เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ

เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ

By:  เฉินเจียเสี่ยวเกอOngoing
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
9
166 ratings. 166 reviews
1315Chapters
543.6Kviews
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

เฉินฝาน ผู้ชายขึ้นคานในยุคปัจจุบันซึ่งทะลุมิติไปยังยุคโบราณ ในขณะที่ราชวงศ์กำลังขาดแคลนผู้ชายอย่างรุนแรง ไร้คนปกป้องบ้านเมือง สู้ศึกสงคราม กระทั่งทำไร่ไถนา เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากของประชาชนที่มิอาจอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ราชสำนักจึงได้จัดสรรการแต่งงานขึ้น ผู้ที่ยินดีรับภรรยามากกว่าสามคน รับรางวัล! ผู้ที่ให้กำเนิดลูกชาย รับรางวัลเพิ่มขึ้นอีก! เฉินฝานได้รับภรรยาแสนงดงามถึงสี่คน ซึ่งภรรยาแต่ละคนมีข้อดีต่างกันไป ปีต่อมาภรรยาให้กำเนิดลูกแฝดสี่ และทุกคนเป็นเด็กผู้ชาย ครั้นข่าวนี้กระจายออกมา ทั่วทั้งราชสำนักต่างตกใจ!

View More

Chapter 1

บทที่ 1

“ฝ่าบาท ในรัชสมัยนี้ขาดแคลนชายหนุ่มอย่างหนักพ่ะย่ะค่ะ!”

“ร้ายแรงถึงขั้นไหน”

“ในหนึ่งร้อยคน มีชายหนุ่มไม่ถึงยี่สิบคน หลายปีมานี้ มีหญิงสาววัยเหมาะสมจำนวนมากจบชีวิตตนเองเพราะไม่มีใครแต่งงานด้วย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่ารากฐานของแผ่นดินอาจสั่นคลอนได้พ่ะย่ะค่ะ”

“จงประกาศราชโองการลงไป ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกเขตการปกครอง เมืองที่อยู่ภายใต้การปกครองให้ดำเนินการจัดสรรการแต่งงาน ผู้ใดยินดีรับมากกว่าสามคน มอบรางวัล!”

“ผู้ใดให้กำเนิดบุตรชาย มอบรางวัลใหญ่!”

“ภายในสามปี ต้องพลิกปรากฏการณ์หญิงมากชายน้อยของแผ่นดินให้จงได้!”

-

เฉินฝานตื่นขึ้นด้วยเสียงร้องไห้รบกวน

เมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่าตนเองอยู่ในห้องที่ตนไม่รู้จัก

มีหญิงสาวนั่งปิดหน้าร้องไห้เสียงเบานั่งอยู่ข้างกาย

“หยุดร้องได้แล้ว ข้ารำคาญ!”

เมื่อได้ยินเสียงของเฉินฝาน หญิงสาวปาดน้ำตาและมองเขาทันที “นายท่าน ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ!”

เฉินฝากเงยหน้ามองหญิงสาว……

ผมเผ้าดำเงาวับ ผิวขาวนวลผุดผ่องดังหยก ดวงตาคู่งามแลมองหมุนรอบเป็นพันครั้ง ทุกการขมวดคิ้วคือการตีความคำว่าสง่างามน่าประทับใจ

ผ้าดิบหยาบกระด้าง ก็ไม่อาจปกปิดรูปร่างน่าเอ็นดูของนาง

เฮ้ย!

เฉินฝานอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย

โตป่านนี้ เขายังไม่เคยเห็นผู้หญิงที่มีหน้าตาอ่อนโยนสวยงามเท่านี้มาก่อน

“พี่สาว คือ……”

เมื่อเห็นว่าเฉินฝานจ้องหน้านางไม่ขยับ ใบหน้าขาวผ่องของนางพลันแดงก่ำในทันใด

ใบหน้าที่แดงก่ำยังแฝงไว้ด้วยความหวาดกลัว

“ข้าน้อยไปตักน้ำมาให้เจ้าค่ะ!”

พูดจบ หญิงสาวลุกขึ้นเปิดม่านกั้นและเดินออกไปทันที

เฉินฝานมองม่านกั้นประตูที่แกว่งไปมาแล้วถึงได้สติ

เฉินฝานกวาดตามองรอบ ๆ ก็พบว่าภายในห้องนี้ ไม่เพียงแค่ม่านกั้นประตูที่ผุพังดูไม่ได้ แต่ทั้งห้องนี้ยังทรุดโทรมทั้งห้องด้วย

นี่เขาอยู่ที่ไหน!

ความทรงจำวุ่นวายที่ไม่คุ้นเคยผุดขึ้นมาประหนึ่งกระแสน้ำทะลัก

เขาทะลุมิติข้ามเวลา!

ข้ามเวลามายังร่างกายของผู้ชายที่มีชื่อและนามสกุลเดียวกับเขา

ที่แห่งนี้เรียกว่ารัชสมัยต้าชิ่ง เป็นรัชสมัยที่ไม่สามารถพบได้ในหนังสือประวัติศาสตร์

“นายท่าน!”

คือผู้หญิงเมื่อครู่นี้

การเดินเข้ามาครั้งนี้ มีอ่างใส่น้ำอยู่ในมือนางเพิ่มขึ้นหนึ่งใบ อ่างใบนั้นเต็มไปด้วยรอยบิ่น เก่าผุหลุดลุ่ย

“นายท่านเจ้าคะ!”

