LOGIN'ดรัณ' เขี่ยเธอทิ้งทันทีที่รู้ว่าท้อง ในวันที่เธอท้องจริงๆ ก็อย่าหวังว่าคนเลือดเย็นอย่างเขาจะเป็นพ่อใครได้!
View Moreบทนำ
แสงสีวูบวาบภายในผับหรูฉาบไล้เรือนร่างขาวผ่องให้ดูนวลเนียน และช่วยอำพรางสายตาที่จับจ้องมาอย่างหิวกระหายได้ วันวิวาห์พยายามแกะท่าตามโคโยตี้ที่เต้นอยู่ด้านหน้า ซึ่งเต้นกันด้วยท่วงท่าเซ็กซี่และยั่วยวนอย่างน่าเสียวไส้ มือใหม่อย่างเธอพยายามแล้ว แต่ก็เงอะงะและดูอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเหมือนคนไม่ได้กินข้าวเมื่อเทียบกับรุ่นพี่เหล่านั้น ดวงตากลมโตเลิ่กลั่ก มองแขกด้านซ้ายทีขวาที สะท้อนความไม่มั่นใจออกมาอย่างชัดเจน
“ไวน์เต้นแรงๆ หน่อย”
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดเรียกกำลังใจ แล้วหลับตาลงพร้อมกับเต้นด้วยท่วงท่าที่คิดว่ายั่วยวนมากที่สุด เธอมีความคิดแบบเด็กๆ ว่าหลับตาเท่ากับไม่รับรู้ว่าแขกมองเธอด้วยสายตาแบบไหน
“ดีๆ เก่งแล้ว เต้นเข้าไวน์ ท่องไว้ เพื่อเงิน”
ความยาวของเพลงเพียงสามนาที ทว่ามันกลับยาวนานราวสามชั่วโมงในความคิดของเธอ วันวิวาห์เต้นไปพลางนึกว่าเมื่อไรเพลงจะจบเสียที แม้จะอายแต่เธอหลับตาได้เพียงครู่เดียว เพราะต้องลืมตาขึ้นมามองคนข้างหน้าเพื่อแกะท่าต่อไป เธอเตะขาไปข้างหน้า ย่อกายลง ยังผลให้เดรสลาเท็กซ์สีแดงเพลิงร่นขึ้นมาอวดต้นขาเรียวงาม เสียงปรบมือดังเกรียวกราวกับท่วงท่านี้ เธอรีบดึงขากลับมาก่อนใคร แล้วเต้นๆ ย่อๆ ต่อไป กระนั้นก็มีบางท่าที่ออกจะล่อแหลม วันวิวาห์ไม่ได้เต้นตาม เธอจึงไม่ได้รับทิปอย่างที่นรียาได้
“แกยังไม่ได้ทิปเลยนะไวน์”
เธอเริ่มเครียด กลัวว่าการลงทุนครั้งนี้จะไม่คุ้มค่า จึงพยายามเต้นให้ดูยั่วยวนมากกว่าเดิม แล้วก็ได้ผล เมื่อเสี่ยคนหนึ่งส่งธนบัตรสีเทาให้หลายใบ เธอยื่นมือไปรับ และเสี่ยคนนั้นก็จับมือเธอทันที วันวิวาห์รีบชักมือออกแล้วส่งยิ้มหวานๆ
“ฉันได้ทิปแล้วนิวเยียร์” เธอหันไปอวดเพื่อนด้วยความดีใจ ไม่กล้านับ แต่เท่าที่จับก็คงหลายพัน
“ทิปหนักขนาดนี้ เสี่ยเรียกแกไปนั่งดริงก์แหงเลย” นรียาคาด-การณ์
“ไม่เอานะ ทำยังไงดีล่ะ”
“ก็บอกเจ้ไปว่าไม่เอา หรือจะเอาก็ได้นะ นั่งเฉยๆ แต่เปลืองตัวหน่อยถ้าอยากได้เงิน” เพื่อนสาวแนะนำพลางยักไหล่ราวกับไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญ
“ไม่อะ” วันวิวาห์ส่ายหน้าดิก ก่อนว่า “รวมกับค่าเต้น ฉันน่าจะได้เงินพอแล้วละ”
“ตามใจ”
เมื่อลงจากเวทีก็เป็นไปตามที่นรียาคาดเดา เสี่ยคนนั้นเรียกเธอไปนั่งด้วยจริงๆ เงินห้าพันบาทยั่วยวนมากทีเดียว หากเป็นโคโยตี้มืออาชีพคงรีบไป เพราะรู้ดีว่าเปลืองตัวเพียงเล็กน้อยแต่อาจจะได้อีกเป็นหมื่นบาทในคืนเดียว ซึ่งน้อยคนนักที่จะทำเช่นนี้ได้ โคโยตี้รุ่นพี่ต่างเข้ามาบ่นเสียดายกับเธอ วันวิวาห์เพียงยิ้มบางๆ เธอพึงพอใจกับรายได้เท่านี้
“เสี่ยคนนั้นต้องชอบแกมากแน่ เปย์หนักขนาดนี้” นรียาว่าหลังจากก้าวออกมาจากห้องแต่งตัว
“ถึงจะมีการ์ดคอยดูแล แต่การไปนั่งดริงก์ก็เท่ากับเปิดโอกาสนั่นแหละ ตัดปัญหาดีกว่า”
“ก็จริงของแก ฉันก็ไม่ค่อยนั่งเหมือนกัน แต่ถ้าหล่อก็ไปนะ” นรียาหัวเราะคิกคัก พลอยทำให้วันวิวาห์หัวเราะร่วนตามไปด้วย
“งั้นฉันรอหล่อๆ แล้วกันเนอะ”
“แยกกันตรงนี้เลยแล้วกัน อยากนอนจะแย่แล้ว บ๊ายๆ แก”
หลังจากแยกกับนรียา วันวิวาห์ก็เดินไปยังป้ายรถประจำทาง ทว่าจู่ๆ แขนเรียวก็ถูกฉุดไว้จากทางด้านหลัง เมื่อเธอหันไปมองก็เห็นเป็นเสี่ยคนนั้น ดวงตากลมโตเบิกกว้าง รับรู้ได้ถึงสัญญาณอันตราย!
“ทำไมถึงไม่มานั่งกับเสี่ยล่ะหนู”
“เอ่อ...หนูรีบกลับไปอ่านหนังสือสอบค่ะ” วันวิวาห์ตอบตะกุกตะกัก พยายามชักมือออกแต่ไม่เป็นผล เธอเหลียวซ้ายแลขวามองหาการ์ดหรือ รปภ. ทว่าพวกเขากลับยืนหันหลังให้เธอกันหมด หรือว่า...เสี่ยจะยัดเงิน
“งั้นไปอ่านที่คอนโดเสี่ยไหม ปะ” หนุ่มใหญ่ถามปุ๊บก็ดึงข้อมือเรียวเล็ก ร่างบอบบางลอยหวือตามแรงกระชากไปอย่างง่ายดาย
“ไม่ค่ะ หนูไม่ไป ปล่อย! ช่วยด้วย!” หญิงสาวพยายามดึงมือออกสุดแรงเกิด แต่ก็มิอาจสู้ได้ น้ำตาปริ่มตาขอบด้วยความกลัว หรือเธอตัดสินใจผิดพลาดไปที่เลือกเดินเส้นทางของผู้หญิงกลางคืน
“ไปกับเสี่ยน่า รับรองหนูจะสบาย” เสี่ยหัวเราะเสียงดังแล้วลากเธอไปยังรถยนต์ที่จอดรออยู่ แต่ก่อนที่จะถึง ชายหนุ่มคนหนึ่งก็ก้าวเข้ามาขวาง กลิ่นบุหรี่จากกายแกร่งทำให้เธอรับรู้ว่าผู้ชายคนนี้ก็อันตรายไม่น้อยไปกว่าเสี่ยหื่นกาม
“ใครวะ มาขวางทำไมวะ หลบไป” เสี่ยเอ่ยอย่างนักเลง ลิ้นคับปากด้วยความเมามาย
“ปล่อยเธอ”
“อย่ามายุ่งดีกว่า อั๊วจะไปมีความสุข”
“จะไปมีความสุขที่ไหนก็เชิญ แต่ต้องไม่ใช่กับเธอ” ร่างสูงโปร่งไม่เพียงพูดเปล่า แต่ก้าวตรงเข้ามาแล้วสับสันมือลงบนมืออวบอ้วนอย่างแรง เสี่ยสูงวัยรีบปล่อยมือเธอแล้วยกขึ้นมากุมเอาไว้ด้วยความเจ็บปวด
วันวิวาห์ตื่นตะลึงอยู่ไม่นาน มือน้อยก็ถูกเขาคว้าไปกุมอย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ความอุ่นซ่านปกคลุมรอบกายราวกับเขาโอบกอด ดวงตาคู่ใสก้มลงมองมือตัวเองสลับกับใบหน้านิ่งขึง
“เฮ้ย! จู่ๆ มาแย่งของอั๊วได้ยังไงวะ” แม้จะเจ็บแต่เสี่ยยังไม่ยอมแพ้ เท้าข้างหนึ่งของคนที่จูงมือเธออยู่จึงยกขึ้นยันอกจนเสี่ยหงายท้องไปนอนกับพื้น
“เธอเป็นผู้หญิงของฉัน จำเอาไว้!”
“น้ำรินอยากได้น้องแล้ว บัวต้องตามใจลูกนะ เนี่ยคืนนี้ใส่ชุดนอนที่ฉันซื้อมาให้ รับรองลูกมาแน่” ประโยคหลังเกื้อคุณแกล้งทำกระซิบกระซาบ จึงถูกประทุษร้ายตีเพียะที่ต้นแขนแรงๆ“ทำไมคะ บัวไม่เร้าใจสำหรับคุณแล้วหรือไงถึงต้องมีตัวช่วย”“ไม่เลยแค่เป็นบัวฉันก็รักและอยากคลอเคลียด้วยตลอดนั่นแหละ แค่อยากสร้างสีสันให้ชีวิตคู่บ้างไงจะได้ตื่นเต้น” เกื้อคุณรีบแก้ ก่อนจะบอกเสียงตลกๆ “ฉันอ่านมาน่ะว่าถ้าเซ็กซ์เร้าใจจะได้ลูกชาย”“จริงเหรอคะ” บัวบูชาตาวาวขึ้นมาทันที เธอเองก็อยากได้ลูกชายไม่แพ้เขา ที่เขาพูดวันนั้นก็เข้าที ให้น้องชายได้ดูแลพี่สาว อีกอย่างบริษัทของเขาก็น่าจะมีลูกชายไว้สืบทอดกิจการ“จริงสิ สนใจไหมล่ะบัวจ๋า”“ก็ได้ค่ะบัวจะยอมใส่ให้ก็ได้ แต่ถ้าไม่ได้ลูกชาย คุณเกื้อโดนทำโทษนอนนอกห้องหนึ่งปี!”“โห! โหดจังเลย” เกื้อคุณแกล้งทำเสียงกลัวไปอย่างนั้นเอง แต่ที่จริงเขาเจ้าเล่ห์จะตายไป “ถ้างั้นผัวจ๋าคนนี้ต้องขอเพิ่มรอบความถี่ในการได้ลูกชายหน่อยนะเพื่อความชัวร์”“คุณเกื้อบ้า พูดอะไรก็ไม่รู้ นี่ถ้าน้ำรินโตแล้วห้ามลามกต่อหน้าลูกเด็ดขาด เข้าใจไหมคะ” บัวบูชาสั่งห้ามเสียงเข้ม ทำเอาอีกคนหงอทีเล่นทีจริง“เข้าใจจ้าเมี
หลังเกื้อคุณหายดีแล้ว บัวบูชากับน้ำรินก็ย้ายสำมะโนครัวมาอยู่ที่กรุงเทพอย่างถาวร เกื้อคุณตัดสินใจซื้อบ้านราคาหลายสิบล้านเพื่อตระเตรียมพื้นที่เอาไว้ให้ลูกๆ ได้วิ่งเล่นกัน เขาปรึกษากับเมียสาวแล้วว่าอยากจะมีลูกมากกว่าสองคน ธุรกิจเคมีภัณฑ์กำลังไปได้สวย อนาคตภายภาคหน้าลูกๆ จะได้เข้ามาช่วยบริหารงาน บัวบูชาเขินอายแต่ฟังหลักการที่เขากล่าวอ้างแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วยตามสามีแม้จะมีบ้านหลังใหญ่โต มีเงินทองมากมาย แต่บัวบูชาก็ยังใช้ชีวิตที่เรียบง่าย เธอกลายเป็นแม่บ้านอย่างเต็มตัวและคงเป็นอีกนานเพราะเขาวางแผนมีลูกยาวเหยียดเสียขนาดนั้น ที่จริงเธออยากเข้าไปช่วยสามีทำงานมากกว่า แต่ก็คิดว่าบทบาทหน้าที่แม่ก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ทุกวันนี้เธอจึงดูแลน้ำรินอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง พร้อมกับการปกครองดูแลส่วนของบ้านได้อย่างดีมีเมตตากับคนงานในบ้านเสมอบัวบูชามีของมีค่าแค่สร้อยเพชรจี้ดอกบัวที่เกื้อคุณสวมคืนให้เท่านั้น ไม่เคยใช้ของแบรนด์เนม นอกจากสามีจะซื้อมาให้ ซึ่งสุดท้ายบนเรือนร่างก็เต็มไปด้วยของแบรนด์เนมทั้งตัวอยู่ดีเพราะเขาขนซื้ออะไรไม่รู้มาเยอะแยะทุกวัน แม้เธอจะไม่ออกไปเลือกด้วยตนเอง เขาก็ให้เลขานุการหนุ่มท
บัวบูชาเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย แม้นิธิจะเข้ามาจัดแจงที่หลับที่นอนให้ ทว่าหญิงสาวกลับปักหลักนั่งเก้าอี้ข้างเตียงไม่ยอมลุกไปไหน จนผล็อยหลับอยู่ตรงนั้นนั่นเอง เมื่อสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาก็รับรู้ได้ถึงสัมผัสแสนอ่อนโยน เธอเงยหน้าขึ้นมองก็น้ำตาไหลอีกครั้งเมื่อเห็นคนป่วยลืมตาแป๋วมองเธออยู่ก่อนแล้ว มือใหญ่ที่เธอคิดว่าจับอยู่ตลอดเวลา บัดนี้กลับกำลังลูบศีรษะเธอไปมา“คุณเกื้อ!”บัวบูชาไม่รอช้า เธอโผเข้ากอดเขาทันที เสียงร้องไห้ฮือๆ ดังลอดออกมาจากริมฝีปากที่พร่ำพูดอะไรฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ในความรู้สึกของคนป่วยนั้นช่างอบอุ่นใจ“เป็นอะไร ฉันยังไม่ตายสักหน่อยจะร้องไห้ทำไม”“บัวกลัวคุณเกื้อตาย”“ไม่ตายหรอก ตายไม่ได้ เมียยังไม่ให้อภัยเลย” เขาพูดติดตลกเสียงแหบแห้ง“ถ้าให้อภัยแล้วห้ามตายนะ” เธอพูดเสียงเครือ ยกมือขึ้นปาดน้ำตาป้อยๆ เหมือนเด็กน้อย น่าเอ็นดูในสายตาของเกื้อคุณเป็นที่สุด“สัญญาว่าจะอยู่กับเธอจนแก่เฒ่า” เขายิ้มละมุนบัวบูชาเขินจนเผลอยิ้มหวาน ก่อนจะเบิกตาโตเมื่อนึกขึ้นได้ “หิวน้ำไหมคะ บัวลืมไปเลยมัวแต่ดีใจที่คุณเกื้อฟื้นแล้ว”เกื้อคุณมองหญิงสาวกุลีกุจอไปรินน้ำมาให้ดื่มแล้วก็ชื่นใจตั้งแต่น้ำยังไม
บัวบูชารับรู้ได้ทันทีว่าเกิดเรื่องไม่ดีกับเกื้อคุณ เธอรีบฝากลูกเอาไว้กับคุณป้าปานวาดแล้วจองตั๋วเครื่องบินโดยเร็วที่สุด น้ำตาไหลพรากๆ ตลอดเวลาที่ยังไม่รู้ว่าเกื้อคุณเป็นตายร้ายดีอย่างไร เธอโทรหานิธิเป็นระยะๆ ก็พบว่าเขายังไม่ออกจากห้องฉุกเฉินเลยหญิงสาวอยู่ในห้องโดยสารเครื่องบินแล้ว จำใจต้องปิดเครื่องมือสื่อสารด้วยหัวใจที่ปวดร้าว เธอกลัวเหลือเกินว่าระหว่างนั้นนิธิจะโทรศัพท์มารายงานอาการของเกื้อคุณ ได้แต่ทำใจดับอารมณ์ร้อนรุ่มในอกให้สงบลงมือน้อยหยิบรูปถ่ายของเขาขึ้นมาดู น้ำตาไหลนองหน้า ได้แต่หวังว่าเธอไม่ช้าเกินไปสำหรับการตัดสินใจครั้งนี้ บัวบูชาไม่คิดเลยว่าเพียงเสี้ยววินาทีที่เธอปฏิเสธจะบอกสิ่งที่อยากบอกกับเขา เกื้อคุณกลับประสบอุบัติเหตุแบบนี้“คุณเกื้อต้องปลอดภัยนะคะ บัวรักคุณเกื้อ”บัวบูชารีบวิ่งเข้ามาภายในโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ใบหน้าเศร้าหมอง น้ำใสกบดวงตาจนมองเห็นภาพข้างหน้าไม่ชัดเจนเอาเสียเลย เมื่อมาถึงห้องฉุกเฉินก็พบเกื้อคุณถูกเข็นออกมาพอดี เธอรีบปราดเข้าไปหา มองใบหน้าซีดเซียวที่ยังไม่ได้สติอย่างแสนปวดร้าว“คุณพยาบาลคะ คนไข้เป็นยังไงบ้าง”“ปลอดภัยแล้วค่ะ กำลังพาไปห้องพักฟื้นค่ะ”เธ





