มิ่งเมืองเห็นว่ากุลธิรัตน์ว่างงาน และไม่อยากให้เพื่อนสนิทอยู่ในบ้านที่ไม่มีใครต้องการ ในวันที่นัดเจอกุลธิรัตน์กับพัชรินทร์ เขาพูดเรื่องนี้กับกุลธิรัตน์ ซึ่งหล่อนก็ยินดีทำแม้ว่าเพียงแค่เจ็ดวันก็ตาม ได้เงินไม่กี่พัน หล่อนก็ไม่เกี่ยง เก็บสะสมไว้เผื่อตอนได้งานทำ จะได้มีทุนเอาไว้ไปทำงาน
“เสียดายนะคะที่รู้จักลูกหมีทีหลัง ไม่งั้นจะให้มาทำงานที่นี่เลย” ชนิตพรเสียดายข้อนี้ เพราะหายากที่เพียงไม่กี่วัน กุลธิรัตน์ก็เข้ากับเด็กๆ ได้ดี “นิไปก่อนนะคะ ต้องไปทำธุระให้คุณแม่”
“ค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ”
ชนิตพรยิ้มให้คนพูด ก่อนหมุนตัวเดินไปขึ้นรถยนต์ จากนั้นก็ขับออกไป
ภายในห้องขนาดค่อนข้างใหญ่ มีเด็กหญิงและเด็กชายวัยหนึ่งปีถึงสี่ปีราวสิบคน นั่งเล่นอยู่บนพื้น โดยมีพี่เลี้ยงสองคนคอยช่วยกันดูแล แม้ว่ากุลธิรัตน์จะเหนื่อย หัวหมุนกับความซน ความดื้ออันไร้เดียงสาของเด็กๆ ทว่าหล่อนกลับมีความสุข สามวันมานี้ หล่อนยิ้ม หัวเราะมากขึ้น นัยน์ตาหม่นเศร้า มีความสดใส ร่าเริง ถึงจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่กุลธิรัตน์ถือว่า เป็นการบรรเทาความทุกข์ในใจลงไปได้มากโข
ความบริสุทธิ์ สดใสของพวกเด็กๆ เหมือนขุมพลังที่เติมเต็มความเหนื่อยล้าจากสิ่งที่เธอพบเจอทุกๆ วัน นั่นคือ ความเกลียดชังจากผู้ใหญ่ใจร้ายใจดำ ที่ไม่รู้ว่า ชาตินี้ทั้งชาติ ตนจะหลุดพ้นกับบ่วงความเกลียดชังหรือไม่
ฐากูร อนันตเวช
คือชื่อเจ้าของรถหรูสีแดงเพลิงเมื่อเช้านี้ เมื่อความสงสัยและอยากรู้แน่นอก ธรรม์บดีใช้ความเป็นเพื่อน บังคับให้เพื่อนที่ทำงานอยู่ในกรมขนส่งช่วยสืบจากเลขทะเบียนที่จดไว้เมื่อเช้านี้ว่า เป็นของใคร
“มันคือใครวะ” ธรรม์บดีพูดกับตัวเอง หลังจากได้ชื่อและนามสกุลเจ้าของรถ ทางเดียวที่จะได้รู้เพิ่มเติมคือ ค้นหาข้อมูลในกูเกิ้ล เพราะในนี้มีแทบทุกอย่างที่อยากรู้ ไม่นานข้อมูลที่ต้องการรู้ ก็ขึ้นมาบนหน้าจอโน้ตบุ๊ก ตอนแรกคิดว่า คนนี้คือชายคนเดียวกับที่เห็นกุลธิรัตน์กุมมือ แต่พอเห็นหน้ากลับเป็นคนละคน “ยัยลูกหมา เธอคบผู้ชายกี่คนเนี่ย”
“คนนี้รวยไม่เบาเลย เป็นหมอด้วย” จากข้อมูล ฐากูรเป็นลูกชายแม่เลี้ยงชื่อดังเมืองเชียงใหม่ มีธุรกิจหลายอย่างที่นั่น และยังเป็นนายแพทย์ศัลยกรรมอนาคตไกลอีกด้วย เขายังไม่ทันอ่านประวัติในกูเกิ้ลเสร็จดี ก็รีบกดปิดเลยไม่รู้ว่า ฐากูรมีภรรยาแล้ว “ยัยลูกหมานี่ไม่เบา จับแต่คนรวยๆ จับปลาหลายมือซะด้วย”
