ณ บ้านของครอบครัวนาธาเนียลคุณนาธาเนียลเรียกครอบครัวประชุมทันทีที่เขากลับไปถึงบ้าน แน่นอน เอริกไม่ได้ถูกเชิญเหมือนเดิมเป็นธรรมดาที่ทุกคนที่ต้องการผลประโยชน์จากคุณนาธาเนียลจะต้องคอยเลียแค้งเลียขาเขาก่อนที่เขาจะเสียลูกชายคนโตและคนที่สองมาถึงแล้ว สองพี่น้องต่างพาครอบครัวของตนเองมาร่วมด้วย เหลือเพียงแต่ลูกสาวของคุณนาธาเนียลที่ไม่ได้เข้าร่วมเนื่องจากว่าเธอแต่งงานและได้ย้ายออกจากบ้านแล้ว“คุณพ่อเรียกพวกเรามากระทันหันเช่นนี้มีเรื่องอะไรหรอครับ?” ลูกชายคนที่สองของเขาแอบไม่พอใจเพราะว่าการประชุมไปขัดความสุขของเขา อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้แสดงออกให้เห็นถึงความไม่พอใจนั้นคุณนาธาเนียลตอบอย่างเคร่งขรึมว่า “ฉันคาดไม่ถึงว่าเอริกจะร่วมงานกับมาร์ค เทรมอนต์ นอกจากนี้พวกเขายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอีก ภรรยาของมาร์คยังเป็นนักออกแบบในบริษัทอีกด้วย ฉันวางแผนผิดในครั้งนี้ ฉันไม่รู้ว่าเขาพยายามจะหลอกล่อเราหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงเราลืมเรื่องร่วมงานกับมาร์คไปได้เลย”ลูกชายคนที่สองของคุณนาธาเนียลไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด เมื่อเรื่องมันยุ่งยาก เขาจะผลักความรับผิดชอบออกไป “เป็นความผิดของคุณพ่อที่ไม่รู้ตัวเร
ไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่เธอพูด ภรรยาของลูกชายคนโตทนไม่ได้กับวิธีการที่น่ารังเกียจของน้องสะใภ้และพูดอย่างเหยียดหยามว่า “อย่าลากเรื่องที่ไม่น่ารู้ของคุณมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แบบนั้นเกรงว่าเราจะจบลงด้วยการถังแตกเพราะความโง่เขลา"ภรรยาของลูกชายคนที่สองจ้องมองเธอ “คุณกำลังพูดอะไร? เรื่องที่ไม่น่ารู้คืออะไร? ฉันกำลังแนะนำให้เราโน้มน้าวให้ภรรยาของมาร์คหักหลังเอริก ตอนนั้นเอริกจะต้องตัดสัมพันธ์กับมาร์คแน่นอน หากเอริกมีปัญหากับภรรยาของมาร์ค มาร์คจะต้องมีปัญหากับเขาเช่นกัน ในเวลานั้นเราสามารถใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้และพยายามล่อให้มาร์คมาอยู่ข้างเรา ฉันแน่ใจว่ามาร์คจะต้องไม่ติดที่จะร่วมงานกับเราเพื่อแก้แค้นเอริก!”ดวงตาของลูกชายคนโตโตขึ้น “คุณพ่อ ผมคิดว่านั่นเป็นความคิดที่ไม่เลว ลิลลี่ยังคงอยู่ใน ไกลด์ ผมจะคุยกับเธอ เราจะเริ่มแผนอย่างนี้ ภรรยาของมาร์คอาจไม่ทรยศต่อเอริก แต่ลิลลี่สามารถทำแทนเธอได้ คุณพ่อคิดอย่างไร?"คุณนาธาเนียลพยักหน้าอย่างหนักหลังจากที่คิดไตร่ตรอง “นั่นเป็นวิธีเดียวในตอนนี้ ฉันจะให้แกเป็นคนจัดการเรื่องนี้ ฉันจะกังวลน้อยลงถ้าแกเป็นผู้รับผิดชอบ”ลูกชายคนรองรู้สึกรำคาญ “ทำไมเขาถึงได้
