Share

บทที่ 746

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
เฉินฝานรู้สึกโล่งอกเช่นกัน

กลุ่มทหารผู้ดีกลุ่มนี้ได้กลายเป็นผู้กล้าอย่างแท้จริงแล้ว

เสียงตะโกนร้องของกองกำลังลาดตระเวน ดังต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน จวบจนชาวบ้านอำเภอบ้านเหออันยกอาหารมา จึงหยุดตะโกน

เหอกังกำลังจะรายงานสถานการณ์สงครามให้กับเฉินฝาน

“ท่านแม่ทัพ พวกเราไม่รีบร้อน ตอนนี้รับประทานอาหารก่อน รับประทานไปด้วยคุยไปด้วย”

เฉินฝานลากเหอกังวิ่งไปโต๊ะอาหารที่ใกล้ที่สุด

นับตั้งแต่เสี้ยววินาทีที่ออกจากเมืองหลวงครานั้น เฉินฝานก็ให้พ่อลูกตระกูลเหอและนายทหารอยู่กินร่วมกัน

ตักข้าวเข้าปากหนึ่งคำ เหอกังทำเช่นไรก็อดกลั้นไว้ไม่อยู่ เขากล่าวอย่างฮึกเหิม “ใต้เท้า กองกำลังสามหมื่นคน ราบเป็นหน้ากองแล้ว กองกำลังข้าสูญเสียไปเพียงสามพันกว่าคนเท่านั้น”

สามพันกว่าคน!

เฉินฝานฟังแล้วรู้สึกโอดครวญอยู่ในใจ

ตอนนี้ผู้ชายน้อยนิดเพียงนั้น ชั่วครู่เดียวก็หายวับไปสามพันคนทันที เป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่เชียวนะ

ในยุคปัจจุบัน ในสถานการณ์การโจมตีกลับเช่นนี้ สูญเสียเกินห้าร้อยคน แม่ทัพผู้นั้นก็ต้องถูกกักขังแล้ว

ทว่าเห็นเหอกังยินดีปรีดาเช่นนั้น เฉินฝานมิได้พูดอันใด

กองกำลังลาดตระเวนสามารถต่อสู้ได้เช่นนี้ เกินควา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
ชาญชัย เอี่ยมสุภุคกุล
รออัพเดทนะคับ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 747

    ยังไม่ทันถึงกระโจมค่ายของกองกำลังหญิง เฉินฝานก็สามารถมองเห็นกองกำลังหญิงรวมตัวกันอยู่ประตูทางเข้าค่ายจากที่ไกลๆ เขย่งเท้าชะเง้อคอรอคอยอย่างใจจดจ่อเหล่ากองกำลังหญิงจำเฉินฝานไม่ได้ ทว่าจำโจวอวี่ได้ ตอนที่พวกนางเห็นเฉินฝานที่เดินข้างกายโจวอวี่ ก็เข้าใจทันทีขุนนางที่หน้าตาขาวผ่อง สุภาพเรียบร้อยข้างกายท่านแม่ทัพโจวผู้นั้น ก็คือเฉินฝานที่มอบชีวิตที่สองให้กับพวกนาง ใต้เท้าเฉิน“ใต้เท้ามาแล้ว”“รีบจัดเรียงขบวนทัพให้เรียบร้อย!”ตอนที่เฉินฝานเดินเข้าไปในกระโจมค่าย กองกำลังหญิงหนึ่งพันห้าร้อยกว่าคน ก็ยืนตัวตรงเรียบร้อยแล้วกองกำลังหญิงเหล่านี้อายุยังน้อย ล้วนอายุเพียงสิบเจ็ดสิบแปดปีมองดูใบหน้าทุกคนที่แดงก่ำความสดใสของวัยแรกแย้ม เฉินฝานรู้สึกหดหู่ใจทันที หากเป็นยุคปัจจุบัน เด็กสาวเหล่านี้คงจะยังภายใต้การดูแลของพ่อแม่อย่างใกล้ชิด ใช้ชีวิตอย่างไร้ความกังวลทว่าเด็กสาวด้านหน้าเขาเหล่านี้ กลับเข้าสู่สนามรบแล้ว เมื่อครู่ก็ฆ่าฟันกับผู้ชายที่แข็งแกร่งกว่าพวกนางหลายเท่าในเหล่าพวกนาง ก็มีความจำนวนมากที่ลาลับโลกนี้ไปแล้วในใจหวนระลึกถึงเด็กสาวหนึ่งพันกว่าคนที่ล้มลงด้านนอกหอบนประตูเมือง เฉิ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 748

