“ว่าแต่ว่าชาร์ลี ถึงเธอจะอยู่กับเทย์เลอร์ ฉันก็แค่อยากบอกให้ชัดนะว่าฉันเห็นเธอก่อน” แอตลาสมองเทย์เลอร์อย่างไม่พอใจ แล้วพูดว่า “เทย์เลอร์ก็แค่ขโมยเธอไปจากฉันเท่านั้นเอง” พวกผู้ชายพากันหัวเราะ รวมถึงแองเจิล น้องสาวของแอตลาสด้วย แองเจิลพูดว่า “ไม่รู้สิ แอตลาส แต่เทย์เลอร์ไม่เคยหวงผู้หญิงแบบนี้มาก่อนเลย ฉันว่าพวกเขาเกิดมาเพื่อกันและกันแน่” พอชาร์ลีได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของเธอก็แดงเรื่อขึ้นมา เธอรู้สึกได้ว่าความร้อนลามไปถึงหูแล้ว พลางคิดในใจว่า ‘พระเจ้า ถ้าพวกเขารู้ว่าเรากำลังแกล้งคบกันอยู่ล่ะก็…’ “จริง ๆ แล้ว” เทย์เลอร์เอาแขนที่โอบไหล่ของชาร์ลีออก เขาเอนตัวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “ชาร์ลีอยู่กับฉันแล้ว เราคบกันก่อนที่พวกนายจะเห็นเธอบนเวทีในวันประกาศรางวัลเสียอีก” “อะไรนะ?” แอตลาสพูดขึ้น “ฉันนึกว่านายแค่แกล้งทำให้ลุคหัวเสีย นี่พวกนายอยู่บ้านเดียวกันงั้นเหรอ?” “ใช่!” เทย์เลอร์ตอบ แอตลาส “แล้วไอ้เรื่องบ้า ๆ ที่นายบอกฉันว่าชาร์ลีไม่ใช่สเปคนายก็คือแค่...” “ใช่” เทย์เลอร์ยืนยันอีกครั้ง แอตลาส “แล้วที่นายพูดว่าเธอเป็นแค่...” “ใช่! และใช่!” เทย์เลอร์โอบแขนกลับไปรอบตัวชาร
“เธอควรฝึกอีกสักหน่อยนะ” เทย์เลอร์เสนอ ชาร์ลีกะพริบตาค้างพร้อมขมวดคิ้ว “ฉันเหรอ?” “ใช่ จูบนั้นมันก็แค่…พอใช้ได้” เทย์เลอร์ยักไหล่ พลางทำมือที่แปลว่า ก็แค่กลาง ๆ ออกมา “พอใช้ได้?” ชาร์ลีอ้าปากค้าง “นายก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่หรอก!” เทย์เลอร์หรี่ตา แล้วอยู่ ๆ ก็เอนตัวไปข้างหลังแล้วยิ้มมุมปาก และนั่นแหละ ที่ชาร์ลีรู้ทันทีว่าเธอกำลังมีปัญหาแล้ว เธออยู่กับเทย์เลอร์มาเกือบสองอาทิตย์แล้ว และสิ่งหนึ่งที่เธอได้เรียนรู้ก็คือรอยยิ้มแบบนั้นของเขาหมายถึงปัญหาแน่นอน “โอเค” เทย์เลอร์พูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ “เรามาตั้งขอบเขตกันดีกว่า” ชาร์ลีกอดอก “ขอบเขตเหรอ?” “ใช่ เรื่องการจูบน่ะ” เทย์เลอร์ตอบ ชาร์ลีพยักหน้าเร็ว ๆ “ถูกต้อง ความชัดเจนน่ะสำคัญ” “กฎต้องมี” เทย์เลอร์เริ่มพูดต่อ “จะได้ชัดเจนกันทั้งสองฝ่าย ว่าควรจูบเมื่อไหร่ ใครเริ่มก่อน และจูบยังไง” ชาร์ลีขยับตัวอย่างอึดอัด อยู่ ๆ ก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว “ใช่ ฟังดูมีเหตุผล” “งั้นสิ่งที่ฉันคิดว่าควรทำก็คือ…” เทย์เลอร์โน้มตัวไปข้างหน้า ดูจริงจังมาก เขาพักข้อศอกไว้บนเข่าแล้วพูดว่า “เพื่อให้ลุคหัวเสียต่อไป เราต้องยอมรับว่าการจู
