“แล้วให้เริ่มงานวันไหนดีครับคุณเจซี?”
“วันนี้ทีมเลิกซ้อมห้าโมงเย็นใช่ไหมครับ? เริ่มหนึ่งทุ่มวันนี้เลยครับ”
เจซีตอบแจ็คกี้อย่างยิ้มแย้มแต่สายตากับไม่ได้อยู่ที่คู่สนทนาด้วยเสียเท่าไหร่ เขากลับเอาแต่มองไปทางยูแอลไม่วางตา และเธอเองก็จ้องมองเขากลับด้วยสายตาบ่งบอกว่าไม่อยากคิดว่าเขาจะทำแบบนี้ เธอเองก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่าที่เขาทำไปทั้งหมดเป็นเพราะเธอ...อาจจะเป็นแค่เกมที่เขาอยากจะเอาชนะชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น...ทุกอย่างมันดูกะทันหันไปหมด ยูแอลอดไม่ได้ที่จะหันไปมองจีเซลผู้ที่นัดเธอไว้ก่อนแล้ว ซึ่งตอนนี้สายตาของจีเซลมองไปยังเจซีอย่างไม่เป็นมิตร แล้วเขาจะพูดแย้งอะไรได้ล่ะ...
เวลาที่ยูแอลไม่อยากให้มาถึง...มันก็ได้มาถึง...ยูแอลมองนาฬิกาที่อยู่เหนือกระจกบานใหญ่ด้วยใบหน้าที่ไม่สู้ดีนัก ใบหน้าสวยดูเรียบนิ่งไร้อารมณ์ก็จริง แต่แววตาของเธอกลับดูเศร้าซึมเหมือนครั้งแรกที่จีเซลได้พบเธอ ไม่ได้มีแค่จีเซลที่มองไปทางยูแอล สมาชิกวงบียอนด์ต่างก็มองไปทางเธอทุกคน...ตั้งแต่ที่พวกเขายังไม่มีชื่อเสียงพวกเขาก็ได้ยินข่าวของรุ่นพี่อย่างเจซีอยู่บ้าง ทุกคนรู้ดีว่าถ้าไม่มีการปฏิเสธมันหมายความว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องจริง...
“ว่าแต่...มีใครรู้ไหมวะว่ายูแอลเลิกกับรุ่นพี่เจซีเพราะอะไร?”
อยู่ๆ ซันชายน์ก็ถามขึ้นชวนให้ทุกคนสงสัย เพื่อนๆ ของเขาต่างส่ายหน้าไปมาและหันไปมองทางจีเซลแทน จีเซลปรายตามองเพื่อนๆ ของเขาทุกคนก่อนจะส่ายหน้าเช่นกัน...เขา...แทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลยด้วยซ้ำ เพราะเธอเลี่ยงที่จะตอบตลอด...แล้วอย่างนี้ยังมีหน้าไปขอคบกับเธอ...คิดแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองยังเด็กจริงๆ ...และเหมือนว่าจีนส์ผู้ที่เป็นพี่ใหญ่เพราะอายุมากที่สุดในวงจะรู้ถึงความคิดของจีเซลจากสีหน้าและสายตาของจีเซลหลุบลงมองพื้น เขาตบบ่าจีเซลปอยๆ ...
“อย่าคิดมากน่า...ไม่ใช่มึงคนเดียวหรอกที่ไม่รู้ ความลับขนาดนั้น...มันก็มีแค่เขาสองคนเท่านั้นที่รู้...”