ในตอนนี้เองที่ทำให้เธอรู้สึกว่ามาร์คได้กลายเป็นคนสำคัญกับเธอเหมือนคนในครอบครัวไปแล้ว เมื่อใดก็ตามที่เขาอยู่รอบ ๆ คฤหาสน์ เทรมอนต์ ก็จะมีชีวิตชีวาขึ้น เธอไม่ชอบกลับบ้านไปยังบ้านที่ไร้ชีวิตชีวา สิ่งนี้ทำให้วันที่เหนื่อยล้าของเธอเหนื่อยล้ามากยิ่งขึ้นข้าวปั้นตะปบเข้ามาในอ้อมแขนของเธอ เธอยิ้มแล้วอุ้มมันขึ้นไปชั้นบน “ฉันจะไปอาบน้ำและนอน ช่วงนี้ฉันยุ่งมาก ฉันขอโทษที่ไม่ได้ดูแลเธอเลย”ข้าวปั้นตอบเธออย่างเห็นอกเห็นใจด้วยเสียงคร่ำครวญที่น่าสงสารเมื่อเธอออกมาจากห้องน้ำข้าวปั้นก็หลับไปบนผ้าห่มที่มุมเตียงเรียบร้อย เธอไม่อยากปลุกมันขึ้นมาเธอจึงปล่อยให้มันนอนตรงนั้น เธอค่อย ๆ ย่องเข้าไปในผ้าห่มและหลับไปหลังจากเวลาผ่านไปสักครู่เธอก็ตื่นจากความฝันด้วยเสียงร้องโหยหวนของข้าวปั้น เธอเปิดไฟด้วยความตื่นตระหนก ทั้งมาร์คและข้าวปั้นรู้สึกตกใจกับเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัดข้าวปั้นย่อตัวลงที่ปลายเตียงพร้อมกับเบิกตากว้างอย่างน่าเอนดูมาร์คยืนพิงประตูห้องนอนโดยไม่ขยับ ใครจะรู้ว่าวันนี้เขาประสบพบเจออะไรมาบ้าง? เขากลับมาหลังจากทำงานมาทั้งวัน หลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จเขาก็ตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้นอนหลับอย่างสบา
แอเรียนรีบกลับไปที่โต๊ะทำงานเพื่อหาเอกสารของเธอ แต่แม้จะพยายามอย่างไร ก็ไม่เจออยู่ดี! เธอกลับไปที่ห้องทำงานของเอริกด้วยใบหน้าซีดเซียว “ไม่… เอกสารของฉันหายไป ลูกค้าจะขัดแย้งกันได้อย่างไร? มีการเซ็นสัญญาอย่างชัดเจน นี่มันมากเกินไป!”เอริกลดเสียงลงขณะที่เขากล่าวว่า “เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันของผม นอกเหนือจากความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับครอบครัวนาธาเนียล ไกลด์ เป็นเพียงบริษัทขนาดกลาง ดังนั้นผมจึงไม่สามารถให้ผลกำไรเขามากนัก เราไม่สามารถให้คู่แข่งของเราทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ หากมีข่าวนี้ออกไปคู่แข่งของผมจะถลาลงและให้ผลกำไรที่สูงขึ้นแก่ลูกค้าของเรา ในเวลานั้นการยกเลิกสัญญาเช่นนี้จะเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ว่าผมจ่ายไม่ได้ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องควักเงินส่วนนั้น คุณเข้าใจใช่ไหม?"แอเรียนรู้สึกกังวลเล็กน้อย “ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันเป็นนักออกแบบ ฉันไม่ควรยอมรับบทบาทที่สำคัญเช่นนั้นตั้งแต่แรก ตอนนี้พอมีบางอย่างเกิดขึ้นฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ฉันน่าจะเก็บเอกสารไว้ในลิ้นชักอย่างเรียบร้อย ฉันไม่รู้ว่ามันหายไปได้อย่างไร! ตอนนี้ฉันควรทำอะไรดี?"สภาพเอริกดูแย่มากจากความกังวล
แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ “ขอบคุณ ฉันเข้าใจ ฉันไม่ได้สูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวไป ฉันทำบางอย่างที่เป็นความลับของบริษัทหายน่ะ”เพื่อนข้างโต๊ะของเธอถอนหายใจ ใบหน้าแสดงออกให้เห็นถึงความกลัวขณะที่เธอพูดว่า “ฉันไม่เกี่ยว!”แอเรียนไม่ตอบกลับ เธอไม่อยากสงสัยลิลลี่ แต่เวลามันบังเอิญเกินไป เอริกเชื่อว่าตอนนี้ลิลลี่ทำงานให้เขา เขาจะต้องผิดหวังมากหากพบว่าลิลลี่อยู่เบื้องหลังสิ่งนี้แอเรียนลุกขึ้นและเรียกลิลลี่ไปหาที่ครัวลิลี่พูดอย่างไม่อดทน “มีอะไรหรอ? ตอนนี้เป็นเวลาทำงาน ถ้าเธอมีอะไรจะพูดที่ไม่เกี่ยวกับงานให้ทำนอกเวลาทำงาน”แอเรียนรีบตรงไปที่ประเด็น “ฉันรู้ว่าเธอขโมยเอกสารฉันไป เธอเคยทำงานให้กับพวกนาธาเนียล ดังนั้นฉันจึงเชื่อว่าเธอมอบมันให้พวกเขา ทำไมเธอถึงทำแบบนี้?"สีหน้าของลิลลี่ทรุดลง “มันเป็นความผิดพลาดของเธอ ทำไมเธอถึงโยนความผิดให้กับฉัน? ฉันจะไม่รับผิดในความผิดพลาดของคนอื่น สิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับฉัน”แอเรียนหรี่ตาลง “เธอรู้ได้อย่างไรว่ามันเกี่ยวกับอะไร? เอริกให้เธอเรียกฉันไปที่ห้องทำงานของเขา เขาบอกว่าไม่ได้เปิดเผยอะไรกับเธอ เขาและฉันเป็นคนเดียวในบริษัทที่รู้เรื่องนี้ เธอยังจะเล่นลิ้นกั
ลิลี่ชำเลืองมองไปที่แอเรียน ไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในขณะนี้ “คุณเจอความจริงได้ง่ายเพราะฉันไม่ได้ทำอย่างละเอียดรอบคอบ” เธอมองไปที่เอริก “ฉันไม่ได้อยากทำแบบนี้เหมือนกัน แต่พี่ชายคนโตของคุณขอให้ฉันทำ ฉันถามเขาแล้วว่าทำไม แต่เขาก็ไม่บอกเหตุผลกับฉัน มันไม่ง่ายที่จะอยู่ในเมืองหลวง พวกนาธาเนียลให้โอกาสกับฉันมากมาย ครอบครัวของฉันค่อนข้างลำบาก และฉันไม่ต้องการเสียงานของฉันไป แม่ของฉันจะต้องฆ่าฉันแน่ ๆ ถ้าเราหาเงินไม่ได้ พี่ชายของคุณต้องการแค่การตอบรับและฉันก็ไป ฉันไม่มีทางเลือก...”ความผิดหวังที่ปรากฏขึ้นในดวงตาของเอริกนั้นฉายแววชัดเจน “นี่คุณคิดว่าผมเป็นสุนัขจรจัดอยู่หรือเปล่าที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้และไม่สามารถดูแลคุณได้? คุณคิดว่าผมไว้ใจไม่ได้ใช่ไหม? ไม่เป็นไร นั่นไม่เป็นไรเลย ผมตั้งใจว่าจะพาคุณไปกับผมด้วยเมื่อผมเริ่มก่อตั้งบริษัทของตัวเองหลังจากที่ออกจากไกลด์แล้ว อย่างไรก็ตาม มันดูเหมือนกับว่าเป้าหมายของเรามันไม่สอดคล้องกัน กลับไปที่สำนักงานใหญ่เดี๋ยวนี้ ผมไม่ต้องการคุณที่นี่”ลิลี่คอตกขณะที่เธอหันกลับไป เธอเดินไปได้สองก้าวก่อนจะชะงัก “ฉันขอโทษคุณนาธาเนียล... สำหรับการที่ทำให้ค
เอริกทำท่าทาง ‘โอเค’ ขณะที่เขาพูดขึ้น “ขอให้มีช่วงสุดสัปดาห์ที่ดีและรายงานตัวที่บริษัทของผมในวันจันทร์ ค่าจ้างของคุณยังเหมือนเดิมไม่ต้องเป็นห่วง ผมไม่เอาเปรียบคุณแน่นอน ผมจะส่งที่อยู่ให้คุณทีหลัง”วันนี้ไม่จำเป็นต้องทำงานล่วงเวลาดังนั้นแอเรียนจึงรู้สึกผ่อนคลายเป็นพิเศษ เธอกลับไปที่คฤหาสน์เทรมอนต์หลังจากที่เสร็จจากงาน อากาศวันนี้อุ่นขึ้นจึงทำให้เธอรู้สึกร้อน เธอเปลี่ยนเป็นชุดนอนที่ทำจากผ้าที่บางขึ้นหลังจากอาบน้ำ จากนั้นเธอก็ไปที่ห้องครัวเพื่อช่วยแมรี่หัวใจของแมรี่เจ็บปวดเมื่อเห็นเช่นนั้นเพราะเป็นเรื่องยากที่แอเรียนจะกลับบ้านเร็ว “คุณไม่ต้องมาช่วยฉัน ไปพักผ่อน คุณเหนื่อยกับงานมามากพอแล้ว”“หนูไม่เหนื่อยค่ะ” แอเรียนตอบพร้อมกับรอยยิ้ม “ให้หนูช่วยคุณเถอะนะคะ วันนี้หนูมีพลังเยอะปกติแล้วหนูขี้เกียจขยับจะตาย”แมรี่สังเกตเห็นว่าแอเรียนเลือกผักได้ดีทีเดียว เธอมองขณะที่ส่ายหัวไปด้วย “วันนี้นายท่านเทรมอนต์จะไม่กลับมารับประทานอาหารเย็นเหมือนกัน ช่วงนี้เขายุ่งมาก ช่างโชคร้ายอะไรอย่างนี้ที่เขาไม่ได้ทานผักที่คุณเลือกด้วยตัวเอง”แอเรียนหน้าแดง “แมรี่… อย่าแกล้งหนู หนูจะออกไปเที่ยวกับทิฟฟ์หลังอาหา
ลิเลียนจ้องมองไปที่ทิฟฟานี่ “แกไม่อยากจะกินอาหารที่แกทำและแกอยากให้ฉันกินเหรอ? รสชาติมันแย่มาก... แกมากินที่ร้านอาหาร แต่แกทิ้งฉันไว้ที่บ้านตามลำพังเนี่ยนะ? เมื่อก่อนฉันคิดถึงแกทุกครั้งที่ฉันกินอะไรดี ๆ หวังว่าแกจะได้กินด้วยกัน แกนี่มันเนรคุณจริง ๆ แอเรียน เธอไม่คิดแบบนั้นเหรอ?”รอยยิ้มที่น่าอึดอัดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแอเรียน “ไม่เป็นไรค่ะ คุณป้าเลน สั่งสิ่งที่คุณต้องการได้เลยค่ะ”ลิเลียนยิ้มออกมาด้วยความพอใจ “แอเรียนมีความเฉลียวฉลาด แต่งงานกับสามีที่ดี ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้า เธอมีแหล่งรายได้ในชีวิต ทิฟฟ์ หัดเรียนรู้จากแอเรียนบ้าง ดูแฟนแต่ละคนที่แกเลือกด้วยตัวแกเอง ฉันโกรธทุกครั้งที่ฉันคิดถึงอีธาน ลืมเหรอว่าเราสูญเสียไปเพราะเขาเท่าไร เป็นยังไงล่ะช่วงวัยรุ่นของแก? สุดท้ายแล้วพวกเราก็ไม่เหลืออะไรเลย”ทิฟฟานี่มีสีหน้าดูไม่สบายใจ “แม่ไม่เคยพูดโดยใช้เหตุผลเลย แม้ว่าตอนนั้นเราจะจน แต่แม่ก็คือคุณเลน ช่วยระวังคำพูดของแม่หน่อยได้ไหม? กินซะ ถ้าแม่อยากกิน แอริเป็นเพื่อนสนิทของหนู หนูไม่อายที่อยู่ต่อหน้าเธอ เธอก็ไม่อายเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม หนูหวังว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก”