แอเรียนไม่สามารถทนนิ่งเฉยได้เมื่อเธอได้ยินอาการป่วยของเจ้าข้าวปั้น “ได้ค่ะ หนูจะกลับและไปเก็บเสื้อผ้าของหนูด้วย หนูไม่มีเสื้อใส่ที่บ้านทิฟฟานี่เลย”เธอเปลี่ยนชุดเป็นชุดสีขาวเดรสแขนยาวสีขาวหลังจากวางสายโทรศัพท์ไปก่อนที่จะเรียกรถแท็กซี่ เมื่อเธอถึงบริเวณประตูใหญ่ของคฤหาสน์เทรมอนต์ เธอเห็นว่าบ้านสว่างไสวไปหมด มาร์คอยู่ที่บ้านในตอนนี้ เจ้าข้าวปั้นวิ่งมาหาแอเรียนและถูตัวของมันกับเรียวขาของเธอ มันดูแข็งแรงและดูไม่เหมือนอดอาหารมาหลายวัน มันยังคงอ้วนกลมและไม่เรียบร้อยเหมือนเดิม แมรี่โกหกให้เธอกลับบ้านเพื่อเธอจะได้เจอกับมาร์คเมื่อแอเรียนเดินเข้ามา เห็นรอยยิ้มฝืน ๆ ปรากฏบนใบหน้าของแมรี่ แอเรียนไม่ได้พูดอะไร เธอขึ้นไปยังห้องของเธอที่ชั้นบนเพื่อเก็บเสื้อผ้าของเธอแทนมาร์คยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้หน้าหน้าต่างฝรั่งเศส เธอไม่ได้ทักเขา เธอไม่รู้ว่ามีอะไรเหลือให้ดูระหว่างพวกเขาอีกหรือไม่ เธอมีเสื้อผ้าสำหรับฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนไม่มากนัก ดังนั้นกระเป๋าเดินทางเพียงใบเดียวก็เพียงพอที่จะใส่เสื้อผ้าของเธอทั้งหมด เธอจัดการเก็บสัมภาระของเธอทั้งหมดในครั้งเดียวขณะที่แอเรียนลากกระเป๋าของเธอและอุ้มเจ้าข้าวป
ทิฟฟานี่สางผมด้วยนิ้วของเธอ “มันรู้สึกเหมือน… ย้อนกลับไปเมื่อฉันยังอยู่กับอีธาน ฉันไม่สามารถอธิบายความรู้สึกได้จริง ๆ แต่เมื่อฉันเห็นอะไรที่ดูน่าอร่อย ฉันก็คิดที่จะเหลือไว้ให้เขา ฉันจะรู้สึกเป็นห่วงถ้าพบว่าเขาหนาวหรือร้อนเกินไป ฉันจะเป็นห่วงถ้าเขาไม่สบายหรือเขาอารมณ์เสีย ตอนนั้นฉันไม่ได้นึกห่วงตัวเองเลย ในเวลานั้น ตอนนั้นฉันคิดว่าเขาจะเป็นคนเดียวในชีวิตของฉัน ฉันทำทุกอย่างเพื่อเขาและให้อภัยเขาโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ฉันจะให้อภัยเขาไม่ว่าเขาจะทำให้ฉันเสียใจกี่ครั้งก็ตาม ในวันที่เราเลิกกัน ฉันรู้สึกราวกับว่า… ท้องฟ้ามันถล่มลงทับฉัน เขาอยู่ตรงหน้าฉัน แต่เขาไม่ใช่ของฉันอีกต่อไป ฉันไม่สามารถกอดเขาหรือรักเขาต่อไปได้ เพราะเขาไม่ได้รักฉันอีกต่อไปแล้ว”แอเรียนเริ่มร้องไห้เมื่อเธอได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอไม่เคยมีประสบการณ์กับสิ่งที่ทิฟฟานี่อธิบายมาก่อน ทว่าเธอสามารถเข้าใจความรู้สึกเจ็บปวดที่เธอรู้สึกได้...เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น แอเรียนเตรียมชามอาหารแมวและน้ำสำหรับเจ้าข้าวปั้นก่อนที่เธอและทิฟฟานี่จะไปต่อแถวซื้อไข่ม้วนสไตล์จีน ที่นั่นมีลูกค้าเยอะ สิ่งนี้ช่วยพิสูจน์ว่ามันอร่อยและคนบางส่วนก็มีน้ำใจ
แอเรียนไม่ได้ปฏิเสธทันทีแต่เธอกลับตอบอย่างแนบเนียน “เรา… ค่อยคุยกันเรื่องนี้เมื่อเวลาของมันมาถึง” เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเธอกลับมาที่ห้อง “ทิฟฟ์ แม่เธอเพิ่งจะขอเงินค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ในส่วนของฉันไป เขาบ่นว่าเงินที่เธอให้เขามันน้อยเกินไป”ทิฟฟานี่กรอกตา “อย่าไปสนใจเขาเลย ฉันให้เขาตั้งเยอะ แต่ละเดือนฉันไม่เหลือสักบาท เขาจะเอาอะไรอีก? อีกเรื่อง โทรศัพธ์เธอดังระหว่างที่เธอไปอาบน้ำ ฉันไม่ได้ดู แต่เสียงเหมือนมีข้อความเข้า”แอเรียนเช็ดผมตนเองพร้อมกับหยิบโทรศัพธ์ขึ้นมา มันเป็นข้อความจากแมรี่ “แอริ นายท่านกลับบ้านทุกวันตั้งแต่ที่เธอย้ายออกไป เธอจะไม่กลับบ้านจริง ๆ หรอ? ถ้าเธอจะอาละวาด ก็ทำไปเลย ทำไมต้องถึงกับย้ายออกด้วย? เธอไม่ได้จะหย่ากันสักหน่อย”แอเรียนคิดไตร่ตรองก่อนที่เธอจะตอบกลับ “แมรี่ ได้โปรดหยุดเป็นห่วงความสัมพันธ์ของหนูกับมาร์คสักที เขาไม่ยอมกลับบ้านตอนที่หนูอยู่ แต่พอหนูไม่อยู่เขากลับกลับได้ นั้นก็ทำให้เห็นชัดเจนแล้วว่าเขาไม่ต้องการเจอหนู หนูอยู่ที่บ้านทิฟฟานี่หนูก็สบายดี ไม่ต้องห่วงหนู ข้าวปั้นก็สบายดี หนูจะกลับไปเยี่ยมคุณและลุงเฮนรี่เมื่อหนูมีโอกาสนะ”เมื่อเธอส่งข้อความเ
เมื่อมาถึงที่ห้างสรรพสินค้าแอเรียนก็รู้สึกตื่นตากับสิ่งที่เห็น เธอเลือกซื้อสินค้าราคาถูกและตั้งใจจะไม่ซื้ออะไรแพงเกินไปในทางกลับกันลิเลียนเอ้อระเหยอยู่ที่เคาน์เตอร์ของแบรนด์ใหญ่ ๆ เธอฉวยโอกาสตอนที่ทิฟฟานี่ไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อดึงความสนใจของแอเรียน “แอริ ดูเสื้อผ้าสวย ๆ ตรงนั้นสิ ป้าไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าใหม่มาเป็นเวลานานแล้ว ลูกสาวป้าช่างไร้ประโยชน์ เมื่อก่อนป้าเคยตามใจเธอมากแต่ตอนนี้เธอไม่แม้แต่จะซื้อเสื้อผ้าให้ป้าสักชิ้น”แอเรียนขืนใจตัวเองและถามว่า “ถ้าอย่างนั้น ให้หนูซื้อให้ไหมคะ? หนูออกมาจากบ้านเทรมอนต์แล้วดังนั้นหนูต้องเอาชีวิตรอดด้วยตัวเอง หนูจึงมีเงินไม่มาก หนูสามารถซื้อให้ได้แค่ชิ้นเดียว…”“ได้ ได้ ได้” ลิเลียนรีบตอบอย่างรวดเร็ว “แค่ชิ้นเดียว หนูแอริน่ารักที่สุด!”แอเรียนปาดเหงื่อเมื่อเธอเห็นป้ายราคาของกระโปรงที่ลิเลียนเลือกมา วันนี้เธอไม่ได้พกเงินสดมามากนัก ตอนที่มองผ่าน ๆ เนื้อผ้าของกระโปรงสามส่วนนั้นดูเหมือนจะบางมากแต่กลับราคาเกิน 3,000 ดอลลาร์… เสื้อผ้าที่บ้านของเธอไม่มีชิ้นไหนราคาแพงเท่านี้เลย ตอนนี้เธอเห็นอกเห็นใจความรู้สึกของทิฟฟานี่แล้ว การที่มีแม่แบบลิเลียนจะ
แอเรียนส่ายหน้า “หนูไม่อยากเข้าไป หนูอึดอัด คุณเอาไปคืนแทนหนูเถอะ หนูกลับนะ”แมรี่ร้องเรียกอย่างเร่งรีบ “เธอจะทำอะไร? อากาศร้อนมาก ดูสิ หน้าเธอแดงไปหมดแล้ว ผิวเธอจะรับไหวหรอ? อีกอย่าง ถ้าเธอเกิดเป็นลมแดดล่ะ? เป็นลมแดดก็ตายได้นะ! ถึงเธอไม่อยากเจอนายท่านแล้วเธอไม่อยากเจอฉันบ้างหรอ? มาเถอะ ไปนั่งพักห้องฉันก่อน!”หลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแอเรียนก็เดินตามแมรี่ไปที่ห้องพักแม่บ้าน เวลานี้ทุกคนต่างกำลังทำงานอยู่จึงไม่มีใครอยู่ในห้อง แม้ว่าห้องนี้จะอยู่กันสี่คน แต่ก็กลับมีพื้นที่กว้างขวางและมีพร้อมทุกอย่างแม้กระทั่งห้องน้ำและห้องครัวส่วนตัวไม่นานนักแมรี่ก็กลับมาจากด้านบนและคืนบัตรให้กับเธอ “ฉันบอกเธอแล้ว นายท่านไม่ได้ใจแคบขนาดนั้น ท่านไม่ได้อยากได้บัตรคืนเลยบอกให้ฉันคืนมันให้เธอ ท่านบอกว่าให้เก็บเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน” แอเรียนอึ้ง “จริงหรอ? เขาพูดอะไรอีกไหม?”แมรี่ส่ายหน้า “ไม่ ท่านแค่ถามว่าเธอกลับมาแล้วหรอ ฉันก็บอกว่าใช่ เธอกลับมาเพื่อเอาบัตรมาคืน แล้วท่านก็บอกว่าให้เธอเก็บมันเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน”แอเรียนคิดไตร่ตรองอยู่พักนึงก่อนที่จะตัดสินใจเก็บบัตรเอาไว้ ตอนนี้เธอต้องเลี้ยงตนเองและม
แอเรียนไม่ได้ต้องการที่จะย้ายออก “ทิฟฟ์ ฉันรู้ว่าเธอหวังดี แต่ที่ฉันย้ายมาที่นี้ก็เพราะว่าฉันไม่ต้องการที่จะอยู่คนเดียว เราทำได้น้า ฉันจะแยกเงินสำหรับข้าวปั้นและค่าใช้จ่ายส่วนตัวของตนเองตอนที่เงินเดือนฉันออก ที่เหลือฉันจะให้เธอเพื่อจ่ายค่าอาหาร ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ และอื่น ๆ ทีนี้ถ้าแม่เธอมาขอเงินฉัน ฉันก็จะไม่มีเหลือให้เขาแล้วเพราะเงินของฉันจะอยู่ที่เธอหมด”ทิฟฟานี่ทำได้เพียงตกลง “นั่นคงเป็นทางออกเดียวของเรา อย่าคิดมากนะ เธอไม่ค่อยกินอะไรที่บ้านนอกจากช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ อยู่แล้ว เธอไม่จำเป็นต้องช่วยค่าอาหารหรอก หลังจากที่จ่ายค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ และอย่างอื่นแล้วฉันจะเก็บส่วนที่เหลือไว้ให้เธอ ฉันจะไม่ใช้มันเด็ดขาด แค่อย่าให้แม่รู้ว่าเรามีเงินก็พอ”พอแอเรียนกำลังจะนอนทิฟฟานี่ก็อุทานขึ้นมา “แอริ ดูนี่สิ มีคนถ่ายรูปเราตอนที่พวกเรากำลังซื้อไข่ม้วน! มีรูปตอนที่พวกเรากำลังกลับบ้านด้วย กำลังเป็นที่ลือกันว่าเธอหย่ากับมาร์คและย้ายออกจากคฤหาสน์ เทรมอนต์ แล้ว ในข่าวบอกว่าเธอกำลังเช่าที่พักอยู่กับเพื่อน พวกเขาสงสัยว่าเธอไม่เหลือเงินสักบาทและกำลังใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก! อะไรนะ? สื่อพวกนี้น่าขยะแข
หลังจากทิฟฟานี่ซื้อที่ตรวจครรภ์มาแอเรียนก็จัดการทำการตรวจทันที ไม่ถึงห้าหน้าทีเธอก็ได้ผลการตรวจเป็น สองขีด เธอยังไม่อยากจะเชื่อจึงตัดสินใจว่าจะตรวจใหม่อีกทีตอนเช้า ช่วงเช้าผลการตรวจจะน่าเชื่อถือกว่าเช้าวันต่อมาแอเรียนก็ต้องพบกับความสิ้นหวัง เธอท้องจริง ๆ เมื่อลองคำนวณเวลาดูแล้วเธอน่าจะท้องได้ประมาณ 3 เดือน เธอเพิ่งจะรู้ตัวว่าเธอย้ายออกมาจากคฤหาสน์ เทรมอนต์ ได้นานขนาดนั้นแล้ว มันเหมือนไม่ใช่ความจริงหลังจากที่แอเรียนยืนยันผลตรวจ ทิฟฟานี่ก็ถามว่า “แล้วเธอจะเอายังไงต่อ? มาร์คเป็นพ่อของลูกใช่ไหม?”แอเรียนเงียบไปชั่วขณะก่อนที่เธอจะตอบ “วันนั้นฉันและวิลไม่มีสติทั้งคู่ มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะทำอะไรกัน เพราะฉะนั้นก็ต้องเป็นของมาร์คสิ อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีวันเชื่อหรอก เขาไม่เชื่อตั้งแต่ครั้งแรกและเขาจะไม่มีวันเชื่อตอนนี้แน่นอน ฉันโคตรไม่ชอบตอนที่เขาถามฉันด้วยน้ำเสียงอันเย็นชาและไร้ความรู้สึกของเขาคราวที่แล้วว่าใครเป็นพ่อของลูก ฉันไม่ชอบที่เข้าไม่ไว้ใจฉัน ฉันจะเลี้ยงลูกของฉันเอง ฉันจะตั้งใจทำงานและเก็บเงินเพื่อซื้อห้องเล็ก ๆ ที่ชานเมือง ถ้าทุกอย่างล้มเหลว ฉันก็ยังมีแบล็คการ์ดของมาร์คอยู่…”
เมื่อมองไปรอบ ๆ ที่ผู้หญิงตั้งครรภ์กับสามีของพวกเธอ แอเรียนก็รู้สึกเศร้าหมองเล็กน้อย เมื่อถึงคิวของเธอทิฟฟานี่เข้าไปพบหมอกับเธอด้วย หลังจากที่เจาะเลือดและสแกนอัลตร้าซาวด์เสร้จหมอก็ดูผลให้และกล่าวว่า “เด็กมีอายุ 12 สัปดาห์แล้ว และแข็งแรงดี นี่เป็นครั้งแรกที่คุณมาตรวจใช่ไหม? คุณอย่าประมาทนะครับ ลงทะเบียนไว้และกลับมาตรวจให้ตรงเวลาด้วย”ตอนที่พวกเธอออกมาจากโรงพยาบาลก็เลยบ่ายสองแล้วพวกเธอจึงไปที่ร้านอาหารแถว ๆ นั้น ทิฟฟานี่ทานอาหารไปถึงสองจานใหญ่ ๆ เพราะว่าเธอหิวมาก “แค่มาตรวจทำไมมันยุ่งยากวุ่นวายขนาดนี้ ใช้เวลาไปตั้งหนึ่งวันเต็ม ๆ โรงพยาบาลรัฐนี่คนเยอะจริง ๆ เราลองไปหาโรงพยาบาลเอกชนดี ๆ กันไหม? ไม่อย่างนั้นฉันจะต้องทรมานและเธอจะทรมานยิ่งกว่าฉันแน่ ๆ”แอเรียนลูบท้องตนเอง มันยื่นออกมานิดนึงแล้วและเธอรับรู้ได้ถึงแรงกระทบเบา ๆ เธออดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ได้ คราวหน้าไปโรงพยาบลเอกชนกัน ฉันรู้จักอยู่ที่นึง”พอมาถึงที่บ้านทิฟฟานี่ก็กระวนวายอีกครั้งเมื่อก้าวขาเข้าประตู “ตั้งแต่เธอท้องข้าวปั้นอยู่ในห้องกับเธอตลอด มันจะเอาเชื้อทอกโซพลาสมามาติดเธอไหม?!”แอเรียนได้คิดเรื่องนี้ไปแล้วเธอจึงตอบว่า “ไม่ต้อง