Mag-log in@บริษัท Int.Entertainment
ร่างเล็กในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกระโปรงสีน้ำตาลผมรวบมัดตึงอย่างเรียบร้อยกำลังยืนรอแฟ้มเอกสารที่เจ้านายเซ็นอย่างใจเย็น มือบางยกขึ้นขยับกรอบแว่นอันใหญ่ที่ใช้บดบังใบหน้าสวยด้วยความกังวลเล็กน้อย
ดวงตากลมโตภายใต้กรอบแว่นมองปลายปากกาของเจ้านายที่กำลังจรดลงบนเอกสารและลุ้นว่าจะมีเอกสารอันไหนที่จะตีกลับอีกหรือเปล่า
แสนดีมองเจ้านายผู้เคร่งเครียดที่กำลังกวาดสายตามองรายละเอียดในเอกสารทุกตัวอักษรอย่างคนที่ทำงานละเอียด เพราะหากมีอะไรผิดพลาดเพียงนิดเดียวแฟ้มเอกสารนั้นอาจถูกปามาที่เธอก็เป็นได้
ผ่านไปสี่ปีแล้วที่แสนดีทำงานเป็นเลขาให้กับคุณภามภากรผู้ที่เป็นคนรับเธอเข้ามาในวันนั้น จนทำให้เธอได้เข้ามาทำงานที่บริษัทสื่อยักษ์ใหญ่จนถึงวันนี้
จะว่านานก็ว่านานจะว่าสั้นก็ว่าสั้นหลาย ๆ อย่างเปลี่ยนไปมากมายรวมถึงตัวเธอเช่นกัน คุณภามจากที่อยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยรองประธาน ตอนนี้เขาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองประธานอย่างภาคภูมิใจ แสนดีที่เป็นเลขาก็มีงานที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้นเช่นกัน และแน่นอนว่าเงินเดือนของแสนดีนั้นย่อมพุ่งสูงถึง 6 หลัก จากตอนแรกแค่ 5 หลักต้น ๆ กว่าจะได้เงินเดือน 6 หลักเธอเองก็เหนื่อยมาไม่ใช่น้อย
การเป็นเลขาของภามภากรนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเธอจำได้แม่นเลยทีเดียว วันแรกที่เขาให้เธอมาทำงานนั้น เขาวิจารณ์การแต่งกายของเธออย่างไร้มารยาท เธอยังด่าเขาเสียหลายคำแต่ก็ได้แค่ด่าในใจเท่านั้น เป็นใคร ๆ จะไม่ด่าล่ะก็ เขาว่าเธอได้เจ็บแสบซะขนาดนั้น
เธอจำสายตาของเขาได้ดีในยามที่เขามองมาที่เธอ ทันทีที่เธอก้าวเข้ามาในห้องทำงานของเขาก็ได้รับสายตาที่สุดแสนจะทิ่มแทงจากเขาจนร่างเธอเกือบพรุนเลยทีเดียว
ภามมองเลขาคนใหม่ที่ถูกใจและรับมากับมือ เขามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะเอ่ยขึ้น
“แต่งตัวเชยชะมัดเลยนึกว่าได้ยัยป้ามาเป็นเลขา แล้วเนี่ยแว่นก็หนาเป็นบ้าแต่ก็ช่างเถอะ เพราะการแต่งตัวและค่าสายตาไม่ได้มีผลต่อการทำงานแต่ถ้าเธอทำงานพลาด ฉันจะไล่เธอออก ขอให้สนุกกับการทำงานครับคุณแสนดี เชิญออกไปได้” เขาเอ่ยจบก็เอ่ยไล่เธอออกมา เธอตัวสั่นด้วยความอัดอั้น ดึงตัวเองอย่างถึงที่สุดที่จะไม่เข้าไปข่วนหน้าไอ้เจ้านายหน้าหล่อแต่ปากร้ายเหลือจะกล่าวนั่น
หลังรายงานตัววันแรก ประโยคที่ทักทายกันวันแรกเหมือนตบหัวแล้วลูบหลังอย่างไรอย่างนั้น
เห๊อะ…แต่ถึงยังงั้นคำของเขาก็ฝังใจเธอมาจนถึงตอนนี้…ผู้ชายอะไรปากร้ายเป็นบ้า!!
หลังจากทำงานมาด้วยกันไม่ถึงปีเจ้านายของเธอก็ไล่เธอให้มาเรียนต่อปริญญาโทเขาให้เหตุผลว่า
“ความรู้ที่เธอมีมันไม่พอหรอกนะ ไปลงเรียนต่อซะ ฉันต้องการคนที่มีประสิทธิภาพ” มันไม่ใช่คำพูดเฉย ๆ แต่มันเป็นคำสั่ง
เฮ้อ!! เพราะประโยคนั้น ทำให้แสนดีต้องแบกตัวเองไปเรียนต่อปริญญาโท ถามว่าเธออยากเรียนไหมเธออยากจะกรี๊ดใส่หน้าและบอกว่าไม่อยากเรียนต่อโว๊ยยย....แต่ใครจะกล้า จากนั้นเธอก็ต้องทำตามที่เขาสั่งเธอไปเรียนต่อทั้งที่งานประจำตรงหน้าก็เยอะอยู่แล้ว แต่ผ่านไปสองปีความพยายามอย่างหนักของเธอก็เป็นผล เธอเรียนจบปริญญาโทอย่างสวยงาม
นอกจากนั้นเธอก็ได้ค่าเรียนคืนมาเพราะตอนเธอเรียนจบเจ้านายอย่างภามก็ใส่ซองเป็นของขวัญแสดงความยินดีให้เธอหนักเช่นกัน
แอบชื่นชมเจ้านายในใจถึงปากร้ายแต่ก็ใจดี
พูดในส่วนของการทำงานเวลาทำงานของเธอนั้นไม่ตายตัว พนักงานทั่วไปทำงาน 8-9 ชั่วโมง แต่กับแสนดีนั้นเธอทำงานเกือบตลอด 24 ชม. เธอต้องพร้อมทุกเวลาไม่ว่าจะนอน หรือจะทำอะไรอยู่ก็ตาม ทั้งรับเจ้านายจากร้านเหล้าหรือคลับที่คุณเขาไปดื่มจนเมามาย บางครั้งก็ไปรับจากโรงแรมกลับคอนโดหลังจากไปอิ๊อ๊ะจิ๊จ๊ะกับสาว ๆ จนหมดแรง
รวมถึงยังคอยดูแลเรื่องส่วนตัวต่าง ๆ นานา นี่ถึงเป็นเหตุผลที่เธอได้รับเงินหลักแสน เพราะภามภากรเป็นคนเสนอให้เธอเอง มีข้อแม้ว่าเธอต้องพร้อมรับทุกสถานการณ์ของเขา ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ในตอนแรก ๆ เธอก็ตาโตตื่นเต้นกับเงินเดือนที่ได้รับ แต่พอมาถึงวันนี้เธอเพิ่งคิดได้ว่ามันไม่คุ้มค่ากับเงินเดือนที่ได้รับเอาเสียเลย...เฮ้อ!!
อ้อ…ลืมบอกว่าคุณเจ้านายของเธอน่ะ เขียนข้อตกลงพิเศษลงในสัญญาเพิ่มเงินเดือนให้เธอและข้อสัญญาพิเศษก็คือ เธอต้องช่วยกันและจัดการสาว ๆ ของเขาไม่ว่าจะที่เคยคุยด้วยเคยควงหรือเคยมีอะไรกันด้วย หากพวกเธอเข้ามาตามตื๊อหรือตอแยแสนดีจะต้องเป็นคนจัดการให้เด็ดขาด
โอเครู้เรื่องกรรมเลยตกมาที่เธอ...
จำได้เลยในวันที่เซ็นต์สัญญาเขาย้ำกับเธออีกว่า
“นี่ฉันรับเธอเข้าทำงานก็เพราะข้อนี้แหละ วันนั้นเธอไล่คู่ขาที่ฉันรำคาญมากที่สุดออกไปได้ จากนี้ก็ฝากด้วยนะ”
หลังจากเจ้านายพูดจบและแน่นอนว่าเธอก็ตกลงยอมรับสัญญาพิเศษนั้นด้วยความยินดีเพราะกลิ่นเงินมันหอมแถมยังตกปากรับคำอย่างหนักแน่น
“ขอบคุณที่ให้โอกาส ดิฉันจะทำงานอย่างสุดความสามารถค่ะ”
นั่นคือคำตอบของเธอในตอนนั้น แต่ในตอนนี้กลายเป็นว่าเธออยากย้อนกลับไปตอนนั้นจะได้ไม่ต้องมาเซ็นสัญญาบ้าบออะไรแบบนี้ จะเพราะอะไรล่ะ ก็เพราะความฮอตของคุณเจ้านายของเธอน่ะสิ
ยิ่งช่วงไหนที่คุณภามฮอต ๆ เธอต้องยิ่งรับมือกับสาว ๆ ของเขาแทบทุกวัน
งานการก็ต้องทำ เรื่องไร้สาระของเจ้านายก็ต้องจัดการ ไม่ทำไม่ได้ เพราะเธอรับเงินเดือนมาทุกเดือน และมันมากเสียจนเธอคิดว่าถ้าออกจากที่นี่เธอคงไม่มีปัญญาไปหางานที่มีเงินเยอะขนาดนี้ได้ที่ไหนอีกแล้ว
แต่เหมือนตอนนี้เธอเริ่มเหนื่อยหน่ายกับเรื่องที่หนักหน่วง ที่มันไม่ได้เกิดจากเรื่องงาน แต่เป็นเพราะเรื่องสาว ๆ ของเจ้านายเธอนั่นแหละ
เป็นท้อ...การประชุมผู้ถือหุ้นทั้งหลายของบริษัทยังไม่เหนื่อยเท่าการกันสาว ๆ ของเขาเลย
@โรงแรมคิงส์เคอร์ตัน"พี่ภาม ตอนนี้แสนดีถึงแล้วนะคะ""ครับ แสนดีรอที่รถก่อนนะ เดี๋ยวพี่ลงไปรับ” ภามวางสายจากคนรักแล้วหันมามองทางเลขาที่ยืนรอรับคำสั่ง“ขอบคุณมากคุณเพียง วันนี้คุณกลับบ้านได้ฝากขอบคุณทุกคนด้วยนะครับและฝากแจ้งทุกคนด้วยว่า โบนัสสิ้นปีผมจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังเลย”“ยินดีค่ะคุณภาม ขอให้วันนี้ราบรื่นนะคะ” เพียงรักเอ่ยกับเจ้านาย และมองแผ่นหลังที่เดินเร่งรีบลงไป จากนั้นก็หันมามองผู้ร่วมกันจัดเตรียมงานในครั้งนี้“ไปสิ!! จะมายืนอยู่ทำไมเล่าตอนนี้ก็ให้เป็นเรื่องของเจ้านายเถอะ ไม่ได้ยินที่เจ้านายพูดเหรอ เรื่องโบนัสน่ะ” เพียงรักพูดกระตุ้นพร้อมรอยยิ้ม เพื่อนๆ พนักงานก็พากันรีบออกไปจากที่นี่พร้อมกับคิดคำนวณเม็ดเงินที่กำลังจะได้ เพียงรักเองก็ด้วยหลังจากที่เธอทำกับงานกับคุณภามมาสักระยะหนึ่งจนทำงานเข้าขากันได้ดีแต่ส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณคุณแสนดีที่กำลังจะมาเป็นเจ้านายของเธออีกคนที่เป็นคนคอยช่วยเหลือชี้แนะเธออยู่ตลอด บอกไม่ได้เลยว่าเก้าอี้เลขาของท่านรองประธานที่เธอเกาะได้มาถึงทุกวันนี้ก็มาจากคนรักของเจ้านายที่เปรียบเสมือนผู้มีพระคุณเลยทีเดียววันนี้ก็ถึงช่วงเวลาสำคัญของเจ้านายกับคุณแสนดีที่
“สวัสดีค่ะ จากเรื่องที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียลดิฉันขอพูดทางฝ่ายของดิฉันบ้าง ดิฉันเป็นผู้เสียหายโดยตรงและไม่ได้เป็นภรรยาของผู้ชายคนที่แอบอ้าง ยอมรับว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนที่ดิฉันรู้จักและยังนับถือในฐานะผู้ร่วมงานที่ดีคนหนึ่ง แต่ดิฉันไม่คิดว่าผู้ชายคนนั้นจะคิดไม่ดี และเขานั่นแหละเป็นคนที่กระทำไม่ดีกับดิฉัน ไม่ใช่คุณภามภากร อินทเดชทรัพย์ อย่างที่ตกเป็นข่าวและที่คุณภามทำเช่นนั้นเพราะต้องการจะช่วยดิฉันและดิฉันขอเป็นพยานบุคคลเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของคุณภาม ดิฉันขอแจ้งว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงทุกประการ ขอให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านให้ความเป็นธรรมแก่คุณภามด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ”หลังจากกดอัดคลิปเสร็จเธอก็ไม่ลืมเบลอหน้าของตนเองก่อนจะกดโหลดลงบนโลกโซเชียลทันทีหลังจากที่คลิปถูกโหลดออกไปเพียงไม่ถึงนาทีก็ถูกแชร์ต่อและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงการกระทำของผู้ชายคนนั้นที่เอาคลิปมาปล่อยและยังใส่ร้ายลูกชายเจ้าของบริษัท Int.Entertainment ที่เป็นฝ่ายไปช่วยเหลือแต่กลับถูกใส่ร้ายตกเป็นจำเลยสังคมภามที่เพิ่งเห็นคลิปที่แสนดีโหลดผ่านโลกโซเชียลหัวใจที่แข็งแกร่งเหมือนถูกชโลมด้วยน้ำทิพย์ความกรุ่นโกรธและค
ร่างเล็กนั่งลงกลางหว่างขาของคนพี่สองมือยังคงกำท่อนเนื้อขนาดใหญ่ มองความเป็นชายที่ตั้งผงาดแทบจะทิ่มตาก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ไม่ว่าจะเห็นหรือสัมผัสจากกี่ครั้งเธอก็ยังไม่ชินกับขนาดของเขาทุกทีภามกระดกหัวขึ้นมามองคนน้องที่นิ่งไปนาน เขาเลื่อนมือไปรั้งต้นคอของน้องดึงเข้ามาจนใบหน้ากระแทกกลับท่อนลำที่อยู่ในสภาพตื่นเต็มตัว แสนดีปล่อยให้ความเป็นชายผ่าวร้อนแนบลงที่ใบหน้า จมูกรับกลิ่นความเป็นชายสะอาด ๆ ที่คุ้นเคยก่อนจะได้ยินเสียงกระเส่าเร่งเร้า“เอาสิคะ…จัดการเลย มันคิดถึงหนูชะมัด”ใบหน้าสวยเอียงคอเล็กน้อยก่อนจะจัดการกับความเป็นชายที่แข็งจัดจนเห็นเส้นเลือดปูดนูนขึ้นมา ภามสะดุ้งน้อย ๆ เมื่อปลายลิ้นโลมเลียจากโคนมาจนถึงปลายยอดซึ่งเป็นจุดอ่อนไหวส่งผลให้ความหฤหรรษ์แล่นวาบไปทั่วตัวแสนดีจัดการเลียท่อนเนื้ออย่างสนุกสนานราวกับว่าสิ่งนี้เป็นขนมหวานที่ชื่นชอบจนมันเปียกชุ่มไปทั้งลำ สองมือก็รูดขึ้นลงไปด้วย เพียงไม่นานท่อนเนื้อก็ถูกเคลือบด้วยน้ำลายจนไหลลื่น แสนดีไล้ลิ้นจากส่วนโคนขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะครอบครองไว้ในโพรงปาก“อ่าาา…ซี๊ด เสียวมากค่ะ” ภามครางอีกครั้งเมื่อท่อนเนื้อเข้าไปในโพรงปากร้อนมือหนากดศีรษะลึกเ
ภามภากรนั่งลงด้วยท่าทางสง่าน่าเกรงขามและรอฟังโรสรินทร์ให้สัมภาษณ์อย่างใจเย็น แตกต่างจากโรสรินทร์ ทันทีที่เธอเห็นภามเดินเข้ามาเธอก็ตกใจใบหน้าถอดสี แต่เธอก็ยังส่งเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นเล่นใหญ่ทำท่าจะหายใจไม่ทัน พูดจนฟังไม่รู้เรื่องโรสรินทร์ไม่คิดว่าภามจะเดินเข้ามาตอนที่เธอสัมภาษณ์ และเธอไม่ได้เตรียมตัวที่จะรับมือกับเขาทำให้ต้องรีบส่งสัญญาณให้ผู้จัดการเพื่อขอความช่วยเหลือ ผู้จัดการสาวเห็นโรสรินทร์ส่งซิกก็รีบแหวกนักข่าวและไปพาตัวนักแสดงสาวเพื่อพาเธอออกไป“ขอโทษนะคะ วันนี้ขอพักการสัมภาษณ์เพียงเท่านี้ก่อนนะคะ ขอตัวให้น้องโรสไปพักก่อนค่ะ”เมื่อเห็นนักแสดงสาวและผู้จัดการทำท่าจะรีบหนีภามที่รออยู่แล้วก็งัดหลักฐานชิ้นสำคัญขึ้นมาโชว์ต่อหน้าทุกคน เขายืนขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ดวงตาคมกริบดูน่ากลัว“ทุกคนครับ นี่คือหลักฐานทางการแพทย์ ที่ผมขอมาและจะนำไปใช้ในชั้นศาล นี่คือผลตรวจของคุณโรสเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ผลออกมาว่าสุขภาพแข็งแรงดี ไม่ได้ตั้งครรภ์ หรือเป็นอะไร และนี่คือไทม์ไลน์การเข้าคลินิกเสริมความงาม อย่างที่ทราบคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ ไม่สามารถฉีดสารใด ๆ เข้าร่างกายได้ เพราะจะเป็นอันตรายต่อ
แสนดีเองก็ฟังคนรักอธิบายด้วยความใจเย็นและพยักหน้าเข้าใจ เพราะเธออยู่กับภามมาเกือบ 5 ปี ทำไมจะไม่รู้ว่าเขานิสัยเป็นอย่างไร ภามภากรพูดคำไหนคำนั้น เขาให้สัญญาอะไรไว้เขาไม่เคยผิดสัญญา เป็นคนที่รักษาคำพูดเป็นอย่างดี เธอเข้าใจเขาทั้งหมด แต่จะให้เธออยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็ไม่ได้เหมือนกัน เพราะมันมีแต่ทำให้เธอยิ่งเสียใจมากขึ้น ไม่ใช่เธอไม่รักหรือไม่เชื่อใจเขา แต่ถ้าอยู่แบบนี้จะเป็นเธอเองรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้“ภาพพวกนั้นที่ออกมามันเป็นภาพนานมากแล้วครับ เชื่อพี่นะครับ ตั้งแต่ที่พี่รู้ใจตัวเองพี่ก็ไม่เคยนอกใจแสนดีเลย จะเอาพี่ไปสาบานที่ไหนก็ได้”“ฮึก…” แสนดีส่ายหน้ารัวทำภามใจกระตุกวูบ แต่คำพูดต่อมาก็ทำให้เขายิ้มออก“ไม่เอา…ไม่สาบานแสนดีเชื่อก็ได้” ไม่รู้ทำไมที่ทำให้แสนดีพูดไปแต่แบบนั้น แต่เธอควรจะเชื่อเขา ภามเห็นคนรักเชื่อใจ เขาก็ใจชื้นขึ้นมาและต้องหาทางจัดการคนที่สร้างข่าวให้ออกมารับผิดชอบเรื่องนี้ให้ได้“พี่จะจัดการเรื่องนี้เองพี่จะหาคนรับผิดชอบให้ได้” เพราะเรื่องที่ตีข่าวกันอย่างสนุกปากมันไม่ใช่ความจริงเลย และภามไม่อยากให้แสนดีเสียใจกับข่าวเหลวไหลพวกนี้อันที่จริงแสนดีก็รู้ว่าโรสรินทร์เป็นคนยัง
ผ่านไปหลายเดือนจากวันนั้นที่ภามขอแสนดีคบหาเป็นแฟนกันหนึ่งเดือนหลังจากนั้น เธอก็ตัดสินใจมาอยู่กับภามที่คอนโด เพราะเธอไม่อยากให้เขาขับรถไปกลับกรุงเทพจันทบุรีทุกอาทิตย์ ภามขอไม่ให้เธอทำงาน เขาขอให้เธอดูแลเขาก็พอ แสนดีเองก็ว่าง่ายแต่เธอก็อยากช่วยภามให้ได้มากที่สุด บางครั้งถ้างานที่บริษัทหนัก ๆ เธอก็ขอให้ภามเอากลับมาทำที่ห้องแล้วเธอจะช่วยเขาอย่างเต็มความสามารถหลังจากที่เธอตกลงปลงใจคบหากับภาม ภามไม่มีมีเรื่องผู้หญิงคนอื่น ๆ มาให้เธอกวนใจแม้สักคนเดียว เขาจัดการตัวเองได้ดี ตามที่เขาเคยให้สัญญาเอาไว้ พร้อมทั้งดูแลอยากดี เธออยากได้อะไรก็หามาให้ จนบางครั้งมันมากเกินไปด้วยซ้ำสำหรับเธอ และภามยังขอร้องให้แสนดีเรียกเขาว่าพี่ภามอีกด้วย ตอนนี้เธอจึงเปลี่ยนสรรพนามมาเรียกเขาว่า พี่ภาม บางครั้งถ้าภามอารมณ์ดีหรืออยากอ้อนเธอ เขาก็มักจะเรียกเธอว่าที่รักตอนนี้แสนดีไม่ได้แต่งตัวเฉิ่มเชยเหมือนในลุคเลขาอีกต่อไปแล้ว เธอสารภาพกับภามว่าเพราะอะไรเธอถึงแต่งตัวแบบนั้น ภามที่ได้ยินคำตอบก็อึ้งไปเลย‘ก็แสนดีต้องมาทำงานกับเจ้านายหน้าหล่อแต่ชีกอที่ไม่รู้ว่าวันไหนจะโดนกิน เพราะฉะนั้นดีก็ต้องป้องกันตัวสิคะ’สิ่งที่แสนดีพู







