“คุณหนู! นมสาขอโทษนะคะ”
สาที่เพิ่งตื่นจากการนอนพอรู้สึกตัวเธอก็รีบกลับมาหาคุณหนูตัวเองทันที ดีนะที่พอเข้ามาเจอพายุเลยโล่งใจหน่อย
“นมสาตื่นแล้วเย้ๆ” นิ่มตบมือตัวเองด้วยความดีใจ ในสายตาพายุกับนมสานิ่มดูบริสุทธิ์ทั้งร่างกายและจิตใจ
“เดี๋ยวเฮียขอคุยกับนมสาก่อนได้หรือเปล่าครับ”
“ค่า~”
พอได้รับคำอนุญาตทั้งคู่ก็เดินปลีกตัวออกไปยืนคุยกันไม่ไกลมากนัก
“ที่นมสาขอร้องให้ผมช่วยพูดเรื่องย้ายนิ่มไปบ้านคุณหญิงย่า ผมจัดการให้เรียบร้อยแล้วนะครับ”
ความจริงเรื่องนี้นมสาขอร้องเขามาหลายปีแล้ว ตั้งแต่ตอนที่นิ่มตกน้ำและกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา
“จริงเหรอคะ!! ดีจริง ๆ ถ้าเป็นแบบนี้ก็ดีเลย นมน่าจะขอร้องให้คุณพายุออกหน้าตั้งนานแล้ว”
“ไม่หรอกครับ อีกอย่างสถานะตอนนั้นต่อให้ออกหน้าใครก็คงไม่มีคนยอมทำตาม”
คำว่าอำนาจมันน่ากลัวก็แบบนี้แหละ ตั้งแต่เขาขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้าอยู่เหนือทุกคน ทุกอย่างก็พลิกจากหลังมือเป็นหน้ามือทันที
“แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นนมก็ต้องขอบคุณแทนคุณหนู คุณพายุดีกับคุณหนูมาก ทั้งที่ทางนี้ไม่เคยทำอะไรให้เลยมีแต่รับ”
“ไม่เลย...ผมต่างหากที่รับจากน้องมามากแล้ว”
พายุพูดพร้อมกับมองคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยแววตาอ่อนโยนแบบที่เขาทำ ส่วนนิ่มที่แอบฟังอยู่อยากรู้จริงๆ ว่าเรื่องที่เขาพูดมันคืออะไร ทำไมในหัวเด็กสาวคนนี้ถึงไม่มีความทรงจำเหลือบ้าง
“ขออนุญาตครับ”
ระหว่างที่พายุคุยกับนมสา คานก็เดินเข้ามาขัดจังหวะแต่ท่าทางของคานดูจะมีเรื่องสำคัญพายุเลยพยักหน้าให้เขาเข้าไปพูดใกล้
“นายไปรอฉันข้างนอกก่อน” พอได้ฟังเรื่องที่ลูกน้องคนสนิทมาบอกสีหน้าพายุก็ดูตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด
“ครับ”
“นมสาพอดีผมมีธุระสำคัญต้องไปทำเดี๋ยวจะหาคนฝีมือดีสักคนมาคอยช่วยคุ้มกันนะครับ”
“ขอบคุณมากอีกครั้งนะคะ”
พายุพยักหน้าให้นมสาก่อนจะเดินกลับมาหาคนตัวเล็กที่กำลังนั่งเล่นตุ๊กตาในมือ
“หนูนิ่มครับเดี๋ยวเฮียต้องกลับไปทำงานต่อ อยู่กับนมสาสองคนห้ามดื้อนะครับ”
“ค่า~”
จุ๊บ!! จู่ ๆ ริมฝีปากร้อนก็จูบลงมาบนหน้าผากเล็ก ทำเอาคนที่ถูกจูบถึงกับหยุดชะงักนิ่งไป ใช่ว่าจะไม่เคยถูกทำแบบนี้ใช้ชีวิตมา 40 ปีสามีก็มีมากกว่าจูบหน้าผากก็ทำมาแล้ว แต่ทำไมแค่ชายหนุ่มตรงหน้าทำมันถึงใจเต้นขนาดนี้หรือเพราะหัวใจดวงนี้เป็นของนิ่มเหรอ
“เป็นเด็กดีนะครับ แล้วเฮียจะรีบกลับมารับ”
ทำไมเธอถึงรู้สึกคำบอกลาของคนตรงหน้ามันฟังดูแปลกๆ เธอตัดสินใจใช้แขนเล็กทั้งสองข้างกอดเขาไว้
“รีบมานะค่า~”
“ครับ” มือใหญ่ลูบผมนุ่มอีกครั้งแล้วเดินออกไปทันที
..............
บรรยากาศตกดึกของคืนวันนั้นเต็มไปด้วยความเงียบ ตอนนี้นมสาหลับไปแล้วเหลือเพียงแค่นิ่มที่กำลังนอนคิดถึงเรื่องจัดการในอนาคต นอกจากเรื่องคนที่ฆ่าเธอแล้ว ยังมีเรื่องของคนที่พยายามจะฆ่านิ่มด้วย แต่ว่าใครล่ะทุกคนเหมือนมีเหตุจูงใจกันหมด 'เพียงพร' ที่เป็นแม่เลี้ยงคือคนที่น่าสงสัยมากที่สุด 'น่านน้ำ' แม้จะดูเป็นคนดีแต่เหตุจูงใจก็มีเพราะดูเหมือนเธอจะมีใจให้พายุ ส่วนคนเป็นพ่ออย่าง 'พจน์' ที่ดูจะไม่สนใจการมีอยู่ของลูกสาวโรคประสาทไม่เคยปกป้องก็น่าสงสัยจะมีใครอีกไหมนะ
นิ่มที่กำลังคิดวิเคราะห์เรื่องต่างๆ อยู่ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อสังเกตเห็นเงาด้านหน้าประตูห้องเคลื่อนไหวไปมาแปลกๆ ก่อนจะดูถูกเปิดออกช้าๆ ท่าทางดูมาร้ายมากกว่าดี พอรู้แบบนั้นเธอก็รีบหลับตาลงทันที
[ใคร? คนคุ้มกันที่พายุส่งมาเหรอ]
ร่างสูงใหญ่ของชายมาหยุดยืนข้าง ก่อนจะก้าวขาเบาสุดไปหยิบหมอนที่วางอยู่โซฟาใกล้ๆ หญิงสูงอายุกำลังหลับแล้วกลับมาข้างเตียงคนไข้อีกรอบ หมอนใบขนาดกลางวางทาบลงบนใบหน้าคนกำลังหลับ แรงกดค่อยเพิ่มระดับหนักขึ้นเพื่อหวังฆ่าคนที่ตัวเองได้รับคำสั่งมาให้ตาย
“อืออออ”
คนที่กำลังแกล้งหลับเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก เธอใช้มือหนึ่งพยายามที่จะดึงแขนอีกฝ่ายออกแต่ด้วยแรงที่ต่างกันมากเลยไม่มีผล ส่วนมืออีกข้างก็สอดไปใต้ที่นอนคลำหาอะไรบางอย่างที่ตัวเองซ่อนไว้ก่อนหน้านี้ พอเจอเธอก็รีบดึงออกมาและแทงไปที่แขนชายคนนั้นอย่างไม่ลังเล
จึก!!
“อ๊ากกกกก”
มีดปอกผลไม้ขนาดเหมาะมือปักแขนเขาอย่างแรง ไม่เพียงแค่นั้นหญิงสาวที่คนบอกว่าสติไม่สมประกอบยังจงใจกดลงลึกๆ แล้วกรีดเพื่อให้แผลกว้างขึ้น จนเขาต้องจับแขนเล็กออกแล้วบีบอย่างแรง
หมอนที่ถูกกดไว้เมื่อกี้ก็เลื่อนตกลงไปเผยให้เห็นสายตาหญิงสาวมันไม่เหมือนกับคนบ้าเลยสักนิด เขาดึงมีดที่เสียบอยู่บนแขนออกแล้วโยนลงพื้นก่อนจะตวัดสายตามองคนที่ทำด้วยแววตาเคียดแค้น
“มึงตาย”
“อืออออ”
มือใหญ่บีบเข้าไปที่คอเล็กออกแรงบีบอย่างแรงจนเธอหายใจไม่ออก เธอตัดสินใจปล่อยมือออกจากแขนที่บีบคอตัวเองแล้วพยายามยืดแขนไปปัดแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะ เพียงแค่นิ้วแตะเธอก็ไม่ลังเลที่จะปัดมันให้ตก
เพล้ง!!
“คุณหนูเกิดอะไรขึ้นระ...กรี๊ดดดดด ใครก็ได้ช่วยด้วยคนร้าย มีคนร้าย ใครก็ได้ช่วยคุณหนูที!!” สาที่ตื่นเพราะได้ยินเสียงดัง พอลืมตาขึ้นเห็นคุณหนูของตัวเองถูกชายชุดดำใส่หมวกบีบอยู่ก็ตกใจร้องเสียงดัง
ปัง!! เสียงเปิดประตูดังขึ้นก่อนที่ชายเพิ่งเข้ามาจะดึงเอาปืนที่เหน็บอยู่เอวเล็งไปหาคนร้าย
“เฮ้ย!! ปล่อยเดี๋ยวนี้ไม่งั้นกูยิง” แม็กมือซ้ายของพายุจ้องอีกฝ่ายด้วยแววตาโกรธเคือง ไม่คิดว่าจะมีคนเข้ามาเหยียบจมูกตอนที่ดูเองเป็นคนดูแล
“แม่งเฮ้ยไหวตัวเร็วฉิบหาย” คนร้ายรีบดึงร่างหญิงสาวที่ตัวเองกำลังบีบคออยู่ให้ลุกขึ้น แต่มือยังไม่ปล่อยออกจากคอของเธอ “วางปืนลง ไม่งั้นกูหักคออีนี่ตายคามือแน่”
แม็กลังเลแต่พอเห็นคนร้ายออกแรงบีบคอเธอก็ต้องจำใจยอมวางปืนลงบนพื้น
“เตะออกไป”
คนร้ายไม่วางใจผู้ชายที่ถูกฝึกมาอย่างดี พอหลังจากอีกฝ่ายทำตามที่ตัวเองบอกก็ค่อยๆ เดินถอยหลังไปที่ประตูพร้อมกับคนที่ตัวเองจับเป็นตัวประกัน
“คุณหนูของนม ปล่อยคุณหนูเถอะนะเอาฉันไปแทน”
“หุบปากอีแก่!! กูจะเอามึงมาทำไม”
ระหว่างที่คนร้ายหันไปสนใจหญิงสูงวัย นิ่มที่กำลังถูกลากผ่านมีดก็ใช้เท้าเตะมีดไปหาผู้ชายชุดดำอีกคนที่เหมือนตั้งใจจะมาช่วยเธอ
แม็กมองมีดเปื้อนเลือดด้วยความสงสัย แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่มีเวลาคิด เขารีบหยิบมาซ่อนไว้ด้านหลังก่อนคนร้ายจะเห็น
“ปล่อยเธอซะ”
“ฮ่า ๆ เรื่องอะไรกูจะปล่อย อีนี่มันต้องตาย”
“อึก!! อือออ”
แรงบีบเพิ่มน้ำหนักขึ้น ตอนนี้เธอกำลังจะขาดใจตายอยู่แล้ว
[ฉันจะมาตายอีกครั้งในสภาพแบบนี้ไม่ได้]
เธอพยายามยกมือที่เริ่มไร้เรี่ยวแรงเพราะเริ่มขาดอากาศหายใจไปจับแขนข้างเธอใช้มีแทงไปก่อนหน้าแล้วใช้มือกดแรงเท่าที่ตัวเองยังมีกำลัง
“อ๊ากกกกก” คนที่ถูกบีบแผลรีบผลักร่างเล็กลงกับพื้น พอตั้งสติได้ก็มองอีกฝ่ายด้วยความโกรธหมายจะฆ่าทิ้งด้วยความแค้นมากกว่าคำสั่ง “อีเวรนี่! กูไม่ปล่อยมึงแน่”
แม็กที่เห็นว่ามีโอกาสก็ปามีดอย่างชำนาญไปปักบนไหล่ของคนร้าย ดูเหมือนว่าบาดแผลจะทำให้คนร้ายยอมเลือกจะถอยแล้ววิ่งออกจากประตูไปอย่างรวดเร็ว
“คุณหนู!! คุณหนูของนมเป็นอะไรฮืออออ”
นมสารีบวิ่งเข้ามาประคองร่างอ่อนปวกเปียกแล้วกอดไว้แน่นร้องไห้ แม็กกำลังจะวิ่งตามคนร้ายออกไปก็ต้องหยุดชะงัก รีบวิ่งกลับเข้ามาในห้องกดปุ่มฉุกเฉินเรียกหมอกับพยาบาลมารักษาคนที่สลบไป เขามองหญิงสาวที่เจ้านายตัวเองสั่งให้มาปกป้องด้วยความสงสัย มีดที่ถูกเตะมาทางตัวเองกับมือหญิงสาวที่บีบแขนคนร้ายและก็ยังมีแผลที่คนร้ายได้มาอีก...ใครทำ?
