LOGIN“ฮัลโหล ที่รัก... เธอเป็นไงบ้าง?” โรนัลด์ตอบเมื่อเขากดรับสาย “ที่รัก ช่วยด้วย! ฉันไม่ไหวแล้ว” คาริสสาหายใจหอบ เสียงของเธอแตกพร่า “ที่รัก เกิดอะไรขึ้น? ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? เดี๋ยวฉันไปรับ” โรนัลด์พูด ในน้ำเสียงเริ่มแฝงด้วยความตื่นตระหนก เสียงของคาริสสาขาดห้วงไปด้วยเสียงสะอื้น “ฉันอยู่ที่สวนสาธารณะ... ขอร้องเถอะ เธอต้องมานะ... ฉันอยู่ต่อไม่ไหวแล้ว... เขาบอกเลิกฉัน... มันเจ็บมาก... มันเจ็บ…” แต่ละคำหลุดออกมาพร้อมกับลมหายใจที่ขาดห้วง ราวกับว่าแค่พูดออกมาเธอก็ต้องใช้กำลังทั้งหมดที่มีแล้ว “สวนสาธารณะไหนเหรอที่รัก? ขอร้องนะ อดทนไว้ก่อน อย่าคิดมากนะ ฉันสัญญาว่าจะไปให้ถึงเดี๋ยวนี้เลย เธอส่งโลเคชันมาให้ฉันได้ไหม?” เสียงของเขาสั่นเครือ “ฮัลโหล? ที่รัก เธอได้ยินฉันไหม? ขอร้องเถอะ ส่งโลเคชันมาให้ฉันหน่อย ฉันจะได้ตามหาเธอได้” เขาอ้อนวอน ความกลัวบีบรัดในอก เขารู้ว่าเธอคิดอะไรไม่ชัดเจนและอาจจะทำอะไรวู่วาม “ที่รัก ช่วยคุยกับฉันหน่อยเถอะ บอกฉันแค่ว่าเธออยู่ที่ไหนก็ได้ ฉันกำลังไป ขึ้นรถมาแล้ว” โรนัลด์พูดอีกครั้ง เสียงเครื่องยนต์ดังชัดเจนอยู่เบื้องหลัง ช่วงเวลาอันทรมานเพียงไม่กี่วินาทีต่อมา โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เป็นโลเคชันของเธอ เขาไม่ลังเลเลยสักนิด ยางรถเกิดเสียงเอี๊ยดอ๊าดขณะที่เขาเร่งฝ่าไปตามท้องถนน เมื่อเขามาถึงสวนสาธารณะก็เห็นเธอนั่งอยู่บนม้านั่ง กำลังก้มหน้า ไหล่สั่นเทา โรนัลด์รีบวิ่งเข้าไปแล้วช้อนคางของเธอขึ้นอย่างอ่อนโยน หัวใจของเขาหล่นวูบ เธอซีดเผือดราวกับผี ตาปิด บนแก้มมีหยาดน้ำตาแห้งกรัง ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด เขาดึงเธอเข้ามากอด ชั่วขณะหนึ่งเธอนิ่งไป ก่อนที่ร่างของเธอจะอ่อนปวกเปียก แขนทั้งสองข้างตกลงข้างลำตัว ความตื่นตระหนกถาโถมเข้าใส่เขา คาริสสาสลบไปแล้ว เขาอุ้มเธอขึ้น แบกเธอไปที่รถ แล้ววางเธอบนเบาะหลัง จากนั้นเขาก็ปิดประตูอย่างแรง สตาร์ทเครื่องยนต์ แล้วเร่งความเร็วไปยังโรงพยาบาล
View More“คุณคาริสซ่าเหรอครับ? เธอยังไม่กลับเลยครับ นายหญิงมอยร่าเป็นห่วงมาก ท่านรอคุณคาริสซ่าตลอดทั้งเย็นเลยครับ” การ์ดหน้าประตูตอบ“หมายความว่าไง เธอยังไม่กลับเหรอ? เธอออกไปตอนไหน?” ผมถามด้วยความรู้สึกตึงเครียด“ผมไม่แน่ใจครับคุณเกเบรียล การ์ดช่วงกะเช้าก็ไม่เห็นคุณคาริสซ่าออกไป แต่พวกเราตรวจสอบภาพบันทึกกล้องวงจรปิดแล้วครับ กล้องหน้าประตูจับภาพไว้ตอนที่คุณคาริสซ่าออกไปตอนบ่ายสองครับ”"เข้าใจแล้ว ขอบใจมาก” ผมตอบสั้น ๆ แล้วเดินออกมาผมเดินตรงไปที่บาร์ส่วนตัวของคฤหาสน์แล้วเทเครื่องดื่มแรง ๆ ผมเป็นห่วงคาริสซ่า นี่มันดึกแล้วแต่เธอยังไม่กลับมาเลย ผมก็เลยตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาเธอไม่มีแม้แต่เสียงสัญญาณรอสายด้วยซ้ำ มีแต่เสียงข้อความอัตโนมัติดังขึ้นเลยในทันที“โธ่เอ๊ย… คาริสซ่า เธอไปอยู่ที่ไหนกันแน่?” ผมพึมพำท่ามกลางความเงียบ ความกังวลตอนนี้กลายเป็นความหวาดกลัวอันเย็นเยียบในใจของผมผมเลื่อนดูรายชื่อในโทรศัพท์มือถือแล้วโทรหาอารอนผู้ช่วยมือขวาของผม เสียงรอสายดังขึ้นสามครั้งก่อนที่เขาจะรับ และเสียงของเขาก็เต็มไปด้วยความงัวเงีย"ครับ คุณเกเบรียล มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ?” เขาพูดอย่างสุภา
มุมมองของเกเบรียลผมอยู่ที่บาร์ยอดนิยมแห่งหนึ่งที่เป็นของไคล์ เฮอร์นันเดซ เขาเป็นเพื่อนของผมและเป็นนายแบบชื่อดังด้วยตอนนี้ผมอยู่กับพวกแอนดี้ โลเปซ, ไคซ์ คิงและโจนาธาน ทุกคนร่ำรวยพอ ๆ กัน มีแค่มาร์คที่ไม่ได้มาเพราะเขาบอกว่ายุ่งมากผมดื่มเครื่องดื่มของตัวเองจนหมด ระหว่างนั้นเพื่อน ๆ ก็เล่นหยอกล้อกัน หัวเราะเหมือนเด็ก ๆ และคุยกันเรื่องไร้สาระสารพัดผมแทบไม่ได้ร่วมวงด้วยเลยเพราะอารมณ์ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ความคิดของผมวนเวียนอยู่แต่กับเรื่องของคาริสซ่าตลอดเวลา ผมไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ตอนนี้ผมควรดีใจจนลิงโลดแล้วสิ แผนของผมมันได้ผลแล้วแท้ ๆอาร่ากลับมาแล้ว อนาคตที่เราฝันไว้ร่วมกันก็อยู่แค่เอื้อม แล้วทำไมผมถึงรู้สึกว่างเปล่าแบบนี้? ทำไมเรื่องของคาริสซ่าถึงทิ่มแทงผมขนาดนี้? ผมต้องยอมรับว่า…ผมเคยมีความสุขที่ได้อยู่กับเธอจริง ๆแล้วทำไมถึงรู้สึกเหมือนว่าผมเป็นคนที่ทำผิดเสียเอง? ทุกความทรงจำที่เห็นรอยน้ำตาของเธอมันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดอยู่ในอก สัญชาตญาณแรกของผมคืออยากดึงเธอเข้ามากอดแต่ผมกลับไม่ได้ทำแบบนั้นผมต้องทำให้เธอเชื่อว่าผมไม่สนใจเธอ ว่าเมื่อปีก่อนผมเป็นฝ่ายที่ถูกทำร้าย ผมต้องพิสูจน์ว