หญิงสาวถืออ่างใส่น้ำมาถึงหน้าเฉินฝาน เมื่อเห็นเขาเงียบเลยเรียกเขาอย่างแผ่วเบา ซึ่งเสียงเบาและอ่อนโยนกว่าประโยคเมื่อครู่นี้

เฉินฝานไม่ตอบสนอง เพราะเขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแค่รูปงาม แต่น้ำเสียงยังน่าฟังอย่างยิ่ง

เหมือนน้ำพุบนภูเขาที่ใสสะอาดกระทบหิน กระแทกหัวใจคนและอ่อนโยนเหนือสิ่งใด

หญิงสาวใกล้เข้ามาอีก

เวลานี้ เฉินฝานเพิ่งพบว่าขาข้างขวาของหญิงสาวไม่ค่อยคล่องแคล่ว

นางวางอ่าง จากนั้นนั่งลงแล้วดึงแขนเสื้อ มือเล็ก ๆ เรียวยาวคู่หนึ่งพลันเผยต่อหน้าเฉินฝาน

ความเรียวยาวนี้ไม่ใช่การชื่นชม มือของผู้หญิงคนนี้ซูบผอมเกินไปจริง ๆ เฉินฝานมองแล้วยังรู้สึกสงสาร

เพียงเหม่อลอยครู่เดียว ก็มีการสัมผัสนุ่มนวลเกิดขึ้นตรงสองแก้ม ทันใดนั้นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าพลันมืดลงทันใด

เขาสะดุ้งและลุกขึ้นยืน

หญิงสาวตกใจกับท่าทีของเฉินฝาน พลางกำผ้าขนหนูในมือแน่นและถอยไปหลายก้าว

“นายท่าน เพราะข้าน้อยมือหนักไปหรือเจ้าคะ!”

เวลาพูดจา ดวงตาสดใสแวววับ กะพริบตาปริบ ๆ คู่นั้น

นางเหมือนจะกลัวเฉินฝานเป็นอย่างมาก

“......”

เฉินฝานเพิ่งจะเข้าใจว่าเมื่อครู่นี้หญิงสาวเข้ามาใกล้เพียงเพราะจะเช็ดหน้าให้

“เปล่า ไม่ใช่” เฉินฝานรีบกล่าว

ไม่ใช่เพราะนางมือหนัก แต่เพราะนางสวยเกินไปต่างหาก ที่ทำให้เขายั้งสติไม่อยู่

“ถ้าเช่นนั้นนายท่านนั่งลงก่อน ข้าน้อยจะดูแลชำระล้างให้ท่านเจ้าค่ะ”

นางพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้อีกครั้ง นางยกผ้าขนหนูอุ่น ๆ ขึ้นเช็ดหน้าของเฉินฝานอย่างเบามือ

ร่างกายของหญิงสาวเอนตัวเข้าไปใกล้เฉินฝาน นางยืนอยู่ ส่วนเขานั่งอยู่ ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก

สายตาของเฉินฝาน บังเอิญอยู่ตรง……

“นายท่าน ข้าเช็ดหน้าเสร็จแล้ว เดี๋ยวข้าล้างเท้าให้นะเจ้าคะ”

โชคดีที่เช็ดเสร็จแล้ว ไม่เช่นนั้น ในฐานะผู้ชายปกติคนหนึ่ง เฉินฝานไม่สามารถนั่งนิ่งและสงบอารมณ์ได้จริง ๆ

หญิงสาวยกอ่างไว้ใกล้เท้าเฉินฝานพร้อมนั่งลง นางยกเท้าของเฉินฝานขึ้นแล้ววางในกะละมังช้า ๆ

ฝ่าเท้าของเฉินฝานเพิ่งแตะถึงผิวน้ำ หญิงสาวพลันหยุดลงและเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“น้ำร้อนกำลังดีหรือไม่เจ้าคะ นายท่าน!”

“กำลังดี!”

เมื่อได้รับคำตอบจากเฉินฝานแล้ว นางถึงทำต่อ

เฉินฝานก้มสังเกตหญิงสาวแปลกหน้าคนนี้

นางเรียกเขาว่านายท่านและเรียกตนเองว่าข้าน้อย

ในสมองของเขามีความทรงจำเดิมของเจ้าของร่างไม่มาก มีไม่มากและยังไม่ต่อเนื่อง เฉินฝานหลับตานึกทวนอยู่นานกว่าจะจำสถานะของนางคนนี้ได้

นางคือภรรยาของเจ้าของร่างเดิม มีนามว่าฉินเย่ว์โหรว เป็นหญิงสาวที่อ่อนโยนน่าประทับใจเหมือนชื่อของนาง

นี่คือรัชสมัยที่ผู้ชายอยู่เหนือกว่าผู้หญิง ผู้หญิงมีมากกว่าผู้ชาย ผู้ชายทุกคนจะได้รับการจัดสรรภรรยาให้โดยราชสำนัก

ผู้หญิงหลังจากออกเรือนแล้ว จะต้องเรียกสามีว่านายท่าน เวลาอยู่ต่อหน้านายท่านจะต้องตนเองว่าข้าน้อย

สิ่งนี้เหล่าไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญคือ

เรือนอาศัยที่ผุพังเช่นนี้ ทางราชสำนักกลับจัดสรรภรรยาแสนสวยเช่นนี้ให้!!

หากเป็นยุคสมัยปัจจุบัน……

ตอนที่เฉินฝานส่ายหัวประทับใจ สายตาตกอยู่ที่กะละมังโดยไม่ได้ตั้งใจ

โห!

บนผิวน้ำมีผู้ชายผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าสกปรก รูปร่างซูบผอมดูไม่ได้คนหนึ่ง

ผู้ชายที่มีสภาพแย่ขนาดนี้…..คงไม่ใช่เขาในเวลานี้หรอกมั้ง!

เฉินฝานส่ายหัวหงึก ๆ

……ศีรษะที่อยู่ข้างในกะละมังขยับเหมือนกัน!

!!!!

