Share

5-3

last update Last Updated: 2024-11-23 17:00:06

ปัญหาใหญ่ทว่าหากชักช้าไปจะไม่ทันกาล พยัคฆ์อัคคียอมปล่อยลูกของตนออกจากหน้าท้อง สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังเจ้าพยัคฆ์ตัวน้อย

กายพยัคฆ์ที่ห่อหุ้มด้วยเปลวอัคคีครึ่งหนึ่งถูกพิษสีเขียว หนอนพิษชอนไชจนเห็นกระดูก นัยน์ตาใสซื่อบริสุทธิ์ของมันเอ่อคลอหยดน้ำใส มันไม่แม้จะส่งเสียงร้องออกมา

เหล่าเทพถึงจะไม่ชอบสัตว์อสูรสักเท่าไร อดไม่ได้ที่จะสงสารเวทนาเจ้าพยัคฆ์ตัวกระจ้อยร่อย

“ตำราเล่มหนึ่งกล่าวว่าสัตว์อสูรจำพวกพยัคฆาไม่แสดงความอ่อนแอออกมาให้ผู้ใดเห็นเป็นอันขาด นิสัยของท่านช่างคล้ายคลึงกับตัวข้านัก...”

“ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับข้า”

เทพอู่เฉินเอ่ยขึ้น ชิงลงมือนำหน้า วาดวงเวทสีดำเสกสายน้ำเป็นระลอกคลื่น ดึงแผ่นน้ำขึ้นสูงเพื่อจัดการกับมัจฉาก้าวร้าวให้ขาดอากาศหายใจไปเสีย ไม่ปล่อยให้เสียเวลาแม้สักน้อย 

ใต้เท้าจีกงรีบปราม “ระวังด้วยเทพอู่เฉิน ดอกบัวสีทองจะขาดน้ำหล่อเลี้ยงรากไม่ได้เป็นอันขาด จะแห้งตายในทันที”

“ข้าว่าไม่ง่าย... ต้องร่วมใจเป็นหนึ่ง”

อาเป้ยสะบัดปลายเท้า กระโดดข้ามอากาศไปยืนถัดจากเทพอู่เฉินในระยะห่างพอสมควร เพื่อมองทิศทางน้ำในอีกด้านหนึ่ง เทพแห่งสายน้ำทั้งสองเห็นพ้องต้องกัน รีบไปยืนคนละทิศ ทั้งสี่มุมสระบัว ประสานสายตาเข้าหากันโดยรอบบริเวณ 

ทั้งสามบุรุษเทพและหนึ่งเซียนหญิง วาดวรยุทธ์คนละสายวิชา ช่วยกันโจมตีมัจฉาดุร้าย ซึ่งปรากฏตัวออกมามากมาย นับได้เป็นร้อย ๆ ตัว

ฟันแหลมคมไล่กัดน้ำอย่างบ้าคลั่ง พวกมันพยายามปกป้องดอกบัวสีทองไม่ให้ผู้ใดเข้าใกล้ได้แม้สักน้อย ต่อให้เป็นสายน้ำที่มันอยู่อาศัย สาดกระเซ็นออกเป็นสาย กลายเป็นหยดหย่อม คมกริบราวใบมีด

พวกมันพร้อมพลีชีพเพื่อปกป้องดอกบัวสีทอง

ชลธารอันเงียบสงบซึ่งถูกบังคับจากบุคคลภายนอก ผู้ใช้พลังภายในดันสายน้ำให้กลายเป็นใบมีด เหล่ามัจฉาเริ่มล่วงรู้ว่ามีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง กลุ่มสีส้มนับหลายสิบตัวและสีขาวอีกจำนวนมากจึงกระโดดออกมานอกอาณาเขตเพื่อโจมตี แต่พอออกมานอกสระบัวก็ถูกสังหารด้วยน้ำรูปทรงแหลมทะลวงเข้ากลางลำตัว

ศพมัจฉาเกลื่อนกลาด ทว่าสังหารไปสักเท่าไร ก็ยิ่งงอกเงยออกมาใหม่ หากนำมาประกอบอาหารอาจเลี้ยงใหญ่ได้ทั้งเกาะเทพทีเดียว

