สัปดาห์ต่อมา...
“เราต้องเดินทางกี่ชั่วโมงคะ???”
เธอถามสามีขณะนั่งอยู่ในรถกระบะคันใหญ่ ที่ใช้เป็นยานพาหนะ สำหรับเดินทางไปต่างจังหวัดซึ่งติดกับชายแดนฝั่งพม่า
“ประมาณห้า-หกชั่วโมง คุณหลับก็ได้นะ พอถึงแล้วผมจะปลุกคุณเอง”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ นั่งคุยกันไปดีกว่า คุณจะได้ไม่ง่วง”
“นอนเถอะ ผมไม่เป็นไร”
“อะไรกันคะ อยู่ๆก็มาบังคับให้นอน เมื่อคืนฉันนอนมาเต็มอิ่มแล้วค่ะ ฉันรู้น่าว่าต้องเดินทางไกล เลยเตรียมตัวมาอย่างดี พร้อมจะคุยกับคุณแบบนอลสต๊อปเลยล่ะค่ะ” เจ้าหล่อนบอกสามีด้วยน้ำเสียงออเซาะ แม้ในใจจะรู้สึกเบื่อตั้งแต่รถแล่นออกจากกรุงเทพฯแล้วก็ตาม
สามีของเธอเปิดเพลงฟังในรถ ซึ่งเป็นเพลงหวานอารมณ์ซึ้ง ฟังแล้วรู้สึกโรแมนติกสุดๆ และนี่เองที่เป็นสาเหตุให้เธอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ มาตื่นอีกที ก็ถึงบ้านพักข้าราชการแล้ว
“ถึงไหนแล้วคะ” เธองัวเงียตื่นขึ้น ก่อนมองไปโดยรอบ “ตายจริง นี่เราถึงบ้านพักแล้วหรือคะ”
“ใช่ครับที่รัก” วิบูลย์ลงจากรถก่อนเธอ แล้วจึงเดินมาเปิดประตูรถให้ภรรยาสาวอย่างสุภาพ เธอก้าวลงจากรถอย่างไม่แน่ใจ พลางสอดส่ายสายตามองไปรอบๆบริเวณอย่างกลัวๆ “นี่เป็นบ้านพักที่ทางการจัดให้นะ บ้านหลังเดี่ยวสองชั้นเชียวนะ มีสวนรอบบ้านเลย คุณชอบมั้ย”
“ก็ดีค่ะ” บ้านพักสองชั้น ที่มีบริเวณ ถูกล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่หลากหลายชนิด มีสนามหญ้าขนาดเล็กอยู่ตรงหน้าบ้าน ไม่ไกลกันเห็นบ้านพักอีกหลายหลังปลูกถัดๆกันไป แต่บรรยากาศเงียบเหงาจนน่าขนลุก “เป็นส่วนตัวดี ตอนแรกคิดว่าจะเป็นแฟล็ตซะอีก”
“บ้านพักสารวัตรคนใหม่ก็ต้องดูดีหน่อยสิครับ มาครับ ไปดูข้างในกัน”
“แต่ทำไมไม่เห็นมีใครมาต้อนรับเลยคะ”
“ผมสั่งเองแหละ ไม่อยากให้วุ่นวาย” ขาดคำนั้น ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา ท่าทางเงอะงะ อายุก็น่าจะราวๆสามสิบกลางๆ รูปร่างท้วม ค่อนข้างเตี้ย และตัวดำเมื่อม “อ้อ นายคำใช่มั้ย”
“ครับสารวัตร” เขาเข้ามาทำหน้าที่ทันที โดยการรับกระเป๋าจากสารวัตรวิบูลย์ไปถือ ก่อนจะยื่นมือมารับของหญิงสาว
“ไม่ต้อง” เธอตอบทันที พลางชักสีหน้าหยิ่งยโส
“นายคำเป็นคนที่นี่ เขาจะมาช่วยดูแลบ้านและขับรถให้ผมเป็นบางครั้ง นายคำเป็นญาติห่างๆกับจ่าดำลูกน้องผมน่ะ”
“เขาแค่โดนยิงที่ต้นแขน”“โง่จริง มันโดนยิงที่หลังไปตั้งหลายนัด”เธอถึงกับช็อค...เอื้อมมือที่สั่นเทาไปยังร่างของเข้มแล้วจับเบาๆ ถึงได้รู้ว่าร่างนั้นเย็นเฉียบและไร้ลมหายใจ...หญิงสาวนั่งนิ่งเป็นหุ่น ในหัวว่างเปล่า คิดอะไรไม่ออก...เธอแทบไม่อยากคิดเลยว่า...ชีวิตเธอหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร“นายหล่า อย่าพาฉันไปที่แคมป์เลยนะ พาฉันไปส่งในเมืองได้มั้ย รับรองเลยนะ นายอยากได้อะไรฉันให้หมด”“ไม่ได้หรอก ถ้านายรู้ฉันตาย”“ก็อย่าให้นายรู้สิ” เธอตัดสินใจใช้ไม้ตาย เลื่อนมือไปจับที่ท่อนลำของนายหล่าแล้วลูบคลำอย่างนุ่มนวลยวนใจ พลางยื่นหน้ากระซิบที่หู “แล้วฉันจะทำให้นายมีความสุข”นายหล่ากลืนน้ำลายเฮือก เธอเห็นสภาพการหายใจถี่ของตานี่แล้วไม่น่ารอด หากแล้วเธอก็ต้องผิดหวัง“ผมก็อยากนะ แต่กลัวตายมากกว่า รถคันนี้มีสัญญาณติดตาม”“สงสารฉันเถอะนะ ปล่อยฉันลงที่หมู่บ้านไหนก็ได้”“ไม่ได้หรอก เพราะฉันจะเอาเธอไปให้หัวหน้า”“หัวหน้าอะไร”“หัวหน้าแคมป์ ชื่อพลโทโซเต็ง”“พลโทโซเต็ง!!!”“อย่าพยายามหนีล่ะ ถ้าอยากมีชีวิตอยู่ เพราะถ้าเขาเบื่อเมื่อไหร่ เขาก็ปล่อยตัว ไม่กักไว้หรอก” มันเตือนด้วยความหวังดีสินะ...เมื่อรถกระบะคันใหญ
“ไหนบอกว่าไม่อยากพาฉันไปที่นั่น เพราะฉันอาจตกเป็นเมียของผู้ชายบ้าๆครึ่งร้อยไง”“ไม่ล่ะ ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะพาคุณไป ในฐานะเมียของผม”“แต่...”“หรือว่าคุณยังหวงผัวแก่”“เปล่านะ แต่ฉันไม่แน่ใจว่าฉันจะใช้ชีวิตอยู่ในป่าพม่ากับคุณได้ยังไง”“เราจะอยู่ที่นั่นกันแค่สักพักเท่านั้น แล้วผมจะพาคุณไปอยู่ในเมือง ผมมีพี่ชายบุญธรรมเป็นเศรษฐีที่ทวาย เขายินดีช่วยเหลือผมทุกอย่าง ว่าไง รถผมจอดรออยู่ที่ป่าด้านหลังนี่เอง”หากแต่เธอไม่ทันจะตอบ!ปัง ปัง ปัง! เสียงปืนดังขึ้นจากภายนอก หลังจากนั้นเพียงวินาทีเดียว เสียงของสารวัตรใหญ่วิบูลย์ก็ดังผ่านโทรโข่งเข้ามา“ไอ้เสือเข้ม!!!! ยอมมอบตัวซะดีๆ ตอนนี้เราล้อมนายไว้หมดแล้ว !!!!”สุภาวดีอ้าปากหวอ ด้วยความตกใจ ขณะไอ้เข้มหน้านิ่งและมีสติจนเธอแปลกใจ“ฉันบอกนายแล้ว เห็นรึยัง รีบหนีไปสิ ทางด้านหลัง”“ไม่ ถ้าผมไป คุณต้องไปกับผมด้วย” เขาพยายามลากเธอไป แต่เธอรั้งไว้สุดแรง “คุณ...”“ฉันสัญญาว่าฉันจะไปหาคุณที่ทวาย แต่ตอนนี้คุณเอาชีวิตรอดก่อน”“ก็ได้...”เสียงของสารวัตรดังตามมาอีกระลอก “นายเข้ม เรารู้ว่านายอยู่ข้างใน ถ้านายไม่ออกมา เราจะสั่งยิงนะ”“ไอ้แก่บ้า ผัวคุณจะสั่งยิง
“เอ่อแก...เดี๋ยวค่อยคุยกันใหม่นะ ฉันว่าจะล้างจานซะหน่อย”“โอเค แล้วคุยกันนะ” หญิงสาวกดปิดโทรศัพท์แล้วทิ้งไปที่ปลายเตียง ขณะท่อนร่างของเธอยังถูกนายคำละเลงสวาทอยู่อย่างเมามันส์“ดูดให้หน่อยคุณนาย...” นายหมีเอาท่อนดำยาวของตัวเองมาจ่อริมฝีปากสวยของเธอ แล้วมีหรือที่เธอจะปฏิเสธเธออ้าปากงับปลายแดงป้านแล้วดูดเลียราวกับกระหาย มันร้องซี๊ดซาดออกมาแผ่วเบา แต่ใบหน้าเหยเกจนน่าเกลียดส่วนนายเขียวจับมือเธอไปลูบคลำท่อนของตัวเอง เธอรู้งานเลยรูดสาวให้อย่างไม่นึกรังเกียจ“ฟิตจริงๆคุณนาย ขนาดสองรอบแล้วนะ” นายคำชมเธอไม่ขาดปาก พร้อมอัดสะโพกกระแทกใส่ไม่มียั้ง“กูขออีกรอบ” ไอ้หมีว่า...สายตาหื่นสุดๆ“กูด้วยนะ มึงทำเร็วๆเลย”“จะกี่รอบก็รีบๆเข้า เดี๋ยวนายกลับมาจะโดนยิงตายไม่รู้ตัว” นายคำเตือนเพื่อนขณะตัวเองกระทุ้งถี่ยิบ “กูเสร็จแล้ว กูเสร็จ...อ้า โอ๊ยยยยย”ไอ้หมีเห็นดังนั้นก็ถอนลำออกจากปากหญิงสาว แล้วนำลำแข็งทื่อของตัวเองไปยัดใส่รูเดิมที่ยังชุ่มน้ำคาวขาวของเพื่อน เจ้าหล่อนแลบลิ้นเลียริมฝีปากอีกครั้งเพื่อระบายความใคร่กำหนัดสองฝ่ามือของเจ้าหล่อนก็รวบขย้ำหน้าอกของตัวเองเพื่อคลายความเร่าร้อนที่สุมอยู่ในอก“เฮ้ยไ
“อ๋อ ฉันเล่นโยคะไปด้วยน่ะ” นายหมีขยับถ่อยห่างออกไป ซึ่งเธอคิดว่าจะจบลงเพียงเท่านี้ แต่เปล่าเลย เพราะอยู่ๆนายเขียวก็ปีนหน้าต่างเข้ามาอีกคน แล้วตรงมาที่สะโพกเธอทันที มันสอดใส่ต่อโดยไม่เว้นจังหวะให้เธอได้หายใจหายคอหรือเปลี่ยนท่าเลย “เป็นท่าที่...ยากๆหลายท่า”“ดีเลยแก ร่างแกจะได้สวยไง แล้วนี่แกจะกลับมากรุงเทพฯบ้างมั้ย จะได้ไปหาอะไรกินกัน”“ไม่รู้สิ...อา...ต้องดูก่อนว่าคุณสามีว่างรึเปล่า”“แหมแกจะตัวติดกับสามีตลอดเลยเหรอ” เปล่านะ...เธอไม่ได้ตัวติดกับสามีตลอด เพราะเธอตัวติดกับคนอื่นๆด้วยเหมือนกัน อย่างเช่นตอนนี้ที่ตัวของเธอติดกับตัวของนายเขียวนายเขียวพอยัดลำใส่เธอจนสุดแล้วก็เริ่มโยกทันที โดยไม่ต้องรอให้อะไรมันลื่น นั่นเพราะหนทางยังชื้นแฉะสะดวกสบายนายเขียวโยกแล้วกดคลึงบดสะโพกเธอจนหนำใจ ก่อนจะกระแทกต่ออย่างเร่าร้อนและรุนแรง เสียงเนื้อเสียดสีกระทบกันดังปักๆตลอดเวลา“คุณสามีฉันขี้งอนจะตายแกก็รู้ ฉันไม่อยากทะเลาะด้วยหรอก เห็นแก่ๆอย่างนั้น งี่เง่าอย่าบอกใครเลย”“ว่าแต่ แกถามฉัน ฉันถามแกบ้างนะ”“ได้สิ ถามมาเลย” ระหว่างรอฟังคำถาม เจ้าคนที่สามก็โผล่เข้ามาอีกคน นายคำปีนหน้าต่างเข้ามาแล้วตรงมาที่
“หาดอะไรน๊า ฉันจำชื่อไม่ได้ แต่กะว่าจะช็อปแหลกเลย...” ลินดาคุยไปเรื่อย อย่างอารมณ์ดี เช่นเดียวกับเพื่อนสาวที่กำลังสยิวเสียวไปถึงลำไส้ นั่นเพราะปลายลิ้นสากของไอ้หมีกำลังชอนไชร่องชุ่มของเธออยู่อย่างเมามันส์ “ตอนแรกเขาว่าจะไปเที่ยวสักสองสัปดาห์เลยนะ เพราะลางานได้ แต่ไปๆมาๆเปลี่ยนแผน...ว่าจะไปเที่ยวต่างประเทศต่อ”“เหรอแก ดีจัง อืม” เธอหายใจแทบไม่ทั่วท้องแล้ว เพราะปลายลิ้นสากกำลังแหย่ลงไปในรูฉ่ำของเธอแล้วตวัดอย่างเร็ว “ดีจังเลยนะ แฟนแกเนี่ย ยอมลงทุนพาแกไปเที่ยวต่างประเทศ”“แล้วแกล่ะ ที่นั่นโอเคเหรอ แกถึงไม่บ่นเหมือนตอนแรกๆ”“อื้ม...” เธออุทานแผ่วเบาเพราะเสียว ก่อนจะตอบเพื่อนด้วยการดัดเสียงให้ปกติที่สุด “ที่นี่ดีมากแก อากาศดีม๊ากมาก ผู้คนก็...เฟรนลี่ดี”“สวยมั้ย เผื่อฉันจะชวนแฟนไปเที่ยว”“สวยสิ สวยมาก ถ้าแกได้มาเห็น...” มันสอดมือเข้าใต้แก้มก้นเธอแล้วยกเธอขึ้นมาจนน้องหนูติดปากของมัน คราวนี้มันทั้งดูดทั้งเลียจนเธอขนลุกซู่ สะท้านสยิวไปทั้งตัวเธอใช้มือซ้ายที่ไม่ได้ถือโทรศัพท์จับศีรษะของมันไว้แล้วกดเข้าหาน้องหนูของเธออย่างแรง “แกต้องชอบแน่” “แกกำลังทำอะไรอยู่เหรอ?”“ทำอะไร” สุภาวดีหัวเราะ
“คุณคงเครียดเรื่องงานมาก เดี๋ยวสุจะทำให้หายเครียดนะคะ” เธอกระซิบบอกที่หูของเขา ก่อนจะย่อตัวลงจนระดับใบหน้าตรงกับเป้ากางเกง เธอกำลังจะทำในสิ่งที่สามีเธอโหยหา“ตรงนี้เลยเหรอคุณสุ”“ตรงนี้สิคะ ทำไมเหรอ”“ผมว่าเราขึ้นข้างบนดีกว่านะ” เขายิ้มอบอุ่นให้เธอ แต่รอยยิ้มนั้นทำให้เธอเสียอารมณ์เล็กน้อย เพราะเห็นว่าในบ้านก็ไม่ใช่จะมีใคร หากจะร่วมรักกันในที่อื่นๆบ้างที่ไม่ใช่บนเตียงหรือโซฟา ก็ไม่เห็นว่ามันจะน่าอายตรงไหนแต่สามีของเธออายใช่ไหม?“ไปสิคะ” เธอลุกขึ้นแล้วควงแขนสามีพร้อมซบพิงไหล่ หากขณะกำลังเดินขึ้นบันไดนั่นเอง โทรศัพท์มือถือของสามีก็ดังขึ้นมาอีก ซึ่งเธอรู้ดีว่าสัญญาณนี้จะเรียกสามีเธอให้ออกไปทำงาน “คุณยังไม่...”“ผมขอรับโทรศัพท์นะ” เขาบอกพลางรับโทรศัพท์ทันที โดยไม่ต้องรอให้เธออนุญาต เธอแอบคิดในใจว่าจะขอกันทำไม เขาคุยโทรศัพท์กับลูกน้อง ท่าทางเคร่งเครียด คุยกันสักพักก็บอกลาด้วยคำว่า... “เดี๋ยวผมไป”สุภาวดียิ้มแทบไม่ออก เมื่อเขาบอกว่ามีงานด่วนต้องออกไปจัดการ แล้วเธอจะห้ามได้อย่างไร เขามีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน“เฮ้อ...” เธอถอนใจอย่างเซ็งๆ ก่อนจะผลักประตูห้องนอนแล้วเข้าไปด้านใน เธอตรงไป