แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: กวนอี๋
จางฉี่เจิ้นท่าทางดูหลบเลี่ยง ฉันจึงคว้าโทรศัพท์มาและเดาไม่ผิดว่าเป็นกู้เฟยเฟยจริงๆ

“ส่งข้อความไปบอกไม่เห็นหรือไง รีบเปิดประตูให้ฉันเร็วเข้า”

น้องสามีรีบวิ่งลงไปข้างล่าง และรับกู้เฟยเฟยขึ้นมาด้วยสีหน้าตื่นเต้น

“พ่อแม่ พี่ชาย พี่เฟยเฟยมาแล้วครับ คืนนี้พี่สะใภ้จะทำอะไรอร่อยๆ ให้พวกเรากินกันเหรอ”

เขาพูดพร้อมกับยื่นกระเป๋าเดินทางของกู้เฟยเฟยส่งให้ฉัน

ทันทีที่เสียวเป่าเข้าประตูมาก็ทำเหมือนบ้านของตัวเอง ใส่รองเท้าขึ้นไปเหยียบบนโซฟาแล้วกระโดดราวกับเป็นแทรมโพลีน พร้อมกับตะโกนเสียงดัง

เธอขมวดคิ้วแน่น นั่นคือโซฟาหนังแท้ที่ฉันเพิ่งซื้อมาไว้ที่บ้านในราคาห้าหมื่นบาท

ใบหน้าของแม่สามีกลับมีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข และจับมือของกู้เฟยเฟยไว้แน่น

“เฟยเฟย หนูไม่มีวาสนากับจางฉี่เจิ้นของเรา ตอนนั้น...เฮ้อ...หนูว่าเสียวเป่าก็ถือว่าเป็นหลานแท้ๆ ของเราแล้ว...ยังไงก็แล้วแต่ ต่อไปก็พาลูกมาเล่นที่บ้านบ่อยๆ นะ”

พ่อสามีที่มักจะทำสีหน้าเคร่งขรึม ก็อุ้มเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขนด้วยท่าทางชอบมาก

คำก็เสียวเป่า สองคำก็เสียวเป่า

จากนั้นก็ถอนหายใจ “ครอบครัวของเราไม่มีวาสนา ที่จะมีลูกสะใภ้กับหลานที่ดีแบบนี้”

ทุกคนในครอบครัวทำราวกับว่าฉันไม่มีตัวตน และชมกู้เฟยเฟยอย่างเปิดเผย

หัวใจของฉันเจ็บปวด หลายปีที่พยายามทุ่มเท ทุกอย่างกลับสูญเปล่า

พวกเขาลืมไปแล้วเหรอว่าตอนนั้นจางฉี่เจิ้นต้องเป็นหนี้เงินกู้ออนไลน์ก้อนโตเพราะกู้เฟยเฟย

จางฉี่เจิ้นกับกู้เฟยเฟยเป็นเพื่อนบ้านกัน แล้วก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนมาสิบสองปี

พวกเขาทำธุรกิจร่วมกัน แต่กู้เฟยเฟยกลับหนีไปกับสามีเก่าพร้อมเงินทั้งหมด

ฉันที่แอบชอบเขามาตลอด เมื่อเห็นเขามีปัญหาฉันจึงยื่นมือเข้ามาช่วย ไปๆ มาๆ พวกเราก็รักและแต่งงานกัน

หลายปีมานี้ฉันพยายามรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้

ดูแลตั้งแต่พ่อแม่สามีจนถึงน้องสามี ฉันพูได้เต็มปากว่าตัวเองไม่ได้บกพร่องเลย

อาการการกินความเป็นอยู่ของพ่อแม่สามี รวมถึงตรวจสุขภาพประจำปีและท่องเที่ยว ขอเพียงพวกเขาเอ่ยปาก ฉันก็จะสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มที่

ส่วนน้องสามี เป็นลูกของพ่อแม่สามีที่เพิ่งมีตอนอายุมากแล้ว ฉันในฐานะสะใภ้ใหญ่ปฏิบัติดูแลเขาเหมือนกับแม่คนหนึ่ง

ผลการเรียนไม่ดี ฉันก็จ่ายเงินให้เขาได้เรียนในโรงเรียนนานาชาติ

สอบเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ไม่ได้ ฉันก็ช่วยสมัครมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศให้เขา

