"รู้จักไหม คำว่าวันไนท์น่ะ!"เราควรจบกันแค่คืนนั้น ไม่ควรมาเจอกันอีก!! (คิว×เตยหอม)
View More“อื้อ ~”
ฉันใช้ฝ่ามือเล็กดันใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้าออกห่างเพื่อสูดอากาศหายใจเข้า หลังจากที่เขาเพิ่งจะจูบสูบวิญญาณไปเกือบห้านาที
“หอเธอ... ไปทางไหน”
“ซอย XX หลังมหาวิทยาลัย”
ไม่ต้องถามว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น มันเป็นความสมัครใจของฉันเองที่จะมีความสัมพันธ์ในคืนนี้
ถามว่าเมาไหม... ตอบได้ว่าเมา
แล้วถ้าถามว่าทำไมต้องเมา
ก็เพราะไอ้คนเฮงซวยคนหนึ่งมันทำฉันเจ็บจนต้องพึ่งพาความเมาอย่างไรล่ะ
ผู้ชายที่คบกันมาห้าปีกว่า มันหักหลังฉันไปมีคนใหม่ ที่จริงเรื่องนี้มันก็ผ่านมาเกือบครึ่งปีแล้ว แต่วันนี้ฉันเพิ่งรับรู้ว่า 'พี่ดรีม' แฟนเก่าคนนั้นของฉันกำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงที่คบกันได้เพียงหกเดือนหรืออาจมากกว่านั้นตอนที่แอบกินกันลับหลังฉัน
“จอดรถหน้าหอได้ใช่ไหม” เสียงทุ้มของคนขับพูดขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่เรามาถึงหน้าหอ
“ได้ ถ้าแป๊บเดียว”
“นี่เธอกำลังดูถูกฉันอยู่หรือเปล่า” เขาคนนั้นยิ้มออกมาท่าทางกวน ๆ “มันก็ไม่แป๊บเดียวนะ”
“เปล่า หมายถึงถ้าไม่จอดจนถึงเช้าให้เจ้าของหอตื่นมาด่าก่อน” ฉันรีบอธิบายก่อนจะกระชับกระเป๋าไว้ในอ้อมแขนเตรียมลงจากรถ
เขาคือคนที่เพิ่งจะเจอกันในร้านเหล้า เรานั่งคุยกันอยู่นาน ดื่มด้วยอีกสองสามแก้วเพราะเขาก็มาเที่ยวคนเดียว แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันตกลงมากับเขาแบบนี้
ฉันกำลังประชดใครอยู่หรือ
ก็ไม่...
แต่ในเมื่อทำตัวดีแล้วมันไม่ได้ดี ฉันจะดีไปทำไม จะเก็บความซิงไว้ให้ผู้ชายที่เรารักหรือ
...สุดท้ายผู้ชายก็เลือกผู้หญิงที่ง่ายกับเขาอยู่ดี
“พกถุงไหม” ฉันเอ่ยปากถามทันทีที่เราเข้ามาถึงในห้อง พอหันไปมองก็เห็นเขายืนยิ้มมุมปากอยู่
“ฉันไม่ได้ชอบเสี่ยง”
“อืม วันไนต์นะ” คำพูดที่ฉันเหมือนท่องมาค่อย ๆ ปล่อยทีละคำ
“เธอนี่ตลกดีว่ะ” เขาหัวเราะออกมาเหมือนชอบใจ “เดาไม่ออกเลยว่าทำบ่อย หรือไม่เคยทำมาก่อน”
“ไม่เคยทำ” ฉันตอบเบา ๆ แล้วเดินเข้าห้องน้ำเพราะอั้นมาตั้งแต่อยู่บนรถ
พอเดินออกมาก็เห็นหมอนั่นนั่งเล่นมือถืออยู่ตรงปลายเตียง
