“ออยมีแฟนไหม หรือสามี หรือมีศัตรูอะไรที่ไหนรึเปล่า เช่นว่าไปแย่งแฟนใครเข้าจนแฟนเขาตามมาทำร้ายน่ะ”
“แฟนหรือสามีน่ะไม่มีหรอกค่ะ แต่ถ้าอาจจะไปแย่งของใครเขามา อันนี้ก็คงมีบ้าง ก็แหม...คุณโอมก็น่าจะเข้าใจพวกเรานะคะ พวกเราไม่ได้คิดอะไรจริงจังกับความสัมพันธ์แบบนั้นอยู่แล้ว ถูกใจใครก็จูงมือกันไปหาความสุขข้างนอก เอาเสร็จก็จบกัน เจอกันอีกครั้งก็เป็นเพื่อนเป็นคนรู้จักกันไป เว้นเสียแต่ว่าผู้ชายคนนั้นเซ็กซ์เจ๋งจริงก็อาจจะมีรอบสองรอบสาม หรือทุกครั้งที่เจอหน้า แต่เสร็จแล้วก็คือจบ ไม่ได้คบกันจริง ๆ จัง ๆ” น้ำเสียงของหญิงสาวฟังดูไม่ยี่หระกับเรื่องแบบนี้แม้แต่น้อย
“แล้วมีใครที่เคยตามมาหึงหวงจนทะเลาะตบตีกันบ้างไหม”
ชายหนุ่มถามโดยพยายามนึกถึงความเป็นไปได้ต่าง ๆ อันเป็นสาเหตุให้คนหนึ่งคนแค้นเคืองกันจนสามารถลุกขึ้นมาคร่าชีวิตของคนอื่นได้
“แทบไม่มีเลยค่ะคุณโอม อย่างที่บอกไปว่าพวกเราก็แค่สนุกกันบนเตียง แต่พอออกมาข้างนอกเราก็คุยกันเรื่องทั่วไป ถ้าคนไหนมากับแฟนเราก็ไม่ยุ่งด้วยอยู่แล้ว แต่ถ้าแฟนของพวกเขากลับไปก่อนก็ว่าไปอย่าง” หญิงสาวตอบเขาอย่างไม่แยแส ราวกับว่าเรื่องที่พวกเธอทำนั้นไม่ใช่เรื่องผิดอะไร
“แล้วมีคนคลั่งออยบ้างไหม เช่นว่าหลงหัวปักหัวปำน่ะ”
พชรหันมาจ้องหน้าแนนนี่ เห็นเธอทำท่าครุ่นคิดกับคำถามของเขาเมื่อครู่ ขณะที่แนนนี่นั้นเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อใบหน้าของผู้ชายคนหนึ่งลอยขึ้นมาในห้วงความคิด
“พอจะนึกออกแล้วค่ะ เมื่อก่อนผู้ชายคนนี้เขาเคยคบหากับยายออยแบบจริง ๆ จัง ๆ เลยนะ แต่ก็เลิกกันไปเป็นปีแล้ว ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนกันคุยกันปกติ” หญิงสาวทำท่ายักไหล่เพราะเห็นว่าไม่น่าจะใช่คนที่ชายหนุ่มสงสัย แต่พชรกลับไม่คิดอย่างนั้น เขาถามขึ้นทันทีด้วยความตื่นเต้น
“ใคร! แนนนี่”
พชรจ้องหน้าหญิงสาวเขม็ง ก่อนหันมองไปตามนิ้วเรียวยาวของเธอที่ชี้ลงไปยังบูธดีเจที่กำลังเปิดเพลงอยู่ด้านล่าง
“นั่นไงคะ เขาเป็นหนึ่งในทีมดีเจของคุณ ผู้ชายคนนั้นคืออาร์ม”
นายตำรวจหนุ่มนั่งอ่านรายงานจากตำรวจนอกเครื่องแบบที่เขาให้ไปหาข้อมูลเกี่ยวกับคดีของหญิงสาวที่ถูกฆ่าตายที่คลับของน้องชายว่าเกี่ยวข้องกับคดีที่เขากำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้หรือเปล่า เขารู้สึกว่าข้อมูลที่ได้รับมาจัดว่าน่าสนใจไม่น้อย เห็นทีเขาคงต้องไปเที่ยวที่คลับของน้องชายดูบ้างสักครั้ง
สารวัตรหนุ่มเอารายงานผลชันสูตรทางการแพทย์มาเทียบกับข้อมูลที่ได้รับจากลูกน้อง อ่านไปอ่านมาเริ่มรู้สึกว่าชักเข้าเค้าเข้าไปทุกทีว่าน่าจะเป็นคดีฆ่าตัดตอน ทว่าข้อมูลอีกหลายจุดที่ได้มาก็ขัดแย้งกันอยู่ว่าไม่ใช่เรื่องยาเสพติด ประเด็นการฆ่าเพราะเรื่องชู้สาวเขาก็ไม่อยากตัดไปเสียทีเดียวเพราะค่อนข้างเป็นไปได้ เนื่องจากผู้ตายเป็นสาวสวยทรงเสน่ห์ ทั้งยังร้อนแรง และมีผู้ชายมากหน้าหลายตาที่วนเวียนเข้ามามีสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วย ไม่เว้นแม้แต่เจ้าน้องชายตัวดีของเขา
มีร่องรอยการร่วมเพศก่อนตาย แต่ไม่ใช่การข่มขืน...