[เธอสติไม่สมประกอบนิ จะทำเรื่องพวกนี้เหมือนคนถูกฝึกได้ยังไง]
ตระกูลอนันท์พิบูรวงศ์ษา (5 เดือนต่อมา)“อุ๊ป! อ้วกกกก”เสียงอ้วกที่ดังออกมาจากห้องน้ำทำให้คนที่ยืนคอยอยู่ด้านนอกอดห่วงไม่ได้เพราะอีกฝ่ายเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้วแกร๊ก~ ไม่นานร่างของคนที่หายเข้าไปในห้องน้ำก็เดินออกมาด้วยสภาพที่อิดโรย“ที่รักคุณไหวหรือเปล่าคะ”นิ่มยื่นผ้าขนหนูผืนเล็กสีขาวให้เขาเช็ดหน้าตาตัวเอง หลังจากจบเรื่องราวทุกอย่างเธอกับพายุก็แต่งงานกันได้ 4 เดือนแล้ว เขาดูแลและปรนนิบัติกับเธอดีทุกอย่างแม้จะรู้ว่าตัวเธอไม่ใช่นิ่มคนเก่าอีกต่อไป เขาเคยมาสารภาพกับเธอว่าเริ่มสังเกตตัวเองมีปฏิกิริยาหรือความรู้สึกแตกต่างออกไปจากนิ่มคนเก่ากับเธอตั้งแต่ที่โรงพยาบาลแล้วและอาจจะหลงรักนิ่มคนใหม่ตอนนั้นก็ได้“ไหวครับ” ถึงจะบอกว่าไหวแต่ตอนนี้เขาก็หน้ามืดมาก ช่วงนี้เป็นอะไรไม่รู้ ทั้งเอาแต่อ้วก อารมณ์ฉุนเฉียวก็ง่าย แถมยังอยากกินอาหารเปรี้ยวบ่อยๆ “แต่เฮียเป็นอะไรไม่รู้หรือว่าเฮียควรไปหาหมอดีครับที่รัก”“ใช่ค่ะ ควรไปหาหมอ...แต่ไม่ใช่ที่รักนะคะเป็นหนูนิ่มต่างหาก”“ที่รักเป็นอะไร!! ไม่สบายตรงไหนบอกเฮียมาเลย”เพียงแค่ได้ยินว่าภรรยาต้องไปหาหมอหัวใจเขาก็เต้นแรงด้วยความหวาดกลัว เขากลัวจนลืมว่าตัวเองต่างห
Dararai Hospitel (ห้องพักคนไข้ VVIP) “เฮียพายุคะ ตอนนี้ทิศพายัพเปลี่ยนมือหัวหน้าแล้วนะ วีได้เป็นหัวหน้าแทน เขายกเลิกพวกการค้าเถื่อนที่จะส่งเข้าไปทิศอื่น ๆ หนูนิ่มบอกเขาว่าสิ่งที่นารันต้องการมากที่สุดคือให้เขามีชีวิตเป็นของตัวเองเพราะนารันเธอก็ได้ตายไปแล้วอยากใช้ชีวิตของตัวเอง ไม่รู้ว่าเขาจะทำตามที่หนูบอกไหมแต่ตอนนี้สำหรับหนูเหลือแค่เฮียแล้วนะแต่ถ้าเฮียไม่ฟื้นแบบนี้หนูก็ไม่เหลือใครสิ”หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาเกือบเดือนหนึ่งแล้ว พายุที่ถูกยิงเฉียดจุดสำคัญไปเพียงนิด แต่นั่นก็ทำให้เขาหลับไม่ได้สติมาเกือบเดือน เธอกลัวเหรอเกิน...กลัวว่าเขาจะเหมือนนิ่มที่หลับไปแล้วกลับมาไม่ใช่ตัวเองอีก แบบนั้นเธอคงทนไม่ได้แม้ว่าตอนนี้พายุจะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอีกเพราะอาการคงที่มีเพียงเครื่องที่เอาไว้คอยวัดคลื่นความถี่ของหัวใจ ส่วนเธอก็มาอยู่ที่โรงพยาบาลทุกวันเรื่องในแก๊งก็มีเธอคอยจัดการแทนเงียบ ๆ โดยให้คานกับแม็กเป็นคนออกหน้าแทน ส่วนเรื่องของอดีตสามีที่วีเป็นคนฆ่า หัวหน้าทิศคนอื่นลงความเห็นว่าเพราะหัวหน้าของทิศพายัพทำความผิดร้ายแรงโดยการสั่งคนไปทำผิดกฎหมายในเขตการปกครองคนอื่น ความจริงคนพวกนั้นก็อาจจะตั้
