การเป็นเลขาของเจ้าพ่อคาสโนว่ามันแสนจะเหนื่อย เธอจึงต้องใช้เซ็กส์บำบัดจากคำแนะนำของเพื่อน แต่ใครจะคิดว่าหนุ่มที่นัดมาในคืนนั้น จะเป็นเจ้านายที่เธอแอบด่าลับหลังทุกวัน "ไม่เป็นไรขอแซ่บกับเจ้านายสักคืน"
View Moreร่างระหงในชุดสายเดี่ยวกางเกงขาสั้นที่เพิ่งตื่นนอนเธอบิดกายไปมาอย่างเกียจคร้าน ไล่ความง่วงงุน ยังไม่ทันที่เธอจะได้ล้างหน้าล้างตาแปรงฟันแต่สิ่งแรกที่เธอทำก่อนที่จะจัดการธุระส่วนตัวคือ เลื่อนดูเว็บต่าง ๆ เพื่อมองหางานและนั่นเป็นกิจวัตรประจำวันที่ แสนดี ในวัย 25 ปี ที่เพิ่งลาออกจากงานประจำหลังจากอดทนทำมาได้ตั้งสองปี
บริษัทเฮงซวย งานเฮงซวย หัวหน้างานเฮงซวยและเพื่อนร่วมงานเฮงซวย นั่นคือสิ่งที่เธอก่นด่าหลังจากที่เดินออกมาจากบริษัทในวันสุดท้ายทำให้ตอนนี้เธอต้องมาหางานใหม่ทั้ง ๆ ที่พ่อกับแม่ต่างก็ให้กลับไปอยู่บ้านแต่เพราะเธอยังอยากเป็นสาวเมืองกรุงและยังติดแสงสีแห่งเมืองศิวิไลซ์จึงอ้อนพ่อกับแม่ขออยู่ต่อ
มือบางเลื่อนเมาส์หาบริษัทที่รับสมัครงานอย่างตั้งใจ จนเจอเข้ากับบริษัทผลิตสื่อเอนเตอร์เทนเมนต์ ที่เปิดรับสมัครตำแหน่งเลขานุการ แสนดีตาลุกวาว เพราะนอกจากจะเป็นบริษัทใหญ่ที่ใครๆ ก็รู้จักแล้ว เงินเดือนที่ได้รับนั้นก็สูงมาก ๆ และมันดึงดูดแสนดีเป็นพิเศษ อดีตนักศึกษาสาวคณะบริหารการจัดการยื่นเรซูเม่ส่งทันที กับบริษัทสื่อชื่อดังอย่าง บริษัท Int.Entertainment (อิ้นท์ เอนเตอร์เทนเมนต์)
“สาธุขอให้ลูกช้างได้งานนี้ด้วยเถิด” หลังจากกดส่งเรซูเม่มือบางก็ยกขึ้นท่วมหัวขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอเพียงได้มีโอกาสเรียกสัมภาษณ์หรือจะโยนเธอไปตำแหน่งอะไรก็ได้ ไม่ต้องเงินเดือนสูงเธอก็ยอมทั้งหมดขอแค่เพียงเธอได้เข้าไปทำงานที่บริษัทนี้
***
ผ่านมาแล้วเกือบอาทิตย์ทุกอย่างยังคงเงียบงัน ร่างเล็กที่กำลังนอนเกลือกกลิ้งดูทีวีอยู่บนโซฟา เธอนอนอย่างหมดอาลัยตายอยากเพราะยังไม่มีบริษัทไหนเรียกเธอไปสัมภาษณ์เลยสักบริษัทเดียว
