LOGINสองสัปดาห์ต่อมา
รามิลกำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ตั้งแต่กลับมาจากเมืองไทยเขาก็บินไปทำงานอีกหลายที่ก่อนจะกลับมายังบริษัทแม่ที่ควบคุมกิจการทุกอย่าง
ชายหนุ่มเป็นลูกครึ่งไทย-รัสเซียซึ่งเติบโตมาในครอบครัวเล็กๆ ที่มีบิดามารดาเป็นอาจารย์แต่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตขณะเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ จากนั้นเขาก็ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองมาตลอด ชายหนุ่มทำงานทุกอย่างที่มันได้เงินจนมีทุกอย่างในทุกวันนี้ได้ก็เพราะความขยันของตนเอง
รามิลมีธุรกิจทั้งในประเทศไทยยุโรปและอีกหลายประเทศทั่วโลก เขาบินไปมาอยู่ตลอดเวลาทำให้ไม่ค่อยมีชีวิตส่วนตัวเท่าไหร่ ที่ผ่านมาชายหนุ่มมีแฟนอยู่หนึ่งแต่เธอก็ทนกับความบ้างานของเขาไม่ไหวสุดท้ายเขาก็อยู่ตามลำพังคนเดียวและไม่คิดจะมีชีวิตคู่
เขาถือว่านั่นมันคือภาระความรับผิดชอบซึ่งเขาทำมันได้ไม่ดีเท่ากับการทำงาน
ขณะที่เขากำลังนั่งตรวจเอกสารแฟ้มสุดท้ายเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นก่อนที่แม็กซิมจะเปิดเข้ามาพร้อมกับยิ้มให้กับคนที่เป็นทั้งเจ้านายและเพื่อนๆ
“มีอะไรแม็กซิม ฉันทำงานใกล้จะเสร็จ” เขาเงยหน้ามองลูกน้องเล็กน้อยแล้วก็ก้มทำงานต่อ
“เมื่อกี้คุณเอมี่โทรมาครับ”
“เอมี่ไหน”
“ผู้จัดการของคุณมารีน่าไงครับ”
“เธอจะโทรมาทำไมอีกล่ะ”
“เธออยากจะให้มารีน่าเข้ามาขอโทษคุณอีกครั้งครับ”
“ฉันไม่อยากจะยุ่งกับสองคนนั้นอีกแล้ว”
“แต่เธอยืนยันว่าจะให้คุณมารีน่าเข้ามาพบคุณให้ได้ ตอนนี้เธอมาเที่ยวรัสเซียพอดี”
“นายคิดว่าเธอมาเที่ยวจริงๆ เหรอแม็กซิม ฉันว่าเธอตั้งใจจะมาหาฉันนั่นแหละ แต่ฉันไม่เคยเอาคนที่เป็นลูกน้องหรือคนที่ทำงานด้วยมาเป็นคู่นอนหรอกนะ อีกอย่างสองคนนี้ก็ดูไว้ใจไม่ได้ถ้าหมดสัญญาพรีเซ็นเตอร์คอนโดครั้งนี้คงต้องเปลี่ยนคนใหม่”
“แต่คุณรามิลจะไม่ให้โอกาสเธอเหรอครับ เธอสวยหุ่นดีสเปกคุณเลยนะ”
“ฉันรู้ว่าตรงสเปกฉันแต่ตอนนี้ฉันไม่นึกอยากจะนอนกับใครเลย”
“คุณรามิลดูผิดปกติไปนะครับ”
“นายหมายความว่ายังไงแม็กซิม”
“ก็ตั้งแต่คุณกลับมาจากเมืองไทยคุณยังไม่เคยเรียกผู้หญิงคนไหนมานอนด้วยเลย พวกเธอเหล่านั้นพยายามติดต่อมาหาผมตลอดตั้งแต่รู้ว่าคุณกลับมาที่นี่”
“ใครมันจะบ้านอนกับผู้หญิงได้ตลอดเวลากันล่ะแม็กซิม”
