บรรยากาศเสียงเพลงใน ผับ excited ไม่ได้ดับความร้อนรุ่มในใจของลินดาได้ ตอนนี้สิ่งเดียวที่คิดได้คือต้องเมาอย่างเดียวเท่านั้น ตอนเย็นคนเป็นแม่ยังโทรมาย้ำเรื่องนัดกินข้าวพรุ่งนี้อีกครั้ง ซึ่งยิ่งทำให้เธอเบื่อ ไม่รู้ว่าจะหนีจากเรื่องพวกนี้ได้ยังไง นอกจากเมา
"ขอวิสกี้อีกแก้วนะ"เอ่ยเสียงหวานสั่งบาเทนเดอร์สุดหล่อเจ้าประจำ เขาจำลินดาได้เป็นอย่างดี แถมยังเคยพูดคุยกันบ่อย ๆ เธอมักจะมาดื่มที่นี่เป็นประจำ โดยหลัง ๆ มักมาคนเดียวไม่เห็นเพื่อนสองคนของเธอมาด้วย "คุณเริ่มเมาแล้วนะครับ จะกลับบ้านยังไง" ลินดาหรี่ตามองคนพูด ก่อนจะเสียะยิ้มเหยียดออกมา รู้สึกขัดใจที่อยากเมาแต่ยังมีคนมาขวาง และเธอมั่นใจว่าเขากับเธอไม่ได้สนิทกัน "ฉันสั่ง นายก็เอามาเถอะน่า ฉันมีเงิน" "ผมหวังดีนะครับ เห็นแก่ว่าคุณมาที่นี่บ่อย ๆ ไม่อยากให้ขับรถกลับทั้งอย่างนี้ มีเรื่องเครียดอะไรหนักหนาครับ ผมรับฟังได้นะ ไม่เอาไปพูดต่อแน่นอน" "เหอะ...นี่ผับไอ้เฮียแก่นั่น มีบริการแบบนี้ด้วยเหรอ"กันต์บาเทนเดอร์หนุ่มสุดหล่อ ขวัญใจสาว ๆ นักท่องราตรี ยกมุมปากยิ้มในสรรพนามที่ลินดาใช้เรียกเจ้าของผับคือพายุ "เฮียพายุยังไม่แก่นะครับ แถมหล่อมากด้วย เป็นไอดอลของผมเลย"เด็กหนุ่มรุ่นน้องทำหน้าเคลิ้มฝัน เขาทำงานพาร์ทไทม์ที่นี่มาเกือบสองปี เห็นสาวๆเข้าหาพายุมากมายจนเขาอิจฉา "อย่าไปเอาอย่างเขาเลย นายก็มีดีของนายนะ ว่าแต่นายมีแฟนยังล่ะ" "ยังครับ ใครจะมาชอบเด็กแบบผมกันล่ะ" "นายนี่นะจะไม่มีคนชอบ เห็นสาวๆมองกันตรึม ไม่เอาใครเองมากกว่าล่ะมั้ง" "ผมชอบคนแก่กว่าครับ แล้วผมก็มีคนที่ชอบแล้วด้วย"สายตาคมของกันต์จ้องมองลินดา อย่างสื่อความหมาย "เหรอ ดีนะที่นายยังมีคนที่ชอบ แต่ฉันนี่สิไม่เคยรู้เลยว่าความรักคืออะไร หน้าตาเป็นแบบไหน เห็นเพื่อนสองคนมีความรัก แรก ๆ ก็เห็นมีแต่ทุกข์ ทำให้ฉันไม่ค่อยกล้าเปิดใจให้ใคร"เมื่อฤทธิ์แอลกอฮอล์ลเริ่มออกฤทธิ์มากขึ้น ลินดาก็เริ่มเปิดใจคุยกับหนุ่มรุ่นน้องที่ไม่สนิท จนลืมวิสกี้ที่สั่งไปก่อนหน้า "รู้อะไรไหม? พรุ่งนี้ฉันต้องไปนัดกินข้าวกับใครก็ไม่รู้อีกแล้ว เดือนนี้สามครั้งแล้วนะ ที่ฉันต้องไปนั่งปั้นหน้ายิ้ม นายว่าฉันควรทำยังไงให้หลุดพ้นจากเรื่องบ้า ๆ นี่สักที" กันต์พอจะทราบเหตุผลที่คนสวย ๆ แบบเธอต้องมานั่งเมาคนเดียวแล้ว มือหนาเลยคว้าแก้ววิสกี้ยื่นไปให้เธอหลังจากอ้อยอิ่งอยู่นาน "ไหนว่าไม่อยากให้กินแล้วไง" ลินดาเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย "ผมเริ่มอยากให้คุณเมาแล้วครับ เป็นไปได้เมาให้หลับไปเลย"ไม่ได้หมายความว่าที่พูดแบบนี้คือเขาต้องการทำเรื่องไม่ดีกับเธอ เพียงแต่เขาไม่อยากให้เธอไปเจอผู้ชายคนนั้น "ถ้าฉันเมา นายจะไปส่งฉันหรือเปล่า"ดวงตาหวานฉ่ำเยิ้มด้วยความเมา มองใบหน้าของกันต์อย่างยั่วยวน เป็นการแสดงออกโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ทว่าทำเอากันต์ใจเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน "ถ้าคุณไม่กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็ยินดีครับ"เสียงทุ้มรับปากเธอด้วยความเต็มใจ จนลินดาหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ "นี่นายคงไม่ได้หลงเสน่ห์ฉันใช่ไหม?" "คิดว่าไงล่ะครับ การที่ผู้ชายคนหนึ่งไม่อยากให้คุณไปเจอคนอื่น และเห็นคุณอยู่ในสายตาตลอดเวลา คิดว่าเขารู้สึกกับคุณยังไง" มือบางยื่นไปสัมผัสมือหนาของกันต์เบาๆ ลูบไล้แผ่วเบาจนขนกายกันต์ลุกชัน ตอนนี้ยอมรับว่าอารมณ์เขาเริ่มไม่ปกติ "นายเป็นคนแรกเลยนะ ที่ทำให้ฉันตื่นเต้น ถึงจะยังไม่มากแต่ฉันไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อน หรือว่าฉันเมามากแล้วนะ" ศรีษะเล็กส่ายหน้าไปมา จนผมยาวสยาย รู้สึกมึนหัวขึ้นมาดื้อ ๆ อาการของเธอตกอยู่ในสายตาของเจ้าของผับที่นั่งมองจากชั้นวีไอพีด้านบน วันนี้เพื่อนของพายุมาหา และนั่งดื่มกันตั้งแต่สามทุ่ม "ใครว่ะไอ้ยุ กูเห็นมึงนั่งมองอยู่นานแล้ว" มาวินเพื่อนสนิทของพายุถามขึ้น เมื่อเห็นเพื่อนมองลงไปที่หญิงสาวชุดเกาะอกสีแดงสดอยู่นานแล้ว "เพื่อนเมียพวกน้องกูนะ สงสัยเหงามานั่งดื่มคนเดียว" "มองไกล ๆ สเป็กมึงเลยนี่หว่า เซ็กซี่ชิบหาย"มาวินพูดตามจริงที่เห็น แค่มองจากตรงนี้ยังเห็นถึงความสวยเซ็กซี่ ของผู้หญิงคนนั้น ไม่สงสัยว่าทำไมเธอถึงอยู่ในสายตาเพื่อนเขาตลอดเวลา "รูปร่างหน้าตานะใช่ แต่นิสัยไม่ได้ว่ะ กูไม่ชอบผู้หญิงปากจัด" "นี่มึงพูดเหมือนเคยโดนเขาด่างั้นแหละ ไปทำอิท่าไหนให้คนสวย ๆ แบบนั้นด่าได้ว่ะ" "ช่างเหอะ อย่าสนใจเรื่องกูเลย"เมื่อเพื่อนตัดบทมาวินก็ยักไหล่ไม่สนใจอีก กับเพื่อนคนนี้คบกันมาจนรู้นิสัยดี ถ้าเรื่องไหนมันอยากให้เขารู้ มันจะบอกเองโดยที่เขาไม่ต้องถาม "เฮ้ยๆๆ มึงดูนั่นดิว่ะ ลูกน้องมึงจะพาเธอไปไหนว่ะ"มาวินที่เกิดหันไปเห็นลูกน้องของเพื่อนกำลังประคองหญิงสาวคนนั้นขึ้นจากเก้าอี้ตรงเคาท์เตอร์บาร์ "เดี๋ยวกูมา"พายุตัดสินใจได้ในทันที ว่าจะไม่สนใจเธอแล้วนะ เพราะเคยโดนด่ากราดมาแล้ว แต่จากสถานการณ์ตอนนี้จะปล่อยเฉยไปไม่ได้ เมียไอ้สองตัวนั่นได้มาวีนเขาตายเลย "ไหนว่าไม่สนใจ?" "กูกลัวเมียน้องกูหรอก ไม่ได้อยากช่วยผู้หญิงปากเก่งเท่าไหร่"ลุกขึ้นเดินลงไปยังด่านล่างด้วยความรวดเร็ว ต่างจากคำพูดที่บอกว่าไม่สนใจเท่าไหร่ลิบลับ จนมาวินยกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ "มึงจะพาเธอไปไหน"เสียงทุ้มดังแข่งกับเสียงเพลงที่ยังดังก้องในผับ "ไปส่งที่บ้านครับ เธอเมามากแล้ว" "มึงรู้จัก?"พายุเลิกคิ้วถามกันต์อย่างกวน ๆ ซึ่งลูกน้องหนุ่มก็รู้สึกแปลกใจ ปกติเฮียพายุที่เขาเคยเห็น ไม่เคยสนใจเรื่องของคนอื่นแบบนี้ "ไม่ได้รู้จักแบบสนิทสนมครับ แต่เธอบอกไว้ว่าถ้าเมาให้ช่วยไปส่งที่บ้าน อีกอย่างผมก็เลิกงานแล้วนะครับ"กันต์เองก็ไม่ได้กลัวสายตาของพายุสักนิด เขาไม่ใช่ประเภทชอบพาสาวไปหลอกฟัน เลยไม่มีเหตุผลอะไรต้องกลัว "กูไปส่งเอง มึงกลับไปได้แล้ว"พายุเดินเข้าไปทำท่าจะพยุงลินดาเข้าสู่อ้อมกอดตัวเอง แต่ทว่ากันต์กลับเหวี่ยงตัวเธอหลบให้ไปยืนอยู่ด้านหลังของเขา "ไม่ได้ครับ ผมจะไปส่งเอง" "กูเป็นเจ้านายมึงนะ" กันต์เชิดหน้าขึ้นอย่างไม่เกรงกลัว"ตอนนี้ผมเลิกงานแล้วครับ ขอตัวก่อน" มือหนายกขึ้นบีบไหล่เด็กหนุ่มรุ่นน้อง ก่อนจะพยักหน้าให้ราชันย์ที่เดินตามมาดึงลินดาออกมา ซึ่งยื้อยุดกันอยู่พักหนึ่ง เนื่องด้วยกันต์ไม่ยอมแต่ทว่าสู้แรงของบอดี้การ์ดที่ได้รับการฝึกฝนการต่อสู้มาอย่างดีไม่ได้ "เฮียทำแบบนี้ทำไมครับ ผมไม่เคยเห็นเฮียยุ่งเรื่องของใคร" "เธอเป็นเพื่อนเมียน้องกู"กันต์ฉุกคิดถึงสรรพนามที่ลินดาเรียกขานเจ้านายเขา ก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นมา "เฮียคือไอ้เฮียแก่เหรอครับ"ราชันย์ที่ได้ยินเด็กหนุ่มนี่พูดจาเล่นหัวเจ้านาย ก็วางลินดาลงบนโซฟาใกล้ ๆ แล้วเดินมุ่งเข้าไปหากันต์ทันที ซึ่งพายุยกมือห้ามไว้ได้ทัน "ไม่ต้อง...