หมายความว่าผู้ชายคนนี้ก็คือเจ้าสวะคนหนึ่ง

ราชสำนักยังจัดสรรภรรยาสวยดุจนางฟ้ามาให้ไอ้ขยะคนนี้!!

นี่มันประเทศพิลึกอะไรกันเนี่ย!

“นายท่านน้ำหนักมือนี้ใช้ได้หรือไม่เจ้าคะ” ฉินเย่ว์โหรววางสองมือที่เท้าเฉินฝานและเริ่มล้างเท้าให้เขา

นิ้วมือเรียวยาวนวดอยู่บนเท้าของเฉินฝานเบา ๆ และไม่รีบร้อน

ราวกับริบบิ้นที่อ่อนนุ่มพันรอบผิวหนัง และราวกับริมฝีปากแดงจุมพิตลงมาอย่างแผ่วเบา

เฉินฝานถึงกระทั่งสูดหายใจลึก

สบาย……

มีชีวิตมาแล้วยี่สิบปีในยุคปัจจุบัน เฉินฝานได้แต่พบปะกับคนหยาบในกองทัพทั้งนั้น ไม่เคยมีความรักเลยสักครั้ง

เมื่อได้ข้ามทะลุมิติมาที่นี่ นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้ภรรยาสวยดั่งนางฟ้ามาด้วยอีกคน

เขาทั้งตื่นเต้นและทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย

เขาควรจะใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาคนนี้อย่างไรล่ะ

อืม นี่คือปัญหา

ต้องคิดไตร่ตรองให้ดี

“นายท่านโปรดรอข้าสักครู่ได้หรือไม่เจ้าคะ” ฉินเย่ว์โหรดเงยหน้าเอ่ยถามเฉินฝานอย่างอ่อนโยน

“ทำไมล่ะ” เฉินฝานตั้งสติไม่ทันจึงถามออกไปทันทีตามสัญชาตญาณ

ฉินเย่ว์โหรวหลบสายตาทันทีที่ปะทะดวงตาของเฉินฝาน นางไม่กล้าสบตากับเขา “น้ำร้อนไม่พอ ข้าน้อยจะไปเปลี่ยนน้ำให้ใหม่เจ้าค่ะ”

พูดจบ ฉินเย่ว์โหรวลุกขึ้นทันที ความรู้สึกนั้นราวกับว่าหากนางยังชักช้า เฉินฝานจะต้องทุบตีนางอย่างแน่นอน

เวลานี้ ในสมองของเฉินฝานมีความทรงจำสั้น ๆ ผุดขึ้นกะทันหันอีกครั้ง

เมื่อก่อนเวลาที่เจ้าของร่างเดิมล้างเท้า เขาจะใช้น้ำหลายกะละมัง หากฉินเย่ว์โหรวทำช้าก็จะถูกเขาทุบตี

ซี๊ด……

เจ้าของร่างเดิมมันไม่ใช่คน

“ไม่ต้อง ไม่ต้องเปลี่ยนแล้ว!” เฉินฝานกวักมือเรียกทันที

ขาข้างขวาของผู้หญิงคนนี้มีปัญหา เดินทีไรลำบากทุกที ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเวลานั่งล้างเท้าให้เขา

เสียงเรียกของเฉินฝานทำให้ฉินเย่ว์โหรวรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง นัยน์ตาแวววับคู่นั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ริมฝีปากอมชมพูสั่นระริก

“นายท่านเห็นว่าฝีมือข้าน้อยไม่ดีหรือเจ้าคะ!”

“เปล่าเลย ฝีมือเจ้าดีมาก”

เฉินฝานปฏิเสธอีกครั้ง แต่คิดไม่ถึงว่าจะทำท่าทางใหญ่ไปเล็กน้อยจนมือของเขาไปสัมผัสเข้ากับฉินเย่ว์โหรว

คงเป็นเพราะขาที่ไม่สันทัด และคงเป็นเพราะนั่งยองนานเกินไป ฉินเย่ว์โหรวขานตอบแล้วล้มไปข้างหลังทันที

“แย่ล่ะ!”

เฉินฝานไม่มีเวลาคิดมาก เขาโน้มตัวเข้ากอดเอวนางไว้ทันใด

“อื้อ~”

ฉินเย่ว์โหรวกล่าวเสียงพึมพำเบา ๆ และตกสู่อ้อมกอดของเฉินฝานตามแรงโน้มถ่วง

กลิ่นหอมจาง ๆ ลอยมาจากหญิงงามในอ้อมอกแตะเข้าที่จมูก

เฉินฝานอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจอย่างสบายใจ

แนบชิดในอ้อมกอดเช่นนี้ เขารู้สึกชอบ

ในเมื่อเป็นภรรยาของเขา ถ้าเช่นนั้นเขาควรประคบประหงมนางสักหน่อย

“นายท่าน” ฉินเย่ว์โหรวที่อยู่ในอ้อมกอดของเฉินฝานแสดงสีหน้าตื่นตกใจและหน้าแดงก่ำทันที สองแก้มแดงระเรื่อราวกับดอกกุหลาบ

เฉินฝานมองจนเกือบไม่มีสติ

เขาไม่เคยรู้เลยว่าเวลาผู้หญิงหน้าแดงจะสวยเช่นนี้

กลิ่นหอมจากตัวฉินเย่ว์โหรวลอยอบอวลไปทั่วห้อง

เฉินฝานยกมือขึ้นแล้วขยับไปที่ขาอันขาวนวลผ่องของฉินเย่ว์โหรวโดยไม่รู้ตัว……

ฉินเย่ว์โหรวเห็นมือของเฉินฝานที่ยื่นมายังขาของตนเอง ใบหน้าที่แดงก่ำในตอนแรกซีดเผือดในทันใด

