บัวชมพูยังคงมาทำงานบ้านแทนมารดาที่บ้านคุณอลังการตามปกติ เขาไม่ร้องเรียนกับบริษัทของแม่ นั้นแสดงว่ายอมรับให้เธอมาทำงานแทนแม่ได้ เธอได้กุญแจสำรองจากรปภ.ไขเข้าบ้านของอลังการเพื่อทำความสะอาดบ้าน หญิงสาวผงะไปเล็กน้อย ในห้องรับแขกอย่างกับมีสงครามเกิดขึ้น ขวดเบียร์เกลือนพื้นห้อง แก้วที่ล้มคว่ำน้ำเจิ่งนอง ข้าวของกระจัดกระจาย หรือว่า
“ขโมยขึ้นบ้าน...”
บัวชมพูพึมพำพอได้สติก็หันซ้ายหันขวาหาอาวุธ จะหยิบมีดก็กลัวเลยคว้าไม้กวาดขึ้นมาชูไว้ เสียงกุกกักดังจากชั้นสองของบ้าน เธอคิดจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจ แต่เสียงเคลื่อนไหวเข้ามาใกล้ทำให้ไม่กล้าส่งเสียง ได้แต่กำไม้กวาดแน่น จนกระทั้งร่างสูงใหญ่เดินลงบันไดผ่านหน้าเธอ ชายหนุ่มถึงกับชะงัก ดวงตาคมจ้องมองไม้กวาดในมือหญิงสาวที่ชูขึ้นเหนือศีรษะทำท่าจะฟาดลง เขารีบยกมือกำด้ามไม้กวาดไว้ก่อน
“เฮ้ย! จะทำอะไร! จะฆาตกรรมเจ้าของบ้านเรอะ!”
“คุณใหญ่!”
บัวชมพูตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะอยู่ในบ้านเวลานี้ อลังการไม่วางใจ กระชากไม้กวาดออกจากมือของหญิงสาว แต่เพราะเธอไม่ทันตั้งตัวยังไม่ได้ปล่อยมือจากด้ามไม้กวาดร่างบางจึงเซถลาเข้าไปปะทะกับแผ่นอกกำยำของอลังการ ร่างนุ่มนิ่มเข้ามาแนบชิด เขาสวมเพียงกางเกงขายาว ท่อนบนเปลือยเปล่ายังมีหยดน้ำเกาะอยู่ พอได้อยู่ใกล้จึงเห็นว่าเส้นผมของเขาก็ยังเปียกชื้น
“ฉันถาม!” เขาดุแต่ไม่ได้เสียงดังเหมือนครั้งแรก มือแกร่งยังโอบเอวบางไว้ “คิดจะทำอะไร”
บัวชมพูได้สติก็ปล่อยมือจากด้านไม้กวาดแล้วขืนตัวออกจากแผ่นอกกว้าง
“หนูนึกว่ามีขโมยขึ้นบ้านค่ะ”
“หือ?” เขาวางไม้กวาดลงแล้วเลิกคิ้ว
“ก็ดูสภาพห้องสิคะ ยังกับถูกโจรรื้อค้นทรัพย์สิน”
อลังการกวาดสายตามองไปรอบตัว เขาแสร้งกระแอมไอแก้เขินแล้วพูดขึ้น “เมื่อคืนหนักไปหน่อย”
“แบบนี้เรียกหนักมากเลยค่ะ” บัวชมพูเบ้ปากแล้วยื่นมือไปคว้าไม้กวาดจากมือของเขา “คุณใหญ่หลบไปทางอื่นก่อน หนูต้องเก็บเศษซากของพวกนี้”
บัวชมพูใช้ปลายด้ามไม้กวาดเกี่ยวกางเกงชั้นในสีแดงสดขึ้นมาจากพื้น “ต้องให้ซักเก็บไว้คืนเจ้าของไหมคะ”
“ทิ้งไป!” อลังการหัวเสีย เขาเป็นเจ้าของบ้าน ทำไมต้องรู้สึกผิดด้วยนะ “ขอกาแฟร้อนหน่อยสิ”
“คุณใหญ่คะ หนูมาทำงานเป็นแม่บ้านทำความสะอาดบ้านไม่ใช่แม่บ้านทำอาหารนะคะ”
เธอบ่นขณะทิ้งกางเกงชั้นในลงในถังขยะ พลางคิดในใจว่าเจ้าของกางเกงในออกจากบ้านได้ไงเนี้ย! แต่ถึงปากจะบ่นแต่เธอก็เดินไปเสียบปลั๊กกระติกน้ำร้อนแล้วเดินกลับมาเก็บขวดเบียร์ที่ล้มอยู่บนพื้น
