Masukพศินและลูกน้องตรวจสอบเรื่องผู้หญิงที่นอนกับรามิลจนรู้ว่าเธอคือใครจากนั้นเขาก็โทรศัพท์ไปบอกแม็กซิมเพื่อให้รายงานกับเจ้านาย
“พรุ่งนี้ฉันจะไปถึงเมืองไทยแล้ว จัดการเรื่องผู้หญิงคนนั้นแล้วใช่ไหม” เมื่อพูดถึงเรื่องคืนนั้นรามิลก็อดคิดถึงผู้หญิงตัวเล็กผิวขาว ใบหน้าจิ้มลิ้มที่เร่าร้อนจนเขารู้สึกติดใจจนต้องบินไปหาเธออีกครั้งทั้งที่แต่ก่อนไม่ชอบนอนกับคนเดิม
“เรารู้แล้วครับว่าเธอเป็นใคร”
“รู้แล้ว ??....” เขาแปลกใจกับคำตอบ
“อันที่จริง เธอไม่ใช่คนที่เอเย่นส่งมา”
“อะไรนะ” รามิลวางงานตรงหน้าแล้วกอดอกเอนหลังพังกับพนักพิงเพื่อตั้งใจฟังสิ่งที่ลูกน้องกำลังจะบอก
พศินเล่าให้รามิลฟังว่าคืนนั้นผู้หญิงที่รามิลนอนด้วยมาหาผู้ชายที่ชื่อเสี่ยสมานที่พักอยู่ห้องตรงข้าม ส่วนผู้หญิงของเอเย่นก็ไปที่ห้องของเสี่ยสมาน
“ติดต่อเธอได้ไหม”
“เรารู้ว่าเธอชื่ออะไรและพักอยู่ที่ไหนแต่ยังไม่ได้เข้าไปคุยกับเธอครับ”
“รู้อะไรเกี่ยวกับเธอบ้าง”
“เธอชื่อเอริญาครับ ตอนนี้เรียนอยู่ปีสี่ พักอยู่กับเพื่อนที่หอพักครับ”
“เธอรับงานของเสี่ยคนนั้นเหรอ”
“ไม่ใช่ครับ เท่าที่ได้ข้อมูลมาคือเธอมีแฟนอยู่คนหนึ่งแล้วคืนนั้นแฟนเธอให้เธอไปคุยกับเสี่ยคนนั้นเรื่องเปิดร้านอะไรสักอย่าง”
“หมายถึงไปคุยงานน่ะเหรอ” เขาถามอย่างสนใจ
“ครับ”
รามิลรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเม็คเซนต์เท่าไหร่เพราะการไปคุยงานไม่น่าจะไปในเวลานั้นแล้วอาการของเธอดูก็รู้ว่าถูกวางยาก่อนที่จะมาเจอเขา
“แล้วทำไมถึงต้องไปคุยดึกแบบนั้น” เขาถามอย่างสงสัยเพราะมันไม่ใช่เวลาที่ใครจะคุยเรื่องงานเลย
“เธอถูกแฟนหลอกไปครับ แฟนเธอติดหนี้เสี่ยสมานก็เลยหลอกให้เธอไปนอนกับเสี่ยเพื่อปลดหนี้ครับ” เขาอธิบายตามที่ได้คุยกับพศินมา
“นายรู้ละเอียดเกินไปหรือเปล่าแม็กซิม”
“แต่ผมไม่รู้ว่ามันจริงไหม”
“ใครเล่าให้นายฟังล่ะ”
“พศินได้คุยกับน้องของเสี่ยครับ และดูเหมือนว่าเสี่ยยังไม่เลิกล้มความตั้งใจที่จะนอนกับเธอ”
“นายคิดว่าเธอจะไปนอนกับเขาไหม” รามิลหน้าเครียดเพราะกลัวว่าเธอจะไปนอนกับคนอื่นก่อนที่ตัวเขาจะกลับไปเมืองไทย
“คงไม่หรอกครับเธอกับเสี่ยไม่เคยเจอกันคนที่ติดต่อให้เธอไปเจอกับเสี่ยก็คือแฟนของเธอ แต่ตอนนี้เธอก็บอกเลิกเขาไปแล้ว”
“เลิกแล้วเหรอ” เขาแอบยิ้มเพราะไม่ชอบนอนกับคนที่มีเจ้าของและก็รู้ว่าเขาคือคนแรกของเธอและจะไม่ยอมให้เธอไปนอนกับใครถ้าเขายังไม่เบื่อ
“ดูคุณรามิลสนใจเธอมากเลยนะครับ”
“นายคิดว่าฉันผิดไหมที่นอนกับเธอคืนนั้น”
“เธอเป็นคนเดินเข้ามาในห้องเอง ไม่มีใครบังคับเธอนะครับ” เขาให้เหตุผลเข้าข้างเจ้านาย
“ถ้าคืนนั้นฉันฟังสิ่งที่เธอพูดสักนิด เธอก็คงไม่ต้องนอนกับฉัน”
“คืนนั้นคุณโดนยานะครับ” แม็กซิมเตือนความจำเจ้านาย
“มันก็ใช่ ฉันโดนยาและเธอก็น่าจะโดนเหมือนกัน”
“แล้วคุณรามิลจะจัดการเรื่องนี้ยังไงต่อ ในเมื่อเธอไม่ใช่เด็กของเอเย่น ให้พศินส่งคนไปคุยกับเธอดีไหมครับ เสนอเงินเยอะหน่อย เธอยังเรียนอยู่และกำลังต้องการเงินทุนเปิดร้านเบเกอรี่ผมว่าเธอน่าจะอยากได้เงินเพิ่ม ตอนนี้เธอกำลังทำงานพิเศษช่วงปิดเทอมด้วยครับ”
“เอาไว้ไปถึงที่นั่นแล้วฉันจะจัดการอีกที”
“ได้ครับ ถ้างั้นผมขอตัวก่อน”
เมื่อลูกน้องเดินออกจากห้องไปแล้วรามิลก็นั่งทำงานต่อแต่เวลาผ่านไปสักพักสมาธิของเขาก็ไม่อยู่ที่งานตรงหน้าเลยเมื่อนึกถึงการกลับไปเมืองไทยและได้เจอกับผู้หญิงที่เขารู้สึกถูกชะตาเอามากๆ
“เอริญาเหรอชื่อเธอแปลกดีเหมือนกันนะ” เขาพึมพำกับตัวเอง รอยยิ้มปรากฏที่มุมปาก เมื่อคิดว่าถ้าเจอกันอีกครั้งจะพูดอะไรกับเธอ
ในวันที่ตื่นเช้ามาแล้วเจอเธอนอนอยู่บนเตียงเขาไม่คิดจะสานต่อความสัมพันธ์หรืออยากจะรู้จักเธอเลยสักนิดแต่เมื่ออยู่ห่างเธอกลับมันเหมือนกับมีอะไรติดค้างอยู่ในใจ
รามิลไม่รู้ว่าเป็นเพราะที่เขากับเธอนอนด้วยกันคืนนั้นต่างก็เพราะฤทธิ์ยาด้วยกันทั้งคู่เขาเลยอยากจะนอนกับเธออีกสักครั้งเพราะอยากจะรู้ว่าในเวลาปกติเธอจะเร่าร้อนเหมือนอย่างคืนนั้นไหมหรือเป็นเขาที่หลงมัวเมาเพราะขาดสติ
การเจอกันและได้นอนกับเธออีกครั้งนั้นอาจจะพิสูจน์ได้ว่าทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นเพราะอารมณ์ความรู้สึกหรือเพราะฤทธิ์ยากันแน่
มาเฟียหนุ่มนึกทบทวนเรื่องราวที่ได้ฟังมาจากแม็กซิมแล้วก็ถอนหายใจ ถ้าหากคืนนั้นเธอไม่เข้าห้องผิดและไปนอนกับผู้ชายอีกคนที่แฟนเธอส่งให้ไปเจอเขาก็คงรู้สึกเสียดายมากๆ ตอนนี้รามิลกำลังรู้สึกสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง ทั้งสงสารที่เธอถูกแฟนหลอกมานอนกับผู้ชายอื่นทั้งเห็นใจและรู้สึกไม่แน่ใจว่าเธอเองก็รู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้วหรือเปล่า
“เฮ้อ....ฉันจะต้องหาคำตอบเรื่องนี้ให้ได้”
เช้าวันรุ่งขึ้น
“คุณรามิลจะไม่ให้ผมไปด้วยจริงๆ เหรอครับ” แม็กซิมถามย้ำอีกครั้ง
“ครั้งนี้ฉันไม่ได้ไปทำงานอะไรมาก พศินน่าจะเอาอยู่นายก็หาเวลาอยู่กับแฟนเถอะ เดี๋ยวแฟนนายจะงอนเอานะที่นายเอาเวลามาติดอยู่กับฉันตลอดเกือบ 24 ชั่วโมง”
“ไม่หรอกครับ แฟนผมเข้าใจว่าที่มันเป็นเพราะงาน”
“ปากผู้หญิงก็บอกว่าเข้าใจนั่นแหละสุดท้ายเธอก็งอน น้อยใจแล้วก็หนีไปเหมือนแฟนเก่าฉันไงล่ะ”
“คุณรามิลครับผู้หญิงไม่ได้เหมือนกันทุกคนนะ ผมมั่นใจว่ายังไงแฟนผมก็ไม่มีทางโกรธผมอย่างเด็ดขาด”
“เอาน่านายอย่ามัวพูดมากเลยฉันจะ ต้องไปแล้ว”
“ผมขอให้คุณรามิลได้เจอกับคุณเอริญาและเธอยอมมาอยู่กับคุณในช่วงที่คุณกลับไปอยู่เมืองไทยนะ”
“แทนที่นายจะอวยพรให้ฉันเดินทางปลอดภัยพักผ่อนอย่างมีความสุข ทำไมถึงอวยพรฉันแบบนี้ล่ะ”
“ก็ผมรู้ว่าคุณตั้งใจจะไปหาเธอจริงๆ ผมรู้จักคนดีกว่าใครนะครับคุณรามิล ถ้ารู้สึกว่าเธอใช่ก็พาเธอกลับมาเป็นนายหญิงที่นี่สิ”
“มันคงไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ฉันก็แค่จะจะกลับไปเจอเธออีกสักครั้งก็แค่นั้นเอง”
“แค่นั้นเหรอครับฉัน”
“บอกว่าแค่นั้นก็แค่นั้นสิแม็กซิม นายจะมาเซ้าซี้อะไรกับฉันเอาล่ะไปบอกกัปตันว่าฉันพร้อมจะเดินทางแล้ว ส่วนนายก็ลงไปจากเครื่องนี้ก่อนที่ฉันจะเตะนายลงไป”
“ผมรู้ว่าคุณไม่ใจร้ายกับผมหรอกน่า โชคดีนะครับ” เขาหัวเราะก่อนจะเดินไปบอกกับกัปตัน
เมื่อเครื่องเท็คอ็อฟรามิลก็นั่งจิบวิสกี้อยู่บนเครื่องที่กำลังบินลัดฟ้าจากน่านน้ำรัสเซียมายังประเทศไทย
เมื่อคืนที่ผ่านมาเขาแทบจะนอนไม่หลับเลยเมื่อคิดถึงเรื่องระหว่างตนเองกับหญิงสาวที่ชื่อเอริญาในห้องสวีทของโรงแรมเมื่อสองสัปดาห์ก่อน
“คุณต้องช่วยหนูนะคะ หนูไม่ไหวแล้วจริงๆ”
“ถ้าฉันช่วยเธอแล้วไม่ใช่ว่าพรุ่งนี้เช้ามาโวยวายว่าฉันข่มขืนเธอนะ”
“ไม่ใช่อย่างงั้นหนูยอมจริงๆ หนูไม่ไหวแล้วได้โปรดนะคะคุณขา....ช่วยหนูนะ”
เสียงหวานที่ร้องขอยังกึกก้องอยู่ในห้องความคิด รามิลแทบจะอดทนรอไม่ไหวที่จะได้กลับไปเจอเธอ สองอาทิตย์ที่เขาไปพักผ่อนเมืองไทยคงจะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข มาเฟียหนุ่มหลับตาเมื่อนึกถึงเรื่องราวเหตุการณ์คืนนั้นอีกครั้ง
“หนูมีความสุขที่สุดเลยค่ะ” เอริญาพูดกับรามิลหลังจากทั้งสองทานอาหารเที่ยงด้วยกันแล้ว หญิงสาวพิงศีรษะบนอกของเขาแล้วกอดไว้แน่น“ฉันก็เหมือนกัน หายน้อยใจฉันแล้วใช่ไหม”“ยังเหลืออีกนิดหน่อย”“งั้นให้ฉันชดเชยความสุขให้อีกดีไหม” รามิลถามพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“เอาไว้ก่อนดีไหมคะ หนูอยากคุยกับคุณก่อน”“จะคุยอะไรล่ะ”“หนูอยากรู้ว่าที่คุณหายไปนานไปทำอะไรบ้างคะ แอบไม่คนอื่นหรือเปล่า”“ฉันทำงานอย่างเดียวเลย ฉันบินไปหลายประเทศแต่รับรองว่าไม่มีคนอื่นอย่างแน่นอน“หนูเชื่อใจคุณได้ใช่ไหมคะ”“ได้สิ ฉันคิดถึงเธอตลอดเวลาเลยนะ คิดถึงมากที่สุด เธอต้องทำเสน่ห์ใส่ฉันแน่ๆ ฉันถึงได้หลงเธอขนาดนี้”“คุณต่างหากที่ทำเสน่ห์ใส่หนู ตอนคุณไม่อยู่หนูคิดถึงคุณมากๆ คุณรามิลจะว่าอะไรไหมถ้าหนูบอกว่าหนูรักคุณ” เพราะไม่อยากจะเก็บความรู้สึกนี้ไว้กับตัวเองอีกแล้ว เธอไม่หวังเขาตอบรับความรักของเธอแต่คิดว่าบอกออกไปแล้วน่าจะสบายใจมากกว่า“รักเหรอ”“ค่ะ หนูรักคุณรามิลว่ามันน่าอายไหมคะที่หนูเป็นผู้หญิงแต่ไปบอกรักผู้ชายก่อน”“มันไม่น่าอายเลยถ้าผู้ชายที่เธอบอกรักคือฉันเพราะฉันคิดว่าตอนนี้ฉันอาจจะหลงรักเธอไปแล้วเหมือนกัน” รามิลพูดความ
มาเฟียหนุ่มยืนขึ้นประกบจูบลงบนปากอีกครั้ง เอริญาตอบรับด้วยความเต็มใจ เมื่อปลายลิ้นหนาส่งเข้ามาในโพรงปากเล็กกวาดต้อนความหวานอย่างหลงใหล รามิลไม่เคยรู้สึกอยากจูบกับใครจนแทบจะกลืนกินแบบนี้มาก่อน แต่กับเอริญาแล้วเขาแทบไม่อยากจะหยุดจูบเลยสักนิด กว่าเขาจะยอมปล่อยริมฝีปากให้เป็นอิสระหญิงสาวก็แทบขาดใจ“คุณรามิล อยากให้หนูกินคุณบ้างไหม”“ถามมาได้ไม่คิด ฉันอยากใจแทบขาดแล้ว”แล้วเอริญาก็คุกเข่าลงเธอเงยขึ้นสบตาคมของมาเฟียหนุ่มแล้วยิ้มยั่วยวนก่อนจะยื่นมือมาสัมผัสกับความเป็นชายที่แข็งตระหง่านอยู่ตรงหน้า“อื้อ....อ่า....มือเธอนุ่มมากเอริ”เพียงแค่มือของหญิงสาวสัมผัสรามิลก็ครางสะท้าน เอริญาส่งลิ้นร้อนสัมผัสส่วนปลายอย่างแผ่วเบา ไล้วนส่วนหัวหยักแล้วลากปลายลิ้นเปียกชื้นลงมายังส่วนโคนหยอกเย้ากับก้อนกลมที่กดเกร็ง เธอรู้ว่าเขาชอบแบบไหนและวันนี้ก็ตั้งใจจะให้เขามีความสุขอย่างที่สุด“อูซ.....อ่า....”เสียงแหบพร่าครางฮึมฮัมอยู่ในลำคอก็ยิ่งทำให้เอริญาได้ใจ ปากเล็กขบเม้มเรื่อยๆ จากโคนถึงปลาย ก่อนจะตวัดปลายลิ้นรอบรอยหยัก มือใหญ่ลูบศีรษะและกดเบาๆ ให้เธอกลืนกินแท่งร้อนอย่างแนบชิด“เยี่ยมที่สุด สุดยอดเมียของฉัน”ใบห
เอริญากลับมาจากมหาวิทยาลัยในเวลาบ่าย หญิงสาวเผลอหลับไปบนโซฟาและตกใจตื่นอีกครั้งในเวลาค่ำ ภายในห้องกว้างดูเงียบเหงานั่นก็ยิ่งทำให้คิดถึงรามิลมากขึ้นไปอีก“คุณใจร้ายมากนะ ทำไมไม่โทรหากันบ้าง” หญิงสาวบ่นกับตัวเอง ตอนนี้เธอเริ่มชินชากับการอยู่คนเดียวและคิดว่ามันคงจะเป็นแบบนี้ไปตลอดหญิงสาวอยากถามข่าวคราวของรามิลจากลูกน้องของเขาแต่คิดว่าถามไปคำตอบก็คงจะเหมือนเดิมและเธอก็ไม่อยากจะเซ้าซี้เพราะคิดว่าคนเราถ้ามีใจจะตื๊อไปก็เท่านั้นเอริญาถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำความสดชื่นจากสายน้ำทำให้หญิงสาวรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้างแม้ว่าภายในหัวใจจะรู้สึกห่อเหี่ยวมากก็ตามเอริญากำลังยืนอาบน้ำอยู่ใต้ฝักบัวอยู่พักใหญ่ เมื่ออาบน้ำเสร็จปิดน้ำและหันหลังกลับแต่ก็ต้องตกใจเมื่อหันมาชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ของรามิล“คุณรามิล...ใช้คุณจริงด้วย” หญิงสาวกอดเขาโดยไม่สนใจว่าตัวเองยังไม่ได้สวมเสื้อผ้าเลยสักชิด“ก็ใช้ฉันน่ะสิ เธอคิดว่าใคร”“หนูคิดถึงคุณ” เธอกอดเขาแน่นเสียงพูดสั่นเครือด้วยความดีใจ“ฉันก็คิดถึงเธอนะ” รามิลกระชับอ้อมกอดแน่น จมูกโด่งหอมไปบนหน้าปากด้วยความคิดถึง“แต่คุณมาช้า....”“มา
หลังจากคุยโทรศัพท์กับรามิลในวันนั้นก็ผ่านมาอีกสองสัปดาห์แล้วแต่มาเฟียหนุ่มก็ยังไม่มาหามิหนำซ้ำยังโทรมาหาเอริญาแค่ครั้งเดียวจากนั้นก็เงียบหายไปนานหลายวัน“แกเป็นอะไรเอริ หน้าเครียดมาหลายวันแล้วนะ” ญาณิศาสังเกตมาหลายวันแล้วว่าเพื่อนไม่ค่อยร่าเริงเหมือนก่อน“มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย” เอริญาถอนหายใจก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ สีหน้าของหญิงสาวดูเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด“เรื่องร้านเหรอ มีปัญหาตรงไหนล่ะมีอะไรให้ฉันช่วยไหมบอกได้นะ”“ไม่ใช่เรื่องร้านหรอกณิ ฉันเครียดเรื่องคุณรามิลน่ะ”“ทะเลาะกันเหรอ”“ไม่เชิงหรอก”“ฉันพร้อมฟังนะถ้าแกอย่างเล่าไหม เผื่อได้พูดออกมาแล้วจะสบายใจขึ้น”“ก็คุณรามิลน่ะสิ เขาไม่ติดต่อฉันมาเกือบอาทิตย์แล้วนะ”“เขางานยุ่งหรือเปล่าเอริ”“จะงานยุ่งอะไรกันเชียว เวลาแค่ห้านาทีโทรหาฉันมันจะยากอะไรกันล่ะ ฉันว่าเขาน่าจะลืมฉันไปแล้วจริงๆ แต่ก็ดีนะ” แม้ปากจะบอกว่าดีแต่สีหน้าของเธอไม่เป็นแบบนั้น“นี่แกหมายความว่าถ้าเขาลืมแกแล้วแกจะแฮปปี้เหรอ” ญาณิศาถามเพื่อนอย่างไม่เข้าใจนักเพราะเห็นแล้วว่าตอนนี้เพื่อนของตนเองไม่ได้มีความสุขอย่างที่พูด“ฉันก็ควรจะแฮปปี้ไหมล่ะ ฉันจะได้หลุดพ้นไงไม่ต้องเ
ผ่านไปเกือบสองเดือนแล้วที่รามิลไปจากที่นี่ ตอนนี้เอริญาคิดถึงเขาแทบขาดใจ หญิงสาวรูสึกว้าเหว่และเหงามากเพราะเธอย้ายออกจากหอพักมาอยู่ที่คอนโดแบบถาวรเนื่องจากมารดาของญาณิศาป่วยเธอจึงต้องกลับไปนอนที่บ้านและขับรถมาเรียนในเวลาเช้าส่วนเรื่องร้านเบเกอรี่ก็กำลังอยู่ในขั้นเตรียมสถานที่เพราะอาคารที่เธอดูไว้ยังสร้างไม่เสร็จแต่ทางเจ้าของโครงการก็กำหนดแล้วว่าทุกอย่างจะเสร็จภายในสามเดือนนี้ซึ่งมันก็พอดีกับเอริญาเรียนจบระหว่างนี้หญิงสาวจึงใช้เวลาว่างส่วนใหญ่อยู่ที่ร้านของพี่กวางเพื่อเรียนรู้งานให้มากที่สุดโดยไม่รับเงินค่าจ้าง นอกจากจะสอนงานแล้วพี่กวางยังแนะนำแหล่งซื้อวัตถุดิบ แผนการตลาดเทคนิคการคุยกับลูกค้าซึ่งบางอย่างไม่ในห้องเรียน ทำให้เอริญามีความมั่นใจมากขึ้นว่าตนเองจะเป็นเจ้าของร้านเบเกอรี่ได้อย่างแน่นอนขณะที่กำลังนั่งดูเมนูขนมใหม่ๆ อยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเอริญายิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้ามานั้นคือคนที่กำเธอกำลังคิดถึงและอยากเจอมากที่สุด“สวัสดีค่ะคุณรามิลเป็นยังไงบ้างเหนื่อยไหมคะ” เธอทักทายออกไปด้วยน้ำเสียงที่สดใสแสดงถึงความดีใจที่ได้คุยกับเขาเพราะเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่รามิลไม่
เอริญาไม่เคยคิดว่าตนเองจะกล้ามากขนาดนี้ แต่เพราะคนที่เธอรักกำลังจะกลับไปทำงาน หญิงสาวจึงอยากมอบความสุขให้เขามากที่สุด เธอแอบหวังลึกๆ ว่าการกระทำของเธอในคืนนี้จะทำให้รามิลกลับมาหาเธอที่นี่อีกครั้งและระหว่างนี้เขาจะไม่นึกถึงผู้หญิงคนไหนนอกจากเธอคนเดียว“ได้สิเอริ เธอรู้ใจฉันมากที่สุด”รามิลกระซิบแหบพร่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความต้องการ เขารีบดึงท่อนเอ็นร้อนออกจากร่องรักแล้วพลิกมานอนหงายบนเตียงกว้าง“เอาเลยเอริ ขย่มผมเลยนะคนเก่ง”หญิงสาวยกสะโพกขึ้นแล้วกดลงช้าให้ร่องรักครอบครองท่อนเอ็นไปทีละนิดโดยมีมือใหญ่คอยประคองสะโพกของเธอไว้“อื้อ...คุณรามิล”ร่างกายเธอสั่นสะท้านเมื่อท่อนเอ็นกำลังเข้าไปในร่องรักอย่างช้าๆ ตามแรงกดของสะโพกกลมกลึง“ขยับช้าๆ เอริอยากได้แบบไหนก็ขยับตามใจเลยเธอนะ”ชายหนุ่มช่วยประคองสะโพกเอริญาไว้ในขณะที่หญิงสาวก็ขยับบดเบียดอยู่บนกายของเขา เอริญาหมุนวนและส่ายร่อนบดเบียดเข้าหาท่อนเอ็นร้อนไปตามอารมณ์ ทุกการเคลื่อนไหวของหญิงสาวเต็มไปด้วยความเย้ายวนและเร่าร้อนทำให้เขาเสียวไปทั่วทั้งตัว“เอริเธอเก่งมาก....อื้อ....”“ชอบไหมคะ ชอบให้หนูทำแบบนี้หรือเปล่า”“ชอบมาก ถูกใจฉันที่สุดเลย”