คฤหาสน์ตระกูลเวสิกา (3 วันต่อมา)“นายท่านครับผมเตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว”“อืม...แล้วไอ้วีมันอยู่ที่ไหน”“มันหายไปตั้งแต่สองวันก่อนแล้วครับเจ้านาย”“มันได้ไปเจอใครบ้างไหม กูกำลังคิดว่าเรื่องลอบฆ่าของพวกเราคราวก่อนมันนี่แหละจะเป็นคนปล่อยข่าว” ศรันพูดถึงเรื่องนี้แล้วก็ได้แต่โมโห ดีนะที่เขาวางแผนไว้ก่อนไม่อย่างนั้นเรื่องคงสาวมาถึงเขาแน่ว่าเป็นคนวางแผน“คนของเรารายงานว่ามันข้ามเข้าไปเขตของทิศบูรพาครับ”“บูรพางั้นเหรอ” พอได้ยินชื่อนี้เขาก็นึกถึงหน้าไอ้เด็กปากดีคนนั้นกับคู่หมั้นของมันที่รู้ความลับของภรรยา แถมวันงานมันยังเป็นคนเดียวในพวกหัวหน้าทิศที่ไม่ได้อยู่ในช่วงชุลมุน “หรือไอ้วีมันจะขายข่าวพวกเราให้ไอ้เด็กนั่น...แม่งเอ้ย!! แล้วบอกว่าซื่อสัตย์ต่อนารัน มึงมันก็โลภชอบหาผลประโยชน์เหมือนกันแหละว่ะ”“ให้ผมส่งคนไปตามเก็บมันดีไหมครับนายท่าน”“ดี!! แต่ถ้าจับเป็นได้ก็เอามาให้กูก่อนเดี๋ยวกูจะฆ่ามันด้วยมือของตัวเอง”“ครับ...คนของเราแจ้งว่าเตรียมรถสำหรับการเดินทางเรียบร้อยแล้วครับ”“งั้นก็ไปกันเถอะ”ท่าเรือทิศทักษิณรถยนต์สีดำไม่ต่ำกว่าสิบคันมุ่งตรงเข้ามาในทางลับ ศรันทำเรื่องการค้าอาวุธและยาแบบน
คฤหาสน์ตระกูลอัครสกูลวงศ์ (1 อาทิตย์ต่อมา)“กินข้าวหน่อยนะน้ำ อันนี้ของโปรดเราเลยนะ”นิ่มตักอาหารใส่ช้อนยื่นไปตรงหน้าหญิงสาวสติเลื่อนลอยมือของเธอกอดตุ๊กตาไว้ในอ้อมแขนแน่น สายตามองไปรอบๆ เหมือนกำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่างอยู่“อาร่อยมัยยย”“อร่อยสิ ลองกินก่อนนะเด็กดี”“เด็กดี! เด็กดี! น้ำเป็งเด็กดีจากิน”น่านน้ำอ้าปากงับเข้าที่ช้อนอย่างแรงจนเกิดเสียง นิ่มมองคนตรงหน้าตัวเองอย่างเวทนาอีกครั้ง เธอก็ไม่ได้อยากทำร้ายน่านน้ำหรอกนะแต่มันคงจะเป็นผลกรรมของแม่ที่ส่งมาถึงลูก ไม่ต่างจากตอนที่แม่ของนิ่มทำผิดต่อเพียงพรแล้วผลกรรมมาตกไปหาลูกสาว“คุณหนูคะคือมีผู้ชายมาขอเข้าพบค่ะ เขาบอกว่าชื่อวี”“วีงั้นเหรอ...เธอเชิญเขาไปนั่งรอฉันอยู่ที่ห้องรับแขก เสร็จแล้วก็มาป้อนข้าวน่านน้ำแทนฉันหน่อย”“ค่ะคุณหนู”ตั้งแต่ที่เธอย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่อย่างเป็นทางการ พายุก็เป็นคนรับใช้หรือแม้กระทั่งคนสวนชุดเก่าออกทั้งหมดแล้วเปลี่ยนเป็นคนของตัวเองแทนเธอเลยไม่ต้องกังวลเรื่องใครมาลอบฆ่าอีก ส่วนพ่อกับแม่ของน่านน้ำก็ถูกขับออกจากทิศบูรพากลายเป็นเหมือนคนไร้บ้าน ไม่ต่างจากคนจรจัดตอนนี้ทั้งคู่อาจจะกำลังนั่งขอทานอยู่ที่ไหนสักที่ก็ได้