“รู้แล้ว แต่ไม่คิดจะมีน้ำใจให้บ้างหรือไง” คราวก่อนยังหาผ้าชุบน้ำเย็นมาให้เขาได้เลย
“ก็ต้องดูด้วยค่ะว่าคนแบบไหนควรมีน้ำใจให้” เธอบ่นทั้งที่มือยังทำงาน อันที่จริงแค่ชงกาแฟร้อนไม่ใช่เรื่องยุ่งอะไร แต่ก็อดบ่นไม่ได้จริงๆ
อลังการจะโต้เถียงพลันหุบปากนิ่งไป เขาแปลกใจที่ตัวเองนึกเถียงเด็กคนนี้ ปกติเขาไม่ค่อยชอบพูดคุยหยอกเล่นกับใครเท่าไหร่ แม้กับผู้หญิงที่หิ้วมานอนด้วยก็ไม่ได้มีความผูกพันอะไร เขาหาที่นั่งห่างจากจุดที่หญิงสาวทำความสะอาด เอนตัวพิงพนักโชฟา มองร่างเล็กที่ก้มๆเงยๆ เก็บข้าวของบนพื้น จะว่าไป มันก็เหมือนมีคนบุกรุกบ้านเขาจริงๆ
บัวชมพูทำงานอื่นรอจนกระทั่งน้ำร้อนได้ที่แล้วจึงเดินมาชงกาแฟดำให้เจ้าของบ้าน
“กาแฟดำค่ะ อยากได้ครีมหรือน้ำตาลไหมคะ”
“ไม่ล่ะ ปกติกินแต่กาแฟดำ”
บัวชมพูขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ค่อยพอใจที่เห็นเขานั่งเกะกะสายตาอย่างนี้ โดยเฉพาะไม่สวมเสื้อ เธออดมองมัดกล้ามของเขาไม่ได้ แล้วสายตาก็ดันไปเห็นรอยข่วนบนหน้าอก เธอหรี่ตาแล้วยื่นหน้าไปมองอย่างไม่รู้ตัว
“มองอะไร เด็กทะลึ่ง” ปกติก็เปลือกอกเป็นประจำ ทำไมจู่ๆ รู้สึกเขินแฮะ
“คุณมีแผล ใส่ยาไหมคะ” เธอใช้นิ้วจิ้มที่รอยแดงๆ นั้น “ต้องไว้เล็บยาวขนาดไหนถึงข่วนเป็นรอยแดงได้ขนาดนี้”
อลังการเห็นอีกฝ่ายทำท่าขนลุกก็ใช้นิ้วจิ้มหน้าผากเบาๆ ผลักให้ถอยห่างออกไป
“ไปเอาเสื้อมาให้ฉันใส่!”
“อ้าว! คุณใหญ่ใส่กางเกงเองได้ ทำไมก่อนลงมาไม่ใส่เสื้อลงมาด้วยคะ” บัวชมพูทำหน้ามุย “แล้วผู้หญิงของคุณออกจากบ้านยังไง กางเกงในไม่นุ่ง”
“ฉันจะไปรู้ได้ไง จ่ายเงินแล้วก็ไล่ๆออกจากบ้านสิ แล้วก็ไม่ใช่ผู้หญิงของฉันด้วย”
พูดแล้วก็ชะงักไป บัวชมพูกวาดตามองเขาอีกครั้งแล้วหมุนตัวเดินเร็วๆ ขึ้นไปหยิบเสื้อที่ชั้นสอง อลังการได้แต่โคลงศีรษะไปมาแล้วยกกาแฟดำขึ้นดื่ม ครู่หนึ่งหญิงสาวเดินลงมาพร้อมเสื้อยืดสีขาว ยื่นส่งให้เขาแล้วหันไปเก็บของในห้องรับแขกและลงมือทำความสะอาด
“ฉันไม่รู้ว่าเธอจะมาวันนี้”
“มันอยู่ในคิวงานอยู่แล้ว คุณใหญ่ลืมวันเอง” เธอพึมพำแล้วหยิบหน้ากากผ้ามาปิดจมูก “คุณจะนั่งตรงนี้เหรอคะ ไปรอบนห้องดีกว่าไหม หรือบนห้องจะพังพินาศไปแล้วคะ”
“เด็กบ้า! มีหน้าที่อะไรก็ไปทำ ฉันจะนั่งตรงไหนก็เรื่องของฉัน” เขาดุแล้วรีบสวมเสื้อยืด
“แล้วทำไมวันนี้คุณใหญ่อยู่บ้านละคะ ปกติอยู่ฟาร์มไข่มุกไม่ใช่เหรอ”
เธอถามแล้วไม่สนใจว่าเขาจะนั่งตรงไหน รีบจัดการทำหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จ ตอนเย็นจะไปช่วยน้ารุ่งรวีเปิดร้านขายกับข้าวอีก
“บ้านฉัน ฉันจะอยู่วันไหนต้องรายงานเธอเหรอ”
บัวชมพูเลิกคิ้ว แล้วยักไหล่ไม่คิดจะพูดอะไรอีก เธอเก็บขวดเบียร์ลงถังขยะแล้วจัดการเช็ดคราบน้ำก่อนจะลงมือถูบ้าน อลังการนั่งมองเธอทำงานไปเงียบๆ เธอหันมาถามเขาว่าต้องการการกาแฟเพิ่มไหม เขาพยักหน้า เธอจึงเช็ดมือแล้วรับถ้วยกาแฟใบเดิมของเขาไปชงให้ให้อีกแก้วแล้วยกมาให้ จะว่าไปเธอก็ทำหน้าที่ของเธอดีแล้ว แต่เพราะเขาหยุดงานตรงกับวันที่เธอมาทำความสะอาดพอดีถึงได้เจอกันแบบนี้
“ข้างล่างเสร็จแล้ว หนูขึ้นไปทำที่ห้องคุณใหญ่นะคะ”
“อืม”
หญิงสาวเดินไปขึ้นไปชั้นบน เขาขยับตัวเอนกายในห้องเพียงลำพัง ฟังเสียงการเคลื่อนไหว เขาไม่ได้จะจับผิดเธอ แต่แค่รู้สึกแปลกๆ ที่รู้สึกว่ามีคนอื่นอยู่ในบ้าน เขาอยู่คนเดียว ไม่ได้ติดต่อญาติพี่น้องมานาน ส่วนใหญ่จะโทรศัพท์หากัน แต่ไม่ได้ไปมาหาสู่สนิทสนมเหมือนแต่ก่อน เขาอยากอยู่คนเดียว เหมือนลงโทษที่ตัวเอง
เสียงออดดังหน้าบ้านเรียกอลังการให้ตื่นจากภวังค์ เขามองเลยไปยังชั้นบนแล้วนึกได้ว่า ผู้หญิงคนนั้นคงไม่ได้ยิน และต่อให้ได้ยิน เธอก็คงเถียงเขาฉอดๆ ว่าไม่ใช่คนรับใช้ที่ต้องวิ่งไปทำนั้นทำนี้ให้ อลังการยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ลุกขึ้นไปเปิดประตูบ้าน
“ดีจริง อยู่บ้านด้วย”
“อาปกรณ์” อลังการประหลาดใจแต่ก็เบี่ยงตัวให้ชายร่างสูงใหญ่พอๆกับเขาเดินเข้ามาในบ้าน “จะมาหาทำไมไม่บอกก่อนละครับ”
“บอกให้แกหลบหน้าอาเรอะ!” ปกรณ์เดินเข้ามาด้วยความเคยชิน แต่อดกวาดตามองไม่ได้ อลังการลอบถอนหายใจโล่งอกที่ยัยหนูนั้นทำความสะอาดบ้านได้เรียบร้อยทันเวลา เขาอายุ42แล้ว แต่คนที่บ้านยังคงเป็นกังวลเรื่องของเขาอยู่
อลังการเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อหยิบขวดน้ำดื่มออกมา แต่สายตาปะทะกับถังขยะที่มีกางเกงชั้นในสีแดงนอนสงบนิ่งอยู่ เขาลอบสบถแล้วหันซ้ายหันขวาเจอเพียงหนังสือฉบับเก่าวางอยู่ จึงหยิบมันโยนใส่ถังขยะทำให้ไม่เห็นกางเกงชั้นในเจ้าปัญหา ทำไมเมื่อก่อนเขาไม่คิดว่าเรื่องแค่นี้จะทำให้เขาวุ่นวายได้นะ
“บ้านช่องเรียบร้อยดี”
“อาครับ ผมอายุสี่สิบสองแล้ว อาอย่าทำเหมือนผมเป็นเด็กเลย”
“ก็รู้ว่าไม่ใช่เด็ก แต่มีคนเป็นห่วงไม่ดีหรือไง” ปกรณ์รับน้ำเย็นจากอลังการมาดื่ม
“อามาเที่ยวหรือครับ พักที่ไหน ไม่เห็นกระเป๋าเสื้อผ้าเลย”
