“หนาวจังเลย” ชาร์ลีกระซิบขณะมองออกไปที่ระเบียง เธอจิบช็อกโกแลตร้อนก่อนจะสูดลมหายใจลึก “สงสัยจังว่าอากาศจะแย่แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน” “ฉันเช็กสภาพอากาศมาแล้ว ฝนจะตกจนถึงพรุ่งนี้เลย ชั้นเรียนก็น่าจะกลับมาเปิดในวันถัดไป” เทย์เลอร์พูดจากด้านหลังชาร์ลี เขาดื่มเครื่องดื่มร้อนแล้วนั่งลงบนโซฟาอีกตัว สายตาก็มองฝนที่ตกหนักไปด้วย เพราะมีพายุ ทำให้ชั้นเรียนถูกสั่งหยุดชั่วคราว ดังนั้นชาร์ลีเลยต้องติดอยู่ที่บ้านกับเทย์เลอร์ “งั้นเล่าเรื่องของเธอมาหน่อยสิ ชาร์ลีผมบลอนด์ ถ้าเราจะเป็นรูมเมตกัน ก็น่าจะทำความรู้จักกันไว้บ้าง” เทย์เลอร์เสนอ ชาร์ลีหันไปมองเขา สายตาเธอจ้องนานกว่าที่ตั้งใจไว้ ปกติเทย์เลอร์จะปล่อยผมตามธรรมชาติ แต่เช้านั้นเขามัดผมขึ้นทำให้เห็นใบหน้าคมชัดเต็ม ๆ “อืม อยากรู้เรื่องอะไรล่ะ?” “เธอมาจากไหน?” เทย์เลอร์ถามโดยไม่หันมามองเธอ เขากลับไปดื่มกาแฟต่อ ชาร์ลีทำหน้าประหลาดใจก่อนจะหันกลับไปมองวิวของมหาวิทยาลัย เธอพูดว่า “ฉันมาจากฮัลลิพอร์ต” “ฮัลลิพอร์ต ฮัลลิพอร์ต” เทย์เลอร์พูดตาม “นั่นมันเมืองที่ห่างไปตั้งสิบเมืองไม่ใช่เหรอ?” “สิบสองเมืองต่างหากล่ะ” ชาร์ลีแก้ “ถ้าฉันจำไ
“ก็อาจเป็นแบบนั้น” ชาร์ลีตอบ“คณะบริหารธุรกิจจริงจังเกินไป” เทย์เลอร์พูด “มันก็แค่เกม ฉันคิดว่านั่นแหละคือเหตุผลที่กัปตันของเธอไม่มีวันชนะฉันได้ เขาจริงจังเกินไป ขนาดล้อเล่นด้วยยังรับไม่ได้เลย…”“นายทำให้เขาหงุดหงิดตลอดเวลาที่อยู่ในสนามเลยต่างหาก” ชาร์ลีเข้าประเด็นในทุกแมตช์ระหว่างทีมอะตอมมิก ฮีทกับทีมวอลล์สตรีท วอริเออร์ เทย์เลอร์ไม่เคยพลาดโอกาสที่จะกวนประสาทลุคด้วยสีหน้าทะเล้นของเขาเลย เทย์เลอร์ยั่วลุคตลอดเวลา ทั้งยังพูดจาเหน็บแนมอย่าง “ได้แค่นี้เองเหรอ ซัลลิแวน? นายมาอยู่ในสนามทำไมกัน?”ชาร์ลีเคยเห็นเทย์เลอร์ลอกเลียนท่าทางของลุค แล้วทีมของเขาก็หัวเราะกัน เทย์เลอร์ยังชอบถ่วงเวลาในเกมโดยการถือบอลไว้นานเกินไปอีกด้วย“บางทีมันก็เป็นเกมจิตวิทยาไง” เทย์เลอร์พูดพลางหัวเราะ “และไอ้เวรลุค ซัลลิแวนก็วอนโดนซะด้วย เขาคิดว่าตัวเองสูงส่งเหนือใคร แค่เพราะพ่อเขาเป็นเจ้าของร้านขายของชำที่ใหญ่ที่สุดในเมือง”“แต่นายก็คิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่นเหมือนกันนี่” ชาร์ลีพูดขึ้น“เธอจะเข้าข้างลุค ซัลลิแวน แทนรูมเมตตัวเองจริงเหรอ?” เทย์เลอร์ถาม “เธอควรคิดให้ดีว่าอยากอยู่ข้างไหน ชาร์ลีผมบลอนด์ เพราะฉันไ