ข้อนี้ไม่แปลก เพราะพชรก็พูดออกมาเองว่าสนุกกับเจ้าหล่อนถึงสองชั่วโมงก่อนจะกลับบ้าน
ในเลือดมีสารเสพติดจำพวกเมตแอมเฟตามีนเป็นจำนวนมาก...
นี่ก็เป็นเรื่องที่เขาไม่แปลกใจเท่าไร ทุกวันนี้นักเที่ยวส่วนใหญ่มักนิยมเสพยาไอซ์กันจนกลายเป็นเรื่องโก้หรูไปแล้ว
แต่ที่น่าแปลกคือทำไมกระเป๋าถือของผู้ตายถึงไม่ได้อยู่ข้างตัว แต่กลับไปพบในกองขยะในสภาพกระจัดกระจายเหมือนถูกรื้อค้นจนทั่วราวกับต้องการหาอะไรบางอย่าง เพราะมีคราบเลือดติดเต็มกระเป๋าด้านใน แต่กลับไม่มีลายนิ้วมือของบุคคลที่น่าสงสัยเลยนอกจากผู้ตาย และเพื่อนในกลุ่ม
ที่น่าสนใจยิ่งกว่าก็คือในกระเป๋าผู้ตายมียาไอซ์อยู่ในซองซิปล็อกขนาดเล็กซุกซ่อนอยู่ในตลับแป้ง ถ้าผู้หญิงคนนี้ถูกฆ่าเพราะเรื่องยา หรือโดนตัดตอนจริง ๆ ยาก็น่าจะหายไปด้วย แต่นี่ยายังอยู่ครบ อีกทั้งตลับแป้งไม่โดนสัมผัสจากคนร้ายอีกด้วยเพราะไม่มีคราบเลือดติด
“หรือคนร้ายจะไม่รู้เรื่องยาไอซ์อะไรนี่เลย แล้วจะรื้อกระเป๋าหาอะไร” สารวัตรหนุ่มนั่งขบคิดจนหัวคิ้วแทบจะชนกัน เหลือบมองนาฬิกาเห็นว่าใกล้ได้เวลาผับเลิกแล้ว จึงเดินไปพยักหน้าให้ลูกน้องเป็นอันรู้กันว่าได้เวลาทำงานกันอีกครั้ง
ทันทีที่เห็นกลุ่มคนที่เดินเข้ามาในคลับแห่งนี้ ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งหน้าตาดีที่ยืนประจำอยู่ตรงบูธดีเจก็รู้โดยสัญชาตญาณทันทีว่าภัยกำลังจะมาถึงตัว ถึงแม้คนกลุ่มนั้นจะไม่ได้สวมเครื่องแบบของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่คนที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการมานานอย่างเขามองปราดเดียวก็รู้แล้ว
ชายหนุ่มล้วงหยิบอะไรบางอย่างใต้โต๊ะวางเครื่องเสียง เพียงแค่เขาดึงมันเล็กน้อย ถุงซิปล็อกทึบแสงก็หลุดติดมือมาทันที เขารีบรวบมันไว้ในอุ้งมือแล้วยัดใส่มือหญิงสาวที่ยืนเปิดเพลงอยู่ข้างกันโดยไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต ก่อนจะหันไปพูดโดยไม่มีเสียง
“ฝากด้วยนะมิว”
หญิงสาวพยักหน้าให้เขาเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรออกมาด้วยรู้ดีว่าต้องทำอย่างไร เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อาร์ม เพื่อนชายที่เธอแอบหลงรักจะขอร้องให้ช่วยเอายาไปซ่อน ซึ่งเธอก็ยินยอมทำให้แต่โดยดีไม่มีปริปาก รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่เคยคิดรัก แต่ไม่ว่าเขาจะใช้ให้ทำเรื่องเสี่ยงแค่ไหน เธอกลับยอมทำให้เขาได้ทุกอย่าง
