“ค่ะ ฉันเข้าบ้านก่อนนะคะ”
หญิงสาวบอกสามีแล้วก็เดินฉับๆเข้าบ้านไปทันที โดยหารู้ไม่ว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองสะโพกของเธออย่างหื่นกระหาย ก้นงอนแสนงามของนางฟ้าที่เขาแทบไม่อยากจะจินตนาการเลยทีเดียว
นายคำรีบเดินตามเจ้านายเข้าไปในบ้าน แล้วช่วยจัดข้าวของจนเสร็จเรียบร้อย เป็นที่พอใจของสารวัตรวิบูลย์นัก เขาถึงกับเอ่ยปากชมเปาะ
“นายคำนี่ขยันขันแข็งดีจริง จัดบ้านทำความสะอาดซะเรียบร้อย”
“ขอบคุณครับนาย” ท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตนยิ่งทำให้สารวัตรหน้าขาวจากกรุงเทพฯพอใจ “ตอนนี้เสร็จงานแล้ว งั้นผมขอลากลับบ้านละครับ ถ้าขาดเหลืออะไรหรืออยากได้อะไรเพิ่มก็โทรไปนะครับ”
“ไม่เป็นไร ถ้ามีอะไรอยากได้เดี๋ยวฉันเข้าไปในตัวอำเภอก็ได้ นายคำกลับบ้านเถอะ บ้านอยู่ไกลมั้ยล่ะ”
“ก็ไม่ไกลมากหรอกครับ ประมาณสามสี่กิโลครับ” คำไหว้ลาสารวัตร ก่อนหันไปไหว้ภรรยาสาวของสารวัตรที่นั่งอ่านนิตยสารอยู่หน้าทีวี เจ้าหล่อนแทบไม่ปลายตามองนายคำเลย ด้วยความที่รู้สึกเหยียดความเป็นบ้านนอกของชายชั้นต่ำ “ลาล่ะครับคุณนาย”
“อืม” เจ้าหล่อนพยักหน้าไปงั้น
“ขี่รถดีๆล่ะ”
“พรุ่งนี้ผมจะเข้ามาแต่เช้านะครับนาย”
“ขอบใจมาก” สารวัตรวิบูลย์ออกไปส่งนายคำที่ประตูรั้วบ้าน ด้วยอยากจะสอบถามเกี่ยวกับเส้นทางเพิ่มเติม พอเสร็จธุระก็เดินอารมณ์ดีกลับเข้ามาในบ้าน แต่ดันมาเจอเมียชักสีหน้าใส่เสียอย่างนั้น
“บ้านเงียบเชียบอย่างกับป่าช้า สมกับเป็นบ้านน๊อกบ้านนอกนะคะ”
“โธ่คุณสุ ก็ที่นี่มันบ้านนอกจริงๆนี่ครับ เดี๋ยวคุณสุอยู่ไปเรื่อยๆก็ชินเองแหละ”
“โอ๊ย สุไม่อยากจะชินด้วยหรอกค่ะ เบื่อ เซ็ง”
“โอ๋ๆ งั้นขึ้นห้องกันดีกว่า ผมอยากอาบน้ำนอนแล้ว รู้สึกทั้งเพลียทั้งง่วงเลยเชียวล่ะ”
“คุณขึ้นไปก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวสุตามขึ้นไป”
“ทำไมไม่ไปพร้อมกันล่ะ ยังจะทำอะไรอีก”
“ขอสุนั่งสงบจิตสงบใจอยู่ข้างล่างสักครู่นะคะ พออารมณ์เย็นลงจะขึ้นไปค่ะ ขอนะคะ สุไม่อยากทะเลาะกับคุณ”
สามียอมเธอทุกประการ เขาเดินขึ้นชั้นบนไปอย่างเงียบเชียบ ปล่อยให้เธอนั่งจ่มเจาอยู่หน้าทีวีเพียงลำพังตามคามต้องการ
“ยังดีที่มีทีวีให้ดู ไม่งั้นคงเบื่อตาย ไหนลองเช็คอินเทอร์เน็ตสิ ถ้าเล่นเน็ตไม่ได้ต้องตายแน่”
แล้วเจ้าหล่อนก็รีบเช็คสัญญาณอินเทอร์เน็ตทันที และก็เป็นข่าวร้ายสำหรับเธอ เมื่อสัญญาณเน็ตระบบของเธอไม่มีแม้แต่ขีดเดียว สุภาวดีแทบอยากจะกรี๊ดออกมาให้ลั่นบ้าน
