Share

บทที่ 8

last update Last Updated: 2025-01-12 21:12:03

มิ่งเมืองเห็นว่ากุลธิรัตน์ว่างงาน และไม่อยากให้เพื่อนสนิทอยู่ในบ้านที่ไม่มีใครต้องการ ในวันที่นัดเจอกุลธิรัตน์กับพัชรินทร์ เขาพูดเรื่องนี้กับกุลธิรัตน์ ซึ่งหล่อนก็ยินดีทำแม้ว่าเพียงแค่เจ็ดวันก็ตาม ได้เงินไม่กี่พัน หล่อนก็ไม่เกี่ยง เก็บสะสมไว้เผื่อตอนได้งานทำ จะได้มีทุนเอาไว้ไปทำงาน

          “เสียดายนะคะที่รู้จักลูกหมีทีหลัง ไม่งั้นจะให้มาทำงานที่นี่เลย” ชนิตพรเสียดายข้อนี้ เพราะหายากที่เพียงไม่กี่วัน กุลธิรัตน์ก็เข้ากับเด็กๆ ได้ดี “นิไปก่อนนะคะ ต้องไปทำธุระให้คุณแม่”

          “ค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ”

ชนิตพรยิ้มให้คนพูด ก่อนหมุนตัวเดินไปขึ้นรถยนต์ จากนั้นก็ขับออกไป

          ภายในห้องขนาดค่อนข้างใหญ่ มีเด็กหญิงและเด็กชายวัยหนึ่งปีถึงสี่ปีราวสิบคน นั่งเล่นอยู่บนพื้น โดยมีพี่เลี้ยงสองคนคอยช่วยกันดูแล แม้ว่ากุลธิรัตน์จะเหนื่อย หัวหมุนกับความซน ความดื้ออันไร้เดียงสาของเด็กๆ ทว่าหล่อนกลับมีความสุข สามวันมานี้ หล่อนยิ้ม หัวเราะมากขึ้น นัยน์ตาหม่นเศร้า มีความสดใส ร่าเริง ถึงจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่กุลธิรัตน์ถือว่า เป็นการบรรเทาความทุกข์ในใจลงไปได้มากโข

          ความบริสุทธิ์ สดใสของพวกเด็กๆ เหมือนขุมพลังที่เติมเต็มความเหนื่อยล้าจากสิ่งที่เธอพบเจอทุกๆ วัน นั่นคือ ความเกลียดชังจากผู้ใหญ่ใจร้ายใจดำ ที่ไม่รู้ว่า ชาตินี้ทั้งชาติ ตนจะหลุดพ้นกับบ่วงความเกลียดชังหรือไม่

          ฐากูร อนันตเวช

          คือชื่อเจ้าของรถหรูสีแดงเพลิงเมื่อเช้านี้ เมื่อความสงสัยและอยากรู้แน่นอก ธรรม์บดีใช้ความเป็นเพื่อน บังคับให้เพื่อนที่ทำงานอยู่ในกรมขนส่งช่วยสืบจากเลขทะเบียนที่จดไว้เมื่อเช้านี้ว่า เป็นของใคร

          “มันคือใครวะ” ธรรม์บดีพูดกับตัวเอง หลังจากได้ชื่อและนามสกุลเจ้าของรถ ทางเดียวที่จะได้รู้เพิ่มเติมคือ ค้นหาข้อมูลในกูเกิ้ล เพราะในนี้มีแทบทุกอย่างที่อยากรู้ ไม่นานข้อมูลที่ต้องการรู้ ก็ขึ้นมาบนหน้าจอโน้ตบุ๊ก ตอนแรกคิดว่า คนนี้คือชายคนเดียวกับที่เห็นกุลธิรัตน์กุมมือ แต่พอเห็นหน้ากลับเป็นคนละคน “ยัยลูกหมา เธอคบผู้ชายกี่คนเนี่ย”         

          “คนนี้รวยไม่เบาเลย เป็นหมอด้วย” จากข้อมูล ฐากูรเป็นลูกชายแม่เลี้ยงชื่อดังเมืองเชียงใหม่ มีธุรกิจหลายอย่างที่นั่น และยังเป็นนายแพทย์ศัลยกรรมอนาคตไกลอีกด้วย เขายังไม่ทันอ่านประวัติในกูเกิ้ลเสร็จดี ก็รีบกดปิดเลยไม่รู้ว่า ฐากูรมีภรรยาแล้ว “ยัยลูกหมานี่ไม่เบา จับแต่คนรวยๆ จับปลาหลายมือซะด้วย”