ยิ่งได้ยินจีนส์พูดแบบนั้นมันยิ่งทำให้ใจของจีเซลรู้สึกเจ็บขึ้นมาเสียอย่างนั้น...เหมือนกับว่าเรื่องของทั้งสองคน เขามันก็แค่คนนอกเพียงเท่านั้น จีเซลไม่ชอบความรู้สึกนี้เลย...เพื่อนร่วมวงของจีเซลต่างเข้ามาตบบ่าเขาเป็นเชิงให้กำลังใจก่อนจะเดินไปเก็บข้าวของทีละคน เพราะพวกเขารู้ดีว่าจีเซลเวลารักใครหรือคบใครมักจะผิดหวังเสมอ ทั้งที่พวกเขามั่นใจว่าจีเซลไม่ใช่คนไม่ดี...เพียงแค่ผู้หญิงมักหลงรักคนเลวก็เท่านั้น...ถึงแม้บนเวทีจีเซลจะเป็นคนที่มีเสน่ห์ดึงดูด ดูแพรวพราวมากแค่ไหน แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นเพียงผู้ชายอ่อนโยนนิสัยดีหรือ...ผู้ชายที่ผู้หญิงเรียกว่าจืดชืดน่าเบื่อ ไม่ตื่นเต้น ไม่เร้าใจเหมือนผู้ชายที่ดูแบดบอยกว่า...
“จีเซล...”
“ครับ...”
รู้ตัวอีกทีหญิงสาวที่เขากำลังคิดเรื่องเธอวนเวียนอยู่ในหัวก็เดินมาหยุดยืนตรงหน้าพร้อมกับเพื่อนๆ ของเธอที่ยืนอยู่ใกล้ๆ แต่ก็ไกลพอที่จะให้พวกเขาได้พูดคุยกันสองคนเป็นส่วนตัว ส่วนสมาชิกคนอื่นๆ เห็นว่ายูแอลเดินมาก็ปลีกตัวออกไปแล้วทีละคนในตอนแรก
“อย่า...คิดมากนะ...เชื่อใจฉัน”
“พี่ให้ผมเชื่อในฐานะอะไรเหรอครับ?”
“ยังจะให้พูดอีกเหรอ”
ยูแอลมองใบหน้าหล่อไร้รอยยิ้มที่เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าสวยของเธอชัดๆ ก่อนที่เธอยิ้มบางๆ ให้คนตรงหน้า ถึงอย่างนั้นจีเซลก็รู้สึกกังวลใจอยู่ดี...เพราะนั่นคือคนรักเก่าที่เธอลืมไม่ได้ คนที่เธอรักมาตลอด 10ปี และตอนนี้พวกเขาก็กำลังจะมีเวลากลับไปเจอกัน อยู่ด้วยกันมากขึ้น...และดูเหมือนว่าคนรักเก่าคนนั้นของเธอจะพยายามกลับมาแย่งเธอไปอีกด้วย จากการกระทำเมื่อตอนสายๆ ที่เขาไปบังเอิญเห็นเข้า...
“พี่ยูแอล...”
“ยูแอลไปกันได้แล้ว...เราต้องไปคุยเรื่องเพลงกันที่ค่ายเจซีอีก”
แจ็คกี้หันมาเรียกเร่งยูแอลที่ยืนคุยกับจีเซลอยู่ เธอหันไปทางต้นเสียงและพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะหันมายิ้มให้จีเซลเพื่อเป็นการบอกลากลายๆ แล้วรีบเดินไปหาแจ็คกี้และคนในทีมที่ยืนรออยู่ จีเซลทำได้แค่มองแผ่นหลังเล็กของร่างบางที่ค่อยๆ ไกลและหายลับตาไปในที่สุด...
“ไปเถอะเพื่อน...เรามีรายการที่ต้องไปถ่ายทำต่อ” วินซ์พูดพร้อมกับเดินเข้ามากอดคอจีเซลและยื่นกระเป๋าของจีเซลให้..
ค่ายJC Ent.
ถึงจะบอกให้เริ่มซ้อมหนึ่งทุ่มแต่ก็ต้องมาประชุมเรื่องเพลงและคิดท่าเต้นก่อนเวลาอยู่ดี ยูแอลนึกแปลกใจไม่น้อยที่ทำไมค่ายเพลงคู่แข่งถึงยอมง่ายๆ ทั้งๆ ที่ถ้าเจซีกลับมาทำเพลงก็ต้องเป็นคู่แข่งกับวงบียอนด์วงของค่ายแท้ๆ ...ก็อย่างว่านั่นแหละ เธอเป็นเพลงทีมเต้น แดนเซอร์ที่เคยเป็นแดนเซอร์อิสระมาก่อน...แม้จะเซ็นสัญญาจ้างกับค่ายใดไปแล้วมันก็เปลี่ยนแปลงได้ด้วยเม็ดเงิน ยิ่งทางCEOคุยตกลงกันเองแล้วมันก็ยิ่งง่ายสำหรับเม็ดเงินมหาศาลถ้าทีมเต้นผิดสัญญาคงจ่ายไม่ไหว หรืออาจจะเป็นการให้เช่าทีมเต้นก็เพื่อนำเม็ดเงินนั้นเข้าบริษัทตัวเอง...
