Share

บทที่ 2

last update Last Updated: 2025-04-06 17:51:29

2

เพื่อนเก่าที่จากไป เพื่อนใหม่ที่กลับมา

มอลลี่นั่งจิบกาแฟร้อน ๆ แล้วเช็คข่าวบนโซเชียลในโทรศัพท์มือถือ มอลลี่ใช้นิ้วไถหน้าจอไปเรื่อยๆ จนเลื่อนมาเจอรูปจากโซเชียลของทิวากร เขาได้โพสต์รูปมือข้างซ้ายที่สวมแหวนนิ้วนางของพิชชาวางบนช่อดอกไม้

ใต้ภาพเขียนบรรยายไว้ว่า “ขอบคุณที่ยอมเป็นเจ้าสาวของผมนะครับ” มอลลี่กลับมาดูที่รูปก็รู้สึกดีใจกับพิชชาด้วย แล้วตะโกนเรียกเอบีกับใบเฟิร์นที่อยู่ในห้องครัวออกมาดูรูป

“นังมอลลี่! นี่หล่อนเป็นอะไรยะ...ถึงได้ตะโกนเรียกฉันกับเจ๊เฟิร์นเนี่ย”

“ใช่ เดี๋ยวน้องพิ้งค์มา...จะโดนว่าเอานะ”

“น้องพิ้งค์ไม่ว่าหรอก…นี่มาดูสิ”

เอบีกับใบเฟิร์นนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ มอลลี่ แล้วเกย์หน้าหล่อก็ยื่นโทรศัพท์มือถือให้เอบีและแบ่งให้ใบเฟิร์นดูด้วย

สักพักเสียงโมบายกระดิ่งก็ดังกระทบกรุ๊งกริ๊ง ทั้งสามคนหันหน้าไปทางประตู คนที่เดินเข้ามาคือดีไซน์เนอร์สาว เจ้านายของพวกเธอทั้งสามคนนั่นเอง

พิชชาเดินเข้ามาทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พวกรุ่นพี่สามคนลุกขึ้นมาเอ่ยพูดกันอย่างพร้อมเพรียงด้วยความดีอกดีใจ

“พวกพี่ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ...”

“พวกพี่รู้กันแล้วเหรอคะ” ดีไซน์เนอร์สาวหน้าแดงด้วยความกระดากอาย

“รู้แล้วค่ะ ได้ฤกษ์งานแต่งหรือยังคะ” เกย์หน้าหล่อถามด้วยความตื่นเต้น

“ใจเย็นก่อนค่ะ เมื่อวานทิมเพิ่งจะขอพิ้งค์แต่งเองนะคะ”

“ก็พี่ตื่นเต้นแทนนี่คะ”

จังหวะที่มอลลี่กำลังบิดตัวหมุนไปมาด้วยความเขิน เอบีเท้าเอวและใบเฟิร์นกอดอก มองหน้ากันด้วยความรู้สึกหมั่นไส้นังเกย์หน้าหล่อนี่เสียจริง

และในขณะนั้นเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากกระเป๋าของพิชชา ดีไซน์เนอร์สาวเปิดกระเป๋าแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาดูพร้อมกับเอ่ยพูดขอตัว

รุ่นพี่ทั้งสามคนพยักหน้าและยิ้ม ดีไซน์เนอร์สาวกดรับสายพลางเดินขึ้นไปบนห้องทำงานส่วนตัว

“ฮัลโหล!” ดีไซน์เนอร์สาวเข้ามาในห้องและเดินไปยังโต๊ะทำงาน

[ฮัลโหลพิ้งค์ แกจะแต่งงานกับทิมจริง ๆ เหรอ นี่แกไม่เชื่อฉันบ้างเลยรึไง]

“ฉันเข้าใจนะว่าแกหวังดีกับฉัน แต่ตราบใดที่ฉันยังไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง ฉันก็ไม่เชื่อ มิน!..แกต้องเข้าใจฉันนะ”

[เฮ้อ… ฉันเข้าใจแกและเป็นห่วงแกเสมอ]

“ขอบคุณนะ ที่คอยอยู่ข้างฉัน เป็นห่วงฉันมาตลอด”

ดีไซน์เนอร์สาววางสายจากเพื่อนสนิท และวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะทำงาน

ดีไซน์เนอร์สาวยกมือขวามาลูบแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายพร้อมกับนั่งยิ้มอย่างมีความสุขอยู่พักใหญ่ จนมีเสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก

~ก๊อก ก๊อก ก๊อก~

“เข้ามาได้ค่ะ”

คนด้านนอกผลักประตูและเดินถือแฟ้มเอกสารเข้ามายืนตัวตรงข้างโต๊ะทำงานของพิชชา ยื่นแฟ้มเอกสารมาให้เซ็น แล้วรายงานเรื่องโรงงานผ้า

“เดือนหน้าโรงงานจะมีผ้าล็อตใหม่เข้ามา ผู้จัดการโรงงานเลยอยากให้น้องพิ้งค์เข้าไปตรวจดูค่ะ”

“ได้ค่ะ…ยังไงพี่เฟิร์นเตือนพิ้งค์ด้วยนะคะ”

พิชชาลงลายเซ็นบนกระดาษเสร็จเรียบร้อย ปิดแฟ้มเอกสารและส่งคืนให้กับใบเฟิร์น แต่ในขณะนั้นก็มีเสียงเคาะประตูและพรวดพราดเข้ามา เหมือนจะมีเรื่องเร่งด่วน

“พี่เอบี…มีอะไรหรือเปล่าค่ะ”

“มีผู้หญิงคนหนึ่งมาขอพบคุณน้องนะคะ”

‘เอ๊ะ! ใครนะ’ ดีไซน์เนอร์สาวคิดในใจพลางควงปากกาในมือเล่น “ถ้างั้นลงไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ”

พิชชาเลื่อนเก้าอี้ทำงานออกจากโต๊ะทำงานเล็กน้อยและคว้าโทรศัพท์มือถือ ลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปังประตูทางออก เอบีกับใบเฟิร์นเดินตามมาติด ๆ

พิชชาก้าวเดินลงบันไดอย่างกระฉับกระเฉง มองลงมาเเห็นสาวผมลอนด์ยาว ตัวสูงโปร่งบางในชุดจั๊มสูท ส้นสูงปลายแหลมยืนหันหลังมองไปรอบ ๆ ร้านด้วยความรู้สึกทึ่ง

มอลลี่เห็นว่าพิชชามาแล้วจึงบอกหญิงสาวคนนั้น พอหญิงสาวได้ยินก็หมุนตัวมาทางพิชชาที่กำลังเดินลงมา

“เซอร์ไพรส์”

“ซาบีน่า!”

พิชชาดีใจมากที่ได้เจอซาบีน่า ดีไซน์เนอร์สาวรีบเดินเข้าไปกอดซาบีน่าด้วยความคิดถึง หลังจากที่เรียนจบ ซาบีน่าก็ได้ไปทำตามความฝันของตัวเองในการเป็นนางแบบ เธอจึงเซ็นสัญญากับโมเดลลิ่งของต่างประเทศ แล้วจากนั้นมาก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย

พิชชาพาซาบีน่าเข้าไปนั่งลงที่โซฟาในห้องรับแขก พิชชาสั่งให้มอลลี่เอาชากุหลาบและเค้กฟองน้ำมาเสิร์ฟให้แขก ก่อนที่จะมานั่งคุยกับซาบีน่า

“เธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ฉันกลับมาได้สองวันแล้วล่ะ”

“แล้วเธอจะกลับไปอีกไหม?”

“ไม่กลับไปแล้วล่ะ… เพราะฉันหมดสัญญากับทางนู้นแล้ว”

มอลลี่ยกชากุหลาบและเค้กฟองน้ำเข้ามาเสิร์ฟ หลังจากนั้นทั้งสองคนก็นั่งจิบชากุหลาบร้อน ๆ และกินเค้กฟองน้ำอุ่น ๆ แล้วนั่งคุยกันเพลิน ๆ จนซาบีน่าเกือบลืมไปว่ามีงานถ่ายแบบนิตยสารเลยต้องขอตัวก่อน พิชชาเดินออกไปส่งเพื่อนสาวที่หน้าร้าน

