เธอรู้ดีว่าเธอไม่สามารถขัดใจเขาได้อีกอย่างเธอก็ไม่ได้มีเรียนหรือไปที่ไหนต่อ เธอจึงเลือกที่จะบีบบังคับเขาด้วยการขอเงินเพิ่ม เธอยังแอบหวังลึก ๆ ว่าเขาจะปฏิเสธที่จะไม่ยอมรับข้อเสนอ เพราะเธอรู้สึกว่าช่วงนี้เธอเหนื่อยที่จะต้องรับมือกับเขาเต็มทนแต่อย่างเขาซ่ะอย่างมีเหรอจะไม่สู้ราคา เขาพาเธอมาถึงคาเฟ่เที่ยงนิด ๆ ภายในร้านคาเฟ่สีขาวที่ตกแต่งด้วยดอกไม้น่ารัก ๆ จากนั้นเขาก็พาเธอไปเจอเพื่อน ๆ ของเขา
“ สวัสดีค่ะพี่วิน พี่เค้ก พี่แม็ก พี่โบว์” “หึ! นี่มันบังคับแพงมาหรือเปล่าเนี่ย” “ ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ” พี่วินหันมาถามเธอด้วยความเอ็นดู พี่เขาคงรู้สึกว่าช่วงหลัง ๆ มานี้เพื่อนของเขาจะไม่ปล่อยให้เธอได้เป็นอิสระเท่าไหร่ และเขาก็พอรู้ว่าเธอเริ่มจะทนไม่ไหวกับเพื่อนของเขาแล้ว ส่วนพวกเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ก็มีชอบเธอบ้างไม่ชอบบ้างแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรมากมาย “ มึงจะกินอะไรก็เดินไปสั่งซ่ะ แล้วก็ไปนั่งตรงโต๊ะโน่นรอกูก่อน“ “ ค่ะ” จากนั้นเธอก็เดินไปสั่งเครื่องดื่มและเค้กพร้อมกับครัวซองก่อนจะเดินไปอีกมุมหนึ่งของร้านนั่งกินเงียบ ๆ คนเดียวระหว่างรอเขาคุยกับเพื่อน ระหว่างที่เธอนั่งรอเสียงสนทนาของพวกเขาก็ดังลั่นร้าน เธอทนไม่ไหวจึงขอตัวเขาไปที่ห้องน้ำหลังร้าน ก่อนจะเดินกลับมานั่งที่เดิมของตนเอง แม็ก: กูถามมึงจริง ๆ เถอะไอ้มาร์คสรุปมึงชอบน้องพะแพงใช่ไหม มึงถึงหิ้วน้องเขาไปไหนมาไหนด้วยตลอดขนาดนี้ “ กูไม่ได้ชอบ! พูดอะไรบ้า ๆ มันก็แค่ของเล่นที่กูติดใจเท่านั้น ไม่คิดอะไรถึงขั้นนั้นเว้ย” โบว์: เราเห็นด้วยนะมาร์ค นายไม่ควรเอาผู้หญิงขายบริการคนนั้นมาเป็นแฟน รู้ถึงไหนอายถึงนั้น เค้ก: คนที่อายไม่ได้มีแค่น้องพะแพงหรอกนะ นายก็ด้วยชอบซื้อเองไม่ใช่หรอ มันก็คือความพอใจทั้งสองฝ่าย อย่ามาทำเป็นเลือกหน่อยเลยคนซื้อกับคนขายมันก็พอ ๆ กันนั้นแหละ พูดอะไรออกมาก็ไม่รู้” วิน: แล้วเมื่อไหร่มึงจะปล่อยน้องเขาไปสักทีไอ้มาร์ค ถ้ามึงไม่ได้คิดอะไรกับน้องเขาจริง ๆ “ กูยังสนุกอยู่ เบื่อเมื่อไหร่กูก็เลิก มึงไม่ต้องกังวลหรอกและมึง! ไอ้วินช่วงนี้กูไม่ต้องการให้มึงใช้บริการแพงอีกจนกว่ากูจะเบื่อแพงมึงห้ามยุ่งมึงเข้าใจไหม วิน: เอ่อ อีกไม่นานกูก็ไปฝึกงานแล้ว กูคงไม่มีเวลามาสนใจเรื่องพวกนี้กับมึงหรอกนะ แล้วมึงอ่ะ จะฝึกงานแล้วมึงยังไม่เลิกใช้บริการน้องเขาอยู่อีก “ไม่รู้ ถ้ากูเจอของที่ดีกว่ากูก็คงเลิก ยิ่งถ้าที่ฝึกงานใหม่มีสาว ๆ ออฟฟิศแซ่บ ๆ สวย ๆ ให้กูได้ลองบ้าง กูอาจจะหยุดก็ได้เว้ย ฮ่า ฮ่า ” ทุกคำพูดของเขาและเพื่อน ๆ เขา เธอได้ยินทั้งหมดเธอเองก็เตรียมใจกับคำพูดถากถางและเย้ยหยันพวกนี้มาอยู่แล้ว แต่พอได้ฟังแบบนี้ตรง ๆ แม้จะไม่ต่อหน้าเธอเองก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดพวกนี้อยู่ดี เธอใส่หูฟังและกลับไปนั่งที่เดิมแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน สายตาพี่มาร์คและเพื่อนๆของเขาก็มองมาทางเธอเพียงไม่กี่วิ ก็ไม่ได้สนใจเธออีกจากนั้นก็ซุบซิบคุยกันต่อ พวกเขาก็มองเธอเป็นอากาศแบบเดิม เธอเริ่มรู้สึกอึดอัดจนทนไม่ไหวก่อนจะตัดสินใจโทรหาน้องชายของเธอ “ พีอยู่ไหน ตื่นหรือยัง” “ กำลังกลับห้องครับ พี่แพงอยู่ไหน” “ อยู่ที่ร้านคาเฟ่รุ่นพี่นะ” “ ทำไมน้ำเสียงพี่ดูไม่ค่อยดีเลย ไม่สบายหรือเปล่า พี่อยากให้ผมไปรับไหม” “อืม ถ้าว่างก็ขับมอเตอร์ไซค์มารับพี่หน่อยสิ” “ พี่ส่งโลเคชั่นมาเดี๋ยวผมไปรับตอนนี้เลยครับ” “อืม” ติ๊ด หลังจากวางสายของน้องชายเธอก็ไม่ได้สนใจอะไร เธอเล่นเกมปลูกผักต่อไม่นานเขาก็เดินมานั่งข้างเธอก่อนจะทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเป็นปม “ มึงไม่หิวข้าวหรอทำไมไม่สั่งข้าว” “ ค่ะ แพงไม่ค่อยหิว” “กูจะไปร้านอาหารกับเพื่อนที่ห้างมึงจะไปกับกูไหมหรือจะรอที่นี้” “แพงให้น้องมารับแล้วพอดีแพงมีธุระ วันนี้แพงขอกลับก่อนนะคะ ส่วนค่าบริการที่โอนมาก่อนหน้านี้แพงจะโอนคืนให้พี่แล้วกัน” “มึงหมายความว่ายังไง ทำไมมึงต้องให้น้องมึงมารับด้วย” “แพงแค่เพลียค่ะ พี่มาร์คพี่เป็นคนถามแพงเองว่าแพงจะไปกับพี่ไหม แพงก็ตอบไปแล้ว ทำไมพี่ต้องชอบให้แพงอธิบายอะไรยาว ๆ ด้วยคะ” "เอ้อ! มึงอยากไปมากมึงก็ไปเถอะ กูขออะไรมึงก็ไม่เคยยอมกูอยู่แล้วนิ" (หึ! ขออะไรไม่เคยยอมอย่างงั้นเหรอที่ผ่านมาไม่ใช่อีแพงคนนี้เหรอ ที่สปอยจนพี่จะเสียคนอยู่แล้ว) เธอได้แต่พึมพำในใจก่อนจะกดมือถือเพื่อโอนเงินคืนให้เขา "แพงโอนเงินคืนไปแล้วนะคะ พี่มาร์คลองเช็คดูนะคะว่าเงินเข้าหรือยัง" เธอไม่อยากต่อปากต่อคำกับเขาแล้ว เขาเองที่ทำอะไรไม่ได้ก็เอาแต่จ้องหน้าเธอ ก่อนทำหน้ามุ้ยด้วยความไม่พอใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่ลูบหัวเธอไปมาราวกับว่าเธอเป็นแค่ตุ๊กตา เธอทำเป็นไม่สนใจอะไรเขา จ้องไปแค่เกมในมือถือเท่านั้น "มาร์คไปได้แล้ว โบว์หิวข้าวแล้ว" "อืม รู้แล้ว ๆ กูไปก่อนนะแพงมึงถึงห้องแล้วก็ส่งไลน์บอกกูหน่อยแล้วกัน" "ค่ะ" เธอตอบเขาโดยไม่หันไปมองหน้าเขาด้วยซ้ำ ก่อนที่เขาจะถอนหายใจเฮือกใหญ่และเดินไปหาเพื่อน ๆ หลังจากที่เธอเห็นว่าเขาออกไปข้างนอกแล้วเธอก็ลุกออกจากร้านไปรอน้องชายที่นอกร้านแทนเพราะเธอไม่อยากนั่งที่ข้างในร้านนาน ๆ "แพงไม่ไปกับพวกพี่หรอ" "อ้าวพี่วิน ไม่ดีกว่าค่ะพอดีแพงมีนัดแล้ว เดี๋ยวน้องชายแพงก็มารับแล้วค่ะ" "เหรอ งั้นพี่รอเป็นเพื่อนนะ" "พี่วินไม่รีบไปกับเพื่อน ๆ หรอคะ" "พี่ขับมอไซต์ไปแปปเดี๋ยว พวกมันออกไปก็เจอรถติดอยู่ดี ว่าแต่แพงว่างรับงานไหมอาทิตย์นี้" "อาทิตย์นี้หรอคะ ถ้าเร็วสุดก็วันอังคารแพงไม่มีเรียน เย็นวันจันทร์หรือวันอังคารทั้งวันก็ได้ค่ะ" "งั้นพี่จองคืนวันจันทร์นะ" "ได้ค่ะพี่วิน" เธอกับเขาชอบนัดกันลับหลังมาร์คอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ถ้าจะให้นับจริง ๆ ลูกค้าวีไอพีคนแรกของเธอก็คือวิน เขาพร้อมเปย์ไม่แพ้มาร์ค หากแต่นั้นคือเพื่อนสนิทที่เอาแต่ใจ ทำให้เขาและเธอต้องนัดแบบนอกรอบลับ ๆ เพื่อไม่ให้อีกคนจับได้ตามคำขอร้องของเขาซึ่งส่วนใหญ่เขาก็ชอบให้เธอไปอยู่เป็นเพื่อนบ้างกินข้าวดูหนังตามแต่อารมณ์ หลังจากนั้นไม่นานน้องชายเธอก็มาถึงพอดี "แพงไปก่อนนะคะน้องชายแล้วค่ะ" "ครับ"3 ปีต่อมา “สวัสดีครับคุณทนายสุดหล่อ วันนี้มาฟังคำพิพากษาใช่ไหมครับ” “ สวัสดีครับ ใช่ครับผม พี่ครับพอดีว่ารบกวนพี่หน้าบัลลังช่วยเช็คให้หน่อยได้ไหมครับว่าท่านผู้พิพากษาจะลงบัลลังกี่โมง พอดีว่าผมจะขอแวะไปส่งเอกสารอีกคดีที่บัลลังก์ 7 ครับ ผมเลยไม่รู้ว่าคดีผมที่บัลลังก์ 5 ท่านจะเริ่มกี่โมง” “จะไปนานเหรอครับคุณทนาย ได้ครับ ๆ งั้นเดี๋ยวผมจะเอาคดีของคุณทนายไว้เป็นคดีสุดท้ายช่วงเช้าเลยนะครับ แต่มันจะมีคดีที่สืบพยานกันอยู่อีกหนึ่งคดี ยังไงผมจะแจ้งผู้พิพากษาเจ้าของคดีให้ทราบนะครับ” “ขอบคุณมากครับพี่ ผมจะรีบกลับมานะครับ” “ได้ครับ” ไมค์ยิ้มให้กับเจ้าหน้าที่ศาลก่อนที่จะเดินไปอีกห้องเพราะตอนนี้เขากลายเป็นทนายหนุ่มไฟแรงสุดฮอตที่กำลังเร่งทำงานอย่างตั้งใจ เขาพยายามค้นหาตัวเองและก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิตให้ผ่านไป ขณะที่เขาจบคดีที่บัลลังก์ 7 ก็รีบเดินกลับมาที่บัลลังก์ 5 ซึ่งภาพที่เห็นตรงหน้า คือผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาเคยรักอย่างสุดหัวใจ กำลังนั่งอยู่คอกพยาน “พยานกำลังจะอ้างว่าภาพถ่ายที่พยานโอบกอดสามีของโจทก์อยู่นั้นไม่ใช่พยานอย่างนั้นเหรอครับ” “ค่ะ” “งั้นผมขอถามว่าพยานกั
บนโต๊ะอาหารตอนนี้ต่างก็ดูวุ่นวายเพราะไมค์ที่เริ่มได้ที่ก็พูดไม่หยุดเดินไปชวนคนนั้นคนนี้มาชนแก้วกับเขา ทุกคนที่จากตอนแรกจะทานข้าวกลายเป็นว่าตอนนี้ต่างก็ดื่มเป็นเพื่อนไมค์กันแต่เช้า หากมีเพียงแมธที่นั่งทานข้าวเสร็จก็กลับไปนั่งทำงานมองดูสถานการณ์ห่าง ๆ กับภาพครอบครัวที่ต้องบอกว่าหาดูได้ยากที่จะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาและเมากันได้ที่ขนาดนี้ 3 ปีต่อมา “มาร์คยังไม่มารับแพงอีกเหรอ” “ยังค่ะพี่แมธ พอดีเท้าแพงบวมมาก แพงเลยให้พี่มาร์คไปเอารองเท้าคู่ใหม่มาให้แพงค่ะ” “ท้องดูโตขึ้นเยอะแล้วนะ” “ค่ะ ไปนั่งที่ห้องพี่ก่อนไหม จะได้นั่งโซฟ่าสบายขึ้น” “ไม่เป็นไรค่ะ แพงนั่งทำงานที่นี้ทั้งวันอยู่แล้วเดี๋ยวพี่มาร์คก็มาค่ะ” “ถ้างั้นเข้าไปดูเอกสารให้พี่หน่อยแล้วกันนะ” “ก็ได้ค่ะ” แม้ว่าเธอจะรู้ว่าจุดประสงค์ของแมธคืออยากให้เธอไปได้พักมากกว่าที่จะอยู่ห้องทำงานในแผนกนิติกรของบริษัท พอย้อนอดีตตอนที่เธอเข้ามาฝึกงานอยู่ที่นี้จนครบกำหนดและหลังเรียนจบที่มหาลัยเธอก็เปลี่ยนเป้าหมายเข้ามาสมัครงานเป็นพนักงานที่นี้อย่างเต็มตัว ซึ่งปัจจุบันเธอก็ตั้งท้องลูกของมาร์คได้ 4 เดือนพอพวกเขารู้ว่าเธอท้องทุกคนในครอ
เธอได้แต่ยิ้มและรู้สึกได้ถึงไออุ่นของครอบครัวเขา ที่มันอาจจะเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คนที่ปรารถนาครอบครัวแบบนี้ หากแต่ชีวิตของเธอและใครหลายคนที่เลือกเกิดไม่ได้คงไม่ได้โชคดีแบบนี้สักเท่าไร หลังจากที่เธออาบน้ำเสร็จเธอก็นั่งรอเขาที่เตียงนอนไม่นานเธอก็ได้ยินเสียงมีคนเปิดประตู แกร๊ก “ยังไม่นอนเหรอคะ” “แพงกำลังรอพี่อยู่ค่ะ เป็นไงบ้างคะเรียบร้อยดีไหม” “ครับ งั้นพี่ไปอาบน้ำก่อนนะคะ” “ค่ะ” ขณะที่เธอยังไถมือถือเล่นระหว่างรอเขา พอเขาอาบน้ำเสร็จเขาก็รีบกระโดดขึ้นเตียงมานอนหนุนตักเธอ พร้อมกับเอาหน้าซุกพุ่งน้อย ๆ ของเธอทั้งยังทำหน้าอ้อน ๆ ให้เธออีก “พี่มาร์คง่วงนอนหรือยังคะ เรานอนกันเลยไหมคะ” “เราทำอย่างอื่นไม่ได้เหรอ” “ หื้อ แพงว่า..อย่าเลยดีกว่าค่ะ แพงอายคนอื่นเขาผู้ใหญ่ก็อยู่ในบ้านด้วย แพงไม่อยากให้คนอื่นมองเราไม่ดีเลยค่ะ รอบก่อนก็อายพี่แมธจะตายอยู่แล้ว” “หื้อ..อายทำไมเรื่องธรรมชาติไหมคะ” “ไม่ต้องเลยค่ะเรานอนกันได้แล้ว” “ขอนอนหนุนตักนุ่ม ๆ นี้ก่อนได้ไหมครับ” “เอ้..มาลูบท้องแพงแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ” “พี่แค่คิดว่าถ้าเรามีลูกด้วยกันเขาจะหน้าตาหล่อสวยเหมือนพี่ไหมนะ”
“พวกเราทุกคนรู้ดีว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ พี่แมธและมาร์คเองก็เล่าเรื่องของหนูมาให้น้าฟังเยอะพอสมควร ถ้าหนูยังไม่พร้อมหรือขาดเหลืออะไรก็บอกน้าได้เลยนะลูก ให้น้าไปขอกับพ่อกับแม่เราเถอะนะทุกอย่างจะถูกต้อง” “อันที่จริง ครอบครัวของแพงก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนครอบครัวคนอื่นเท่าไร ถ้าคุณน้าทั้งสองจะคุยกับครอบครัวแพง แพงก็ไม่ได้ติดขัดอะไรค่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่แพงอยากจะบอกคือแพงไม่ได้ต้องการให้ครอบครัวแพงได้เงินจากครอบครัวของคุณน้าแม้แต่บาดเดียว เงินที่จะสร้างครอบครัวแพงขอให้มาจากพี่มาร์คและแพงเท่านั้นนะคะ” “แพง..เอาจริงดิ ตอนนี้เงินติดบัญชีพี่มันแทบไม่เหลือแล้วนะ แถมโดนเจ้าไมค์ปล้นไปอีก” “ค่ะพี่มาร์ค คุณน้าทั้งสองอาจจะมองว่าแพงอวดดี แต่แพงไม่ได้มีเจตนานะคะ มันคือความตั้งใจของแพงว่าถ้าแพงจะสร้างครอบครัวจริง ๆ แพงก็อยากจะสร้างความทรงจำและสร้างอนาคตกับคนที่แพงรักด้วยตัวของพวกเราเองค่ะ” “เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่าไหมคะ เงินพ่อกับแม่ก็มีจะเสียเวลาทำไมคะ” เขาพยายามจะต่อรองกับเธอเพื่อให้เธอเปลี่ยนใจ แต่ในเมื่อสถานการณ์มันเป็นแบบนี้เธอก็ต้องการจะสารภาพความในใจให้หมดเลย “เอาสิลูก น้องแพงมาใก
“เปล่า.. ” “ตาแดงขนาดนั้นยังจะโกหกอีกนะคะ” หมับ เขากอดเธอไว้แน่นเพื่อไม่เธอหันมาเห็นน้ำตาที่ไหลออกมา ก่อนจะเอามือปาดน้ำตาตัวเอง “แพงอย่าพูดแบบนี้กับพี่ได้ไหม พี่ไม่ชอบเลย” “แพงพูดแบบไหนคะ” “ก็ที่บอกว่าจะไม่อยู่กับพี่แล้วไง พี่ขอโทษ ขอโทษกับทุก ๆ การกระทำของตัวเองเลย แพงอย่าโกรธพี่เลยนะ” “ก็ได้ค่ะ ไหนหันหน้ามาให้แพงดูหน่อย โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะคะครั้งนี้แพงจะไม่โกรธพี่ก็ได้ค่ะ พี่มาร์คก็ปล่อยแพงได้แล้วแพงอายคนอื่นเขา อีกอย่างคนที่พี่ควรจะขอโทษก็คือน้องไมค์ พี่พูดแบบนั้นออกมาได้ไงคะ น้องเขารักพี่ขนาดไหนพี่รู้ไหม พี่มาร์คไม่คิดว่าไมค์จะเสียใจบ้างเหรอคะอย่าลืมไปขอโทษน้องนะคะ” “ครับ” “อีกเรื่องนะคะ แพงเองก็ไม่ได้ชอบเพลงขวัญแต่ที่พี่ทำแบบนั้นกับผู้หญิงมันจะกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวพี่ไป คนที่โดนพี่ทำร้ายร่างกายสักวันมันอาจจะเป็นแพงก็ได้ฉะนั้นช่วยเลิกใจร้อนมือเร็วแบบนั้นด้วยนะคะ” “ครับ ปกติพี่ก็ไม่ได้ทำร้ายผู้หญิงหรอกนะ แต่เด็กนั้นมันน่าโดนนิ แม่พี่เดินมาแล้วเราหายงอนกันได้แล้วใช่ไหม” โอ้ยยย.. “มี้ครับผมเจ็บ ปล่อยมือก่อนครับ หูผมจะหลุดแล้วเนี้ย” “ยังจะกล้าบอกว่าเจ็บอีกเหร
คำพูดที่แสนจะธรรมดาของแม่มาร์คมันเหมือนเข็มที่ทิ่มแทงใจเธอจนเธอรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาและชาไปทั้งใจ เธอเองก็ไม่เคยนึกถึงอนาคตตัวเองเลยด้วยซ้ำตั้งแต่สูญเสียน้องชายเธอไป เป้าหมายในชีวิตที่เคยคิดไว้มันพังทลายไปแล้วจริง ๆ เธอจึงไม่มาสามารถตอบคำถามใด ๆ ได้เลย เขาหันหน้าไปมองเธอก็เห็นถึงแววตาที่ไร้จุดหมายและปนเศร้าอยู่หน่อย ๆ เขาเอื้อมมือไปจับมือเธอเพื่อให้กำลังใจ “ถ้าแพงยังไม่มีเป้าหมายในชีวิต พี่จะสร้างเป้าหมายในชีวิตให้แพงเอง แพงอย่าเศร้าไปเลยนะ” พรวด! แค่ก แค่ก “เอาตัวเองให้รอดก่อนไหมมาร์ค นายเองก็ยังไร้จุดหมายในชีวิตเหมือนกันเท่าที่ฉันเห็นแกหนักกว่าน้องแพงเยอะเลยนะ” “ผมก็ช่วยงานพี่อยู่นี้ไง” “มองดูก็รู้ว่าที่ทำอยู่เนี่ยทำเพราะไม่มีอะไรทำ หึ!” “พ่อว่าหนูแพงไปเรียนต่อโทที่ฝรั่งเศสไหมหรือเยอรมันก็ดีนะ เผื่อเจ้าไมค์จะไปเรียนต่อน้องจะได้มีเพื่อนด้วย เรื่องค่าใช้จ่ายหรือค่าเทอมพ่อดูแลเอง” “ผมไม่อนุญาตครับ” “ถามน้องแพงยัง แม่ว่าน้องอาจจะอยากไปเรียนต่อก็ได้” “งืออ” “แพงขอบคุณคุณน้าทั้งสองคนมาก ๆ นะคะที่เอ็นดูแพงแต่เรื่องนี้แพงขอยังไม่รับน้ำใจนะคะ แพงอยากลองพึ่งพาตัวเองก่