เสียงดังปัง……

นางพลันคุกเข่าลงตรงหน้าเฉินฝานพร้อมเนื้อที่สั่นระริก
Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

Comments

10
82%(136)
9
1%(2)
8
1%(2)
7
0%(0)
6
5%(8)
5
1%(2)
4
1%(2)
3
1%(1)
2
6%(10)
1
2%(3)
9 / 10.0
166 ratings · 166 reviews
Write a review
default avatar
Kittisak Prasertsom
จบไปแล้ว แล้วสาวแซ่เถียนละกลับมาอยู่กับพระเอกไหม น่าจะกล่าวถึงสาวๆทุกคนด้วย
2025-04-22 22:10:55
0
user avatar
อำนาจ โคตพันธุ์
จบแบบแฮปปี้​มาก​ ๆ​ จะติดตาม​อ่านเรื่องต่อไป
2025-04-22 18:24:25
0
default avatar
Kittisak Prasertsom
ยัง ยัง ยังไม่พออีก ยังมาเขียนให้สาวแซ่เถียนกลับไปบวชอีกรอบอีก ได้เสียกับพระเอกอีกรอบยังจะเขียนให้กลับไปบวชชีอีกรอบช่างคิดได้เน้อคนเขียน อยากใส่บทอะไรมาก็ใส่ แทนที่มาขนาดนี้ควรจะให้ตามไปอยู่กับพระเอกแล้ว เขียนอะไรก็ให้คำนึงถึงความเป็นจริงหน่อยไม่ใช่วางบทมั่วไปหมด
2025-04-20 21:04:41
0
user avatar
Ss Mo
ช่วยอัพยทต่อไปให้ด้วยค่ะอ่านมาตลอดจน ชอบมากค่ะ
2025-04-19 13:48:30
0
user avatar
จิราภรณ์ จอมทอง
ตอนแรกๆก็อ่านสนุกน่าติดตามแต่พอตอนที่เจ็ดร้อยกว่าไปยืดเยื้อวกไปวนมาอ่านถึงตอนที่เก้าร้อยกว่าแล้วยิ่งน่าเบื่อไปเรื่อยๆคนเขียนกะจะผูกเนื้อเรื่องให้ผู้หญิงทั้งแผ่นดินเป็นเมียพระเอกให้ได้
2025-03-25 23:30:55
2
default avatar
Kittisak Prasertsom
เขียนเหตุผลได้ไร้สาระมาก อยากใส่อะไรมาก็ใส่ ไม่คำนึงถึงหลักความเป็นจริง ตรรกะและเหตุผลเลย แบบนี้มันจะต่างอะไรกับละครสั้นจีนที่เขาเอามาลงให้ดูในยูทูปที่เถียงกันทั้งเรื่อง บางเรื่องใช้เหตุผลไร้สาระมาอธิบายแบบไม่น่าเป็นไปได้ก็ยังใส่เข้ามา
2025-03-25 19:31:43
1
default avatar
Kittisak Prasertsom
พระเอกมาจากยุคปัจจุบันนะ แค่จัดการตัวร้ายตัวเดียวต้องลากยาวขนาดนี้เลยเหรอ แล้วพระเอกเนี่ยประดิษฐ์อาวุธสมัยใหม่ไม่เป็นเลยเหรอ ตอนแรกอวยสะดิบดี ไปๆมาๆยืนให้เขาด่าในราชสำนัก จัดการอะไรไม่เป็นไม่เด็ดขาดสักอย่าง ตัวร้ายมันไม่ควรอยู่ยาวขนาดนั้นยิ่งลากยาวคนอ่านไม่สนุกตามหรอก ตัวร้ายมันเขียนขึ้นมาใหม่ได้
2025-03-24 21:59:49
1
default avatar
Kittisak Prasertsom
เขียนบทก็เขียนให้มันเม็กเซ้นต์หน่อย รู้อยู่ว่ามันเป็นนิยายแต่ควรเขียนให้มันตรงกับหลักควรเป็นจริงหน่อย ไม่ใช่สักแต่อยากใส่อะไรเข้าไปก็อยากใส่ สำหรับผมเรื่องนี้มันหมดสนุกตั้งแต่เขียนให้สาวแซ่เถียนหนีไปบวชละ ก่อนหน้านี้ปฏิเสธสาวทุกคนแต่ตอนนี้เอาหมด ย้อนแย้งมาก ตัวร้ายก็ลอบฆ่ามันได้แต่ดันเขียนให้ยุ่งยาก
2025-03-24 21:54:55
0
default avatar
Kittisak Prasertsom
พอเถอะคนเขียนอย่าเขียนบทให้ฉินเย่ว์เหมยหวงอำนาจโดยประกาศต่อทุกคนว่าจะสมรสกับชายใดหรือให้ชายใดแตะต้องเลย คุณเขียนแบบนี้ควรนึกบทต่อๆไปด้วยไหมว่าถ้าคนอื่นสืบรู้ว่าเย่ว์เหมยเคยแต่งกับพระเอกผลที่ตามมาจะหนักกว่าอีก คุณจะให้เธอแก้ผ้าพิสูจน์พรหมจรรย์ไหมถึงทำแบบนั้นใครเขาจะยอมรับเพราะใจเธอเอนเอียงไปที่พระเอก
2025-03-24 21:50:41
0
user avatar
Viwat Nokkaew
น้ำเน่าขึ้นทุกที.. ไม่มีหลักความเป็นจริงเลยแต่งไปเรื่อย
2025-03-18 19:03:28
2
default avatar
yofergin
Not read yet
2025-03-13 13:07:04
0
user avatar
สุธี สมุทรปราการ
ตั้งแต่ตอนที่1050เป็นต้นมาเดินเรื่องเชื่องช้า/น่าเบื่อมากกก...เสียดายเงินจิงๆ
2025-03-08 02:03:29
0
