@วันต่อมา
"ตกใจหมดเลยโย ทำไมหน้าตามึงเป็นแบบนั้นล่ะ" เจเจสะดุ้งตัวตกใจ เมื่อเห็นสีหน้าของวาโยที่เหมือนคนอดหลับอดนอนมาทั้งคืน แถมขอบตาก็ดำยิ่งกว่าหมีแพนด้า "ถามเพื่อนรักแกสิ" "....." ภามยักไหล่แทนคำตอบ "โอ้โห! ไอ้ภาม จัดหนักเมียทั้งคืนเลยหรอวะ เบามือหน่อยดิเพื่อน ไอ้โยมันก็ตัวแค่นี้เอง ฮ่าๆ" เจเจจับท้องตัวเองแล้วหัวเราะออกมาเสียงดัง ส่วนภามไม่แม้แต่จะปฏิเสธ และเขาก็ไม่กลัวว่าสาวคนไหนจะมาได้ยินแล้วเข้าใจเขาผิดด้วย ไม่เห็นจะมีอะไรต้องกลัว... ภามตั้งหน้าตั้งตาขำไปพร้อมกับเจเจโดยไม่สนคนที่เดินผ่านไปมา "หัวเราะอะไรไอ้ภาม" "ฮ่าๆ เอ้า! กูขำตามไอ้เจ" "...." ภามมองหน้าวาโยก่อนจะกลั้นขำ "แต่ก็ตลกหน้ามึงด้วยแหละ ฮ่าๆ~" "ตลกมากใช่ไหม...ได้! งั้นไปซื้อกาแฟมาเลย" "มึงใช้ใคร?" "ใช้แกไง" "แล้วมึงคิดว่ากูจะไปไหม?" "ไป" เจเจตอบแทน วาโยเลยหันมาพยักหน้าเห็นด้วย เจเจเลยพูดต่อ "เมื่อคืนก็ทำจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน แค่นี้จะใจร้ายไม่ไปซื้อกาแฟให้เมียกินหน่อยหรอวะ" "ใช่ไหมไอ้เจ ที่ฉันไม่ได้นอนก็เพราะใคร หัดสำนึกบุญคุณฉันซะบ้างนะ" "เออ ถ้าวันไหนกูเอาขึ้นมาจริงๆ มึงไม่ได้แค่อดนอนหรอก แต่จะลุกมาเรียนไม่ไหวด้วย" "...." วาโยถึงกลับชะงักพูดอะไรไม่ออก และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภามลุกขึ้นเดินไปซื้อน้ำกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ปัก! จนเสียงวางแก้วดังขึ้น "กินเข้าไปซะ เดี๋ยวหาว่ากูไม่รู้จักบุญคุณอีก" "ฉะ ฉันบอกว่าจะกินกาแฟไม่ใช่หรอ นี่มันน้ำส้ม... " "จะกินไม่กิน?" "แล้วมีน้ำอื่นให้เลือกไหมล่ะ นอกจากน้ำส้ม" พูดจบวาโยก็หยิบน้ำขึ้นมาดูดโดยไม่มองหน้าภาม แล้วกวาดสายตาไปทางอื่นแทน ทั้งสามคนสนิทกันมานานมาก ตั้งแต่สมัยมัธยม แล้ววาโยกับภามก็เปรียบเสมือนเป็นคู่จิ้นกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร โดนแซวว่าเป็นผัวเมียกันจนชิน ทั้งคู่เลยเฉยๆกับเรื่องนี้แล้วปล่อยผ่านแบบไม่ทักท้วงอะไร @ภายในคลาสเรียน วาโยนั่งสัปหงกขณะอาจารย์สอน เธอคงง่วงมาก เพราะเมื่อคืนแทบจะไม่ได้นอน กลับมาคอนโดก็เกือบเช้า พอภามที่นั่งข้างๆเห็นวาโยหลับ ก็ขยับตัวเข้าใกล้ จับหน้าเพื่อน แล้วเอียงไหล่ให้เธอซบ พรึ่บ~ และการกระทำนี้ก็ไม่มีทางหลุดพ้นจากสายตานักชงอย่างเจเจไปได้ "ง่อววววว~" คำแซวเร็วกว่าจรวด ภามเลยยกนิ้วชี้วางทาบที่ปากตัวเองแล้วออกเสียง ชู้ว~ "บะ เบาๆ..." "มีความให้ซบไหล่ว่ะ ฮ่าๆ สงสัยเมื่อคืนหนักจริง" "กูบอกให้เบาๆ" "อื้อ! หาววว~" วาโยขยับตัวตื่น ภามเลยรีบเอนตัวกลับ พร้อมยืดหลังตรง แล้วหันไปดุคนงัวเงีย "พอๆ ไม่ต้องนอนแล้ว มึงตื่นเลย! นอนอะไรทั้งคาบ เดี๋ยวลำบากกูมานั่งติวให้อีก" ภามโมโหกลบเกลื่อน "ก็คนมันง่วงอ่ะ จะให้ทำยังไงได้" วาโยยืดแขนบิดขี้เกียจ...อื้อ! "ไอ้เจยิ้มอะไร หรือว่าหน้าฉันมีน้ำลายติด" วาโยรีบยกมือเช็ดปากแบบลวกๆ "นู้น~" เจเจพยักหน้าให้มองไปที่ภามแต่วาโยทำหน้างง "อะไร? " "น้ำลายมึงไง ติดอยู่ที่เสื้อไอ้ภามนู้น" "แฮร่ๆ โทษทีนะเพื่อนรัก เลอะหมดเลย แต่ไม่เป็นไรหรอกเนอะ เพราะน้ำลายฉันสะอาด" "มึงเป็นผู้หญิงที่สกปรกมากโย" "ออกจะสะอาด หรือแกรังเกียจ" "เออ! รังเกียจ รังเกียจมาก" "ชิ๊" "แต่ไม่เป็นไรหรอก กูไม่ถือ เพราะยังไงคนซักก็คือมึง" ภามกระตุกยิ้มและยักคิ้วพร้อมส่งนิ้วชี้ไปเชยคางวาโยขึ้นเบาๆแล้วพูดอย่างเหนือกว่า "ซักให้พี่ด้วยนะน้อง" "รู้หรอกน่าไม่ต้องย้ำ! แค่อาทิตย์เดียวเท่านั้นแหละ" วาโยปัดมือออกแล้วเบ้ปากใส่ ก็แค่ซักผ้ามันจะไปยากอะไร "ไปก่อนนะหายง่วงละ แต่ก็ขอบคุณสำหรับ...ไหล่แข็งๆ" วาโยพูดคำท้ายแบบเน้นๆ "ไหล่ไอ้พี่โอบนิ่มตายอ่ะ!" "แน่นอน" วาโยหันมาแลบลิ้นใส่แล้ววิ่งออกไป "เพื่อนมึงนี่น้า ไอ้เจ!!" ฝ่ามือออรหันต์ฟาดลงหัวเพื่อนอีกคนอย่างแรงเพื่อระบายความโกรธ ป๊าบ !!!! "ไอ้สัสภาม! หัวกู! มึงเล่นตบเป็นลูกขนุนเลยไอ้ห่านี่ มึงมาตบกูทำไมเนี่ย กูผิดอะไร" "หมั่นไส้เพื่องมึงไง!!" "เพื่อนกูก็เพื่อนมึงเหมือนกันนั่นแหละว่ะ ซี๊ด! ลงกับมันไม่ได้ ก็มาลงกับกูตลอด!" "มึงเสือกมานั่งขวางหน้ากูทำไมล่ะ" ภามม้วนชีตงานใส่กระเป๋ากางเกงแล้วลุกเดินออกไป "เออดี! ให้มันได้อย่างนี้ดิวะ ทั้งผัวทั้งเมียเลย" สาธุ~ เจเจยกมือขึ้นพนมก่อนจะคุยกับแม่ซื้อ "ขอให้แม่งสองคนได้กันจริงๆ ถ้าเป็นแบบนั้น กูจะจุดพลุฉลองแม่งสิบวันสิบคืนเลย โมโห!"หลายปีต่อมา... ตอนนี้ลูกสาวตัวน้อยอดนมแม่อย่างเป็นทางการแล้ว ก็เหลือแต่ตัวพ่อเนี่ยแหละที่ร้องขอกินนมก่อนนอนเกือบทุกคืน ไหนใครบอกว่าแต่งงานอยู่ด้วยกันนานๆแล้วผัวจะเบื่อ แต่นี่ไม่เลย... รู้สึกว่าภามรักและหลงเธอมากกว่าเดิมเสียอีก ถึงบางวันทั้งคู่จะไม่ได้ทำรัก เขาก็ขอแค่ได้กอดได้หอมเมียให้ชื่นใจก่อนไปทำงานแค่นี้เขาก็มีความสุขมากแล้ววันนี้เป็นวันที่หมอนัดสาวน้อยอย่างวรินทร์มารับวัคซีนครบสี่ขวบที่โรงพยาบาล แล้วก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่วาโยเจอรุ่นพี่อย่างแทนที่เคยเรียนร่วมคณะเดียวกันสมัยมหาลัย"น้องวาโยนี่เองพี่ก็คิดว่าใคร^_^" "พี่แทน มาหาหมอหรอคะ""ครับ พี่พา เอ่อ... พาน้องสาวมาฝากครรภ์ ว่าแต่เรามาทำอะไรที่แผนกเด็กเล็กหรอครับ?""โยพาลูกสาวมาฉีดวัคซีนค่ะ""อ้าว นี่เรามีลูกแล้วหรอ แล้วไหนล่ะสามี? ทำไมถึงไม่มาด้วย ปล่อยให้ผู้หญิงตัวเล็กๆมากับลูกสาวตามลำพังแบบนี้ได้ยังไงกัน ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย" "เขามาด้วยนะคะพี่แทน..." แทนแกล้งชะเง้อคอมองข้ามผ่านคนตัวเล็กไปทางด้านหลังก็ไม่เจอใคร วาโยเลยหันมองข้างๆที่มีภามยืนอยู่ แล้วทำหน้างงๆว่าพี่แทนไม่เห็นภามจริงๆหรอ หรือเขาแค่แกล้งเล่น? วรินทร
@หนึ่งปีต่อมา...ตอนนี้วาโยคลอดลูกสาวได้สี่เดือนแล้ว และเดือนนี้ก็เป็นเดือนสุดท้ายในการสอบปลายภาคสำหรับนักศึกษาปีสี่ ทั้งภามและวาโยเลยต้องเรียนหนักเป็นพิเศษ แต่หน้าที่เลี้ยงลูกส่วนใหญ่จะเป็นคุณพ่อลูกอ่อนอย่างภาม เขาอยากให้วาโยโฟกัสกับเรื่องเรียนให้เต็มที่ ไม่ต้องห่วงวรินทร์เดี๋ยวเขาจะดูแลให้เองอย่างเช่นวันนี้คนที่เลี้ยงลูกอยู่ในห้องก็เป็นภาม ส่วนวาโยเธอออกมานั่งเรียนอยู่โซนด้านนอกกับอาจารย์ที่แม่สามีจ้างมาสอนพิเศษให้ถึงเพนท์เฮาส์ แต่ทว่า! นั่งเรียนยังไม่ถึงชั่วโมงภามก็เดินออกมาตามด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ เพราะเขาเห็นอาจารย์ที่มาสอนวาโยวันนี้ไม่ใช่คนเดิม"โย ลูกร้องหิวนม เข้าไปดูลูกในห้องหน่อย" "ตอนนี้เลยหรอ แต่ฉันยังเรียนไม่จบครอสเลยนะ" ปกติภามไม่เคยปล่อยให้ลูกร้องนี่นา นมก็ปั๊มไว้ให้ตั้งเยอะมาบอกว่าลูกร้องหิวนมได้ยังไง ไม่ใช่ว่าวาโยไม่เป็นห่วงลูกนะ แต่ปัญหาแค่นี้เธอเชื่อว่าภามจัดการได้สบายอยู่แล้ว"นมที่ปั๊มแช่ไว้ในตู้เย็นละลายไม่ทัน""อ๋อ โอเค..." ที่แท้ก็นมละลายไม่ทันนี่เอง วาโยเลยละสายตาจากภามหันกลับมามองอาจารย์ก่อนจะพูดต่อ "งั้นเดี๋ยวโยขอเข้าไป
หลังจากที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันเรื่องสินสอดเรียบร้อยแล้วก็พากันกลับบ้านไปดูฤกษ์ วาโยเลยขอกลับมาอยู่คอนโดก่อน รอจนกว่าจะแต่งงานแล้วค่อยย้ายไปอยู่เพนท์เฮาส์ที่ภามซื้อให้ และเธอมองว่ามันไม่ใช่ของเธอแต่เพียงผู้เดียว แต่เป็นเรือนหอของเราสองคนต่างหาก'โยจำคำแม่ไว้นะลูก... ผู้ชายร้อยทั้งร้อยแพ้ผู้หญิงขี้อ้อน หมั่นเอาใจลูกเขยแม่ให้มากๆ อย่าปล่อยให้ผู้ชายดีๆแบบภามหลุดมือไปเด็ดขาด'วาโยหวนนึกถึงคำพูดของแม่แล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ฮึบ!เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน อ้อนแฟนตัวเองไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสักหน่อย พอคิดได้ดังนั้นวาโยก็เดินมาหาภามที่นั่งอยู่บนโซฟา ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งบนตักของแฟนหนุ่มจนเขาต้องวางไอแพดในมือลงข้างตัวแล้วยกมือมาโอบเอวเธอไว้แทน"แกดูอะไรอยู่หรอ" "ดูแพ็คเกจคลอดลูก กินข้าวอิ่มแล้วหรือไง" ความจริงทั้งคู่กินข้าวด้วยกันไปแล้วรอบนึง แต่ผ่านมายังไม่ถึงชั่วโมงวาโยก็ร้องหิวอีก ภามเลยทำให้กินอีกรอบ ส่วนตัวเขาก็มานั่งดูโปรแกรมคลอดลูกรอเธอไปพลางๆ"อิ่มแล้ว..." "แล้วทำไมยังไม่ไปอาบน้ำอีก""รอแฟนไปอาบให้""ฮึ?""ก็ช่วงนี้ฉันหน้ามืดบ่อยๆ กลัวตัวเองจะเป็นลมในห้องน้ำ แกอาบให้ฉันหน่อ
"อย่าเพิ่งเป็นลม เพราะยังไม่หมดแค่นั้น""ยังมีอีกหรอ!?" แค่นี้เธอก็จะเป็นลมอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรที่เซอร์ไพรส์มากกว่านี้อีกมีหวังได้วูบไปจริงๆแน่"...." ภามที่ยืนช้อนหลังวาโยอยู่ในตอนนี้สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีออกมาใช้ ก่อนจะสอดมือล้วงกระเป๋าหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงขึ้นมายื่นไปด้านหน้าของวาโยแล้วเปิดกล่องดังป๊อก! โชว์แหวนเพชรน้ำดีด้านในให้คนตัวเล็กที่ตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ได้เห็น"อะ อะไรของแกเนี่ยO_O" "แต่งงานกันนะโย..." วาโยมองแหวนเพชรเม็ดโตในกล่องที่มีความเปล่งประกายวิบวับสวยงามเล่นกับแสงไฟภายในห้องอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ถึงจะแอบหวังให้เขาขอแต่งงานแต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆทำให้เธอตั้งตัวรับไม่ทัน เธอมองแหวนในกล่องอีกครั้งก่อนที่ภาพจะตัดไปราวกับมีคนมาสับสวิตซ์ พรึ่บ! "เห้ย! โย ทุกคน! เมียผมเป็นลม" ภามรีบย่อตัวลงอุ้มคนตัวเล็กที่หมดสติขึ้นทันที แล้วภาพก็ตัดมาทางฝั่งของอาโป... "จะปล่อยฉันไปได้รึยัง" นี่เป็นคำถามที่ร้อยของวันนี้ที่นิเนยเอ่ยถามอาโป เขาเล่นขังเธอไว้ในห้องกับเขาตั้งแต่จับตัวเธอมาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ยอมปล่อยตัวเธอไป"จะให้ผมปล่อยป
อึก! อ้วก~"โย!" ภามลืมตาตื่นจากฝันดียังไม่ทันถึงเสี้ยววิ ก็รีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงวิ่งตรงไปหาเสียงโอ้กอ้ากในห้องน้ำทันที พอเข้ามาถึงเขาก็เร่งฝีเท้าเดินเข้าไปช่วยลูบหลังให้วาโยที่นั่งกอดโถส้วมอ้วกอยู่อย่างหมดสภาพด้วยความเป็นห่วง "ไหวมั้ย""ฉันไหว อ้วก~" วาโยชูนิ้วโอเคตอบกลับมาทั้งที่ยังก้มหน้าอ้วกไม่หยุด"ตัวแสบทำไมแกล้งแม่แต่เช้าเลย ถ้าคลอดออกมาเมื่อไหร่พ่อจะตีให้" มาโหมดดุลูกซะแล้วเมื่อเห็นเมียอ้วกจนเหนื่อย"ดุแค่ฉันก็พอ เว้นลูกไว้คนนึง" วาโยอ้วกเสร็จก็หันมายิ้มหวานให้ภาม เชิงบอกเป็นนัยๆว่าแค่นี้เองสบายมาก "หึ ลูกคงดื้อเหมือนแม่สินะ" พูดจบภามก็ช้อนตัวอุ้มวาโยมานั่งที่ขอบอ่างอาบน้ำ เปิดน้ำจากฝักบัวใส่มือแล้วเอามาลูบหน้าให้วาโย แต่ทว่า! สายตาเขาดันเกเรไม่ได้มองแค่หน้าสวยๆของเธอ แต่ดันมองต่ำลงไปกว่านั้นอีก...เนินหน้าอกขาวๆที่ล้นออกมาจากชุดนอนสุดวาบหวิวที่เธอแอบลุกขึ้นไปใส่มาเมื่อคืน มันชวนมองซะจนภามลอบกลืนน้ำลายลงคอดัง อึก!ยิ่งเปียกน้ำยิ่งเห็นไปถึงไหนต่อไหน... "จะมองอีกนานไหม" เสียงหวานเอ่ยขึ้นทำให้ภามเลื่อนสายตากลับมามองหน้าเธอก่อนจะเอื้อมมือไปปิดน้ำแล้วเก็บฝักบัวเข้าที่ "
พอมาถึงโรงพยาบาลภามก็ขอรถเข็นมาให้ฉันนั่งแล้วเข็นฉันเข้าห้องตรวจ แต่พอเจอหมอผู้ชายก็บอกว่าไม่สะดวกใจเลยต้องเปลี่ยนมาเป็นหมอผู้หญิงแทน และคิดว่าเรื่องจะจบ แต่ไม่เลย ภามไม่ยอมให้อัลตร้าซาวด์ผ่านช่องคลอดบอกว่ากลัวโดนหัวลูก ให้ตายเถอะ! หมอเลยต้องอธิบายหลักการทั้งหมดที่มีให้คุณพ่อมือใหม่ได้ฟังกว่าจะยอมได้หมอถึงกับยกมือกุมขมับ... ผลตรวจเลือดออกมาว่าฉันท้องจริงๆ และอัลตร้าซาวด์เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ลูกในท้องยังเล็กมากขนาดเท่ากับเมล็ดถั่ว อายุครรภ์แค่ 6 สัปดาห์ถือว่าโตตามเกณฑ์ พอหมอบอกว่าแข็งแรงทั้งแม่และลูก เท่านั้นแหละ! ผู้เป็นพ่อก็ยิ้มออกมาไม่หุบ ดีใจยิ่งกว่าฉันที่เป็นแม่เสียอีกหาหมอเสร็จภามก็พาฉันไปช็อปปิ้งต่อ ขนาดท้องฉันแบนราบจนแทบจะมองไม่ออกด้วยซ้ำแต่เขาก็ยังซื้อชุดคลุมท้องให้ บอกว่าในอนาคตก็ต้องใช้ ตอนแรกจะซื้อของลูกมาด้วยนะ ฉันเลยห้ามไว้ก่อนบอกเขาว่ารอรู้เพศก่อนค่อยซื้อก็ได้ พอกลับมาถึงคอนโดก็ยังไม่วายนั่งดูรูปอัลตร้าซาวด์แล้วยิ้มอยู่คนเดียวไม่ค่อยจะเห่อเท่าไหร่เลย...อ๋อ! ยังมีอีกเรื่องที่หมอย้ำ คือช่วงนี้ให้งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนจนกว่าอายุครรภ์จะครบ 3 เดือนขึ