แต่ระหว่างที่กำลังนอนหงอยอยู่นั้นก็พลันสะดุ้งเมื่อเธอได้ยินเสียงอีเมลแจ้งเตือนผ่านโทรศัพท์และนั่นก็ทำให้หญิงสาวรีบลุกด้วยความตื่นเต้นมือบางเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่มีการแจ้งเตือนอีเมลเข้า ก่อนจะกดเข้าไปดูด้วยหัวใจลุ้นระทึกพอเธอกดเข้าไปยังกล่องข้อความดวงตาคู่สวยจ้องไปที่รายละเอียดในเนื้อหาก่อนจะกรีดร้องออกมาสุดเสียงด้วยความดีใจ
“กรี๊ดดด….ในที่สุดก็เรียกสักที” แสนดีกรีดร้องพร้อมกระโดดโลดเต้นเพราะอีเมลตอบกลับจากบริษัท Int. Entertainment พร้อมกับวันนัดสัมภาษณ์
ไม่ต้องถามว่าเธอดีใจมากขนาดไหนถึงแม้ว่าจะมีการส่งเรซูเม่ไปหลายบริษัทแต่บริษัท Int. Entertainment เป็นอันดับหนึ่งที่เธอต้องการเข้าไปทำงานมากที่สุด ตอนนี้แสนดีหน้าบานเป็นจานกระด้งเลยทีเดียวก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเธอต้องไปเตรียมตัวหาเสื้อผ้าสวมใส่ในวันสัมภาษณ์วันนั้นเธอต้องดูดีที่สุด เธอต้องทำให้ผู้ที่พบเห็นประทับใจ
ภาพลักษณ์ต้องมาก่อนเผื่อว่าผู้สัมภาษณ์รู้สึกตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น
สองวันต่อมา
@บริษัท Int. Entertainment
ร่างเล็กก้าวเข้ามาในบริษัทผลิตสื่อเอนเตอร์เทนเมนท์ด้วยอาการประหม่าเล็กน้อย วันนี้เธอเลือกใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวกระโปรงทรงเอคลุมเข่าสีดำ ผมยาวสลวยถูกมัดรวบเก็บลูกผมทรงหางม้าอย่างดีดูสุภาพเรียบร้อย
แสนดีไม่ลืมสวมแว่นตาบดบังใบหน้าและเผื่อกรรมการแล้วบางข้อตอบไม่ได้ เธอจะเนียน ๆ หลบสายตาพลางขบคิดหาคำตอบได้บ้าง
หลังจากเข้ามาติดต่อนัดสัมภาษณ์เธอก็ถูกพามานั่งรอที่ห้องรับรอง ถึงแม้ว่าเธอจะมาแต่เช้า ๆ แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีคนมาก่อนเธอมากมายขนาดนี้
ทันทีที่เดินเข้ามาในห้องรับรองแสนดีก็ถึงกับชะงักเล็กน้อยพร้อมกับกวาดตามองคู่แข่งที่รออยู่ในห้อง คนที่มาสัมภาษณ์ไม่น้อยเลย เธอกะด้วยสายตาราว ๆ 20 กว่าคนและการที่เธอพึ่งมาใหม่ทำให้ได้จัดอยู่ในลำดับท้าย ๆ แถมบรรยากาศในห้องก็เต็มไปด้วยความกดดัน
แสนดีมองคู่แข่งด้วยความประหม่าเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเจอผู้สัมภาษณ์งานเยอะที่สุดตั้งแต่เธอเคยสมัครงานมาก็อย่างว่าเงินเดือนมันล่อตาล่อใจ ใครจะไม่สนใจบ้าง
เธอนี่แหละคนนึง….