ประมาณสี่โมงเย็น นักศึกษาทุกคนได้รับคำสั่งให้ไปที่หอประชุม นี่เป็นครั้งแรกที่มีการประชุมอย่างนี้เนื่องจากมหาวิทยาลัยลักซ์ฟอร์ดแยกคณะต่าง ๆ ออกจากกันมานานแล้ว เช่น คณะบริหารธุรกิจที่มีการชุมนุมใหญ่และกิจกรรมอื่น ๆ แยกจากคณะศิลปศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะวิศวกรรม และคณะอื่น ๆ ต่อมาชาร์ลีก็ได้รู้ว่ามหาวิทยาลัยมีเรื่องสำคัญจะประกาศ“ทางนี้ ชาร์ลี! ฉันจองที่ไว้ให้เธอแล้ว!” ดอว์นโบกมือเรียกเธอจากแถวกลางของคณะบริหารธุรกิจชาร์ลียิ้มและรีบเดินไปหาดอว์น ที่นั่งกำลังถูกจับจองอย่างรวดเร็ว และโชคร้ายที่สองแถวด้านหน้าของพวกเธอเป็นที่ว่างเดียวที่เหลืออยู่ เมื่อลุคและเพื่อนของเขามาถึงหอประชุม พวกเขาก็นั่งลงในที่ว่างด้านหน้าชาร์ลีดอว์นเป็นคนแรกที่มีปฏิกิริยา เธอเริ่มมองหาที่นั่งใหม่ แล้วพูดว่า “มีที่ว่างอีกสองที่ทางด้านหลัง เธออยากย้ายไปรึเปล่า?”เมื่อชาร์ลีหันไปมอง เธอก็เห็นว่าที่นั่งเหล่านั้นถูกล้อมรอบไปด้วยกลุ่มนักศึกษาคณะการเงินจอมหยิ่งยโส ซึ่งเธอไม่ชอบ เธอจึงตอบไปว่า “เรานั่งตรงนี้ก็ได้”เธอยิ้มให้ดอว์นแล้วเอ่ยต่อ “ฉันไม่ถือหรอก”“ไงดอว์น เอ่อ…ไง ชาร์ลี” ชายที่นั่งข้าง ๆ ดอว์นพูด“ไง แฟรง
“ทุกคนเงียบกันหน่อย วันนี้เรามีประกาศสำคัญมากจะประกาศ...” คณบดีหญิงกล่าวมีการแนะนำรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการคนใหม่ เขายืนอยู่หน้าหอประชุมแล้วพูดกับนักศึกษาว่า “ภายใต้การนำของผม เราจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น รวมถึงการส่งเสริมสภาพแวดล้อมให้นักศึกษาเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้นด้วย ซึ่งต่างจากปีก่อน ๆ เพราะเราจะได้เจอกันในงานชุมนุมบ่อยขึ้น”ผู้ฟังปรบมือหลังจากรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการกล่าวจบ ต่อจากนั้นคณบดีของคณะบริหารธุรกิจก็ก้าวขึ้นมาข้างหน้าแล้วกล่าวกับทุกคน“ไหน ๆ พวกเราก็มารวมตัวกันที่นี่แล้วในวันนี้” เธอเริ่มพูด “เราจึงอยากใช้โอกาสนี้ในการเชิดชูนักศึกษาที่ได้คะแนนสูงสุดของเราในปัจจุบัน เมื่อชื่อของคุณถูกเรียก กรุณาขึ้นมาบนเวทีเพื่อรับเกียรติบัตรด้วยนะคะ”ชาร์ลีไม่เคยคิดว่าจะได้รับการยกย่องตั้งแต่ช่วงต้นเทอม ยิ่งโดยเฉพาะในขณะที่ยังไม่จบเทอมแบบนี้ แต่เธอก็เข้าใจว่านี่เป็นวิธีของมหาวิทยาลัยในการสนับสนุนนักศึกษาที่มีคะแนนสูงสุด“เริ่มจากคณะบริหารธุรกิจกันก่อน” คณบดีกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “คนแรก ชาร์ลี เรย์ คิงจากคณะบริหารธุรกิจค่ะ!”…… ก่อนที่งานประชุมจะเริ่ม เทย์เลอร์ก็เห็นว่าชาร์ลีเมินเขาอ