มิวเดินกำถุงซิปล็อกขนาดเล็กไว้แน่น ตรงดิ่งไปยังห้องล็อกเกอร์สำหรับพนักงาน เหลียวมองซ้ายขวาอย่างระแวดระวัง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครจึงเอื้อมมือสอดเข้าไปตรงด้านหลังของตู้ล็อกเกอร์แล้วแปะถุงซิปล็อกไว้กับผนังด้านหลัง โชคดีที่กาวสองหน้ายังมีความเหนียวอยู่บ้าง มันจึงแปะติดเข้ากับพื้นผิวตรงนั้นได้อย่างง่ายดาย
หญิงสาวไม่รู้ตัวเลยว่าทุกการกระทำของตนนั้น ตกเป็นเป้าสายตาของใครบางคนที่แอบซุ่มดูอยู่เงียบ ๆ ตรงมุมมืดของห้องโดยใช้ตู้ล็อกเกอร์เป็นที่กำบัง ชายหนุ่มคนนั้นรอจนกระทั่งเห็นเธอเดินออกจากห้องเขาจึงเดินเข้าไปตรงบริเวณที่เธอเพิ่งทำลับ ๆ ล่อ ๆ เมื่อครู่ จากนั้นจึงสอดแขนของตนเองเข้าไปแล้วดึงกลับมาพร้อมกับอะไรบางอย่าง
เขายิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นสิ่งของในมือ เขารู้แล้วว่าดีเจหนุ่มคนนั้นซ่อนของอย่างไร แต่เอาเถอะ คราวนี้เขาจะปล่อยให้รอดตัวไปก่อน คราวหน้าเขารับรองได้เลยว่าไอ้หนุ่มหน้าอ่อนนั่นต้องไม่รอดเงื้อมมือเขาแน่!
มิวเดินกลับเข้ามายืนประจำที่ของตนเคียงข้างชายหนุ่มที่ฝากของให้เอาไปซ่อนเมื่อครู่ อาร์มหันมามองหน้าหญิงสาวแล้วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เห็นเธอยิ้มตอบกลับมา ใบหน้าหล่อใสนั้นจึงยิ้มกว้าง ก้มลงไปกระซิบข้างหูของหญิงสาวอย่างแผ่วเบาทำเอาหัวใจของสาวน้อยแทบละลาย
“ขอบใจนะมิว ถ้าไม่ได้มิว อาร์มก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร”
ชายหนุ่มทำทีเป็นมองสบกับนัยน์ตาคู่หวานที่เปิดเปลือยความรู้สึกของหญิงสาวอย่างสื่อความหมาย ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าคิดกับเขาอย่างไร แต่เพราะมิวไม่ใช่สเปกของเขา เขาจึงไม่สามารถตอบรับความรู้สึกของเธอได้ อย่างไรเขาก็ให้ได้แค่ความเป็นเพื่อนเท่านั้น
มิวนั้นถึงแม้จะทำงานกลางคืน ทว่าความอ่อนเดียงสา ความไร้จริตจะก้านที่เหล่าผีเสื้อราตรีควรจะมี เธอกลับไม่มีเลยแม้แต่อย่างเดียว ใบหน้าก็สวยใสน่ารักดี แต่เธอไม่เหมาะสมกับคนอย่างเขา เขาไม่ปรารถนาจะให้ผู้หญิงดี ๆ อย่างเธอต้องมาเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางไปกับเขาด้วย แค่ที่เขาหลอกใช้เธอทุกวันนี้ก็มากเกินพอแล้ว แต่ถ้าจะให้เขาหลอกว่ารัก หลอกคบหาเพื่อหวังเซ็กซ์จากเธอเล่น ๆ นั้น เขาทำไม่ลง