‘ฉันรักเธอนะ ชาร์ลี และเธอจะมีที่พิเศษในใจฉันเสมอ แต่ฉันต้องการพื้นที่ส่วนตัว เราเลิกกันเถอะ’คำพูดของลุคในคืนนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัวของชาร์ลี‘ฉันต้องโฟกัสกับการเรียนแล้วก็บาสเกตบอล ปีนี้จะมีแมวมองมาที่เมืองนี้ และนี่อาจเป็นโอกาสเดียวของฉันที่จะได้เข้าร่วมแข่งเอ็นบีเอ ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจนะ ชาร์ลี’เขาหมายความว่าจากนี้ไปบาสเกตบอลจะเป็นชีวิตของเขา และเธอก็เป็นแค่สิ่งที่ทำให้เขาไขว้เขวเท่านั้นชาร์ลีเคยตั้งใจจะแนะนำลุคให้รู้จักกับครอบครัวของเธอ ซึ่งลุคคงจะต้องตื่นเต้นมากแน่ ๆ แต่โชคร้ายที่เขาเลิกกับเธอก่อนจะได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของชาร์ลี เรย์ คิงชาร์ลีกำลังดูการแข่งขันระหว่างทีมประจำมหาวิทยาลัยลักซ์ฟอร์ดอย่างทีมอะตอมมิก ฮีท กับทีมวอลล์สตรีท วอริเออร์ส มหาวิทยาลัยของพวกเขามีทีมบาสเกตบอลอยู่สี่ทีม และในแต่ละปีทุกทีมจะต้องแข่งกันเพื่อสิทธิ์ในการเป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยเข้าร่วมการแข่งขันบาสเกตบอลมหาวิทยาลัยระดับประเทศและลุค ซัลลิแวนก็เป็นกัปตันทีมวอลล์สตรีท วอริเออร์สทีมนี้เป็นตัวแทนของคณะบริหารธุรกิจในขณะที่ทีมอะตอมมิก ฮีท เป็นตัวแทนของนักศึกษาคณะวิศวกรรมในสนาม ลุคกำลังเลี
“พื้นที่เหรอ? นายต้องโฟกัสกับบาสเกตบอลงั้นเหรอ?” ชาร์ลีถามกลับด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “อย่าบอกนะว่าเพิ่งเจอผู้หญิงคนนี้วันนี้? เพราะเราพึ่งเลิกกันเมื่อคืนก่อนเองนี่!”หลังจากที่ชาร์ลีปรากฏตัวขึ้น คาเฟ่เดอะนุ๊กแอนด์บริวก็เงียบกริบ เธอจับสีหน้าประหวั่นพรั่นพรึงของเพื่อนสนิทสองคนอย่างแอชลีย์และโซเฟียได้ลุคคลายแขนที่โอบกอดเรจิน่าออก เขาก้มหน้าก่อนจะสบตากับชาร์ลีแล้วพูดว่า “ฉันขอโทษนะชาร์ลี ฉันบอกเธอไปไม่ได้… ฉันไม่อยากทำร้ายเธอ”ชาร์ลีแค่นหัวเราะ เธอพยายามกลั้นน้ำตาที่เริ่มเอ่อขึ้นมาแล้วปล่อยให้ความโกรธเข้าครอบงำ “นายแค่พูดความจริงมาก็พอ ไม่ใช่ปล่อยให้ฉันนั่งสงสัยว่าฉันทำผิดอะไร!”“ฉันสมควรได้ฟังความจริงนะ ลุค ตลอดสองปีที่ผ่านมาฉันดีกับนายมาตลอด” เธอชี้เขาแล้วเสริมว่า “นายก็รู้นี่!” จากนั้นชาร์ลีก็มองไปยังเพื่อน ๆ ของลุค รวมถึงแฟนสาวของพวกเขาด้วย พลางเสริมว่า “แล้วก็รู้กันทุกคนนั่นแหละ!”“และพวกเธอทั้งสองคน!” ชาร์ลีเรียกแอชลีย์และโซเฟีย “นี่มันชัดเจนมากเลยว่าพวกเธอรู้มาตลอด แต่ก็เลือกที่จะโกหกฉันงั้นเหรอ? รู้มานานแค่ไหนแล้วล่ะ?”ชาร์ลีกลับไปสนใจลุคอีกครั้งแล้วพูดเสริมว่า “ลุคพาผู้หญ