“ผมรู้แต่ครั้งนี้คุณดูแปลกไปจริงๆ นะครับมีอะไรหรือเปล่า” เขาถามแล้วมองหน้าเจ้านายอย่างรู้ทัน
“ไม่มีอะไรหรอกน่า”
“ผมรู้นะว่าคุณยังติดใจผู้หญิงคนนั้นอยู่”
“นายนี่จะรู้จักฉันมากเกินไปแล้วนะ”
“ก็ผมอยู่กับคุณมาตั้งแต่อายุยี่สิบครับนี่มันก็สิบกว่าปีแล้วคงไม่มีใครรู้ใจคุณเท่าผมหรอก”
“นั่นสินะหรือสุดท้ายแล้วฉันกับนายจะแต่งงานกันดีล่ะ ในเมื่อนายคิดว่าเป็นคนที่รู้ใจฉันมากที่สุด”
“ไม่ดีกว่าผมไม่อยากฟ้าผ่า”
“พูดอะไรแบบนั้นแม็กซิมสมัยนี้ผู้ชายกับผู้ชายเขาแต่งงานอยู่ด้วยกันมีตั้งเยอะแยะ”
“ใช่ผมรู้ว่ามีเยอะแต่ผมไม่เคยคิดกับคุณแบบนั้นนะครับ อีกอย่างผมก็มีแฟนแล้ว”
“นายพูดถึงเรื่องแฟนมาก็ดีเลยช่วงนี้ฉันมีเวลาพักสองอาทิตย์นายไม่ต้องตามติดฉันก็ได้นะ ฉันให้นายใช้เวลากับแฟน”
“แล้วคุณรามิลจะไปไหนให้ผมเดาไหม”
“ก็ลองเดามาสิ”
“ผมว่าคุณต้องกลับเมืองไทยเพื่อไปหาผู้หญิงคนนั้นอีกแน่นอน”
“ถ้าคิดว่าเดาใจฉันถูกก็ไปจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย”
“แล้วคุณจะให้เธอไปเจอที่โรงแรมอย่างเดิมหรือเปล่าครับ”
“อือ”
“ทำไมคุณไม่ไปพักบนเกาะส่วนตัวล่ะครับ ช่วงนี้ที่นั่นบรรยากาศดีมากๆ”
“เอาไว้ฉันจะลองคิดเรื่องนี้ดูอีกทีแล้วกันนะ ยังไงนายก็ติดต่อพศินให้ฉันด้วย”
“ได้ครับ” แม็กซิมออกจากห้องของเจ้านายจากนั้นโทรศัพท์หาพศินเพื่อติดต่อผู้หญิงคนนั้นให้กับเจ้านายซึ่งเขาจะบินไปเมืองไทยในอีกสี่วันข้างหน้า
“เดี๋ยวฉันติดต่อกลับไปนะแม็กซิม” พศินบอกกับมือขวาของเจ้านายจากนั้นเขาก็โทรศัพท์ไปยังเอเย่นที่เรียกใช้บริการเป็นประจำ
“สวัสดีค่ะคุณพศินมีอะไรให้เชอร์รี่รับใช้คะ”
“ผมอยากติดต่อผู้หญิงคนนั้นให้เจ้านายครับ”
“เออ....คือ”
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคุณเชอร์รี่”
“เชอร์รี่ก็กำลังจะถามคุณพศินอยู่พอดีเลยค่ะแต่ไม่อยากจะโทรไปรบกวนในเมื่อคุณพศินโทรมาเองแบบนี้ก็ดีเลยค่ะ”
“มีอะไรเหรอครับ”
“คืนนั้นเชอร์รี่ส่งผู้หญิงไปให้เจ้านายของคุณแล้ว แต่เธอบอกว่าคนที่เธอนอนด้วยไม่ใช่เจ้านายของคุณ
“เธอรู้ได้ยังไงว่าไม่ใช่เจ้านายของผม”
“ก็ผู้ชายที่เธอไปนอนด้วยคืนนั้นเป็นคนไทยน่ะ แล้วก็ทั้งอ้วนทั้งลงพุงเธอกลับมาบ่นจนเชอร์รี่หูชาเลยว่าส่งเธอไปให้ใครก็ไม่รู้ ดีว่าเงินหนาหน่อยเธอก็เลยยอม”
“จะเป็นไปได้ยังไงครับคืนนั้นผู้หญิงที่คุณเชอร์รี่ส่งมาก็นอนกับเจ้านายของผมนะ”