“ก็ยังต้องรอดูนั้นแหละ ถ้าใช้วิธีของผมนะจบง่ายกว่านี้” ราชันยักไหล่ “ก็เดหลีเป็นคนดีนี่ค่ะ” ลลิน ได้ยินเสียงร้องกรี๊ดๆ ดังลั่นมาถึงด้านนอก คงขู่ให้กลัวได้อยู่บ้าง “คนห่วงหน้าตาอย่างเบลล่า คงไม่กล้าทำอะไรอีกแน่ๆ ค่ะ” “ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น เอาล่ะ กลับบ้านเราเถอะ” “อ้าว! แล้วไม่ไปเยี่ยมคุณยักษ์แล้วหรือคะ” “ไปทำไม เจ็บแค่นิดเดียวเอง ให้เมียมันดูแลเถอะ” หญิงสาวหัวเราะเสียงใส แสดงว่าที่นอนอยู่นั้นคงตั้งใจ ‘ออเซาะ’สินะ ราชันบีบปลายจมูกของคนรักอย่างหยอกล้อ ที่เขายอมมาช่วยก็เพราะเป็นห่วงเดหลีหรอก ไม่ใช่เพราะอยากมาช่วยเจ้ายักษ์ แต่เอาเถอะ ถึงตอนนี้แล้ว คงจัดการตัวเองได้แล้วล่ะ…………มังกรกัณฐ์ชะเง้อมองไปทางประตู เขารอให้คนรักกลับเข้ามาจะได้แกล้งเจ็บออดอ้อนให้สมใจอยาก แค่โดนรถเฉี่ยวนิดเดียว แต่เดหลีหวีดร้องอย่างกับเขาแขนขาขาดกระเด็น แต่ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนั้นแล้ว เขาจึงสวมบทคนเจ็บให้เต็มที่“โตขนาดนี้แล้วยังเล่นเป็นเด็กอีก” คุณบุรินทร์อดดุหลานชายไม่ได้ ทีแรกได้ยินว่าประสบอุบัติเหตุก็นึกว่าอาการหนัก ยิ่งเห็นเดหลีร้องไห้ต
พนักงานในบริษัทต่างลอบมองหญิงสาว แต่เดหลีทำเป็นไม่ใส่ใจ เธอยังคงทำงานของเธอ พูดคุยกับทุกคนเช่นที่เคยผ่านมา ในเมื่อมังกรกัณฐ์ประกาศออกไปอย่างนั้นแล้ว เธอจะก้มหน้าอายอะไรอยู่ ฐานะชาติกำเนิดของเธอเปลี่ยนแปลงไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือยอมรับความจริงและเผชิญหน้ากับมัน “นี่ๆ เลิกงานแล้วไปซื้อของกันนะ” มังกรกัณฐ์ทักเดหลี ท่าทางของเขาผ่อนคลายลงมาก คิดว่าต่อไปนี้คงไม่มีเรื่องอะไรมารบกวน ‘ชีวิตคู่’ ของเขาอีกแล้ว “ซื้ออะไรคะ” เธอถามสายตายังคงอยู่กับเอกสารตรงหน้า “แหวนไง” “แหวน?” คราวนี้หญิงสาวเงยหน้าขึ้น “แหวนอะไรคะ” มังกรกัณฐ์เบ้ปาก เดินมาจับมือซ้ายของหญิงสาวขึ้น “มือเธอยังไม่มีแหวนแต่งงานเลย” “แหวนแต่งงาน” ใบหน้าหวานขับสีแดงระเรื่อขึ้นมาทันที “เพราะไม่ได้ใส่แหวนแต่งงานละมั้ง คนอื่นถึงไม่รู้ว่าเธอมีเจ้าของแล้ว” เขาหัวเราะออกมา “ถ้าอย่างนั้นคุณยักษ์ก็ต้องใส่ด้วย คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณยักษ์มีเจ้าของแล้ว” เธอพูดใส่เขา แต่อีกฝ่ายกลับยิ้มกว้าง “มันต้องอย่างนั้นอยู่แล้ว” เขายกมือข้างซ้ายของเธอขึ้นมาจูบเบาๆ “เรื่องพิธีแต่งงาน ฉันพูดจริงนะ ฉันอยากจัดงานแต่งงาน อยากให้เธอสวมชุดเจ้าสาว” “ไ
