านิ่งไม่ใช่แค่พอดูได้อยากที่พูดหรอกแต่นี่มันน่ารักมากเลยต่างหากแต่จะให้ช
“ระเราเลิกกันเถอะค่ะ”ฉันเอ่ยบอกออกไปมองหน้าพี่มอสที่ยืนสะตั้นอยู่ตรงหน้าฉัน“เดี๋ยวสิทำไมถึงบอกเลิกพี่ล่ะครับ?”พี่มอสปรี่เข้ามาจับมือฉันพร้อมกับสีหน้าของความร้อนรน“เมื่อวานพี่ไปที่ห้างมารึเปล่าคะ”“ก็ใช่ครับ”“ข้าวเห็นค่ะ..เห็นว่าพี่กำลังกอดกับผู้หญิงคนอื่น..”ฉันบอกออกไปพลันรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจเล็กน้อยแม้ว่าเราสองคนจะยังรู้จักและคบกันได้ไม่นานแต่เป็นถึงแฟนคนแรกของฉันเลยนะและฉันก็คาดหวังกับความรักครั้งนี้มากจริงๆ“อุ๊บ..ฮ่าๆ”ฉันขมวดคิ้วมองพี่มอสที่หัวเราะลั่นออกมา“มันใช่เรื่องตลกเหรอคะพี่นอกใจข้าวนะ!”ฉันพูดด้วยความโมโห“ข้าวฟังพี่นะ..ผู้หญิงคนนั้นคือน้องสาวพี่เอง”ฉันเบิกตาโตด้วยความตกใจจริงสิพี่มอสบอกว่าตัวเองมีน้องสาวด้วยนี่หน่างั้นแสดงว่าผู้หญิงคนนั้นคือน้องสาวพี่มอสจริงๆเหรอแต่หน้าตาไม่เหมือนกันเลยนะ“ข้าว..เฮ้อทำไมน่ารักอย่างนี้นะหึงพี่เหรอครับ”จู่ใบหน้าของฉันมันก็ร้อนขึ้นมาไม่ได้เพราะความเขินแต่อายล้วนๆ!“อะเอ่อ..ข้าวขอโทษนะคะที่ด่วนสรุปไปเองแบบนี้”ฉันบอกออกไปอย่างรู้สึกผิด เห้อไอเราก็คิดหนักมาตลอดทั้งคืนสุดท้ายก็แค่น้องสาวเองเหรอเนี่ยบ้าจริงฉัน“ไม่เป็นไรครับ..ถ้างั้นไปเดทกับ
วันต่อมาทำไม? ทำไม? ทำไมฉันต้องออกมาซื้อของกับไอบ้านี่ด้วยอ๊ากกกก!!เหตุมันเกิดขึ้นเนื่องจากว่าฉันได้รับไหว้วานให้ไปซื้อของที่ห้างซึ่งตอนแรกฉันก็กะจะไปเองนี่แหละแต่ไอบ้าเซฟมันดันลงมาพอดีพอแม่ของเขาถามว่ามีแพลนจะออกไปไหนทำอะไรไหมไอบื้อนั่นก็บอกว่าไม่มีและไงคะก็ได้เลยมาด้วยกันแบบงงๆนี่ไงทั้งๆที่ฉันปฏิเสธไปแล้วว่าจะมาเองแต่คุณหญิงก็คะยั้นคะยอบอกให้เซฟขับรถไปส่งฉันจนสุดท้ายก็ไม่มีใครต้านทานคำพูดอันทรงพลังได้ฉันเลยต้องยอมนั่งรถมากับไอตาหื่นกามนี่สองต่อสองทั้งๆที่พึ่งเกิดเรื่องอะไรแบบนั้นไปเมื่อวานนี้เองแท้ๆ“นั่งดีๆฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกหน่ายัยข้าวเน่า”จู่ๆไอบ้าเซฟก็พูดขึ้นมาแต่เขาไม่ได้มองมาทางฉันเพราะกำลังตั้งใจขับรถอยู่“ไม่ฉันจะนั่งแบบนี้”ฉันพูดขึ้นอย่างจริงจังเพราะกลัวว่าเขาจะทำอะไรไม่ดีก็เลยนั่งหันทั้งตัวหันทั้งหน้าไปจ้องอีกฝ่าย“ตามใจขอให้ตะคริวกินแล้วกัน”ฉันรับฟังแบบไม่ใส่ใจแต่ทว่าพอนั่งท่านี้นานๆก็แอบเมื่อยนะแถมยังรู้สึกเวียนหัวอีกฮื่ออ“อุแหวะ”ทันทีที่มาถึงห้างที่แรกที่ฉันไปก็คือห้องน้ำก่อนจะเข้าไปอ้วกแบบหมดไส้หมดพุงเนื่องจากเมารถเป็นเพราะไอบ้าเซฟคนเดียวเลยมาทำให้ฉันหวาดระแวงไปหม