    ร่างเงาที่สูงใหญ่ตรงตระหง่านนั้น ยืนปะทะกับแรงลมไม่รู้ด้วยเหตุใดกัน เฉินฝานรู้สึกว่าร่างเงานั้นรู้สึกหงอยเหงาเศร้าสร้อยอย่างมากเฉินฝานกำลังจะถามว่านั้นคือผู้ใด ได้ยินคนพูดว่า “ท่านแม่ทัพใหญ่ ลมหนาวแล้ว พวกเราลงไปกันเถอะ”คำพูดเฉินฝานหยุดชะงักเล็กน้อยที่แท้ก็เป็นเหอกังเหอกังยกมือขึ้นมาเล็กน้อย สื่อความหมายให้องครักษ์ข้างกายลงจากหอบนประตูเมืองไปก่อนตอนที่องครักษ์หันกายลงจากหอบนประตูเมือง เห็นเฉินฝาน กำลังจะปริปากพูด เฉินฝานทำท่าไม่ให้เขาพูดลมยามค่ำคืนของเหมันตฤดู แหลมคมราวกับใบมีดเฉินฝานกระชับเสื้อผ้บนร่างตนเองให้แน่นขึ้น ก็ยังคงรู้สึกความเหน็บหนาวรุกล้ำเข้ามาสู่เรือนร่างอยู่ดีเหอกังที่อยู่ด้านข้างหอบนประตูเมือง กลับถอดหมวกบนศีรษะออกผมของเขาเป็นสีดอกเลาแล้ว เวลาที่ลมพัด ผมสีเงินสองสามเส้นสะท้อนแสงสีขาวเงินจากสัญญาณไฟแจ้งเหตุเฉินฝานตกใจเล็กน้อยเมื่อวาน ผมของเหอกังยังไม่ได้ขาวเพียงนี้ไยผ่านไปเพียงวันเดียว ผมก็ขาวจนเป็นเช่นนี้แล้วล่ะ?สายตาของเฉินฝาน จับจ้องไปที่ทิศทางเมืองฝูตูเป็นเวลานานไม่เคลื่อนย้ายไปที่อื่นโอ้...นี่จึงทำให้เฉินฝานนึกขึ้นได้เหอจื่อนำทหารห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 749

    นั่นคือขาคน—— หนึ่งข้าง!“โอ้...”เหอจื่อหลินนำขาคนในมือโยนไปบนพื้นทันที “ขานี้ เป็นของหลีเทียนคนชาติชั่วผู้นั้น!”ตอนที่หลีเทียนกำลังหลบหนีกลับเมืองฝูตู บังเอิญเจอกับเหอจื่อหลินที่กลับมาพอดี“หลีเทียน!” เหอกังตาเปล่งประกายทันที “หลินเอ๋อร์ เจ้าสังหารเขาแล้วงั้นหรือ?”“เจ้าชาติชั่วผู้นั้นดวงแข็ง ได้มาเพียงขาหนึ่งข้างเท่านั้น!” เหอจื่อหลินกล่าวด้วยความเสียดายเล็กน้อย“ขาหนึ่งข้าง ต่อให้เอาชีวิตเขามาไม่ได้ เขาก็ไร้ค่าแล้ว” เฉินฝานยิ้มพลางพูดหลีเทียนไม่สามารถลงสนามรบด้วยตนเอง ส่งผลดีกับพวกเขาอย่างมากหลังจากความเบิกบานใจที่ได้กลับมาพบกันผ่านไปแล้ว เหอจื่อหลินก็เริ่มรู้สึกเศร้าซึมคนที่กลับมากับเขามีเพียงยี่สิบสามสิบคน ท่ามกลางกลุ่มนี้ยังมีคนจำนวนมากที่เป็นทหารองครักษ์ประจำตัวที่ปกป้องเฉินฝานวินาทีที่เหอจื่อหลินกลับมา เฉินฝานและเหอกังก็สังเกตได้แล้ว ทว่าพวกเขามิได้พูดอันใด ตอนนี้เหอจื่อหลินเป็นฝ่ายพูดออกมาก่อน“ท่านพ่อ น้องฝาน ข้าทำให้กองกำลังห้ากลุ่มตายทั้งหมด เพื่อที่จะให้ข้าตีฝ่าวงล้อมมาได้พวกมั่วเซิน...ฮือ ๆ!”ลูกชายที่สูงเจ็ดฉื่อเยี่ยงเหอจื่อหลิน ชายชาตรีที่แข็งแกร่งกำย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 750