“ตอนนี้ที่คลับลูกค้าเยอะมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะระบบรักษาความปลอดภัย และการคัดกรองพนักงานที่เข้มงวดมากขึ้น ผู้จัดการคลับก็มีสองคน คนหนึ่งดูแล และแก้ปัญหาเกี่ยวกับลูกค้า อีกคนหนึ่งดูแลพนักงานทั้งหมด ฝ่ายบัญชี และจัดซื้อก็ยังใช้พนักงานชุดเก่า มีวงดนตรีที่มาเล่นประจำให้ที่คลับสามวงต่อสัปดาห์ ซึ่งวงบัตเตอร์ฟลายจะเล่นศุกร์เสาร์อาทิตย์เหมือนเดิม แต่เล่นแค่รอบเดียวคือรอบปิดท้าย ส่วนอีกรอบเราจะใช้นักดนตรีจากอีกวงหนึ่งมาเล่นให้ เท่ากับว่าในวันศุกร์เสาร์อาทิตย์จะมีวงดนตรีมาเล่นให้วันละสองวง”“ผมคิดว่าเราน่าจะเพิ่มบาร์ค็อกเทลนะพี่ จัดสักมุมหนึ่งของฮอลล์ มีบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อสาวสวยเป็นคนผสมเครื่องดื่มให้ตามแต่ที่ลูกค้าต้องการเหมือนตามโรงแรมน่ะ”รชตเสนอความเห็นให้พี่ชาย เขาเคยไปที่คลับหลายครั้งแล้ว และเขาคิดว่าที่คลับควรจะต้องมีบาร์ค็อกเทลเหมือนเมืองนอก หรือตามโรงแรมใหญ่ ๆ เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับลูกค้า“อืม...ก็น่าสนใจนะ พี่ก็เคยคุยเรื่องการขยายพื้นที่ของซุสกับภีมมันเหมือนกัน เพราะได้ข่าวมาว่าผับที่อยู่ถัดไปจากซุสกำชังจะหมดสัญญาเช่าที่ พี่กับเจ้าภีมเลยคิดว่าจะไปเทก
สองปีต่อมาพชรนั่งคิ้วขมวดเป็นปมอยู่หน้าคอมพิวเตอร์พร้อมกับนิ้วมือที่กำลังคีย์ข้อความลงไปอย่างรัวเร็ว สลับกับการรื้อกองเอกสารที่ไร้ระเบียบตรงหน้าอย่างวุ่นวาย เขาจำไม่ได้แล้วว่านั่งอยู่ตรงนี้นานเท่าไรแล้ว รู้แต่ว่าเขาต้องจัดการเอกสารกองนี้ให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วสรุปทุกอย่างใส่ลงในเอ็กเซล เพื่อที่จะได้เอากลับไปทำต่อที่บ้านเขาไม่อยากแบกเอกสารหนาหนักพวกนี้กลับไปด้วย เพราะนอกจากเสี่ยงที่จะสูญหายแล้ว ช่อมาลีก็อาจทนไม่ได้จนต้องลงมือเข้ามาช่วยเขาจัดการกับพวกมันทั้งหมด ซึ่งเขาไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น เธอเพิ่งคลอดบุตรชายคนแรกให้เขาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาอยากให้หญิงสาวพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูร่างกาย มากกว่าที่จะต้องมาทำงานให้เขาทั้งคู่เข้าพิธีแต่งงานด้วยกันเมื่อปีที่แล้ว และเลิกคุมกำเนิดด้วยการกินยาแต่หันมาใช้วิธีคุมกำเนิดแบบธรรมชาติแทน ตอนที่คุยกัน ช่อมาลียังไม่พร้อมจะตั้งครรภ์ เพราะอยากใช้ชีวิตอยู่กันสองคนแบบนี้ไปก่อน ซึ่งเขาเองก็เห็นด้วย ทั้งที่ตอนแรกเขาอยากมีลูกเร็ว ๆ ให้พ่อกับแม่ได้อุ้มหลานทว่าไม่นานนักความต้องการของเขาก็สัมฤทธิ์