“เพลงนี้ผมอยากให้ยูแอลเต้นเป็นตัวหลักของเพลงผม...เพราะบนเวทีจะมีโชว์พิเศษ...”
ยูแอลที่ตกอยู่ในภวังค์ถึงกับเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งที่เจซีพูดและจ้องมองมายังเธอ ยูแอลไม่ได้ตอบอะไรเพราะรู้ดีว่ายังไงแจ็คกี้ก็ต้องยอมอยู่แล้ว เงินพิเศษมหาศาลมันค้ำคออยู่นี่
“เอ่อ...ฉันตัวเท่าๆ กับยูแอล...ฉันเต้นตำแหน่งนั้นแทนได้ไหมคะ? ...คือ...”
อยู่ๆ เกรซก็ยกมือขึ้นแล้วพูดเสนอ เธอยังไม่วายปรายตามองหน้าเพื่อนสนิทของตน...ยูแอลหันไปมองเกรซอย่างเข้าใจว่าทำไมเกรซถึงยอมเสนอตัวกับผู้ชายอันตรายแบบนี้ถ้าไม่ใช่เพราะอยากปกป้องยูแอลเพื่อนของเธอ
“...เหตุผล...”
“ก็แบบ...ฉันอยากเด่นบ้างจะได้มีชื่อเสียงบ้างน่ะค่ะ อีกอย่างยูแอลก็มีชื่อเสียงอยู่แล้ว...เปลี่ยนคนอื่นบ้างจะเป็นไรไปคะ”
เกรซพูดตอบตามจริตของเธอ เพราะเธอเป็นคนที่กล้าพูดกล้าทำห้าวหาญพอตัว เกรซสามารถทำทุกอย่างโดยไม่สนใจใครถ้าสิ่งนั้นมันขัดใจเธอหรือว่าเธอรู้สึกไม่ชอบก็จะหาวิธีการมายับยั้งทันที และที่สำคัญ...เธอเป็นคนรักเพื่อนมาก
“ผมว่า...ผมทำงานกับคุณมานานเหมือนกันนะครับ...ทำไมผมจะไม่รู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่...”
“ฮะๆ คุณเจซี...คิดมากไปแล้วค่ะ” เกรซแค่นหัวเราะทำหน้าเจื่อน
“หึ...อยากเด่นอยากดังมีวิธีที่ง่ายกว่านั้น...ก็แค่ใช้เต้าไต่ ผมจะพิจารณาเป็นพิเศษ”
“ฉันว่าคุณเจซีพูดจาเกินไปหน่อยนะคะ”
ยูแอลรีบท้วงพูดสวนขึ้นทันทีที่เจซีพูดจบประโยค แจ็คกี้ เกรซ ซาซ่าและยูแอลรู้นิสัยของเขาดีว่าเขาเป็นคนแบบนี้และไม่สนใจใครหรืออะไรทั้งนั้นเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่นักเต้นคนอื่นๆ ที่พึ่งเข้ามาร่วมทีมกับเธอไม่กี่ปียังไม่รู้และยังดีที่ที่ประชุมอยู่ตอนนี้มีเพียงนักเต้นอย่างพวกเธอสี่คน แจ็คกี้จะสรุปประชุมให้คนอื่นๆ ทราบภายหลัง
“...แอล...แกใจเย็นๆ ก่อน..”
ซาซ่ารีบดึงเพื่อนสาวของตัวเองที่นั่งตรงตัวตรงแข็งจ้องมองเจซีเขม็งอย่างขัดค้านและโกรธเคืองกับคำพูดของเขาเมื่อครู่ แต่เจซีกลับยกยิ้มกับปฏิกิริยาของเธอเหมือนกับว่าเขากำลังสนุก...และคิดว่าเธอไม่อยากให้เขาเข้าใกล้ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเพื่อนของเธออีกเพราะหึง...
“แล้วเธอคิดว่ายังไงล่ะ? จะให้เพื่อนมาเต้นแทนหรือเธอจะเต้นกับพี่เอง”
เจซีเงยหน้ามองเธอ ใบหน้าหล่อคมเลิกคิ้วแล้วยกยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ยถามหญิงสาวที่จ้องมองเขาตาแข็ง ใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของเธอกลับมาแสดงสีหน้าให้เขาเห็นอีกครั้ง...ความรู้สึกเหมือนผู้ชนะและยังเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อใจของเธออยู่
คำพูดที่พูดกับยูแอลที่แตกต่างออกไปทำให้แจ็คกี้อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเจซีและยูแอลสลับกันไปมาอย่างนึกสงสัยว่าทั้งสองคนกลับไปคืนดีกันแล้วงั้นหรือ...ตั้งแต่เมื่อไหร่? ..
“แอล ฉันเต้นได้...” เกรซเอ่ย
“ฉันเต้นเองค่ะ เพราะถึงยังไงคุณก็ไม่ยอมอยู่แล้วและคงจะหาวิธีสกปรกทำให้เพื่อนของฉันถอนตัว”
“หึๆ ...หนูนี่รู้ใจพี่ดีที่สุด..”
“กรุณาให้เกียรติเรียกฉันดีๆ ด้วยค่ะ คนอื่นจะได้ไม่เข้าใจผิด”
ยูแอลพูดพร้อมกับปรายตามองไปทางแจ็คกี้ที่นั่งมองหน้าเธอและเจซีอย่างอยากรู้อยากเห็น ก่อนที่แจ็คกี้จะกระแอมเบาๆ พร้อมกับเฉมองไปทางอื่นแทน ไม่ใช่ว่าเธอเป็นอริกับแจ็คกี้ที่เป็นหัวหน้าทีม แค่เธอไม่พอใจในครั้งนี้ที่เขาไม่ยอมปรึกษาใครเลยก่อนจะรับงาน ไม่เหมือนกับทุกที
“ได้สิ...ฉันจะทำตามที่เธอขอ เพราะเธอก็ยอมทำตามใจฉันเหมือนกัน”
เจซีพูดเปลี่ยนบทบาททันทีเหมือนกับว่ากำลังแสดงละครตามบทที่เธอต้องการให้เล่นอย่างรู้สึกชอบใจ ยูแอลพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะปรับสีหน้าให้เรียบเฉยดังเดิมพร้อมกับสะบัดหน้าไปทางอื่น
“เอาเป็นว่าตกลงตามที่คุยกันนะครับ...เรา...จะไปที่ห้องซ้อมกันเลยไหมครับ?”
“ยังก่อน...พอดีวันนี้ผมมีธุระ”
เจซีพูดทั้งที่ยังมองยูแอลที่ไม่ยอมหันไปมองหน้าเขานั่นมันทำให้เขาไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ แจ็คกี้เตรียมเก็บโน๊ตจากการประชุมแล้วลุกออกจากเก้าอี้พร้อมกับเกรซ ซาซ่าและยูแอล เตรียมที่จะกลับไปพักผ่อน แต่เจซีกลับเดินไปดักยูแอลหน้าประตูทางออกของห้องประชุมทันที คนอื่นๆ ต่างหันไปมองทั้งคู่ ซาซ่าเห็นอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปหาเพื่อนสาวของตนแต่แจ็คกี้กลับดึงแขนของเขาเอาไว้
“อย่าเข้าไปยุ่งน่า...ไม่ใช่เรื่องของเราแล้ว”
“แต่นั่นเพื่อนฉันนะ”
แจ็คกี้ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับดึงทั้งเกรซและซาซ่าเดินออกจากห้องไป ปล่อยทิ้งให้ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันภายในห้องประชุมสองต่อสอง แจ็คกี้อยากให้ทั้งสองคนกลับมาคืนดีกันเพราะเขารู้ดีว่ายูแอลรักเจซีมากแค่ไหนและยังลืมเจซีไม่ได้ เขาแค่หวังดีไม่อยากเห็นยูแอลกลายเป็นคนไร้อารมณ์ความรู้สึก ทำหน้าเศร้าตลอดเวลาเหมือนทุกวันนี้ก็เท่านั้น ทั้งที่เมื่อก่อนเธอเป็นเป็นคนยิ้มเก่งร่าเริงและมองโลกในแง่ดีเสมอ
“มีธุระอะไรกับฉันอีกหรือคะ?”
