Share

บทที่ 6

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
เมื่อมาถึงยามนี้ ฉินเย่ว์เจียวไม่สามารถพูดต่อไปได้อีก นางถอดด้ามธนูออกจากคันธนู กำไว้ในมือแน่น ขณะที่จ้องเฉินฝานถมึงทึง

เฉินฝานยังรู้สึกโกรธเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ไม่ต้องพูดถึงฉินเย่ว์เจียวเลย เขาฟังแล้วยังอยากบีบคอนายท่านคนเดิมให้ตายไปเสีย

ฉินเย่ว์โหรวลดแขนที่กางออกลงอย่างช้า ๆ แสงในดวงตาหรี่ลงทีละน้อย ฉินเย่ว์เจียวพูดถูก ตั้งแต่เข้ามาในบ้านหลังนี้พวกนางไม่เคยได้ใช้ชีวิตอย่างสบาย ๆ เลยสักวัน

หลายครั้งที่นางเองก็สงสัย ความตายนั้นดีกว่าการมีชีวิตอยู่หรือไม่

“น้องสี่ เจ้ามายืนข้างข้า” ฉินเย่ว์เจียวดันฉินเย่ว์โหรวไปด้านข้าง พลางชี้ด้ามธนูและคันธนูไปยังเฉินฝานอีกครั้ง

“อา!” ฉินเย่ว์โหรวหลับตาไม่กล้ามอง

ผ่านไปชั่วพริบตา

“ท่าน......”

ฉินเย่ว์เจียวจ้องมองเฉินฝานตรงหน้านางอย่างว่างเปล่า ในขณะนี้เฉินฝานกำลังจับมือของนางที่ถือคันธนูอยู่

“เหตุใดท่านถึง ถึงได้...” ฉินเย่ว์เจียวเอ่ยขึ้นตะกุกตะกัก

เขาเข้ามาตรงหน้านางและจับมือนางได้รวดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร เขาจะมีทักษะเช่นนี้ได้อย่างไร

หากเขามีทักษะเช่นนี้ ฉินเย่ว์โหรวคงถูกขายไปนานแล้ว จะรอให้นางออกไปแล้วค่อยแอบขายฉินเย่ว์โหรวทำไมกัน

“เย่ว์... เจียว” เฉินฝานไม่คุ้นเคยอยู่บ้างกับการเรียกฉินเย่ว์เจียวเป็นครั้งแรก

หญิงสาวคนนี้มีนิสัยเช่นชื่อของนาง เมื่อปรากฏตัวออกก็เหมือนกับมังกร พร้อมจะกัดยามได้อ้าปาก

“เจ้าอย่าตื่นตระหนกเช่นนั้นเลย ทำความเข้าใจให้ชัดเจนก่อนได้หรือไม่”

“ปล่อย!” ขณะดิ้นรน ฉินเย่ว์เจียวแอบประหลาดใจที่นางไม่สามารถหลุดพ้นจากมือของเฉินฝานได้

“ไม่มีทาง!”

เหลวไหล ปล่อยมือเพื่อให้นางยิงธนูใส่ตนน่ะหรือ

โชคดีที่ก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นทหารผ่านศึกมาก่อน ทักษะของเขาค่อนข้างดี

“ท่าน...” ฉินเย่ว์เจียวพยายามดิ้นอย่างหนัก

เฉินฝานต้องการหยิบด้ามธนูจากมือของฉินเย่ว์เจียว แต่เจ้าของร่างเดิมนั้นเกียจคร้าน ร่างกายขาดการออกกำลังกายอย่างจริงจัง

กลางวันทุบตีจูต้าอัน เมื่อครู่เพื่อหลบด้ามธนูของฉินเย่ว์เจียวอีกจึงรีบไปจับมือนางไว้ ยามนี้จึงอ่อนแรงอยู่บ้าง

ในขณะที่กำลังแย่งชิง...

“ผ่าง!”