“ก็ฉันหวงเธอ อยากให้เธอเป็นเมียฉัน เป็นแม่ของลูก เรื่องแค่นี้คิดไม่ได้จริงๆ เหรอเดหลี” เพราะปลดปล่อยไปแล้วรอบหนึ่ง รอบสองจึงยาวนานกว่าครั้งแรก เขาขยับตัวเปลี่ยนท่านจับหญิงสาวนอนตะแคงแล้วยกเรียวขาแยกออกสอดใส่จากด้านหลัง มือหนึ่งก็ขยี้จุดเสียวซ่าน อีกมือบีบเคล้นหน้าอกเพิ่มความเสียวกระสัน เขาฟังเสียงครางของหญิงสาวอย่างพอใจ แล้วกระซิบข้างหู “ฉันบอกแล้ว ต่อไปนี้เรื่องของเธอคือเรื่องของฉัน ไม่ว่าปัญหาอะไรของเธอ ที่ฉันพูดกับพ่อเธอวันนี้ก็พูดจากใจจริง ไม่ได้แค่พูดเอาใจใคร” “คุณยักษ์” เธอเอี้ยวหน้าหันมามองเขา วันนี้เธอรู้สึก “รัก” เขามากกว่าทุกวัน รักมากเสียจนอยากกักเก็บเขาไว้เป็นของเธอคนเดียว ไม่ว่าเขาจะทำไปเผื่อรักษาหน้าเขาเองหรือเพราะพูดด้วยความจริงใจ เธออยากรักษาห้วงเวลาพิเศษนี้ไว้ให้เนิ่นนาน “แล้วเลิกคิดเรื่องหย่าไปได้เลย” เขาขบติ่งหูของเธออย่างมันเขี้ยว “โอ๊ย เสียว ขอกระแทกแรงๆนะเมียจ๋า” “อะ..อะ ..อร๊ายยย” “โอ้วว” ชายหนุ่มปลดปล่อยอีกระลอกพร้อมหญิงสาวที่ไปถึงจุดสุดยอดอีกครา คราวนี้เขายอมถอนแก่นกายออกจากร่องรัก เขาโน้มหน้าลงจูบหน้าผากชื้นเหงื่อเบาๆ เขาลุกขึ้นจากเตียง ดึงผ้
“อย่างไรเราก็คนครอบครัวเดียวกัน หรือคุณอาคิดว่าคนอื่นจะดีกับคุณอาเท่ากับผมหรือเดหลีละครับ แต่ถ้าคุณอาไม่เห็นผมเป็นลูกเขยก็ไม่เป็นไร ผมส่งคุณอาให้เสี่ยศักดิ์ชัยดีไหมครับ ได้ยินว่าเสี่ยศักดิ์ชัยตามหาคุณอาอยู่เหมือนกัน” “ไม่ต้องๆ” พ่อของเดหลีรีบร้อนเอ่ยขึ้น เผลอมองไปทางด้านนอกซึ่งมีรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ และเหมือนคนในรถจะรู้ตัว รีบขับออกไปทันที ทำให้พ่อของเดหลีอึกอักทำอะไรไม่ถูก “เอาอย่างนี้นะครับ ประเดี๋ยวผมให้คุณปกรณ์มารับคุณอา หาที่พักสะดวกๆ เข้าโครงการบำบัดยาเสพติด ถ้าคุณอาเชื่อฟังดีๆ หนี้สินต่างๆ ผมเป็นลูกเขยจะจัดการให้เอง” รอยยิ้มของมังกรกัณฐ์เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่กดดันอีกฝ่าย “แต่ถ้าคุณอาไม่ยินดี ผมคงไม่สามารถช่วยอะไรคุณอาได้ รวมทั้งเรื่องเสี่ยศักดิ์ชัยด้วย หรืออย่างน้อยก็เห็นแก่หน้าลูกสาวของคุณอา ทำตัวให้สมกับเป็นพ่อที่ดีสักครั้ง” คราวนี้ทำให้พ่อของเดหลีสงบลงไปได้ มังกรกัณฐ์ถอนหายใจเบาๆ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจะโทรหาปกรณ์ แต่คนทนายประจำตระกูลก้าวเท้ายาวๆ เข้ามาพอดี “จัดการเรียบร้อยแล้วเหรอ” ปกรณ์ทักแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อ เพรา