ธรรม์บดีคิดในทางไม่ดี เขามั่นใจความคิดตัวเองมากว่า กุลธิรัตน์ไม่ได้มีเขา ในฐานะสามีคนเดียว หล่อนคบหาหลายคนมาก และอาจหลับนอนกับทุกคน ยกเว้นตน ที่เปรียบเสมือนคนโง่ เสียเงินสามสิบล้าน แต่แขนไม่ได้จับ ถูกครอบครัวกุลธิรัตน์หัวเราะเยาะจนตายแน่ๆ
เหอะ...ไม่มีทาง
คิดแล้วแค้น แค้นใจมาก
“เราต้องคุยกันสักที ยัยลูกหมา”
ครั้งนี้ธรรม์บดีไม่ปล่อยผ่าน ตอนนี้หล่อนอยู่ในสถานะเมีย แม้เป็นเมียที่ไม่ต้องการ ไม่มีใจสิเน่หา และไม่เป็นที่รู้ของคนในสังคม แต่เขากับครอบครัวรู้ รวมถึงเพื่อนสนิทอีกสองคน ธรรม์บดีไม่มีวันยอมเสียเปรียบไปมากกว่านี้แน่ และหากเขามีลูกกับกุลธิรัตน์ เขาต้องมั่นใจว่า เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขหิรัญภักดีร้อยเปอร์เซ็นต์
รถสีแดงเพลิงแล่นมาจอดหน้าอาคารสถานสงเคราะห์บ้านนับดาว ทว่าคนที่ก้าวลงมาไม่ใช่ชนิตพร แต่เป็นร่างสูงใหญ่ของนายแพทย์ฐากูร สามีชนิตพร เขาเดินเข้าไปในตัวอาคาร คลี่ยิ้มให้อำพรที่ยืนอยู่หน้าห้องทำงาน
“สวัสดีค่ะคุณหมอเอื้อ”
“สวัสดีครับพี่พร” เขาทักทายกลับอย่างเป็นกันเอง “ผมมารับลูกหมีแทนนิน่ะครับ”
“อ๋อค่ะ เดี๋ยวพี่ไปเรียกลูกหมีให้นะคะ” อำพรเดินไปยังห้องเด็กเล็กที่อยู่ด้านในสุด ไม่นานนักก็เดินกลับมาหาฐากูรพร้อมกับกุลธิรัตน์
ฐากูรไม่เคยเจอหน้ากุลธิรัตน์มาก่อน เขารู้จักผ่านการบอกเล่าของภรรยา ที่มักพูดถึงกุลธิรัตน์ในทางที่ดี ว่าน่ารัก นิสัยดี เคยยืนดูเวลากุลธิรัตน์เลี้ยงเด็ก แล้วรู้ได้ทันทีว่าเป็นคนจิตใจดี ใจเย็นและเป็นมิตรกับทุกคน พอได้เห็นด้วยตาตัวเอง ความรู้สึกบางอย่างพุ่งเข้ามาในจิตใจนายแพทย์หนุ่ม
เหมือนเขาได้มองน้องสาวตัวเอง...
สาวตรงหน้าไม่ใช่คนสวยจัด หล่อนมีความน่ารักมากกว่า มองเพลินไม่รู้สึกเบื่อหน่าย หรืออยากละสายตา จมูกโด่งรับกับริมฝีปากเรียวรูปกระจับ รูปปากที่สาวๆ อยากได้ ดวงตากลม สองชั้น แม้นัยน์ตาดูเศร้า ทว่ากลับมีเสน่ห์ ดวงหน้าหล่อนตอนนี้ธรรมชาติมาก ไร้เครื่องสำอาง แต่ชวนมองมาก
กุลธิรัตน์มองคนที่มารับตนด้วยรอยยิ้ม ก่อนหน้าที่ฐากูรมารับ ชนิตพรโทรบอกหล่อนล่วงหน้า ตอนแรกกุลธิรัตน์ปฎิเสธเพราะกลับบ้านเองได้ ชนิตพรยืนกรานจุดประสงค์ เนื่องจากวันนี้ต้องการเลี้ยงอาหารเย็นกุลธิรัตน์ที่บ้าน และคัดเสื้อผ้าส่วนหนึ่งไว้ให้ หล่อนจึงต้องไปตามคำชวน
เขาเป็นผู้ชายที่อบอุ่นจัง...กุลธิรัตน์ประหลาดใจกับความรู้สึกนี้ เป็นเสี้ยววินาทียามเห็นฐากูร รอยยิ้มเขาดูเป็นมิตร ร่างกายและอ้อมแขนเขา หากได้โอบกอดหล่อน มันคือป้อมปราการปกป้องจากภัยอันตรายทั้งปวง หล่อนอยากมีพี่ชายแบบนี้
แปลกจัง ทำไมรู้สึกอย่างนี้นะ...