“นานเท่าไรที่เรือนข้าไม่ครึกครื้นเอิกเกริก เต็มไปด้วยเทพเซียนเยี่ยงนี้ ดี ๆ ข้าชื่นชมพวกท่าน วิทยายุทธ์เป็นเลิศ นับเป็นบุญตาของข้ายิ่งนัก”

ใต้เท้าจีกงยืนหัวเราะชอบใจ ชื่นชมเหล่าเซียนอยู่เคียงข้างภริยาของท่าน

แม้นบ่อน้ำกำลังจะไร้เหล่ามัจฉา ยังเหลือค่ายกลอีก ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่

เทพอู่เฉินเร่งทำเวลา ลงมืออย่างระวัง ใช้ช่องว่างของหมู่ปลาแทรกเข้าไปตัดเฉือนรากบัวแข็งแกร่ง 

อาเป้ยคาดการณ์ว่าเทพสักคนหนึ่งคงสามารถนำดอกบัวออกมาจากบ่อพร้อมกับสายน้ำ หล่อเลี้ยงดอกบัวสีทองไว้ไม่ให้มันตาย

ปัญหาอยู่ที่ตัดรากบัวสักกี่ครั้ง กลับประสานเข้าด้วยกันเช่นเดิม

“รากบัวสีทองหยั่งลึกลงไปถึงค่ายกล สายน้ำเกรี้ยวกราดไม่ให้ความร่วมมือ”

อาเป้ยได้ยินเทพอู่เฉินพูดดังนั้นก็ใจเสีย นางหันไปมองลมหายใจรวยรินของพยัคฆ์ตัวน้อย ตัดสินใจใช้อาวุธชิ้นสุดท้ายของอาจารย์ฮุ่ยหมิงซึ่งนางได้แอบนำติดตัวมาด้วยตอนลงเรือ แอบซ่อนเอาไว้บนข้อมือนางเหมือนเครื่องประดับชิ้นหนึ่ง

นางพลิกฝ่ามือและปลายนิ้วทั้งสอง หมุนตัวครั้งหนึ่งเพื่อปลดลูกประคำสีน้ำขาวราวมุกสว่างใสออกจากข้อมือ ด้วยท่วงท่าสง่างามราวการร่ายรำ คุกเข่าข้างหนึ่งลงแตะพื้น วาดฝ่าเท้าตีลังกา ซัดพาคลื่นน้ำระลอกใหญ่ไปพร้อมลูกประคำ

ลูกประคำหยางสลักด้วยอักขระสีทอง ฝ่าฝูงมัจฉาไป เมื่อถึงใต้น้ำก็ขยายใหญ่ด้วยตัวของมันเพื่อทุบค่ายกล ทว่าทันใดนั้นเอง อาการเจ็บปวดราวถูกกริชคมปักเข้ากลางอก ทำให้นางทรุดลงไปกองกับพื้น

“อาเป้ย...!”

          เทพแห่งสายน้ำผู้พี่ปรี่เข้ามาประคองร่างบาง กระชับนางไว้ในอ้อมแขน นางไม่สามารถที่จะต่อสู้ได้อีก โลหิตไหลทะลักออกจากริมฝีปากนางราวสายน้ำ

“ลูกประคำหยางของตาเฒ่าฮุ่ยหมิง ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะใช้ได้ในร่างนี้ เจ้าเป็นสมบัติของเทพอู่เฉินผู้มีพลังด้านหยิน พลังแห่งความมืดและการทำลาย เจ้าจะต้องใช้พลังร่วมกัน พร้อมกัน ทั้งหยินและหยาง เพื่อรักษาสมดุลในกาย หรือเจ้าจะใช้เพียงพลังด้านมืดเท่านั้น”

“กายเทพมิใช่ถาวรยั่งยืน แม้นเป็นอมตะ ก็ดับสิ้นลงได้เช่นกัน”

ใต้เท้าจีกงลูบเคราหงอกขาว ยืนชมเหล่าเซียนวาดวิชา ชิงดอกบัวสีทองอย่างตั้งใจ ไม่สนใจนางด้วยซ้ำ ยังส่งเสียงหัวเราะคล้ายเสียงของอาจารย์ฮุ่ยหมิง

“ท่าน... อาจารย์”

“ใช่ที่ไหนกันเล่าอาเป้ย ข้าใต้เท้าจีกง แต่เสียงคลับคล้ายคลับคลาใช่ไหม?”

ก็ไม่แปลกว่าทำไมถึงเป็นมิตรสหายกันได้ โดยทั่วไปแล้วไม่มีผู้ใดคบหานักพรตเยี่ยงท่านนัก

อาเป้ยไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนหากว่าใต้เท้าจีกงไม่บอกนาง จะบอกให้เร็วกว่านี้หน่อยก็ไม่ได้!

ธาตุหยินหยางในร่างกายต่อต้านกันเกินกว่าร่างบอบบางของนางจะรับไหว ยิ่งธาตุหลักในร่างของนางบัดนี้ ต้นกำเนิดมาจากปีศาจผู้ทรงพลังมาก อาจถึงขั้นทำลายเทวโลกราบคาบได้ทั้งชั้น นางจึงหมดสติไปในอ้อมแขนของเทพแห่งสายน้ำ

ไม่มีผู้ใดทันสังเกตสายตาอีกคู่หนึ่ง นัยน์ตาสีโลหิตทอประกายกร้าว แม้ไม่เหลียวคอมองทั้งสอง เพ่งสติอยู่กับการดึงดอกบัวสีทองออกมาให้จงได้ 

เทพอู่เฉินวาดวงเวทสีดำขนาดใหญ่ หลายเท่าตัวของลูกประคำหยาง อาวุธเวทของนักพรตระดับปรมาจารย์ ไม่อาจเทียบเท่าเทพผู้มีพลังปีศาจเต็มกายยามบันดาลโทสะอย่างแรงกล้า เมื่อสำเร็จลุล่วงการตัดรากบัว

บรุษรูปงามพลันกลับกลายเป็นปีศาจอสรพิษกายายิ่งใหญ่โอฬาร เอ่ยวาจาบันดาลโทสะเสียงดังคับฟ้า

“ปล่อยมือจากนางเสียเทพเฟยหลิง นางมิใช่ธุระกงการอะไรของท่าน นางเป็นสมบัติของข้า!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   5-3

    ปัญหาใหญ่ทว่าหากชักช้าไปจะไม่ทันกาล พยัคฆ์อัคคียอมปล่อยลูกของตนออกจากหน้าท้อง สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังเจ้าพยัคฆ์ตัวน้อยกายพยัคฆ์ที่ห่อหุ้มด้วยเปลวอัคคีครึ่งหนึ่งถูกพิษสีเขียว หนอนพิษชอนไชจนเห็นกระดูก นัยน์ตาใสซื่อบริสุทธิ์ของมันเอ่อคลอหยดน้ำใส มันไม่แม้จะส่งเสียงร้องออกมาเหล่าเทพถึงจะไม่ชอบสัตว์อสูรสักเท่าไร อดไม่ได้ที่จะสงสารเวทนาเจ้าพยัคฆ์ตัวกระจ้อยร่อย“ตำราเล่มหนึ่งกล่าวว่าสัตว์อสูรจำพวกพยัคฆาไม่แสดงความอ่อนแอออกมาให้ผู้ใดเห็นเป็นอันขาด นิสัยของท่านช่างคล้ายคลึงกับตัวข้านัก...”“ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับข้า”เทพอู่เฉินเอ่ยขึ้น ชิงลงมือนำหน้า วาดวงเวทสีดำเสกสายน้ำเป็นระลอกคลื่น ดึงแผ่นน้ำขึ้นสูงเพื่อจัดการกับมัจฉาก้าวร้าวให้ขาดอากาศหายใจไปเสีย ไม่ปล่อยให้เสียเวลาแม้สักน้อย ใต้เท้าจีกงรีบปราม “ระวังด้วยเทพอู่เฉิน ดอกบัวสีทองจะขาดน้ำหล่อเลี้ยงรากไม่ได้เป็นอันขาด จะแห้งตายในทันที”“ข้าว่าไม่ง่าย... ต้องร่วมใจเป็นหนึ่ง”อาเป้ยสะบัดปลายเท้า กระโดดข้ามอากาศไปยืนถัดจากเทพอู่เฉินในระยะห่างพอสมควร เพื่อมองทิศทางน้ำในอีกด้านหนึ่ง เทพแห่งสายน้ำทั้งสองเห็นพ้องต้องกัน รีบไปยืนคนละทิศ ทั้งสี่มุมสร

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   5-2

    “ข้าเชื่อก็คือเชื่อ... ท่านเคยได้ยินไหมว่าเปลี่ยนความเชื่อมนุษย์นี้ยากกว่ายกภูเขาทั้งลูกเสียอีก”“ข้าเพิ่งจะเอ็ดเจ้า”“ข้าขอนับเป็นความหวังดี ใช่ว่าท่านอยากจะเอ็ดจะว่าข้าเสียเมื่อไร ท่านใจดีกับข้า” นางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนลง “และที่ท่านยอมช่วยเหลือพยัคฆาน้อยวันนี้ นับเป็นบุญกุศลของท่าน ข้าเชื่อเรื่องบุญกรรมวาสนา การทำความดี สิ่งดี ๆ จะย้อนกลับมา”อาเป้ยยิ้ม เงยหน้ามองเทพอู่เฉินในร่างสีดำทะมึนด้วยแววตาใสซื่อบริสุทธิ์ ถึงแม้ว่าเทพอู่เฉินคงไม่สบอารมณ์นางนัก ไม่หลงกลคารมนาง“เจ้าพูดจาได้ดี... ทั้งที่เพิ่งจะขังเทพผู้ยิ่งใหญ่ของมนุษย์เอาไว้ใต้ที่นอนในห้องใต้ดิน ห่อร่างข้าด้วยผ้าห่มเหม็นเน่าของเจ้า ทำให้ข้าในร่างครึ่งงูครึ่งบุรุษต้องติดอยู่ใต้เตียงถึงสองคืน”อาเป้ยเพิ่งนึกออกว่าลืมท่านเทพเอาไว้ หลังร่ายเวทอำพรางตาเปลี่ยนประตูให้กลายเป็นกำแพง ส่วนตัวนางนั่งน่ะหรือ เล่นหมากเซี่ยงฉี หัวเราะร่าเริงบันเทิงใจ ไปเที่ยวชมพรรณพฤกษาในป่ากับสองบุรุษเทพแห่งสายน้ำ!阿贝 อาเป้ย...宝贝 bǎobèi (เป่าเป้ย)ลูกรัก ที่รัก...ชื่อของนางคงมีรากฐานมาจากคำในความหมายว่านางคือผู้เป็นที่รักต่อทุกสรรพสิ่งเทพอู่เฉินมองเ

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   5-1

    พยัคฆ์อัคคียอมบอกความจริงต่อเทพว่าต้องการหยกพันปีไปฟื้นฟูพลังกายของบุตรชายตัวน้อย ซึ่งเล่นซนไปสักหน่อยจึงถูกพิษของป๋ายเซี่ยสัตว์อสูรจำพวกปูยักษ์มีวิถีนักล่าที่แปลกประหลาด ไม่กลืนเหยื่อเข้าไปทว่าจะฝังคมเขี้ยวไว้ รอให้แผลเน่าและถูกพิษกัดกินเสียก่อน ให้เหยื่อทุรนทุราย ร่างกายขยับไม่ได้เมื่อไรค่อยกลับมาจัดการอีกครั้งหนึ่งทั้งปีศาจและอสูรไม่ใช่ทุกเผ่าจะเป็นมิตรที่ดีต่อกัน อสูรหลายตนนี้เป็นพวกเดียวกับพยัคฆ์อัคคี ซึ่งเป็นสัตว์อสูรในตำนาน จัดอยู่ในระดับที่มีพละกำลังใกล้เคียงกับปีศาจส่วนอสูรปักษาซึ่งมาก่อกวนคราวก่อนนั้นต้องการหยกพันปีไปทำอะไรไม่รู้ได้ ถึงคราวนี้ไม่มาปรากฏตัวแต่คราวหน้าไม่รู้ว่าจะมาหรือไม่อาเป้ยเห็นสัจธรรมอีกข้อหนึ่งว่ามนุษย์มีการแบ่งแยกเป็นหลายชนเผ่า เหล่าปีศาจและอสูรก็เช่นกัน ถึงบนเทวโลกไม่วุ่นวายเท่าโลกมนุษย์ แสนจะวุ่นวายนัก ต่างฝ่ายสู้รบกันเพื่อสนองกิเลส ยกตัวอย่างเช่นท่านเจ้าเมืองหลงอี้จินผู้ส่งเครื่องสังเวยให้แด่เทพด้วยความเชื่อของท่าน ก็ปรารถนาต้องการอำนาจจากเทพ หวังให้ผู้คนเคารพสยบต่อท่านณ สถานที่แห่งนี้ปีศาจยังอาจกลืนกินปีศาจด้วยกันเองเพื่อสูบพลังเวท ในขณะที่เทพ

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   4-3

    ผ่านไปสามราตรีกาลไม่มีอะไรคืบหน้าปีศาจนับสิบตนยังพยายามตามหาเทพอู่เฉินในเรือนแต่ไม่พบท่านตามที่นางว่าทางด้านฝั่งเทพเลิกต่อต้านอสูรปีศาจ ปล่อยให้เดินไปเดินมาตามใจ ระหว่างรอก็ชักชวนกันฆ่าเวลา นั่งฝึกปัญญาด้วยหมากเซี่ยงฉี เหล่าเทพผู้น้อยช่วยกันซ่อมแซมพื้นเรือนด้านหน้าให้กลับมาสวยสะอาดเรียบร้อยดังเดิมแล้ว บ่าวงูทั้งสองยังกลับมาเอาความกับนางเรื่องเทพอู่เฉินไปอยู่ที่ใด“หวังว่าเจ้าจะไม่โป้ปดพวกข้า มิฉะนั้นเจ้าจะถูกลงโทษสถานหนักทีเดียว”“ท่านรอถามเทพอู่เฉินด้วยตัวท่านเองก็แล้วกัน ท่านซื่อหยูอี้ ท่านเซียวอี้หรู ข้าหน่ายจะอธิบายความให้ท่านฟัง เพราะว่าท่านไม่เคยจะฟัง”อาเป้ยกำลังวัดฝีมือกับเทพแห่งสายน้ำ บนโต๊ะหินใต้ต้นไม้สูงใหญ่ ลมพัดเย็นสบาย นางคีบหมากเฉียมุ่งไปดักโจมตีถึงในบ้านของอีกฝ่าย ทว่านางคงไม่ชำนาญงาน จึงไม่ได้ดูเลยว่ามีองครักษ์คอยป้องกันอยู่"เก็บพลังเวทไว้ใช้ยามจำเป็น กำชัยชนะโดยไม่ต้องออกรบ เจ้าเฉลียวฉลาดนัก อาเป้ย” เทพแห่งสายน้ำเอ่ยคำชื่นชมนาง จากเคยว่านางเป็นสตรีควรนิ่งเงียบเสียก็เปลี่ยนความคิดใหม่บนโลกของทวยเทพ เทพสตรีออกเรือนแล้วยังต้องเชื่อฟังและอยู่ในโอวาทสามีเช่นเดียวกับมน

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   4-2

    นางยิ้มแล้วจึงพูด “ข้าขออภัย แต่อาจารย์ข้าพร่ำสอนเรื่องการมีมารยาท หากผู้ใดถามคำถามข้า ข้าควรต้องตอบให้ชัดเจนเท่าที่ข้าทราบ แถมตัวข้ายังมิใช่สตรี มิใช่ภรรยาของผู้ใด ข้าอยู่เยี่ยงบุรุษมาทั้งชีวิต บนโลกมนุษย์ข้ามีป้ายชื่อเด็กชาย เป็นข้ารับใช้นักพรต ตัวข้าไม่เคยมีแม้โอกาสจะได้ปักปิ่นผมเยี่ยงสตรีด้วยซ้ำ”นางยังอวดป้ายชื่อบุรุษของนางว่าอาเป้ย ซึ่งมีสีแตกต่างไปตามแคว้นที่อาศัยให้เทพดูเสียด้วย ทว่าเหล่าเทพคงไม่ได้สนใจ ถือโอกาสพักเอาแรงระหว่างทุกคนหันมองนางเป็นตาเดียวในเมื่อนางเป็นผู้ไม่เกี่ยวข้อง จึงไม่มีผู้ใดชิงชังนาง อย่างมากคงแค่รำคาญใจเท่านั้น อาเป้ยถีบขาทะยานขึ้นอากาศ​ เหยียบลงบนพื้นหินหน้าพยัคฆา นางเกิดมีความคิดว่าสัตว์อสูรตนนี้เฉลียวฉลาดกว่าตนอื่น น่าจะพูดจารู้เรื่อง“ข้าว่าท่านเอาเวลาไปตามหาหยกพันปีเสียดีกว่า ในเมื่อท่านอู่เฉินให้คำอนุญาตแล้ว ท่านบอกด้วยตัวท่านเองว่ามันอยู่บนเกาะเทพอุดรแห่งนี้ ยังฝากข้าเป็นธุระมา ทั้งเทพและปีศาจ เชิญตามอัธยาศัย” นางก้มศีรษะทำความเคารพทั้งสองฝั่งอย่างนักปราชญ์ ผู้มีปัญญาเป็นที่ตั้ง ต่างฝ่ายจึงสงบสติอารมณ์ลงเพราะคารมของนาง“ข้าเอง... อยู่เฉย ๆ ไม่มีอ

  • เครื่องบรรณาการของเทพงู - เล่ม 1 [TH]   4-1

    เทพอู่เฉินในร่างปีศาจมีช่วงเวลาจำศีลหลายราตรี สักห้าสิบถึงหนึ่งร้อยปีจะลอกคราบเก่าของตนสักครั้งเช่นเดียวกับนางเฟยอี๋ ใช้เวลามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับพลังเวทในกาย ซึ่งหลังจากลงไปรับเครื่องบรรณาการบนโลกมนุษย์ เดินทางข้ามภพภูมิกลับมายังเทวโลกทำให้สูญเสียพลังไปมาก คงซ่อมแซมตนได้ไม่ดีนักเทพและปีศาจต่อสู้กันมาสองราตรีแล้ว...อาเป้ยเดินไปเดินมาอย่างระวังไม่ให้เป็นภาระผู้ใด นางหลบเข้าไปนอนบ้าง เอามือปิดหูปิดประตูห้องเงียบเชียบ เสียงกระบี่ดังกระทบกัน พื้นดินแตกหักเป็นเศษเป็นชิ้น เสียงตะโกนบริภาษอย่างเกรี้ยวกราด แสงสีเสียงทอดดังมาเป็นระยะ ต่างฝ่ายตะโกนโหวกเหวกโวยวายทะเลาะวิวาทกันไม่จบสิ้น ไม่มีวี่แววว่าฝ่ายใดจะยอมเลิกราท้ายที่สุดนางก็ทนไม่ไหว จึงลองเดินหาห้องพักจำศีลของเทพอู่เฉินดูว่าอยู่ที่ใดห้องพักของเทพอู่เฉินหาไม่ยากนัก อยู่ถัดจากลานกว้างที่พวกเขากำลังต่อสู้กัน นางคิดว่าท่านเทพคงไม่กลัวเกรงในสิ่งใดเลยจำศีลอย่างโจ่งแจ้ง นางยังเห็นว่ามีบุรุษเทพรูปงามร่างสูงใหญ่แต่งการด้วยอาภรณ์งดงามดูมีภูมิฐาน และอีกสี่คงเป็นลูกสมุนของฝั่งเทพแห่งสายน้ำตามมาสมทบนางเคาะประตูห้องอย่างมีมารยาท ทว่าไม่ได้ยินเสีย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status