เฉิงหว่านซินส่งข้อความยาวเป็นพืดให้เธอ มีทั้งรูปภาพ วิดีโอ และข้อความเสียง เฉียวสือเนี่ยนดูรูปภาพก่อน เป็นภาพที่เฉิงหว่านซินถ่ายที่ชั้นล่างและติดกับประตูบ้านพักของไป๋อีอี วิดีโอปรากฏหลายนาทีอยู่ เฉียวสือเนี่ยนจะเปิดวิดีโอฟัง ‘เนี่ยนเนี่ยน ฉันสั่งสอนนังเลวป๋ายนั่นแทนแกแล้ว! ฉันทนเห็นแกทุกข์ทรมานไม่ได้หรอกนะ!’เมื่อฟังจบ โจวหยางอิงก็เดินเข้ามาพร้อมกับชานมพอดี“พี่สาวน้อยครับ ชานมกุหลาบเผือกของพี่ได้แล้วครับ” “ขอบใจจ่ะ” เฉียวสือเนี่ยนรับมาพลางลุกขึ้น “ขอโทษนะ ฉันมีธุระนิดหน่อย ต้องขอตัวก่อน”โจวหยางอิงเห็นว่าท่าทีของเธอดูนิ่งไป เขาเข้าใจทันที เลยไม่ถามอะไร พร้อมโบกมือให้เธออย่างมีมารยาท “พวกเราเจอกันตอนฝึกนะ” “โอเค” เฉียวสือเนี่ยนเดินออกมาจากร้านชานม ขึ้นมานั่งบนรถ และเปิดดูวิดีโอที่เฉิงหว่านซินส่งมาในวิดีโอ เฉิงหวานซินเคาะประตูบ้านของป๋ายอีอี ตอนที่เห็นว่าฮั่วเยี่ยนฉือก็อยู่ที่นั่นตอนนั้น เธอวางมาดอาละวาดด่าป๋ายอีอีว่า หน้าไม่อาย เป็นเมียน้อยคนอื่น ไม่นึกเลยว่าจะแอบไปพบกับสามีคนอื่นอย่างลับ ๆ ป๋ายอีอีรู้สึกอับอาย เธอพยายามอดกลั้น “คุณเฉิงคะ ฉันแค่อยากจะขอบคุณเยี่ย
ฮั่วเยี่ยนฉือมองไปยังเฉียวสือเนี่ยนที่ยืนอยู่บนโซฟาอย่างเย็นชา “เรื่องของฉันเธอไม่ต้องกังวล ถ้าหากอยากหย่าจริง ๆ ก็แสดงความจริงใจออกมา!” เขาพูดขณะที่โยนสัญญาข้อตกลงในการหย่าทิ้ง และเดินตรงมานั่งที่โต๊ะทำงานหากจะโทษก็โทษที่ครั้งก่อนเธอไม่ได้ฮึดสู้ยืนกรานว่าจะหย่าร้างจนถึงที่สุด จึงทำให้ฮั่วเยี่ยนฉือไม่เชื่อเธออีกเรื่องราวมันถึงยุ่งยากถึงขนาดนี้เฉียวสือเนี่ยนรู้สึกซวยนิดหน่อย เธอลงมาจากโซฟา รับหนังสือข้อตกลงมาเตรียมตัวจะกลับห้อง“เฉียวสือเนี่ยน อย่าก่อเรื่องบ่อย ฉันไม่สามารถอดทนดูสิ่งที่เธอทำได้ทุกครั้ง” ฮั่วเยี่ยนฉือเอ่ยเตือนอย่างเย็นชาเขาหมายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับป่ายอีอีนั่น เขาคิดว่าเธอถึงขั้นทำเรื่องเลวร้ายแบบนั้น เพราะแค่อยากให้เขากลับมาบ้านเหรอ? บ้าไปแล้ว! “คุณทนได้หรือไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน?” เฉียวสือเนี่ยนแหงนหน้าขึ้นเอ่ยอย่างยั่วยุ “ถ้าคุณไม่เซ็นข้อตกลงการหย่าสักที ฉันก็จะไม่ยอมหยุด ให้คุณเสียใจจนตายไปเลย!” หลังจากพูดจบ เธอคร้านจะสนใจว่าฮั่วเยี่ยนฉือมีปฏิกิริยาอย่างไร เธอเชิดหน้าและเดินจากไป! กลับมาถึงห้องเฉียวสือเนี่ยนก็รู้สึกท้อแท้ ไปตายซะฮั่วเยี่ยนฉื
