ถ้าติดใจค่อยคบ #คลั่งไคล้ซินเซีย ฉันเคยคิดว่าการแอบชอบใครสักคนมันคงมีความสุขดีขอแค่ยังมีเขาอยู่เคียงข้างกันก็พอแต่แล้วทุกอย่างกลับไม่เหมือนเดิมคนที่ฉันแอบชอบมานานเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เข้ามหาลัยแม้เราจะยังสนิทกันแต่ก็เหมือนยิ่งห่างไกลกันด้วยความน้อยใจวันนั้นฉันจึงเมาหัวราน้ำและดันมีอะไรกับผู้ชายที่มีรอยสักรูปเสือกลางอก เขาเร่าร้อน ดุดัน โดยเฉพาะสายตาคมกริบคู่นั้นที่จ้องมองฉันตลอดเวลาราวกับจะขย้ำกันให้จม เตียง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของหายนะเมื่อเขาปรากฏตัวที่ลานเกียร์พร้อมกับบรรดาพี่ชายของฉัน!!!! "ฉิบหายแล้วซินเซีย!" -------------------------------------------------------------- เรื่องนี้เป็นเรื่องของ ซินเซีย x เสือ #แนววิศวะ ️Trigger Warning️ นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาค่อนข้างรุนแรงมีการใช้ภาษาคำพูดหยาบคาย มีบรรยายฉากอีโรติกมีการบรรยาฉากการทำร้ายร่างกาย Sexual harassment คุกคามทางเพศ (ไม่ใช่พระนาง)
View Moreตึก ตึก
เสียงฝีเท้าวิ่งสะเปะสะปะไปมาอย่างไม่รู้ทิศรู้ทางว่าควรจะไปที่ไหน รู้แค่ว่าเธอต้องหนี ภายใต้ความมืดมิดมีเพียงแสงสีทองจากดวงจันทร์และหมู่ดาวคอยนำทางเท่านั้น
โฮก ~
เงาร่างดำทะมึนกำลังไล่ตามมาพร้อมเสียงคำรามดังลั่น ทำเอาร่างบางตัวสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว
“กรี๊ดดดดดด”
เธอร้องอย่างตกใจเมื่อเงาดำที่ไล่ตามมากระโดดข้ามหัวและดักทางเธอไว้ ลายพาดกลอนสีดำตลอดทั้งลำตัวที่ปกคลุมด้วยขนสีเหลืองส้ม ทำให้เธอหน้าซีดตัวชาและก้าวขาไม่ออก
“อย่าเข้ามานะ”
แม้จะกลัวแต่ก็ยังมองจ้องตาสัตว์ร้ายไว้ตลอด เพราะจะทำให้พวกมันไม่กล้าผลีผลามเข้ามาใกล้ แต่เธอก็ต้องขมวดคิ้วทันทีเมื่อมันมองจ้องกลับอย่างไม่ลดละ มันเดินเข้ามาใกล้และกระโดดเข้าใส่เธอทันที
โฮกกกกก ~
“กรี๊ดดดดดด”
ติ๊ด ติ๊ด
“ฝันเหรอเนี่ย…ทำเอาใจหายใจคว่ำหมดเลย” ฉันพึมพำกับตัวเองหลังจากตื่นขึ้นมาในห้องนอนกว้าง เพราะเสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียง
ฉันเอื้อมมือไปหยิบมือถือข้างเตียงเพื่อเข้าโซเชียล ก่อนจะพบข้อความของใครบางคนที่ทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมา
สายฟ้า : ถึงบ้านแล้ว ฝันดีนะ
เขาไม่ใช่แฟน ไม่ใช่คนรัก แต่เราเป็นเพื่อนสนิทกัน รู้จักกันตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมปลายคนที่ไม่ค่อยอยากสุงสิงกับใคร แต่เป็นเขาที่ก้าวเข้ามาทำความรู้จักกับฉัน
พูดตามตรงว่าตัวฉันเองดูอัธยาศัยดีแต่ก็กับคนรู้จักเท่านั้น ถ้าคนอื่นคงดูเข้าถึงยากแต่ก็ไม่ได้หยิ่งนะ ในช่วงที่เรียนเลยมีแค่สายฟ้านี่แหละที่เป็นเพื่อนสนิท
อ้อ...แล้วยังมีเพื่อนอีกสามคน แต่เราเรียนคนละห้อง มีเรย์และฝาแฝดอิล แอล พวกเขาเป็นเพื่อนของสายฟ้าตั้งแต่มัธยมต้น ฉันเลยได้รู้จักและเป็นเพื่อนกันจนคนในโรงเรียนหมั่นไส้ฉันกันหมด เพราะพวกเขาน่ะถือว่าป๊อปมากในโรงเรียน
ซินเซีย : โอเคตื่นมาแฮ้งไหม?
พิมพ์ตอบกลับหาเขาเสร็จ มองหน้าจออยู่สักพัก เขาไม่อ่านแสดงว่ายังไม่ตื่น เมื่อคืนพวกเพื่อนทั้งสี่คนออกไปเที่ยวผับกันทั้งที่อายุไม่สามารถเข้าสถานบันเทิงได้ แม้จะแปลกใจแต่คงไม่มีอะไรให้คิดมากนอกจากเรื่องเส้นสายประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยเงินและชนชั้น
มีเงิน = ไม่ผิดกฎหมาย
ฉันปิดหน้าจอมือถือก่อนจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัว เพราะว่าเป็นช่วงระหว่างรอเปิดเทอมเข้ามหา’ลัย ฉันเลยว่างต่างกับพวกเฮียที่ไปทำงานและฝึกงานกัน
สายฟ้า : ตื่นสาย
ยังไม่ทันลุกไปทำธุระ เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นทำให้ฉันรีบหยิบมือถือขึ้นมาเปิดอ่านอย่างไว และพิมพ์ตอบกลับตอนนั้นเลย
แชตสำคัญเราจะพลาดได้ไง….
ซินเซีย : ไม่สายเพราะตอนนี้เที่ยงแล้ว
สายฟ้า : พาไปหาข้าวกินหน่อย
ซินเซีย : ที่ไหน มารับได้ไหม
สายฟ้า : ไม่อยากไปบ้านเธอ
ฉันขมวดคิ้วทันทีแต่ก็เข้าใจได้ พี่ชายฉันทั้งหลายค่อนข้างหวงน้องสาวอย่างฉันมาก ดูแลประคบประหงมอย่างดี ตอนเข้ามัธยมปลายฉันต้องโกหกว่ามีเพื่อนสนิทชื่อฟ้าที่เป็นผู้หญิง เพื่อให้พวกเฮียสบายใจ
แม้พวกเขาจะถามว่าทำไมไม่พาเพื่อนมาบ้านหรือพามาแนะนำให้รู้จัก ฉันก็ปฏิเสธไปว่าเพื่อนอายพวกเฮีย หลายปีมานี้ฉันเลยกลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะเต็มตัว
ซินเซีย : แต่วันนี้ทางสะดวกนะ พวกเฮียไม่อยู่
สายฟ้า : ต้องไปรับไอ้เรย์
ซินเซีย : เรย์ก็ไปเหรอ
สายฟ้า : อือ ไอ้แฝดด้วย
อ่านจบฉันถอนหายใจเลย โอ๊ย นึกว่าจะไปเดตกันสองคนกับสายฟ้า ที่ไหนได้เขาดันชวนทุกคน แบบนี้ฉันจะมีโอกาสสมหวังไหมนะ หรือจะแค่แอบชอบต่อไปดี
ใช่!
ความลับหนึ่งเดียวที่ต้องเก็บให้มิดชิด คือความรู้สึกของฉันที่แอบซ่อนมานาน มันนานจนคิดว่าอยู่แบบนี้ก็ดีนะ ถ้าเขายังไม่มีใครฉันก็ยังเป็นคนสำคัญของเขาอยู่เสมอ จนลืมคิดไปว่าคำว่าตลอดไปไม่มีจริง
ไม่ช้าก็เร็วเขาต้องมีคนข้างกาย เมื่อถึงตอนนั้นฉันยังไม่รู้เลยว่าตัวเองต้องรู้สึกยังไง
บทที่ 1 เฮียต้าร์
คฤหาสน์ชวัลกร
ฉันนอนเกลือกกลิ้งไปมาอยู่บนโซฟากลางห้องโถงเพื่อรอเวลาไปรับญาติสาวคนเดียวหรืออีกสถานะหนึ่งคือเพื่อนสาวคนสนิท เราอายุเท่ากันและมีอะไรคล้าย ๆ กัน แต่เพราะครอบครัวอาสามต้องไปดูแลธุรกิจที่ฮ่องกง ทำให้เราเจอกันแค่ช่วงปิดเทอมเท่านั้น
ครอบครัวของฉันเป็นครอบครัวใหญ่มีคุณปู่เตโชที่คุมบังเหียนของบ้านและธุรกิจต่าง ๆ ท่านมีลูกชายสามคน คนแรกลุงใหญ่หรือท่านเตชินท์เจ้าของห้างดังทั่วประเทศ ภรรยาคือป้าภาดามีลูกชายสองคน เฮียติณณ์กับเฮียต้าร์ ต่อมาก็บ้านฉันห้าคน ป๊า แม่ เฮียซัน เฮียโซ่ แล้วก็ฉัน ส่วนครอบครัวอาสามหรือท่านเตวินทร์ มีแค่เฮียรบหรือนักรบที่อยู่ที่นี่ เพราะเฮียเรียนพร้อมกับพวกเฮียต้าร์เฮียโซ่ นอกนั้นอาสามอาซาร่าและยัยไซซีจะอยู่ฮ่องกงเป็นหลัก
แต่เมื่อไม่นานมานี้ไซซีก็ตัดสินใจจะมาเรียนที่ไทยกับฉัน เราเลือกเรียนคณะวิศวะเหมือนกันและสาขาเดียวกัน ตอนแรกที่รู้ฉันดีใจมากเพราะเราสนิทกัน แม้อยู่คนละประเทศก็ยังติดต่อกันตลอด
“หมวยมานอนเป็นแมวป่วยอะไรอยู่ตรงนี้” เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมแรงยวบของโซฟาทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปมอง แค่เห็นสีผมแดงเพลิงแสนโดดเด่นฉันก็รู้แล้วว่าใคร
เฮียต้าร์ลูกพี่ลูกน้องของฉัน
“หนูรอไปรับซีค่ะ” ฉันเด้งตัวขึ้นมานั่งเรียบร้อยบนโซฟา ก่อนจะเอ่ยปากบอกเสียงใส เฮียต้าร์เป็นคนใจร้อนขี้โวยวายแต่ใจดีกับฉันมาก ขอแค่บอกอยากได้อะไรก็หามาให้ได้ แม้จะเอาแต่ใจกับคนอื่นแต่ก็รักฉันมาก ป้าภาดาบอกว่าเฮียต้าร์อยากมีน้องสาวเหมือนเฮียโซ่เฮียรบ เลยชอบเอาใจฉันอยู่เรื่อย
“หืม ซีจะกลับมาเหรอ ทำไมเฮียไม่รู้” เฮียต้าร์ขมวดคิ้ว
“ใช่ค่ะ ซีอยากเซอร์ไพรส์ทุกคนโดยเฉพาะคุณปู่ เลยไม่ยอมบอกใคร”
“แล้วเราบอกเฮียทำไม”
“อ้าว หนูลืม...ฮ่า ๆ” ฉันยิ้มแห้งก่อนจะยกมือขึ้นมาเกาหัวกับความโก๊ะของตัวเอง ลืมไปเลยว่าห้ามบอกใคร
“เดี๋ยวเฮียทำเป็นไม่รู้”
“จริงเหรอ 0.0”
“ไม่อะ โกหก โอ๊ย!” ฉันที่กำลังดีใจได้ยินอย่างนั้นเลยหยิบหมอนออกมาฟาดเขาทันทีที่มากวนโอ๊ย
“ห้ามบอกใครนะ...เดี๋ยวซีจะงอน”
“เฮียล้อเล่น ไม่บอกหรอก” ต้าร์ยกยิ้มก่อนจะลูบผมน้องสาวสุดที่รักเบา ๆ เพราะโตมาด้วยกัน แม้ตัวเองจะดิบเถื่อนแค่ไหนก็ต้องซ่อนไว้เมื่ออยู่ต่อหน้าน้องสาว
“ดีลค่ะ…ว่าแต่คนอื่นไปไหนหมดเหรอ เฮียโซ่เฮียรบไปไหน หนูไม่เห็นมาสองสามวันแล้วนะ” ร่างบางถามอย่างแปลกใจ ลำพังบ้านหลังนี้นาน ๆ ทีจะมีคนมาอยู่ ลุงใหญ่กับภรรยาเดินทางไปดูแลกิจการที่ภูเก็ต ส่วนป๊ากับแม่ของเธอก็ไปดูกิจการที่ต่างประเทศ เหลือแค่เด็ก ๆ อย่างเราอยู่บ้านกับคุณปู่ แต่ถึงแม้อายุจะมากแล้วท่านก็ยังไปทำงาน
“พวกมันก็...”
“ก็อะไร ยังไงเนี่ย ทำไมตอบยากจังปกติเห็นตัวติดกันตลอด” เธอจ้องหน้าพี่ชายอย่างต้าร์ตาเขม็งอย่างจับผิด ช่วงนี้แทบไม่เห็นหน้าราวกับไม่ได้กลับมานอนที่บ้านกันเลย
“ติดฝึกงานไง...งี้แหละไอ้รบกับไอ้โซ่มันโง่เลยฝึกนานกว่าเฮีย” ต้าร์พูดไปกึ่งหัวเราะไปเพื่อปกปิดน้องสาวไว้ จะให้น้องรู้ไม่ได้ว่าพวกมันไปแข่งรถที่สนามช่วงดึก และเที่ยวผับก่อนจะแวะนอนคอนโดกัน
เรื่องนี้น้องสาวไม่รู้หรอก ต่อหน้าซินเซียก็ทำตัวปกติธรรมดา ไม่ได้ใช้ชีวิตโลดโผนเท่าไร
ส่วนคนตัวเล็กซ่อนแววตาแปลกประหลาดไว้ เธอคิดว่าบรรดาเฮียต้องปิดบังอะไรแน่ ๆ พวกเขาทำราวกับเธอเป็นเด็ก
“อย่าไปสนใจพวกมันเลย ว่าแต่กินข้าวยัง ไปหาอะไรกินไหม” เพื่อรับบทพี่ชายผู้แสนดีเขาเลยต้องรีบเบี่ยงประเด็นทันที และเอ่ยชวนน้องสาวไปหาอะไรกิน
“ก็ได้ค่ะ งั้นเลยไปรับซีที่สนามบินเลยนะ” ร่างบางกอดแขนแกร่งไว้ ส่งสายตาออดอ้อนอย่างเคยชิน แต่คนที่เคยใจดีนิ่งไปสักพักเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
“เอ่อ แค่กินข้าวได้ไหมเฮียมีธุระ” ซินเซียปล่อยแขนพี่ชายทันที เธอเริ่มรู้สึกว่าพวกเขาแปลกเพราะปกติไม่เคยจะปฏิเสธ
“ก็ได้ค่ะ งั้นขับรถไปคนละคัน” เธอเสนอเพราะขี้เกียจทำตัวงี่เง่ากับพี่ชาย
“อืม แต่ขับตามเฮียมานะอย่า”
“อย่าขับเร็ว มองถนน ห้ามเล่นมือถือและคุยโทรศัพท์ รับทราบแล้วค่ะ!” เธอยกมือขึ้นมาห้ามเฮียต้าร์ ก่อนจะเอ่ยทวนคำพูดที่เขามักจะพูดประจำแล้วทำหน้าเซ็ง ๆ ให้กับเขา พลางคิดไปว่าโชคดีที่เธอมีความคิดเป็นของตัวเอง ขืนเชื่อพวกเขาทุกอย่างเธอได้ใช้ชีวิตนอกบ้านลำบากแน่ ดีไม่ดีอาจจะเป็นคนซึมซื่อคิดอะไรไม่เป็นแน่ ๆ
“ทำหน้าเป็นตูดทำไม...นี่ห่วงนะเนี่ย”
“ชิ! ไปได้แล้วค่ะ หิว!!” ซินเซียลุกจากโซฟาก่อนจะดึงแขนพี่ชายออกจากบ้านทันทีเพราะขี้เกียจต่อล้อต่อเถียง
ทั้งคู่ขับรถมาทานอาหารญี่ปุ่นที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำในย่านนี้
ร่างบางใส่ชุดสบาย ๆ เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นและรองเท้าผ้าใบ ใบหน้าสวยหวานราวตุ๊กตาทำให้หลายคนอดมองแล้วใจกระตุกไม่ได้ ดูบอบบางราวกับจะแตกสลาย ยิ่งผิวสะท้อนแสงยิ่งเสริมให้คนตัวเล็กราวกับมีออร่ารอบกาย
หมับ!
แต่ความหวังของชายหนุ่มแถวนั้นต้องมลายหายไป เมื่อคนตัวเล็กวิ่งไปกอดแขนแกร่งของชายหนุ่มที่ท่าทางดูอันตราย เรือนผมสีแดงเพลิง
“ไปกันเลยไหมคะ”
“มาเร็วมาก บอกให้ขับช้า ๆ เฮียรอได้”
“ไม่ค่ะ ขับช้าก็ไม่ทันกิน”
“ยัยเด็กตะกละ!”
“ยอมรับ วันนี้เลี้ยงหนูด้วยนะ เงินเดือนเอาไปซื้อกระเป๋าหมดแล้ว”
“ไม่เชื่อ”
“แล้วแต่”
ร่างสูงส่ายหัวอย่างไม่เชื่อ ในบ้านนี้คงไม่มีใครรวยเท่าเด็กคนนี้อีกแล้ว เพราะรายรับหลายทางเหลือเกิน ทั้งพ่อ แม่ พี่ชายสองคน และแม้แต่ตัวเขาเอง ไปไหนก็เลี้ยงตลอด เอาเป็นว่าซินเซียแทบไม่ได้ใช้เงินตัวเองเลยละ
ทั้งคู่เดินเข้าไปในร้านอาหารที่เป็นหนึ่งในร้านประจำ อย่างที่บอกว่าทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกันมาก เหมือนเกิดมาจากท้องเดียวกัน ยิ่งของกินยิ่งชอบเหมือนกันจนบางครั้งเธอยังแอบคิดเลยว่า ตัวเองควรเป็นน้องแท้ ๆ ของเฮียต้าร์มากกว่าเฮียโซ่อีก รายนั้นชวนไปกินของอร่อยยากเหลือเกิน
“หมวยเอาอะไร ซาชิมิไหม?” ต้าร์ถามพลางดูเมนูไปด้วยและร่างบางก็พยักหน้าตอบ ไม่ว่าเขาจะเลือกเมนูไหนก็เป็นของที่เธอชอบทั้งนั้น ท่าทางใส่ใจของชายหนุ่มที่มีต่อหญิงสาวทำเอาสาว ๆ หลายคนแอบมองตาเป็นมัน พลางอิจฉาซินเซียอยู่ในใจที่ได้รับการดูแลจากหนุ่มหล่อขนาดนี้
โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่ามีชายหนุ่มสองคนเดินผ่านร้านพอดี เพียงเห็นเส้นผมสีแดงโดดเด่นพวกเขาก็รู้แล้วว่าเป็นใคร ร่างสูงใบหน้าเรียบนิ่งมีรอยสักเต็มแขนขวากำลังจะเดินเข้าไปทักทาย แต่โดนมือหนาของเพื่อนคว้าไว้ซะก่อน
“มีอะไรวะเสือ”
“มันอยู่กับผู้หญิง”
“เออ จริงด้วย...งั้นไม่ไปทักมันหรอก”
“อืม”
เสือพยักหน้าอย่างเห็นด้วยก่อนจะละสายตาและเดินผ่านร้านอาหารไป แม้ไม่เห็นหน้าของผู้หญิงที่เพื่อนพามาด้วย แต่เขาก็มั่นใจว่าต้องสวยแน่นอน แค่เห็นข้างหลังยังดูดีขนาดนี้ข้างหน้าจะขนาดไหน จนเขาต้องสลัดความคิดไร้สาระของตัวเองออกไป
สวยแค่ไหนเขาก็ไม่สนหรอกถ้าของเพื่อน...
หมับ!ใครบอกเขาไม่มีแรง โกหกทั้งเพ! เพราะนอกจากจะกอดรัดฉันขึ้นเตียงอย่างรวดเร็วแล้ว เขายังตามมาทาบทับอีก ใบหน้าหล่อเหลาของไฟจ้องมองเต้าอวบตาเป็นประกาย มือหนายื่นไปบีบขยำก่อนจะรู้สึกว่ามันใหญ่ขึ้นมาก“เธอแอบไปเสริมหน้าอกมาเหรอ”“บ้า ฉันจะไปเสริมทำไม แล้วไหนบอกไม่มีแรง...เดี๋ยวนี้หัดโกหกฉันเหรอ”“เปล่าไม่ได้โกหก แค่จะขอชิมเล็กน้อยเอง ไม่ทำอะไรหรอก”“อะ เบาหน่อยสิ เจ็บนะ”ควีนนิ่วหน้าเมื่อไฟไม่อ่อนโยน เขาสลัดคราบคนป่วยทิ้งจนหมด เพราะตรงหน้าเธอเห็นเพียงเสือที่เตรียมขย้ำเหยื่อ ตอนแรกแค่อยากจะแกล้งแต่ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วก็คงต้องเลยตามเลยดวงตาคมกริบระยิบระยับจ้องมองยอดอกที่โดนนิ้วแกร่งสะกิดก็แข็งเป็นไตแล้ว ก่อนที่ริมฝีปากจะได้ครอบครอง สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อความพะอืดพะอมตีขึ้นมาจ่อที่คอหอยเขาอีกแล้ว ไฟรีบผุดลุกออกจากเตียงและไปห้องน้ำอย่างรวดเร็ว“ไฟ...เป็นอะไร”อ้วกกกกก!!!แค็ก แค็ก แค็กควีนเห็นท่าไม่ดีเลยโทรหาพี่วิทย์ บอดี้การ์ดของเขาให้มารับ ส่วนเธอก็รีบไปแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วมาดูเขาที่กำลังนั่งอ้วกอยู่ชักโครกอย่างน่าสงสารโรงพยาบาลแอล“ร่างกายอ่อนเพลียนะครับ” คุณหมอวัยกลา
3 ปีผ่านไปอ้วกกกก!!!“เป็นยังไงบ้าง”“ควีนนน”เช้ามืดฉันงัวเงียตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงคนข้างกายขยับลงจากเตียงและเสียงโอ้กอ้ากภายในห้องน้ำ จึงตามมาดูแล้วเห็นสภาพน่าสงสารของเขาที่นั่งโก่งคออ้วกอย่างหมดแรง เมื่อเขาเห็นฉันก็หันมากอดเอวฉันแน่น“นายไม่สบายเหรอ”“ไม่รู้สิ ตื่นมาก็รู้สึกพะอืดพะอมอยากอ้วก”“ตัวก็ไม่ร้อน แล้วตอนนี้อาการเป็นยังไง”“ดีขึ้นนิดหน่อยแล้ว”เธอประคองร่างสูงมานอนบนเตียง โดยที่เขายังนอนกอดเอวเธอไม่ยอมปล่อย ใบหน้าหล่อเหลาซีดเซียวอย่างน่าสงสาร“วันนี้คงไปทำงานไม่ได้ เดี๋ยวฉันเข้าไปดูบริษัทให้”จากนั้นฉันเลยโทรเรียกคุณหมอประจำตระกูลเข้ามาตรวจอาการก็ไม่พบความผิดปกติ หมอเลยวินิจฉัยว่าไฟอาจจะพักผ่อนไม่เพียงพอ ยิ่งช่วงรับตำแหน่งประธานบริษัทมาใหม่ เขาเลยต้องทุ่มเทเพื่อพิสูจน์ตัวเองหลังเรียนจบไฟเข้าไปทำงานที่บริษัทของคุณแม่ก่อน ปีที่แล้วพึ่งได้รับตำแหน่งประธานแบบเต็มตัว ส่วนปีนี้ก็เป็นคราวของบริษัทเจเคของพ่อเขา ซึ่งหลังจากเริ่มเข้ามาทำงานในบริษัทเขาก็คุยกับพ่อเขามากขึ้น ถึงจะไม่สนิทมากก็ตามส่วนครอบครัวของภรรยาน้อยก็มีเพียงไทม์ที่ได้เข้ามาทำงาน แต่ไม่ใช่ตำแหน่งใหญ่โตอะไร พอ
ตลาดปลาบางแสนหลังจากสอบมิดเทอมก็มีเวลาให้เธอได้หายใจหายคอก่อนจะเข้าสู่โหมดการเรียน วันหยุดไฟเลยพาฉันมาเปิดหูเปิดตาไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มาก และเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่อย่าง ตลาดปลาบางแสน ที่เสมือนเอาญี่ปุ่นมาวางไว้ที่นี่บรรยากาศดีมากได้กลิ่นอายทะเลนิดหนึ่งและของกินเยอะ เพียงแต่ฉันไม่ใช่สายกินเลยไม่รู้จะกินอะไร คงเพราะติดนิสัยตอนเป็นนางแบบที่ต้องรักษาหุ่นตลอดเวลา ต่างกับไฟที่รู้จักของอร่อยเยอะเลย“อะนี่ ได้แล้ว ลองชิมดู”พ่อหนุ่มฮอตของฉันเดินถือไม้สตรอว์เบอร์รีเคลือบน้ำตาล ก่อนจะยื่นมาตรงหน้าฉัน แลดูน่ากินแต่ฉันไม่รู้จัก คงเพราะเขาเห็นฉันคิ้วขมวดมั้งเลยยกยิ้ม“อันนี้เรียกว่าถังหูลู่ เป็นผลไม้เคลือบน้ำตาล ตอนเด็กฉันไปเที่ยวปักกิ่งแล้วเห็นเขาวางขาย อร่อยนะลองชิมดู...แต่กินเยอะไม่ได้”“อืม ก็น่าอร่อยดี ลองก็ได้”ริมฝีปากอวบอิ่มกัดเข้าไปคำแรกสัมผัสได้ถึงรสชาติหวานอมเปรี้ยว คงเพราะได้รสเปรี้ยวจากสตรอว์เบอร์รีสดที่อยู่ภายในน้ำตาลเคลือบ“เป็นไง”“อืม อร่อย”“ก็เหมือนลูกอมที่เธอชอบตอนเด็กแหละ”“จริงด้วย”เนี่ยเขาใส่ใจและรู้ใจฉันมากกว่าตัวฉันเอง ตอนเด็กมันนานมากแล้วแม้แต่นิสัยตอนเด็กยังจำแทบไม่ได้
เมื่อเพลิงพิศวาสมาถึงจุดสูงสุด เขาก็กระแทกกายแกร่งถี่รัวใส่กุหลาบฉ่ำเยิ้มที่รัดตัวตนเขาแน่น ก่อนจะส่งเธอจนถึงฝั่งฝันและเกร็งกระตุกสองสามทีตามเธอไปติด ๆ“รักเธอจังเลยควีน”คนตัวเล็กนอนหอบอยู่บนเตียงอย่างเหน็ดเหนื่อย ปรือตามองร่างสูงที่ซบหน้าอยู่บนหน้าอกของเธอ เมื่อได้ยินเสียงแหบพร่าของเขาพูดอะไรสักอย่าง“อย่าพึ่งหลับ”ร่างสูงลุกขึ้นมาก่อนจะจับพลิกคนตัวเล็กที่ตัวอ่อนปวกเปียกให้นอนคว่ำ และแทรกตัวตนขนาดใหญ่เข้ามาจนเธอร้องลั่นเมื่อรู้ชะตากรรมตัวเอง“ฮือ เหนื่อยแล้วอ่าา”“เธอทำตัวเองจะโทษฉันไม่ได้”“ไม่สงสารฉันเหรอ”ร่างบางที่ใบหน้าแนบกับหมอนส่งเสียงอย่างน่าสงสาร ให้เขาเห็นใจลดบทลงโทษให้เธอ“ไหนว่าจะทำให้ฉันเป็นของเธอไง...นี่มีแต่ฉันทำฝ่ายเดียว คนที่น่าสงสารมันคือฉันนะ”เขากดกระแทกสะโพกลงมาและเริ่มขยับอีกครั้ง ท่านี้ลึกมากจนเธอเผลอหลุดครางตั้งแต่โดนกระแทกครั้งแรก“เห็นไหมว่าฉันลงแรงขนาดไหน...เธอแค่นอนเฉย ๆ เองนะ”นอนครางต่างหากย่ะ!!!ไม่ใช่นอนเฉย ๆ เธอคิดในใจอย่างไม่ยินยอมที่เขาพูดมาเหมือนตัวเองเป็นคนเสียเปรียบเธอ มันใช่ที่ไหนล่ะ!!!ตับ ตับ ตับเพียะ!!“อ๊า...เจ็บนะ” ร่างเล็กงึมงำเมื่อโดนม
เขาคำรามในลำคอเมื่อริมฝีปากอวบอิ่มครอบครองตัวตนของเขาอยู่ สลับกับลิ้นเล็กน่ารักที่กำลังไล่เลียตัวตนแข็งขืนจนทำให้อารมณ์เขาพลุ่งพล่าน มือหนายื่นออกมากดหัวเธอกระแทกเข้าออกเร็วขึ้นจนเธอแทบสำลัก“อ่า...พอแล้ว”“อะ เดี๋ยวสิ!!!”เมื่อโดนคนตัวเล็กปรนเปรอด้วยปากจนเสร็จ เขาก็จัดการดึงยัยตัวแสบขึ้นมาวางบนอ่างล้างหน้า จับเรียวขาแยกออกจากกันและแทรกกายเข้ามา ดวงตาคมมีเสน่ห์จ้องมองคนตัวเล็กไม่ละสายตาจนเธอเขิน เนื้อตัวแดงระเรื่อภายใต้ไฟสีส้มสลัว สภาพแบบนี้ทำให้เขาอยากจะรังแกเธอจนลุกไม่ขึ้นไปอีกหลายวันนิ้วโป้งปาดคราบสีขาวขุ่นบนริมฝีปากเล็กออกมา ก่อนจะดูดมันพลางมองใบหน้าแดงระเรื่อของคนเมา สายตาอ้อนออดนั้นอีกใครใช้ให้ทำสายตาแบบนี้กัน“เอาเลยนะ”“อื้อ อะ”มือหนาจับเรียวขาสวยเกี่ยวสะโพกสอบไว้แน่น พร้อมกับชักรูดท่อนลำสักพักและดันเข้าร่องรักพรวดเดียว จนคนตัวเล็กจิกเล็บลงบนบ่าแกร่งความคับแน่นของเธอทำให้เขาเหงื่อออกตามไรผมเพราะต้องรอให้ภายในเธอพร้อมก่อน ไฟโน้มหน้าลงไปประกบจูบเธอด้วยอารมณ์หลากหลายผสมกับแรงเสน่หา มือหนาละจากเรียวขาขึ้นมาลูบไล้แผ่นหลังนวลและเลื่อนขึ้นมากอบกุมความอวบอิ่มข้างหน้าปลายนิ้วแตะลง
คอนโด TCตุ้บ!“โอ๊ยยย เจ็บนะ”“เจ็บสิดี จะได้จำ”หลังจากอุ้มร่างบางออกมาจากผับเธอก็หลับคารถเลยแถมกลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวเธอก็คละคลุ้งไปหมด แสดงว่ากินมาเยอะยิ่งเห็นยิ่งหงุดหงิดกับสภาพคนเมา คออ่อนแล้วกินอะไรขนาดนั้น ร่างสูงเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กบนเตียงก่อนจะกระชากชุดเดรสออกแควก!“อร๊าย...จะทำ...อาราย” มือบางปัดป้องแต่ไม่ช่วย“อยู่นิ่ง ๆ ได้ไหม”“ม่ายยย นะ...นายอึก”“ทำไม จำฉันได้แล้วเหรอ”คนเมาได้แต่อ้ำอึ้ง สมองมึนเบลอ แต่เพราะไฟในห้องสว่างเธอจึงเห็นเขาชัดบ้างไม่ชัดบ้าง มองเขาจัดการลอกคราบเธอจนร่างกายเปลือยเปล่า สายตาร้อนแรงของเขาทำเอาเธอหนาวสั่นไฟไล่สายตามองร่างบางขาวผ่องสะท้อนแสงไฟภายในห้อง แล้วกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากอยู่สักพัก ก่อนจะตัดใจแล้วอุ้มคนเมาเข้าไปในห้องน้ำและจัดการทำความสะอาดให้“สรุปว่าจำได้ไหม”“อือ”“แล้วในผับผีตัวไหนมันเข้าสิงเธอ”“กะ...ก็” เธออึกอักไม่รู้จะตอบยังไง ตอนนั้นเมามากอะ ก่อนจะได้ตอบเขาก็เปิดฝักบัวแล้วซ่า! ซ่าสายน้ำเย็นฉ่ำไหลลงมาบนร่างบางจนเธอยกแขนขึ้นมากอดตัวเอง เมื่อร่างกายอุ่นร้อนสัมผัสกับความเย็นทุกสิ่งทุกอย่างดูเชื่องช้าไปหมดในสายตาเธอ ไหนจะพื้นเอี
Comments