เขาไม่มีท่าทีจะก่อกวนในที่ทำงานอย่างที่เขาชอบขู่เอาไว้ ทำให้หญิงสาววางใจทำงานอย่างสบายใจ ส่วนเรื่องเสียงนินทานั้น เธอชินแล้ว แต่ก่อนที่จะมาอยู่ดูแลคุณลออ เธอเองเคยถูกเพื่อนร่วมชั้นเรียนไม่ชอบหน้า เบ้ปากมองบนใส่จนเคยชิน บางคนชอบพูดว่าเธอทำตัวเป็นลูกรักของครู-อาจารย์ แต่เธอเพียงแค่ต้องเรียนอย่างหนัก ไม่มีเงินไปลงเรียนพิเศษ และต้องหาทุนให้ตัวเองเรียน การเข้าหาอาจารย์เพื่อติดตามเรื่องขอทุนรวมทั้งหางานพิเศษทำ จึงเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอ แต่ที่ไม่ปกติสำหรับเธอก็คือ ทุกวันทำงานหนักหัวหมุนแค่ไหน เรื่องบนเตียงของเขาไม่เคยหยุดพัก ไม่รู้เขาไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนมากมายขนาดนี้ ‘คนอะไรกินดุ กินจุ ตะกระตะกรามที่สุด!’ “เดหลี” “คะ” “เหม่ออะไร ฉันใช้งานเธอหนักไปเหรอ” มังกรกัณฐ์ถามแล้วดีดนิ้วใส่หน้าผากเธอเบาๆ “เก็บกระเป๋ากลับบ้านได้แล้ว จะหกโมงเย็นแล้ว” “ค่ะ” เดหลียกมือลูบหน้าผากตัวเอง เมื่อไม่มีคนอื่น เขาชอบแกล้งเธอแบบนี้ หญิงสาวปิดคอมพิวเตอร์แล้วหยิบกระเป๋าขึ้นคล้องไหล่ ทั้งสองเข้าไปในลิฟต์แล้ว มังกรกัณฐ์จึงเอ่ยถาม
เดหลีไปได้พูดอะไร คำพูดของเธอไม่มีความหมาย แต่ไหนแต่ไรก็เป็นเช่นนี้ เธอเป็นเพียงตัวแทนของลูกสาวที่จากไปแล้วของคุณลออ ท่านมักคิดถึงแต่เรื่องวัยเยาว์ของลูกสาวเสมอ “ได้เวลาพักผ่อนแล้วค่ะ” พยาบาลพิเศษเดินเข้ามาเรียกอย่างสุภาพ คุณลออพยักหน้ารับแต่ไม่ลืมลูบใบหน้าของหญิงสาว“แม่รักหนูนะลูก”‘หนูก็รักคุณท่านค่ะ’เดหลีได้แต่พูดในใจ พลางนึกถึงท่าทีของแม่ที่มีต่อเธอ เป็นเธอเองที่ยังทำใจยอมรับไม่ได้ อย่างที่ป้าคอยพูดกับเธอเสมอ ให้เธอให้อภัยแม่“ร่างกายแข็งแรงดีแล้วรึ” คุณบุรินทร์เอ่ยถามเมื่อคุณลออออกไปพร้อมพยาบาลพิเศษแล้ว“แข็งแรงดีแล้วค่ะ” เธอตอบเสียงเบา นึกถึงเรื่องที่คุณบุรินทร์เอ่ยในโรงพยาบาล ให้เธอหย่ากับมังกรกัณฐ์ คงถึงเวลาที่เธอต้องทำตามคำสั่งของคุณบุรินทร์ เวลาของซินเดอเรลร่าหมดลงแล้วสินะ“หนู...”“คุณปู่ครับ”เดหลีสะดุ้งไม่คิดว่าจู่ๆ มังกรกัณฐ์จะเข้ามาแบบนี้ คุณบุรินทร์หรี่ตามองหลานชายที่เดินเร็วๆ เข้ามาคว้าข้อมือของหญิงสาวไว้“ผมมีงานค้างอยู่ ขอเอาตัวเดหลีไปก่อนนะครับ”“เออ อ้าว ...เฮ้อ” ยังไม่ทันได้พูดอะไร หลานตัวดีก็แทบลากเดหลีออกจากห้องไป ทั้งคู่เดินออกไปแล้วทิ้งไว้เพียงคนแก่นั