1อาทิตย์ต่อมาฉันยืนอยู่หน้าห้องของเซฟเพราะวันนี้เป็นวันที่ฉันต้องมาสอนงานให้เขาแต่ทว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาจู่ๆไอบ้านี่มันก็ทำตัวแปลกๆพอมองหน้าฉันทีไรเจ้าตัวก็จะรีบหลบหน้าไปทันทีจากที่เคยเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตฉันเขาก็เงียบหายไปเลย“แปลกแหะ”แกร้ก“จะยืนบื้ออีกนานไหม”ฉันมองร่างสูงที่เปิดประตูออกมาบ่นใส่ฉันว่าแต่เขารู้ได้ยังไงว่าฉันยืนอยู่หน้าห้องเขากันหลังจากเข้าห้องไปฉันก็ไปนั่งประจำที่แต่สิ่งที่แปลกคือหมอนี่มันห่างจากฉันเป็นกิโลเลยนี่สิ“นี่ขยับมาหน่อยสิ”“สอนตรงนั้นนั่นแหละ”ฉันขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดมองใบหน้าหล่อที่เอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมสบตาฉันเลยสักนิดไอบ้านี่มันเป็นอะไรของมันเนี่ยเมนส์มารึไง“ฉันไม่อยากตะโกนเขยิบเข้ามา”ฉันเอ่ยบอกมองเซฟที่ถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะขยับมาอยู่ใกล้ฉันแต่ก็เว้นระยะห่างอยู่ดีแต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรแล้วรีบๆสอนงานให้เขาเพราะคืนนี้ฉันมีนัดวีดีโอคอลกับพี่มอสแฟนสุดน่ารักของฉันน่ะสิ“วันนี้พอแค่นี้ละกัน” ฉันเอ่ยขึ้นหลังจากสอนต่อเนื่องมาเกือบ3ชั่วโมงและเซฟก็ตั้งใจเรียนรู้ดีเอาจริงๆหมอนี่มันก็เก่งพอตัวเลยนะสอนอะไรไปนิดๆหน่อยๆก็ทำได้แล้ว“นี่ยัยข้าวบูด”ฉันชะงักมือที่กำล
เซฟ PART“เก็บแต้มอีกแล้วเหรอมึง”“เออ..คนนี้ไม่น่าจะเกินอาทิตย์เดี๋ยวก็ได้มาร้องครางใต้ร่างกูละ”ผมมองไอมอสที่พอเดินเข้ามาก็พูดจาหมาไม่แดกทันทีน่าอนาถใจแทยยัยข้าวบูดชะมัดเลือกแฟนทั้งทีทำไมถึงไปเลือกไอเศษสวะแบบนี้มาก็ไม่รู้“อย่างเอาอ่ะครับเพื่อน”ผมถอนหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์มองพวกมันที่คุยเรื่องผู้หญิงกันอย่างสนุกปากตอนแรกที่ได้ยินยัยนั่นบอกมีแฟนผมก็แทบจะไม่เชื่อหูตัวเองแต่สุดท้ายมันก็คือเรื่องจริงสินะ“ไอเซฟวันนี้ไปดื่มป่ะ?” “ไม่อ่ะ”ผมตอบปฏิเสธก่อนจะก้มมองรองเท้าตัวเองที่มีรอยรองเท้าของยัยข้าวเน่าประทับอยู่ผมเห็นข้อความที่ยัยนั่นตอบกลับมาแล้วมันน่านักจริงๆรอก่อนเถอะกลับบ้านไปจะทำโทษให้เข็ด“ยิ้มอะไรของมึงวะขนลุก”ผมหุบยิ้มทันทีไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังยิ้มอยู่แถมยังยิ้มทั้งๆที่นึกหน้ายัยข้าวเน่านั่นอีกหลังจากจบคลาสเรียนผมก็แยกตัวออกมาเพื่อตรงกลับบ้านในหัวนี่คิดแผนการแกล้งยัยข้าวเน่าสารพัดอย่าง“เห้ยไอเซฟ”ผมมองไอมอสที่เรียกผมไอเวรนี่ต่อหน้าสาวทำเป็นสุภาพบุรุษแต่ความจริงแล้วเป็นไอสวะดีๆนี่เองเห็นว่าชอบไปหลอกเอาสาวเฉิ่มๆโลกส่วนตัวสูงมานอนด้วยก่อนจะถ่ายคลิปขู่เรียกเอาเงินแล้วยั