Share

บทที่ 5

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“วืด”

“ตุบ!” ธนูดอกหนึ่งเสียบตรงบานประตู

เฉินฝานมองลูกธนูที่อยู่ห่างเขาไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตรอย่างตาโต เขามีความรู้สึกเหมือนรอดพ้นเคราะห์กรรม หากธนูลูกนี้เฉียงอีกเพียงเล็กน้อย……

ใคร!

ใครสามหาวถึงเพียงนี้!

คนสูงโปร่งรูปสวยคนหนึ่งพลันแสดงตัวขึ้นตรงหน้าเฉินฝาน

“พี่สาม!”

เฉินฝานยังไม่ทันได้ตอบโต้ ฉินเย่ว์โหรวก็วิ่งไป

พี่สาม!

ฉินเย่ว์เจียว?

ในความทรงจำ ฉินเย่ว์เจียวเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของฉินเย่ว์โหรว ภรรยาอีกคนของเขา

เฉินฝานมองฉินเย่ว์โหรวอย่างละเอียด

มองจากสายตาน่าจะสูงราว 170 เซนติเมตร ความสูงนี้ ในสมัยโบราณถือว่าสูงมาก

รูปหน้าคล้ายคลึงกับฉินเย่ว์โหรวแต่ก็มีความแตกต่าง

นางมีโครงหน้าชัดกว่า ร่างกายอวบอิ่มกว่าฉินเย่ว์โหรว สีผิวค่อนไปทางเหลืองข้าวสาลี ประกอบกับความสูงของนางแล้ว ช่างชวนให้รู้สึกมีความองอาจ เย้ายวนแทบทุกอิริยาบถ

อาจเป็นเพราะวิ่งเร็ว สีหน้าของฉินเย่ว์เจียวจึงแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อหยดลงจากหน้าผาก หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง เสื้อผ้าก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ……

เห้อ!

เฉินฝานหันหน้าหนีอย่างเร็ว

หากพูดว่าฉินเย่ว์โหรวที่อ่อนแอแต่อ่อนโยนทำให้รู้สึกอยากปกป้อง ถ้าเช่นนั้นฉินเย่ว์เจียวที่แสบร้ายเย้ายวนคงทำให้รู้สึกอยากพิชิต

“น้องสี่ ดี ๆ เจ้ายังอยู่ ยังอยู่!” ฉินเย่ว์เจียวกอดฉินเย่ว์โหรวแน่นแทบไม่กล้าคลายมือ

ข้าวสารในเรือนใกล้จะหมดแล้ว ถ้าเฉินฝานไม่ได้กินข้าวจะต้องทุบตีพวกนางแน่ นางตัวสูงทนได้และไม่กลัว แต่เย่ว์โหรวสุขภาพไม่ดีแต่ไหนแต่ไร แต่งงานกับเฉินฝานหนึ่งปีกว่าที่ผ่านมา ถูกเขาทุบตีเป็นประจำ สุขภาพอ่อนแอลงกว่าก่อนแต่งงานมาก ถ้ายังทุบตีต่อไปคงไม่รอดแน่

ฉินเย่ว์เจียวกลัวเฉินฝานจะทุบตีเย่ว์โหรวอีก เมื่อวานฟ้ายังไม่ทันสว่างนางก็ออกไปล่าสัตว์ทันที นางอยากหาวัตถุดิบป่าไปแลกเงินเพื่อซื้อข้าวสารในเมืองสักหน่อย

สถานการณ์ตอนนี้ไม่สู้ดีนัก ผลผลิตไม่ดี คนออกล่าสัตว์ก็มีมาก สองวันที่ออกไปข้างนอกฉินเย่ว์เจียวไม่ได้อะไรกลับมาเลย

ฉินเย่ว์เจียวไม่ได้กินอะไรมาแล้วสองวัน นางแบกร่างที่ทั้งเหนื่อยและหิวกลับมา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเพิ่งเดินถึงประตูหมู่บ้านก็ได้ยินชาวบ้านคุยกันว่า เฉินฝานขายฉินเย่ว์โหรวให้กับหอนางโลมอี๋ชุนย่วนด้วยเงินเพียงหนึ่งร้อยอีแปะ