ชาร์ลีเงยหน้าขึ้นและสบเข้ากับดวงตาสีเทาของผู้ชายคนนั้น ดวงตาของเขาสวยมาก แต่เขากำลังโกรธ… แถมยังมีแผลแตกที่ริมฝีปากอีกต่างหาก! ‘เทย์เลอร์ เวสต์?’ ชาร์ลีเรียกชื่อเขาในใจ หัวใจของเธอเต้นแรงพลางครุ่นคิด ‘เขาไปมีเรื่องกับใครมาแต่เช้ากัน?’ “ฉันบอกให้เดินดูทางหน่อยไง!” เขาพูดซ้ำ น้ำเสียงคมกริบ ดวงตาก็จ้องเขม็ง เทย์เลอร์จับแขนของนักศึกษารุ่นน้องข้างกาย และสั่งชาร์ลีว่า “ขอโทษเขาซะ!” “ฉันขอโทษ ฉันรีบน่ะ” ชาร์ลีอธิบาย “ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร รุ่นพี่เทย์เลอร์ ผมไม่เป็นไร” รุ่นน้องคนนั้นพูด “กลับไปเรียนได้แล้ว” เทย์เลอร์บอกชายหนุ่มรุ่นน้อง ก่อนที่เด็กคนนั้นจะพยักหน้ารับ ก่อนจากไปเขายังยิ้มให้ชาร์ลีอีกด้วย “ฟังนะ ฉันขอโทษ ฉันต้องไปเรียนแล้ว” ชาร์ลีกล่าว เทย์เลอร์ไม่ตอบอะไร เธอจึงเดินจากไป“ฉันรู้จักเธอรึเปล่า? เธอหน้าคุ้น ๆ นะ?” เทย์เลอร์ถามขึ้นในภายหลัง ชาร์ลีหันกลับไปและเลิกคิ้วขึ้น พลางตอบ “ไม่นะ เราไม่เคยเจอกัน” “โอเค งั้นครั้งหน้าก็ช่วยดูทางหน่อยแล้วกัน” เขาตอบเสียงแข็ง ทันใดนั้นกลุ่มนักศึกษาก็เดินออกมาจากห้องหนึ่ง ชาร์ลีจึงตระหนักได้ทันทีว่าเธอกำลังยืนอยู่ห
“อะพาร์ตเมนต์ใหม่ของเธอเยี่ยมไปเลย!” พี่สาวของชาร์ลีเอ่ยปากชมชาร์ลีพาพี่สาวชมที่พักใหม่แบบเสมือนจริงผ่านวิดีโอคอลแม้จะเป็นเวลาค่อนข้างดึก แต่เธอยังตื่นเต้นอยู่เธอยังนอนไม่หลับเลย!“ใช่ไหมล่ะ! ที่นี่สะอาดแถมยังกว้างขวางอีกด้วย คิดว่าแสนห้าบาทก็คงคุ้มแหละนะ ฮ่าฮ่า!”“เหอะ” เฟรย่าพี่สาวของเธอแค่นเสียง “ฉันว่านี่ถูกแล้วนะ”“ไม่สิ! ฮ่าฮ่า” ชาร์ลีหัวเราะอีกครั้ง “ลักซ์ฟอร์ดไม่ได้เจริญเท่าฮัลลิพอร์ตเลยด้วยซ้ำ มันแค่ดังเรื่องมหาลัยเท่านั้นเอง ค่าเช่าที่นี่ถึงไม่น่าจะแพงขนาดนี้ แต่ฉันก็ดีใจที่หาที่อยู่ได้แล้ว”ชาร์ลียิ้ม ขณะนั่งบนโซฟาเธอก็มองไปรอบ ๆ ลมจากระเบียงห้องนั่งเล่นพัดปะทะใบหน้า เธอเอ่ยขึ้น “ฉันรู้สึกว่า คอนโดกับวิวแบบนี้นี่แหละที่จะทำให้ฉันเรียนที่ลักซ์ฟอร์ดจนจบปีได้เลย”เธอเหลือแค่ปีเดียว และมันจะลำบากมากถ้าจะเปลี่ยนมหาลัยกลางคัน บางทีเธออาจทนไหวก็ได้ชาร์ลีเริ่มคุยกับครอบครัวต่อ พวกเขามีคำถามสารพัด โดยเฉพาะเรื่องเพื่อน ๆ ของเธอ แต่ชาร์ลีตอบเพียงว่า “หนูแค่อยากได้วิวสวย ๆ จะได้มีแรงบันดาลใจดี ๆ เพื่อให้ได้ที่หนึ่งในคณะต่อไปเท่านั้นเองค่ะ!”“เก่งมากลูก!” ไรลีย์ คิง แม่ของเ
ย้อนเหตุการณ์กลับไปเมื่อสองวันก่อนหน้านี้“ลูกต้องหาวิธีหลีกเลี่ยงปัญหาได้แล้ว! พ่อเบื่อที่มหาวิทยาลัยโทรมาทุกครั้งเลย…” พ่อของเทย์เลอร์บ่นเรื่องที่เขาไปมีเรื่องชกต่อยที่มหาวิทยาลัยครั้งล่าสุด เทย์เลอร์ไม่ค่อยอยู่บ้าน แต่การบ่นนี้ก็เหมือนเป็นคำกล่าวต้อนรับกลับบ้านของเขา เทย์เลอร์แทบไม่สนใจคำพูดพ่อเลย ทันใดนั้นโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้น เขาขัดจังหวะพ่อแล้วพูดว่า “พ่อ แป๊บหนึ่ง ทันย่าโทรมา” “ไงทันย่า?” เทย์เลอร์รับสายทั้งที่พ่อยังพูดอยู่ เขาไม่สามารถตั้งสมาธิได้และรีบคุยสายอย่างลวก ๆ “เทย์เลอร์…ชาร์ลี คิง…จะมาเช่าคอนโดร่วมกับนาย” ทันย่าพูดทางสาย “ชาร์ลีเหรอ?” เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่คนที่ชื่อชาร์ลีหนึ่งคนที่ผุดขึ้นมาในหัวคือชาร์ลีที่เป็นนักศึกษาวิศวะปีสาม และพวกเขาเรียนวิชาการวิเคราะห์โครงสร้างด้วยกัน แถมยังบังเอิญว่า ชาร์ลีคนนี้เคยถามเขาเกี่ยวกับห้องว่างที่เฟิร์นวูด เรสซิเดนซ์ด้วย เทย์เลอร์เลยเข้าใจไปทันทีว่าเป็นผู้ชายคนนั้น “ใช่ ฉันรู้จักชาร์ลี” เทย์เลอร์พูด ทันย่าอยู่ต่างประเทศสัญญาณโทรศัพท์ของเธอก็เลยขาด ๆ หาย ๆ“นาย…แน่ใจเหรอ? เธอเป็น…” ทันย่าถาม “ใช่ ๆ ไม่ต้องห่วงน่า ฉ
“ยังมีอะไรให้ต้องคิดอีกเหรอ?” ชาร์ลีถาม สีหน้าแดงก่ำด้วยความหงุดหงิด“ไม่รู้สิ แค่อยากให้เราคิดให้รอบคอบน่ะ ชาร์ลีสาวผมบลอนด์” เทย์เลอร์พูด เขาดูนาฬิกาแล้วพูดต่อ “ถ้าไม่ไปตอนนี้ ฉันจะไปเรียนสายแล้ว”เทย์เลอร์ลุกขึ้น สะพายเป้ขึ้นบ่า แล้วพูดว่า “ไว้เราค่อยคุยกันต่อเย็นนี้นะ”ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เทย์เลอร์ก็เดินเข้าเรียนวิชาการวิเคราะห์โครงสร้างและเห็นชาร์ลีชาร์ลีคนนี้เป็นผู้ชาย ไม่ใช่ชาร์ลีสาวผมบลอนด์ที่เขาเผลอให้แบ่งคอนโดของทันย่าครึ่งหนึ่งให้เช่าโดยไม่ได้ตั้งใจเขาไม่เหมือนชาร์ลี คิงเลย ชาร์ลีคนนี้เป็นผู้ชายแท้ ๆ และเป็นคนอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันอีกด้วยเทย์เลอร์เดินเข้าไปหาชาร์ลีแล้วถามว่า “ไง ชาร์ลี ขอโทษทีนะ แต่นายนามสกุลอะไรนะ?”“อ้อ สเลดน่ะเพื่อน” ชาร์ลีตอบพร้อมรอยยิ้ม เขายื่นมือออกมาหาเทย์เลอร์แล้วพูดว่า “ดีใจที่ได้เจอกันอีกนะ”เขาหัวเราะ และเทย์เลอร์ก็หัวเราะเบา ๆ ขณะจับมือกัน“ขอโทษนะ สเลด ฉันจำชื่อคนไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่” เทย์เลอร์สารภาพ “ฉันจำได้ว่านายกำลังหาที่พักใช่ไหม? ตอนนี้ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะปล่อยให้เช่าครึ่งหนึ่งของคอนโดที่ฉันอยู่ นายยังสนใจอยู่ไหม?”“แน่นอนสิ!
