Share

บทที่ 7

last update Last Updated: 2025-01-12 21:10:26

สองวันต่อมา

          มื้อเช้าบ้านหิรัญภักดีเป็นไปอย่างทุกวัน คนทำอาหารคือกุลธิรัตน์ ที่เปลี่ยนเมนูไม่ซ้ำกัน คนในบ้านกินอาหารตามปกติ ส่วนแม่ครัวหลังจากอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดเรียบร้อย หล่อนออกจากบ้านหลังใหญ่ เช่นสามวันที่ผ่านมา

          “กาแฟค่ะคุณอิฐ” ช้อยวางถ้วยกาแฟแทนที่ชามข้าวต้มทะเล ธรรม์บดีจิบดื่ม เขารู้สึกถึงรสชาติที่ไม่เหมือนเดิม

          “ทำกาแฟเป็นแบบนี้” ธรรม์บดีถามสาวใช้ “เหมือนกาแฟชงสำเร็จรูปเลย”

          “ใช่ค่ะ เป็นกาแฟสำเร็จรูปค่ะ” ช้อยตอบ “พอดีเครื่องชงกาแฟเครื่องใหม่ที่เพิ่งซื้อมา ช้อยกับนางทำไม่เป็นค่ะ คุณลูกหมีสอนแต่ก็จำไม่ได้”

          “แล้วทำไมลูกหมา...เอ๊ย! ลูกหมีไม่ชงล่ะ” ธรรม์บดีถามต่อ

          “คุณลูกหมีไม่อยู่ค่ะ เธอทำกับข้าวเสร็จก็ออกไปข้างนอกค่ะ ไปมาสามวันแล้วค่ะ”

          “ไปไหน” ปกติธรรม์บดีไม่สนใจว่า ภรรยาไปไหนมาไหน ทว่าวันนี้อยากรู้มาก

          “ไม่ทราบค่ะ ช้อยไม่ได้ถามค่ะ คุณลูกหมีก็ไม่ได้บอก”

          “ย่าก็สังเกตนะว่า หลายวันมานี้ลูกหมีออกไปข้างนอกทุกวัน กลับมาก็ค่ำๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าไปไหน แต่ก็ดี ย่าจะได้ไม่เกะกะลูกตา” เดือนดาวไม่สนใจกุลธิรัตน์สักเท่าไหร่ หากไม่ติดว่า เสียเงินสามสิบล้านให้เพื่อนจอมเจ้าเล่ห์ นางไล่หล่อนออกจากบ้านแน่ ที่ให้อยู่อย่างน้อยก็สามารถใช้งานไม่ต่างกับคนรับใช้ได้ และหวังว่า กุลธิรัตน์จะมาทายาทให้ตน คลอดเมื่อไหร่ เฉดหัวออกจากบ้านเมื่อนั้น

          “คงเบื่ออยู่บ้านมั้งคะคุณแม่ คงรู้ตัวน่ะค่ะว่า คนที่นี่ไม่ชอบหน้า” มณีคาดเดา

          “หรือไม่ก็อาจมีนัดกับใคร ถึงได้ออกจากบ้านทุกวัน” ประโยคนี้กระแทกใจธรรม์บดีอย่างจัง ทำให้เขานึกย้อนไปเมื่อวันที่เจอกุลธิรัตน์เดินกุมมือผู้ชายในห้างสรรพสินค้า เขาตั้งใจพูดเรื่องนี้กับหล่อน แต่พอกลับถึงบ้าน เขาทำใจคุยกับหล่อนไม่ได้ เพราะแค่หน้ายังไม่อยากมอง

          “ผมไปทำงานก่อนนะครับ” ธรรม์บดียกมือไหว้ผู้อาวุโส ลุกขึ้นเดินออกจากห้องกินข้าวเพื่อเดินทางไปทำงาน ขณะเดินไปยังรถยนต์ สมองเขานึกถึงกุลธิรัตน์ อยากรู้ขึ้นมาทันใดว่า หล่อนไปไหนทุกวัน