          ธรรม์บดีคิดในทางไม่ดี เขามั่นใจความคิดตัวเองมากว่า กุลธิรัตน์ไม่ได้มีเขา ในฐานะสามีคนเดียว หล่อนคบหาหลายคนมาก และอาจหลับนอนกับทุกคน ยกเว้นตน ที่เปรียบเสมือนคนโง่ เสียเงินสามสิบล้าน แต่แขนไม่ได้จับ ถูกครอบครัวกุลธิรัตน์หัวเราะเยาะจนตายแน่ๆ

          เหอะ...ไม่มีทาง

          คิดแล้วแค้น แค้นใจมาก

“เราต้องคุยกันสักที ยัยลูกหมา”

ครั้งนี้ธรรม์บดีไม่ปล่อยผ่าน ตอนนี้หล่อนอยู่ในสถานะเมีย แม้เป็นเมียที่ไม่ต้องการ ไม่มีใจสิเน่หา และไม่เป็นที่รู้ของคนในสังคม แต่เขากับครอบครัวรู้ รวมถึงเพื่อนสนิทอีกสองคน ธรรม์บดีไม่มีวันยอมเสียเปรียบไปมากกว่านี้แน่ และหากเขามีลูกกับกุลธิรัตน์ เขาต้องมั่นใจว่า เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขหิรัญภักดีร้อยเปอร์เซ็นต์

          รถสีแดงเพลิงแล่นมาจอดหน้าอาคารสถานสงเคราะห์บ้านนับดาว ทว่าคนที่ก้าวลงมาไม่ใช่ชนิตพร แต่เป็นร่างสูงใหญ่ของนายแพทย์ฐากูร สามีชนิตพร เขาเดินเข้าไปในตัวอาคาร คลี่ยิ้มให้อำพรที่ยืนอยู่หน้าห้องทำงาน

          “สวัสดีค่ะคุณหมอเอื้อ”

          “สวัสดีครับพี่พร” เขาทักทายกลับอย่างเป็นกันเอง “ผมมารับลูกหมีแทนนิน่ะครับ”

          “อ๋อค่ะ เดี๋ยวพี่ไปเรียกลูกหมีให้นะคะ” อำพรเดินไปยังห้องเด็กเล็กที่อยู่ด้านในสุด ไม่นานนักก็เดินกลับมาหาฐากูรพร้อมกับกุลธิรัตน์

          ฐากูรไม่เคยเจอหน้ากุลธิรัตน์มาก่อน เขารู้จักผ่านการบอกเล่าของภรรยา ที่มักพูดถึงกุลธิรัตน์ในทางที่ดี ว่าน่ารัก นิสัยดี เคยยืนดูเวลากุลธิรัตน์เลี้ยงเด็ก แล้วรู้ได้ทันทีว่าเป็นคนจิตใจดี ใจเย็นและเป็นมิตรกับทุกคน พอได้เห็นด้วยตาตัวเอง ความรู้สึกบางอย่างพุ่งเข้ามาในจิตใจนายแพทย์หนุ่ม

          เหมือนเขาได้มองน้องสาวตัวเอง...

สาวตรงหน้าไม่ใช่คนสวยจัด หล่อนมีความน่ารักมากกว่า มองเพลินไม่รู้สึกเบื่อหน่าย หรืออยากละสายตา จมูกโด่งรับกับริมฝีปากเรียวรูปกระจับ รูปปากที่สาวๆ อยากได้ ดวงตากลม สองชั้น แม้นัยน์ตาดูเศร้า ทว่ากลับมีเสน่ห์ ดวงหน้าหล่อนตอนนี้ธรรมชาติมาก ไร้เครื่องสำอาง แต่ชวนมองมาก

          กุลธิรัตน์มองคนที่มารับตนด้วยรอยยิ้ม ก่อนหน้าที่ฐากูรมารับ ชนิตพรโทรบอกหล่อนล่วงหน้า ตอนแรกกุลธิรัตน์ปฎิเสธเพราะกลับบ้านเองได้ ชนิตพรยืนกรานจุดประสงค์ เนื่องจากวันนี้ต้องการเลี้ยงอาหารเย็นกุลธิรัตน์ที่บ้าน และคัดเสื้อผ้าส่วนหนึ่งไว้ให้ หล่อนจึงต้องไปตามคำชวน

          เขาเป็นผู้ชายที่อบอุ่นจัง...กุลธิรัตน์ประหลาดใจกับความรู้สึกนี้ เป็นเสี้ยววินาทียามเห็นฐากูร รอยยิ้มเขาดูเป็นมิตร ร่างกายและอ้อมแขนเขา หากได้โอบกอดหล่อน มันคือป้อมปราการปกป้องจากภัยอันตรายทั้งปวง หล่อนอยากมีพี่ชายแบบนี้

          แปลกจัง ทำไมรู้สึกอย่างนี้นะ...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อุ้มรักสามีไร้ใจ   วิวาห์พยศใจ Chapter 6

    Chapter 6“คุณปู่เหมือนไม่มีทางเลือกให้ผมเลย” เขาเอ่ยเสียงอ่อน“ย่าไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงว่า คุณปู่ทำแบบนี้ทำไม แต่ในเมื่อเป็นความต้องการของคุณปู่ หลานก็ทำไปก่อน แต่การเลิกลากันเพราะอยู่กันไม่ได้ คุณปู่คงไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่าย ใหญ่ไม่ต้องห่วงนะลูก ย่าจะช่วยหลานเอง รับรองมันอยู่บ้านหลังนี้ในฐานะเมียของใหญ่ได้ไม่นานแน่” นางหาทางโน้มน้าวต่อ“คุณปู่กำหนดวันแต่งงานหรือยังครับคุณย่า”“วันอาทิตย์หน้าจ้ะ” จอมทัพตกใจอีกรอบ เมื่อได้ยินคำตอบ“ทำไมมันเร็วจังครับ ผมมีเวลาทำใจแค่อาทิตย์เดียวเอง”อย่างนี้สินะที่เรียกกันว่า แต่งงานสายฟ้าแลบ หากเป็นงานวิวาห์ที่เขาปรารถนา เร็วกว่านี้เขาก็ยอม ทว่าสถานการณ์แบบนี้มันไม่ใช่“คุณปู่บอกว่า เตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว รอแค่ใหญ่ยอมแต่งเท่านั้น” สกาวใจเองก็ไม่คิดว่าจะเร็วปานจรวดเช่นนี้ “แต่งเร็วก็ดีนะ มันจะได้กระเด็นออกไปจากบ้านหลังนี้เร็วๆ หลานจะได้ไปแต่งงานกับน้ำหวานไง นะใหญ่นะ ทำตามที่คุณปู่ว่านะลูก”จอมทัพถอนหายใจอีกรอบก่อนจะตอบ“ผมมีทางเลือกด้วยหรือครับคุณย่า คุณปู่ประกาศิตมาซะขนาดนี้” ใช่...ลิขิตไม่ให้ทางเลือกเขาเลย “ผมจะทำตามที่คุณปู่ต้องการ ผมจะทำให้ผู้หญิงค

  • อุ้มรักสามีไร้ใจ   วิวาห์พยศใจ Chapter 5

    Chapter 5 สกาวใจเดินมาหยุดหน้าห้องนอนของหลานชาย วันนี้นางตั้งใจจะพูดเกลี่ยกล่อมให้จอมทัพยอมแต่งงาน ถึงแม้ว่าจะหนักใจไม่น้อยกับภารกิจนี้ แต่พอนึกถึงผลประโยชน์ที่ตนจะได้ ทำให้กำลังใจพุ่งสูง แผนการพูดหว่านล้อมก็บังเกิด แล้วคิดว่ามันจะสำเร็จสวยงามตามตั้งใจ ก่อนจะรวบรวมพลังเคาะประตูห้อง อึดใจต่อมาประตูห้องบานนั้นก็เปิดออก “ย่ามีเรื่องจะคุยด้วย ใหญ่พอมีเวลาให้ย่าไหมลูก”จอมทัพชะงักไปเล็กน้อยกับประโยคที่ได้ยิน เพราะตลอดหลายปีมานี้ สกาวใจไม่เคยมาหาเขาที่ห้อง หากจะมีเรื่องคุยก็ไปคุยระหว่างทานอาหาร หรือไม่ก็ในห้องรับแขก ห้องนั่งเล่นแล้วแต่โอกาส การที่สกาวใจมาหาเขาในวันนี้ ต้องมีเรื่องสำคัญจะพูดด้วยแน่นอน ในใจคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องการถูกคลุมถุงชน “เชิญครับคุณย่า” สกาวใจก้าวเข้าไปในห้องหลานรัก ทรุดกายลงนั่งบนโซฟาปลายเตียง โดยมีจอมทัพนั่งอยู่ใกล้ๆ “คุณย่ามีอะไรจะพูดกับผมครับ” “ย่าพูดตรงๆ นะใหญ่ ย่าอยากให้ใหญ่แต่งงานตามที่คุณปู่บอก”จอมทัพอึ้งและตกใจ ที่อยู่ๆ สกาวใจก็มาพูดให้เขายอมทำตามความต้องการของลิขิต ทั้งที่เมื่อวานนี้สกาวใจมีทีท่าไม่เห็

  • อุ้มรักสามีไร้ใจ   วิวาห์พยศใจ Chapter 4

    Chapter 4 ร้านศรัญญาเบเกอรี่ ร้านกาแฟและเบเกอรี่ขนาดสองคูหาในตึกแถวริมถนนสายธุรกิจที่มีผู้คนพลุกพล่าน มากหน้าหลายตาไม่ว่าจะเป็นคนไทยและชาวต่างชาติที่สัญจรไปมาตลอดทั้งวัน ส่งเสริมให้ร้านค้าร้านขายต่างๆ ในย่านดีพลอยขายดีไปด้วย ร้านแห่งนี้ก็เช่นกัน มีลูกค้ามาใช้บริการต่อเนื่อง ยิ่งช่วงเที่ยงจะมีลูกค้ามากเป็นพิเศษ ทำให้พนักงานในร้านและเจ้าของร้าน ชงเครื่องดื่มตามออเดอร์แทบไม่ทัน ร้านดังกล่าวเปิดได้เพียงหนึ่งปี แต่มีลูกค้าขาประจำมาซื้อเบเกอรี่ที่มีอยู่หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นขนมปังไส้ต่างๆ แยมโรล พายและขนมเค้ก โดยเฉพาะเค้กเป็นอาหารขึ้นชื่อของร้านนี้ เนื่องจากเจ้าของร้านทำสูตรเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร และนั่นทำให้มีออเดอร์สั่งยาวเหยียดนานหลายเดือน แล้วดูเหมือนว่า ออเดอร์จากลูกค้าจะมีต่อเนื่องไปถึงสิ้นปีไพลินสาวมั่น ฝีปากกล้า ไม่กลัวคนเดินฉีกยิ้มเข้ามาในร้านอย่างคุ้นเคย หญิงสาวมองลูกค้าที่มาใช้บริการแล้วยิ้มกับความสำเร็จของเพื่อน ที่นับวันจะมีลูกค้ามากขึ้น ก่อนจะเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม ที่มีพนักงานรับออเดอร์ลูกค้า“นก แก้วอยู่ไหม” ไพลินถามหาเพื่อนรักกับดวงกมลพ

  • อุ้มรักสามีไร้ใจ   วิวาห์พยศใจ Chapter 3

    Chapter 3“คุณพ่อครับ ผมขอโทษแทนใหญ่ด้วยนะครับ” คนกลางอย่างวิมุต รีบขอโทษบิดาแทนบุตรชาย “ดวงกราบขอโทษคุณพ่อค่ะ ใหญ่อาจจะพูดแรงไปหน่อย เดี๋ยวดวงจะพูดกับใหญ่เองค่ะ” ดวงดาราขอโทษแทนจอมทัพอีกคน ทว่าทีท่าของลิขิตยังคงนิ่งเฉยจนสองสามีภรรยานึกหวั่น“ทุกคนออกไปก่อน พ่อมีเรื่องจะคุยกับแม่”เป็นคำสั่งที่ทุกคนพร้อมจะปฏิบัติตาม วิมุตเดินนำภรรยาและบุตรสาวอีกสองคนเดินออกไปจากห้อง รั้งท้ายด้วยนภาพร“เรื่องที่จะคุยกับฉันมีลับลมคมนัยมากหรือไง ถึงได้ต้องให้ทุกคนออกไปจากห้องนี้”“ผมอยากให้คุณช่วยเรื่องใหญ่” ลิขิตเปิดเรื่อง“ช่วยเรื่องใหญ่” นางทวนคำพูด “จะให้ฉันช่วยพูดกับใหญ่ให้แต่งงานกับผู้หญิงที่คุณหาให้ใช่ไหม”“ใช่”“ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ช่วย ฉันเห็นด้วยกับใหญ่ที่ใหญ่น่าจะหาคู่ชีวิตเอง ไม่ใช่ถูกคลุมถุงชนที่ไม่มีใครเขาทำกันแล้ว”สกาวใจเลือกที่จะเข้าข้างหลานชาย สิ่งใดที่สามีคิดว่าดี นางจะค้าน เรื่องใดที่สามีเห็นว่าสมควร นางจะคิดต่างตรงกันข้าม ซึ่งลิขิตนึกอยู่แล้วว่าต้องออกมาในรูปแบบนี้“คุณยังอยากได้ไร่รังสรรค์อยู่หรือเปล่า ถ้าอยากได้ผมจะยกให้ แต่มีข้อแม้ว่าคุณต้องช่วยผมพูดกับใหญ่ ให้ใหญ่ยอมแต่งงาน”ข้อเสน

  • อุ้มรักสามีไร้ใจ   วิวาห์พยศใจ Chapter 2

    Chapter 2“เอ...แล้วมันเรื่องอะไรกันนะ ใหญ่พอจะรู้ไหมลูก” ดวงดาราหันมาถามบุตรชายที่เป็นเพียงคนเดียวที่ไม่อยากรู้เรื่องนี้“ผมไม่ทราบครับคุณแม่” จอมทัพตอบตามตรงการสนทนาของคนภายในห้องยุติลง เมื่อลิขิตก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับนภาพรภรรยาน้อย สกาวใจมองค้อนสามี ก่อนจะจิกสายตาใส่นภาพรที่ยกมือไหว้ แต่แทนที่นานๆ จะได้อยู่กันพร้อมหน้าสักครั้ง สีหน้าทุกคนจะชื่นมื่น ตรงกันข้ามกลับมีความอึดอัดลายล้อมไปทั่วบริเวณ โดยเฉพาะสกาวใจ ผู้สูงวัยอายุเจ็ดสิบปีที่ไม่อยากจะมานั่งอยู่ในห้องนี้ แต่ก็จำยอมมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “มีอะไรก็รีบพูดมาดีกว่า ฉันรู้สึกคลื่นไส้เมื่อเห็นหน้าใครบางคน เดี๋ยวความดันฉันขึ้น”สกาวใจเชิดหน้าพูดใส่สามี ปรายตามองนภาพรภรรยาน้อยอย่างเกลียดชัง อยากจะลุกขึ้นไปกระชากผมแล้วตบหน้าให้สาสมกับความคั่งแค้นในจิตใจ“นานๆ ทีจะอยู่กันพร้อมหน้า พูดดีๆ กันไม่ได้หรือไง”ลิขิตอ่อนใจเรื่องนี้ไม่น้อย แล้วรู้ดีว่าสิ่งที่ตนทำนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่สมควรให้อภัย เขาจึงไม่คิดโกรธเคืองในคำพูดของสกาวใจที่มักจะพูดเหน็บแนมและแขวะเนืองๆ“คุณไม่เป็นฉัน คุณไม่รู้หรอกว่าฉันร

  • อุ้มรักสามีไร้ใจ   วิวาห์พยศใจ Chapter 1

    Chapter 1กระเป๋าเดินทางหลายใบถูกลำเลียงมาไว้หน้าบ้านไม้สองชั้น ตั้งอยู่บนเนื้อที่หนึ่งร้อยตารางวา ก่อนที่เจ้าของกระเป๋าจะเดินออกมายืนรอรถตู้ที่จะรับไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา ไปใช้ชีวิตอยู่ที่โน้นกับสามีใหม่ของธนวรรณ ที่หอบหิ้วบุตรสาวและน้องสาวไปอยู่ด้วยเด็กหญิงธนัสสรณ์หรือน้ำหวานวัยสิบสองปีหนึ่งในสมาชิกของบ้านหลังนี้ ชะเง้อคอมองไปยังประตูรั้วบ้านไม่วางตา ราวกับว่ากำลังรอใครบางคนอยู่“มองหาพี่ใหญ่เหรอจ้ะน้ำหวาน” ธนพรน้าสาวเอ่ยถามหลานสาวอย่างรู้ใจ“ใช่ค่ะ พี่ใหญ่สัญญาว่าจะมาส่งน้ำหวาน” ปากเด็กหญิงพูด ทว่าสายตายังคงมองไปยังมองไปยังจุดเดิม“เดี๋ยวพี่ใหญ่คงมา พี่ใหญ่เป็นคนรักษาสัญญา รับปากอะไรไว้ก็ต้องทำตามนั้น” ธนพรปลอบหลานรักพร้อมกับฉีกยิ้มเมื่อเห็นร่างของคนที่ธนัสสรณ์รอคอย เดินเข้ามาในบ้าน “นั่นไง พี่ใหญ่มาแล้ว”ธนัสสรณ์มองคนที่ตนเองรอคอยด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าในใจจะหมองเศร้าที่ต้องจากพี่ชายข้างบ้านที่แสนดีไปอยู่คนละซีกโลก แต่อย่างน้อยก่อนจากลาเธอก็ได้พบหน้าเขา“สวัสดีครับคุณอา” จอมทัพ รุจิเวโรจน์วัยสิบเจ็ดปีพนมมือไหว้เจ้าของบ้าน รวมทั้งธนพร“สวัสดีจ้ะ” ธนวรรณมารด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status