“เธอควรฝึกอีกสักหน่อยนะ” เทย์เลอร์เสนอ ชาร์ลีกะพริบตาค้างพร้อมขมวดคิ้ว “ฉันเหรอ?” “ใช่ จูบนั้นมันก็แค่…พอใช้ได้” เทย์เลอร์ยักไหล่ พลางทำมือที่แปลว่า ก็แค่กลาง ๆ ออกมา “พอใช้ได้?” ชาร์ลีอ้าปากค้าง “นายก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่หรอก!” เทย์เลอร์หรี่ตา แล้วอยู่ ๆ ก็เอนตัวไปข้างหลังแล้วยิ้มมุมปาก และนั่นแหละ ที่ชาร์ลีรู้ทันทีว่าเธอกำลังมีปัญหาแล้ว เธออยู่กับเทย์เลอร์มาเกือบสองอาทิตย์แล้ว และสิ่งหนึ่งที่เธอได้เรียนรู้ก็คือรอยยิ้มแบบนั้นของเขาหมายถึงปัญหาแน่นอน “โอเค” เทย์เลอร์พูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ “เรามาตั้งขอบเขตกันดีกว่า” ชาร์ลีกอดอก “ขอบเขตเหรอ?” “ใช่ เรื่องการจูบน่ะ” เทย์เลอร์ตอบ ชาร์ลีพยักหน้าเร็ว ๆ “ถูกต้อง ความชัดเจนน่ะสำคัญ” “กฎต้องมี” เทย์เลอร์เริ่มพูดต่อ “จะได้ชัดเจนกันทั้งสองฝ่าย ว่าควรจูบเมื่อไหร่ ใครเริ่มก่อน และจูบยังไง” ชาร์ลีขยับตัวอย่างอึดอัด อยู่ ๆ ก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว “ใช่ ฟังดูมีเหตุผล” “งั้นสิ่งที่ฉันคิดว่าควรทำก็คือ…” เทย์เลอร์โน้มตัวไปข้างหน้า ดูจริงจังมาก เขาพักข้อศอกไว้บนเข่าแล้วพูดว่า “เพื่อให้ลุคหัวเสียต่อไป เราต้องยอมรับว่าการจู
“ว่าแต่ว่าชาร์ลี ถึงเธอจะอยู่กับเทย์เลอร์ ฉันก็แค่อยากบอกให้ชัดนะว่าฉันเห็นเธอก่อน” แอตลาสมองเทย์เลอร์อย่างไม่พอใจ แล้วพูดว่า “เทย์เลอร์ก็แค่ขโมยเธอไปจากฉันเท่านั้นเอง” พวกผู้ชายพากันหัวเราะ รวมถึงแองเจิล น้องสาวของแอตลาสด้วย แองเจิลพูดว่า “ไม่รู้สิ แอตลาส แต่เทย์เลอร์ไม่เคยหวงผู้หญิงแบบนี้มาก่อนเลย ฉันว่าพวกเขาเกิดมาเพื่อกันและกันแน่” พอชาร์ลีได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของเธอก็แดงเรื่อขึ้นมา เธอรู้สึกได้ว่าความร้อนลามไปถึงหูแล้ว พลางคิดในใจว่า ‘พระเจ้า ถ้าพวกเขารู้ว่าเรากำลังแกล้งคบกันอยู่ล่ะก็…’ “จริง ๆ แล้ว” เทย์เลอร์เอาแขนที่โอบไหล่ของชาร์ลีออก เขาเอนตัวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “ชาร์ลีอยู่กับฉันแล้ว เราคบกันก่อนที่พวกนายจะเห็นเธอบนเวทีในวันประกาศรางวัลเสียอีก” “อะไรนะ?” แอตลาสพูดขึ้น “ฉันนึกว่านายแค่แกล้งทำให้ลุคหัวเสีย นี่พวกนายอยู่บ้านเดียวกันงั้นเหรอ?” “ใช่!” เทย์เลอร์ตอบ แอตลาส “แล้วไอ้เรื่องบ้า ๆ ที่นายบอกฉันว่าชาร์ลีไม่ใช่สเปคนายก็คือแค่...” “ใช่” เทย์เลอร์ยืนยันอีกครั้ง แอตลาส “แล้วที่นายพูดว่าเธอเป็นแค่...” “ใช่! และใช่!” เทย์เลอร์โอบแขนกลับไปรอบตัวชาร
ชาร์ลีโกรธมาก เธอไม่เข้าใจว่าลุคทำเหมือนเธอยังเป็นของเขาได้ยังไง ‘เขาลืมไปแล้วหรือไงว่าเขาทำร้ายฉันมากแค่ไหน? เขานอกใจแล้วยังโกหกอีก?’ เธอคิดอย่างโกรธจัด ‘แล้วตอนนี้ เขาคิดว่าฉันจะกลับไปหาเขาอีกงั้นเหรอ?’ นั่นเป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก แต่ถึงเธอจะโกรธแค่ไหน การมีเทย์เลอร์อยู่ตรงนั้นก็ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น แขนของเขาที่โอบเธอไว้ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมือนเป็นเกราะที่กันความหยิ่งผยองของลุคไม่ให้เข้ามาถึงเธอ เธอยังรู้สึกเจ็บอยู่ แต่ความเจ็บมันเบาลงเพราะมีเทย์เลอร์อยู่ข้าง ๆ ตอนที่พวกเขาหันหลังเดินออกมา ชาร์ลียังอยากเอาคืนลุคมากกว่านี้ เธอกระซิบกับเทย์เลอร์ “จูบฉันสิ” “ว่าไงนะ?” เทย์เลอร์ถาม “จูบฉันสิ” เธอพูดย้ำอีกครั้ง เสียงยังคงนุ่มนวล “เดินลงไปอีกสองขั้นก่อน จะได้ดูสมจริง” เทย์เลอร์เสนอ หลังจากเดินลงไปอีกสองขั้น เทย์เลอร์ก็ดึงชาร์ลีเข้ามาใกล้แบบสบาย ๆ เขาหยุดเดินและหันมาเผชิญหน้ากับเธอ เพื่อนร่วมทีมของเขาสังเกตเห็น แต่ก็เข้าใจว่าทั้งคู่ต้องการเวลา จึงเดินนำหน้าไปก่อน “เราทำทีว่าเราคุยกันนะ จะได้ดูเป็นธรรมชาติ” เทย์เลอร์พูดขณะปัดผมปอยหนึ่งของชาร์ลี “เธอไหวนะ?”
เขารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไป ลุคไม่ได้ไปที่อะพาร์ตเมนต์ของเรจิน่าอีกเลย และหลบหน้าเธอมาหลายวันแล้ว เขาแอบดูชาร์ลีอยู่ห่าง ๆ รวมถึงแอบดูพฤติกรรมของเธอ รวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับเทย์เลอร์ด้วย จบเหตุการณ์ย้อนหลังกลับมายังเหตุการณ์ปัจจุบันหลังจากเฝ้าดูชาร์ลีมาหลายวัน ลุคก็เชื่ออย่างสุดใจว่าความสัมพันธ์ของชาร์ลีกับเทย์เลอร์เป็นเพียงแผนเพื่อทำให้เขาหึง ซึ่งมันก็ได้ผล เพราะชาร์ลียังวนเวียนอยู่ในความคิดของเขาเสมอ แต่พอเขาพยายามจะคุยกับชาร์ลีหลังจบเกม เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะเห็นว่าชาร์ลีกับเทย์เลอร์สนิทกันมากขนาดนั้น เทย์เลอร์ เวสต์ยังพูดเป็นนัยว่าพวกเขามีความสัมพันธ์กันแล้ว โดยยื่นกางเกงในสีแดงของชาร์ลีมาให้ ซึ่งโซเฟียก็จำได้เหมือนกัน ภาพของชาร์ลีที่มีอะไรกับเทย์เลอร์ผุดขึ้นมาในหัวลุค และเขาก็ทนไม่ไหว เขาง้างหมัดแล้วตะโกนว่า “ชาร์ลีเป็นของฉัน!” ลุคพยายามจะชกเทย์เลอร์ แต่เทย์เลอร์จับหมัดของเขาไว้ได้ เทย์เลอร์พูดว่า “ช้าไปว่ะ ซัลลิแวน เดี๋ยวฉันจะสอนให้นายรู้ว่า หมัดจริง ๆ เป็นยังไง” ก่อนที่ลุคจะรู้ตัว หมัดของเทย์เลอร์ก็ชกเข้าที่จมูกเขาจนเลือดไหลออกมา ลุคสบถ ก่อนที่เพื่อน
- ย้อนเหตุการณ์กลับไป โดยมองจากมุมมองของลุค ในเย็นวันศุกร์ ลุคอยู่ที่ห้องของเรจิน่า ห้องเดียวกับที่ชาร์ลีเคยอยู่ เขานอนหงายอยู่ ขณะที่เรจิน่าเป็นคนควบคุมสถานการณ์เรจิน่าสวมชุดชั้นในแบบมีสายรัดขณะกำลังมอบความสุขให้เขา“ลุค ชอบรึเปล่า?” เรจิน่าถาม เธอขยับร่างกาย โอบหน้าอกของตัวเอง และครางออกมาเสียงดัง “อื้อ! ฉันชอบไอ้นั่นของนายมากเลย”จากนั้นเรจิน่าก็โน้มตัวลงมาจูบเขา เธอจงใจถูตัวเองกับหน้าอกเปลือยของเขาแล้วพูดว่า “อย่ามัวคิดถึงชาร์ลีเลยนะ ฉันจะดูแลนายเอง ยายนั่นเทียบฉันไม่ได้หรอก”คำพูดนั้นกระแทกใจลุค ใช่ มันคือความจริง ชาร์ลีไม่มีวันเป็นเหมือนเรจิน่าได้เรจิน่าเก่งเรื่องเซ็กซ์อย่างมาก แต่นั่นก็ทำให้ลุคเริ่มสงสัยว่าเธอมีประสบการณ์มากแค่ไหนกันถึงได้เก่งขนาดนี้ลุคหลับตา พยายามตั้งสมาธิ เขาจำเป็นต้องเสร็จให้ได้เขานึกถึงตอนที่ได้เจอกับเรจิน่าครั้งที่สองที่บ้านพักตากอากาศของครอบครัวเขา ตอนนั้นพ่อของเขามอบหมายให้เขาพาเรจิน่าทัวร์บ้าน หลังจากพาเธอชมพื้นที่ส่วนกลาง เธอก็หันมาหาเขาแล้วพูดว่า “พาฉันไปดูห้องนายหน่อยสิ”พ่อของลุคก็เคยพูดเป็นนัยว่าเขากับเรจิน่าน่าจะเข้ากันได้ดี และเรจิน