          ธรรม์บดีขับรถออกจากซอยบ้าน เขาเลี้ยวรถออกถนนใหญ่ ขับออกไปราวห้าสิบเมตรจะเจอป้ายรถเมล์ ความที่วันนี้การจราจรค่อนข้างหนาแน่น เนื่องจากเกือบถึงไฟแดงรถเกิดอุบัติเหตุ เขาจึงอยู่เลนซ้ายมือสุด ขณะรอรถขยับ สายตามองเห็นกุลธิรัตน์ หล่อนยืนอยู่ตรงป้ายรถเมล์ และกำลังเปิดประตูรถยนต์ยี่ห้อหรู นำเข้าจากต่างประเทศ ยี่ห้อรถและรุ่น ธรรม์บดีรู้ราคาดี มันสูงถึงยี่สิบห้าล้านบาท ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า เจ้าของรถต้องมีฐานะดีมากๆ

          “ไปไหน ไปกับใครวะ” ความอยากรู้แน่นอกมาก “ท่าทางรวยไม่เบา”

          รถก็ติด จะขยับไปเลนกลางเพื่อดูหน้าคนขับชัดๆ ก็ไม่ได้

          “หรือว่าจะเป็นแฟนยัยลูกหมาวะ” คิดเองเออเองคนเดียว “แม่งรวยนี่หว่า มิน่าถึงไม่ยอมเลิก คิดจับปลาสองมือนี่เอง ร้ายไม่เบาเลยนะ ยัยลูกหมา”

          จังหวะที่ธรรม์บดีรอมาถึง เมื่อเลนกลางขยับ เขาจึงเลื่อนรถไปเลนดังกล่าว ขับไปอีกประมาณยี่สิบเมตรก็เห็นรถคันหรูที่กุลธิรัตน์นั่งอยู่ ทว่ากระจกรถติดฟิล์มกันแสง ไม่สามารถมองเข้าไปด้านในได้ เขาเห็นเพียงทะเบียนรถ ไม่รู้เหตุใดเขารีบจดทะเบียนรถคันนั้นทันที

          “แล้วกูจะจดไว้ทำห่าอะไรวะ”

จดเสร็จก็บ่นกับตัวเอง มองรถยนต์สีแดงเพลิงที่กำลังเลี้ยวไปทางซ้ายตรงแยก ส่วนทางที่เขามุ่งหน้าไปทำงานคือทางตรง ธรรม์บดีได้แต่มองด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก...บอกไม่ถูกจริงๆ

          สถานสงเคราะห์เด็กบ้านพันดาว คือจุดหมายปลายทางของเจ้าของรถสีแดงเพลิง คนขับรถนำรถมาจอดหน้าอาคารสูงสองชั้น ก่อนที่คนในรถจะก้าวลงมา แล้วพากันเดินเข้าไปในอาคาร

          “สวัสดีค่ะคุณนิ ลูกหมี”

อำพร หัวหน้าดูแลเด็กและเจ้าหน้าที่ทักทายสองสาว ชนิตพรกับกุลธิรัตน์พนมมือไหว้อำพร ที่ยกมือรับไหว้

          “นิพาลูกหมีมาส่งค่ะ ขอโทษนะคะที่วันนี้มาส่งช้า มีรถเกิดอุบัติเหตุน่ะค่ะ รถเลยติดยาว” ชนิตพรบอกกล่าว

          “ช้านิดช้าหน่อยไม่ว่ากันค่ะ”

          “ลูกหมีขอตัวไปดูเด็กๆ ก่อนนะคะพี่นิ” กุลธิรัตน์บอก ชนิตพร

          “ไว้ตอนบ่ายพี่มารับนะ”

          “ลูกหมีกลับเองก็ได้ค่ะ พี่นิจะได้ไม่ลำบากมารับ เผื่อพี่นิมีธุระ” กุลธิรัตน์กล่าวอย่างเกรงใจ

          “พี่ไม่มีธุระที่ไหนหรอก ไว้พี่มารับนะ”

          “ค่ะ ลูกหมีไปก่อนนะคะ” คนพูดยิ้มให้ชนิตพรกับอำพร จากนั้นจึงเดินไปทำหน้าที่ของตน

          “ลูกหมีเข้ากับเด็กๆ ได้ดีเลยค่ะ นิสัยก็น่ารักด้วย”      อำพรพูดกับชนิตพร “ทำงานไม่เกี่ยงด้วยค่ะ จนบางครั้งพี่ไม่กล้าใช้ลูกหมี อาจเป็นเพราะลูกหมีแค่มาช่วยงานไม่กี่วัน”

          เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งลาออกไป ทำให้ขาดคนทำงาน ด้วยจำนวนเด็กที่ต้องดูแลมีเกือบหกสิบคน เมื่อขาดไปหนึ่งคน คนที่เหลืออยู่ก็ต้องเหนื่อยมากขึ้น เพราะต้องเจียดเวลามาทำหน้าที่แทน ชนิตพรที่รับหน้าที่ดูแลภาพรวมของสถานสงเคราะห์รู้เรื่อง จึงเปิดรับสมัครเจ้าหน้าที่คนใหม่

มีคนสนใจสมัครหลายคน ทว่ากลับเข้าตาเพียงหนึ่ง แต่คนนั้นมาทำงานได้สิ้นเดือนนี้ เนื่องจากรอให้งานทำบุญเลี้ยงวันเสียชีวิตบิดาร้อยวันผ่านไปก่อน จะได้ไม่ต้องลางานเพื่อจัดงานดังกล่าว อีกหลายวันกว่าจะถึงสิ้นเดือน ชนิตพรต้องการหาคนมาช่วยงานชั่วคราว หล่อนสอบถามมิ่งเมือง หนึ่งในเด็กในสถานสงเคราะห์ที่เคยดูแลว่า รู้จักใครที่พอรับงานนี้หรือไม่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อุ้มรักสามีไร้ใจ   วิวาห์พยศใจ Chapter 6

    Chapter 6“คุณปู่เหมือนไม่มีทางเลือกให้ผมเลย” เขาเอ่ยเสียงอ่อน“ย่าไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงว่า คุณปู่ทำแบบนี้ทำไม แต่ในเมื่อเป็นความต้องการของคุณปู่ หลานก็ทำไปก่อน แต่การเลิกลากันเพราะอยู่กันไม่ได้ คุณปู่คงไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่าย ใหญ่ไม่ต้องห่วงนะลูก ย่าจะช่วยหลานเอง รับรองมันอยู่บ้านหลังนี้ในฐานะเมียของใหญ่ได้ไม่นานแน่” นางหาทางโน้มน้าวต่อ“คุณปู่กำหนดวันแต่งงานหรือยังครับคุณย่า”“วันอาทิตย์หน้าจ้ะ” จอมทัพตกใจอีกรอบ เมื่อได้ยินคำตอบ“ทำไมมันเร็วจังครับ ผมมีเวลาทำใจแค่อาทิตย์เดียวเอง”อย่างนี้สินะที่เรียกกันว่า แต่งงานสายฟ้าแลบ หากเป็นงานวิวาห์ที่เขาปรารถนา เร็วกว่านี้เขาก็ยอม ทว่าสถานการณ์แบบนี้มันไม่ใช่“คุณปู่บอกว่า เตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว รอแค่ใหญ่ยอมแต่งเท่านั้น” สกาวใจเองก็ไม่คิดว่าจะเร็วปานจรวดเช่นนี้ “แต่งเร็วก็ดีนะ มันจะได้กระเด็นออกไปจากบ้านหลังนี้เร็วๆ หลานจะได้ไปแต่งงานกับน้ำหวานไง นะใหญ่นะ ทำตามที่คุณปู่ว่านะลูก”จอมทัพถอนหายใจอีกรอบก่อนจะตอบ“ผมมีทางเลือกด้วยหรือครับคุณย่า คุณปู่ประกาศิตมาซะขนาดนี้” ใช่...ลิขิตไม่ให้ทางเลือกเขาเลย “ผมจะทำตามที่คุณปู่ต้องการ ผมจะทำให้ผู้หญิงค