ขณะที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งของตัวเอง ชาร์ลีรู้สึกได้ถึงสายตาของทุกคนที่มองมาทางเธอ แม้ว่านักศึกษาส่วนใหญ่ในคณะบริหารธุรกิจอาจจะรู้เรื่องที่เธอเลิกกับลุคไปแล้ว แต่ตอนนี้ทั้งมหาวิทยาลัยรู้แล้วว่าเธอโดนทิ้งและโดนแทนที่!“มันไม่เลวร้ายอะไรหรอก” ดอว์นกระซิบกับเธอ “ทุกคนดูออกอย่างชัดเจนเลยว่าเขานอกใจเธอ” “ใช่เลย” แฟรงก์พูดเบา ๆ “มันชัดเจนอยู่แล้ว”“ตอนนี้ลุคก็รู้แล้วว่าคณบดีเข้าข้างเธอ ฉันเห็นสายตาเสียดายบนหน้าเขา ตอนที่คณบดีไม่ให้เรจิน่าขึ้นเวที” มีอาพูด กระซิบใกล้กับชาร์ลีเรจิน่าโกรธมากจริง ๆ ในแง่หนึ่ง เธอรู้สึกเสียหน้า แต่ก็ไม่มีใครโทษคณบดีได้ ในอดีตคณบดีเคยชื่นชมชาร์ลีกับลุคในฐานะคู่รักเสมอ เจตนาของคณบดีล้วนมาจากความภูมิใจ แต่โชคร้ายที่ข่าวการเลิกกันยังไม่ถึงหูของคณบดีขณะที่ชาร์ลีนั่งอยู่ตรงนั้น เธอสังเกตเห็นสายตาอันแรงกล้าคู่หนึ่งที่จ้องมาทางเธอ เธอหันไปทางขวา แล้วเธอก็สบสายตาเข้ากับเทย์เลอร์ เวสต์เขายิ้มมุมปาก และหัวใจของชาร์ลีก็เต้นแรงทันทีที่เห็นสีหน้าแบบนั้นของเทย์เลอร์‘บ้าเอ๊ย!’ เธอกัดริมฝีปาก ตระหนักได้ทันทีเลยว่าเทย์เลอร์ต้องรู้เรื่องอดีตของเธอกับลุคแล้วแน่ ๆ ‘เขาจำได้
“ชาร์ลี เธอแน่ใจเหรอว่าไม่รู้จักเทย์เลอร์? เขามองเธออีกแล้วนะ” ดอว์นพูด“เทย์เลอร์ เวสต์เหรอ?” มีอาถาม พลางหันไปทางขวา “เธอพูดถูกนะดอว์น เขากำลังมอง...ชาร์ลีใช่รึเปล่า?”ชาร์ลียืนขึ้นแล้วพูดว่า “รู้อะไรไหม? ฉันเพิ่งนึกได้ว่าต้องยืมหนังสือจากห้องสมุด” เธอสะพายกระเป๋าขึ้นบ่าแล้วเสริมว่า “ฉันต้องไปแล้ว”ระหว่างที่ชาร์ลีรีบสาวเท้าออกไป เธอก็เห็นจากหางตาว่าเทย์เลอร์ก็ลุกขึ้นเหมือนกัน เธอพึมพำว่า “โอ้พระเจ้า นี่เขาคิดจะทำอะไรอีกเนี่ย?”ข้างหน้า ลุคกับกลุ่มเพื่อนกำลังยืนขวางทางออกจากหอประชุม ทางรอดเดียวของเธอคือการเบียดตัวเองฝ่าฝูงชนกลุ่มนั้นไปให้ได้! ชาร์ลีกลืนน้ำลายแล้วตัดสินใจลุย เธอวิ่งพุ่งไปที่ทางออก และทำให้เพื่อนลุค บางคนตกใจ“ชาร์ลี?” โซเฟียถามด้วยความตกใจ“ลุค แฟนเก่านายวิ่งตามนายแหน่ะ” ใครบางคนพูดขึ้น“ขอโทษ ขอโทษที ฉันไม่ได้ตามลุค! ฉันรีบ! ขอทางหน่อย!” ชาร์ลีประกาศ พลางเบียดตัวออกไป เธอเพิ่งจะพ้นจากลุคกับเรจิน่าไปได้เท่านั้น แต่จู่ ๆ เธอก็รู้สึกถึงแขนที่โอบรอบตัวเธอชาร์ลีกลืนน้ำลายลงคอ แขนนั้นเป็นของคนตัวสูงและแข็งแรง เขาสามารถล็อกตัวเธอไว้ได้อย่างง่ายดาย เมื่อชาร์ลีเงยหน้
“ใช่ ลุคก็คือเหตุผลนั่นแหละ” ชาร์ลียอมรับ เธอกินอาหารคำสุดท้ายหมดแล้วก็พูดต่อว่า “แล้วเพื่อนสนิทของฉันก็หักหลังฉัน”เธอเล่าให้เทย์เลอร์ฟังว่าแอชลีย์กับโซเฟียจงรักภักดีกับลุคมากกว่า แม้ว่าเขาจะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม เธอยังเล่าเรื่องที่พวกนั้นยินดีต้อนรับเรจิน่าเข้ามาในอะพาร์ตเมนต์ และเหตุการณ์ในคาเฟ่เดอะนุ๊กแอนด์บริวด้วย“ว้าว” เทย์เลอร์ทำหน้าบอกบุญไม่รับ เขาพูดว่า “แก๊งวอลล์สตรีท วอริเออร์พวกนั้นต้องเป็นพวกคลั่งลัทธิอะไรสักอย่างแน่ ๆ แล้วลุคก็เป็นหัวหน้าลัทธิเสียด้วย”เทย์เลอร์โน้มตัวเข้าไปใกล้โต๊ะแล้วชี้แจง “ลองคิดดูนะ ชาร์ลี ตอนเธอบอกว่าจะไม่สนับสนุนทีมบาสเกตบอลของพวกเขา พวกเขาก็ทำตัวแย่ใส่เธอแล้ว” เขายักไหล่แล้วพูดเพิ่มว่า “ปัญหาของลัทธิก็คือ เวลาขอลาออกมันจะดุเดือดหน่อย ๆ”ชาร์ลียกคิ้วใส่เทย์เลอร์ แต่ทันใดนั้นเธอก็หัวเราะแล้วตอบว่า “ฉันว่ามันก็คงเหมือนลัทธินั่นแหละเนอะ?”“แต่ฉันเข้าใจความรู้สึกเธอนะ เพื่อนจริง ๆ จะไม่หักหลังกันแบบนั้น” เทย์เลอร์เสริม“ฟังนะ ฉันรู้ว่าบนโลกนี้ไม่มีอะไรถาวร แม้แต่คู่แต่งงานก็ยังเลิกกันได้ แต่ว่าลุคพยายามจีบฉันมากขนาดนั้น” ชาร์ลีเล่า “เขาตามจีบฉันอยู่น
หลังจากวางสาย เทย์เลอร์ก็หัวเราะเบา ๆ อย่างดูแคลน เขาพูดว่า “ไม่เอาน่า ชาร์ลีผมบลอนด์ เธอจะปล่อยให้ลุครอดตัวไปง่าย ๆ จริงเหรอ? มาทำให้เขาหงุดหงิดกันเถอะ”เขาขยับตัวไปข้างหน้าแล้วประกาศว่า “เรามาล้มลัทธินั่นกันเถอะ”“โดยแกล้งเป็นแฟนกันงั้นเหรอ? แล้วมันจะได้ผลยังไง?” ชาร์ลีถาม“ลองคิดดูสิ แฟนเก่าของลุคไปคบกับคู่แข่งบาสเกตบอลของเขา” เทย์เลอร์อธิบาย “มันต้องทำให้ลุคคลั่งแน่!”“แต่ทั้งหมดที่ฉันต้องการคือการจากไปแบบเงียบ ๆ ฉันไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรให้พวกเขาเห็นเลย” ชาร์ลีกล่าว“ทำไมเธอถึงอยากจากไปแบบเงียบ ๆ ล่ะ?” เขายกแขนขึ้นแล้วเสนอว่า “เราสามารถทำให้พวกเขาทุกข์ แล้วเธอก็จะรู้สึกดีขึ้นด้วย”ชาร์ลีส่ายหัว ก่อนจะเธอพูดว่า “ไม่รู้สิเทย์เลอร์ ฉันหมายถึง แล้วนายจะได้อะไรจากเรื่องนี้ล่ะ?”“ฉันจะได้อะไรงั้นเหรอ?” เทย์เลอร์เอนหลังพิงพนัก มีช่วงลังเลเล็กน้อยก่อนเขาจะตอบ “ฉันจะได้กำจัดคู่แข่งไง”“โธ่ ไม่เอาน่า เทย์เลอร์” ชาร์ลียืนขึ้นแล้วตบมือลงบนโต๊ะ เธอโน้มตัวเข้าไปใกล้เขาแล้วพูดว่า “เราทั้งสองคนก็รู้ว่าเขาไม่ใช่คู่แข่งของนายหรอก เมื่อก่อน ฉันเคยให้กำลังใจลุคเพราะฉันรักเขา แต่ฉันก็รู้ดีว
“รู้สิ ฉันแค่อยากคิดเรื่องนี้ให้ดีก่อน” ชาร์ลีกล่าว พร้อมกับสลัดเสียงในหัวออกไป จากนั้นเธอก็เปลี่ยนเรื่อง “เทย์เลอร์ พอพูดถึงการทำให้ดูเหมือนเราคบกันจริง ๆ นายก็ควรจัดการกับพวกผู้หญิงที่ชอบอ้างตัวว่าเป็นแฟนนายหน่อยนะ”“เธอหึงเหรอ?” เทย์เลอร์ถาม“เปล่า! แต่มันเป็นสาเหตุที่ทำให้ลุคเชื่อว่าเรากำลังแกล้งคบกันตั้งแต่แรกต่างหาก!” ชาร์ลีตอบทันควัน เธอเล่าให้เขาฟังว่าเมซี่พูดอะไรกับคนอื่นบ้าง “ให้ตายสิเทย์เลอร์ ทำไมนายไม่เคยจัดการเรื่องนี้บ้างเลยล่ะ? นายปล่อยให้ผู้หญิงพวกนั้นพูดถึง...เอ่อ...ขนาดของนาย แล้วก็เรื่องที่พวกเธอมีอะไรกับนายได้ยังไง? มีเวอร์ชันต่าง ๆ ของสิ่งนั้นของนายเต็มไปหมดเลยนะ!”“สิ่งนั้น?” เทย์เลอร์พูดเสริม “หมายถึงไอ้นั่นของฉันน่ะเหรอ” เทย์เลอร์แก้ “ฟังดูเหมือนเป็นของสะสมรุ่นลิมิเต็ดเลยนะ”ชาร์ลี “…”“อย่างแรกเลยนะ ชาร์ลี” เทย์เลอร์เริ่มพูด “ฉันไม่รู้จักผู้หญิงพวกนั้นด้วยซ้ำ ฉันต้องใช้ชีวิตด้วยการออกล่าคนพูดมั่วไปทั่วหรือไง? ก็พวกเธอไม่ได้พูดต่อหน้าฉันนี่นา เธอก็รู้”“แต่เรื่องเมซี่ ฉันยอมรับว่าฉันรู้” เทย์เลอร์ยืนยัน “ฉันแค่ไม่อยากเผชิญหน้ากับเธอเพราะเห็นแก่คาร์ล แล้วฉ
“เธอควรฝึกอีกสักหน่อยนะ” เทย์เลอร์เสนอ ชาร์ลีกะพริบตาค้างพร้อมขมวดคิ้ว “ฉันเหรอ?” “ใช่ จูบนั้นมันก็แค่…พอใช้ได้” เทย์เลอร์ยักไหล่ พลางทำมือที่แปลว่า ก็แค่กลาง ๆ ออกมา “พอใช้ได้?” ชาร์ลีอ้าปากค้าง “นายก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่หรอก!” เทย์เลอร์หรี่ตา แล้วอยู่ ๆ ก็เอนตัวไปข้างหลังแล้วยิ้มมุมปาก และนั่นแหละ ที่ชาร์ลีรู้ทันทีว่าเธอกำลังมีปัญหาแล้ว เธออยู่กับเทย์เลอร์มาเกือบสองอาทิตย์แล้ว และสิ่งหนึ่งที่เธอได้เรียนรู้ก็คือรอยยิ้มแบบนั้นของเขาหมายถึงปัญหาแน่นอน “โอเค” เทย์เลอร์พูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ “เรามาตั้งขอบเขตกันดีกว่า” ชาร์ลีกอดอก “ขอบเขตเหรอ?” “ใช่ เรื่องการจูบน่ะ” เทย์เลอร์ตอบ ชาร์ลีพยักหน้าเร็ว ๆ “ถูกต้อง ความชัดเจนน่ะสำคัญ” “กฎต้องมี” เทย์เลอร์เริ่มพูดต่อ “จะได้ชัดเจนกันทั้งสองฝ่าย ว่าควรจูบเมื่อไหร่ ใครเริ่มก่อน และจูบยังไง” ชาร์ลีขยับตัวอย่างอึดอัด อยู่ ๆ ก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว “ใช่ ฟังดูมีเหตุผล” “งั้นสิ่งที่ฉันคิดว่าควรทำก็คือ…” เทย์เลอร์โน้มตัวไปข้างหน้า ดูจริงจังมาก เขาพักข้อศอกไว้บนเข่าแล้วพูดว่า “เพื่อให้ลุคหัวเสียต่อไป เราต้องยอมรับว่าการจู
“ว่าแต่ว่าชาร์ลี ถึงเธอจะอยู่กับเทย์เลอร์ ฉันก็แค่อยากบอกให้ชัดนะว่าฉันเห็นเธอก่อน” แอตลาสมองเทย์เลอร์อย่างไม่พอใจ แล้วพูดว่า “เทย์เลอร์ก็แค่ขโมยเธอไปจากฉันเท่านั้นเอง” พวกผู้ชายพากันหัวเราะ รวมถึงแองเจิล น้องสาวของแอตลาสด้วย แองเจิลพูดว่า “ไม่รู้สิ แอตลาส แต่เทย์เลอร์ไม่เคยหวงผู้หญิงแบบนี้มาก่อนเลย ฉันว่าพวกเขาเกิดมาเพื่อกันและกันแน่” พอชาร์ลีได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของเธอก็แดงเรื่อขึ้นมา เธอรู้สึกได้ว่าความร้อนลามไปถึงหูแล้ว พลางคิดในใจว่า ‘พระเจ้า ถ้าพวกเขารู้ว่าเรากำลังแกล้งคบกันอยู่ล่ะก็…’ “จริง ๆ แล้ว” เทย์เลอร์เอาแขนที่โอบไหล่ของชาร์ลีออก เขาเอนตัวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “ชาร์ลีอยู่กับฉันแล้ว เราคบกันก่อนที่พวกนายจะเห็นเธอบนเวทีในวันประกาศรางวัลเสียอีก” “อะไรนะ?” แอตลาสพูดขึ้น “ฉันนึกว่านายแค่แกล้งทำให้ลุคหัวเสีย นี่พวกนายอยู่บ้านเดียวกันงั้นเหรอ?” “ใช่!” เทย์เลอร์ตอบ แอตลาส “แล้วไอ้เรื่องบ้า ๆ ที่นายบอกฉันว่าชาร์ลีไม่ใช่สเปคนายก็คือแค่...” “ใช่” เทย์เลอร์ยืนยันอีกครั้ง แอตลาส “แล้วที่นายพูดว่าเธอเป็นแค่...” “ใช่! และใช่!” เทย์เลอร์โอบแขนกลับไปรอบตัวชาร
ชาร์ลีโกรธมาก เธอไม่เข้าใจว่าลุคทำเหมือนเธอยังเป็นของเขาได้ยังไง ‘เขาลืมไปแล้วหรือไงว่าเขาทำร้ายฉันมากแค่ไหน? เขานอกใจแล้วยังโกหกอีก?’ เธอคิดอย่างโกรธจัด ‘แล้วตอนนี้ เขาคิดว่าฉันจะกลับไปหาเขาอีกงั้นเหรอ?’ นั่นเป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก แต่ถึงเธอจะโกรธแค่ไหน การมีเทย์เลอร์อยู่ตรงนั้นก็ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น แขนของเขาที่โอบเธอไว้ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมือนเป็นเกราะที่กันความหยิ่งผยองของลุคไม่ให้เข้ามาถึงเธอ เธอยังรู้สึกเจ็บอยู่ แต่ความเจ็บมันเบาลงเพราะมีเทย์เลอร์อยู่ข้าง ๆ ตอนที่พวกเขาหันหลังเดินออกมา ชาร์ลียังอยากเอาคืนลุคมากกว่านี้ เธอกระซิบกับเทย์เลอร์ “จูบฉันสิ” “ว่าไงนะ?” เทย์เลอร์ถาม “จูบฉันสิ” เธอพูดย้ำอีกครั้ง เสียงยังคงนุ่มนวล “เดินลงไปอีกสองขั้นก่อน จะได้ดูสมจริง” เทย์เลอร์เสนอ หลังจากเดินลงไปอีกสองขั้น เทย์เลอร์ก็ดึงชาร์ลีเข้ามาใกล้แบบสบาย ๆ เขาหยุดเดินและหันมาเผชิญหน้ากับเธอ เพื่อนร่วมทีมของเขาสังเกตเห็น แต่ก็เข้าใจว่าทั้งคู่ต้องการเวลา จึงเดินนำหน้าไปก่อน “เราทำทีว่าเราคุยกันนะ จะได้ดูเป็นธรรมชาติ” เทย์เลอร์พูดขณะปัดผมปอยหนึ่งของชาร์ลี “เธอไหวนะ?”
เขารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไป ลุคไม่ได้ไปที่อะพาร์ตเมนต์ของเรจิน่าอีกเลย และหลบหน้าเธอมาหลายวันแล้ว เขาแอบดูชาร์ลีอยู่ห่าง ๆ รวมถึงแอบดูพฤติกรรมของเธอ รวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับเทย์เลอร์ด้วย จบเหตุการณ์ย้อนหลังกลับมายังเหตุการณ์ปัจจุบันหลังจากเฝ้าดูชาร์ลีมาหลายวัน ลุคก็เชื่ออย่างสุดใจว่าความสัมพันธ์ของชาร์ลีกับเทย์เลอร์เป็นเพียงแผนเพื่อทำให้เขาหึง ซึ่งมันก็ได้ผล เพราะชาร์ลียังวนเวียนอยู่ในความคิดของเขาเสมอ แต่พอเขาพยายามจะคุยกับชาร์ลีหลังจบเกม เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะเห็นว่าชาร์ลีกับเทย์เลอร์สนิทกันมากขนาดนั้น เทย์เลอร์ เวสต์ยังพูดเป็นนัยว่าพวกเขามีความสัมพันธ์กันแล้ว โดยยื่นกางเกงในสีแดงของชาร์ลีมาให้ ซึ่งโซเฟียก็จำได้เหมือนกัน ภาพของชาร์ลีที่มีอะไรกับเทย์เลอร์ผุดขึ้นมาในหัวลุค และเขาก็ทนไม่ไหว เขาง้างหมัดแล้วตะโกนว่า “ชาร์ลีเป็นของฉัน!” ลุคพยายามจะชกเทย์เลอร์ แต่เทย์เลอร์จับหมัดของเขาไว้ได้ เทย์เลอร์พูดว่า “ช้าไปว่ะ ซัลลิแวน เดี๋ยวฉันจะสอนให้นายรู้ว่า หมัดจริง ๆ เป็นยังไง” ก่อนที่ลุคจะรู้ตัว หมัดของเทย์เลอร์ก็ชกเข้าที่จมูกเขาจนเลือดไหลออกมา ลุคสบถ ก่อนที่เพื่อน
- ย้อนเหตุการณ์กลับไป โดยมองจากมุมมองของลุค ในเย็นวันศุกร์ ลุคอยู่ที่ห้องของเรจิน่า ห้องเดียวกับที่ชาร์ลีเคยอยู่ เขานอนหงายอยู่ ขณะที่เรจิน่าเป็นคนควบคุมสถานการณ์เรจิน่าสวมชุดชั้นในแบบมีสายรัดขณะกำลังมอบความสุขให้เขา“ลุค ชอบรึเปล่า?” เรจิน่าถาม เธอขยับร่างกาย โอบหน้าอกของตัวเอง และครางออกมาเสียงดัง “อื้อ! ฉันชอบไอ้นั่นของนายมากเลย”จากนั้นเรจิน่าก็โน้มตัวลงมาจูบเขา เธอจงใจถูตัวเองกับหน้าอกเปลือยของเขาแล้วพูดว่า “อย่ามัวคิดถึงชาร์ลีเลยนะ ฉันจะดูแลนายเอง ยายนั่นเทียบฉันไม่ได้หรอก”คำพูดนั้นกระแทกใจลุค ใช่ มันคือความจริง ชาร์ลีไม่มีวันเป็นเหมือนเรจิน่าได้เรจิน่าเก่งเรื่องเซ็กซ์อย่างมาก แต่นั่นก็ทำให้ลุคเริ่มสงสัยว่าเธอมีประสบการณ์มากแค่ไหนกันถึงได้เก่งขนาดนี้ลุคหลับตา พยายามตั้งสมาธิ เขาจำเป็นต้องเสร็จให้ได้เขานึกถึงตอนที่ได้เจอกับเรจิน่าครั้งที่สองที่บ้านพักตากอากาศของครอบครัวเขา ตอนนั้นพ่อของเขามอบหมายให้เขาพาเรจิน่าทัวร์บ้าน หลังจากพาเธอชมพื้นที่ส่วนกลาง เธอก็หันมาหาเขาแล้วพูดว่า “พาฉันไปดูห้องนายหน่อยสิ”พ่อของลุคก็เคยพูดเป็นนัยว่าเขากับเรจิน่าน่าจะเข้ากันได้ดี และเรจิน
ชาร์ลีไม่เคยรู้เลยว่าเธอจะได้จีสตริงคืน ก็ใครจะไปคิดล่ะว่าเทย์เลอร์จะยอมคืนมันที่มหาวิทยาลัยล่ะ?ระหว่างที่ชาร์ลีกำลังเข้าเรียนอยู่ในสองวันต่อมา เทย์เลอร์ก็ส่งข้อความหาเธอเทย์เลอร์พิมพ์มาว่า [ยังโกรธเรื่องที่มัดผมอยู่อีกเหรอ? วันก่อนฉันไม่ได้เจอเธอเลย อย่างน้อยเธอก็ได้กินข้าวใช่ไหม?]ชาร์ลี [ฉันจะไม่คุยกับนายจนกว่านายจะคืนจีสตริงให้ฉัน]เทย์เลอร์ [โอเค คืนนี้เรามีแข่งกับทีมไบโอ ดังเกอร์ส เธอควรมาดูนะ พวกเพื่อนฉันถามหาเธอแน่ะ]เทย์เลอร์ [คิดดูสิ เธอควรจะแสดงบทแฟนฉันให้สมบทบาทหน่อยะ เธอยังไม่เคยมาดูฉันซ้อมเลยด้วยซ้ำ]เทย์เลอร์ [ฉันจะคืนจีสตริงให้ ถ้าเธอมาดูแข่ง ตกลงไหม?]ชาร์ลีทำหน้าบึ้งในห้องเรียน เธอบ่นพึมพำขณะพิมพ์ตอบไป “ก็ได้”คืนนั้นชาร์ลีไปถึงสนามช้า เธอเผลอหลับที่คอนโด และเพิ่งตื่นขึ้นมาตอนหกโมงครึ่ง ซึ่งเกมเริ่มไปแล้วตอนหกโมงเย็น!เธอมาทันเห็นเทย์เลอร์ชู้ตสามแต้มพอดีเสียงเฮดังสนั่น โดยเฉพาะฝั่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ ทุกคนกระโดดดีใจและเริ่มโวยวาย ทำให้ชาร์ลีหาที่นั่งได้ลำบาก สุดท้ายเธอก็หาที่นั่งได้ เธอจึงนั่งลงและรอ เธอไม่รู้เลยว่ามีคนที่เธอคุ้นเคยนั่งอยู่ข้างหลังและกำลังจ
“นี่ ชาร์ลี” เทย์เลอร์เรียก พลางเปิดประตูห้องนอนของชาร์ลีโดยไม่เคาะก่อน“ฉันกำลังอ่านหนังสือ พรุ่งนี้มีสอบเก็บคะแนน” ชาร์ลีพูดโดยไม่มองเขา เธอยังคงนั่งอยู่หน้าโต๊ะอ่านหนังสือของเธอ “ฉันหั่นกระเทียมกับหัวหอมตามที่นายสั่งไว้แล้ว แล้วก็เอาเนื้อบดออกมาละลายเรียบร้อยแล้วด้วย”“ใช่ ฉันเห็นแล้ว หัวหอมกับกระเทียมของเธอ ขนาดไม่เท่ากันเลยสักชิ้น” เทย์เลอร์ตอบนั่นแหละที่ทำให้ชาร์ลีหันมาสนใจได้ เธอหันมาหาเขาแล้วพูดว่า “แล้วมันสำคัญตรงไหน?”“มันสำคัญสิ” เทย์เลอร์ตอบ “อัตราการสุกกับการปล่อยรสชาติจะไม่สม่ำเสมอกันไงล่ะ”“ฉันจะจำไว้แล้วกัน” ชาร์ลียิ้มให้เขาแล้วกลับไปอ่านหนังสือต่อเทย์เลอร์ได้แต่ส่ายหัว เขากำลังจะปิดประตูขณะที่พูดออกมาว่า “เธอลืมที่มัดผมไว้ในห้องน้ำ ฉันขอใช้ได้ไหม?”‘ที่มัดผมเหรอ?’ ชาร์ลีนึกไม่ออกว่าเธอลืมมันไว้ แต่เธอก็ตอบโดยไม่หันไปมองว่า “ได้เลย เอาไปใช้ได้เลย นายจะเอาที่มัดผมก็เอาไปเถอะ”ชั่วโมงครึ่งผ่านไป ชาร์ลีก็ได้กลิ่นซอสสปาเก็ตตี้หอมหวานลอยมา ท้องเธอร้องทันที เธอเดินไปห้องครัวอย่างมีความสุขและอาสาจัดโต๊ะอาหารเพราะชาร์ลีหิวมาก เธอจึงเริ่มกินทันที เธอกินไปครึ่งจานแล้ว
“เพื่อนเหรอ?” ทริสตันพูดทวน“จริง ๆ แล้ว ผมก็แอบหวังว่าคุณจะเดตกับผมนะ นักบำบัดของผมกับผมตั้งเป้าหมายไว้สำหรับปีนี้ แล้วการมีแฟนก็เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายนั้น”ชาร์ลี “...”“พรวด! ฮ่า ๆ!” เทย์เลอร์หัวเราะลั่น เขาชี้ไปที่ทริสตันแล้วพูดว่า “ไม่ได้หรอก เรื่องแบบนั้นจะไม่เกิดขึ้นหรอก เธอเป็นแฟนฉัน”ชาร์ลี “???”“อะไรนะ?” ทริสตันตอบสนอง เขาส่ายหัวและหยิบโทรศัพท์กับปากกาสไตลัสออกมา ดูเหมือนจะขีดฆ่าอะไรบางอย่างออกจากบันทึก “น่าเสียดาย คุณอยู่อันดับต้น ๆ ในลิสต์ผมเลยนะ”ชาร์ลี “...”“โอเค มากินข้าวกันก่อน แล้วก็ไม่ต้องรีบเรื่องเดตนักหรอก” เทย์เลอร์พูด “เดี๋ยวฉันจะคุยกับนักบำบัดนายเรื่องเลื่อนเป้าหมายนั้นออกไปก่อน”พวกเขาคุยกันระหว่างทานอาหารเช้า ส่วนใหญ่เทย์เลอร์จะถามน้องชายเกี่ยวกับเรื่องที่บ้าน ชาร์ลีถึงได้รู้ว่า ที่จริงแล้วทริสตันเคยอยู่กับเทย์เลอร์ที่คอนโด แต่หลังจากเหตุการณ์การทะเลาะวิวาทครั้งล่าสุด พ่อแม่ของพวกเขาก็ตัดสินใจพาทริสตันกลับไปอยู่บ้านพ่อของพวกเขาเป็นคนขับรถพาทริสตันไปมหาวิทยาลัยทุกวันเทย์เลอร์ขับรถพาทริสตันกลับบ้านประมาณสิบโมงเช้า เขากลับมาช่วงเย็น และชาร์ลีก็ได้ม