“คุณหมอแอสเตอร์ ผมมีเรื่องอยากขอร้องครับ” โรนัลด์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คุณช่วยเก็บข้อมูลการรักษาของคาริสซ่าไว้เป็นความลับได้ไหมครับ? รบกวนช่วยอย่าบันทึกการรับรักษาของเธอในแบบที่คนภายนอกสามารถเข้าถึงได้ หรือแม้แต่ในระบบภายในก็ด้วย ช่วยอย่าใส่ชื่อของเธอลงในฐานข้อมูลได้ไหมครับ?”“คุณโรนัลด์ นั่นอาจจะเกินไปนะครับ แถมยังเป็นการละเมิดกฎระเบียบของโรงพยาบาลด้วย” หมอแอสเตอร์ตอบ เขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกสิ้นหวังที่พลันก่อตัวขึ้นในสายตาของโรนัลด์ ท่าทีของเขาจึงนุ่มนวลขึ้น “แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ ผมจะดูให้ว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้างแล้วกันครับ เดี๋ยวผมจะไปเสนอพูดคุยกับฝ่ายบริหารเองครับ”"ขอบคุณครับ คุณหมอแอสเตอร์ ถ้างั้นผมขอฝากความหวังไว้กับคุณหมอด้วยนะครับ ช่วยยื้อเวลาชีวิตเธอให้นานขึ้นทีเถอะนะครับ"“นั่นเป็นเรื่องที่ผมต้องทำอยู่แล้วครับ คุณโรนัลด์ ด้วยแรงศรัทธาต่อพระเจ้า ทุกสิ่งล้วนเป็นไปได้นะครับ” คุณหมอแอสเตอร์ตอบเช่นนั้นเวลาหนึ่งทุ่ม คาริสซ่าถูกย้ายไปยังห้องส่วนตัว เธอยังคงหมดสติ สายให้น้ำเกลือและสายเครื่องแสดงผลพันร่างเล็กจนยุ่งเหยิง หน้ากากออกซิเจนครอบปากและจมูกของเธอ เสียงฟ่อเป็นจังห
ร็อกซี่พุ่งพรวดผ่านประตูอัตโนมัติของโรงพยาบาลเข้ามาด้วยสภาพหายใจหอบ เธอไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเห็นโรนัลด์อยู่ตรงพื้นที่รอสำหรับผู้มาเยี่ยม เธอก็เดินเข้าไปหาเขาด้วยท่าทีตระหนกกังวล"โรนัลด์" เธอเอ่ยเรียกแล้ววิ่งเข้าไปหาเขา "เกิดอะไรขึ้น? ใครเป็นอะไร?""คาริสซ่าน่ะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงต่ำและตึงเครียด “เธอเป็นลมไป ตอนที่อยู่สวนสาธารณะ เธอโทรมาหาฉัน ร้องไห้สะอึกสะอื้น… แทบจะพูดไม่เป็นคำ พอฉันไปถึง เธอก็เป็นลมล้มใส่ฉันแล้ว”ดวงตาของร็อกซี่พร่ามัวด้วยน้ำตาที่เอ่อคลอ ความหวาดกลัวเย็นเยียบแล่นลงสู่ท้องน้อย เธอรู้ว่าคาริสซ่าใจสลาย แต่ถึงขั้นเป็นล้มพับไปแบบนี้เลยหรือ? คนคนหนึ่งจะทนไหวได้มากแค่ไหนกันเชียว“ฉันก็เลยขับรถพาคาริสซ่าตรงมาที่นี่” โรนัลด์พูดด้วยน้ำเสียงตึงเครียดเจือความกังวลที่มิอาจควบคุมได้ เขาเดินไปมาอย่างกระสับกระส่าย “หมอยังตรวจหล่อนอยู่เลย พระเจ้า ร็อกซ์ เธอต้องเห็นคาริสซ่า… หล่อนตัวซีดอย่างกับศพเลย”"อะไรนะ?" ร็อกซี่พรวดออกมาเบา ๆ เธอรู้สึกสับสนไปหมด “แต่คาริสซ่าไม่เคยมีปัญหาสุขภาพเลยนะ ต้องเป็นเพราะตกใจกับเรื่องที่เห็นเมื่อวานจนรับไม่ไหวแน่”“ฉันเองก็ไม่รู้” โรนัลด์





