LOGINรถแท็กซี่จอดที่หน้าหอพักเอริญาจ่ายเงินแล้วก้าวลงจากรถด้วยขาที่สั่นเทา หญิงสาวกำลังเก็บอาการเพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอเมื่อคืน
“อ้าว...เอริไปไหนมาน่ะทำไมใส่ชุดนี้ล่ะ” เพื่อนร่วมหอพักที่อยู่ห้องถัดไปทักทายเมื่อเห็นเอริญาใส่ชุดนักศึกษาเดินขึ้นบันไดมาทั้งที่เป็นวันเสาร์
“ไปคุยกับอาจารย์มาน่ะแล้วเนยจะไปไหน” หญิงสาวพูดพร้อมยิ้มแห้งๆ
“ว่าจะไปหาอะไรกินหน่อย ฝากเอาอะไรไหม”
“ไม่ล่ะ ขอบใจนะ”
เมื่อเพื่อนเดินผ่านไปแล้วเอริญาก็รีบเดินไปยังห้องของตนเองที่อยู่ริมสุดทางเดิน
หญิงสาวเคาะประตูห้องเบาๆ ก่อนจะผลักเข้าไปอย่างช้าๆ เมื่อเปิดออกก็เจอกับญาณิศาเพื่อนสนิทที่กำลังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง
“เอริแกหายไปไหนมาทั้งคืน ฉันเป็นห่วงแกมากเลยนะ”
“ณิ....” เอริญาได้แค่เรียกชื่อเพื่อนก่อนจะร้องไห้จนญาณิศาที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ตกใจกับอาการของเพื่อน เธอรีบวางโทรศัพท์แล้วลุกขึ้นดึงให้เอริญานั่งลงบนเตียง
“แกเป็นอะไรเอริ”
“ฉันไม่เหลืออะไรแล้วณิ” เธอพูดแค่นั้นแล้วก็ร้องไห้ต่อ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับแกเหรอเอริพี่กันต์เขาทำอะไร เขาทำร้ายเขาใช่ไหม ไม่เป็นไรนะเอริแกไม่ต้องร้องเดี๋ยวฉันจะไปจัดการให้เอง” ญาณิศาถามด้วยความเป็นห่วง เธอรู้สึกโกรธมากเพราะเพื่อนเคยบอกแล้วว่าเธอจะไม่นอนกับใครจนกว่าจะถึงวันที่แต่งงานแต่ก็ไม่คิดเลยว่าผู้ชายที่เอริญาคบหามานานเกือบหนึ่งปีจะมาทำร้ายเธอแบบนี้
“ไม่ใช่เขา” เอริญาร้องไห้สะอึกสะอื้นทางส่ายหน้าปฏิเสธทำให้ญาณิศางงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนกันแน่
“ฉันจะยังไม่ถามอะไรแกตอนนี้ก็ได้นะเอริ แกร้องไห้ให้เต็มที่เลยเดี๋ยวค่อยเล่าให้ฉันฟังก็ได้” ญาณิศากอดปลอบขณะที่เอริญาก็ร้องไห้อย่างหนัก หญิงสาวคิดว่าตนเองเข้มแข็งพอและคงไม่ร้องไห้อีกแล้วแต่พอกลับมาเจอเพื่อนน้ำตาเจ้ากรรมมันก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
ผ่านไปนานมากกว่าเอริญาจะหยุดร้องญาณิศาเช็ดน้ำตาให้เพื่อนจับมือและลูบไปบนหลังมือเบาๆ อย่างให้กำลังใจ
“แกกินข้าวมาหรือยังหิวไหม”
“ฉันกินอะไรไม่ลงหรอก”
“แล้วพร้อมที่จะเล่าให้ฉันฟังหรือยังล่ะ”
“แกสัญญากับฉันได้ไหมณิว่าเรื่องที่ฉันเล่าให้แก่ฟังแกจะต้องเก็บเป็นความลับ”
“แน่นอน แกเป็นเพื่อนรักของฉันนี่ ฉันรับปากว่าทุกอย่างที่แกเล่าในห้องนี้ฉันจะไม่บอกใครตกลงไหม”
แล้วเอริญาก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับญาณิศาฟังอย่างไม่มีปิดบัง
“ทำไมพี่กันต์เขาถึงทำแบบนั้นนะ มันเหมือนหรอกแกไปขายตัวเลยนะ อย่าให้ฉันเจอหน้านะฉันจะต่อยให้ฟันร่วงเลย”
“อย่าเลยมันไม่คุ้มหรอก”
“แกยังเป็นห่วงเขาใช่ไหม”
“ฉันก็แค่ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเขาแล้ว”
“แล้วแกจะปล่อยให้มันผ่านไปแบบนี้นั่นเหรอ คนอย่างพี่กันต์ต้องได้รับบทเรียนบ้างนะ ฉันเห็นว่าเขาคบกับแกมานานไม่คิดเลยว่าสุดท้ายเขาจะทำนิสัยแบบนี้”
“ฉันเองก็ผิดที่ไว้ใจเขามากเกินไป ฉันอยากมีร้านเบเกอรี่เป็นของตัวเองจนลืมคิดถึงความเหมาะสมไปเลยการเข้าไปคุยกับผู้ชายตามลำพังในโรงแรมแบบนั้นมันเสี่ยงมากแต่ตอนนั้นฉันไม่คิดอะไร”
“ฉันเข้าใจแกนะ ถ้าเป็นฉันมีใครมาเสนอแบบนั้นฉันก็คงจะไปเจอเขาเหมือนกัน”
“ตอนนั้นฉันคิดแค่อยากทำความฝันให้สำเร็จความฝันที่ฉันจะมีร้านเบเกอรี่เล็กๆ แต่ทุกอย่างมันก็แย่ลงกว่าเดิม สิ่งที่ฉันเสียไปมันเรียกกลับคืนมาไม่ได้” ยิ่งพูดน้ำตาของหญิงสาวก็ยิ่งไหล นี่เป็นเหตุการณ์รุนแรงที่เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้น
“ตอนนี้แกต้องเข้มแข็งนะเอริ แกได้ป้องกันหรือเปล่า เขาใส่ถุงยางไหม” ญาณิศาถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เลย แต่เมื่อมีป้าคนหนึ่งเอายาคุมฉุกเฉินมาให้ฉันกินแล้ว แต่ฉันกลัวโรคติดต่อ”
“เดี๋ยวฉันจะพาแกไปตรวจเลือดนะ แต่ขอหาข้อมูลก่อน”
“ขอบใจนะ”
“แล้วแกรู้มั้ยว่าผู้ชายคนนั้นเขาเป็นใครทำงานอยู่ที่ไหน ฉันอยากจะไปเจอหน้าเขาอยากจะถามว่าเขาจ่ายเงินให้กับพี่กันต์ไปเท่าไหร่เขาถึงยอมขายแก”
“ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นใคร เขาไม่บอกชื่อและฉันก็อายจนไม่กล้าถาม แต่เขาให้นี่ฉันมา” เอริญาหยิบเช็คเงินสดออกมาจากกระเป๋าสะพายยื่นให้เพื่อน
“ค่าอะไร”
เอริญายังจำคำพูดของรามิลได้ดีเธอถ่ายทอดคำพูดนั้นให้กับญาณิศาฟังทุกถ้อยคำอย่างชัดเจน
“ผู้ชายคนนี้โหดร้ายมากเลยนะคิดว่าทุกอย่างมันจะแลกมาด้วยเงินหรือยังไง”
“เขาก็คงซื้อผู้หญิงจนเคยชินนั่นแหละ”
“เอริแล้วแกคิดว่าจะเอายังไงต่อกับเช็คนี่ล่ะ”
“ตอนแรกฉันก็จะไม่เอามาหรอกนะไม่อยากจะเสียศักดิ์ศรีมากไปกว่านี้แต่จำนวนเงินในนั้นมันก็ทำให้ฉันเปลี่ยนใจ”
“มันเท่าไหร่เหรอ” ญาณิศาที่ยังไม่ได้ดูจำนวนเงินในเช็คก็หยิบขึ้นมาดูแล้วก็ต้องตกใจ
“ตั้งล้านเลยเหรอ ทำไมมันมากขนาดนี้”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“ฉันว่าผู้ชายที่นอนกับแกเขาคงเป็นคนรวยมากๆ แล้วอยากจะจ่ายเงินเพื่อปิดปากเรื่องที่เกิดขึ้นแน่เลย แกคิดว่าจะทำยังไงกับเงินจำนวนนี้ล่ะ”
“ตอนแรกฉันอยากเอาไปคืนนะแต่ใจหนึ่งมันก็เกิดโลภขึ้นมาและคิดว่าไม่ยุติธรรมถ้าฉันนอนกับเขาโดยไม่ได้อะไรเลย ฉันรู้มาว่ามันฟังดูกับน่าเกลียดนะ แต่แกก็รู้นี่ว่าฉันปากกัดตีนถีบมาตั้งแต่เด็กเงินพวกนี้น่าจะต่อลมหายใจของฉันได้อีกนาน แกจะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะเอาเงินก้อนนี้”
“ฉันจะว่าอะไรแกได้ล่ะเอริ เงินมันมากเกินกว่าที่ฉันจะนึกถึง แกต้องทำงานอีกเท่าไหร่ถึงจะได้เงินมากมายขนาดนี้ ฉันว่าแกน่าจะมีทุนเปิดร้านเบเกอรี่แล้วแหละ
“แต่ถ้าคนอื่นรู้ว่าฉันขายตัวเพื่อแลกกับเงินมาเปิดร้านแกคิดว่าพวกเขาจะมองฉันยังไง ฉันไม่สบายใจเลย”
“จะสนใจอะไรล่ะ แกไม่ใช่ผู้หญิงคนที่นอนกับผู้ชายแล้วได้เงินฉันก็เห็นนักศึกษาหลายคนเขาทำแบบนั้น มันไม่ใช่เรื่องดีหรือเรื่องที่น่าส่งเสริมแต่แกก็ไม่ใช่เป็นคนเอาตัวไปเสนอเขานี่เอริ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากความผิดพลาดและเงินจำนวนนี้แกสมควรได้รับนะ เรื่องนี้เราจะรู้กันแค่สองคน
“แกจะไม่มองฉันเป็นผู้หญิงขายตัวใช่ไหม”
“เอริฉันกับแกคบกันมาตั้งแต่ ม. 4 นะฉันรู้ว่าแกเป็นคนนิสัยยังไงแกรักนวลสงวนตัวและรอคอยจะมอบสิ่งมีค่าให้กับผู้ชายที่แกรักในวันแต่งงาน แต่ในเมื่อเขาไม่เห็นค่าของแกแต่กลับเอาแกไปขายให้คนอื่นแล้วแกจะสนใจอะไรล่ะ รับเงินนี้ไว้เถอะ แล้วจากนี้ฉันก็สั่งห้ามไม่ให้แกคุยกับพี่กันต์อย่างเด็ดขาด”
“ฉันไม่อยากเจอหน้าไม่อยากจะพูดถึงเขาด้วยซ้ำ”
“เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน”
“แกจะเอาไปทำอะไร”
“ก็บล็อกเขาไง”
“แกคิดว่าเขาจะกล้าติดต่อฉันมาเหรอณิในเมื่อเขาเอาฉันไปขายแบบนั้นแล้ว”
“ก็ไม่รู้สิผู้ชายนิสัยแบบนี้ฉันเดาใจไม่ถูกหรอก”
แล้วเอริญาก็หยิบโทรศัพท์ของเธอให้กับเพื่อน ญาณิศาจัดการบล็อกทุกช่องทางการติดต่ออย่างรวดเร็ว
“ท่าทางแกดูไม่ดีเลยฉันว่านอนพักหน่อยดีไหม เดี๋ยวฉันจะลงไปหาซื้ออะไรมาให้กิน”
“ขอบใจนะณิแกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันจริงๆ”
“เอาน่าอย่าคิดอะไรมากเลยนอนพักนะ”
เมื่อเพื่อนเดินออกจากห้องไปแล้วเอริญาก็ซุกตัวใต้ผ้าห่มแล้วร้องไห้ หญิงสาวไม่รู้ว่าน้ำตาไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะลืมเรื่องราวร้ายๆ เหล่านี้ได้
“หนูมีความสุขที่สุดเลยค่ะ” เอริญาพูดกับรามิลหลังจากทั้งสองทานอาหารเที่ยงด้วยกันแล้ว หญิงสาวพิงศีรษะบนอกของเขาแล้วกอดไว้แน่น“ฉันก็เหมือนกัน หายน้อยใจฉันแล้วใช่ไหม”“ยังเหลืออีกนิดหน่อย”“งั้นให้ฉันชดเชยความสุขให้อีกดีไหม” รามิลถามพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“เอาไว้ก่อนดีไหมคะ หนูอยากคุยกับคุณก่อน”“จะคุยอะไรล่ะ”“หนูอยากรู้ว่าที่คุณหายไปนานไปทำอะไรบ้างคะ แอบไม่คนอื่นหรือเปล่า”“ฉันทำงานอย่างเดียวเลย ฉันบินไปหลายประเทศแต่รับรองว่าไม่มีคนอื่นอย่างแน่นอน“หนูเชื่อใจคุณได้ใช่ไหมคะ”“ได้สิ ฉันคิดถึงเธอตลอดเวลาเลยนะ คิดถึงมากที่สุด เธอต้องทำเสน่ห์ใส่ฉันแน่ๆ ฉันถึงได้หลงเธอขนาดนี้”“คุณต่างหากที่ทำเสน่ห์ใส่หนู ตอนคุณไม่อยู่หนูคิดถึงคุณมากๆ คุณรามิลจะว่าอะไรไหมถ้าหนูบอกว่าหนูรักคุณ” เพราะไม่อยากจะเก็บความรู้สึกนี้ไว้กับตัวเองอีกแล้ว เธอไม่หวังเขาตอบรับความรักของเธอแต่คิดว่าบอกออกไปแล้วน่าจะสบายใจมากกว่า“รักเหรอ”“ค่ะ หนูรักคุณรามิลว่ามันน่าอายไหมคะที่หนูเป็นผู้หญิงแต่ไปบอกรักผู้ชายก่อน”“มันไม่น่าอายเลยถ้าผู้ชายที่เธอบอกรักคือฉันเพราะฉันคิดว่าตอนนี้ฉันอาจจะหลงรักเธอไปแล้วเหมือนกัน” รามิลพูดความ
มาเฟียหนุ่มยืนขึ้นประกบจูบลงบนปากอีกครั้ง เอริญาตอบรับด้วยความเต็มใจ เมื่อปลายลิ้นหนาส่งเข้ามาในโพรงปากเล็กกวาดต้อนความหวานอย่างหลงใหล รามิลไม่เคยรู้สึกอยากจูบกับใครจนแทบจะกลืนกินแบบนี้มาก่อน แต่กับเอริญาแล้วเขาแทบไม่อยากจะหยุดจูบเลยสักนิด กว่าเขาจะยอมปล่อยริมฝีปากให้เป็นอิสระหญิงสาวก็แทบขาดใจ“คุณรามิล อยากให้หนูกินคุณบ้างไหม”“ถามมาได้ไม่คิด ฉันอยากใจแทบขาดแล้ว”แล้วเอริญาก็คุกเข่าลงเธอเงยขึ้นสบตาคมของมาเฟียหนุ่มแล้วยิ้มยั่วยวนก่อนจะยื่นมือมาสัมผัสกับความเป็นชายที่แข็งตระหง่านอยู่ตรงหน้า“อื้อ....อ่า....มือเธอนุ่มมากเอริ”เพียงแค่มือของหญิงสาวสัมผัสรามิลก็ครางสะท้าน เอริญาส่งลิ้นร้อนสัมผัสส่วนปลายอย่างแผ่วเบา ไล้วนส่วนหัวหยักแล้วลากปลายลิ้นเปียกชื้นลงมายังส่วนโคนหยอกเย้ากับก้อนกลมที่กดเกร็ง เธอรู้ว่าเขาชอบแบบไหนและวันนี้ก็ตั้งใจจะให้เขามีความสุขอย่างที่สุด“อูซ.....อ่า....”เสียงแหบพร่าครางฮึมฮัมอยู่ในลำคอก็ยิ่งทำให้เอริญาได้ใจ ปากเล็กขบเม้มเรื่อยๆ จากโคนถึงปลาย ก่อนจะตวัดปลายลิ้นรอบรอยหยัก มือใหญ่ลูบศีรษะและกดเบาๆ ให้เธอกลืนกินแท่งร้อนอย่างแนบชิด“เยี่ยมที่สุด สุดยอดเมียของฉัน”ใบห
เอริญากลับมาจากมหาวิทยาลัยในเวลาบ่าย หญิงสาวเผลอหลับไปบนโซฟาและตกใจตื่นอีกครั้งในเวลาค่ำ ภายในห้องกว้างดูเงียบเหงานั่นก็ยิ่งทำให้คิดถึงรามิลมากขึ้นไปอีก“คุณใจร้ายมากนะ ทำไมไม่โทรหากันบ้าง” หญิงสาวบ่นกับตัวเอง ตอนนี้เธอเริ่มชินชากับการอยู่คนเดียวและคิดว่ามันคงจะเป็นแบบนี้ไปตลอดหญิงสาวอยากถามข่าวคราวของรามิลจากลูกน้องของเขาแต่คิดว่าถามไปคำตอบก็คงจะเหมือนเดิมและเธอก็ไม่อยากจะเซ้าซี้เพราะคิดว่าคนเราถ้ามีใจจะตื๊อไปก็เท่านั้นเอริญาถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำความสดชื่นจากสายน้ำทำให้หญิงสาวรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้างแม้ว่าภายในหัวใจจะรู้สึกห่อเหี่ยวมากก็ตามเอริญากำลังยืนอาบน้ำอยู่ใต้ฝักบัวอยู่พักใหญ่ เมื่ออาบน้ำเสร็จปิดน้ำและหันหลังกลับแต่ก็ต้องตกใจเมื่อหันมาชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ของรามิล“คุณรามิล...ใช้คุณจริงด้วย” หญิงสาวกอดเขาโดยไม่สนใจว่าตัวเองยังไม่ได้สวมเสื้อผ้าเลยสักชิด“ก็ใช้ฉันน่ะสิ เธอคิดว่าใคร”“หนูคิดถึงคุณ” เธอกอดเขาแน่นเสียงพูดสั่นเครือด้วยความดีใจ“ฉันก็คิดถึงเธอนะ” รามิลกระชับอ้อมกอดแน่น จมูกโด่งหอมไปบนหน้าปากด้วยความคิดถึง“แต่คุณมาช้า....”“มา
หลังจากคุยโทรศัพท์กับรามิลในวันนั้นก็ผ่านมาอีกสองสัปดาห์แล้วแต่มาเฟียหนุ่มก็ยังไม่มาหามิหนำซ้ำยังโทรมาหาเอริญาแค่ครั้งเดียวจากนั้นก็เงียบหายไปนานหลายวัน“แกเป็นอะไรเอริ หน้าเครียดมาหลายวันแล้วนะ” ญาณิศาสังเกตมาหลายวันแล้วว่าเพื่อนไม่ค่อยร่าเริงเหมือนก่อน“มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย” เอริญาถอนหายใจก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ สีหน้าของหญิงสาวดูเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด“เรื่องร้านเหรอ มีปัญหาตรงไหนล่ะมีอะไรให้ฉันช่วยไหมบอกได้นะ”“ไม่ใช่เรื่องร้านหรอกณิ ฉันเครียดเรื่องคุณรามิลน่ะ”“ทะเลาะกันเหรอ”“ไม่เชิงหรอก”“ฉันพร้อมฟังนะถ้าแกอย่างเล่าไหม เผื่อได้พูดออกมาแล้วจะสบายใจขึ้น”“ก็คุณรามิลน่ะสิ เขาไม่ติดต่อฉันมาเกือบอาทิตย์แล้วนะ”“เขางานยุ่งหรือเปล่าเอริ”“จะงานยุ่งอะไรกันเชียว เวลาแค่ห้านาทีโทรหาฉันมันจะยากอะไรกันล่ะ ฉันว่าเขาน่าจะลืมฉันไปแล้วจริงๆ แต่ก็ดีนะ” แม้ปากจะบอกว่าดีแต่สีหน้าของเธอไม่เป็นแบบนั้น“นี่แกหมายความว่าถ้าเขาลืมแกแล้วแกจะแฮปปี้เหรอ” ญาณิศาถามเพื่อนอย่างไม่เข้าใจนักเพราะเห็นแล้วว่าตอนนี้เพื่อนของตนเองไม่ได้มีความสุขอย่างที่พูด“ฉันก็ควรจะแฮปปี้ไหมล่ะ ฉันจะได้หลุดพ้นไงไม่ต้องเ
ผ่านไปเกือบสองเดือนแล้วที่รามิลไปจากที่นี่ ตอนนี้เอริญาคิดถึงเขาแทบขาดใจ หญิงสาวรูสึกว้าเหว่และเหงามากเพราะเธอย้ายออกจากหอพักมาอยู่ที่คอนโดแบบถาวรเนื่องจากมารดาของญาณิศาป่วยเธอจึงต้องกลับไปนอนที่บ้านและขับรถมาเรียนในเวลาเช้าส่วนเรื่องร้านเบเกอรี่ก็กำลังอยู่ในขั้นเตรียมสถานที่เพราะอาคารที่เธอดูไว้ยังสร้างไม่เสร็จแต่ทางเจ้าของโครงการก็กำหนดแล้วว่าทุกอย่างจะเสร็จภายในสามเดือนนี้ซึ่งมันก็พอดีกับเอริญาเรียนจบระหว่างนี้หญิงสาวจึงใช้เวลาว่างส่วนใหญ่อยู่ที่ร้านของพี่กวางเพื่อเรียนรู้งานให้มากที่สุดโดยไม่รับเงินค่าจ้าง นอกจากจะสอนงานแล้วพี่กวางยังแนะนำแหล่งซื้อวัตถุดิบ แผนการตลาดเทคนิคการคุยกับลูกค้าซึ่งบางอย่างไม่ในห้องเรียน ทำให้เอริญามีความมั่นใจมากขึ้นว่าตนเองจะเป็นเจ้าของร้านเบเกอรี่ได้อย่างแน่นอนขณะที่กำลังนั่งดูเมนูขนมใหม่ๆ อยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเอริญายิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้ามานั้นคือคนที่กำเธอกำลังคิดถึงและอยากเจอมากที่สุด“สวัสดีค่ะคุณรามิลเป็นยังไงบ้างเหนื่อยไหมคะ” เธอทักทายออกไปด้วยน้ำเสียงที่สดใสแสดงถึงความดีใจที่ได้คุยกับเขาเพราะเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่รามิลไม่
เอริญาไม่เคยคิดว่าตนเองจะกล้ามากขนาดนี้ แต่เพราะคนที่เธอรักกำลังจะกลับไปทำงาน หญิงสาวจึงอยากมอบความสุขให้เขามากที่สุด เธอแอบหวังลึกๆ ว่าการกระทำของเธอในคืนนี้จะทำให้รามิลกลับมาหาเธอที่นี่อีกครั้งและระหว่างนี้เขาจะไม่นึกถึงผู้หญิงคนไหนนอกจากเธอคนเดียว“ได้สิเอริ เธอรู้ใจฉันมากที่สุด”รามิลกระซิบแหบพร่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความต้องการ เขารีบดึงท่อนเอ็นร้อนออกจากร่องรักแล้วพลิกมานอนหงายบนเตียงกว้าง“เอาเลยเอริ ขย่มผมเลยนะคนเก่ง”หญิงสาวยกสะโพกขึ้นแล้วกดลงช้าให้ร่องรักครอบครองท่อนเอ็นไปทีละนิดโดยมีมือใหญ่คอยประคองสะโพกของเธอไว้“อื้อ...คุณรามิล”ร่างกายเธอสั่นสะท้านเมื่อท่อนเอ็นกำลังเข้าไปในร่องรักอย่างช้าๆ ตามแรงกดของสะโพกกลมกลึง“ขยับช้าๆ เอริอยากได้แบบไหนก็ขยับตามใจเลยเธอนะ”ชายหนุ่มช่วยประคองสะโพกเอริญาไว้ในขณะที่หญิงสาวก็ขยับบดเบียดอยู่บนกายของเขา เอริญาหมุนวนและส่ายร่อนบดเบียดเข้าหาท่อนเอ็นร้อนไปตามอารมณ์ ทุกการเคลื่อนไหวของหญิงสาวเต็มไปด้วยความเย้ายวนและเร่าร้อนทำให้เขาเสียวไปทั่วทั้งตัว“เอริเธอเก่งมาก....อื้อ....”“ชอบไหมคะ ชอบให้หนูทำแบบนี้หรือเปล่า”“ชอบมาก ถูกใจฉันที่สุดเลย”