“ฉันไปก่อนนะ...ไว้คราวหน้าชวนมินตรามาทานข้าวกันนะ”

“ได้เลย”

แล้วซาบีน่าก็เดินออกไปจากห้องเสื้อ พิชชายืนโบกมือบ๊ายบายและมองนางแบบสาวค่อย ๆ เดินจากไปจนลับสายตา ดีไซน์เนอร์สาวจึงหมุนตัวเดินขึ้นบันไดกลับห้องทำงานส่วนตัว

วันนี้พิชชาขอกลับก่อนเวลา เพื่อแวะไปหามินตราและรีบกลับบ้านมาคุยเรื่องสำคัญกับครอบครัว ดีไซน์เนอร์สาวขับรถเก๋งสีขาวคันหรูเข้ามาจอดในโรงรถ

แล้วเธอดับเครื่องยนต์และปลดเข็มขัดนิรภัย หยิบกระเป๋าสะพายแบรนด์เนมที่วางไว้บนเบาะข้าง ๆ เปิดประตูรถก้าวลงมา

จิ๋ว (สาวรับใช้) รีบเดินออกมาช่วยขนเอกสารไปเก็บที่ห้องทำงานของดีไซน์เนอร์สาว

พิชชาเปิดประตูหลังรถแล้วหยิบเค้กส้มที่แวะไปหามินตราก็เลยซื้อมา ส่งให้จิ๋วช่วยถือเข้าไปไว้ในครัว เสร็จเรียบร้อยเธอจึงเดินเข้าไปในบ้าน

พอดีไซน์เนอร์สาวก้าวเข้ามาในบ้านก็เจอภูมิรพีกับภูริชญา น้องชายและน้องสาวต่างมารดาของเธอ ทั้งสองคนเห็นพิชชาก็เข้ามาสวมกอดอย่างดีใจ เนื่องจากไม่ได้อยู่ด้วยกัน

ตั้งแต่แม่ของพิชชาเสีย ภูผาหรือคุณพ่อของเธอก็ได้แต่งงานใหม่และย้ายไปอยู่ที่ไร่เชาวกรกุล ก็เลยไม่ค่อยได้เจอกันบ่อย

“หนูคิดถึงพี่พิ้งค์มากเลยนะคะ”

“ผมก็คิดถึงพี่พิ้งค์เหมือนกันครับ”

“ค่ะ…พี่ก็คิดถึงพวกเราทั้งสองคน”

พิชชายิ้มให้น้องทั้งสองคนของเธอ เมื่อได้ยินเสียงของพิชชา ภูผากับวารุณี (แม่เลี้ยง) ก็เดินออกมาจากห้องนั่งเล่น พอพิชชาเหลือบไปมองก็บอกน้องทั้งสองคนและเดินเข้าไปทำความเคารพภูผากับวารุณี

“สวัสดีค่ะคุณพ่อ… สวัสดีค่ะคุณน้า…”

พิชชายกมือไหว้ทั้งสองคน ในเวลาเดียวกันสมพร (สาวรับใช้เก่าแก่) เดินมาบอกว่าตั้งโต๊ะเสร็จแล้ว เชิญไปที่โต๊ะอาหารเพื่อรับประทานอาหารได้ ทุกคนก็เดินไปยังโต๊ะอาหาร

ภูผาเดินมานั่งลงบนเก้าอี้หัวโต๊ะ วารุณีกับภูมิรพีนั่งลงบนเก้าอี้ข้างขวา ส่วนพิชชากับภูริชญานั่งลงบนเก้าอี้ข้างซ้าย

ทุกคนนั่งลงกันเป็นที่เรียบร้อย สมพรเดินมาตักข้าวและจิ๋วเดินมารินน้ำใส่แก้วให้ทุกคน แล้วรับประทานมื้อเย็นกันเลย

หลังจากนั้นจิ๋วเข้ามาในห้องครัว เปิดตู้เย็นและหยิบเค้กส้มมาจัดใส่จานแล้วนำมาเสิร์ฟ พอดีทุกคนทานกันอิ่มแล้วก็เอาเค้กส้มมาวางบนโต๊ะอาหาร