กูเคลียร์เอง มึงพาลินดาไปรอบนห้องกูก่อน เดี๋ยวกูตามไป" เมื่อราชันย์พาร่างปวกเปียกของตัวต้นเหตุขึ้นไปบนห้องตามคำสั่ง พายุก็หันมาจ้องหน้าลูกน้องตัวเอง ที่ดูวันนี้มันจะอยากมีเรื่องกับเจ้านายอย่างเขาไม่น้อย "มึงชอบลินดาเหรอ" "ครับ ผมชอบเธอ"กันต์เอ่ยเสียงหนักแน่น"แต่เมื่อกี้ที่จะพาไปส่งคือไปส่งจริง ๆ ไม่ได้คิดอะไรไม่ดีเลย ผมไม่ใช่ประเภทบังคับฝืนใจผู้หญิง" "คำพูดดูดีชิบหาย มีด้วยเหรอว่ะ พาผู้หญิงออกไปแล้วไม่ทำอะไร โตมาจนอายุเท่านี้กูไม่เคยเห็น"ขอเปลี่ยนคำพูดที่เคยชื่นชมเขาก่อนหน้า ถึงว่าคนแบบนี้ลินดาถึงเรียกว่าไอ้เฮียแก่ "อย่าเอานิสัยตัวเองมาตัดสินคนอื่นสิครับ" กันต์ตอบอย่างไม่เกรงกลัว นาทีนี้ไม่ว่าจะโดนไล่ออกเขาก็ไม่สนใจ งานใหม่มีเยอะแยะค่อยไปหาเอาข้างหน้าก็ได้ แต่ไม่ชอบให้ใครมาหยามและดูถูกเขาเรื่องนี้ "มึงนี่ปากดีนะ ไม่อยากทำงานที่นี่แล้วงั้นสิ ถึงไม่กลัวกู" "ครับ ถ้าเฮียจะไล่ออกก็ไล่เลยครับ แต่เรื่องลินดาผมไม่ถอดใจหรอก ไม่เจอกันที่นี่ผมก็หาทางเจอกับเธอที่มหาลัยได้" "เกี่ยวไรกับผู้หญิงคนนั้น" "ก็ที่เฮียโมโหอยู่แบบนี้ ไม่ใช่เพราะผมกำลังจะเอาเหยื่อเฮียไปเหรอครับ คืนนี้ผมอาจสู้เฮียไม่ได้ แต่อยากบอกว่าเธอไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น" "เหอะ...ตลกชิบหาย กูจำได้ว่าบอกมึงแล้วว่าเธอเป็นแค่เพื่อนของเมียน้องกู ไม่เข้าหูมึงเหรอว่ะ" ร่างสูงเดินไปประจันหน้าหนุ่มรุ่นน้อง นอกจากความสูงที่ใกล้เคียงกันแล้ว ไอ้เด็กปากดีนี่ไม่มีไรสู้เขาได้เลย ยังมีหน้ามาพูดจาหยามเขาอย่างไม่กลัวเกรง เห็นทีต้องจัดการขั้นเด็ดขาด "ตั้งแต่พรุ่งนี้มึงไม่ต้องมาทำงานที่นี่อีก กูไล่มึงออก"นิ้วเรียวเคาะลงบนอกแกร่งของกันต์ "ครับ ผมรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้"แววตาคมของเด็กหนุ่มเต็มไปด้วยความโกรธ แต่ทว่าท่าทางกลับทำเหมือนไม่สนใจที่ถูกไล่ออก "ออกไปจากร้านกูได้แล้วก่อนที่กูจะให้การ์ดมาลากมึงออกไป"กันต์มองหน้าพายุนิ่ง ก่อนจะเดินออกจากร้านไปตามที่บอก แต่ใช่ว่าเขาจะยอมแพ้ ผู้หญิงคนนั้นเขาตามแอบชอบอยู่ตั้งนาน ถ้าไม่ติดว่าที่นี่มีการ์ดและบอดี้การ์ดมากมาย เขาจะตามขึ้นไปเอาลินดาลงมาแน่ลินดาคลอดลูกชายคนแรก พายุเป็นคนตั้งชื่อให้ว่าธันเดอร์ ตอนนี้อายุได้หกเดือนกว่าแล้ว พร้อมกับในท้องลินดาที่มีเจ้าตัวเล็กคนที่สองอาศัยอยู่ได้สองเดือนแล้ว เรียกได้ว่าคลอดปุ๊ป แผลหายปั๊บ พ่อแม่มือใหม่ก็จัดการปั้มลูกกันทันที คนนี้ดีหน่อยเพราะคนแพ้ท้องไม่ใช่ลินดา แต่เป็นพายุที่มีอาการแพ้ท้องแทน จนโดนเพื่อนล้อ ว่ารักเมีย กลัวเมียมาก ถึงขนาดแพ้ท้องแทนเมีย "เฮียไปทำงานไหวหรือเปล่า" ลินดาถามขณะที่มือก็คอยลูบหลังคนตัวสูงที่โก่งคออาเจียนอ้วกตั้งแต่เช้า "ไปไหว วันนี้มีประชุมสำคัญด้วย" พายุที่บอกว่าไม่ชอบธุรกิจของครอบครัว ตอนนี้เรียกได้ว่าเข้ามาบริหารบริษัทแทบจะเต็มตัวแล้ว ส่วนคนเป็นพ่อ ก็ได้วางมือพักผ่อนเลี้ยงหลานอยู่บ้านบ้าง ลูกชายคนนี้เรียกได้ว่าอยู่กับลินดาน้อยมาก เพราะคนเป็นปู่กับย่าเอาไปเลี้ยงเองตลอดเวลา มีแค่ช่วงเพิ่งคลอดเท่านั้นที่ลินดาให้นมลูกจากเต้า แต่พอเริ่มปั้มนม นันทวัฒน์กับจันจิราก็พาไปนอนด้วยทันที นี่คือเหตุผลที่น้ำยาของพายุแสดงผลเร็ว เพราะมีเวลาทำการบ้านทุกวัน ยังคงเป็นคนกินดุ เหมือนเดิม และลินดาเองก็ยังคงเป็นคนตอบรับเขาอย่างเต็มใจ "แต่ลินว่าเฮียไม่ไหวนะ ที่ผับวันนี้ก็บอกให้
สองเดือนผ่านไป เสียงเพลงหวานคลอเคล้า พร้อมบรรยากาศแห่งความชื่นมื่นของครอบครัวทั้งฝั่งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว พายุและลินดาที่ยังคงยืนถ่ายรูปกับแขกเหรื่อในงาน ถึงแม้เจ้าสาวจะยังไม่หายแพ้ท้อง แต่อาการก็ดีขึ้นมาก อีกทั้งเจ้าบ่าวยังคอยถามไถ่อยู่อาการอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสองทุ่ม พิธีแต่งงานของพายุกับลินดาดำเนินมาถึงช่วงสุดท้ายก่อนจะเป็นเวลาปาร์ตี้ของบรรดาเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาว ที่งานนี้เจ้าบ่าวขนเคาท์เตอร์บาร์พร้อมบาเทนเดอร์หนุ่มหล่อมาเปิดผับถึงที่โรงแรมจัดงานแต่ง ทำเอาแขกในงานตื่นเต้นมากกว่าปกติ เพราะเป็นผับที่มีชื่อเสียง แล้วยกมาให้ดื่มถึงที่นี่ เลยเป็นที่ชอบอกชอบใจของแขกยิ่งนัก "เอาล่ะครับตอนนี้ขอเชิญเจ้าบ่าวและเจ้าสาวขึ้นมากล่าวอะไรกับแขกเหรื่อในงานสักหน่อยนะครับ" พายุกุมมือลินดาแน่น เดินขึ้นไปบนเวที ได้รับเป็นเสียงโห่ของเพื่อนเจ้าบ่าวที่มองเห็นภาพความหวานของคนทั้งคู่ "ก่อนอื่นเราอยากรู้ถึงที่มาที่ไปของความรักของคนทั้งคู่ และอยากรู้ว่ารักกันมากขนาดไหน ผมเชื่อว่าแขกเหรื่อก็ต้องอยากรู้เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน ใช่ไหมครับ" "อยากรู้ค่ะ"เสียงเพื่อนเจ้าสาวตะโกนตอบ "ว่าความร
หลังจากงานแต่งของเพลิงกับปิ่นมุกผ่านไป เดือนหน้าก็จะเป็นงานแต่งของคิณกับขวัญตา อีกเดือนก็จะถึงคิวของลินดากับพายุ เรียกได้ว่าเรียงติดต่อกันสามเดือนเลยทีเดียว ตอนงานปิ่นมุก ลินดาแพ้ท้องอย่างหนัก เธอแทบจะยืนในงานนาน ๆ ไม่ได้ ต้องให้พายุประคองเธอตลอดเวลา ทำหน้าที่เพื่อนเจ้าสาวได้ไม่เต็มที่ ปาร์ตี้ตอนค่ำก็ไม่ได้อยู่ เกรงใจคนอื่นที่ต้องฟังเสียงโอ้กอ้ากของเธอ อีกทั้งยังเวียนหัวจนต้องดมยาดมตลอดเวลา ลินดาอิจฉาปิ่นมุกมาก ที่เพื่อนไม่มีอาการแพ้ท้องเลยแม้แต่น้อย ยังคงกินทุกอย่างได้ปกติ ในขณะที่เธอน้ำหนักยิ่งลดลง จนเมื่อสองวันที่แล้วต้องไปให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล ตอนนี้เธอก็ต้องมานอนกับแม่ เพราะทั้งเพลียและกินอะไรไม่ได้ ต้องมีคนดูแล พายุต้องทำงานที่ผับ และมีบางวันต้องเข้าไปทำงานที่บริษัทของพ่อเขาด้วย ถึงจะไม่ใช่การเข้าไปช่วยแบบเต็มตัว เพราะยังยืนยันกับคนเป็นพ่อว่าไม่ชอบธุรกิจแบบนี้ ชอบทำผับมากกว่า แต่ก็ยังใจอ่อน ทุกครั้งที่คนเป็นพ่อโทรตาม "แกอยากกินอะไรไหมยัยลิน บอกแม่สิ" "ลินไม่หิวเลย แค่ได้กลิ่นก็จะอ้วก" "มันต้องมีอะไรที่อยากกินบ้างสิ คิดมาสักอย่างหนึ่ง แกไม่กินไม่ได้นะ เดี๋ยวหลานฉันไม่แข
พายุพาลินดาเข้ามาหาพ่อกับแม่ที่บ้านในช่วงบ่ายของอีกวัน โดยนัดกับแม่ของลินดาว่าจะมาเจอกันที่นี่ทีเดียว "ลินตื่นเต้นอ่ะ" ลินดาบีบมือเข้าหากันแน่น เมื่อรถคันหรูเลี้ยวเข้ามาบ้านหลังใหญ่ เธอมองอย่างอึ้ง ๆ ไม่คิดว่าบ้านของเขาจะใหญ่ขนาดนี้ "เวียนหัวหรืออยากอ้วกหรือเปล่า" "นิดหน่อยค่ะ ขอลินหอมแก้มเฮียก่อนนะ" เมื่อรถจอดคนตัวเล็กก็ยื่นหน้าไปหอมแก้มสากซ้าย ขวา ก่อนจะกดจูบที่ริมฝีปากหนาเบา ๆ "ดีขึ้นเยอะเลย" เมื่อผละจูบออก ก็ยิ้มหวานให้คนตัวสูง ทำเอาใจแกร่งสั่นไหว ไม่เคยเห็นยิ้มหวานหยดย้อยแบบนี้มาก่อน "จะทำให้เฮียหลงไปไหน...หืม แค่นี้ก็หลงจะแย่แล้ว ต่อไปลินคลอดเฮียจะเสียนิสัยอย่างให้ลินทำแบบนี้นะ" "ลินเต็มใจทำแบบนี้กับเฮียตลอดชีวิตค่ะ กลัวแต่เฮียจะเบื่อที่ลินเอาแต่อ้อน" มือหนาจับแก้มเธอทั้งสองข้างให้หันมาสบตากันตรง ๆ"ไม่มีวันนั้นหรอก" "รีบลงดีกว่า เดี๋ยวผู้ใหญ่รอ" พูดจบก็รีบเปิดประตูลงจากรถ กลบเกลื่อนความเขินกับสายตาของเขา ลินดาเห็นรถของแม่เธอจอดอยู่ในโรงจอดรถด้วยเช่นกัน แสดงว่าแม่น่าจะมาถึงก่อนเธอแล้ว แบบนี้ยิ่งทำให้เธอตื่นเต้นเข้าไปอีก "มือลินเหงื่อออกเต็มเลยอ่ะ ทำไงดี" "ไม่ต้องกล
ลินดาตื่นขึ้นมาอ้วกตั้งแต่เช้า นั่งกอดชักโครกอยู่เกือบชั่วโมง ส่วนพายุกำลังยืนลูบหลังให้เธอ พร้อมด้วยสีหน้าแสดงความเป็นห่วง "ไปหาหมอดีกว่า อ้วกหนักขนาดนี้" "เฮียหยิบยาดมใต้หมอนให้ลินหน่อย ลินเวียนหัวมากเลย" ขายาวก้าวเร็ว ๆ ไปหยิบยาดมมายื่นให้เธอ พร้อมทิ้งตัวลงนั่งข้างเธอ อย่างไม่รังเกียจกลิ่นคาวอ้วกที่เหม็นฟุ้งห้องน้ำ "ออกไปเฮีย มันเหม็น"มือบางผลักเขาให้ออกไป แต่พายุแทบไม่ขยับตัว "ให้เฮียอาบน้ำให้ดีกว่า แล้วไปหาหมอกันนะ" ลินดาพยักหน้าอย่างไม่ลังเล เธอเองก็ไม่มีแรงจะทำอะไรแล้วเหมือนกัน ได้แต่ยอมให้เขาจัดการทุกอย่าง ตั้งแต่พาเธอไปอาบน้ำ ออกมาแต่งตัวให้จนเสร็จ แล้วเขาถึงค่อยไปจัดการตัวเอง เราสองคนเดินออกจากลิฟท์ กำลังจะไปขึ้นรถของคนตัวสูงที่จอดอยู่ เป็นเธอที่คลอเคลียเขาไม่ห่าง เดี๋ยวกอด เดี๋ยวหอม ไม่อายสายตาคนที่เห็น กลิ่นตัวของเขาทำเธอหายเวียนหัวไปได้บ้าง แต่ทว่าตอนเดินออกจากลิฟท์ ก็เจอเข้ากับกันต์ที่เดินสวนกันมาพอดี "ลินดาไม่สบายเหรอครับ" กันต์ถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย แต่ก็ไม่ได้เดินเข้ามาใกล้มาก อาจเพราะพายุยืนส่งสายตาเค่ืองขุ่นให้อยู่ เลยไม่กล้าทำอะไรมากนัก "แล้วมึงเสือกอะไรก
ลินดานัดให้พายุมาหาเธอที่ห้อง คิดว่าเรื่องท้องจะปล่อยไว้นานกว่านี้ไม่ได้ เธอจะต้องรีบบอกเขาก่อน เธอเองก็แพ้ท้องอย่างหนัก ไม่ว่าทำยังไงอาการก็ไม่ดีขึ้นเลย ขนาดขวัญตาสั่งมะม่วงเปรี้ยวเอาไว้ให้ ตอนกินเข้าไปก็รู้สึกดีขึ้นจริง ๆ แต่สักพักอาการอยากอ้วกก็มาอีก คนตัวเล็กเลือกไปนอนรอบนเตียง ทำตามแผนที่วางไว้ เมื่อมองดูเวลาใกล้ที่พายุจะมาแล้ว อยากจะทำเหมือนที่ขวัญตาแนะนำเหมือนกัน แต่กลัวว่าพายุจะตกใจ จนช็อกไปเสียก่อน เสียงตะกุกตะกักดังขึ้นด้านนอก พร้อมเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ตรงมาในห้องนอน ลินดาหันมองแวบหนึ่ง ก่อนจะสบตาร่างสูงที่ยืนมองอยู่ "ป่วยหรือเปล่า?" เสียงทุ้มที่แสดงความห่วงใยเต็มที่ พร้อมกับเดินเข้ามาสัมผัสตรงหน้าผากเธอเหมือนกับจะวัดว่าเธอตัวร้อนหรือเปล่า เพราะเห็นเธอห่มผ้าเหมือนกับว่าหนาว "เฮียขา..."เสียงหวานหยดย้อย พร้อมท่าทางที่ยั่วยวน มือเล็กก็สะบัดผ้าห่มที่คลุมกายออก เผยให้เห็นร่างเปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าติดกาย ทำเอาคนตัวสูงที่นั่งอยู่อึ้งไปทันที "ทำอะไรอ่ะลิน? ล้อเล่นหรือเปล่า" เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างละเมอ ถึงจะเห็นร่างกายของเธอจนชินแล้วก็เถอะ แต่ทว่าที่เขาแปลกใจคือ ที่นอนข้างกันมีว