ตระกูลอนันท์พิบูรวงศ์ษา (3วันต่อมา) “อยู่ไหน นังนิ่มมันอยู่ไหน”“คุณเพียงพรอย่ามาโวยวายที่นี่ดีกว่านะครับ บอสของพวกผมคงจะไม่ชอบเท่าไหร่” “ออกไปอย่ายุ่งหมาคอยเฝ้าบ้านแบบพวกแกมีสิทธิ์อะไรมาขวางฉัน ไปลากอีนิ่มมาหาฉันเดี๋ยวนี้!!”เพียงพรไม่ใช่แค่ไม่ฟังคำเตือนของแม็ก แต่เธอยังออกอาการอาละวาดอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้เธอไม่สนใจอะไรนอกจากเรื่องทำให้ลูกสาวที่เสียสติของตัวเองกลับมาเป็นปกติเพราะแบบนั้นเลยกล้าบุกมาถึงที่ ที่ไม่ควรจะมาเพื่อถามอีเด็กเคยบ้าว่าทำยังไงถึงหายได้“โวยวายอะไรกัน!!”เสียงเจ้าของบ้านที่อยู่ตรงระเบียงชั้นสองยืนมองเหตุการณ์ความวุ่นวายด้านล่างด้วยสีหน้าเรียบเฉย“พายุ! หลานช่วยบอกให้นังนิ่มลงมาหาหน่อย”“นังนิ่มงั้นเหรอครับ...เพิ่งรู้นะครับว่าคุณอาไม่ให้เกียรติผู้หญิงของผมขนาดนี้ นั่นสินะ! ถ้าให้เกียรติคงไม่จ้างคนมาลอบฆ่าหรอก”พายุพูดพร้อมกับเดินลงมาจากชั้นบนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม แต่คำพูดของเขากับทำให้เพียงพรชะงักเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรู้เรื่องที่ตัวเองทำ“พะ...พูดอะไรนะ”“งั้นคุณอาไปกับผมหน่อยดีไหมครับ จะได้รู้ว่าผมกำลังพูดถึงเรื่องอะไร” เขาก้าวขาลงจากบันไดขั้นสุดท้ายแล้วมาหยุ
“คุณยังจะทำแบบนั้นไปทำไมกันคะ...อ่อ จริงสินะฉันยังอยู่ในร่างนิ่ม คุณคงไม่อยากให้ฉันพาร่างนี้ไปมีอันตะ...อืออออ” นิ่มยังไม่ได้จบประโยคมือใหญ่ของพายุก็เอื้อมไปปิดปากเธอไว้ แม้ว่าเธอจะพยายามแกะมือของเขาออกแต่ก็ไม่ขยับเลยสักนิด “หยุดพูดได้ไหมก่อนที่เฮียจะคุมอารมณ์ไม่อยู่ เอาเป็นว่าต่อไปนี้ห้ามเข้ามายุ่งอีก ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าเฮียใจร้าย” พายุจ้องตาคู่สวยไม่หลบสายตา ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าหัวใจของตัวเองเป็นของเธอ “แล้วจะให้ฉันทำยังไง” “กลับไปเป็นหนูนิ่มคนเดิม...คนที่ฟื้นมาในร่างของคนอื่น เฮียต้องการนิ่มคนนี้ อาจจะฟังดูเห็นแก่ตัวและน่ารังเกียจแต่เฮียไม่อยากให้นิ่มคนนั้นกลับมาอีก” “ทำไมคะ” “เพราะเฮียไม่อยากให้นิ่มคนตรงหน้าหายไป...เฮียนะหลงรักนิ่มคนนี้ไปจนหมดหัวใจแล้ว” นิ่มใจเต้นแรงเพียงแค่ได้ยินคำบอกของอีกฝ่าย เขาไม่ได้โกหกเธอใช่ไหม “คุณ...” “ชู่ว~ เรียกเฮียสิครับ ทำไมต้องหมางเมินเฮียขนาดนั้นหนูไม่รักเฮียบ้างเหรอ” “อย่ามาล้อเล่นนะคะ เฮียชอบนิ่มต่างหาก...แต่ฉันไม่ใช่นิ่มและไม่มีทางเป็นเธอได้ ถ้าเฮียจะให้ฉันเป็นตัว...” “เฮียไม่เคยเห็นนิ่มคนตรงหน้าเป็นตัวแทนใครเพราะคนที่เฮียรักคือ