“ต้องยังงี้สิ ไปกันเถอะ” พชรโอบไหล่พาช่อมาลีเข้าไปในงาน ซึ่งการจัดงานนั้นเป็นแบบเปิดโล่งริมชายหาด รถสปอร์ต และยนตรกรรมสุดหรูจอดเรียงรายกันบนหาดทราย โดยมีพริตตี้สาวสวยในชุดบิกินีคาดช่วงล่างด้วยผ้าบาติกมัดย้อมคลุมจนถึงเข่าโดยมัดปมไว้ที่สะโพกอีกข้างหนึ่งเพื่ออวดเรียวขาวับแวมยืนให้คำอธิบายเกี่ยวกับสมรรถนะต่าง ๆ อยู่ข้างรถตลอดทั้งวันจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติแห่กันเข้ามาดูรถหรูไม่ขาดสาย บ้างก็มาเพื่อถ่ายรูปสาวสวยที่ยืนข้างตัวรถ บ้างก็มาเพื่อขอทดลองนั่งด้านใน และก็เป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งจบงานในวันสุดท้าย หรือวันที่สามของการจัดงาน ซึ่งสิ่งที่ทำให้ท่านประธานยิ้มไม่หุบเลยนั่นก็คือยอดจองรถที่ทะลุเป้าหมายจากที่วางเอาไว้ถึงสองร้อยเปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการตอบรับจากลูกค้าที่ดีมาก“ผมขอดื่มให้กับทุกคนสำหรับงานมินิมอเตอร์โชว์ในครั้งนี้ และขอขอบคุณพวกคุณทุก ๆ คนที่ทำให้งานในครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี แทบจะเรียกว่าดีมากจนเกินเป้าหมายที่ผมวางไว้ด้วยซ้ำ ขอบคุณมากครับ”พชรลุกขึ้นยืนตอนที่พูด คนอื่น ๆ จึงลุกขึ้นตามไปด้วยพร้อมกับยกแก้
“เฮ้ย! อะไรเนี่ย แปลว่าที่พูดไปเมื่อกี้นี่ฟังไม่รู้เรื่องใช่ไหมคุณ”ช่อมาลีวางช้อนและส้อมลงทันที สองตาตวัดมองไปยังคนหน้าไม่อายตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง แต่คนถูกมองหาได้เกรงกลัวไม่ เขากลับหัวเราะคิกคักพลางจ้องคนสวยหน้าบึ้งด้วยแววตาเป็นประกายราวกับถูกอกถูกใจนักหนา“โอเค...ไม่ลุกใช่ไหม...ได้”ช่อมาลีคลี่ยิ้มเยือกเย็นส่งให้พร้อมกับทำท่าจะคว้าเอาแก้วน้ำส้มที่วางอยู่ตรงหน้า แต่ทว่าไม่ไวพอเท่าชายหนุ่มที่เอื้อมมาคว้าไปได้ก่อนพร้อมกับดื่มน้ำส้มแก้วนั้นเสียเองจนหมดแก้วไปต่อหน้าต่อตาช่อมาลีลุกพรวดขึ้นทันที ตั้งใจไว้ว่าจะไปแจ้งเจ้าหน้าที่ของทางโรงแรมให้มาลากเขาออกไป พอดีกับที่พชรรีบเดินเร็ว ๆ กลับมาที่โต๊ะด้วยท่าทางเอาเรื่องเพราะเห็นแฟนสาวกำลังถูกคุกคาม“มีอะไรรึเปล่าม็อท” พชรถามหญิงสาวแต่สายตาจ้องเขม็งไปยังแผ่นหลังของชายหนุ่มที่มาก้อร่อก้อติกแฟนสาว จนเมื่อเดินมาถึงโต๊ะ และได้มองหน้าของผู้ชายคนนั้นชัด ๆ จากสายตากรุ่นโกรธก็เปลี่ยนเป็นเบิกกว้างขึ้นทันที“อ้าวเฮ้ย! เจ้าอาร์ต นี่แกกลับมาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย”พชรพูดเสียงไม่เบานักเพราะความประหลาดใจที่เห็นน