ชาร์ลีไม่เคยรู้เลยว่าเธอจะได้จีสตริงคืน ก็ใครจะไปคิดล่ะว่าเทย์เลอร์จะยอมคืนมันที่มหาวิทยาลัยล่ะ?ระหว่างที่ชาร์ลีกำลังเข้าเรียนอยู่ในสองวันต่อมา เทย์เลอร์ก็ส่งข้อความหาเธอเทย์เลอร์พิมพ์มาว่า [ยังโกรธเรื่องที่มัดผมอยู่อีกเหรอ? วันก่อนฉันไม่ได้เจอเธอเลย อย่างน้อยเธอก็ได้กินข้าวใช่ไหม?]ชาร์ลี [ฉันจะไม่คุยกับนายจนกว่านายจะคืนจีสตริงให้ฉัน]เทย์เลอร์ [โอเค คืนนี้เรามีแข่งกับทีมไบโอ ดังเกอร์ส เธอควรมาดูนะ พวกเพื่อนฉันถามหาเธอแน่ะ]เทย์เลอร์ [คิดดูสิ เธอควรจะแสดงบทแฟนฉันให้สมบทบาทหน่อยะ เธอยังไม่เคยมาดูฉันซ้อมเลยด้วยซ้ำ]เทย์เลอร์ [ฉันจะคืนจีสตริงให้ ถ้าเธอมาดูแข่ง ตกลงไหม?]ชาร์ลีทำหน้าบึ้งในห้องเรียน เธอบ่นพึมพำขณะพิมพ์ตอบไป “ก็ได้”คืนนั้นชาร์ลีไปถึงสนามช้า เธอเผลอหลับที่คอนโด และเพิ่งตื่นขึ้นมาตอนหกโมงครึ่ง ซึ่งเกมเริ่มไปแล้วตอนหกโมงเย็น!เธอมาทันเห็นเทย์เลอร์ชู้ตสามแต้มพอดีเสียงเฮดังสนั่น โดยเฉพาะฝั่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ ทุกคนกระโดดดีใจและเริ่มโวยวาย ทำให้ชาร์ลีหาที่นั่งได้ลำบาก สุดท้ายเธอก็หาที่นั่งได้ เธอจึงนั่งลงและรอ เธอไม่รู้เลยว่ามีคนที่เธอคุ้นเคยนั่งอยู่ข้างหลังและกำลังจ
“นี่ ชาร์ลี” เทย์เลอร์เรียก พลางเปิดประตูห้องนอนของชาร์ลีโดยไม่เคาะก่อน“ฉันกำลังอ่านหนังสือ พรุ่งนี้มีสอบเก็บคะแนน” ชาร์ลีพูดโดยไม่มองเขา เธอยังคงนั่งอยู่หน้าโต๊ะอ่านหนังสือของเธอ “ฉันหั่นกระเทียมกับหัวหอมตามที่นายสั่งไว้แล้ว แล้วก็เอาเนื้อบดออกมาละลายเรียบร้อยแล้วด้วย”“ใช่ ฉันเห็นแล้ว หัวหอมกับกระเทียมของเธอ ขนาดไม่เท่ากันเลยสักชิ้น” เทย์เลอร์ตอบนั่นแหละที่ทำให้ชาร์ลีหันมาสนใจได้ เธอหันมาหาเขาแล้วพูดว่า “แล้วมันสำคัญตรงไหน?”“มันสำคัญสิ” เทย์เลอร์ตอบ “อัตราการสุกกับการปล่อยรสชาติจะไม่สม่ำเสมอกันไงล่ะ”“ฉันจะจำไว้แล้วกัน” ชาร์ลียิ้มให้เขาแล้วกลับไปอ่านหนังสือต่อเทย์เลอร์ได้แต่ส่ายหัว เขากำลังจะปิดประตูขณะที่พูดออกมาว่า “เธอลืมที่มัดผมไว้ในห้องน้ำ ฉันขอใช้ได้ไหม?”‘ที่มัดผมเหรอ?’ ชาร์ลีนึกไม่ออกว่าเธอลืมมันไว้ แต่เธอก็ตอบโดยไม่หันไปมองว่า “ได้เลย เอาไปใช้ได้เลย นายจะเอาที่มัดผมก็เอาไปเถอะ”ชั่วโมงครึ่งผ่านไป ชาร์ลีก็ได้กลิ่นซอสสปาเก็ตตี้หอมหวานลอยมา ท้องเธอร้องทันที เธอเดินไปห้องครัวอย่างมีความสุขและอาสาจัดโต๊ะอาหารเพราะชาร์ลีหิวมาก เธอจึงเริ่มกินทันที เธอกินไปครึ่งจานแล้ว
“เพื่อนเหรอ?” ทริสตันพูดทวน“จริง ๆ แล้ว ผมก็แอบหวังว่าคุณจะเดตกับผมนะ นักบำบัดของผมกับผมตั้งเป้าหมายไว้สำหรับปีนี้ แล้วการมีแฟนก็เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายนั้น”ชาร์ลี “...”“พรวด! ฮ่า ๆ!” เทย์เลอร์หัวเราะลั่น เขาชี้ไปที่ทริสตันแล้วพูดว่า “ไม่ได้หรอก เรื่องแบบนั้นจะไม่เกิดขึ้นหรอก เธอเป็นแฟนฉัน”ชาร์ลี “???”“อะไรนะ?” ทริสตันตอบสนอง เขาส่ายหัวและหยิบโทรศัพท์กับปากกาสไตลัสออกมา ดูเหมือนจะขีดฆ่าอะไรบางอย่างออกจากบันทึก “น่าเสียดาย คุณอยู่อันดับต้น ๆ ในลิสต์ผมเลยนะ”ชาร์ลี “...”“โอเค มากินข้าวกันก่อน แล้วก็ไม่ต้องรีบเรื่องเดตนักหรอก” เทย์เลอร์พูด “เดี๋ยวฉันจะคุยกับนักบำบัดนายเรื่องเลื่อนเป้าหมายนั้นออกไปก่อน”พวกเขาคุยกันระหว่างทานอาหารเช้า ส่วนใหญ่เทย์เลอร์จะถามน้องชายเกี่ยวกับเรื่องที่บ้าน ชาร์ลีถึงได้รู้ว่า ที่จริงแล้วทริสตันเคยอยู่กับเทย์เลอร์ที่คอนโด แต่หลังจากเหตุการณ์การทะเลาะวิวาทครั้งล่าสุด พ่อแม่ของพวกเขาก็ตัดสินใจพาทริสตันกลับไปอยู่บ้านพ่อของพวกเขาเป็นคนขับรถพาทริสตันไปมหาวิทยาลัยทุกวันเทย์เลอร์ขับรถพาทริสตันกลับบ้านประมาณสิบโมงเช้า เขากลับมาช่วงเย็น และชาร์ลีก็ได้ม
“อรุณสวัสดิ์ ชาร์ลี!” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูด เขายิ้มกว้างมากขณะจ้องมองชาร์ลีชาร์ลีขยี้ตาเพื่อให้แน่ใจว่าเธอมองเห็นถูกต้อง เช้าวันอาทิตย์แบบนี้เธอยังง่วงงุนอยู่ แต่กลิ่นของอาหารปลุกให้เธอตื่น“อรุณสวัสดิ์ ชาร์ลี” เทย์เลอร์พูดจากด้านหลังของชายหนุ่ม พร้อมกับวางจานที่เต็มไปด้วยเนื้อลงบนโต๊ะด้วยรอยยิ้ม “นี่คือน้องชายของฉัน ทริสตัน เวสต์”น่าแปลกใจที่ทริสตันคือนักศึกษารุ่นน้องที่ชาร์ลีเคยเจอเมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนที่เธอเจอกับเทย์เลอร์ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ อีกฝ่ายเหมือนกับเทย์เลอร์ เขามีผมสีบลอนด์ แต่รูปร่างของเขาเล็กกว่าและตัวเตี้ยกว่า แต่ดูต่างจากครั้งก่อนเพราะวันนั้นเขาใส่แว่น“นายคือทริสตันงั้นเหรอ?” ชาร์ลีถามก่อนจะหัวเราะเบา ๆเมื่อทริสตันพยักหน้า ชาร์ลีก็ถามว่า “งั้นที่เทย์เลอร์บอกว่าเราเคยเจอกันมาก่อน เขาหมายถึงตอนเราเจอกันที่คณะวิศวะเมื่อไม่กี่วันก่อนสินะ”“ไม่ใช่ครับ” ทริสตันพูด “ครั้งแรกที่เราเจอกันคือเมื่อสองปีก่อน ตอนนั้นผมยังไม่ได้เป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยลักซ์ฟอร์ด แต่ผมมาดูพี่ชายของผมแข่งบาส เป็นเกมรอบชิงระหว่างทีมเดอะวอลสตรีท วอริเออร์สกับอะตอมมิกฮีท”“เราเคยเจอกันเหรอ?” ช