“พิ้งค์ซื้อมาจากร้านมินค่ะ ลองชิมกันดูนะคะ...เป็นเมนูใหม่ที่มินทำค่ะ” ดีไซน์เนอร์สาวลุกขึ้นมาตักให้ทุกคน

“ถ้างั้นหนูทานเลยนะคะ”

“เชิญจ้ะ”

พิชชายิ้มและลูบหัวน้องสาวอย่างอ่อนโยน สักพักเธอก็หันหน้ามาเปิดประเด็นคุยกับภูผาที่กำลังนั่งจิบชาร้อนๆ อยู่

“คุณพ่อค่ะ....พิ้งค์มีอะไรจะบอกค่ะ” ภูผาเงยหน้าขึ้นมาแล้วตั้งใจฟังที่พิชชากำลังจะพูด

“ทิม…เขาขอพิ้งค์แต่งงานค่ะ”

“แล้วพิ้งค์ตอบเขาไปว่าอย่างไรล่ะ”

“พิ้งค์ตกลงค่ะ” พิชชาส่งยิ้มให้ภูผาและทุกคน

“น้ายินดีด้วยนะคะ...หนูพิ้งค์”

“ขอบคุณค่ะ....คุณน้า” คนในครอบครัวต่างก็ยินดีกับพิชชาเป็นอย่างมาก

หลังจากที่ไปนั่งดูหนังกับน้องๆ ที่ห้องนั่งเล่นมาก็ปาเข้าไปสองทุ่มแล้ว เธอเลยขึ้นห้องไปพักผ่อนดีกว่า

พิชชากำลังจะเดินเข้าไปอาบน้ำ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังมาจากบนโต๊ะหัวเตียง เธอเดินไปหยิบขึ้นมาดูว่าเป็นใครที่โทรเข้ามา

หน้าจอโทรศัพท์โชว์เบอร์ทิวากร เธอจึงรีบกดรับทันที “ฮัลโหลค่ะทิม”

[ฮัลโหลครับ! ผมโทรมารบกวนพิ้งค์หรือเปล่า]

“ไม่เลยค่ะ ทิมมีธุระอะไรรึเปล่า”

[ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ผมแค่อยากขอให้คุณตัดสูทให้ผมใส่ในงานแต่งของเราครับ]

“คุณแน่ใจนะคะ”

[ครับ...ผมแน่ใจ ว่าที่ภรรยาของผมเก่งอยู่แล้ว]

“คุณพูดเกินไปแล้ว ไม่เอา...ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว”

[ก็ได้ครับ…ผมรักคุณนะ บ๊ายบาย!]

พิชชากดวางสาย แล้วเดินเข้าห้องน้ำอย่างสบายอารมณ์ อีกห้านาทีพิชชาก็เดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วใส่ชุดนอนสายเดี่ยวลูกไม้และมีเสื้อคลุมสีขาว เดินมาขึ้นเตียง

พิชชาขึ้นมานั่งอยู่บนเตียงใต้ผ้าห่ม จากนั้นก็ปิดโคมไฟบนหัวเตียงแล้วก็นอน พิชชานอนลูบแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายตลอดทั้งคืน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ออกแบบรักด้วยใจเธอ My love Design.   บทที่ 40