“แอล...ที่พี่ทำไปทั้งหมดเพราะหนูคนเดียวเลยนะคะ”
“ทำตัวแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่นแฟนพี่คงรู้สึกไม่ดีแน่ๆ ค่ะ เลิกเป็นแบบนี้เถอะค่ะ”
ยูแอลพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งและทำท่าจะเดินจากเขาไป เจซีรีบคว้าแขนเล็กดึงเข้ามาสู่อ้อมกอดของตน...ยูแอลพยายามดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดนั้นแต่มันกลับทำให้เขากอดเธอแน่นขึ้น...ความรู้สึกที่มาจากอ้อมกอดของเขาทำให้เธอใจสั่น...เหมือนกับว่า...เขากลัวเธอจะหายไปตลอดกาลอย่างไรอย่างนั้น...
“คุณเจซี! อย่าทำแบบนี้!ฉันไม่ชอ...”
“อะไรทำให้แอลของพี่เปลี่ยนใจกันนะ...แอลที่เคยน่ารัก ยิ้มเก่ง...คอยให้กำลังใจพี่...หายไปไหนกัน...”
“..........”
“ตอนนี้พี่กลัวทุกอย่าง...เหมือนกับว่าสู้คนเดียว...ไม่เหมือนตอนที่มีหนูอยู่เลย....”
“คุณ....”
“แอล...อยู่กับพี่ก่อนนะคะ...แค่อยู่ข้างๆ ตอนนี้...”
น้ำเสียงของเจซีที่ซุกไหล่ของเธอมันเศร้าจนเธอไม่กล้าที่จะปฏิเสธ...เมื่อกี้ยังดูท่าทางมั่นใจอยู่เลย เจซีกระชับกอดของเขาแน่นขึ้น...ร่างกายของเขาเริ่มสั่นเทา...แต่ยูแอลกลับสับสนว่าเขาแสดงหรือว่าเขารู้สึกอย่างที่พูดจริงๆ
“มีธุระไม่ใช่หรือคะ?”
“ธุระของพี่คืออยู่หนูไง...พี่ทำทุกทางเพื่อให้หนูกลับมาอยู่ใกล้ๆ พี่...”
“มัน...เป็นไปไม่ได้แล้วล่ะค่ะ...เลิกทำแบบนี้เถอะค่ะ...”
ยูแอลกลั้นใจผลักเขาออกพร้อมเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาจริงจัง...แต่แล้วสายตาของเธอต้องเปลี่ยนไปเมื่อใบหน้าหล่อของเขาถูกแต่งแต้มไปด้วยหยดน้ำตา...แววตาของเขาดูเศร้าจนใจเธอเจ็บ...อะไรที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้กัน...เพราะเธองั้นหรือ? ถึงเธอจะรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า...ที่ผ่านมาที่เขาทำกับเธอ...เธอก็คิดว่าเขาหายดีแล้วถึงได้ทำลายความรักของเธอได้ลง ความสัมพันธ์มันพังเพราะเขา...
“...ทำไมถึง...”
“...ขอแค่คืนนี้...อยู่เป็นเพื่อนพี่นะคะ...พี่สัญญาจะไม่ทำอะไรหนูเลย...แค่อยู่ข้างๆ พี่...แป๊บเดียวก็ยังดี”
“..........”
จากการออกไปเดทดินเนอร์หลายๆ ที่ด้วยกัน จากที่ขอทำงานเต้นก็ได้ทำและเธอก็ได้สร้างทีมนักเต้นทีมใหม่ขึ้นมาโดยมีซาซ่าและเกรซเป็นผู้ร่วมทีม แถมยังเปิดรับสมัครนักเต้นคนอื่นๆ ที่อยากร่วมงานอีกด้วย จากการกดดันของวงบียอนด์ที่ให้ประธานค่ายอย่างคริสต้องเซ็นสัญญารับทีมของยูแอลเข้ามาเป็นนักเต้นหลักในค่าย แต่ยังคงมีวงอื่นจากค่ายอื่นมาจ้างงานได้และมันต้องผ่านการแสกนจากวงบียอนด์ก่อนยูแอลได้กลับมาเฉิดฉายบนเวทีอีกครั้ง และแน่นอนมาเธอเป็นที่สนใจของไอดอลหนุ่มหน้าใหม่อีกหลายวงๆ จนจีเซลต้องตามไปคุมแทบจะทุกงาน จากที่ยุ่งๆ อยู่แล้วยุ่งกว่าเดิมเสียอีก ไอดอลที่ว่างานเยอะยังไม่เท่ายูแอลตอนนี้เลย...เธอไม่ได้งานเยอะแต่เธอบ้างานจนแทบจะไม่มีเวลาให้เขา...มันน่าน้อยใจจริงๆ ...“เย็นนี้ไป...ดินเนอร์กันไหม? ผมจองร้านไว้แล้ว”“อ๋อ โทษทีนะจีเซล วงไซบอกซ์มีกินเลี้ยงขอบคุณหลังจบงานน่ะ ฉันเป็นหัวหน้าทีมด้วยสิ”“.........”“ไปก่อนนะ ไว้วันอื่นนะคะ จุ๊บ!” ยูแอลเดินเข้ามาจุ๊บที่แก้มของเขาเบาๆ ก่อนจะรีบเดินไปหาเพื่อนๆ ที่ยืนรออยู่
“จีเซล!!!” ยูแอลถึงกับอึ้งหันไปมองชาร์วีที่ตอนนี้เขาแค่ยกยิ้มเพียงเท่านั้น ไม่คิดว่าจีเซลจะกลับมาเร็วขนาดนี้และสีหน้าของเขาที่เข้ามาเห็นดูเหมือนว่าเขาเข้ามาเห็นตั้งแต่ก่อนที่ชาร์วีจะปล่อยมือจากเธอเสียอีกแน่ๆ ยูแอลรีบเดินเข้าไปหาจีเซลที่ขบเคี้ยวเขี่ยวฟันอย่างหงุดหงิด“มันไม่ใช่อย่างที่คิดนะ...ฉันก็แค่จะล้มแล้วชาร์วีก็..”“มาช่วยไว้สินะครับ....”“ใช่ๆ แค่นั้นจริงๆ ...”“สงสัยผมคงต้องล่ามพี่ไว้บ้างแล้วล่ะครับ จะได้ไม่ต้องไปเที่ยวล้มที่ไหนอีก” จีเซลพูดพร้อมกับขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะคว้าข้อมือของเธอเดินออกจากห้องฟิตเน็ตไปทันที ชาร์วีมองตามอ้าปากค้างก่อนจะแบะปากยักไหล่แล้วเดินกลับไปออกกำลังกายต่อพร้อมกับพึมพำกับตัวเอง“ไอ้จีเซลขี้หึงเป็นบ้าเลยแฮะ...คลั่งรักอะไรขนาดนั้น” พูดไปพลางยกน้ำหนักไปอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ไม่สนใจเท่าไหร่นัก (อย่าให้ถึงทีนายนะนายชาร์วี!)จีเซลลากยูแอลให้เดินตามเขาไปยังห้องรับแขกก่อนจะหยุดชะงักฝีเท้าแล้วหันมาทางเธอด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่