บทที่ 86 “น้าคงจำผมได้ใช่ไหมครับ เจ้าของเงินห้าแสนที่ให้น้าแก้กรรมให้เมียผมเมื่อสิบวันก่อน” ธรรม์บดีถามหลังจากทรุดตัวนั่งบนโซฟา “ค่ะ จำได้ค่ะ” เสียงตอบค่อนข้างสั่น หัวใจเต้นแรง “ไหนล่ะครับ หลักฐานว่าน้าแก้กรรมให้แล้ว ตั้งแต่จ่ายเงินไป ผมไม่ได้รับการติดต่อจากน้าเลย” ธรรม์บดีทวง สมใจแม้ว่าใจหวาดหวั่น แต่นางตั้งสติได้ เปิดคลิปที่บันทึกไว้ให้ธรรม์บดีดู “นี่ไงคะ น้าว่าจะส่งให้ดูก็ลืมทุกที” สมใจทำสีหน้าปกติ “คลิปนี้หรือครับ ที่น้าทำพิธีให้เมียผม” ธรรม์บดีถามย้ำ “แน่ใจนะครับว่าเป็นพิธีแก้กรรมให้เมียผม” “ใช่ค่ะ คลิปนี้แหละค่ะ” สมใจตอบไม่ติดขัด ครั้งนี้สมใจใจไม่สู้ดีนัก นางต้มตุ๋นคนมาเยอะ ไม่เคยถูกจับได้เลยสักครั้ง แม้บางหนจะคล้ายถูกจับผิดได้ แต่ก็ผ่านช่วงนั้นมาได้ ทว่าเวลานี้ นางใจเต้นระส่ำมาก กลัว กังวลอย่างบอกไม่ถูก “เอ...ผมว่าคลิปนี้ผมเคยเห็นนะครับ” ธรรม์บดีพูด ขณะหยิบมือถือตนขึ้นมาเปิดคลิป ก่อนหันหน้าจอมมือถือให้สมใจดู “นี่ไงครับ พิธีกรรมเหมือนกันเลย เป็นแบบนี้แล้ว คลิปที่น้าให้ผมดู จะใช้พิธีกรรมที่น้าทำให้เมียผมจริงหรื
บทที่ 85 “พี่อิฐ...อา...พี่อิฐ” เขาเร่งเร้าอารมณ์กุลธิรัตน์เก่งมาก จุดเชื่อมต่อขยับเข้าออกเนิบช้า บางจังหวะมีเผลอกระแทกแรงๆ แต่เพียงไม่กี่ครั้ง มือใหญ่ทำงานอยู่สองจุดคือ หนึ่งนวดเฟ้นทรวงอกสล้างทั้งสองข้าง หมนุยอดถันบ้างบางเวลา จุดที่สองคือ เนินสวาทเต็มมือ เขาวางนิ้วลงบนเม็ดกระสัน สะกิดบ้าง บดบี้บ้าง ทำงานควบคู่กับเอวใหญ่กระชั้นกายแกร่งเข้าสู่คูหาสวรรค์ “พี่อิฐ พี่อิฐ”“ลูกหมี...ที่รัก...อา” ความสุขสมของกุลธิรัตน์ โอบรัดลำทวนใหญ่จนเขาเสียวไปทั่วตัว เร่งจังหวะมากขึ้นอีกหน่อย เพื่อให้ตนทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า “ที่รัก...ที่รักของพี่”ธรรม์บดีหยุดแช่นิ่งตัวตนในจังหวะสุดท้าย กอดร่างอวบอิ่มไว้แน่น จูบหัวไหล่หล่อนเบาๆ หลังจากดึงกายชายออกจากตัว เขาอุ้มร่างคนท้องเข้าห้องน้ำ เพื่ออาบน้ำให้หล่อนสดชื่น เวลานอนจะได้หลับสบาย แล้วเสร็จก็พาภรรยามานอนที่เตียง“พี่รักลูกหมีนะครับ” เช่นทุกคืนก่อนนอน ที่เขาเอ่ยคำนี้ ก้มหน้าจูบหน้าผากกุลธิรัตน์“ลูกหมีรักพี่อิฐค่ะ” ผลัดกันบอกรัก เติมความหวานให้กันและกัน ธรรม์บดียิ้ม เอนตัวนอนข้างหล่อน โอบกอดภรรยาที่รักสุดหัวใจ และไม่มีวันให้ใครทำร้ายหล่อนได้แม้แต่ปลายก้อย หาก
บทที่ 84 “วันนี้ลูกหมีคงตกใจน่าดู พี่จูบปลอบขวัญละกันนะครับ”ธรรม์บดีรั้งร่างอวบเข้ามากอด เขาบรรจงแนบปากลงบนกลีบปากนุ่มละมุน ตรึงใจเขาเรื่อยมาแม้ว่าผ่านมาหลายปี กุลธิรัตน์เป็นสตรีคนเดียวในโลกที่ธรรม์บดีปรารถนา และวางหัวใจให้ จุมพิตครั้งนี้ไม่ต่างกับครั้งก่อน ยังคงอ่อนหวาน อ่อนโยนและเรียกร้องไปในที เปรียบเสมือนเป็นจุดเริ่มต้นของบทเพลงรัก ที่เขากำลังป้อนให้ภรรยา อายุครรภ์หกเดือนไม่ใช่ปัญหา ธรรม์บดีรู้ดีว่า ตนต้องทำอย่างไร ให้เขาและภรรยามีความสุข ในขณะเดียวกันก็ทะนุถนอมลูกน้อยในครรภ์ หลังจากจุมพิตปากหวานสะท้านใจจนพอใจ เขาละห่างเพื่อจัดการชุดนอนของกุลธิรัตน์ให้พ้นตัว เมื่อหล่อนอยู่ในสภาพไร้ซึ่งอาภรณ์ เขาวางมือลงบนท้องนูน ลูบแผ่วเบา คล้ายทักทายคนสำคัญในนั้น ร่างอวบอิ่มถูกดันให้นอนราบบนที่นอน ธรรม์บดีเอนตัวเกยก่าย มือใหญ่วางลงบนดอกบัวสล้าง ที่ใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย บีบเบาๆ เคล้นหนักมือพอประมาณ “พี่รักลูกหมีที่สุดในโลก” ธรรม์บดีเอ่ยคำหวาน จุมพิตปากสาวอีกรอบ ไม่นานนักเขาเปลี่ยนเป้าหมายไปยังแก้มนวล แวะเวียนหอมหลายฟอด ปลุกความซ่านสยิวให้สาวเจ้าตรง
บทที่ 83 “น้าดูดวงให้ใครมาเยอะค่ะ แล้วทุกคนก็เชื่อตามที่น้าแนะนำ แต่ก็มีบ้างค่ะที่ไม่เชื่อ คนเชื่อและทำตามก็ดีไป แก้กรรมได้ทัน บางคนไม่เชื่อ ไม่ทำตามที่น้าบอก เลยเกิดเรื่องไม่ดี อย่างคนนึงค่ะ น้าบอกว่าหลานที่เกิดมาถ้าเป็นผู้ชายจะดี แต่ถ้าเป็นหญิงไม่ดี เธอกลับไม่เชื่อน้าค่ะ สุดท้ายก็ได้หลานผู้หญิง ครอบครัวเลยวิบัติ ถ้าเชื่อน่าแล้วทำตามล่ะก็ คงไม่เป็นแบบนี้” สมใจพูดโอ้อวดกุลธิรัตน์หน้าเสียขึ้นมาทันใด มีความตกใจเข้าแทรก เพราะเรื่องราวคล้ายกับลัดดา ที่เชื่อหมอดูมากเหลือเกิน หล่อนจับมือสามีไว้แน่น ซึ่งธรรม์บดีรับรู้ได้ว่า ภรรยารู้สึกเช่นไร เดือนดาว มณี กรกนกทำหน้าเหมือนมีอะไรติดในใจ กับเรื่องราวคุ้นๆ “แล้วโหงวเฮ้งเมียผมเป็นยังไงครับ มีอะไรร้ายแรงหรือเปล่าครับ” ธรรม์บดีถามราวกับว่าสนใจ เขาอยากรู้ว่า สมใจจะมาไม้ไหน “แล้วพอจะบอกผมได้ไหมครับว่า ชื่อของคนที่คุณบอกว่า ไม่เชื่อคำพูดคุณ แล้วครอบครัววิบัติ คือใคร” “ได้สิคะ ยกตัวอย่างคนนี้ค่ะ ชื่อลัดดา น้าบอกเธอว่า ถ้าหลานเกิดมาเป็นผู้หญิงจะไม่ดี แต่เธอไม่เชื่อค่ะ ให้หลานสาวเกิดมาจนได้ ก็เลยเกิดเรื่องไม่ดี” สมใจได้รับเ
บทที่ 82 วันหยุดยาวหลายวัน สองครอบครัวมีทริปเที่ยวทะเล ตามที่ธวัฒน์ชลอยากมา สถานที่ที่ทั้งหมดเลือกคือ ทะเลแถวจังหวัดตรัง บ้านพักริมทะเลของญาติกรกนกคือบ้านพักของพวกเขา ครั้งนี้มากันครบองค์ประชุม นอกจากเหตุผลตามใจธวัฒน์ชล อีกเหตุผลหนึ่งคือ ธรรม์บดีมาติดต่อซื้อบ้านพักที่อยู่ห่างไปสี่ร้อยเมตร เจ้าของประสบปัญหาทางการเงิน จึงขายในราคาต่ำกว่าราคาประเมิน เมื่อฐากูรรู้เรื่องจึงนำมาบอกธรรม์บดี เขาสนใจเพราะคิดว่า ต่อยอดได้ ผ่านมาสี่ปีความพยายามฐากูรในการผลิตทายาทไม่เป็นผล ทั้งวิธีธรรมชาติและพึ่งวิวัฒนาการทางการแพทย์ ทั้งสองจึงไม่รีบเร่ง คิดในแง่บวกคือ หากมีบุญวาสนาต่อกัน ทายาททั้งคู่คงมาเอง การไม่รีบร้อน ปล่อยไปตามบุญพาวาสนา ทั้งคู่ตกลงกันว่า สุดท้ายไม่มีลูกจริง ก็จะเลี้ยงหลานที่เกิดจากกุลธิรัตน์กับเก็จมณี เพราะถือว่า เป็นคนในครอบครัวทั้งสองเช่นกัน เอ่ยถึงเก็จมณี ความรักครั้งแรกของหล่อนพังทลาย เมื่อเขาคนนั้นคือน้องชายตนเอง เก็จมณีจึงกลบความรักของตนไว้ก้นบึงหัวใจ ไม่เปิดใจรับใครทั้งสิ้น แม้คนที่มาจีบ บางคนโปรไฟล์เลิศ หล่อ รวย ดูดีมีชาติตระกูล หล่อนขอรับชายเ
บทที่ 81บ้านหิรัญภักดีหลังเท่าเดิม เพิ่มเติมคือ สมาชิกในบ้าน และความสุขที่มากขึ้นทุกวัน คนที่สร้างความสุขใจให้ทุกคน เป็นใครไม่ได้นอกจากเด็กชายธวัฒน์ชลหรือน้องชอปเปอร์ วัยสี่ขวบ จุดศูนย์รวมแห่งความรัก สร้างความบันเทิงให้ทุกคนไม่น้อย ไม่เพียงแค่ครอบครัวหิรัญภักดีที่ได้รับความสุข ครอบครัวอนันตเสรีได้รับความสุขเช่นกัน โดยเฉพาะกรกนก นางมีความสุขนอกจากมีหลานชายไว้อุ้มชู เก็จมณีลูกสาวนอกสายเลือดที่นางรักไม่ต่างกับลูก เป็นคนดีขึ้นมากแบบหนึ่งล้านเปอร์เซ็นต์ จากเดิมที่ไม่คิดทำอะไร เวลานี้เป็นเจ้าของร้านสเต็กที่ได้รับความนิยมในเวลาเพียงแค่หกเดือน ชื่อร้านของเก็จมณี ไม่ได้เลิศหรู เป็นภาษาต่างประเทศที่หลายร้านมักใช้ หล่อนใช้ชื่อ ร้านสเต็กกรกนก เพราะคิดว่า มารดาคือสิ่งมงคลที่สุดสำหรับชีวิต เป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน และเป็นแม่ที่ให้โอกาสลูกเสมอ โดยเฉพาะกับหล่อน ลูกที่นางไม่ควรได้รับโอกาสจากใคร นิสัยเก็จมณีเปลี่ยนไปเช่นกัน จากใช้ของฟุ่มเฟือย เก่งแต่ซื้อ แต่ไม่ค่อยใช้ เข้ากับคำพูดที่ว่า ของมันต้องมี โดยไม่สนใจเรื่องราคา เวลานี้เก็จมณีไม่ใช่นักช็อป หล่อนใช้ของที่มีอยู่สลับกันไป