default avatar
JIRAPORN CHOOCHAIPOOM
สนุกมากค่ะ เอาใจช่วยพระเอกให้แก้ไขปัญหาได้ตลอด เนื้อเรื่องโดยรวมดูไม่ยากเกินไป ทำให้คนอ่านรอลุ้นเอาใจช่วยได้ดี ช่วยอัพบ่อยๆด้วยนะคะ ...
2025-02-27 18:51:01
0
user avatar
RoSaRiO
ลงหลายๆตอนด้วยครับ อันดับตกลงมามากเลยนะครับ ลงเยอๆนะครับ
2025-02-14 07:28:00
0
user avatar
สมชาติ ลูกอินทร์
ควยเหรียญกูเก็บเป็นร้อยว่าจะอ่านได้หลายตอนแม่งหายหมด
2025-02-03 06:53:05
0
  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 12
1315 Chapters
บทที่ 1
“ฝ่าบาท ในรัชสมัยนี้ขาดแคลนชายหนุ่มอย่างหนักพ่ะย่ะค่ะ!”“ร้ายแรงถึงขั้นไหน”“ในหนึ่งร้อยคน มีชายหนุ่มไม่ถึงยี่สิบคน หลายปีมานี้ มีหญิงสาววัยเหมาะสมจำนวนมากจบชีวิตตนเองเพราะไม่มีใครแต่งงานด้วย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่ารากฐานของแผ่นดินอาจสั่นคลอนได้พ่ะย่ะค่ะ”“จงประกาศราชโองการลงไป ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกเขตการปกครอง เมืองที่อยู่ภายใต้การปกครองให้ดำเนินการจัดสรรการแต่งงาน ผู้ใดยินดีรับมากกว่าสามคน มอบรางวัล!”“ผู้ใดให้กำเนิดบุตรชาย มอบรางวัลใหญ่!”“ภายในสามปี ต้องพลิกปรากฏการณ์หญิงมากชายน้อยของแผ่นดินให้จงได้!”-เฉินฝานตื่นขึ้นด้วยเสียงร้องไห้รบกวนเมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่าตนเองอยู่ในห้องที่ตนไม่รู้จักมีหญิงสาวนั่งปิดหน้าร้องไห้เสียงเบานั่งอยู่ข้างกาย“หยุดร้องได้แล้ว ข้ารำคาญ!”เมื่อได้ยินเสียงของเฉินฝาน หญิงสาวปาดน้ำตาและมองเขาทันที “นายท่าน ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ!”เฉินฝากเงยหน้ามองหญิงสาว……ผมเผ้าดำเงาวับ ผิวขาวนวลผุดผ่องดังหยก ดวงตาคู่งามแลมองหมุนรอบเป็นพันครั้ง ทุกการขมวดคิ้วคือการตีความคำว่าสง่างามน่าประทับใจผ้าดิบหยาบกระด้าง ก็ไม่อาจปกปิดรูปร่างน่าเอ็นดูของนางเฮ้ย
Read more
บทที่ 2
“นายท่าน ข้าน้อยผิดไปแล้ว!”“……” เฉินฝานทำหน้ามึนงง นางมีความผิดอะไร!เขาโน้มตัวจะพยุงฉินเย่ว์โหรวให้ลุกขึ้น ปรากฏว่านางโขกศีรษะกับพื้นโป๊ก ๆ ทันทีที่มือของเขาสัมผัสถึงตัว“ข้าน้อยรู้ว่านายท่านรังเกียจฝีมือของข้าน้อยเสมอมา ข้าน้อยจะไปร่ำเรียนกับกลุ่มสตรีในชุมชนเจ้าค่ะ”“ก่อนหน้านี้ ท่านลงโทษจนขาขวาของข้าน้อยหักแล้ว หากท่านลงโทษจนขาซ้ายของข้าหักอีก ข้าน้อยก็จะปรนนิบัติท่านไม่ได้แล้วนะเจ้าคะ”!!!แท้จริงแล้วเจ้าของร่างเดิมเป็นคนตีขานางหัก!!เมื่อมองขาขวาที่หักของฉินเย่ว์โหรว พลางมีเสียงหวีดดังขึ้นในหัวของเฉินฝานคนสวยขนาดนี้ทั้งคน ยังนอบน้อมอ่อนโยนเช่นนี้อีก มีแต่อยากเอ็นดู เจ้าของร่างเดิมคิดอะไรอยู่กันแน่ เหตุใดถึงกล้าลงมือเช่นนี้!“เมื่อขาเจ้าไม่สะดวก งั้นก็ลุกขึ้นเถิด!”ฉินเย่ว์โหรวตัวสั่นและกลัวเฉินฝานมาก นางแทบไม่ได้รู้ว่าเฉินฝานพูดอะไร “ได้โปรดนายท่าน อย่าทุบตีข้าเลย อย่าทุบข้าเลย”ร่างกายที่สั่นจนควบคุมไม่ได้และสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวั่นกลัวเห็นได้ว่าเมื่อก่อนเจ้าของร่างเดิมทุบตีนางเป็นประจำจนนางกลัวเฉินฝานพูดสามครั้งติดต่อกันว่าจะไม่ทุบตี จากนั้นฉินเย่ว์โหรวก็หยุ
Read more
บทที่ 3