เฉียวสือเนี่ยนส่งสายตาเย็นชากลับไปให้ฮั่วเยี่ยนฉือจะมีใครอีก มีแต่นายเท่านั้นแหละ! ทั้งเอาแฟลชไดรฟ์ของเธอไป ทั้งยังไม่ยอมรับสายเธอ ฮั่วเยี่ยนฉือมองออกว่าเฉียวสือเนี่ยนไม่พอใจ เขาจึงอดกลั้นความโกรธของเขาเอาไว้ “ฉันได้อ่านโครงการของหมิงเหมาแล้ว ดูตั้งใจทำดีหนิ” “ด้วยความพยายามของเธอ ฉันจะให้โอกาสเธอได้ไปฝึกงานที่ธนาคารเพื่อการลงทุนป๋อโจว” ในเวลานี้ โจวเทียนเฉิงมีไหวพริบมาก เขานำเอกสารวางไว้ตรงหน้าเฉียวสือเนี่ยนเฉียวสือเนี่ยนขมวดคิ้วพลางรับมา มันเป็นหนังสือการว่าจ้างของเด็กฝึกงานจากฮั่ว กรุ๊ป“ฉันบอกตอนไหนว่าฉันจะไปเป็นเด็กฝึกงานที่ป๋อโจว” เฉียวสือเนี่ยนหัวเราะ เขาคิดว่าเฉียวสือเนี่ยนไม่พอใจกับสถานะเด็กฝึกงาน ฮั่วเยี่ยนฉือจึงรักษาความอดทนเอาไว้พลางเอ่ย “ฮั่ว กรุ๊ปมีข้อกำหนดการจ้างงานที่เข้มงวดมาก มีแต่แผ่นการลงทุนอย่างเดียว ไม่เพียงพอสำหรับมาตรฐานของพนักงานประจำ”“ตราบใดที่เธอยังคงใช้ความสามารถที่มี เขียนหนังสือวางแผนไปเรื่อย ๆ ตั้งใจเรียนรู้ หนึ่งเดือนถัดมาก็จะผ่านโปรและได้เป็นพนักงานประจำ แล้วบริษัทจะจัดหาตำแหน่งงานที่เหมาะสมให้กับเธอ” มีจุดบกพร่องมากมายในคำพูดของเขา จ
โม่ซิวหย่วนมองไปทางเฉียวสือเนี่ยนด้วยความเหยียดหยามเล็กน้อย“คุณคิดว่าในสถานการณ์ที่ป๋อโจวไม่มีการเสนอราคา หมิงเหมาจะทิ้งเนื้อชิ้นใหญ่ขนาดนี้ แล้วมาร่วมมือกับเราเหรอ?”เฉียวสือเนี่ยนเอ่ย “สถานการณ์ปกติก็คงไม่ แต่ถ้ามีคนกระตุ้น ก็ไม่แน่ค่ะ”“โอ้?” โม่ซิวหย่วนจัดท่านั่ง และสนใจที่จะฟังเฉียวสือเนี่ยนพูดต่อจากนี้มากเฉียวสือเนี่ยนเปิดโทรศัพท์ของตัวเอง นำข้อมูลจากด้านในออกมาหนึ่งฉบับ และส่งไปยังด้านหน้าโม่ซิวหย่วน“เซี่ยลี่สยงผู้รับผิดชอบของหมิงเหมา ฉันรู้ข้อมูลเล็กน้อยของเขาผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ยินว่าตอนนั้นที่เขาเปิดโรงงานสุราขึ้นมาได้ นอกจากจะมีสูตรพิเศษแล้ว ยังอาศัยการสนับสนุนทางการเงินจากครอบครัวพ่อแม่ภรรยาของเขาด้วย ดังนั้น เขาจึงเชื่อฟังภรรยาทุกอย่าง เรียกได้ว่าภรรยาคุมเข้ม”“คุณเฉียววางแผนจะชักชวนเซี่ยลี่สยงให้ร่วมมือกับพวกเราผ่านภรรยาของเขา?”น้ำเสียงของโม่ซิวหย่วนราบเรียบเล็กน้อย ความอดทนก็ใกล้จะหมดแล้วยังนึกว่าเฉียวสือเนี่ยนเป็นฝ่ายเสนอความร่วมมือ จะมีความคิดที่ดีแค่ไหน แต่ก็เป็นเพียงแค่ที่รองกระถางดอกไม้เขาผลักคืนโทรศัพท์ของเฉียวสือเนี่ยน “เกี่ยวกับเรื่องการดำเนินจดทะ