ญาติพี่น้องตระกูลจางต่างพูดว่าฉันเป็นลูกสะใภ้ที่ดีที่สุดในโลกแล้ว

แต่น่าเสียดาย ที่คนในครอบครัวกลับไม่เห็นความพยายามของฉัน

แต่กลับเห็นดีเห็นงามกับคนนอกที่เนรคุณ

กู้เฟยเฟยแสร้งทำไม่เห็นฉันในสายตาและนั่งลงบนโซฟา จากนั้นเธอก็จงใจหันกลับมามองฉัน

“เอ้า พี่สะใภ้อยู่อยู่บ้านเหรอคะ ฉันมัวแต่ทักทายคุณลุงกับคุณป้า จนไม่ได้สังเกตเห็นคุณเลย”

“คุณลุงคุณป้าคะ ฉันกับเสียวเป่าชอบกินอาหารที่พี่สะใภ้ทำมาก พวกคุณก็รู้ว่า เราสองแม่ลูกลำบากมาก”

แม่สามีหันมองฉันและส่งสายตา แต่ฉันกลับไม่ขยับ แล้วนั่งลงบนโซฟากินเมล็ดแตงโม

กู้เฟยเฟยหรี่ตามองลง

“พี่สะใภ้โกรธฉันเหรอคะ จางฉี่เจิ้นบอกฉันว่าพวกคุณจะไปเที่ยว ฉันเห็นว่าเสียวเป่ายังไม่เคยไปต่างเมือง เลยขอร้องให้เขาพาพวกเราไปด้วย ใครจะไปรู้ว่าตั๋วเครื่องบินจะเหลือแค่ไม่กี่ใบ แล้วยังต้องให้คุณขับรถไปเองอีก”

“หลังจากนั้นฉันก็บอกกับจางฉี่เจิ้นว่าฉันไม่ไปแล้ว แต่เขาบอกว่าไม่เป็นไร เด็กต้องออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง ถึงจะฉลาด...”

“ต้องลำบากพี่สะใภ้จริงๆ”

น้องสามีที่อยู่ข้างๆ ถือไอแพดที่ฉันซื้อให้เล่นเกมอยู่

พูดด้วยเสียงหัวเราะว่า “พี่สะใภ้ของผมไม่สนใจอะไรพวกนี้หรอก ถ้าต้องพาเด็กนั่งรถไปต้องเหนื่อยมากแน่ๆ ตอนนั้นผมเป็นคนบอกเองว่าให้นั่งเครื่องบินไป แต่คนบางคนอยากประหยัดเงิน เขาชอบขับรถไม่ใช่เหรอ ครั้งนี้ก็ให้ขับจนพอใจไปเลย”

กู้เฟยเฟยขมวดคิ้ว และดูน้องสามี “ว่าพี่สะใภ้ยังงั้นได้ยังไง ไม่ว่าเขาจะทำอะไรเขาก็เป็นผู้ใหญ่...”

เมื่อเห็นอย่างนั้นน้องสามีก็ทำตัวกับกู้เฟยเฟยเหมือนเด็ก บอกว่าตัวเองผิดไปแล้ว

จากนั้นทั้งสองคนก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เที่ยวกับครอบครัว คู่รักวัยเด็กมีตั๋วทำไมฉันต้องขับรถ   บทที่ 11

    ฉันชนะคดี และได้รับเงินคืนทั้งหมด แน่นอนว่าเมื่อคนในครอบครัวของเหยื่อรู้ประวัติความเป็นมาของกู้เฟยเฟย ทุกคนต่างก็มาหาเธอเพื่อขอสินสอดทองหมั้นคืน บอกว่ากู้เฟยเฟยกำลังตั้งครรภ์ จางฉี่เจิ้นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขายบ้านเก่าของเขาเพื่อช่วยเธอชำระหนี้ เพื่อนถามฉันว่าฉันสนใจที่จะออกมาทำธุรกิจของตัวเองไหม เมื่อก่อนฉันคิดว่าถ้าทำธุรกิจฉันอาจจะไม่มีเวลาดูแลครอบครัวฉันเลยทิ้งความคิดนั้นไป แต่ตอนนี้ฉันตอบตกลงได้อย่างเต็มปากแล้ว ธุระกิจของฉันกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ฉันได้เรียนรู้การมีความสุขกับชีวิต และทำทุกอย่างที่ฉันต้องการ ทานข้าวกับเพื่อนเก่า และเราคุยกันถึงชีวิตในปัจจุบันของจางฉี่เจิ้นและกู้เฟยเฟย“พวกเขาเหมาะสมกันอย่างกับผีเน่ากับโรงผุ ต่างคนก็ต่างเป็นหนี้ก้อนโต” “เธอว่าตอนนั้นจางฉี่เจิ้นถูกกู้เฟยเฟยหักหลังขนาดนั้น แต่เขาก็ยังแต่งงานกับเธอ” น้องชายสามีจางฉี่ซิ่งไม่มีเงินไปต่างประเทศ มีคนเล่าว่าเขาหายืมเงินนอกระบบเป็นจำนวนมากเพื่อแสร้งทำเป็นว่าเป็นลูกเศรษฐีรุ่นที่สอง และเป็นหนี้ก้อนโตเช่นกัน ดูเหมือนว่าเขาไปประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อหาเงิน หลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวครา

  • เที่ยวกับครอบครัว คู่รักวัยเด็กมีตั๋วทำไมฉันต้องขับรถ   บทที่ 10

    แม้กระทั่งวันเซ็นใบหย่าก็ไม่ยอมลดละ ฉันร่างกายอ่อนแอมากจนต้องให้เพื่อนพยุงมาถึงสำนักเขต จางฉี่เจิ้นและกู้เฟยเฟยกำลังอุ้มลูกรออยู่หน้าประตู เมื่อมองดูพวกเขาแล้ว เหมือนกับเป็นครอบครัวสามคนพ่อแม่ลูกจริงๆ จางฉี่เจิ้นขมวดคิ้ว ด้วยสีหน้าไม่เต็มใจกู้เฟยเฟยพูดกับเสียวเป่าว่า "จากนี้ไป พ่อจางก็จะเป็นพ่อแท้ๆ ของลูกแล้ว" เธอกอดแขนของจางฉี่เจิ้น ด้วยท่าทางได้ใจ “พี่เวยเวย ฉันต้องขอบคุณคุณที่คุณยอมสนับสนุนพวกเรา รอให้ฉันกับอาเจิ้นแต่งงานกัน ไว้ฉันจะเชิญคุณมาร่วมงานนะ” ฉันตบหน้ากู่เฟยเฟยไปหนึ่งที แล้วเลือดก็ไหลออกมาจากมุมปากของเธอ “คุณทำอะไรห๊ะ เผยจือเวยเธอมันบ้าไปแล้ว”จากนั้นเธอก็หลบอยู่ในอ้อมแขนของจางฉี่เจิ้นและเช็ดน้ำตา “ตอนนี้เรายังไม่ได้หย่ากัน และฉันก็ยังเป็นภรรยาของเขา ภรรยาตบเมียน้อยใครจะว่าอะไรได้” ฉันมองไปที่จางฉี่เจิ้นแล้วมองบน “เร็วเข้าอย่ามัวชักช้าอ้อยอิ่ง ไม่อย่างงั้นคนรักของคุณจะถูกตบอีกแน่” หลังจากที่เราหย่าร้างกัน จางฉี่เจิ้นกับกู้เฟยเฟยก็จดทะเบียนสมรสกันทันที ขณะที่พวกเขาออกมา ฉันกำลังรออยู่ที่ด้านนอกประตู จากนั้นก็ยื่นเอกสารส่งให้จางฉี่เจิ้น แล้วพูดด้

  • เที่ยวกับครอบครัว คู่รักวัยเด็กมีตั๋วทำไมฉันต้องขับรถ   บทที่ 9

    แน่นอนว่าจางฉี่เจิ้นไม่ต้องการออกไปจากบ้านโดยไม่ได้อะไรเลย ดังนั้นเขาจึงพยายามทุกวิถีทางที่จะมาพบฉัน ไม่ใช่มาที่บริษัทของฉันเพื่อส่งดอกไม้ให้ฉัน ก็ส่งซื้อขนมให้ฉัน แต่ทุกครั้งที่เห็นเขาฉันก็จะรู้สึกขยะแขยงและคลื่นไส้ “ที่รัก ผมผิดไปแล้ว ผมผิดไปแล้วจริงๆ คุณให้ผมกลับบ้านเถอะนะ” ต่อหน้าเพื่อนร่วมงานทุกคน เขาแสดงออกเหมือนเป็นผู้ชายที่ดี ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าฉันเอาแต่ใจไม่มีเหตุผล และยืนกรานจะหย่าร้าง คิดจะใช้วิธีนี้เพื่อทำให้ฉันยอมถอย ฝันไปเถอะ “ทำไมน้องสาวคนสนิทคนนั้นของคุณไม่มาด้วยล่ะ ในเมื่อคุณชอบเขา และเขาก็เป็นดวงนำโชคมาให้คุณ แล้วทำไมคุณต้องมาตื๊อฉันด้วย”“ไม่ใช่นะ เฟยเฟยเป็นแค่เพื่อนของผม”ฉันหัวเราะเยาะ “เพื่อนที่ไหนสามารถกอดกันกลมตอนกลางดึกได้ เพื่อนที่ไหนที่ได้นั่งเครื่องบินไปเที่ยว แล้วให้ภรรยาขับรถไปเอง “ผู้คนรอบข้างต่างมองเขาด้วยสายตาที่แปลกไป จนใบหน้าของจางฉี่เจิ้นแดงก่ำ “ผมผิดไปแล้ว ผมรู้ตัวว่าตัวเองผิดไปแล้วจริงๆ ผมควรจะรักษาระยะห่างจากเฟยเฟย ผมมันไม่ใช่คน”พบจบเขากำลังจะคุกเข่าต่อหน้าฉัน ขณะนั้นฉันมองเห็นคนวิ่งเข้ามาจากไม่ไกลนัก เรื่องสนุกกำลังจะเริ่ม

  • เที่ยวกับครอบครัว คู่รักวัยเด็กมีตั๋วทำไมฉันต้องขับรถ   บทที่ 8

    ฉันรออยู่ที่สำนักเขตถึงสองชั่วโมงแต่ก็ไม่เห็นจางฉี่เจิ้นมา ขณะที่กำลังจะกลับบ้าน ฉันก็ได้รับโทรศัพท์จากแม่ “เวยเวย ระหว่างลูกกับจางฉี่เจิ้นมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมครอบครัวของพวกเขาถึงย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา” สมองฉันแทบจะระเบิด พวกเขาหน้าหนายิ่งกว่ากำแพงเมืองซะอีก หลังจากพูดปลอบพ่อกับแม่แล้ว ฉันก็รีบขับรถกลับบ้านทันที พอฉันเปิดประตู ก็เห็นแม่สามีกับพ่อสามีกำลังนั่งกินผลไม้บนโซฟา ส่วนพ่อแม่ของฉันโกรธมากจนต้องเข้าไปหลบอยู่ในห้อง ฉันเห็นแล้วก็โมโหจนแทบหายใจไม่ออกแม่สามีเดินเข้า ช่วยรับกระเป๋าของฉันไป “เวยเวยคงลำบากแย่เลย กินข้าวมาหรือยัง แม่ให้คุณป้าทำอะไรให้เธอกินนะ” ฉันขมวดคิ้วแน่น ยังกล้าทำเหมือนบ้านของพ่อแม่เป็นบ้านของฉันจริงๆ “พวกคุณมาที่นี่ทำไม รีบออกไปซะ” เมื่อพ่อตาได้ยินสิ่งที่ฉันพูด ก็โยนถ้วยน้ำลงบนพื้นทันที “เผยขือเวย ไม่เจอกันหลายวัน เธอปากดีขนาดนี้แล้วเหรอ อะไรคือบ้านพ่อแม่ของเธอ พ่อแม่ของเธอไม่มีลูกชายต่อไปก็ต้องเป็นของตระกูลจางของเรา ถ้าจะอยู่ที่นี่ตอนนี้มันจะมีปัญหาอะไร เมื่อได้ยินสิ่งที่พ่อสามีพูด ฉันก็รู้สึกน่าขำขึ้นมา นี่มันตรรกะโจรประเภทไหนเนี่ย“จางฉ

  • เที่ยวกับครอบครัว คู่รักวัยเด็กมีตั๋วทำไมฉันต้องขับรถ   บทที่ 7

    ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันพยายามดูแลทุกคนในตระกูลจางอย่างดีที่สุด เพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้นฉันต้องทำงานอย่างนัก หลังจากทำงานล่วงเวลาเสร็จก็ยังต้องมาทำอาหารให้ทุกคนในครอบครัวอีก ในทุกๆ วันฉันรู้สึกเครียดมาก ทั้งกลัวว่าจะทำงานผิดพลาด และก็กลัวว่าจะละเลยคนในครอบครัวคำพูดพวกนั้นที่พ่อแม่เคยบอกฉัน ยังคงก้องอยู่ในหู ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้เกิดจากฉันที่ตอนนั้นคลั่งรักจนไม่ลืมหูลืมตา ต่อจากนี้ไป ฉันมีชีวิตอยู่เพื่อตัวฉันเองเท่านั้น เมื่อคำนวณเวลาดูแล้ว ทริปเที่ยวทะเลของพวกเขาก็น่าจะใกล้จบแล้วถ้าทุกคนเห็นของขวัญชิ้นให้ที่ฉันมอบให้ แค่นึกถึงสีหน้าของทุกคนในครอบครัวนั้นฉันก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นหมายเลขที่ไม่รู้จัก ทันทีที่ฉันรับโทรศัพท์ เสียงโมโหอย่างบ้าคลั่งของจางฉี่เจิ้งก็ดังมาจากในโทรศัพท์ “เผยจือเวย คุณเปลี่ยนรหัสล็อคประตูแบบนี้หมายความว่ายังไง ถ้าไม่อยากอยู่ด้วยกันแล้วก็บอกมาเลย”“ใช่ ฉันไม่อยากอยู่กับคุณอีกต่อไปแล้ว ข้าวของของพวกคุณที่อยู่ในบ้านฉันส่งไปรษณีย์กลับไปให้หมดแล้ว” “ถ้าคุณเล่นสนุกพอแล้วก็รีบกลับบ้าน แล้วมาขอโทษทุกคนในครอบครัว เลี้ยงอาหา

  • เที่ยวกับครอบครัว คู่รักวัยเด็กมีตั๋วทำไมฉันต้องขับรถ   บทที่ 6

    กลุ่มไลน์ครอบครัวของจางฉี่เจิ้งเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นเป็นระยะๆ ฉันเปิดโทรศัพท์ดู และเห็นว่าเป็นกู้เฟยเฟยที่ส่งรูปภาพของพวกเขาเข้ามาในกลุ่ม ญาติพี่น้องและเพื่อนๆ ต่างพากันแสดงความเห็นว่า จางฉี่เจิ้นเป็นคนกตัญญูรู้ความ ฉันกดเปิดโมเมนต์ไลน์ของกู้เฟยเฟย พบว่าเธอโพสต์รูปภาพหนึ่งรูป “ขอบคุณคุณพ่อที่พาเสียวเป่ามาเที่ยวทะเล และยังได้พักที่โรงแรมหรูระดับห้าดาว...” ดูเหมือนว่าจางฉี่เจิ้นจะกรีดเลือดตัวเอง ให้คนในครอบครัวนี้ใช้เงินเขาไปหลายหมื่น แต่มาลองคิดดูดีๆ เหตุที่เขากล้ายอมทำแบบนี้ก็เพราะว่าเขามีกระเป๋าเงินอย่างฉันอยู่เบื้องหลังเขาไงแม่สามีถามฉันเข้ามาในกลุ่มไลน์ครอบครัว “เสี่ยวเว่ย เธอขับรถถึงไหนแล้ว ทำไมยังไม่ถึงอีก ฉันยังรอถ่ายรูปเสื้อผ้าในกระเป๋าเดินทางอยู่นะ”“นั่นสิคะ พี่สะใภ้ ที่นี่แดดแรงมาก ถ้าไม่มีครีมกันแดดผิวฉันโดนแดดจนดำจะทำยังไง” เมื่อเห็นว่าฉันไม่ตอบ แม่สามีก็เลยโทรศัพท์หาฉันโดยตรง “เผยจือเวย เธอขับรถไปไหน ทำไมถึงช้าขนาดนี้” พ่อสามีที่อยู่ข้างๆ พูดแทรกเข้ามาอย่างอดไม่ได้ “อย่าให้ทุกคนต้องรอนาน พักรถให้มันน้อยๆ หน่อย แล้วรีบขับมาไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงแล้ว” “ฉัน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status