แล้วฉันต้องทำอย่างไรต่อ เริ่มก่อนหรืออย่างไรดี เขาก็ไม่ทำอะไรเสียที
“เดินไปเดินมาทำไม” พอเห็นฉันทำตัวไม่ถูกเขาก็เงยหน้าขึ้นจากมือถือ ก่อนจะดึงรั้งข้อมือฉันเข้าไปหาและกระชากลงเตียงจนชุดเดรสสั้นของฉันร่นขึ้นมากองอยู่ตรงขาอ่อนจนเกือบเห็นชั้นใน
หรือเขาอาจจะเห็นแล้วเพราะอยู่มุมนั้น
“ฉันไม่เคย ห้ามรุนแรง”
“ฮะ !” มันน่าตกใจตรงไหน “อำเล่นเหรอ ดูยังไงก็ไม่ใช่”
ก็เหมือนที่เขาว่านั่นละ ฉันเป็นคนที่ชอบแต่งตัวแต่งหน้า ดูแรง ๆ แต่ฉันไม่ใช่คนแรงอะไร คนอื่นมองก็คงคิดว่าฉันผ่านอะไรมาเยอะแล้ว
แต่เปล่า... ฉันไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน
เพราะคิดว่าจะเก็บครั้งแรกไว้ให้คนที่ฉันรักและจะแต่งงานด้วย นั่นคือพี่ดรีม แฟนเก่าที่แสนดีของฉัน
แต่ตอนนี้เขาไปแต่งกับคนอื่นเสียแล้ว
“ไม่ได้อำ”
“เหรอ งั้นก็ขอพิสูจน์หน่อย” เขามองสบตากับฉันแล้วยิ้มมุมปากแบบที่ชอบทำ ดูก็รู้ว่านิสัยเจ้าชู้แน่ ๆ สายตาของเขามันบอกอย่างนั้น
ต้องสวมถุงยางสองชั้นไหมนะเพื่อความปลอดภัย
“อื้อ ~” พอพูดจบเขาก็เริ่มพิสูจน์ทันทีอย่างที่ว่าไว้ บดจูบฉันอย่างคนชำนาญ เรื่องจูบฉันพอไหวแต่ถ้ามากกว่านั้นยอมรับว่าไม่เคย
ตอนนี้มือของเขาเริ่มสำรวจไปทั่วร่างกายแล้ว ใช้เวลาเพียงไม่นานชุดเดรสสายเดี่ยวของฉันก็ลงไปกองกับพื้น ต่อด้วยบราและแพนตี้ตัวบางที่หล่นร่วงตามไปด้วย
“...” เขาทำหน้านิ่งแต่สายตาสำรวจไปทั่วจนฉันต้องเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนีแล้วปกปิดบางส่วนไว้ด้วยมือเล็ก ๆ อีกฝ่ายก็จัดการกับเสื้อผ้าของตนเองจนกระทั่งเปลือยเปล่าอยู่ต่อหน้า
“...” ฉันปรายตามองท่อนล่างของเขาเล็กน้อยแล้วต้องกลืนน้ำลายลงคอ ถึงจะไม่เคยทำมาก่อนแต่ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าขนาดของมันไม่ได้เล็กน้อยเลย
“เธอกลัวเหรอ” เขาหัวเราะแล้วขยับตัวลงมาใกล้ ดันเรียวขาฉันขึ้นมาจนชันแล้วอ้ากว้าง
“เปล่า” ฉันพยายามตอบด้วยน้ำเสียงปกติ
เขายิ้มแล้วฝังจมูกลงที่แก้มของฉันก่อนจะเลื่อนลงไปที่ซอกคอ ดูดเม้มเบา ๆ แล้วขยับไปที่เนินอก ฝ่ามือหนานวดคลึงอกสองเต้า ริมฝีปากของเขาก็เข้าครอบครองติ่งเนื้อสีหวานที่แข็งชันขึ้นมา
“อ๊ะ อื้อ ~” มันเจ็บแต่ก็รู้สึกดีอยู่ไม่น้อย
เขาทำอย่างกับเด็กที่กำลังหิวกระหายอยู่อย่างไรอย่างนั้น ใช้ลิ้นตวัดเลียสลับไปมาสองข้างและกลับมาดูดดึงอีกรอบ