    40 วันวิวาห์ ห้องนอนพิชชา… วันเวลาล่วงเลยผ่านไปเดือนกว่าๆ หลังจากที่ดีไซน์เนอร์สาวออกจากโรงพยาบาลมา หนุ่มหล่อเจ้าของโรงแรมก็ตามมาดูแลเธอถึงที่บ้านอย่างดี สม่ำเสมอทุกๆ วัน เพราะเขาไม่อยากปล่อยเธอให้คาดสายตาอีกแล้ว ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ดี ทั้งทางใจและทางกาย แล้วอีกไม่นานเธอกับเขาก็จะได้เห็นหน้าพยานรักตัวน้อยๆ จากนั้นก็จะเป็นครอบครัวที่แสนอบอุ่น จนทำให้ใครหลายๆ คนต้องอิจฉา “มอนิ่งคิสค่ะ” เมธาวินจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากของเธอในอ้อมแขนของเขา “มอนิ่งค่ะ” คนที่ถูกรบกวนการนอนก็ลืมตาขึ้นมาเอ่ยปากตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแฝงรอยยิ้มอ่อนหวาน แต่พิชชารู้สึกเหม็นอะไรบางอย่าง อาการคลื่นไส้เริ่มตีขึ้นมาทันที เธอจึงดันหน้าอกเมธาวินออกห่าง “…..” เมธาวินงุนงงกับท่าทางของแฟนสาว “อุ…อุ” พิชชายกมือปิดปากเอาไว้และรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปโก่งคออาเจียน “พิ้งค์! เป็นยังไงบ้างคะ” เมื่อเห็นแฟนสาวของตนอาเจียนออกมา เขาจึงรีบวิ่งตามเข้าไปลูบหลังให้เธอด้วยความเป็นห่วง “อ้วกกก” พิชชาอาเจียนออกมาจนหมด เธอรู้สึกเวียนหัวอย่างมาก “ดีขึ้นรึยังคะ” เมธาวินประคองแฟนสาวกลับออกมานั่งลงบนเตียง “งั้นเดี๋ยวพี่ลงไปทำอะไรให

  • ออกแบบรักด้วยใจเธอ My love Design.   บทที่ 39

    39 ทุ่มเททุกอย่าง ผ่านไปสี่ชั่วโมงแล้ว และในระหว่างนั้นมินตราก็ให้คนขับรถพาครอบครัวของพิชชากลับไปพักผ่อนก่อน มินตรากับพวกผู้ชายอยากจะอยู่ต่อเพื่อรอฟังผลจากปากคุณหมอ เมธาวินกระสับกระส่าย เดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องผ่าตัด สายตาจับจ้องไปที่ประตู จิตใจจดจ่ออยู่กับคนรักที่อยู่ภายในห้องผ่าตัด ตอนนี้เขากระวนกระวายใจ คิดไปต่างๆ นาๆ จนนั่งไม่ติด โดยสายตาของธีร์ก็ยืนมองเจ้านายอย่างเป็นห่วง เพราะหลายชั่วโมงแล้วที่เดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องผ่าตัดโดยไม่ได้ทานอะไรเลย หลังจากที่รอมาเป็นระยะเวลานาน สักพักใหญ่หมอที่รักษาพิชชาก็เดินออกมาจากห้องผ่าตัด เมธาวินเงยหน้าขึ้นมาเห็นคุณหมอก็ลุกขึ้นพรวดไปหาคุณหมอเพื่อสอบถามอาการของพิชชา “คุณหมอครับ...แฟนผมเป็นอย่างไรบ้างครับ” เมธาวินจับไม้จับมืออีกฝ่ายเร่งเร้าเอาคำตอบ “ตอนนี้...ปลอดภัยทั้งแม่และลูกครับ” หมอเผยยิ้มให้กับทุกคนที่ยืนฟังอยู่ “อะไรนะคะ! คือ…หมอจะบอกว่าเพื่อนของฉันกำลังมีน้องเหรอคะ” มินตราทวนถามคุณหมอด้วยความดีใจ “ใช่แล้วครับ ตอนนี้อย่าเพิ่งให้คนไข้ทำงานหรือเครียดเป็นอันขาดนะครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว...หมอขอตัวก่อนครับ” “เฮ้ย! แกจะได้เป็นพ่อคนแล้วนะเ