หลังจากเวียนหัวอยู่พักหนึ่ง เฉินฝานรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่อยู่ข้างใต้...นุ่มอุ่น พร้อมด้วยกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของร่างกายหญิงสาว

ริมฝีปากชนเข้ากับสิ่งหนึ่ง สิ่งนั้นอบอุ่นคล้ายขี้ผึ้ง ดึงดูดเฉินฝาน

เฉินฝานขยับริมฝีปากตามสัญชาตญาณ

“อื้อ! อื้อ”

เฉินฝานตามเสียงไป...

เฮ้...เฮ้เฮ้

เมื่อครู่กำลังต่อสู้กับฉินเย่ว์เจียวและทั้งสองก็ล้มลงกับพื้น ฉินเย่ว์เจียวล้มลงกับพื้นก่อนและเขาก็ล้มทับฉินเย่ว์เจียว

สิ่งที่นุ่มอุ่นคือร่างกายของฉินเย่ว์เจียวสิ่งที่อบอุ่น และสิ่งที่นุ่มเนียนคือริมฝีปากของนาง

ในเวลานี้ทั้งสองต่างปากประกบปาก

“อื้อ...” ปากของฉินเย่ว์เจียวถูกปิด ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ จ้องเฉินฝานด้วยสายตาหงุดหงิดระคนอับอาย

ยังคงทำอะไรไม่ถูกอยู่เล็กน้อย ทำอะไรไม่ถูกยามได้ใกล้ชิดกับผู้ชายแบบนี้เป็นครั้งแรก

เฉินฝานตกใจเล็กน้อย

นางไม่ได้แต่งงานแล้วหรือ เหตุใดถึงมีปฏิกิริยาเช่นนี้ได้

หรือว่า...

เขาจำได้ว่าฉินเย่ว์โหรวบอกว่านางยังร่างกายสมบูรณ์พรั่งพร้อม

เป็นไปได้หรือไม่ว่าฉินเย่ว์เจียวก็เช่นเดียวกัน

คำตอบในใจของเฉินฝานคือใช่

ฉินเย่ว์โหรวเชื่อฟังเพียงนี้ เจ้าของร่างเดิมไม่ได้แตะต้องนางด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฉินเย่ว์เจียวที่ดุร้ายรุนแรงขนาดนี้

ใบหน้าของฉินเย่ว์เจียวแดงเถือกจนสามารถกลั่นเลือดออกมาได้ เฉินฝานจึงขยับปากตนออกไป

“ทำไมท่านยังไม่ออกไปอีก” ฉินเย่ว์เจียวตะโกนด้วยความอับอายระคนรำคาญทันทีที่ปากเป็นอิสระ

“อ้อ” เฉินฝานมองฉินเย่ว์เจียว พูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าข้าไม่ลุกขึ้นล่ะ”

แม้ว่าฉินเย่ว์เจียวจะดุนิดหน่อย แต่เวลาดุก็ดูน่ารักเล็กน้อย

นางแตกต่างจากฉินเย่ว์โหรวอย่างสิ้นเชิง

ยามอยู่กับฉินเย่ว์โหรวจะรู้สึกอ่อนโยนและสงบอยู่ในใจ

ทว่าการได้อยู่กับฉินเย่ว์เจียวจะรู้สึกตื่นเต้นและมีความสุข

“ท่าน คนขี้โกงตัวเหม็น คนอันธพาล!”

“คนขี้โกง เจ้าเรียกใครน่ะ” เฉินฝานที่เริ่มหยอกล้อ ใช้นิ้วชี้ลากอยู่บนใบหน้าของฉินเย่ว์เจียวเบา ๆ พลางหัวเราะเล็กน้อย

“ปล่อยข้าลุกขึ้น ได้เลย! ท่านไม่เข้าใจกฎเกณฑ์จริง ๆ เฉินฝาน”

เฉินฝานตะโกน “ยังต้องการฆ่าข้าหรือ ข้าเป็นนายท่านของเจ้า เอาสิ เรียกข้าว่านายท่าน”

“ท่าน...” ฉินเย่ว์เจียวมองเฉินฝานอย่างทำตัวไม่ถูก นางขวยเขินมากจนอยากจะหาช่องทางหลบหนี