“แต่เชอร์รี่ว่าน่าจะมีการเข้าใจผิดอะไรกันแน่เลยเพราะผู้หญิงของเชอร์รี่ไม่ได้บอกแบบนั้นนะ จะมีผู้หญิงที่ไหนที่ได้นอนกับเจ้านายของคุณแล้วกลับมาบ่นบ้างล่ะ”
“ครับผมว่าน่าจะมีการเข้าใจผิด เอาไว้ผมจะโทรหาคุณเชอร์รี่อีกทีนะคะ” พศินวางสายจากเชอร์รี่แล้วก็ขมวดคิ้ว เพราะคืนนั้นลูกน้องของเขาก็บอกว่ามีผู้หญิงไปนอนกับเจ้านายจริงๆ
พศินโทรศัพท์เรียกให้ลูกน้องมาเจอที่ห้องทำงานเพราะอยากจะถามว่าคืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“มีอะไรครับคุณพศิน”
“คืนนั้นผู้หญิงที่ไปนอนกับเจ้านายคือใคร”
“ก็คนที่เอเย่นต์ส่งมาไงครับ แต่แปลกนะเธอแต่งตัวมาด้วยชุดนักศึกษาสงสัยเอเย่นอยากให้เจ้านายเปลี่ยนบรรยากาศ”
“แล้วนายได้ถามหรือเปล่าว่ามาหาใคร”
“ผมไม่ได้ถามครับเพราะปกติชั้นนั้นก็ไม่มีคนอื่นพักอยู่นะ”
“แน่ใจได้ยังไงว่าคนที่นอนกับเจ้านายเป็นคนที่เอเย่นส่งมา เพราะถ้าไม่ใช่คนเอเย่นส่งมาเธอจะเดินขึ้นมาทำไมล่ะครับ อีกอย่างยังอยู่ในชุดนักศึกษาด้วย แต่ผมก็แปลกใจอยู่นิดหน่อยเพราะถ้ามารับงานก็ไม่น่าจะแต่งตัวแบบนี้หรือถ้าจะแต่งก็น่าจะใส่เสื้อคลุมสักหน่อย”
“แปลกใจอีกแล้วเหรอ”
“ก็คนที่เขาส่งมาตัวเล็กผิวขาวดูเด็กๆ ไม่ใช่หุ่นตูมๆ เหมือนคนก่อนของเจ้านาย”
“นายช่วยไปเช็กหน่อยว่าคืนนั้นมีคนเข้าพักชั้นนี้ไหม ดูกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าห้องด้วยนะว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“ได้ครับ ขอเวลาครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวจะติดต่อกลับมานะครับ”
ลูกน้องของเขาหายไปพักใหญ่จากนั้นเดินเข้ามาบอกว่าคืนนั้นคนที่จองห้องชั้นนี้มีอีกคือเสี่ยสมานและก็มีผู้หญิงสองคนขึ้นมาบนนี้ คนหนึ่งใส่ชุดนักศึกษาและเข้าไปในห้องของรามิลส่วนอีกคนสวมชุดเกาะอกสีแดงเพลิงเข้าไปอีกห้องหนึ่ง
“นายไปสืบมานะว่าคนที่จองห้องนั้นเป็นใครชื่ออะไรแล้วนัดใครมาเจอหรือเปล่า”
“ได้ครับผมจะจัดการเรื่องนี้แล้วจะรีบรายงานคุณพศินทันที”
“หนูมีความสุขที่สุดเลยค่ะ” เอริญาพูดกับรามิลหลังจากทั้งสองทานอาหารเที่ยงด้วยกันแล้ว หญิงสาวพิงศีรษะบนอกของเขาแล้วกอดไว้แน่น“ฉันก็เหมือนกัน หายน้อยใจฉันแล้วใช่ไหม”“ยังเหลืออีกนิดหน่อย”“งั้นให้ฉันชดเชยความสุขให้อีกดีไหม” รามิลถามพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“เอาไว้ก่อนดีไหมคะ หนูอยากคุยกับคุณก่อน”“จะคุยอะไรล่ะ”“หนูอยากรู้ว่าที่คุณหายไปนานไปทำอะไรบ้างคะ แอบไม่คนอื่นหรือเปล่า”“ฉันทำงานอย่างเดียวเลย ฉันบินไปหลายประเทศแต่รับรองว่าไม่มีคนอื่นอย่างแน่นอน“หนูเชื่อใจคุณได้ใช่ไหมคะ”“ได้สิ ฉันคิดถึงเธอตลอดเวลาเลยนะ คิดถึงมากที่สุด เธอต้องทำเสน่ห์ใส่ฉันแน่ๆ ฉันถึงได้หลงเธอขนาดนี้”“คุณต่างหากที่ทำเสน่ห์ใส่หนู ตอนคุณไม่อยู่หนูคิดถึงคุณมากๆ คุณรามิลจะว่าอะไรไหมถ้าหนูบอกว่าหนูรักคุณ” เพราะไม่อยากจะเก็บความรู้สึกนี้ไว้กับตัวเองอีกแล้ว เธอไม่หวังเขาตอบรับความรักของเธอแต่คิดว่าบอกออกไปแล้วน่าจะสบายใจมากกว่า“รักเหรอ”“ค่ะ หนูรักคุณรามิลว่ามันน่าอายไหมคะที่หนูเป็นผู้หญิงแต่ไปบอกรักผู้ชายก่อน”“มันไม่น่าอายเลยถ้าผู้ชายที่เธอบอกรักคือฉันเพราะฉันคิดว่าตอนนี้ฉันอาจจะหลงรักเธอไปแล้วเหมือนกัน” รามิลพูดความ
มาเฟียหนุ่มยืนขึ้นประกบจูบลงบนปากอีกครั้ง เอริญาตอบรับด้วยความเต็มใจ เมื่อปลายลิ้นหนาส่งเข้ามาในโพรงปากเล็กกวาดต้อนความหวานอย่างหลงใหล รามิลไม่เคยรู้สึกอยากจูบกับใครจนแทบจะกลืนกินแบบนี้มาก่อน แต่กับเอริญาแล้วเขาแทบไม่อยากจะหยุดจูบเลยสักนิด กว่าเขาจะยอมปล่อยริมฝีปากให้เป็นอิสระหญิงสาวก็แทบขาดใจ“คุณรามิล อยากให้หนูกินคุณบ้างไหม”“ถามมาได้ไม่คิด ฉันอยากใจแทบขาดแล้ว”แล้วเอริญาก็คุกเข่าลงเธอเงยขึ้นสบตาคมของมาเฟียหนุ่มแล้วยิ้มยั่วยวนก่อนจะยื่นมือมาสัมผัสกับความเป็นชายที่แข็งตระหง่านอยู่ตรงหน้า“อื้อ....อ่า....มือเธอนุ่มมากเอริ”เพียงแค่มือของหญิงสาวสัมผัสรามิลก็ครางสะท้าน เอริญาส่งลิ้นร้อนสัมผัสส่วนปลายอย่างแผ่วเบา ไล้วนส่วนหัวหยักแล้วลากปลายลิ้นเปียกชื้นลงมายังส่วนโคนหยอกเย้ากับก้อนกลมที่กดเกร็ง เธอรู้ว่าเขาชอบแบบไหนและวันนี้ก็ตั้งใจจะให้เขามีความสุขอย่างที่สุด“อูซ.....อ่า....”เสียงแหบพร่าครางฮึมฮัมอยู่ในลำคอก็ยิ่งทำให้เอริญาได้ใจ ปากเล็กขบเม้มเรื่อยๆ จากโคนถึงปลาย ก่อนจะตวัดปลายลิ้นรอบรอยหยัก มือใหญ่ลูบศีรษะและกดเบาๆ ให้เธอกลืนกินแท่งร้อนอย่างแนบชิด“เยี่ยมที่สุด สุดยอดเมียของฉัน”ใบห
เอริญากลับมาจากมหาวิทยาลัยในเวลาบ่าย หญิงสาวเผลอหลับไปบนโซฟาและตกใจตื่นอีกครั้งในเวลาค่ำ ภายในห้องกว้างดูเงียบเหงานั่นก็ยิ่งทำให้คิดถึงรามิลมากขึ้นไปอีก“คุณใจร้ายมากนะ ทำไมไม่โทรหากันบ้าง” หญิงสาวบ่นกับตัวเอง ตอนนี้เธอเริ่มชินชากับการอยู่คนเดียวและคิดว่ามันคงจะเป็นแบบนี้ไปตลอดหญิงสาวอยากถามข่าวคราวของรามิลจากลูกน้องของเขาแต่คิดว่าถามไปคำตอบก็คงจะเหมือนเดิมและเธอก็ไม่อยากจะเซ้าซี้เพราะคิดว่าคนเราถ้ามีใจจะตื๊อไปก็เท่านั้นเอริญาถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำความสดชื่นจากสายน้ำทำให้หญิงสาวรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้างแม้ว่าภายในหัวใจจะรู้สึกห่อเหี่ยวมากก็ตามเอริญากำลังยืนอาบน้ำอยู่ใต้ฝักบัวอยู่พักใหญ่ เมื่ออาบน้ำเสร็จปิดน้ำและหันหลังกลับแต่ก็ต้องตกใจเมื่อหันมาชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ของรามิล“คุณรามิล...ใช้คุณจริงด้วย” หญิงสาวกอดเขาโดยไม่สนใจว่าตัวเองยังไม่ได้สวมเสื้อผ้าเลยสักชิด“ก็ใช้ฉันน่ะสิ เธอคิดว่าใคร”“หนูคิดถึงคุณ” เธอกอดเขาแน่นเสียงพูดสั่นเครือด้วยความดีใจ“ฉันก็คิดถึงเธอนะ” รามิลกระชับอ้อมกอดแน่น จมูกโด่งหอมไปบนหน้าปากด้วยความคิดถึง“แต่คุณมาช้า....”“มา
หลังจากคุยโทรศัพท์กับรามิลในวันนั้นก็ผ่านมาอีกสองสัปดาห์แล้วแต่มาเฟียหนุ่มก็ยังไม่มาหามิหนำซ้ำยังโทรมาหาเอริญาแค่ครั้งเดียวจากนั้นก็เงียบหายไปนานหลายวัน“แกเป็นอะไรเอริ หน้าเครียดมาหลายวันแล้วนะ” ญาณิศาสังเกตมาหลายวันแล้วว่าเพื่อนไม่ค่อยร่าเริงเหมือนก่อน“มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย” เอริญาถอนหายใจก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ สีหน้าของหญิงสาวดูเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด“เรื่องร้านเหรอ มีปัญหาตรงไหนล่ะมีอะไรให้ฉันช่วยไหมบอกได้นะ”“ไม่ใช่เรื่องร้านหรอกณิ ฉันเครียดเรื่องคุณรามิลน่ะ”“ทะเลาะกันเหรอ”“ไม่เชิงหรอก”“ฉันพร้อมฟังนะถ้าแกอย่างเล่าไหม เผื่อได้พูดออกมาแล้วจะสบายใจขึ้น”“ก็คุณรามิลน่ะสิ เขาไม่ติดต่อฉันมาเกือบอาทิตย์แล้วนะ”“เขางานยุ่งหรือเปล่าเอริ”“จะงานยุ่งอะไรกันเชียว เวลาแค่ห้านาทีโทรหาฉันมันจะยากอะไรกันล่ะ ฉันว่าเขาน่าจะลืมฉันไปแล้วจริงๆ แต่ก็ดีนะ” แม้ปากจะบอกว่าดีแต่สีหน้าของเธอไม่เป็นแบบนั้น“นี่แกหมายความว่าถ้าเขาลืมแกแล้วแกจะแฮปปี้เหรอ” ญาณิศาถามเพื่อนอย่างไม่เข้าใจนักเพราะเห็นแล้วว่าตอนนี้เพื่อนของตนเองไม่ได้มีความสุขอย่างที่พูด“ฉันก็ควรจะแฮปปี้ไหมล่ะ ฉันจะได้หลุดพ้นไงไม่ต้องเ
ผ่านไปเกือบสองเดือนแล้วที่รามิลไปจากที่นี่ ตอนนี้เอริญาคิดถึงเขาแทบขาดใจ หญิงสาวรูสึกว้าเหว่และเหงามากเพราะเธอย้ายออกจากหอพักมาอยู่ที่คอนโดแบบถาวรเนื่องจากมารดาของญาณิศาป่วยเธอจึงต้องกลับไปนอนที่บ้านและขับรถมาเรียนในเวลาเช้าส่วนเรื่องร้านเบเกอรี่ก็กำลังอยู่ในขั้นเตรียมสถานที่เพราะอาคารที่เธอดูไว้ยังสร้างไม่เสร็จแต่ทางเจ้าของโครงการก็กำหนดแล้วว่าทุกอย่างจะเสร็จภายในสามเดือนนี้ซึ่งมันก็พอดีกับเอริญาเรียนจบระหว่างนี้หญิงสาวจึงใช้เวลาว่างส่วนใหญ่อยู่ที่ร้านของพี่กวางเพื่อเรียนรู้งานให้มากที่สุดโดยไม่รับเงินค่าจ้าง นอกจากจะสอนงานแล้วพี่กวางยังแนะนำแหล่งซื้อวัตถุดิบ แผนการตลาดเทคนิคการคุยกับลูกค้าซึ่งบางอย่างไม่ในห้องเรียน ทำให้เอริญามีความมั่นใจมากขึ้นว่าตนเองจะเป็นเจ้าของร้านเบเกอรี่ได้อย่างแน่นอนขณะที่กำลังนั่งดูเมนูขนมใหม่ๆ อยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเอริญายิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้ามานั้นคือคนที่กำเธอกำลังคิดถึงและอยากเจอมากที่สุด“สวัสดีค่ะคุณรามิลเป็นยังไงบ้างเหนื่อยไหมคะ” เธอทักทายออกไปด้วยน้ำเสียงที่สดใสแสดงถึงความดีใจที่ได้คุยกับเขาเพราะเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่รามิลไม่
เอริญาไม่เคยคิดว่าตนเองจะกล้ามากขนาดนี้ แต่เพราะคนที่เธอรักกำลังจะกลับไปทำงาน หญิงสาวจึงอยากมอบความสุขให้เขามากที่สุด เธอแอบหวังลึกๆ ว่าการกระทำของเธอในคืนนี้จะทำให้รามิลกลับมาหาเธอที่นี่อีกครั้งและระหว่างนี้เขาจะไม่นึกถึงผู้หญิงคนไหนนอกจากเธอคนเดียว“ได้สิเอริ เธอรู้ใจฉันมากที่สุด”รามิลกระซิบแหบพร่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความต้องการ เขารีบดึงท่อนเอ็นร้อนออกจากร่องรักแล้วพลิกมานอนหงายบนเตียงกว้าง“เอาเลยเอริ ขย่มผมเลยนะคนเก่ง”หญิงสาวยกสะโพกขึ้นแล้วกดลงช้าให้ร่องรักครอบครองท่อนเอ็นไปทีละนิดโดยมีมือใหญ่คอยประคองสะโพกของเธอไว้“อื้อ...คุณรามิล”ร่างกายเธอสั่นสะท้านเมื่อท่อนเอ็นกำลังเข้าไปในร่องรักอย่างช้าๆ ตามแรงกดของสะโพกกลมกลึง“ขยับช้าๆ เอริอยากได้แบบไหนก็ขยับตามใจเลยเธอนะ”ชายหนุ่มช่วยประคองสะโพกเอริญาไว้ในขณะที่หญิงสาวก็ขยับบดเบียดอยู่บนกายของเขา เอริญาหมุนวนและส่ายร่อนบดเบียดเข้าหาท่อนเอ็นร้อนไปตามอารมณ์ ทุกการเคลื่อนไหวของหญิงสาวเต็มไปด้วยความเย้ายวนและเร่าร้อนทำให้เขาเสียวไปทั่วทั้งตัว“เอริเธอเก่งมาก....อื้อ....”“ชอบไหมคะ ชอบให้หนูทำแบบนี้หรือเปล่า”“ชอบมาก ถูกใจฉันที่สุดเลย”