“อร๊ายยยยยยย บ้านนอกของแท้เลย ไวไฟล่ะ มันน่าจะมีไวไฟนะ” มีจริงๆ แต่ดูเหมือนจะใช้งานไม่ได้เพราะเครื่องรับสัญญาณพังไปแล้ว “เฮ้อ ทำไมคุณบอลไม่จัดการเรื่องพวกนี้ให้เสร็จก่อนมานะ”
เธอจำต้องเดินเข้าไปในครัวเพื่อหาน้ำดื่มดับกระหาย และดับอารมณ์โมโหที่ปะทุขึ้นเรื่อยๆ
“เฮ้อ หนาวจัง” หญิงสาวรู้สึกถึงอากาศที่หนาวเย็นจับใจ อาจเป็นเพราะบริเวณบ้านพักอยู่ใกล้กับภูเขาสูงและป่าไม้ขนาดใหญ่ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานแห่งชาติ และแม้เธอจะยังไม่รู้สึกง่วงสักเท่าไหร่ เพราะนอนในรถมาจนอิ่มแล้ว แต่การต้องนั่งดูทีวีคนเดียวที่ชั้นล่างก็ไม่น่าสนุกนัก
หลังดื่มน้ำหมดแก้ว เธอขึ้นชั้นบนทันที เจ้าหล่อนเปิดประตูห้องนอนเพื่อมองสามีที่นอนกรนเสียงดังสนั่นอยู่บนเตียงเพื่อให้เธอเซ็งคูณสอง เธอบ่ายหน้าไปทางอื่นทันที
“นอนซะเต็มเตียงเลยผัวฉัน เฮ้อ นี่ฉันตัดสินใจผิดพลาดใช่มั้ยเนี่ย” เธอก็บ่นไปอย่างนั้นเอง เพราะถึงอย่างไรเธอก็ต้องขึ้นไปนอนเบียดกับสามีบนเตียงอยู่ดี และเธอก็ต้องทนอยู่ที่นี่ไปอีกหนึ่งปี
เพราะตอนนี้เธอได้ทั้งรถเบ๊นซ์และบ้านพักริมทะเลแล้ว เพียงแต่รถจะถูกส่งตามมาทีหลัง
“มีแต่เสียงอะไรก็ไม่รู้ ร้องลั่นไปหมดเลย น่าหนวกหูจริง”
ตลอดทั้งคืน เธอนอนไม่หลับ เพราะเสียงร้องของแมลงด้านนอก รวมทั้งเสียงกรนของสามี
พอตื่นเช้ามาจึงทำให้เธอค่อนข้างอารมณ์เสีย เธอได้ยินสามีบอกว่าจะไปทำงานแล้ว ได้ยินแค่นั้นก็หลับต่อไม่รู้เรื่อง ไม่หือไม่อือกับสามีแม้แต่คำเดียว
เธอแน่ใจว่าถ้าเขาปลุกเธอในเช้านี้ คงได้ทะเลาะกันยาวแน่
ประมาณสิบโมงเช้าเห็นจะได้ ที่เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะเสียงลั่นของรถมอเตอร์ไซค์หน้าบ้าน เธอโมโหมาก เลยลุกจากเตียง เดินไปเปิดหน้าต่างเพื่อดูคนก่อกวน
“ไอ้แว๊นที่ไหน? ไม่รู้รึไงว่านี่บ้านพักสารวัตร!!!” เธอมองออกไปก็เห็นว่าเป็นนายคำนั่นเอง เขามากับเพื่อนรุ่นๆเดียวกัน หมอนั่นมาส่งนายคำแล้วก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไปอย่างเร็ว ส่วนนายคำถือถุงใส่ของมาพะรุงพะรัง เต็มไม้เต็มมือ มุ่งตรงมาที่ประตูบ้านพักของเธอ “คนขับรถนี่เอง”