เฉินฝานพลันตะโกนเสียงแข็ง จูต้าอันกับผู้ชายอีกสองคนถึงกับสะดุ้งตกใจไอ้หมอนี่ กล้าพูดจาเสียงดังกับพวกเขา!ภายในห้องเงียบสงบในทันใด“เฉินฝาน!” จูต้าอันแสดงหน้าถมึงทึง “ตั้งแต่พวกเราเข้ามา เจ้าก็ทำกร่างตลอด เมื่อครู่นี้ข้าถือว่าเจ้าเพิ่งตกเขากลับมาร่างกายยังไม่หายดี แต่เจ้าอย่าทำตัวไว้หน้าแล้วไม่สนใจ ข้าขอพูดไว้ตรงนี้ ไม่ว่าเจ้าจะยอมหรือไม่ เมื่อเจ้ารับเงินไปแล้วก็ต้องทำตามที่ตกลงไว้”ตอนที่จูต้าอันกำลังพูด ผู้ชายสองคนด้านหลังยืนขึ้นแล้วผู้ชายสองคนนั้น ทั้งตัวสูงและบึกบึนหากเกิดการปะทะขึ้นมาจริง ๆ เขาสามารถเอาตัวรอดได้ เพียงแต่ว่า……เฉินฝานชำเลืองมองฉินเย่ว์โหรวที่ก้มหน้าก้มตาอยู่ด้านข้าง“โหย ดูสมองข้าสิ!” เฉินฝานกุมหัวแสดงสีหน้าเหมือนเจ็บปวด “หลังจากตกเขาและฟื้นขึ้นมาข้าก็ไข้ขึ้นไม่หยุด จนป่านนี้หัวของข้าก็ยังเจ็บตื้อ ๆ ไม่หาย และลืมเรื่องต่าง ๆ ไปเยอะมาก ข้าขออภัยด้วย”เมื่อเห็นสีหน้าของชายสามคนผ่อนคลายลง เฉินฝานพลางรีบเอ่ยถามจูต้าอัน “พี่จู ก่อนหน้านี้ข้าตกลงกับพี่เรื่องอะไรนะ!”“หากเป็นเช่นนั้น……ก็ช่างเถอะ!” จูต้าอันส่งสัญญาณให้สองคนนั่งลง “ตกเขาฤดูหนาวแต่ไม่ถูกหมาป่าคาบ
Read more
บทที่ 4
“ขอร้องแม่เจ้าสิ!” เฉินฝานยกอีกถ้วยหนึ่งขึ้น“ปึก!”“ดูซิว่าข้าจะกล้าตีเจ้าหรือไม่ ?”“อ๊าก!” จูต้าอันที่ไม่ทันระวังตัวส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด ต่อมาเขาพยายามจะลุกขึ้น แต่เฉินฝานไม่ให้โอกาสเขาเลย“ปึก!”“กล้าไหม!”“ปึก!”“กล้าไหม!”เขาพูดคำว่ากล้าไหมหนึ่งครั้ง ก็ฟาดจูต้าอันหนึ่งครั้งกำลังมือที่เฉินฝานฟาดลงไปหนักขึ้นทุกครั้งศีรษะของจูต้าอันกลายเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว เลือดไหลออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ เขาปากแข็งในตอนเริ่มต้น แต่ภายหลังส่งเสียงร้องเจ็บปวดดังสนั่นและร้องขอความเมตตาไม่หยุดชายสองคนที่มาจากหอนางโลมอี๋ชุนย่วนวางมือลงและมองหน้ากัน ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยจูต้าอันสักคนไอ้เฉินฝานนี่ เหตุใดถึงไม่เหมือนอย่างที่รู้จักเฉินฝานที่พวกเขารู้จัก นอกจากผู้หญิงในเรือนตนเองแล้วก็สู้ใครไม่ได้เลย คำว่าอันธพาลของหมู่บ้านล้วนได้มาเพราะอยู่กับจูต้าอันและล้วนเพราะมีจูต้าอันคอยหนุนหลังทำไมตอนนี้กลับ……“ปึกๆๆ!” เฉินฝานยังทุบไม่หยุด“นายท่านเจ้าคะ นายท่าน!” ฉินเย่ว์โหรวนั่งลงข้างเฉินฝาน “หยุดตีได้แล้ว หยุดตีได้แล้ว ถ้ายังตีต่อไปเขาจะตายได้นะเจ้าคะ!”ครอบครัวไม่อาจไร้ผู้นำ หากเฉินฝานเข้า
Read more
บทที่ 5
“วืด”“ตุบ!” ธนูดอกหนึ่งเสียบตรงบานประตูเฉินฝานมองลูกธนูที่อยู่ห่างเขาไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตรอย่างตาโต เขามีความรู้สึกเหมือนรอดพ้นเคราะห์กรรม หากธนูลูกนี้เฉียงอีกเพียงเล็กน้อย……ใคร!ใครสามหาวถึงเพียงนี้!คนสูงโปร่งรูปสวยคนหนึ่งพลันแสดงตัวขึ้นตรงหน้าเฉินฝาน“พี่สาม!”เฉินฝานยังไม่ทันได้ตอบโต้ ฉินเย่ว์โหรวก็วิ่งไปพี่สาม!ฉินเย่ว์เจียว?ในความทรงจำ ฉินเย่ว์เจียวเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของฉินเย่ว์โหรว ภรรยาอีกคนของเขาเฉินฝานมองฉินเย่ว์โหรวอย่างละเอียดมองจากสายตาน่าจะสูงราว 170 เซนติเมตร ความสูงนี้ ในสมัยโบราณถือว่าสูงมากรูปหน้าคล้ายคลึงกับฉินเย่ว์โหรวแต่ก็มีความแตกต่างนางมีโครงหน้าชัดกว่า ร่างกายอวบอิ่มกว่าฉินเย่ว์โหรว สีผิวค่อนไปทางเหลืองข้าวสาลี ประกอบกับความสูงของนางแล้ว ช่างชวนให้รู้สึกมีความองอาจ เย้ายวนแทบทุกอิริยาบถอาจเป็นเพราะวิ่งเร็ว สีหน้าของฉินเย่ว์เจียวจึงแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อหยดลงจากหน้าผาก หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง เสื้อผ้าก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ……เห้อ!เฉินฝานหันหน้าหนีอย่างเร็วหากพูดว่าฉินเย่ว์โหรวที่อ่อนแอแต่อ่อนโยนทำให้รู้สึกอยากปกป้อง ถ้าเช่นนั้นฉินเย่ว์เจียวท
Read more
บทที่ 6
เมื่อมาถึงยามนี้ ฉินเย่ว์เจียวไม่สามารถพูดต่อไปได้อีก นางถอดด้ามธนูออกจากคันธนู กำไว้ในมือแน่น ขณะที่จ้องเฉินฝานถมึงทึงเฉินฝานยังรู้สึกโกรธเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ไม่ต้องพูดถึงฉินเย่ว์เจียวเลย เขาฟังแล้วยังอยากบีบคอนายท่านคนเดิมให้ตายไปเสียฉินเย่ว์โหรวลดแขนที่กางออกลงอย่างช้า ๆ แสงในดวงตาหรี่ลงทีละน้อย ฉินเย่ว์เจียวพูดถูก ตั้งแต่เข้ามาในบ้านหลังนี้พวกนางไม่เคยได้ใช้ชีวิตอย่างสบาย ๆ เลยสักวันหลายครั้งที่นางเองก็สงสัย ความตายนั้นดีกว่าการมีชีวิตอยู่หรือไม่“น้องสี่ เจ้ามายืนข้างข้า” ฉินเย่ว์เจียวดันฉินเย่ว์โหรวไปด้านข้าง พลางชี้ด้ามธนูและคันธนูไปยังเฉินฝานอีกครั้ง“อา!” ฉินเย่ว์โหรวหลับตาไม่กล้ามองผ่านไปชั่วพริบตา“ท่าน......”ฉินเย่ว์เจียวจ้องมองเฉินฝานตรงหน้านางอย่างว่างเปล่า ในขณะนี้เฉินฝานกำลังจับมือของนางที่ถือคันธนูอยู่“เหตุใดท่านถึง ถึงได้...” ฉินเย่ว์เจียวเอ่ยขึ้นตะกุกตะกักเขาเข้ามาตรงหน้านางและจับมือนางได้รวดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร เขาจะมีทักษะเช่นนี้ได้อย่างไรหากเขามีทักษะเช่นนี้ ฉินเย่ว์โหรวคงถูกขายไปนานแล้ว จะรอให้นางออกไปแล้วค่อยแอบขายฉินเย่ว์โหรวทำไมกัน“เย่ว์.
Read more
บทที่ 7
หลังจากที่ฉินเย่ว์เจียวออกไปข้างนอก ฉินเย่ว์โหรวก็ยกอาหารที่เฉินฝานกินไปได้ครึ่งหนึ่งออกไปขึ้นโต๊ะ“นายท่าน ข้าน้อยอุ่นข้าวแล้ว ท่านทานเถอะเจ้าค่ะ!”พูดจบก็วางอาหารแล้วหมุนตัวจะออกไปหลังออกจากห้องหลัก ฉินเย่ว์โหรวเรียกฉินเย่ว์เจียวให้ไปกินข้าวเย็นสองพี่น้องไม่ได้เข้าไปกินอาหารในห้องหลัก พวกนางเดินเข้าไปในครัว หนึ่งคนถือหนึ่งชามกินอาหารเฉินฝานนั่งลง มองชามข้าวใบเล็กตรงหน้าเขาแล้วยิ้มอย่างจนใจ ชามข้าวนี้ของเขา กินแล้วช่างเต็มไปด้วยความพลิกผันเหลือแสนเสียจริง กินตั้งแต่เที่ยงถึงเย็นก็ยังกินไม่หมดเลยในขณะที่ยิ้มอย่างขมขื่น เฉินฝานก็เงยหน้าขึ้น อีกฟากหนึ่งของห้องครัว สีหน้าอันเจ็บปวดของสองพี่น้องฉินที่กลืนอาหารอย่างขมขื่นก็ตกอยู่ในสายตาของเขาเมื่อคิดว่าสิ่งที่อยู่ในชามของพวกนางไม่ใช่ข้าวขัดสีแต่คือผักป่า เขาก็กินไม่ลงเดิมทีเขาต้องการเรียกพวกนางมากินข้าวด้วยกัน แต่เมื่อมองดูชามข้าวขนาดเล็กบนโต๊ะแล้ว คิดอีกที ฉินเย่ว์โหรวคงกลัวว่าเขาจะ...“ตึง!”เฉินฝานกระแทกตะเกียบลงบนโต๊ะเป็นดังคาด ฉินเย่ว์โหรวที่อยู่อีกฟากของห้องครัวตกใจจนผุดลุกขึ้นยืน ฉินเย่ว์เจียวก็ยืนขึ้นตาม นางดึงฉินเ
Read more
บทที่ 8
เฉินฝานย่อมฟังออกถึงความสงสัยของฉินเย่ว์โหรว เขายิ้มแล้วพูด "ไม่ต้องกังวล ข้าเป็นนายท่านของพวกเจ้านะ"ยุคปัจจุบันเขาเกิดในครอบครัวที่ยากจน จะมีงานบ้านใดที่ไม่เคยทำเล่าฉินเย่ว์โหรวยังคงไม่ขยับนายท่าน...