แสนดีพิจารณาคู่แข่งที่นั่งรออย่างสงบอยู่ในห้องแต่ละคนมีบุคลิกและหน้าตาที่ดูดีไม่น้อยและดูเหมือนว่าแต่ละคนจะมีอายุและประสบการณ์มากกว่าเธอด้วยซ้ำ แต่ถึงยังงั้นเธอก็ไม่ยอมแพ้ยังไงเธอก็ทำการบ้านมาดีพร้อมกับพกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม
หลังจากที่พนักงานฝ่าย HR พาทุกคนมานั่งรวมกันแล้วก็มีแม่บ้านนำน้ำมาเสิร์ฟ แสนดีรับน้ำจากแม่บ้านและกล่าวขอบคุณหลังจากนั้นก็นั่งรออย่างสงบตามคนอื่น ๆ
เมื่อถึงเวลาสัมภาษณ์ พี่พนักงานคนเดิมก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับแจ้งทุกคนในห้องด้วยความสุภาพ
“ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะคะที่ให้รอ พอดีตอนนี้ผู้ช่วยรองประธานจะเข้าร่วมสัมภาษณ์ด้วยต้องขออภัยน้อง ๆ ด้วยนะคะ เดี๋ยว ถ้าน้อง ๆ คนไหนต้องการเข้าห้องน้ำ เข้าก่อนได้เลยนะคะแล้วพี่ก็มีจัดของว่างให้อยู่ด้านหน้าห้องถ้าใครต้องการทานอะไรสามารถทานได้เลยนะคะไม่ต้องเกรงใจค่ะ”
พี่พนักงานแจ้งด้วยความสุภาพพร้อมกับขอโทษขอโพยและออกจากห้องไปแสนดีเห็นพวกพี่ ๆ ที่รอสัมภาษณ์เดินออกไปเข้าห้องน้ำบ้างหาของกินบ้าง แสนดีเองก็ลุกออกมาเข้าห้องน้ำบ้าง
แสนดีเดินเข้าไปในห้องน้ำทำธุระส่วนตัวก่อนจะออกมาก็เช็คเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อยและกลับเข้าไปรอในห้องรับรองเหมือนเดิม
ผ่านมาแล้วค่อนวัน แสนดีนั่งรอจนรากงอกพักเที่ยงก็แล้วเสียงกริ่งพนักงานเลิกงานก็แล้ว เธอยังนั่งรออยู่ในห้องนี้ไม่ไปไหนรวมถึงเพื่อนร่วมชะตากรรมอีก 4-5 คนที่ส่งยิ้มแหยให้กัน ยังดีที่ช่วงพักเที่ยงที่ผ่านมาแสนดีได้ไปทานอาหารมาแล้ว ก็ไม่ใช่จากที่ไหนเป็นอาหารจากพี่พนักงานที่เอามาให้ นี่สินะที่ทำให้คนพากันแห่เข้ามาสมัครงานที่นี่ ขนาดแค่มาสัมภาษณ์การรับรองยังไม่ขาดตกบกพร่องเลยทีเดียว แสนดีคิดว่าบริษัทนี้ดีมาก จริง ๆ ถึงไม่ได้ไม่เป็นไรอย่างน้อยก็ได้มาเหยียบบริษัทใหญ่โตนี่สักครั้งหนึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ก็แล้วกัน
ในที่สุดสิ่งที่เธอรอคอยมาเนิ่นนานก็สิ้นสุดลงเสียทีหลังจากพี่พนักงานเข้ามาเรียกชื่อเธอ
ร่างเล็กรีบลุกขึ้นเดินตามพี่เขาเข้าไปด้วยหัวใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ความประหม่าเริ่มเข้ามากัดกินหัวใจเธออีกครั้ง
แสนดีเข้ามาในห้องสัมภาษณ์นั่งเก้าอี้ที่ผู้สัมภาษณ์ผายมือเชื้อเชิญให้เธอนั่ง เธอสูดหายใจลึกๆ พยายามทำตัวให้นิ่งและส่งสายตามุ่งมั่นให้กับผู้สัมภาษณ์ที่มองเธออยู่ เธอมองผู้คนที่นั่งเรียงหน้ากระดานจำนวนห้าคนหัวใจเต้นโครมครามด้วยความตื่นเต้นเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอสัมภาษณ์งานและมีผู้สัมภาษณ์งานเยอะขนาดนี้
มือบางยกขึ้นไหว้ด้วยความอ่อนน้อมก่อนที่สายตาจะปะทะเข้ากับผู้ชายคนนึงที่นั่งอยู่ตรงกลางเขาดูโดดเด่นหล่อเหลาสะดุดตาที่สุด เธอยังแอบตะลึงไปชั่วขณะ
ต้องบอกว่าโคตรของโคตรหล่อเลยทีเดียวแต่เสียอย่างเดียวสีหน้าเขาดูออกจะเบื่อหน่ายเต็มที
“สวัสดีครับคุณแสนดีแนะนำตัวได้เลยครับ” ผู้สัมภาษณ์งานคนแรกเป็นคนถามแสนดีหายใจลึก ๆ ก่อนจะพูดออกมาอย่างฉะฉานการแนะนำตัวของเธอไม่ต่างจากการสัมภาษณ์งานในหลายๆ ที่ที่ผ่านมา
"สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อนางสาวแสนดี วรโชติโภคิน จบการศึกษาที่...."
จากนั้นก็เป็นการถามคำถามต่อ ๆ ไป จนมาถึงคำถามสุดท้าย ยังไม่ทันที่แสนดีจะพูดขึ้นเสียงประตูด้านหลังก็เปิดขึ้นมาโดยไม่มีใครคาดคิด
ผลั๊วว!!
"ภามคะ...คุณจะทำแบบนี้กับฮารุไม่ได้นะ!!"
หญิงสาวหน้าตาจะสวยแต่งตัวดูดีเดินเข้ามาถึงก็พูดโวยวายใส่คนที่เป็นผู้ช่วยรองประธาน ก็คนที่ดูหล่อเหลาที่สุดในกลุ่มนั้นนั่นแหละ
แสนดีมองตามสาวสวยใจกล้าด้วยความงุนงง เธอหันไปมองคณะกรรมการทุกคนที่นั่งเงียบแต่ละคนก็มีสีหน้าตกใจไม่ต่างกัน เสียงแหลมของผู้หญิงคนนั้นดังขึ้นอีกครั้ง
“ภามคุณจะเอาอย่างไรกันแน่คะ! ตกลงจะทิ้งฮารุเหรอคะ!! ฮารุไม่ยอมนะคะ!!!!”
แสนดีนั่งหน้าเหวอมองคนที่ชื่อภามเขายังคงทำหน้าเรียบเฉยสลับกับผู้หญิงที่เข้ามาโวยวายดูท่าทางเอาเรื่องเต็มที อย่าบอกนะว่าการสัมภาษณ์งานในครั้งนี้เธอจะล่ม ไม่นะเธอยังพูดไม่จบเลย ไม่ดีแน่ถ้าปล่อยให้เหตุการณ์เป็นแบบนี้การสัมภาษณ์ของเธอจบไม่สวยแน่ ๆ
ในเมื่อผู้หญิงที่ชื่อฮารุไม่ยอมแสนดีก็ไม่ยอมเช่นกัน!!
ไม่มีใครคาดคิดแสนดีลุกขึ้นแล้วเอ่ยเสียงเขียวด้วยความหงุดหงิดเธอจัดการต่อว่าหญิงสาวที่เข้ามาขัดขวางการสัมภาษณ์งานของเธอ
“นี่คุณ…คุณก็เป็นคนสวย ดูถ้าจะมีฐานะและการศึกษาดีอยู่นะคะ แต่น่าจะมีมารยาทและความคิดมากกว่านี้หน่อย ฉันอาจจะไม่ดีเท่าคุณ แต่นี่คือช่วงเวลาสำคัญของฉัน ฉันไม่รู้ว่าจะผ่านการสัมภาษณ์งานครั้งนี้หรือเปล่า แต่ฉันต้องการที่จะสัมภาษณ์งานให้จบอย่างสมบูรณ์ที่สุด ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณมีเรื่องอะไรกัน แต่คุณควรออกไปค่ะ อย่ามารบกวนช่วงเวลาสำคัญของฉัน การที่คุณมาทำแบบนี้ ทำให้ฉันและคนอื่นเดือดร้อนและมันเป็นการบ่งบอกถึงมารยาทและการเลี้ยงดูของคุณด้วยค่ะ” แสนดีพูดอย่างเหลืออด เธออดทนรอมาทั้งวันแล้วนะ!!
ฮารุสาวสวยไฮโซที่โดนเลี้ยงดูมาอยากเอาแต่ใจพอได้ยินคนที่บังอาจมาต่อว่าเธอก็อ้าปากพะงาบ ๆ ราวกับปลาขาดน้ำเพราะไม่เคยมีใครมาต่อว่าเธอแบบนี้มาก่อน หญิงสาวยกนิ้วชี้สั่น ๆ มาที่แสนดีด้วยความโกรธเตรียมกรีดร้องและด่าคืนแต่โชคดีที่ยามนั้นเข้ามาลากตัวเธอออกไปก่อน ทำให้แสนดีไม่ได้โดนทำร้ายหรือโดนด่ากลับ
“ไม่นะ แก อีบ้า!!แกเป็นใครเนี่ย บังอาจมากที่มาด่าฉัน!!...ปล่อย ปล่อยแกไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใครปล่อยนะ...ปล่อย กรี๊ด ๆ ” เสียงกรีดร้องของฮารุดังก้องไปตามทางจนในที่สุดประตูก็ปิดจนไม่ได้ยินเสียงเธออีก
แสนดีถอนหายใจออกมาเพราะนี่อาจจะเป็นประโยคด่าใครยาว ๆ ครั้งแรกในชีวิตเธอ เธอหันไปมองคณะกรรมการที่มองมาที่เธออย่างอึ้ง ๆ เธอเองก็อึ้งเช่นกันเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเพิ่งทำอะไรลงไปใบหน้าสวยซีดลงเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงอย่างอ่อนแรง
หมดกันความหวังที่จะได้ทำงานที่นี่ แสนดีคิดด้วยความหดหู่
แต่ดูเหมือนจะมีใครบางคนที่ดีใจอย่างปิดไม่มิด แน่สิสะบัดยัยฮารุทิ้งไปได้นี่
ในขณะที่ทุกคนยังเงียบเพราะยังอึ้งกับเหตุการณ์ที่พึ่งจบลง เสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้น
“เธอชื่ออะไรนะ” แสนดีหันมามองคนที่เป็นผู้ช่วยรองประธานที่โดนผู้หญิงคนนั้นมาต่อว่า เธอมองเขาและแอบด่าในใจเพราะผู้ชายคนนี้สินะที่ทำให้การสัมภาษณ์ของเธอหยุดชะงักไป แต่เธอก็ตอบกลับอย่างสุภาพ
“แสนดีค่ะ” เธอเอ่ยตอบ
“คุณแสนดี ตั้งแต่วันนี้ไปเธอมาเป็นเลขาให้ฉัน ฉันให้เวลาเธอหนึ่งอาทิตย์ก่อนเริ่มงานและเข้ามาทำงานที่นี่ กลับไปจัดการตัวเองให้มีประสิทธิภาพที่สุดและมาเริ่มงาน” เขาเอ่ยบอกเธอ ส่วนเธอนั้นหูดับไปตั้งแต่คำว่า ‘เป็นเลขาให้ฉัน’ แล้ว
แสนดีโห่ร้องในใจด้วยความดีใจ ได้งานแล้วเว้ย…จะมีเงินแล้วเว้ย ส่วนกรรมการคนอื่น ๆ ได้แต่อึ้งไปตามกัน ก่อนจะมีตัวแทนเอ่ยขึ้น
“คุณภามครับ แล้วคนอื่น ๆ ล่ะครับ…”
“ให้กลับบ้านไปได้ ฉันได้เลขาใหม่แล้ว หรือไม่ก็ให้ทิ้งเรซูเม่ หรือพอร์ตไว้ มีตำแหน่งไหนขาดหรือเหมาะสมกับตำแหน่งไหนก็ให้ ฝ่ายบุคคลจัดการ” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ
“ครับ”
“ส่วนเธออย่าลืมล่ะ ฉันไปล่ะ” เขาเอ่ยย้ำกับเธอแล้วเอ่ยลาคน อื่น ๆ จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป
‘เย้!!ได้งานแล้วโว๊ย!!!’
โต๊ะอาหารสินธรใบหน้าบูดบึ้งนั่งกอดอกมองว่าที่ลูกเขยด้วยความไม่สบอารมณ์ โดยมีภรรยานั่งยิ้มด้วยสีหน้าอ่อนโยนมองลูกสาวและว่าที่ลูกเขยที่นั่งอยู่ตรงข้าม ยิ่งดูก็ยิ่งเห็นถึงความเหมาะสมอันที่จริงอรเองก็ชมชอบว่าที่ลูกเขยคนนี้ไม่น้อยเลยยิ่งเห็นใกล้ ๆ เริ่มรู้สึกปลื้มขึ้นมาเสียอย่างนั้นและยิ่งเห็นสายตาที่เจ้าตัวมองมาที่ลูกสาวใจของคนเป็นแม่ก็ฟูฟ่อง ดูว่าอดีตเจ้านายของลูกสาวเธอคนนี้คงจะรักลูกสาวเธอไม่น้อยเหมือนกัน แค่นี้ก็ทำให้คนเป็นแม่โล่งใจไปเปราะนึง แต่ก็เห็นจะมีเพียงเจ้าของบ้านที่นั่งหน้าตึงเห็นทีคงจะต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย อรเองก็ทำได้เพียงให้กำลังใจว่าที่ลูกเขยอยู่ห่าง ๆ“ทานข้าวเถอะ ไม่รู้ว่าคุณภามจะทานได้หรือเปล่าอาหารบ้าน ๆ พวกนี้” แม่อรเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ“เห๊อะ!! กินไม่ได้ก็ให้มันกลับไป!” สินธรพูดขึ้นพลางมองอาหารตรงหน้าที่คนเป็นภรรยาทำขึ้นโต๊ะเป็นประจำและหันไปมองคนที่นั่งใกล้ ๆ ลูกสาวและคิดว่าไอ้หนุ่มผู้ดีนี่คงไม่เคยกินหรอกน้ำพริกผักต้มพวกนี้ ของอร่อยทั้งนั้น“กินได้ครับผมกินได้ทุกอย่าง” ภามรีบพูดยกช้อนขึ้นตักผักต้มตามด้วยน้ำพริกมาใส่จานแล้วตักใส่ปากอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าหากเร
'ไม่เชื่อ รู้สึกไม่เชื่อว่าสิ่งที่อีกคนพูดนั้นเป็นความจริง’ เธอหายใจเข้าลึก ๆ และพยายามตั้งสติกับเรื่องที่อยู่ตรงหน้าเดือนก่อนเรื่องของเขาและเธอทำให้พวกเราว้าวุ่นไปหมด การที่เธอได้กลับบ้านมาทำให้สงบใจได้ไม่น้อย ตอนนี้เธอเริ่มทำใจและยอมรับในสิ่งต่าง ๆ ได้แล้วถึงมันจะยังไม่เต็ม 100% แต่มันก็เริ่มดีขึ้นมากแต่แล้วเขาคนนี้ก็กลับเข้ามาในชีวิตของเธออีกครั้ง เห็นเธอเป็นตัวอะไรกันแน่ ไม่ต้องการก็ทิ้งขว้าง อยากได้ก็มารับกลับแบบนี้น่ะเหรอ?แสนดีถอนหายใจออกมาน้อย ๆ ด้วยสีหน้าเฉยเมยแล้วพูดเสียงเรียบที่ทำเอาคนฟังปวดใจ“ไม่ค่ะ ไม่ใช่คุณอยู่ไม่ได้หรอกค่ะ คุณแค่ไม่มีคนตามใจ ไม่มีใครให้ชี้นิ้วสั่งทำนู่นทำนี่ให้ ไม่มีคนคอยจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้ มันเป็นแค่ความเคยชินค่ะ” แสนดีตอกกลับ“ทั้งหมดที่บอกไป มันคือสิ่งที่หายไปใช่ไหมคะ? ไปหาคนอื่นค่ะ หรือจ้างคนเพิ่มก็ได้ ระดับคุณภามภากร ทุกคนอยากเข้าหาและอยากทำงานด้วยอยู่แล้วค่ะ”“ไม่ใช่ทุกคน…ถ้าทุกคนอยากทำงานด้วย ทำไมเราไม่กลับมาล่ะ…” ภามเอ่ยเสียงเบาเขาไม่ได้อยากได้คนอื่นเสียหน่อยไม่อย่างนั้นเขาจะตามเธอมาที่นี่ทำไม?แสนดีถอนหายใจพรืดราวกับระอาเต็มทีก่อนจะพูดจาผ
“ใครพ่อมึง กูไม่มีลูกหน้าตาอย่างมึง รีบไสหัวไปเลยไป!!”ร่างสูงรีบสาวเท้าก่อนจะได้ยินเสียงเห่ากระโชกตามหลัง สองขารีบกระโจนเข้ามาในรถก่อนจะหันไปเห็นหมาเยอรมันเชพเพิร์ดสองตัวตะกายรั้วเห่าเสียงดัง ภามขนลุกซู่เมื่อเห็นปากของมันพร้อมกับน้ำลายที่เยิ้มออกมาดูน่ากลัวร่างสูงได้แต่คิดในใจว่า มันคงเป็นกรรมอย่างที่พ่อเขาบอกจริง ๆ นี่คือผลกรรมสินะ ที่ทำให้ลูกสาวเขาต้องลำบากมาก่อน คงไม่มีพ่อแม่คนไหนทนเห็นลูกสาวทำงานอย่างกับกรรมกร ทำงานทุกวันไม่มีหยุดทางด้านแสนดีที่ได้ยินเสียงปืนของพ่อก็แอบมายืนดูตรงหน้าต่างว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะแม่ของเธออยู่หลังบ้าน เธอกลัวว่าใครจะมาทำอะไรแต่คนที่มายืนเกาะรั้วทำเอาเธอตกใจไม่คาดคิดว่าเขาจะมาอยู่ตรงนี้เดิมที่พ่อแม่เขาก็ไม่ชอบหน้าคุณภามอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้เรียกว่าเกลียดเลยก็ว่าได้ เธอจึงพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่พูดถึงเขา แต่เหมือนว่าพ่อกับแม่จะรู้ว่าเรื่องที่เธอลาออกและพี่จะกลับมาอยู่บ้านไม่ใช่เพราะเธอไม่อยากทำงานแต่เป็นเพราะเจ้านายของเธอ แล้วการที่เขามาปรากฏตัวอยู่ตรงนี้ก็เป็นการตอกย้ำในสิ่งที่พ่อกับแม่เธอคิดแต่เธอก็ไม่เข้าใจว่าเขาจะมาทำไม จะตามเธอกลับไปทำงานเหรอ? แต
“จะไปก็ใส่หมวกเสื้อแขนยาวใส่ไปด้วยนะแดดร้อนเดี๋ยวผิวเสียหมด”“ได้จ้ะแม่” แสนดียิ้มส่งให้คนเป็นแม่แล้วขยับหมวกให้เข้าที่ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อแขนยาวที่แขวนอยู่หน้าประตูแล้วสวมตามที่แม่บอก จากนั้นก็เดินตามพ่อไปขึ้นรถกระบะตรงไปยังสวน จากนั้นก็ช่วยงานพ่ออย่างขะมักเขม้น"ดีเอ๊ยมาเข้าร่ม ทางนั้นเดี๋ยวให้ไอ้วัฒน์มันจัดการต่อ" สินธรตะโกนบอกลูกสาว ที่ไปช่วยลูกน้องยกเข่งทุเรียนขึ้นรถกระบะ“แป๊บนึงจ่ะพ่อกำลังจะเสร็จแล้ว” แสนดียกมือขึ้นปาดเหงื่อและตะโกนบอกพ่อตัวเองด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม“อีหนูเอ๊ยไปเถอะแดดมันร้อนทางนี้เดี๋ยวข้ากับไอ้พวกนี้จัดการเอง” ลุงวัฒน์ หัวหน้าคนงานที่ทำงานกับพ่อแสนดีมานานเอ่ยไล่ เพราะเห็นว่าตอนนี้แดดมันก็แรงกลัวว่าเด็กสาวที่เห็นกันมาแต่เล็กแต่น้อยจะเป็นลมเป็นแล้งไป“ก็ได้จ่ะ” พอเห็นสายตาดุ ๆ ของลุงวัฒน์กับเสียงตะโกนเรียกของพ่อที่ดังมาไม่หยุดทำให้แสนดีต้องกลับเข้าไปนั่งในร่มที่คนเป็นพ่อรออยู่“ดีเอ๊ย ไม่ต้องไปทำตากแดดตากลมขนาดนั้นเอ็งก็รู้ว่าลูกน้องพ่อมีเยอะจะไปทำให้ลำบากทำไม” สินธรอดไม่ได้ที่จะดุออกมา แสนดียิ้มเจื่อนแต่ก็ยังส่งเสียงหวานพูดจาออเซาะกับผู้เป็นพ่อ“ก็ดีอยากช่วยนะจ
ตอนแรกภามคิดแบบนั้นและมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ หลายวันมานี้เขาสงบลง ไม่ฟุ้งซ่านเรื่องของแสนดี เขากลับมาตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่แต่มันเป็นแค่ช่วงแรก ๆ เท่านั้น ตอนแรกเขาคิดว่ามันดีมากกับการที่เขาไม่ฟุ้งซ่านหลังจากผ่านไปสักระยะเขารู้สึกว่าทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป สายตาเขาเริ่มมองหามองหาบางอย่างและรู้สึกถึงบางอย่างที่ขาดหายไปแต่เขาไม่รู้ว่าเป็นอะไร หรือเป็นสิ่งใดที่ขาดหายไป มันเป็นรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจจากที่เริ่มสงบ เขาเริ่มกลับมาฟุ้งซ่านอีกครั้ง ใบหน้าคมขมวดคิ้วยุ่งเหยิงอยู่บ่อยครั้งเหมือนกับบุหรี่ที่ถูกจุดสูบถี่ขึ้นและวันนี้ก็อีกเช่นเดิมที่เขาเดินออกมาจากลิฟต์และตรงเข้ามายังจุดที่แสนดีเคยนั่งประจำสายตามองหาเลขาสุดเฉิ่ม และคนที่กำลังก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ตรงหน้าคอมก็ทำให้เขาเรียกชื่อเธอออกไปโดยไม่ทันคิด“แสนดี…”เพียงรักเลขาคนใหม่ในวัย 35 ปีมองเจ้านายด้วยสายตาฉงนเล็กน้อย ไม่ว่าตอนไหนในยามที่เจ้านายเรียกเธอครั้งแรกก็เป็นชื่อเลขาคนเก่าไปเสียทุกครั้ง แต่นั่นก็เข้าใจได้เพราะเธอรู้ว่าเลขาแสนดีทำงานกับคุณภามมานาน แต่นี่เธอก็ทำงานมาจะเป็นเดือนแล้วยังจะเรียกผิดอีกเหรอ?เพียงรักมองเจ้านายที่นิ่งค้างไปเธ
“เธอจะหลอกฉันเพื่ออะไรแสนดี! เธอต้องการอะไรจากฉันกันแน่! หลอกฉันทำไม...ปั่นหัวกันทำไม!!” ภามเอ่ยออกมาเสียงดังด้วยความโมโหแต่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดในน้ำเสียง“ไม่นะคะ ฉันไม่ได้หลอกคุณ ไม่มีทางและจะไม่มีวันหลอกคุณหรือคิดอะไรไม่ดีต่อคุณเลยนะคะ” หัวใจเธอพลันดิ่งวูบกะทันหัน ตอนนี้เขาเข้าใจเธอผิดไปไกล แสนดีลนลานหน้าตาตื่นตอบปฏิเสธพัลวันเธอไม่เคยคิดจะหลอกภามหรือเข้าหาภามด้วยผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งนั้นแต่เหมือนว่าภามภากรจะคิดไปในทางเลวร้ายไปเสียแล้ว“ทั้งที่ฉันไว้ใจและเชื่อใจเธอขนาดนี้ เธอทำกับฉันอย่างไง แสนดี!” ภามยังคงไม่เชื่อและไม่ฟังที่แสนดีพูดแก้ตัวใด ๆ“คุณภาม มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะคะ ฉันอธิบายได้ คุณอาจจะไม่เชื่อ แต่เรื่องทั้งหมดมันเริ่มต้นจากความเครียดจากการทำงาน มันทำให้ฉันต้องพบจิตแพทย์และหาวิธีบำบัด ฉันลองมาหลายวิธีแต่มันก็ยังไม่หาย จนมาพบอีกวิธีนึง…” แสนดีพูดเสียงเบาลงเพราะเธอเขินอายเกินกว่าจะพูดออกไป เธอหลบสายตาแล้วพูดอธิบายต่อ“วิธีบำบัดของฉันคือการสำเร็จความใคร่หรือมีเซ็กส์ค่ะ เรื่องนี้ฉันมีหลักฐานค่ะ ในวันนั้นที่คุณเจอแซนดี้ครั้งแรก ฉันก็ไม่รู้ค่ะว่าจะเป็นคุณ”“หึ!แล้วทำไมไม่บอก
Comments