    เฉินฝานพยักหน้า “ข้ารู้ว่าเจ้าไม่พึ่งพาบุคคลใด เจ้าฝ่าวงล้อมมาด้วยตนเอง”เสี่ยวซื่อเป็นทหารระดับล่างที่สุดนายหนึ่ง เวลาที่สู้รบ เขาไม่สามารถไปอยู่ข้างกายเหอจื่อหลินได้อยู่แล้ว“ใต้เท้า ข้าพึ่งพาสิ่งหนึ่งหนีออกมา”เสี่ยวซื่อหยิบสิ่งของสิ่งหนึ่งออกมากระเป๋าอกเสื้ออย่างมีพิรุธเมื่อเฉินฝานเห็นแล้วก็รู้สึกสนุกทันที สิ่งของในมือของเสี่ยวซื่อเขาคุ้นเคยเป็นอย่างมากนี่คือสิ่งที่เขาเล่นตั้งแต่เด็กจนโต—— หนังสติ๊กมิใช่หรือ?ทว่าหนังสติ๊กในมือเสี่ยวซื่อชิ้นนี้ ใหญ่กว่าที่เฉินฝานเล่นตอนเด็กเล็กน้อย“หนังสติ๊กเล็กหนึ่งอัน อย่างมากก็สามารถยิงก้อนหินสองสามลูกได้ ยิงหินไปไม่กี่ลูกก็สามารถฝ่าฝูงชนที่ปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูออกมาได้ เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนโง่งั้นหรือ?”เมื่อพูดถึงตรงนี้ เฉินฝานปรับสีหน้าเคร่งขรึม “เจ้ารู้ใช่หรือไม่ปิดบังข้าจะพบกับจุดจบเยี่ยงไร?”ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าเสี่ยวซื่อมีโอกาสที่จะทรยศไม่มากนัก ทว่ารอบคอบไว้เสียหน่อยคงจะดีกว่าสองกองกำลังปะทะกัน โดยเฉพาะสถานการณ์ที่จำนวนศัตรูแตกต่างจากฝั่งเรามากมายเพียงนั้น หากในกองกำลังมีผู้ทรยศ เช่นนั้นช่างเป็นการโจมตีที่ถึงแก่ชีวิต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 751

    “ขอรับ ใต้เท้า!” เสี่ยวซื่อเหลือบมองเสาธงที่ห่างออกไป รับระเบิดมือจากมือเฉินฝานด้วยสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจผ่านไปครู่เดียว...“ตู้ม!”หลังจากเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างฉับพลัน ธงด้านนอกหอประตูเมืองก็มลายสิ้นไป“เจ้าหนุ่ม!” เฉินฝานตบไหล่เสี่ยวซื่อเบาๆ “เจ้าใช้ได้เลยนี่!”เจ้าหนุ่มนี่ฝีมือดีจริงๆ หากอยู่ในยุคปัจจุบัน ก็จะเป็นมือปืนซุ่มยิงที่มีความสามารถผู้หนึ่ง“ขอบคุณคำชื่นชมของใต้เท้า!”อย่างไรเสียเขาก็ยังเป็นเด็กน้อยอยู่ดี เฉินฝานพูดชื่นชมเช่นนั้น เสี่ยวซื่อยิ้มจนไม่เห็นฟันแล้ววันนี้สำหรับเฉินฝานแล้ว ช่างวันเป็นวันที่มีความสุขเรื่องดีๆเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเรื่องแรกคือกำจัดกองกำลังหลีเทียนสามหมื่นคนให้ราบคาบ ต่อด้วยเรื่องที่เหอจื่อหลินกลับมาได้อย่าปลอดภัย ตอนนี้ก็บังเอิญเจอเด็กตัวแสบที่มีความสามารถมาอีกหนึ่งคน-รุ่งสางยังมิมาถึง เฉินฝานก็ตื่นนอนแล้ว กองกำลังลาดตระเวนต้องเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองหรงตูไม่สามารถหยุดพักอยู่ที่เมืองเหออันได้นาน อ๋องเจิ้งหนานจะต้องออกคำสั่งให้เหยียนเชียงย้อนกลับมาเป็นแน่ไม่แน่ว่าตอนนี้กองกำลังหนึ่งแสนคนของเหยียนเชียง กำลังอยู่ในเส้นทางที

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 752

    “ใต้เท้า ตอนนี้ดินระเบิดทำได้ยาก ผนวกกับการที่ไม่สามารถให้เหล่าเจ้าเมืองหรงตูทราบ ทำได้ห้าพันลูก ใต้เท้าหลูและคนงานก็ทำงานอย่างมิได้พักผ่อนแล้วขอรับ”โจวอวี่อธิบายแทนหลูเฉิงกวงตอนนี้ดินระเบิดมือหาซื้อได้ยาก และยังต้องหลบเลี่ยงสายตาของคนกลุ่มนั้นของหลี่หงโหว่ ทำระเบิดมือได้มากมายเพียงนั้น หลูเฉิงกวงก็ลำบากมากแล้ว“ใต้เท้าโจว ท่านมิจำเป็นต้องอธิบายแทนข้าน้อย เป็นเพราะข้าน้อยไร้ความสามารถ” หลูเฉิงกวงก้มหน้ายอมรับผิดเฉินฝานกล่าว : “เรื่องนี้จะโทษเจ้าไม่ได้จริงๆ!”เมื่อครู่เห็นระเบิดมือน้อยเพียงนั้น ร้อนใจไปชั่วขณะ น้ำเสียงที่พูดจึงแข็งกระด้างเช่นนั้นระเบิดมือจะน้อยก็น้อยไปเถอะ มีจำนวนน้อยก็มีวิธีต่อสู้ในแบบของมันอยู่ในปีนั้นแคว้นเซี่ยโจมตีแคว้นแดนงาม ไม่มีเสบียง ไม่มีเสื้อผ้าฝ้าย ไม่มีกองกำลังสนับสนุนทางอากาศ ยังสามารถโจมตีจนแคว้นแดนงามต้องร่ำไห้ออกมากองกำลังลาดตระเวนและกองกำลังรักษาเมืองหรงตูก็จะสามารถทำได้แน่นอนเขาจะใช้ยุทธวิธีในยุคปัจจุบัน ตาต่อตาฟันต่อฟันกับอ๋องเจิ้งหนาน ดูว่าในท้ายที่สุดว่าใครจะเป็นผู้เก่งกาจที่แท้จริง?“นายกองหลู พาข้าไปดูกองกำลังรักษาเมืองของเจ้า”ใ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 753

    เฉินฝานเดินอย่างรีบร้อน ไปชนเข้ากับโต๊ะทำงานของหลูเฉิงกวง“โคร้ม!”โต๊ะพังทลายลงมาทันที“......”เฉินฝานสาบานว่า เขาเพียงชนเท่านั้น มิใช่เตะ ชนเช่นนี้โต๊ะก็สามารถพังทลายได้เชียวหรือ!!ก้มศีรษะดู ความเดือดดาลในใจเฉินฝาน ก็พรวดพุ่งออกมาอีกครั้งมุมทั้งสี่ของโต๊ะเริ่มที่จะเน่าเปื่อยแล้ว มิแปลกที่เมื่อชนแล้วก็พังทลายทันทีตอนที่เฉินฝานเดินมาจากค่ายของหลูเฉิงกวง เป็นช่วงเวลาที่เหล่านายทหารกำลังรับประทานอาหารกลางวันพอดีเขามิได้รีบร้อนไปสำนักบัณฑิตของเริ่นรุ่ยฟ่าน ทว่าเดินเข้าไปในโรงอาหารออกมาจากโรงอาหารแล้ว เฉินฝานก็กลับไปที่ค่ายของเหล่านายทหารอีกครั้งเดินออกมาจากค่ายทหาร เฉินฝานหันหน้าไปออกคำสั่งกับกองกำลังองครักษ์ประจำตัวข้างกาย ให้พวกเขาห่ออาหารที่เหล่าทหารกินหนึ่งชุด และเครื่องนอนที่เหล่านายทหารใช้เฉินฝานมิได้อธิบายว่าเขาต้องสิ่งของเหล่านี้ไปทำอันใด เขาเก็บความโมโหไว้ในส่วนลึก โจวอวี่และหลูเฉิงกวงทำได้เดินตามหลังอย่างเงียบ ๆ มิกล้ากล่าวถาม“พวกบัณฑิตปัญญาชนหน้าโง่!”ระหว่างทางมีเพียงฉินเย่ว์เจียวที่กล้าส่งเสียงตั้งแต่ค่ายทหารรักษาเมืองทิศตะวันออกของเมืองจวบจนถึงสำนักบั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 754

    ในสำนักบัณฑิตที่ครอบคลุมพื้นที่ห้าสิบกว่าหมู่ ศาลาทางเดินบุปผาทะเลสาบ ดอกไม้ใบหญ้าที่แปลกใหม่ตระการตา งดงามหาสิ่งได้เปรียบมิได้เหยียบทางเดินยาวของศาลา ความรู้สึกที่ขึ้นมาจากฝีเท้าก็รับรู้ได้เลยว่าวัสดุที่ใช้ในการทำทางเดินยาวคุณภาพดีอย่างมากสายน้ำไหลรินจากด้านล่างของทางเดินยาวลงไป“ที่แห่งนี้ ตกแต่งได้อย่างงดงามเสียจริง!”หลูเฉิงกวงที่เดินตามเฉินฝานมา ซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก“อะไรกัน?” เฉินฝานขมวดคิ้ว “จากคำพูดของนายกองหลู นี้เป็นครั้งแรกที่เจ้าเข้ามาในสำนักบัณฑิต”หลูเฉิงกวงลูบหัวเบา ทำหน้าเหยเกพลางกล่าว “ถูกต้องแล้ว ข้าน้อยนายทหารระดับล่าง เข้ามาที่แห่งนี้มีแต่จะทำลายบรรยากาศ ดังนั้นการที่ไม่เข้ามาที่แห่งนี้คงจะดีเสียกว่า”“ผู้ใดพูดกับเจ้าเช่นนี้?”เฉินฝานหันกลับมา ไม่เพียงแต่น้ำเสียงเยือกเย็นเท่านั้น สายตาก็ยังเยือกเย็นด้วย น้ำเสียงและสายตาของเฉินฝานนี้ ทำให้หลูเฉิงกวงตื่นตกใจ เขารู้จักกับเฉินฝานมานาน เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเฉินฝานจริงจังและเยือกเย็นเช่นนี้“ก็ ก็...” หลูเฉิงกวงพูดตะกุกตะกัก คิดว่าตนเองทำผิด “ใต้เท้า นายทหารอย่างพวกเราเหล่านี้ ทุกคนล้วนเป็นคนไร้มรรยาท สำนัก

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status