  • ออกแบบรักด้วยใจเธอ My love Design.   บทที่ 38

    38 มุมอ่อนแอ ชานเมือง… เมธาวินกับดิวมาถึงบ้านกลางป่าที่บลูจับตัวพิชชามาที่นี่ เมธาวินกับดิวก้าวลงจากรถ แล้วทั้งสองเดินลัดเลาะมาจากด้านหลังบ้าน ดิวชะโงกหน้าไปมองที่หน้าประตูเห็นมีคนเฝ้าอยู่คนสองคน เมธาวินหาอาวุธมาป้องกันตัว แล้วก็เจอท่อนไม้พอเหมาะมือ หยิบมาถือไว้และเดินย่องเข้าไปใกล้ๆ ชายฉกรรจ์ร่างบึกบึนด้านหลังพร้อมด้วยใช้ไม้ที่ถือมาล็อกคออีกฝ่ายไว้แน่นจนหายใจแทบไม่ออก แล้วดิวที่เดินตามหลังเมธาวินมาก็วิ่งมากระโดดต่อยชายฉกรรจ์ร่างสูงอีกคนนึงจนล้มตกบันได ดิวคว้ากุญแจบ้านที่เหน็บเอวชายฉกรรจ์ร่างบึกบึนเอาไว้และรีบเปิดประตู เมธาวินออกแรงล็อกคอจนชายฉกรรจ์ร่างบึกบึนหมดสติไป จากนั้นดิวกับเมธาวินเดินปรี่เข้าไปหาพิชชาที่นอนแน่นิ่งอยู่ ดิวนั่งคุกเข่าแก้เชือกที่มัดมือให้ เมธาวินเรียกเธอให้ได้สติ “พิ้งค์! พิ้งค์คะ! พี่มาช่วยแล้ว” พิชชาได้สติขึ้นมาแล้ว เธอยกมือขึ้นมาจับที่ศีรษะแต่จับไปโดนแผลที่กระแทกกับพื้น “ซี้ด! โอ๊ยยย!” แต่ทันใดนั้นชายฉกรรจ์ร่างสูงได้สติก็ขึ้นมาปลุกชายฉกรรจ์ร่างบึกบึนที่สลบอยู่หน้าบ้านให้ตื่นและหยิบท่อนไม้ที่วางอยู่บนพื้นเดินเข้าไปในห้อง พอเข้ามาเห็นดิวกับเมธาวินกำลังพาพิ

  • ออกแบบรักด้วยใจเธอ My love Design.   บทที่ 37

    37 ถูกลักพาตัว สองวันผ่านไป… มินตราหายจากอาการไม่สบายก็มาหาพิชชากะว่าจะชวนออกไปทานข้าว เพราะเวลานี้ใกล้จะเที่ยงแล้ว และที่สำคัญมินตรามีเรื่องจะบอก มินตราเปิดประตูร้านเข้ามาเจอณิชากำลังยืนจัดชุดที่ราวเสื้อและณิชาหันไปเห็นเธอพอดี ณิชาจึงเดินเข้ามาทักทายมินตราอย่างนอบน้อม “สวัสดีค่ะพี่มิน เห็นพี่พิ้งค์บอกว่าพี่มินไม่สบาย….เป็นอย่างไรบ้างคะ” “ดีขึ้นแล้วจ้ะ เอ่อ...และพิ้งค์อยู่ไหนเหรอจ๊ะ” “อยู่ในห้องตัดเสื้อค่ะ” “ขอบใจจ้ะ” มินตราเดินตรงเข้าไปในห้องตัดเสื้อแล้วเห็นพิชชา เอบีและมอลลี่กำลังง่วนอยู่กับการตัดเสื้อ มินตรายืนอยู่หน้าห้องแล้วเคาะประตูเบาๆ เป็นมารยาท ทุกคนเงยหน้ามามองที่ประตู “อ้าว! มิน…แกหายดีแล้วหรอ” “ฉันหายดีแล้ว…และนี่แกกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ” มินตราเอ่ยถามพลางเดินเข้าไปยืนข้างๆ พิชชา พิชชาก้มหน้าลงไปตัดชิ้นผ้าที่คาไว้ต่อพร้อมเอ่ยถามมินตราว่ามีธุระอะไรกับเธอ “มาหาฉันมีธุระอะไรหรือเปล่า” “ฉันจะชวนแกออกไปทานข้าวน่ะ คือ…คิมให้มาชวนแก เพราะว่าเขามีอะไรจะบอก...คุณวินก็มานะ” พิชชาตัดชิ้นผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองมินตราด้วยความสงสัยว่าที่เธอได้ยินมันจริงหรือแค่หูฝา