ช่อมาลีค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาทีละนิด แล้วก็ปิดตาลงไปเมื่อภาพตรงหน้าปรากฏเป็นแผงอกหนั่นแน่นของใครบางคน เธอตั้งสติแล้วลืมตาขึ้นมามองใหม่อย่างไม่ค่อยแน่ใจในสายตาของตนเองเท่าไรนัก ตาคู่สวยเบิกกว้าง ใบหน้าเริ่มเห่อร้อนขึ้นมาเป็นริ้ว ๆ เมื่อความทรงจำแสนวาบหวามเมื่อคืนย้อนกลับเข้ามาสู่ความทรงจำอีกครั้งช่อมาลีค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองคนตัวโตที่กำลังหลับตาพริ้มอย่างสบายใจ วางท่อนแขนหนัก ๆ พาดไว้ที่เอวของเธอพร้อมกับเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ หญิงสาวผงกศีรษะขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อมองใบหน้าของเขาให้เต็มสองตา เพราะในเวลาปกติ เธอไม่อาจมองเขานาน ๆ ได้ตั้งแต่รู้ตัวว่าคิดกับเขาไม่เหมือนเดิมใบหน้ายามหลับของพชรแลดูอ่อนโยนไม่มีพิษมีภัย เครื่องหน้าลงตัว อย่างผู้ชายที่จัดว่าหน้าตาดี เขาไม่ใช่คนหล่อชนิดที่ว่าเห็นครั้งแรกแล้วต้องตะลึงมองเหมือนคริส เพื่อนในวงดนตรี แต่เขาก็จัดว่าเป็นผู้ชายที่ดูดีมีเสน่ห์อย่างหาตัวจับได้ยาก โดยเฉพาะนัยน์ตาเจ้าเล่ห์คู่นี้ที่ตวัดมองมาแต่ละครั้งก็สามารถทำให้ใจแทบละลายได้ แล้วไหนจะรอยยิ้มมุมปากแสนกระชากใจนั่นอีกเล่าที่สะกดสาว ๆ มานักต่อนักแล้ว ไม่เว้นแม้กระท
ชายหนุ่มรัดร่างหญิงสาวไว้จากด้านหลัง แล้วดันให้เธอเดินหน้าไปยังเตียงนอนหลังใหญ่ที่อยู่กลางห้อง แต่เจ้าหล่อนกลับพยศรั้งตัวเองไว้ไม่ยอมเดินไปตามเขา พชรจึงตัดสินใจช้อนตัวขึ้นอุ้มเสียเลย“คุณโอมขา ม็อทขอโทษที่โกหก ก็ม็อทอยากว่ายน้ำนี่นา”หญิงสาวกระถดตัวหนีเมื่อพชรวางเธอลงบนเตียง จนเสื้อคลุมหลุดลุ่ยอวดผิวขาวนวลเนียนตัดกับสีแดงของบิกินี่ตัวจิ๋ว“อยากว่ายก็ว่ายไปสิครับ ผมไม่ได้หวงสักหน่อยนี่นา สระว่ายน้ำที่นี่จะคุณหรือผมใช้ได้ก็เหมือนกันนั่นแหละ” ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อมองเห็นหยดน้ำจากเส้นผมที่เปียกลู่ของเธอกำลังไหลผ่านซอกแคบระหว่างภูเขาย่อม ๆ สองลูกให้ตายเถอะ! เขาอยากใช้ปากและลิ้นเช็ดตัวเธอให้แห้งจริง ๆ“ถ้าม็อทว่ายตอนคุณโอมอยู่ อย่างกับว่าม็อทจะได้ว่ายสบาย ๆ งั้นแหละ ก็คุณน่ะชอบมาหาเศษหาเลยกับม็อทเรื่อยเลย”ช่อมาลีบ่นงอดแงดพลางเอาหมอนมากอดไว้เพื่อบังร่างเกือบเปลือยของตนเองเมื่อเห็นสายตาราวกับจะกลืนกินของเขาพชรหลุดขำหัวเราะร่า ก่อนจะอาศัยจังหวะที่เธอเผลอกระโดดเข้าตะครุบตัวหญิงสาวแล้วกอดเอาไว้แน่น ช่อมาลีดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอ