ผ้าห่มผืนใหญ่ถูกดึงขึ้นเพื่อคลุมร่างอันบอบบางที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงเล็ก สายตาของผู้เป็นแม่มองลูกสาวของตัวเองด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย มาลินีได้รับฟังเรื่องราวที่ลูกสาวของเธอแล้วรู้สึกปวดใจอย่างที่สุด ‘สุดท้าย...วันนี้ก็มาถึง วันที่มาลินีกลัวอย่างที่สุดก็ได้เกิดขึ้นแล้ว’
‘คุณธารณ์...ข่มขืนมิ้นท์ค่ะแม่’ คำพูดของลูกสาวเธอยังดังกึกก้องอยู่ในหัวของมาลินี ร่างกายของเธอชาตั้งแต่หัวจรดเท้าเมื่อได้รู้ความจริงอันแสนเจ็บปวดนี้ เธอควรจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ เดินเข้าไปหาคุณผู้หญิงเพื่อบอกให้ลูกชายของท่านรับผิดชอบลูกสาวเธอ หรือพาลูกสาวจากบ้านนี้ หนีให้ไกลแล้วไปเริ่มต้นชีวิตใหม่
มาลินีจะเลือกทางไหน เธอสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหน สุดท้ายแล้วเธอและลูกก็ไม่สามารถที่จะเรียกร้องสิ่งไหนได้เลย นอกจากก้มหน้ารับชะตากรรมต่อไป เธอกับลูกไม่ได้อยู่ในฐานะที่สูงส่ง เป็นแค่คนรับใช้จะเอาอะไรมาต่อรองกับพวกเป็นนายได้กันเล่า มาลินีก็ได้แต่โทษตัวเอง ถ้าเธอไม่ยอมตกลงช่วยคุณผู้หญิงเยาวเรศตั้งแต่แรก ลูกสาวของเธอก็คงจะไม่เป็นแบบนี้
.....................
ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
“ตาธีย์จะกลับมาเหมือนเดิมหรือคะคุณหมอ!”
“ครับ ลูกชายของคุณมีสัญญาณบ่งบอกว่าเขาจะกลับมาเป็นปกติครับ จากเมื่อคืนพยาบาลที่เฝ้าเธอบอกว่าลูกชายคุณเริ่มที่จะขยับร่างกายแล้วครับ”
“จริงหรือคะคุณหมอแสดงว่าอีกไม่นานตาธีย์ก็จะกลับมาเป็นปกติแล้วสิคะ งั้นหมอรักษาตาธีย์ให้เต็มที่เลยนะคะ เรื่องค่ารักษาดิฉันไม่มีปัญหาเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นยาหรือการรักษาต่างประเทศ ดิฉันก็ยอมค่ะ ดิฉันอยากให้ลูกชายของดิฉันหายเป็นปกติเร็วๆ ค่ะ”
สายตาของผู้เป็นแม่มีประกายแห่งความหวังอันเจิดจ้า คุณหญิงเยาวเรศได้รับข่าวจากโรงพยาบาลว่าลูกชายของเธอที่นอนเป็นเจ้าชายนิทรานานนับหกเดือนนั้นจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ธราธิปประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแทบจะหมดหวังและหมดทางรักษาแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบุตรชายคนเล็ก มันเลยทำให้คุณหญิงเยาวเรศเสียใจและทุกข์ใจตลอดเวลา
“จากการตรวจเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาสภาพร่างกายโดยรวมของลูกชายคุณดีมากครับ หมอขอแสดงความยินดีกับคุณแม่ล่วงหน้าด้วยนะครับ อีกไม่นานลูกชายของคุณจะต้องกลับมาเหมือนเดิมแน่นอนครับ”
“ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ ดิฉันดีใจมากค่ะ คิดว่าตาธีย์จะไม่กลับมาเหมือนเดิมแล้วค่ะ”
ความหวังของเยาวเรศเริ่มมีแสงสว่างแห่งปลายทางมากขึ้น เธอมีหวังทั้งๆ ที่ไม่คิดมาก่อนว่าจะมีวันนี้เลยด้วยซ้ำ อย่างน้อยถ้าบุตรชายคนโตยังไม่คิดที่จะมีทายาท เยาวเรศก็ยังมีเหลือลูกชายคนเล็กของเธอเพื่อเป็นความหวังในการสืบทอดสกุลต่อไป
.......................
สายสนทนา...
“แกจะมัวมานั่งเสียความรู้สึกกับตาธารณ์อยู่แบบนี้ไม่ได้นะยัยตา ฉันให้คนเอาข้าวของเสื้อผ้าแกไปไว้ที่บ้านอัครเมธีแล้ว และแกเองก็ต้องง้อตาธารณ์ให้สำเร็จด้วย ปล่อยไว้ไม่ได้ ยิ่งตาธารณ์เสร็จอีนังเด็กรับใช้นั่นแล้ว แกจะต้องรีบทำนะยัยตา”
“ตาก็พยายามแล้วนะคะมี้ เมื่อกี้เหมือนกับธารณ์จะรู้ว่าตาไม่ได้ไปดื่มกับเพื่อนค่ะ และอีกอย่างธารณ์ก็โกรธตามากค่ะ ที่ตาไม่เห็นความสำคัญของพิธีแต่งงานค่ะมี้”
“มันก็สมควรแล้วที่ตาธารณ์จะโกรธ มีอย่างที่ไหนงานแต่งงานตัวเองยังไม่เสร็จ รีบ*แจ้นไปฉลองกับเพื่อน นี่สรุปฉลองจริงๆ หรือว่าแกมัวไป*คั่วกับไอ้นิธิศมันอีก ฉันบอกให้แกเลิกยุ่งมันแล้ว แกอย่าได้กลับไปหามันอีกล่ะ”
กว่าที่เธอจะจับลูกเขยหมื่นล้านได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คุณหญิงเบญจมาศต้องลงทุนชุบตัวเองและลูกไปตั้งเท่าไหร่
“ไม่ค่ะมี้ ตาบอกไปฉลองกับเพื่อน มี้ก็ต้องเชื่อตาบ้างสิคะ เรื่องแค่นี้ไม่เห็นจะต้องโวยวายเลยค่ะ เดี๋ยวตาจัดการเรื่องธารณ์เอง คงแค่งอนตาก็เท่านั้นเอง ถ้าธารณ์ไม่รักตา คงไม่ยอมแต่งงานกับตาหรอกค่ะ มี้ไม่ต้องห่วงนะคะ”
รสิตาก็ลงทุนไปกับตัวเองอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ก่อนหน้านี้เธอใช้บริการสถานความงามทั้งในและต่างประเทศ เพื่อประทินโฉมให้รสิตาออกมาสวยสดงดงามให้สมกับเป็นภรรยาเศรษฐีหมื่นล้าน สมัยนี้เงินบันดาลทุกสิ่งกับนิธิศคู่ขาเธอ ก็แค่ระบายอารมณ์เปลี่ยวแค่นั้นเอง
“ขอให้มันจริงเถอะ ยังไงแกก็รีบง้อตาธารณ์ให้สำเร็จคืนนี้ด้วยล่ะ อย่าปล่อยข้ามคืนข้ามวัน เดี๋ยวยัยเด็กรับใช้นั่นจะคว้าเอาไปซะก่อน เด็กคนนี้ร้ายจริงๆ แค่ให้ปลอมเป็นแก กลับมาอ่อยตาธารณ์อีก เรื่องนี้แม่จะต้องคุยกับคุณหญิงเยาวเรศแล้ว ขืนให้มันอยู่ในบ้านนั้นอีกเป็นเรื่องแน่นอน”
“ธารณ์จะเอาเด็กนั่นมาแทนตาเหรอคะมี้ มันแค่เด็กรับใช้นะคะ ธารณ์คงไม่ทำแบบนั้นแน่นอนค่ะมี้”
“แกอย่ามั่นใจให้มากนัก แค่เมื่อคืนตาธารณ์ยังเสร็จยัยเด็กนั่นเลย แม่ก็คิดว่าแกจะเอาอยู่ ที่ไหนได้พลาดไปอีก นึกแล้วยังโมโหไม่หายเลย ฉันอุตส่าห์สั่งให้มันเฝ้า ไม่คิดว่ามันจะมีแผนชั่วขนาดนี้”
“ตาไม่คิดว่าธารณ์จะติดใจแม่นั่นหรอกค่ะมี้ มันอาศัยอยู่บ้านธารณ์มาตั้งแต่เกิด ถ้าธารณ์สนใจมัน ก็คงจะเสร็จมันไปนานแล้วค่ะ เดี๋ยวยังไง วันนี้ตาจะไปเจอมันค่ะ ให้เงินมันไป และทุกอย่างก็จบค่ะ”
“ขอให้มันจริงอย่างที่แกพูดเถอะ อืม รีบๆ ไปจัดการเลย มัวทำอะไรอยู่ เดี๋ยวแม่จะโทรหาคุณหญิงเยาวเรศสักหน่อย ต้องอธิบายเรื่องแกอยู่หลายเรื่อง”
“ค่ะแม่ ตากำลังจะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ”
“ดี รีบไปเลย”
.....................
ในขณะที่อีกฝั่งหนึ่ง...
“ลูกต้องกิน ไม่งั้นลูกก็จะไม่หายนะ”
มาลินียกจานอาหารให้กับลูกสาวของเธอ สภาพของลูกเธอตอนนี้หนักพอสมควร ทั้งบอบช้ำและป่วยไข้ขึ้นกะทันหัน มาลินีสงสารลูกสาวจับใจ ทำไมเหตุการณ์อันเลวร้ายนี้ต้องมาเกิดกับลูกของเธอด้วยนะ
“มิ้นท์ไม่หิวค่ะแม่”
“ไม่หิว ลูกก็ต้องกินนะ ลูกยังต้องไปเรียนหนังสือ จะขาดเรียนหลายวันไม่ได้ แม่เข้าใจมิ้นท์นะลูกว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน และแม่เองก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือมิ้นท์ได้เลย มิ้นท์สำคัญกับแม่มากนะ เรื่องที่ผ่านมา ลูกคิดซะว่ามันเป็นฝันร้ายของลูกเถอะนะ”
“ฝันร้ายเหรอคะแม่...มะ-มิ้นท์ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วนะคะแม่”
ดวงหน้าอันซีดเผือดของเด็กสาวมีหยาดน้ำตาไหลอาบสองแก้ม เมื่อนึกถึงสิ่งที่ตัวเองสูญเสียไป ความรู้สึกเจ็บปวดกลับตีเข้ามาในอกอีกครั้ง เอมิกาไม่รู้ว่าชาติที่แล้วเธอไปทำกรรมอะไรไว้กับเขาหนักหนา ชาตินี้เขาถึงได้เอาคืนเธอแบบนี้ ถ้าเป็นฝันร้ายอย่างที่แม่เธอบอก มันก็คงต้องหลอกหลอนเอมิกาไปตลอดชาตินี้สินะ
“แม่เข้าใจลูกนะ...แต่ชีวิตของลูก...ยังมีแม่นะมิ้นท์”
ความเจ็บปวดของผู้เป็นแม่นั้นก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย ลูกเจ็บ...แม่กลับยิ่งเจ็บกว่า ถ้าเธอเจ็บแทนลูกได้ มาลินีก็พร้อมที่จะทำเพื่อลูกของเธอ
“เราออกจากบ้านหลังนี้ไปเถอะค่ะแม่ มิ้นท์ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วค่ะ”
เอมิการู้ว่ามันเป็นไปได้ยาก แต่เธอก็ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว เธอไม่อยากเจอเขา และไม่อาจทนเห็นสายตาของผู้คนในบ้านหลังนี้อีกต่อไป
“เราจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ เราไม่มีบ้านนะ และอีกอย่างมิ้นท์ก็ยังเรียนไม่จบนะ”
มาลินีเข้าใจความเจ็บปวดของลูกสาวเธอดี แต่ทว่าถ้าเธอพาลูกออกจากบ้านหลังนี้ไป มันยิ่งจะเลวร้ายเข้าไปอีก ไม่มีบ้าน ไม่มีเงิน มาลินีจะทำอย่างไรดี
“แต่มิ้นท์อยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วค่ะแม่ มิ้นท์ไม่อยากเจอ ไม่อยากให้ใครรู้ค่ะแม่”
“มิ้นท์ทนอีกสักหน่อยนะ แม่จะหาทางให้เราออกจากบ้านหลังนี้ไปให้ได้ แต่ว่าตอนนี้ลูกจะต้องสู้ก่อนนะ พยายามลืมเรื่องที่เกิดขึ้น ให้มิ้นท์นึกถึงอนาคตของตัวเอง มิ้นท์ยังมีแม่นะ และแม่ก็รักมิ้นท์มากนะ...เราไม่สามารถที่จะกลับไปแก้ไขอดีตได้ แต่เราก็ไม่ควรที่จะจมปลักอยูกับมันนะมิ้นท์ ลูกอายุยังน้อย อนาคตลูกนั้นอีกยาวไกล เจ็บปวดแค่ไหนลูกก็ต้องผ่านมันไปให้ได้นะ”
“...” นั่นสินะ เอมิกายังมีแม่ ยังมีคนที่รักเธออยู่ตรงหน้านี้ แม่พูดถูก เอมิกายังมีอนาคตรอเธออยู่ข้างหน้า เอมิกายังมีฝัน ยังมีความรักจากแม่ที่รักเอมิกามาตลอด...นั่นสินะ...
....................
กดหัวใจ คอมเมนท์ = หนึ่งกำลังใจนะคะ
ฝากกดติดตาม เพิ่มเข้าชั้น
และรับแจ้งเตือนตอนใหม่ เรื่องใหม่ค่ะ