“สวัสดีครับ...ผมเป็นหมอที่คุณชาร์วีส่งมาครับ” ชายหน้าประตูพูดขึ้นพร้อมกับยื่นบัตรประจำตัววิชาชีพโชว์หน้ากล้อง จีเซลเห็นอย่างนั้นก็โล่งอกก่อนจะตอบรับเขา“ครับ...เชิญครับ” จีเซลกดเปิดประตูอัตโนมัติให้คุณหมอเข้ามาก่อนจะเดินนำไปที่ที่ยูแอลนั่งอยู่ ยูแอลลุกขึ้นหวังจะกล่าวสวัสดีแต่คุณหมอกลับรีบบอกให้เธอนั่งลง“ไม่เป็นไรครับ นั่งก่อนเถอะครับคนไข้”“อ๋อ ค่ะ” ยูแอลพูดจบก็หย่อนตัวนั่งโดยมีจีเซลคอยพยุงอยู่ข้างๆ และจับมือเธอไว้ ก่อนจะยกข้อเท้าของเธอขึ้นมาวางบนหน้าขาของเขา คุณหมอที่ถืออุปกรณ์การแพทย์เข้ามาก็เริ่มล้างแผลทำความสะอาดอย่างเบามือและพันแผลให้เธอ“อย่าให้แผลโดนพวกเครื่องสำอางอีกนะครับ...ไม่อย่างนั้นติดเชื้อแน่หรือแผลอาจจะเป็นเชื้อรา”“ค่ะ”“ช่วงอาทิตย์แรกหมอจะเข้ามาล้างแผลให้นะครับ และอย่าลืมทานยาให้ตรงเวลาจนหมดแผงที่หมอให้ไป”“ได้ค่ะ”“อ๋อ แล้วก็คุณจีเซลไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เรื่องนี้จะเป็นความลับ...ยังไงผมก็เป็นหมอประจำบ้านของคุ
เวลาผ่านล่วงเลยไปจนต้องได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เจซี ยูแอลและจีเซลได้เข้ามาถ่ายทำเอ็มวีอย่างที่เจซีคอยลั่นปากไว้กับแฟนคลับเพื่อแก้ข่าวให้ยูแอลด้วย จึงได้ไปถ่ายงานสถานที่ที่คล้ายกันกับบ้านของยูแอลแทน เพราะเจซีไม่อยากให้ยูแอลเข้าไปเจอยายด้วยสภาพที่ผอมโซกว่าเดิมอย่างนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมายูแอลก็พยายามที่จะไม่ทำให้เจซีโกรธแม้จะต้องแสดงให้เขาเชื่อก็ตาม...เพื่อรอวันที่จะเจอจีเซลอย่างเช่นวันนี้...ทุกคนต่างเดินทางมาถึงสถานที่ถ่ายทำกันหมดแล้ว เจซีและยูแอลเองก็มาถึงก่อนเวลาหนึ่งชั่วโมงเพราะต้องมาแต่งตัวแต่งหน้าลองเข้าฉากหามุมกล้องที่ถูกใจ และจีเซลดันมาถึงก่อนพวกเธอเสียอีก...แต่เขาแค่ลอบมองเธอเป็นระยะเท่านั้นไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจเธอเท่าไหร่นัก ทุกอย่างดำเนินได้ด้วยดี...ตามเนื้อหาเอ็มวีคือเธอต้องเป็นผู้หญิงที่เดินจากเจซีไปเพื่อไปหาจีเซลเมื่อเพลงเปิดขึ้นยูแอลถึงกับอึ้งไม่อยากเชื่อว่าทั้งสองคนจะทำงานเข้ากันได้ดีถึงขนาดอัดเพลงออกมาได้อย่างน่าทึ่ง แค่ฟังก็รู้ว่าจะต้องติดหูมากแค่ไหน ใครจะไปรับรู้ว่าเบื้องหลังเวทีที่มีการร่วมงานกันมันคือการแข่งขันที่จะต้องทำออกมาให้ดีที่สุดเพราะมันจะมีก
หลังจากที่จีเซลแอบขับรถตามเจซีไปก็ได้รู้ที่อยู่ของเจซีและยูแอล แต่เขากลับไม่ได้ทำอะไรผลีผลามเหมือนก่อนหน้านี้เคยเป็น เขาเพียงแค่จ้องมองคฤหาสน์หลังใหญ่นั้นพร้อมกับเชิดหน้าเอามือเท้าหน้าต่างรถที่เปิดกระจกอยู่และยกยิ้มขึ้น... ก่อนจะกลับรถตรงไปยังบริษัทเพื่อที่จะทำงานต่อในช่วงเช้าเกรซและซาซ่าเดินทางมายังค่ายเพลงบีคริส ค่ายที่วงบียอนด์สังกัดอยู่เพราะช่วงบ่ายมีซ้อมเต้นกับวงพวกเขา แต่ทั้งสองสาวเลือกที่จะมาก่อนเวลาประมาณสองชั่วโมงเพื่อดักรอจีเซล ตั้งใจว่าจะส่งข่าวให้เขาได้รับรู้ถึงความยากลำบากของเพื่อนสาวของตน...ยังไงจีเซลก็ต้องได้รับรู้ และทั้งสองก็รอได้ไม่นานก็เห็นวงบียอนด์เดินเข้าบริษัทมากันครบวง แต่จะรอช้ากว่านี้คงจะไม่ได้ ทั้งสองจึงพยักหน้าให้กันแล้วรีบวิ่งไปยังจีเซลทันที“คุณจีเซล!” เกรซเรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่ดูตื่นตระหนก จีเซลหันมองเกรซและซาซ่าด้วยสีหน้าสงสัยแต่...เพื่อนรุ่นพี่อย่างซันชายน์รีบเข้ามาขวางหน้าไว้เสียก่อน“มีอะไรหรือครับคนสวย คิดถึงผมขนาดนั้นเลยเหรอ?” ซันชายน์เอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มร่า เกรซหันไปมองเขาตาขวางก่อนจะผลั
สองร่างกอดกันแน่นบนเตียงกว้างสีน้ำเงินเข้ม ชุดนอนถูกร่นออกอย่างง่ายดายเพราะมันเป็นเพียงชุดกระโปรงยาวสีขาวตัวบาง ชุดชั้นในนั้นไม่มีให้เกะกะเนื่องจากคิดว่าต้องนอนแล้วถึงไม่ได้ใส่มัน...อีกอย่างไม่ใช่บ้านของเธอจึงไม่ได้เตรียมมาเปลี่ยน ร่างบางบิดเร่าอยู่ใต้ร่างหนากัดปากตัวเองแน่นเมื่อคนด้านบนเลื่อนมือไปไปกอบกำเต้าสวยพอดีมือก่อนจะเลื่อนลงไปดูดกลืนปลายยอดนั้นอย่างไม่ลดละ รุนแรงจนตัวเกร็งไปหมด..“อึ๊..อื้ม” เสียงครางออกมาผ่านลำคอจากการสกัดกลั้นมันเอาไว้ด้วยความทรมาน แอ่นอกรับริมฝีปากนั้นอย่างลืมตัวแม้ว่ามือเล็กจะพยายามดันไหล่ไล่เขาออกไปก็ตาม แต่ก็แปรเปลี่ยนเป็นจิกเกร็งไหล่แกร่งนั้นแน่น...ห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้เลย...มือหนาอีกข้างจับขาเรียวของเธอให้อ้าออกพอที่จะแทรกร่างของตัวเองเข้าไปอยู่ระหว่างขานั้น ทั้งที่ปากยังคงไม่ว่างคอยปรนเปรอพรมจูบไปทั่วบริเวณอกสวย ก่อนจะเลื่อนใบหน้าพรมจูบไปทั่วหน้าท้องแบนราบจยไปถึงส่วนนูน... มือหนาข้างหนึ่งบีบคลึงเต้าตึงอีกข้างหนึ่งบดขยี้จุดอ่อนไหวจนร่างบางสะดุ้งโหยงและเบือนหน้าหนี แต่ก็ต้องหันหน้ากลับมาหลุบตามองส่วนล่างเม