  • ออกแบบรักด้วยใจเธอ My love Design.   บทที่ 36

    36 ในฐานะอะไร บ้านมินตรา… มินตรารู้สึกไม่สบายจึงโทรไปบอกพนักงานที่ร้านตั้งแต่เช้าว่าวันนี้เธอไม่เข้าร้าน แล้วตอนนี้ก็ปาเข้าไปสิบเอ็ดโมงแล้ว เธอก็เลยลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างเชื่องช้า เข้ามาล้างหน้าแปรงฟันเพื่อลงไปหาอะไรกิน เพราะตอนนี้เธอหิวมาก มินตราเดินออกมาจากห้องน้ำ หยิบกางเกงขายาวหนาๆ มาสวมและคว้าเสื้อฮู้ดแขนยาวมาใส่ จากนั้นเธอก็เดินออกจากห้องนอนลงไปข้างล่าง เธอเดินเข้าไปในครัวและเปิดตู้เย็น แต่ภายในตู้เย็นไม่มีวัตถุดิบที่สามารถทำอาหารได้ เธอจึงเดินออกมาทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างหมดแรงและล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อฮู้ดแล้วก็จะกดสั่งอาหาร กริ๊ง! เสียงเตือนกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น มินตราได้ยินถึงกับแปลกใจว่าเธอยังไม่ได้กดสั่งอาหารไปเลยแล้วเสียงใครมากดกริ่ง เธอวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะเตี้ยหน้าโซฟาและรวบรวมแรงที่มีลุกขึ้นเดินไปดูว่าเป็นใคร มินตราเดินมาชะเง้อคอมองนอกรั้วบ้าน เห็นคิมหันต์ยืนผลิรอยยิ้มหล่อเหลาอยู่หน้าบ้าน ในมือเขาถือถุงผ้ามาสองใบ เธอเดินไปเปิดประตูให้เขาเข้ามาและปิดประตูหน้าบ้านให้เรียบร้อย เธอกับเขาก็เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกัน “คุณคิมรู้ได้ยังไงคะ...ว่าฉันอยู่บ้

  • ออกแบบรักด้วยใจเธอ My love Design.   บทที่ 35

    35 ขอแต่งงาน ดีเอ็นดี คลับ… ชั้นสองโซน VIP เมธาวิน คิมหันต์ ปกรณ์และชลธรนั่งดื่มกันมาสักพัก แล้วเมธาวินพูดปรึกษาเพื่อนๆ เรื่องที่เกี่ยวกับพิชชา “เพื่อนๆ...ฉันอยากแต่งงานกับพิ้งค์วะ” สีหน้าท่าทางของหนุ่มหล่อเจ้าของโรงแรมที่พูดนั่นมันมาจากก้นบึ้งของหัวใจ “เอาเลย...ฉันช่วยเต็มที่” คิมหันต์พูดพร้อมยกมือตบบ่าเพื่อสนับสนุนเมธาวิน แต่ชลธรก็พูดแทรกในเวลาแห่งความสุขของเมธาวินสักนิดนึง เพราะชลธรไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนถึงรักผู้หญิงคนนี้ทั้งที่อยู่เป็นโสดมานาน ชลธรแนะนำผู้หญิงคนไหนให้ก็ไม่เคยสนใจ “แกเพิ่งคบกับคุณพิ้งค์ได้กี่เดือนเอง…คิดจะแต่งงานกับคุณพิ้งค์แล้วเหรอวะ” “สำหรับฉันกับพิ้งค์...เรารู้จักกันมานานมากแล้ว” คิมหันต์เอ่ยพูดเรียบๆ ผ่านรอยยิ้มละไม “แกไม่ต้องไปสนใจไอ้ธรหรอ แล้วแกคิดจะขอพิ้งค์แต่งงานเมื่อไหร่” “เร็วๆ นี้แหละ” เมธาวินออกอาการอิ่มอกอิ่มใจมีรอยยิ้มประดับเต็มใบหน้า ชลธรยกแก้วเหล้าขึ้นมาและเอ่ยพูดให้ทุกคนยกแก้วเหล้าขึ้นมา แล้วฉลองให้กับเมธาวินล่วงหน้า “เอ้า! ชน!” ทุกคนสังสรรค์กันอย่างสนุก … ห้องนอนพิชชา… พิชชากำลังนั่งคิดถึงเหตุการณ์เมื่อตอนเย็นอยู่บนเตียงนอนนุ่มๆ และใน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status