“ครางเลย ไม่ต้องอาย” คนตรงหน้าบอกแล้วเลื่อนมือขึ้นมายังใบหน้าของฉันข้างหนึ่ง อีกข้างเลื่อนต่ำลงไปด้านล่าง
เขาสอดนิ้วกลางเข้ามาในปากของฉันแล้วกระซิบบอกให้ดูดมัน ก่อนที่นิ้วมือด้านล่างจะลากผ่านกลางรอยแยกของกลีบเกสรที่ชื้นแฉะ
“จุดติดง่ายด้วย” เขาพูดแล้วยิ้มมุมปากแบบเดิม ใช้นิ้วบดขยี้เนื้อนูนด้านล่างแล้วจึงค่อย ๆ แทรกเข้ามาในช่องทางคับแคบ
“อื้อ ~” ความรู้สึกเจ็บในตอนแรกเริ่มเปลี่ยนเป็นความเสียวอยู่ภายในจนต้องหนีบขาเอาไว้แน่น แต่ก็ถูกเขาดันออกกว้างอีกรอบ
“โอเค ก็ถือว่าไม่ได้โกหก” คำพูดและสีหน้าพึงพอใจนั่นคงหมายถึงที่ฉันบอกเขาไปว่าไม่เคยทำ
แล้วเขาก็เริ่มชักนิ้วเข้าออกอยู่กับช่องทางรักคับแคบของฉัน สร้างความรู้สึกที่ฉันไม่เคยได้รู้จักอยู่นานหลายนาที
ฉันดูดนิ้วที่เขาสอดเข้ามาอย่างไม่รู้ตัว สลับกับร้องครางออกมาเพราะเขาเร่งจังหวะด้านล่างขึ้นเรื่อย ๆ แล้วอยู่ ๆ ก็ดึงนิ้วออกอย่างน่าเสียดาย
ไอ้บ้าเอ๊ย !
“หน้าเธอเหมือนเสียดาย” เขาหยอกล้อแต่ก็เปลี่ยนความเสียดายของฉันเป็นความรู้สึกอื่นแทนที่เมื่อปลายเนื้อนุ่มบางอย่างแตะลงมาที่ช่องทางเปียกชื้นนั้น
“อ๊ะ ! เจ็บ”
“ทนไว้ จะใส่เข้าไปทีเดียว” พูดมาฟังเหมือนง่ายนะ ก็ลองดูแล้วกัน
“...” ฉันพยักหน้าตอบรับ เขาก็เอาส่วนนั้นถูไถขึ้นลงก่อนจะจ่อและกดเข้ามาทีเดียวอย่างที่บอก จนฉันร้องลั่นออกมาทันที “จะ... เจ็บ !!”
มันเข้ามาได้ก็จริงแต่รู้สึกราวกับร่างกายถูกฉีกเป็นเสี่ยง ๆ เลย เจ็บจนเหมือนมีคนเอามีดมากรีดตรงนั้น
“ซี้ด เข้าแล้ว แน่นฉิบ” เขานิ่วหน้าเหมือนตนเองก็เจ็บอยู่เหมือนกันแต่คงไม่เท่าฉันแน่ ๆ
พอเข้ามาได้เขาก็เริ่มขยับ ร่างกายของฉันก็เริ่มขยายตัวให้สิ่งแปลกปลอมนั่นเข้ามาได้ง่ายขึ้น เขาก้มมองดูส่วนนั้นของเราสองคนก่อนจะเงยหน้ามองฉันแล้วโน้มตัวลงมาใกล้
“เลือดเธอออก” ถึงจะบอกแบบนั้นแต่เขาก็ไม่ได้คิดสงสาร เอวสอบยังคงเคลื่อนที่ให้ตัวตนของเขาได้เข้าออกในกายของฉัน
“อื้อ เจ็บ... เบา ๆ ได้ไหม”
เขาผ่อนแรงลงตามคำขอแต่ไม่นานนักก็เริ่มหนักหน่วงอีกรอบ
“ถ้าติดใจจะทำไง” คำพูดหยอกล้อของเขาทำเอาฉันหน้าร้อนผ่าว “แลกไลน์กันไหม”
ไม่รู้ว่าที่พูดนั่นหมายถึงฉันหรือเขาที่จะติดใจ แล้วที่บอกว่าให้แลกไลน์เพราะจะได้กลับมาสนุกกันอีกงั้นหรือ
ฉันพูดชัดแล้วนี่ว่าวันไนต์...
จากจังหวะเนิบนานเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนรุนแรงขึ้นสลับกันไปมา ยอมรับว่าชอบทุกอย่างที่เขาทำให้ มันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ฉันร้องครางไม่เป็นภาษาทั่วห้องที่ถูกเปลี่ยนเป็นสนามรักชั่วคราวในตอนนี้ เขาเองก็เปล่งเสียงครางพอใจออกมาเหมือนกัน
“ใกล้ยัง” เขาบอกแล้วเร่งจังหวะขึ้นเรื่อย ๆ
“อะ... อะไร”
“ใกล้ถึงยัง จะได้แตกพร้อมกัน” เขาพูดเสียงพร่า เอวสอบก็อัดกระแทกเต็มแรง
“มะ... ไม่รู้ อื้อ ๆ” ไม่รู้ว่า 'ถึง' ของเขามันรู้สึกอย่างไร แต่ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกเคว้งคว้างในท้องน้อยและเหมือนกำลังปวดฉี่อยู่เลย “คงใกล้ ละ... แล้วมั้ง”
เสียงของฉันสั่นไปตามแรงกระแทกของเขา ร่างกายก็โยกคลอนตามไปด้วย
“อืม”
เขาตอบแค่นั้นก่อนจะเน้นจังหวะหนักหน่วงลงมาใส่ฉันจนในที่สุดฉันก็ถึงอย่างที่เขาบอกและเขาเองก็เกร็งกระตุกไปพร้อมกับฉันเช่นกัน
พิเศษใส่ไข่หลังจากที่คุยกันไว้ว่าเราจะไปเที่ยวในวันหยุดของพี่คิวแล้ว สถานที่ที่เราเลือกไปก็เป็นทะเล เป็นเกาะที่อยู่ทางภาคใต้ของประเทศโชคดีว่าวันที่เราเดินทางมาไม่ใช่วันหยุดของคนส่วนใหญ่ ทำให้ผู้คนบางตาและสงบมากกว่าที่คิดไว้ บวกกับเกาะแห่งนี้ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ที่พักไม่แอะอัด นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็ตั้งใจมาพักผ่อนและหาที่เงียบสงบอยู่กันใต้หล้ากับไต้ฝุ่นเล่นทรายด้วยกัน มีอุปกรณ์ที่พ่อของพวกเขาขนมาให้มากมาย หลังจากจัดการกับลูกแล้วพี่คิวก็เดินมาหาฉันที่กำลังจัดแจงของกินเล่นซึ่งสั่งมาจากร้านใกล้ ๆ นี้“ถ่ายรูปไหม เดี๋ยวพี่ถ่ายให้”พี่คิวถามเพราะเห็นว่าฉันแต่งตัวเตรียมพร้อมมาเพื่อถ่ายรูปแล้ว ที่พี่คิวยอมให้ใส่ทูพีซตัวนี้มาก็เพราะว่านักท่องเที่ยวไม่มาก เวลานี้มันก็ไม่โป๊มากเพราะมีเสื้อคลุมตัวยาวบาง ๆ คลุมอยู่“ถ่ายสิ แต่งตัวมาขนาดนี้แล้ว”ฉันบอกด้วยรอยยิ้มก่อนจะเปลื้องเสื้อคลุมตัวนั้นออกแล้วเดินนำสามีตนเองออกไปตรงบริเวณชายหาด เวลานี้แดดค่อนข้างแรง ฉันก็ไม่ค่อยชอบเท่าไรนักเพราะปกติทำงานอยู่แต่ในห้อง ไม่ค่อยโดนแดดอย่างนี้“สวย ๆ นะ แบบรูปเดียวลงได้เลย”เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะถือกล้องไว้ในระ
ตอนพิเศษ 4หลายปีต่อมาเราตัดสินใจมีเด็ก ๆ ไว้เป็นเพื่อนยามเหงาสองคน จากนั้นก็ทำการปิดอู่ทันทีเพราะฉันกับพี่คิวคิดไว้แล้วว่าจะให้เขามีพี่น้องไว้คอยปรึกษากัน ทีแรกตั้งใจจะให้อายุห่างกันสักสามปีแต่คนที่สองดันมาไวกว่าที่คิดคนพี่ชื่อใต้หล้า คนน้องชื่อไต้ฝุ่น เป็นชื่อที่พี่คิวตั้งให้เขาทั้งคู่ เรามีลูกชายทั้งสองคนขณะที่ใบชากับพี่ฮ่องเต้นั้นมีลูกชายหนึ่งกับลูกสาวอีกคน คนโตชื่อน้องฮัท แก่กว่าใต้หล้าหนึ่งปี แต่คนน้องนั้นอายุเท่าไต้ฝุ่น ชื่อว่าน้องฮานึล ตอนนี้กำลังน่าหยิกเลยทีเดียว“คุณแม่ !!”เสียงของใต้หล้าดังขึ้นมาแต่ไกล เขาจูงมือน้องชายที่อายุได้เพียงสามขวบเดินเข้ามาด้วย แต่ใบหน้าบิดเบี้ยวเหมือนกำลังจะร้องไห้“น้องเป็นอะไรคับ”“ฮือ ~”ทันทีที่ฉันย่อตัวไปถามลูกชายเขาก็ปล่อยเสียงร้องไห้โฮทันที ก่อนจะโผตัวเข้ามากอดฉันราวกับอัดอั้นตันใจ“ฝุ่นจะแย่งรถของใต้ ก็เลยล้มเอง” ลูกชายวัยห้าขวบอธิบายเมื่อฉันหันไปมองเขาเพราะต้องการเหตุผล“ฝุ่นล้มเองเพราะซนใช่ไหมครับ” ฉันดันตัวลูกชายออกอย่างเบามือแล้วถามเขาด้วยความเป็นห่วง “เจ็บตรงไหนไหมเอ่ย”“ตงนี้ ~ ฮึก” เขาตอบเสียงสั่นเจือด้วยเสียงร้องไห้เบา ๆ“ไม่ร้อ
ตอนพิเศษ 3ฉันหัวเราะใส่พี่คิวอย่างนึกตลก คนที่เคยเก่งเรื่องอย่างว่าพอโดนแกล้งถึงกับหน้าเสีย จนฉันต้องยอมหยุดแกล้งแต่โดยดี“เตยล้อเล่น”“เดี๋ยวเถอะ ร้องจริงนะ” พี่คิวทำหน้าเครียดแต่มือก็อยู่ไม่สุข ลูบไล้ไปตามผิวกายของฉันทั่วร่างจนขนอ่อน ๆ ของฉันมันลุกชันจากสัมผัสนั้นฉันก็แกล้งเขาไปไม่จริงจัง ทั้งที่จริงสำหรับฉันแล้วพี่คิวคือที่สุด เพราะเขาคือคนแรกและคนเดียวของฉัน ไม่คิดอยากมีใครมาแทนที่อีกแล้ว“อื้อ !”ฝ่ามือเย็นเฉียบของเขาลูบลงที่ต้นขา ขยับมาที่ขาอ่อน ก่อนจะค่อย ๆ ขยับมาที่กลีบดอกไม้สีระเรื่อและใช้ปลายนิ้วนั้นลากผ่านเพื่อแหวกเข้าหารอยแยกที่ผลิแย้ม“แกล้งกันดีนัก” เขาทำเสียงแข็ง แทรกนิ้วเข้าไปในช่องทางรักที่เริ่มมีน้ำหวานระบายออกมาจากการถูกสัมผัสที่ปลุกเร้าหัวใจของฉันวาบหวาม ถึงแม้จะเป็นคนที่คุ้นเคยแต่มันไม่เคยชินกับการถูกรุกล้ำตรงส่วนนั้นเลยสักนิด เหมือนมันคือการเริ่มใหม่ ราวกับเป็นครั้งแรก“อ๊า... พี่คิวขา เตยเสียว” ฉันร้องกระเส่าไม่รู้ตัวเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวนั้นสอดแทรกและขยับเคลื่อนที่เข้าออกเนิบนาบ ปรนเปรอปลุกเร้ากลายเป็นความสยิวซ่านอย่างต่อเนื่องเขาใช้นิ้วกลางจ้วงแทงจนเกิดเป็น
ตอนพิเศษ 2“ประจำเดือนมาไหม เดือนนี้รู้สึกว่าไม่วานให้ไปซื้อของ”“ไม่”“ขาดไปกี่วันแล้ว”พี่คิวตั้งคำถามที่ตอนนี้มันถือว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับเราสองคน ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ละก็ฉันคงได้อายหน้าร้อนแน่ ๆ ก็มีที่ไหนล่ะที่จะมาถามเรื่องแบบนี้กัน“ห้าวันแล้วค่ะ แต่ช่วงนี้เตยนอนไม่ค่อยหลับเลยคิดว่าน่าจะเป็นเพราะตรงนั้น”“ลองตรวจดูหรือยัง หืม” เสียงพี่คิวยังคงถามต่อ หลังจากที่เขาเพิ่งเลิกงานมา ไม่รู้ไปโดนอะไรเข้า วันนี้ถึงได้เซ้าซี้นัก“ยังเลย ที่ซื้อมาก็หมดแล้วค่ะ ตรวจบ่อย วันนี้ก็ลองตกแต่งรูปขายของทั้งวัน ลืมไปเลย”ช่วงนี้ฉันรู้สึกว่าตนเองเบื่อ ๆ เพราะอยู่บ้านคนเดียวไม่มีอะไรทำ เลยขอพี่คิวสั่งของจากร้านค้าต่างประเทศมาขาย ก่อนหน้านี้ลองสั่งมาน้อย ๆ ลงขายในแพลตฟอร์มต่าง ๆ พอจับจุดได้ เจอตัวที่ขายดีเลยสั่งมาถ่ายรูปเอง ลงโพรโมตเพิ่มยอดขายได้มากเลยทีเดียว“บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้ทำแก้เบื่อ อย่าจริงจังจนเครียด” พี่คิวพูดแล้วเอื้อมมือมาลูบหัวฉันอย่างอ่อนโยน “เดี๋ยวพี่ไปซื้อ”เขาจริงจังกับการพยายามมีลูกมากถึงแม้ว่าจะแพ้พนันพี่ฮ่องเต้ เพราะใจจริงเราสองคนก็อยากมีเจ้าตัวน้อยไว้กอดเหมือนกัน หลังจากวั
ตอนพิเศษ 1หลังจากที่เราทั้งคู่ตัดสินใจว่าอยากมีเจ้าตัวน้อยไว้เชื่อมความสัมพันธ์ หลังจากวันนั้นเราก็เลือกโรงพยาบาลเพื่อคอยรับคำปรึกษาและคอยดูแลเราสองคนต้องเข้าตรวจสุขภาพและรับประทานยาบำรุงตามที่หมอสั่ง หลังจากนั้นก็ให้เป็นไปตามธรรมชาติ ผลตรวจที่ออกมาแน่นอนว่าเราสองคนยังสุขภาพสมบูรณ์และแข็งแรง ไม่มีโรคร้ายใด ๆ สามารถมีลูกได้“ลองโหลดแอปนี้มาแล้ว เขาบอกว่าดี” พี่คิวยื่นโทรศัพท์ของเขาที่หน้าจอกำลังแสดงแอปพลิเคชันหนึ่งซึ่งหน้าตาคล้ายปฏิทินวันนี้เป็นวันหยุดของพี่คิว วันที่เราสองคนจะได้อยู่ด้วยกันทั้งวัน แต่วันนี้คุณหมอก็ยังคงนัดตรวจร่างกายอีกครั้งเพื่อติดตามผลและตรวจร่างกายเพิ่ม“นับวันไข่ตก”“...” เขาไม่ตอบแต่ยิ้มกริ่มแล้วพยักหน้าเป็นคำตอบแทน“แม่นยังไงพี่คิว”“ก็ถ้าเราอึ๊บ ! กันช่วงที่เป็นสีชมพูโอกาสท้องก็มีเยอะมาก ๆ ไง” เขาพูดหน้าตาเฉยแต่ฉันกลับใบหน้าร้อนวาบ“ทุกวันเลยเหรอ เตยก็ตายพอดี ไม่ได้พัก” ฉันยัดโทรศัพท์ของเขากลับไปให้ก่อนจะหันหน้าหนีออกไปทางหน้าต่าง รอให้ความร้อนบนใบหน้ามันลดลงถึงหันกลับมามอง แต่พี่คิวก็ยังยิ้มอยู่“พี่ศึกษามาแล้วครับ ถ้าอยากได้ลูกที่เก่งและสมบูรณ์เราต้องพักวั
EP. 41เราซื้อบ้านอยู่ด้วยกันสองคนแถวชานเมือง แต่ไม่ได้ใกล้กับบริษัทที่พี่คิวทำงานเท่าไร นั่นเป็นเพราะเขาวางแผนจะลาออกในปลายปีนี้และออกมาทำบริษัทของตนเองโดยหุ้นกับเพื่อนสนิทอีกสามคนเรียกว่าแยกย้ายกันไปเก็บประสบการณ์และกลับมาสร้างฐานตนเองนั่นละ“พี่คิว...” ฉันกรอกเสียงใส่ปลายสายอย่างอ้อน ๆ เพราะจะวานให้เขาซื้อของสำคัญให้(ครับ ว่าไง)“กลับมาแล้วใช่ไหมคะ เตยจะฝากซื้อยา”(ได้ ยาอะไร)“ยาคุมไง เมื่อคืนบอกไปแล้วว่ามันหมด ขาดไปหนึ่งวันแล้วด้วย เดี๋ยวเตยส่งรูปให้นะ พี่คิวแค่ยื่นให้เภสัชดู” (ครับ)แล้วฉันก็จัดการถ่ายรูปกล่องยาคุมกำเนิดที่รับประทานประจำให้พี่คิวทางกล่องข้อความแอปพลิเคชันไลน์ ก่อนกลับมาเตรียมกับข้าวบนโต๊ะกินข้าวต่อ จะว่าไปแล้วการอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่มันก็เหงาพอสมควร จากที่ตอนแรกฉันคิดว่าจะหางานทำแต่พี่คิวไม่ยอม บอกว่าให้อยู่บ้านไปก่อนจะได้ดูแลสามีได้เต็มที่ และตอนที่เปิดบริษัทด้วยกันกับเพื่อนจะให้ฉันมีตำแหน่งเป็นคนทำบัญชีด้วยชีวิตที่ผู้หญิงหลายคนใฝ่ฝันแต่ฉันกลับรู้สึกว่ามันโคตรน่าเบื่อเหลือเกิน หรือฉันควรจะหาน้องหมามาเลี้ยงสักตัวดีนะ“คิดถึง...” “อ๊ะ พี่คิว จานเกือบร
Comments