หลังแต่งงานกับเฉินฝานมาได้หนึ่งปีแล้ว นางไม่เคยเห็นเฉินฝานเป็นแบบนี้มาก่อน

เฉินฝานที่ทุบตีและดุด่านาง นางเกลียด

เฉินฝานที่หยอกล้อนาง นางยิ่งเกลียด

แต่...เกิดอะไรขึ้นกับหัวใจที่กระโดดไปมาเหมือนกวางน้อยนี้ละ

“ถ้าไม่เรียกข้าว่านายท่านก็ไม่ต้องลุก” อย่างไรก็ตามหากฉินเย่ว์เจียวเรียกแล้ว เขาจะไม่ให้นางเรียกอย่างเสียเปล่า

ฉินเย่ว์เจียวต่อต้าน ทว่านางรับรู้ทันทีว่ามันไร้ประโยชน์

“นายท่าน” ฉินเย่ว์เจียวผินหน้าหนี้พลางเอ่ยเรียกออกมาอย่างรวดเร็วและคลุมเครือ

“มองหน้าข้าแล้วพูด”

“...นาย ท่าน!” ฉินเย่ว์เจียวขบฟันแน่น กอปรกับใบหน้าสีแดงเข้มนั้น ช่างเป็นเสน่ห์ที่ล้นเหลือไม่อาจพรรณนาได้

อนาคต... เฉินฝานจินตนาการถึงภาพอนาคตในใจของเขา

ทันทีที่เฉินฝานลุกขึ้นยืน ฉินเย่ว์เจียวซ่อนใบหน้าแล้ววิ่งออกจากบ้านไป ทั้งอับอายทั้งหงุดหงิด ตบตีรั้วในลานบ้านไม่หยุด เฉินฝานนั่งบนเตียง มองนางพลางหัวเราะเบา ๆ

เมื่อมองฉินเย่ว์เจียวนอกบ้าน จากนั้นมองเฉินฝานที่กำลังนั่งหัวเราะอยู่บนเตียง ฉินเย่ว์โหรวที่ยืนพิงประตูจึงถอนใจด้วยความโล่งอก

โชคดีที่พี่สามไม่ได้ทำร้ายนายท่าน

หากฉินเย่ว์เจียวฆ่านายท่านจริง ๆ ผลตามมาคงยากจะจินตนาการ

นางไม่กลัวตาย เพียงแต่กลัวเหล่าพี่น้องจะลำบาก

อีกอย่าง!

ฉินเย่ว์โหรวแอบมองเฉินฝาน

เมื่อครู่เขาปกป้องนางเพียงนี้จนเกือบจะทุบตีจู้ต้าอันจนตายเพื่อนาง

หลังจากที่นายท่านตกลงไปในหุบเขาและฟื้นขึ้นมา ดูเขาจะแตกต่างออกไปมากจริงๆ

ฉินเย่ว์โหรวเริ่มมีความคาดหวังสำหรับวันข้างหน้า

เฉินฝานปฏิบัติต่อเหล่าพี่น้องด้วยความเมตตา ใช้ชีวิตอย่างรักใคร่กลมเกลียว มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองให้เขา

วันเช่นนี้จะมาถึงได้หรือไม่นะ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (3)
goodnovel comment avatar
sabading.dingda
ขอเตือนเรื่องเติมเงิน คนที่ยังไม่เติมเงินน่ะดีแล้วนะ มันอัพเดทวันละตอน นี่เลิกอ่านละ คุณเก็บเหรียญฟรีเอาดีกว่า เติมเงินไปก็ไม่ได้อ่าน ตัองรอมันอัพวันละตอน จะรำคาญหงุดหงิดเปล่าๆ เราเลิกอ่านละ รอเบื่อ จนลืมเรื่องราวเดิมละ ไม่ต่อเนื่อง ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรเอามาขายนะ เสร็จซัก 80%ขึ้นไปค่อยเอามาข่ยดีกว่า
goodnovel comment avatar
tom Promphibal
เยี่ยมๆๆชื่นชอบมากกก
goodnovel comment avatar
Chainiwat
สนุกสนุกสนุก
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status