เขา เขายิ้มให้นางจริง ๆนางกำลังฝันอยู่หรือเปล่า“เย่ว์โหรว เย่ว์โหรว เย่ว์โหรว”จนกระทั่งเฉินฝานเรียกนางเป็นครั้งที่สาม ฉินเย่ว์โหรวก็กลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้ง“จะ จะจุดไฟทันทีเลยเจ้าค่ะ!” ฉินเย่ว์โหรวรีบ ใบหน้าของนางแดงเล็กน้อยเนื้อที่จูต้าอันนำมาด้วยในวันนี้ครึ่งหนึ่งมีไขมันในยุคนี้ เนื้อติดมันแพงกว่าเนื้อไม่ติดมันเฉินฝานหั่นเนื้อมันออกทีละน้อย แล้วใส่ลงในหม้อ ทอดจนออกน้ำมันกลิ่นหอมของน้ำมันผุดออกมาจากหม้อ ฉินเย่ว์โหรวก็แอบกลืนน้ำลายเต็มปากในขณะที่นางกำลังจุดไฟฉินเย่ว์เจียวซึ่งยืนอยู่ข้างกรอบประตูก็อดไม่ได้เช่นกันมันหอมมากหนึ่งปีแล้วที่ไม่เคยได้กินเนื้อสัตว์เลย สองพี่น้องรู้สึกหิวไขมันไม่เยอะ จึงกลั่นน้ำมันได้ไม่เยอะ แต่ก็ดีกว่าไม่มีเลยเฉินฝานเทเนื้อที่เหลือลงในหม้อพร้อมกับผักป่าทันทีที่ผักป่าถูกเทลงในหม้อ แสงในดวงตาของสองพี่น้องฉินทั้งก็หรี่ลงเฉินฝานไ
Read more
บทที่ 9
“นายท่าน ท่านทำของหล่นหรือ” ฉินเย่ว์โหรวเดินตามเฉินฝานแล้วถามเบา ๆ“ข้าหา...หาเจอแล้ว หาเจอแล้ว!”เฉินฝานหันกลับมาอย่างมีความสุข ในมือของเขามีของสีดำสนิทอยู่สองก้อนของสีดำนั้นก็คือ...มูล?มูล!มูลก้อนใหญ่สองก้อน มูลวัวทั้งดำและแห้งสองก้อน“เฉินฝาน” ฉินเย่ว์เจียวเรียกเฉินฝานด้วยชื่ออีกครั้ง นางปกป้องฉินเย่ว์โหรว “ท่านคิดจะทำอะไรอีก”มือของฉินเย่ว์โหรวจับชายเสื้อของฉินเย่ว์เจียวไว้แน่น ดวงตาราวกับดวงดาราของนางเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ลมหายใจสั่นเทาเมื่อเดือนที่แล้วเฉินฝานออกไปเล่นพนันและแพ้กลับมา ครั้นตื่นขึ้นมา กลางดึกเขาระบายความโกรธทั้งหมดใส่ฉินเย่ว์โหรว ด่านางที่แม้แต่อุ่นเตียงก็ทำไม่ได้ จากนั้นก็ลากนางไปที่ครัว ยัดขี้เถ้าเข้าปากนางตอนนี้เฉินฝานคงจะไม่ระบายความโกรธใส่นางอีกและยัดมูลวัวเข้าปากนางกระมัง...“เฉินฝาน ถ้าท่านทำร้ายน้องสี่ของข้าอีก ข้าจะฆ่าท่าน!”ฉินเย่ว์เจียวตะโกนด้วยความโกรธแค้นราวกับว่านางยอมตายโดยไม่ยี่หระใด ๆ ทั้งสิ้นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว นางจะไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นได้อีกเฉินฝานส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ “เย่ว์เจียว เจ้าเป็นหญิงสาว อย่าคิดแต่เรื่
Read more
บทที่ 10
นี่มันอะไรกันเนี่ย?เฉินฝานขมวดคิ้วแน่นแล้วเอ่ยถาม “เย่ว์เจียว เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร หรือว่าถ้าข้าหาบ ทางการจะมาจับกุมฉินเย่ว์โหรวหรือ”“หึ!” ฉินเย่ว์เจียวส่งเสียงไม่พอใจ “ทำไมถึงแสร้งโง่ สมองท่านพังไปแล้วจริง ๆ หรือไร”!!!เฉินฝานตกตะลึง หรือจะเป็นเรื่องจริงความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมมีจำกัด เขาจำเรื่องนี้ไม่ได้จริง ๆประเทศนี้มันแปลก ๆ ผู้ชายทำงานไม่ได้แล้วหรือไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้ชายมีน้อยเพียงนี้ในความเป็นจริง ผู้ชายในรัชสมัยต้าชิ่งสามารถทำงานได้ แล้วก็ยังถือว่าผู้ชายต้องแข็งแกร่งเพื่อความสวยงามอีกด้วยแต่ถ้าเฉินฝานเป็นฝ่ายเก็บมูลวัว ส่วนฉินเย่ว์โหรวกลับไปมือเปล่ามันคงจะผิดปกติผู้ชายในรัชสมัยต้าชิ่งมีสถานะสูงส่ง รู้สึกว่าผู้หญิงเกิดมาเพื่อรับใช้ผู้ชาย หากเฉินฝานหาบ ฉินเย่ว์โหรวเดินกลับมือเปล่า เช่นนั้นนางจะต้องถูกผู้อื่นสาปส่งนับไม่ถ้วน จากนั้นอาจถูกฟ้องไปยังทางการโดยผู้ชายในหมู่บ้าน ถึงยามนั้นจะต้องมีบทลงโทษกฎหมายอาญากว่ายี่สิบข้อหาด้วยร่างกายปัจจุบันของฉินเย่ว์โหรว ไม่มีทางที่จะสามารถต้านทานการลงโทษเจ้าหน้าที่ได้เฉินฝานไม่รู้อะไรเลย นอกจากกังวลว่าจะมีคนฟ้องท
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status