  • อุ้มรักสามีไร้ใจ   วิวาห์พยศใจ Chapter 5

    Chapter 5 สกาวใจเดินมาหยุดหน้าห้องนอนของหลานชาย วันนี้นางตั้งใจจะพูดเกลี่ยกล่อมให้จอมทัพยอมแต่งงาน ถึงแม้ว่าจะหนักใจไม่น้อยกับภารกิจนี้ แต่พอนึกถึงผลประโยชน์ที่ตนจะได้ ทำให้กำลังใจพุ่งสูง แผนการพูดหว่านล้อมก็บังเกิด แล้วคิดว่ามันจะสำเร็จสวยงามตามตั้งใจ ก่อนจะรวบรวมพลังเคาะประตูห้อง อึดใจต่อมาประตูห้องบานนั้นก็เปิดออก “ย่ามีเรื่องจะคุยด้วย ใหญ่พอมีเวลาให้ย่าไหมลูก”จอมทัพชะงักไปเล็กน้อยกับประโยคที่ได้ยิน เพราะตลอดหลายปีมานี้ สกาวใจไม่เคยมาหาเขาที่ห้อง หากจะมีเรื่องคุยก็ไปคุยระหว่างทานอาหาร หรือไม่ก็ในห้องรับแขก ห้องนั่งเล่นแล้วแต่โอกาส การที่สกาวใจมาหาเขาในวันนี้ ต้องมีเรื่องสำคัญจะพูดด้วยแน่นอน ในใจคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องการถูกคลุมถุงชน “เชิญครับคุณย่า” สกาวใจก้าวเข้าไปในห้องหลานรัก ทรุดกายลงนั่งบนโซฟาปลายเตียง โดยมีจอมทัพนั่งอยู่ใกล้ๆ “คุณย่ามีอะไรจะพูดกับผมครับ” “ย่าพูดตรงๆ นะใหญ่ ย่าอยากให้ใหญ่แต่งงานตามที่คุณปู่บอก”จอมทัพอึ้งและตกใจ ที่อยู่ๆ สกาวใจก็มาพูดให้เขายอมทำตามความต้องการของลิขิต ทั้งที่เมื่อวานนี้สกาวใจมีทีท่าไม่เห็

  • อุ้มรักสามีไร้ใจ   วิวาห์พยศใจ Chapter 4

    Chapter 4 ร้านศรัญญาเบเกอรี่ ร้านกาแฟและเบเกอรี่ขนาดสองคูหาในตึกแถวริมถนนสายธุรกิจที่มีผู้คนพลุกพล่าน มากหน้าหลายตาไม่ว่าจะเป็นคนไทยและชาวต่างชาติที่สัญจรไปมาตลอดทั้งวัน ส่งเสริมให้ร้านค้าร้านขายต่างๆ ในย่านดีพลอยขายดีไปด้วย ร้านแห่งนี้ก็เช่นกัน มีลูกค้ามาใช้บริการต่อเนื่อง ยิ่งช่วงเที่ยงจะมีลูกค้ามากเป็นพิเศษ ทำให้พนักงานในร้านและเจ้าของร้าน ชงเครื่องดื่มตามออเดอร์แทบไม่ทัน ร้านดังกล่าวเปิดได้เพียงหนึ่งปี แต่มีลูกค้าขาประจำมาซื้อเบเกอรี่ที่มีอยู่หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นขนมปังไส้ต่างๆ แยมโรล พายและขนมเค้ก โดยเฉพาะเค้กเป็นอาหารขึ้นชื่อของร้านนี้ เนื่องจากเจ้าของร้านทำสูตรเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร และนั่นทำให้มีออเดอร์สั่งยาวเหยียดนานหลายเดือน แล้วดูเหมือนว่า ออเดอร์จากลูกค้าจะมีต่อเนื่องไปถึงสิ้นปีไพลินสาวมั่น ฝีปากกล้า ไม่กลัวคนเดินฉีกยิ้มเข้ามาในร้านอย่างคุ้นเคย หญิงสาวมองลูกค้าที่มาใช้บริการแล้วยิ้มกับความสำเร็จของเพื่อน ที่นับวันจะมีลูกค้ามากขึ้น ก่อนจะเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม ที่มีพนักงานรับออเดอร์ลูกค้า“นก แก้วอยู่ไหม” ไพลินถามหาเพื่อนรักกับดวงกมลพ

  • อุ้มรักสามีไร้ใจ   วิวาห์พยศใจ Chapter 3

    Chapter 3“คุณพ่อครับ ผมขอโทษแทนใหญ่ด้วยนะครับ” คนกลางอย่างวิมุต รีบขอโทษบิดาแทนบุตรชาย “ดวงกราบขอโทษคุณพ่อค่ะ ใหญ่อาจจะพูดแรงไปหน่อย เดี๋ยวดวงจะพูดกับใหญ่เองค่ะ” ดวงดาราขอโทษแทนจอมทัพอีกคน ทว่าทีท่าของลิขิตยังคงนิ่งเฉยจนสองสามีภรรยานึกหวั่น“ทุกคนออกไปก่อน พ่อมีเรื่องจะคุยกับแม่”เป็นคำสั่งที่ทุกคนพร้อมจะปฏิบัติตาม วิมุตเดินนำภรรยาและบุตรสาวอีกสองคนเดินออกไปจากห้อง รั้งท้ายด้วยนภาพร“เรื่องที่จะคุยกับฉันมีลับลมคมนัยมากหรือไง ถึงได้ต้องให้ทุกคนออกไปจากห้องนี้”“ผมอยากให้คุณช่วยเรื่องใหญ่” ลิขิตเปิดเรื่อง“ช่วยเรื่องใหญ่” นางทวนคำพูด “จะให้ฉันช่วยพูดกับใหญ่ให้แต่งงานกับผู้หญิงที่คุณหาให้ใช่ไหม”“ใช่”“ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ช่วย ฉันเห็นด้วยกับใหญ่ที่ใหญ่น่าจะหาคู่ชีวิตเอง ไม่ใช่ถูกคลุมถุงชนที่ไม่มีใครเขาทำกันแล้ว”สกาวใจเลือกที่จะเข้าข้างหลานชาย สิ่งใดที่สามีคิดว่าดี นางจะค้าน เรื่องใดที่สามีเห็นว่าสมควร นางจะคิดต่างตรงกันข้าม ซึ่งลิขิตนึกอยู่แล้วว่าต้องออกมาในรูปแบบนี้“คุณยังอยากได้ไร่รังสรรค์อยู่หรือเปล่า ถ้าอยากได้ผมจะยกให้ แต่มีข้อแม้ว่าคุณต้องช่วยผมพูดกับใหญ่ ให้ใหญ่ยอมแต่งงาน”ข้อเสน

  • อุ้มรักสามีไร้ใจ   วิวาห์พยศใจ Chapter 2

    Chapter 2“เอ...แล้วมันเรื่องอะไรกันนะ ใหญ่พอจะรู้ไหมลูก” ดวงดาราหันมาถามบุตรชายที่เป็นเพียงคนเดียวที่ไม่อยากรู้เรื่องนี้“ผมไม่ทราบครับคุณแม่” จอมทัพตอบตามตรงการสนทนาของคนภายในห้องยุติลง เมื่อลิขิตก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับนภาพรภรรยาน้อย สกาวใจมองค้อนสามี ก่อนจะจิกสายตาใส่นภาพรที่ยกมือไหว้ แต่แทนที่นานๆ จะได้อยู่กันพร้อมหน้าสักครั้ง สีหน้าทุกคนจะชื่นมื่น ตรงกันข้ามกลับมีความอึดอัดลายล้อมไปทั่วบริเวณ โดยเฉพาะสกาวใจ ผู้สูงวัยอายุเจ็ดสิบปีที่ไม่อยากจะมานั่งอยู่ในห้องนี้ แต่ก็จำยอมมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “มีอะไรก็รีบพูดมาดีกว่า ฉันรู้สึกคลื่นไส้เมื่อเห็นหน้าใครบางคน เดี๋ยวความดันฉันขึ้น”สกาวใจเชิดหน้าพูดใส่สามี ปรายตามองนภาพรภรรยาน้อยอย่างเกลียดชัง อยากจะลุกขึ้นไปกระชากผมแล้วตบหน้าให้สาสมกับความคั่งแค้นในจิตใจ“นานๆ ทีจะอยู่กันพร้อมหน้า พูดดีๆ กันไม่ได้หรือไง”ลิขิตอ่อนใจเรื่องนี้ไม่น้อย แล้วรู้ดีว่าสิ่งที่ตนทำนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่สมควรให้อภัย เขาจึงไม่คิดโกรธเคืองในคำพูดของสกาวใจที่มักจะพูดเหน็บแนมและแขวะเนืองๆ“คุณไม่เป็นฉัน คุณไม่รู้หรอกว่าฉันร

  • อุ้มรักสามีไร้ใจ   วิวาห์พยศใจ Chapter 1

    Chapter 1กระเป๋าเดินทางหลายใบถูกลำเลียงมาไว้หน้าบ้านไม้สองชั้น ตั้งอยู่บนเนื้อที่หนึ่งร้อยตารางวา ก่อนที่เจ้าของกระเป๋าจะเดินออกมายืนรอรถตู้ที่จะรับไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา ไปใช้ชีวิตอยู่ที่โน้นกับสามีใหม่ของธนวรรณ ที่หอบหิ้วบุตรสาวและน้องสาวไปอยู่ด้วยเด็กหญิงธนัสสรณ์หรือน้ำหวานวัยสิบสองปีหนึ่งในสมาชิกของบ้านหลังนี้ ชะเง้อคอมองไปยังประตูรั้วบ้านไม่วางตา ราวกับว่ากำลังรอใครบางคนอยู่“มองหาพี่ใหญ่เหรอจ้ะน้ำหวาน” ธนพรน้าสาวเอ่ยถามหลานสาวอย่างรู้ใจ“ใช่ค่ะ พี่ใหญ่สัญญาว่าจะมาส่งน้ำหวาน” ปากเด็กหญิงพูด ทว่าสายตายังคงมองไปยังมองไปยังจุดเดิม“เดี๋ยวพี่ใหญ่คงมา พี่ใหญ่เป็นคนรักษาสัญญา รับปากอะไรไว้ก็ต้องทำตามนั้น” ธนพรปลอบหลานรักพร้อมกับฉีกยิ้มเมื่อเห็นร่างของคนที่ธนัสสรณ์รอคอย เดินเข้ามาในบ้าน “นั่นไง พี่ใหญ่มาแล้ว”ธนัสสรณ์มองคนที่ตนเองรอคอยด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าในใจจะหมองเศร้าที่ต้องจากพี่ชายข้างบ้านที่แสนดีไปอยู่คนละซีกโลก แต่อย่างน้อยก่อนจากลาเธอก็ได้พบหน้าเขา“สวัสดีครับคุณอา” จอมทัพ รุจิเวโรจน์วัยสิบเจ็ดปีพนมมือไหว้เจ้าของบ้าน รวมทั้งธนพร“สวัสดีจ้ะ” ธนวรรณมารด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status