โทรศัพท์น่าจะเปิดลำโพง ไม่นานน้ำเสียงเสียใจของคุณย่าก็ดังขึ้น“เนี่ยนเนี่ยน หรือว่าเพราะเธอโกรธเจ้าเด็กเยี่ยนฉือ จนไม่ยินดีแม้แต่จะไปกับย่าแล้วเหรอ?”เฉียวเนี่ยนทนฟังน้ำเสียงแบบนี้ของคุณย่าไม่ไหว จึงรีบเอ่ย “หนูยินดีไปกับคุณย่าแน่นอน——”“งั้นก็ตกลงตามนี้แล้วนะ พรุ่งนี้ฉันจะให้คนขับรถไปรับพวกเธอ!”ไม่รอให้เฉียวสือเนี่ยนพูดต่อจากนี้ให้จบ คุณย่าฮั่วก็วางสายเรียบร้อยแล้ว น้ำเสียงก็ร่าเริงขึ้นอย่างชัดเจนด้วยเฉียวสือเนี่ยน “...”ตอนบ่ายของวันรุ่งนี้ เฉียวสือเนี่ยนได้รับโทรศัพท์จากคนขับรถเมื่อเธอเดินมาถึงรถและก่อนจะเปิดประตู กลับเห็นฮั่วเยี่ยนฉือก็นั่งอยู่ด้านหลังเช่นกันเขาสวมชุดสูทสีดำ และกำลังวุ่นอยู่กับคอมพิวเตอร์ใบหน้าแสนเย็นชา รูปลักษณ์ที่โดดเด่น ทำให้เหมือนคนดังที่ขึ้นปกนิตยสารทางการเงินมากเมื่อได้ยินเสียงเธอเปิดประตู ฮั่วเยี่ยนฉือก็เหลือบมองอย่างสงบนิ่ง และดูคอมพิวเตอร์ต่ออีกครั้งผู้ชายนิสัยเสีย ตัวเองมีคนขับรถอยู่แท้ ๆ ยังต้องให้คนขับรถของคุณย่ามารับเฉียวสือเนี่ยนไม่อยากนั่งกับเขา จึงคิดจะปิดประตูและไปนั่งข้างคนขับ“อย่าสร้างปัญหา คุณย่ากำลังรออยู่” รับรู้ได้ถึงเจ
เฉียวสือเนี่ยนเข้าใจความหมายที่คุณย่าฮั่วพูด แต่เธอไม่อยากหลอกตัวเองและคนอื่น “คุณย่า ท่านไม่ต้องปลอบใจหนูหรอกค่ะ ทัศนคติของฮั่วเยี่ยนฉือหนูรู้ดี”ไม่ต้องพูดถึงว่าเขายังคงเกลียดเธอ แม้จะเปลี่ยนความคิดจริง ๆ เธอก็ไม่อาจมีความคิดเพ้อฝันกับเขาได้อีกต่อไปความสัมพันธ์และสัญญาลับระหว่างเขากับป๋ายอีอี ชาตินี้ เธอไม่คิดจะเข้าร่วมอีกแล้วคุณนายใหญ่ฮั่วเห็นท่าทางที่ยืดมั่นของเฉียวสือเนี่ยน ก็ไม่ดื้อรั้นโน้มน้าวมากนักเนี่ยนเนี่ยนคงเก็บความเศร้าและความผิดหวังมามากพอแล้ว ถึงได้ตัดสินใจแบบนี้หวังว่าเจ้าเด็กบ้านั่นจะตาสว่างในเร็ววัน และกอบกู้หัวใจของเนี่ยนเนี่ยนกลับคืนมา......ในส่วนพักผ่อน คุณผู้หญิงทั้งหลายกำลังพูดคุยถึงลูกที่บ้านของตัวเองขึ้นมา“ใกล้จะถึงวันเกิดลูกชายของฉันแล้ว ได้ยินเขาบอกว่าเสื้อผ้าผู้ชายระดับไฮเอนด์ของ XX นั้นดี ทางนั้นเขาส่งลิงค์มาให้ฉันแล้ว ด้านบนมีรูปภาพหลายสไตล์เลย พวกคุณช่วยฉันดูหน่อยสิ!”คนหนึ่งในนั้นหยิบไอแพดออกมา หลายคนต่างก็เข้าไปมุงดูฮั่วเยี่ยนฉือเดินผ่านมาพอดี เขาก็เหลือบมองไปทางหน้าจอเช่นกัน“เยี่ยนฉือ รสนิยมในการแต่งตัวของนายดีขนาดนี้ ตาจะต้องถึงมาก
เฉียวสือเนี่ยนเห็นว่าฮั่วเยี่ยนฉือกลับมามีน้ำเสียงและท่าทางตามปกติแล้ว ยิ่งเพิ่มความมั่นใจว่า เมื่อกี้เขาจะต้องแกล้งเมาเพื่อหลอกเธอ!เธอโกรธจนเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และทิ้งฮั่วเยี่ยนฉือไว้เบื้องหลังกลิ่นหอมอ่อนๆ โชยเข้ามาสักพักหนึ่ง เงาร่างอันสวยงามของเฉียวสือเนี่ยนก็ห่างออกไปไกลแล้วฮั่วเยี่ยนฉือส่งข้อความหาลู่เฉินหนาน [ยกเลิกสัญญาความร่วมมือของโครงการอ่าวตระกูลลู่]ไม่รอลู่เฉินหนานตอบกลับ เขาก็ปิดเครื่องโทรศัพท์แล้ว......โจวเทียนเฉิงกังวลว่าบอสจะเมาจนหนักเกินไป จึงมารับถึงที่ร้านอาหารพร้อมกับคนขับให้คนขับรอ โจวเทียนเฉิงก็เดินมาถึงปากประตูของห้องที่เวลานี้บอสนั่งอยู่ที่เก้าอี้ยาวในห้อง กุมหน้าผากไว้ด้วยมือข้างเดียว คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อย คล้ายกับไม่ค่อยสบายเขากำลังจะออกปากเรียก ‘ประธานฮั่ว’ ก็เห็นมือหนึ่งของเฉียวสือเนี่ยนถือผ้าขนหนู อีกมือหนึ่งซ่อนอยู่ใต้ผ้าขนหนู และกำลังเดินจากโต๊ะอาหารนั่นไปหาบอสด้วยความกังวลโจวเทียนเฉิงปิดปากอย่างรู้ทัน เห็นเฉียวสือเนี่ยนให้ผ้าขนหนูเช็ดหน้าผากของบอสอย่างอ่อนโยนเขายังไม่ทันได้ซาบซึ้งกับการเอาใจใส่อย่างอ่อนโยนของเฉียวสือเนี่ยน ก็
เฉิงหว่านซินส่งมาหาเธอครั้งก่อนหลังเฉิงหว่านซินไปสั่งสอนป๋ายอีอีถึงบ้าน เฉียวสือเนี่ยนก็ไม่ได้ติดต่อกับเธออีกเลยในไลน์ก็ปฏิเสธข้อความของเธอเช่นกันเวลานี้เฉิงหว่านซินส่งรูปภาพมาคาดว่าก็คงไม่ใช่เรื่องดีอะไร เฉียวสือเนี่ยนกดลบออก และใส่หมายเลขของเธอลงในบัญชีดำ[พี่สาว ขอร้องล่ะ พี่กดรับหน่อยนะ] โจวหยางอิงส่งข้อความมาอีกครั้งต้องรักษาศักดิ์ศรีของเด็กหนุ่ม เฉียวสือเนี่ยนจึงไม่ยืนกรานอีก และกดรับการโอน[พี่สาว พี่ยุ่งมากเลยเหรอ ทำไมไม่เห็นมาฝึกที่โรงยิมเลยล่ะ?] โจวหยางอิงถามหลายวันมานี้เฉียวสือเนี่ยนเอาแต่ยุ่งอยู่กับแผนธุรกิจการฝึกที่นัดไว้ล่วงหน้าก็ไม่มีเวลาจะไปเฉียวสือเนี่ยนตอบกลับ [ยุ่งอยู่กับที่ทำงานนิดหน่อยน่ะ]โจวหยางอิงก็ส่งสติ๊กเกอร์ ‘ลำบากแล้ว’ มาเป็นชุด เฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าน่าสนใจดี จึงบันทึกไว้หลายอันจากนั้นเธอก็เลื่อนดูอินสตาแกรมของโจวหยางอิงนิดหน่อยพบว่าชีวิตของเขามีความหลากหลายมาก นอกจากจะแบ่งปันการทำงานแล้ว ยิ่งมากไปกว่านั้นก็คือวงดนตรีและอีกมากมาย ดูเป็นเด็กผู้ชายที่สดใสและมองโลกในแง่ดีเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย ดูเหมือนนานแล้วที่เธอไม่ได้สัมผ