ฉินเย่ว์เจียวได้ยินก็วิ่งกลับมาโดยไม่หยุดพักเพียงเพราะกลัวว่าฉินเย่ว์โหรวจะถูกคนจับไป

“พี่สาม!” ฉินเย่ว์โหรวกอดฉินเย่ว์เจียว น้ำตาที่เอ่อคลอในดวงตาเก็บไม่อยู่ร่วงลงมาในที่สุด นางกอดฉินเย่ว์เจียวร้องไห้เสียใจ

เฉินฝานที่เปลี่ยนไป และเกือบถูกพวกจูต้าอันจับตัวไป เรื่องราวแต่ละอย่างนี้ทำให้นางตกใจและหวาดกลัวมาก

นางไม่รู้ว่าจู่ ๆ ทำไมเฉินฝานถึงไม่ดุด่าไม่ทุบตีนางแล้วและไม่รู้ว่าพวกจูต้าอันจะกลับมาอีกหรือไม่

เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของฉินเย่ว์โหรว ฉินเย่ว์เจียวที่โกรธตั้งแต่ทีแรกเกิดทนไม่ไหวอีกครั้ง นางผลักฉินเย่ว์โหรวออกแล้วจ้องเขม่นเฉินฝาน

“เฉินฝาน……”

“พี่สาม!”

ฉินเย่ว์เจียวเพิ่งจะส่งเสียง มือของฉินเย่ว์โหรวก็ยื่นออกไปปิดปากนางทันที “อย่าเรียกชื่อนายท่าน เรียกนายท่านเจ้าค่ะ!”

กฎหมายของต้าชิ่ง ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากฝ่ายชาย ภรรยาห้ามเรียกชื่อของฝ่ายชายโดยตรง หากขัดขืน ฝ่ายชายสามารถนำตัวภรรยาส่งให้กับทางการ ซึ่งมีตั้งแต่โทษเบาโบยด้วยไม้กระดานสิบทีถึงโทษหนักจับเข้าคุก

“นายท่าน!” ฉินเย่ว์เจียวกัดฟันและจ้องหน้าเฉินฝานพร้อมกล่าว “เขาจะขายเจ้าอยู่แล้ว ยังจะเรียกนายท่านบ้าอะไรอีก”

“เราสองพี่น้องแต่งงานกับเขาหนึ่งปีกว่าที่ผ่านมา ใช้ชีวิตเป็นอย่างไร เจ้าดูสิ ขาดี ๆ ของเจ้าถูกเขาทุบตีจนหักไปแล้ว แล้วยังพี่ใหญ่พี่รอง……”

ฉินเย่ว์เจียวยิ่งพูดยิ่งเดือดดาล นางพลันหยิบลูกธนูจากกระบอกที่อยู่ข้างหลังออกมาวางบนคานธนูแล้วชี้ไปที่เฉินฝาน

“ช้าก่อน!” เฉินฝานรีบหลบ “ข้าถูกกล่าวหา ข้าไม่ได้ขายน้องเจ้าสาวสักหน่อย!”

บ้าเอ๊ย!

นี่เขาทะลุมามิติไหนกันเนี่ย

เปิดฉากมาไม่ใช่ทุบตีก็คือฆ่าฟัน

ที่สำคัญคนที่จะฆ่าเขายังเป็นภรรยาของเขาอีก

“กล่าวหาเจ้า! เจ้าไม่ได้เป็นคนรับเงินหนึ่งร้อยอีแปะรึ!”

“ข้าไม่ได้รับแน่นอน เฉินฝานเป็นคนรับไป”

“เจ้าไม่ใช่เฉินฝาน?”

“……” เฉินฝานคนนี้ไม่ใช่เฉินฝานคนนั้น วินาทีนี้เฉินฝานไม่รู้จะอธิบายอย่างไร เขามั่นใจมากหากเขาพูดว่าเขาทะลุมิติ ฉินเย่ว์เจียวคงยิงธนูใส่เขาทันทีแน่

และในความเป็นจริง ต่อให้เขาไม่อธิบายอะไร ฉินเย่ว์เจียวก็อยากฆ่าเขาให้ตายเหมือนกัน

“เฉินฝาน เจ้าไปตายซะ!”

ฉินเย่ว์เจียวดึงคานธนูจนตึง ลูกธนูบนนั้นพุ่งได้ทันทีเพียงแค่สัมผัส

“พี่สาม อย่านะเจ้าคะ!”

ฉินเย่ว์โหรวพุ่งตัวออกไปกางแขนและบังเฉินฝานเอาไว้

“เจ้าหลบไปนะน้องสี่!”

“พี่สาม!” ฉินเย่ว์โหรวยืนบังเฉินฝานอย่างมิดชิด “นายท่านเป็นรากฐานของพวกเรา ท่านฆ่าเขาไม่ได้ ถ้าเขาตายพวกเราก็จะตายเหมือนกัน”

หากเฉินฝานตาย ภรรยาของเขาก็จะกลายเป็นผู้หญิงที่ไม่มีเจ้านาย ใครๆ ก็ครอบครองและทำร้ายได้ตามใจชอบ

แล้วอีกอย่าง ที่ต้าชิ่ง ภรรยาฆ่าสามีเป็นความผิดสูงสุด จะถูกลงโทษด้วยการตัดหัวที่ตลาด พี่น้องที่แต่งพร้อมกัน แม้ไม่ถึงโทษประหารแต่ก็ไม่อาจละเว้นการลงโทษได้ จะต้องถูกเนรเทศไปอยู่ชานเมืองและทำงานแรงงาน

เขตชายแดนสถานที่เช่นนั้น ล้วนไปแล้วไม่ได้กลับทั้งนั้น

“ถ้าเช่นนั้นก็ตายพร้อมกันเถอะ!”

ฉินเย่ว์เจียวไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไปตั้งแต่ได้ยินที่หน้าหมู่บ้านว่าเฉินฝานขายฉินเย่ว์โหรว “ครึ่งปีที่ผ่านมา พวกเราไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็นอยู่แล้วหรอกรึ! เขานอกจากออกไปดื่มเหล้าเล่นพนัน วันที่อยู่เรือนก็คือทุบตีพวกเรา”

“ข้าเคยนับแล้ว แส้เถาวัลย์สิบอันเต็ม ๆ เขาทุบตีพวกเราจนแส้เถาวัลย์หักไปแล้วสิบอันเต็ม ๆ ยังไม่พอ เมื่อสามเดือนก่อน เขาออกไปเล่นพนันจนแพ้ พอกลับมาถึงก็ใช้เจ้าเป็นที่ระบายจนขาเจ้าหัก แล้วยังมีน้องห้า……”
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Mga Comments (3)
goodnovel comment avatar
sabading.dingda
ขอเตือนเรื่องเติมเงิน คนที่ยังไม่เติมเงินน่ะดีแล้วนะ มันอัพเดทวันละตอน นี่เลิกอ่านละ คุณเก็บเหรียญฟรีเอาดีกว่า เติมเงินไปก็ไม่ได้อ่าน ตัองรอมันอัพวันละตอน จะรำคาญหงุดหงิดเปล่าๆ เราเลิกอ่านละ รอเบื่อ จนลืมเรื่องราวเดิมละ ไม่ต่อเนื่อง ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรเอามาขายนะ เสร็จซัก 80%ขึ้นไปค่อยเอามาข่ยดีกว่า
goodnovel comment avatar
tom Promphibal
ดีมากครับชื่นชอบๆ
goodnovel comment avatar
Chainiwat
อ่านต่อๆๆสนุก
Tignan lahat ng Komento

Pinakabagong kabanata

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status