“เขาแค่โดนยิงที่ต้นแขน”“โง่จริง มันโดนยิงที่หลังไปตั้งหลายนัด”เธอถึงกับช็อค...เอื้อมมือที่สั่นเทาไปยังร่างของเข้มแล้วจับเบาๆ ถึงได้รู้ว่าร่างนั้นเย็นเฉียบและไร้ลมหายใจ...หญิงสาวนั่งนิ่งเป็นหุ่น ในหัวว่างเปล่า คิดอะไรไม่ออก...เธอแทบไม่อยากคิดเลยว่า...ชีวิตเธอหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร“นายหล่า อย่าพาฉันไปที่แคมป์เลยนะ พาฉันไปส่งในเมืองได้มั้ย รับรองเลยนะ นายอยากได้อะไรฉันให้หมด”“ไม่ได้หรอก ถ้านายรู้ฉันตาย”“ก็อย่าให้นายรู้สิ” เธอตัดสินใจใช้ไม้ตาย เลื่อนมือไปจับที่ท่อนลำของนายหล่าแล้วลูบคลำอย่างนุ่มนวลยวนใจ พลางยื่นหน้ากระซิบที่หู “แล้วฉันจะทำให้นายมีความสุข”นายหล่ากลืนน้ำลายเฮือก เธอเห็นสภาพการหายใจถี่ของตานี่แล้วไม่น่ารอด หากแล้วเธอก็ต้องผิดหวัง“ผมก็อยากนะ แต่กลัวตายมากกว่า รถคันนี้มีสัญญาณติดตาม”“สงสารฉันเถอะนะ ปล่อยฉันลงที่หมู่บ้านไหนก็ได้”“ไม่ได้หรอก เพราะฉันจะเอาเธอไปให้หัวหน้า”“หัวหน้าอะไร”“หัวหน้าแคมป์ ชื่อพลโทโซเต็ง”“พลโทโซเต็ง!!!”“อย่าพยายามหนีล่ะ ถ้าอยากมีชีวิตอยู่ เพราะถ้าเขาเบื่อเมื่อไหร่ เขาก็ปล่อยตัว ไม่กักไว้หรอก” มันเตือนด้วยความหวังดีสินะ...เมื่อรถกระบะคันใหญ
“ไหนบอกว่าไม่อยากพาฉันไปที่นั่น เพราะฉันอาจตกเป็นเมียของผู้ชายบ้าๆครึ่งร้อยไง”“ไม่ล่ะ ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะพาคุณไป ในฐานะเมียของผม”“แต่...”“หรือว่าคุณยังหวงผัวแก่”“เปล่านะ แต่ฉันไม่แน่ใจว่าฉันจะใช้ชีวิตอยู่ในป่าพม่ากับคุณได้ยังไง”“เราจะอยู่ที่นั่นกันแค่สักพักเท่านั้น แล้วผมจะพาคุณไปอยู่ในเมือง ผมมีพี่ชายบุญธรรมเป็นเศรษฐีที่ทวาย เขายินดีช่วยเหลือผมทุกอย่าง ว่าไง รถผมจอดรออยู่ที่ป่าด้านหลังนี่เอง”หากแต่เธอไม่ทันจะตอบ!ปัง ปัง ปัง! เสียงปืนดังขึ้นจากภายนอก หลังจากนั้นเพียงวินาทีเดียว เสียงของสารวัตรใหญ่วิบูลย์ก็ดังผ่านโทรโข่งเข้ามา“ไอ้เสือเข้ม!!!! ยอมมอบตัวซะดีๆ ตอนนี้เราล้อมนายไว้หมดแล้ว !!!!”สุภาวดีอ้าปากหวอ ด้วยความตกใจ ขณะไอ้เข้มหน้านิ่งและมีสติจนเธอแปลกใจ“ฉันบอกนายแล้ว เห็นรึยัง รีบหนีไปสิ ทางด้านหลัง”“ไม่ ถ้าผมไป คุณต้องไปกับผมด้วย” เขาพยายามลากเธอไป แต่เธอรั้งไว้สุดแรง “คุณ...”“ฉันสัญญาว่าฉันจะไปหาคุณที่ทวาย แต่ตอนนี้คุณเอาชีวิตรอดก่อน”“ก็ได้...”เสียงของสารวัตรดังตามมาอีกระลอก “นายเข้ม เรารู้ว่านายอยู่ข้างใน ถ้านายไม่ออกมา เราจะสั่งยิงนะ”“ไอ้แก่บ้า ผัวคุณจะสั่งยิง
“เอ่อแก...เดี๋ยวค่อยคุยกันใหม่นะ ฉันว่าจะล้างจานซะหน่อย”“โอเค แล้วคุยกันนะ” หญิงสาวกดปิดโทรศัพท์แล้วทิ้งไปที่ปลายเตียง ขณะท่อนร่างของเธอยังถูกนายคำละเลงสวาทอยู่อย่างเมามันส์“ดูดให้หน่อยคุณนาย...” นายหมีเอาท่อนดำยาวของตัวเองมาจ่อริมฝีปากสวยของเธอ แล้วมีหรือที่เธอจะปฏิเสธเธออ้าปากงับปลายแดงป้านแล้วดูดเลียราวกับกระหาย มันร้องซี๊ดซาดออกมาแผ่วเบา แต่ใบหน้าเหยเกจนน่าเกลียดส่วนนายเขียวจับมือเธอไปลูบคลำท่อนของตัวเอง เธอรู้งานเลยรูดสาวให้อย่างไม่นึกรังเกียจ“ฟิตจริงๆคุณนาย ขนาดสองรอบแล้วนะ” นายคำชมเธอไม่ขาดปาก พร้อมอัดสะโพกกระแทกใส่ไม่มียั้ง“กูขออีกรอบ” ไอ้หมีว่า...สายตาหื่นสุดๆ“กูด้วยนะ มึงทำเร็วๆเลย”“จะกี่รอบก็รีบๆเข้า เดี๋ยวนายกลับมาจะโดนยิงตายไม่รู้ตัว” นายคำเตือนเพื่อนขณะตัวเองกระทุ้งถี่ยิบ “กูเสร็จแล้ว กูเสร็จ...อ้า โอ๊ยยยยย”ไอ้หมีเห็นดังนั้นก็ถอนลำออกจากปากหญิงสาว แล้วนำลำแข็งทื่อของตัวเองไปยัดใส่รูเดิมที่ยังชุ่มน้ำคาวขาวของเพื่อน เจ้าหล่อนแลบลิ้นเลียริมฝีปากอีกครั้งเพื่อระบายความใคร่กำหนัดสองฝ่ามือของเจ้าหล่อนก็รวบขย้ำหน้าอกของตัวเองเพื่อคลายความเร่าร้อนที่สุมอยู่ในอก“เฮ้ยไ
“อ๋อ ฉันเล่นโยคะไปด้วยน่ะ” นายหมีขยับถ่อยห่างออกไป ซึ่งเธอคิดว่าจะจบลงเพียงเท่านี้ แต่เปล่าเลย เพราะอยู่ๆนายเขียวก็ปีนหน้าต่างเข้ามาอีกคน แล้วตรงมาที่สะโพกเธอทันที มันสอดใส่ต่อโดยไม่เว้นจังหวะให้เธอได้หายใจหายคอหรือเปลี่ยนท่าเลย “เป็นท่าที่...ยากๆหลายท่า”“ดีเลยแก ร่างแกจะได้สวยไง แล้วนี่แกจะกลับมากรุงเทพฯบ้างมั้ย จะได้ไปหาอะไรกินกัน”“ไม่รู้สิ...อา...ต้องดูก่อนว่าคุณสามีว่างรึเปล่า”“แหมแกจะตัวติดกับสามีตลอดเลยเหรอ” เปล่านะ...เธอไม่ได้ตัวติดกับสามีตลอด เพราะเธอตัวติดกับคนอื่นๆด้วยเหมือนกัน อย่างเช่นตอนนี้ที่ตัวของเธอติดกับตัวของนายเขียวนายเขียวพอยัดลำใส่เธอจนสุดแล้วก็เริ่มโยกทันที โดยไม่ต้องรอให้อะไรมันลื่น นั่นเพราะหนทางยังชื้นแฉะสะดวกสบายนายเขียวโยกแล้วกดคลึงบดสะโพกเธอจนหนำใจ ก่อนจะกระแทกต่ออย่างเร่าร้อนและรุนแรง เสียงเนื้อเสียดสีกระทบกันดังปักๆตลอดเวลา“คุณสามีฉันขี้งอนจะตายแกก็รู้ ฉันไม่อยากทะเลาะด้วยหรอก เห็นแก่ๆอย่างนั้น งี่เง่าอย่าบอกใครเลย”“ว่าแต่ แกถามฉัน ฉันถามแกบ้างนะ”“ได้สิ ถามมาเลย” ระหว่างรอฟังคำถาม เจ้าคนที่สามก็โผล่เข้ามาอีกคน นายคำปีนหน้าต่างเข้ามาแล้วตรงมาที่
“หาดอะไรน๊า ฉันจำชื่อไม่ได้ แต่กะว่าจะช็อปแหลกเลย...” ลินดาคุยไปเรื่อย อย่างอารมณ์ดี เช่นเดียวกับเพื่อนสาวที่กำลังสยิวเสียวไปถึงลำไส้ นั่นเพราะปลายลิ้นสากของไอ้หมีกำลังชอนไชร่องชุ่มของเธออยู่อย่างเมามันส์ “ตอนแรกเขาว่าจะไปเที่ยวสักสองสัปดาห์เลยนะ เพราะลางานได้ แต่ไปๆมาๆเปลี่ยนแผน...ว่าจะไปเที่ยวต่างประเทศต่อ”“เหรอแก ดีจัง อืม” เธอหายใจแทบไม่ทั่วท้องแล้ว เพราะปลายลิ้นสากกำลังแหย่ลงไปในรูฉ่ำของเธอแล้วตวัดอย่างเร็ว “ดีจังเลยนะ แฟนแกเนี่ย ยอมลงทุนพาแกไปเที่ยวต่างประเทศ”“แล้วแกล่ะ ที่นั่นโอเคเหรอ แกถึงไม่บ่นเหมือนตอนแรกๆ”“อื้ม...” เธออุทานแผ่วเบาเพราะเสียว ก่อนจะตอบเพื่อนด้วยการดัดเสียงให้ปกติที่สุด “ที่นี่ดีมากแก อากาศดีม๊ากมาก ผู้คนก็...เฟรนลี่ดี”“สวยมั้ย เผื่อฉันจะชวนแฟนไปเที่ยว”“สวยสิ สวยมาก ถ้าแกได้มาเห็น...” มันสอดมือเข้าใต้แก้มก้นเธอแล้วยกเธอขึ้นมาจนน้องหนูติดปากของมัน คราวนี้มันทั้งดูดทั้งเลียจนเธอขนลุกซู่ สะท้านสยิวไปทั้งตัวเธอใช้มือซ้ายที่ไม่ได้ถือโทรศัพท์จับศีรษะของมันไว้แล้วกดเข้าหาน้องหนูของเธออย่างแรง “แกต้องชอบแน่” “แกกำลังทำอะไรอยู่เหรอ?”“ทำอะไร” สุภาวดีหัวเราะ
“คุณคงเครียดเรื่องงานมาก เดี๋ยวสุจะทำให้หายเครียดนะคะ” เธอกระซิบบอกที่หูของเขา ก่อนจะย่อตัวลงจนระดับใบหน้าตรงกับเป้ากางเกง เธอกำลังจะทำในสิ่งที่สามีเธอโหยหา“ตรงนี้เลยเหรอคุณสุ”“ตรงนี้สิคะ ทำไมเหรอ”“ผมว่าเราขึ้นข้างบนดีกว่านะ” เขายิ้มอบอุ่นให้เธอ แต่รอยยิ้มนั้นทำให้เธอเสียอารมณ์เล็กน้อย เพราะเห็นว่าในบ้านก็ไม่ใช่จะมีใคร หากจะร่วมรักกันในที่อื่นๆบ้างที่ไม่ใช่บนเตียงหรือโซฟา ก็ไม่เห็นว่ามันจะน่าอายตรงไหนแต่สามีของเธออายใช่ไหม?“ไปสิคะ” เธอลุกขึ้นแล้วควงแขนสามีพร้อมซบพิงไหล่ หากขณะกำลังเดินขึ้นบันไดนั่นเอง โทรศัพท์มือถือของสามีก็ดังขึ้นมาอีก ซึ่งเธอรู้ดีว่าสัญญาณนี้จะเรียกสามีเธอให้ออกไปทำงาน “คุณยังไม่...”“ผมขอรับโทรศัพท์นะ” เขาบอกพลางรับโทรศัพท์ทันที โดยไม่ต้องรอให้เธออนุญาต เธอแอบคิดในใจว่าจะขอกันทำไม เขาคุยโทรศัพท์กับลูกน้อง ท่าทางเคร่งเครียด คุยกันสักพักก็บอกลาด้วยคำว่า... “เดี๋ยวผมไป”สุภาวดียิ้มแทบไม่ออก เมื่อเขาบอกว่ามีงานด่วนต้องออกไปจัดการ แล้วเธอจะห้ามได้อย่างไร เขามีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน“เฮ้อ...” เธอถอนใจอย่างเซ็งๆ ก่อนจะผลักประตูห้องนอนแล้วเข้าไปด้านใน เธอตรงไป