"หลินเฟย นี่คือเงินทั้งหมดที่เรามีแล้ว ห้าแสนกว่าๆ เท่านั้น""ขอร้องล่ะหลินเฟย ปล่อยพวกเราไปเถอะนะ!"ฟึ่บ เซี่ยหยวนเฮ่าและเซี่ยเฉวียน ต่อให้จะไม่เต็มใจแค่ไหน แต่พวกเขาก็ต้องคุกเข่าลงอย่างเสียไม่ได้ และแม้ว่าความอับอายในหัวใจของพวกเขาเกือบจะทำให้พวกเขาเสียสติไปแล้วก็ตามความโกรธในใจของหลินเฟยได้หายไปไม่น้อยแล้ว เขาพึมพำอย่างเย็นชาออกมา ดึงบัตรธนาคารและโยนทิ้งไปในอ่างเก็บน้ำทันที"ฉันไม่อยากได้เงินสกปรกๆ ของพวกคุณหรอก ต่อไปอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก!""ถ้าต่อไปยังมารบกวนฉันอีก ครั้งหน้าฉันจะไม่ใจอ่อนอย่างแน่นอน!""รีบไสหัวออกไปซะ!"หลังจากที่หลินเฟยพูดจบ หลายคนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก จากนั้นก็เตรียมตัวออกไปอย่างสิ้นหวังไม่มีทางเลือกอื่นอีกต่อไป เพราะขืนอยู่ต่อที่นี่ มันก็มีแต่จะอับอายกว่าเดิมเท่านั้นแต่ทว่า ในเวลานี้เสียงของจ้าวอู๋จี๋ก็ได้ดังมาทางด้านหลังของคนกลุ่มนั้น"เซี่ยเฉวียน นับแต่นี้เป็นต้นไป นายไม่ใช่ลูกศิษย์ของฉันอีกต่อไป ต่อไปพวกเราอย่าได้เจอะเจอกันอีกเลย!"หลังจากได้ยินคำพูดของจ้าวอู๋จี๋ เซี่ยเฉวียนก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว และกำหมัดเอาไว้แน่นอย่างไม่เต็มใจแต่ทว
"หึ นายคนนี้จะต้องไม่มีเจตนาดีอย่างแน่นอน!"จ้าวลู่ลู่กอดแขนของหลินเฟยเอาไว้ด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อด้วยความเขินอายเมื่อมาถึงคลินิก"หลินเฟย...คุณกลับมาแล้ว มันช่างดีจริงๆ!"ซูเสี่ยวโหรวที่กำลังทำอาหารอยู่ เมื่อมองเห็นหลินเฟย เธอก็ดีใจเป็นอย่างมาก!แต่เธอก็แสดงออกไม่เก่งมากนัก จนเวลาผ่านไปนาน เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเมื่อหลินเฟยเห็นดังนั้น สีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และรีบเดินเข้าไปหาเธอทันที"พี่เสี่ยวโหรว ผมกลับมาแล้ว คุณอย่าได้เป็นกังวลใจไปเลยนะ"ซูเสี่ยวโหรวใช้เวลาพักใหญ่ในการสงบสติอารมณ์ความตื่นเต้น และพูดด้วยรอยยิ้มออกมา"กลับมาก็ดีแล้ว คุณรีบพักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวอาหารก็เสร็จแล้วล่ะ""เดี๋ยวเรามากินข้าวด้วยกันนะ"หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเมื่อมองไปยังโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหาร หลินเฟยก็มีความเจริญอาหารเป็นอย่างมาก และมีอารมณ์ความรู้สึกอย่างท่วมท้นยังไงที่บ้านก็ดีที่สุดหากตัวเองตายไปจริงๆ ไม่รู้ว่าคนที่ห่วงใยเขาเหล่านี้จะเสียใจสักแค่ไหนหลังจากมื้ออาหารเดิมทีทุกคนได้เตรียมตัวที่จะไปพักผ่อนแล้ว แต่จ้าวลู่ลู่กลับหน้าแดงก่ำและดึงหลินเฟยเข้าไปในรถทันที"เด็กสาวค
รอจนกระทั่งฟ้าใกล้สว่างรถยนต์ถึงได้เงียบสนิท โดยจ้าวลู่ลู่ที่อยู่ในรถเต็มไปด้วยความอ่อนล้า แต่ก็ได้รับความพอใจอย่างเต็มที่จนผล็อยหลับไปในที่สุดในที่สุดหลินเฟยก็หลับตาลง และนอนหลับฝันดีไปพักใหญ่จนกระทั่งถึงเที่ยงวัน"หลินเฟย ลู่ลู่ พวกเธอสองคนมากินข้าวได้แล้วนะ!"ซูเสี่ยวโหรวทำอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเข้ามาเรียกหลินเฟยอย่างอ่อนโยนจากนั้นหลินเฟยและจ้าวลู่ลู่ก็หาวพร้อมกับเดินไปยังคลินิกหลินเฟยในตอนนี้รู้สึกลำบากใจขึ้นมาเล็กน้อยแม้ว่าคืนที่ผ่านมา เขาจะได้รับชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่เมื่อถูไถไปกับจ้าวลู่ลู่ แต่การที่ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ก็ทำให้จ้าวลู่ลู่รู้สึกเหนื่อยล้าเป็นอย่างมากในเวลานี้แต่ทว่าเมื่อหลินเฟยได้เห็นรอยคล้ำใต้ตาของถังรั่วเสวี่ยและพานเสี่ยวเหลียนแล้วนั้น เขาก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก"อาเล็ก พี่สะใภ้ ตาของพวกคุณเป็นอะไรไปน่ะ?"เมื่อคืนเขาไม่ได้ไปรบกวนผู้หญิงทั้งสองคนนี้สักหน่อย แต่ทำไมเธอถึงไม่ได้พักผ่อนดีๆ แบบนี้ด้วยล่ะ?เมื่อหลินเฟยครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ในใจ ผู้หญิงทั้งสองคนก็อดไม่ได้ที่จะมองมาที่หลินเฟยและกลอกตาให้เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมา เสียงคร่ำครวญของจ้
"มีเหรอ พี่เสี่ยวโหรว พี่อ่อนไหวเกินไปแล้วมั้ง"เมื่อเห็นซูเสี่ยวโหรวขมวดคิ้ว หลินเฟยก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาทันทีเขารีบเปิดกระจกรถแล้วเหยียบคันเร่งเพื่อให้ลมพัดเข้ามามันคงจะแย่ถ้าซูเสี่ยวโหรวเห็นอะไรบางอย่าง! "พี่เสี่ยวโหรว พวกเรารีบไปกันเถอะ""นอกจากจะซื้อเมล็ดพันธุ์แล้ว เรายังซื้อผักได้ด้วย ไม่งั้นมันจะไม่สด! "หลินเฟยหาเหตุผล"อืม อาหารที่บ้านก็เหลือน้อยแล้ว"ซูเสี่ยวโหรวก็ไม่ได้คิดอะไรมาก พร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อยหลินเฟยจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มาถึงตลาดในเมือง"หลินเฟย เธอไปซื้อเครื่องมือการเกษตรเถอะ เตรียมไว้สำหรับการปลูกผัก""ซื้อผัก เมล็ดพันธุ์อะไรนั่น เดี๋ยวฉันไปเอง แบบนี้จะได้ไม่เสียเวลา"ซูเสี่ยวโหรวเสนอขึ้นมาก่อนลงจากรถ"ก็ได้ งั้นพี่เสี่ยวโหรวผมก็ไปก่อนนะ"หลังจากได้ยินคําพูดนี้หลินเฟยก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เขาพยักหน้าและเห็นด้วยหลังจากลงจากรถแล้วเดินไปอีกฝั่งหนึ่งของตลาดอย่างไรก็ตามหลินเฟยและซูเสี่ยวโหรวไม่ได้ทันสังเกตว่าเมื่อพวกเขาเพิ่งลงจากรถก็มีพวกอันธพาลสองสามคนจ้องมองซูเสี่ยวโหรว แววตาของพวกมันเต็มไปด้วยความหื่นกรามยังไ
“วันนี้ไม่ว่าพ่อนายจะเป็นใคร ฉันก็จะสั่งสอนนายแทนพ่อนายเอง!”หลังจากที่คำพูดของหลินเฟยจบลง เขาก็พุ่งตรงไปที่พวกนักเลงนั่นอีกครั้งตอนนี้ในใจของหลินเฟยเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขาจึงไม่ออมมือแต่อย่างใดในเวลาไม่ถึงห้านาทีพวกนักเลงก็ร้องโอดครวญไม่หยุด เลือดและน้ำตานองอยู่เต็มหน้าไปหมด“ลูกพี่ถูกชก!”เมื่อพวกนักเลงสองสามคนที่อยู่ข้างๆ เห็นแบบนั้นแล้วต่างก็ตะลึงงัน นึกไม่ถึงว่าลูกพี่ของตัวเองจะมีจุดจบแบบนี้ได้ยังไงตอนนี้พวกนักเลงก็ไม่มีอารมณ์จะมาสนใจชายตรงหน้าว่าทำไมถึงได้กล้าดีขนาดนี้ แต่กลับรีบเอาโทรศัพท์ออกมาโทรแทนไม่อย่างนั้น ถ้าหากจางเฮ่าเกิดโดนชกจนเป็นอะไรไปขึ้นมา พวกเขาก็คงจะไม่ได้มีจุดจบดีเช่นกัน!ในขณะที่หลินเฟยชกอย่างเมามันอยู่นั้น ผู้คนก็กำลังมุงดูอยู่รอบๆ อย่างเมามันไม่แพ้กัน แต่เมื่อเห็นพวกนักเลงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร พวกเขาก็ตกใจทันที จึงรีบเข้าไปห้ามหลินเฟยเอาไว้ “พ่อหนุ่ม เลิกชกได้แล้ว ตอนนี้ก็ได้ระบายอารมณ์แล้ว ยังไงก็รีบไปเถอะ!”“ใช่ๆ!คนคนนี้นายต่อกรไม่ไหวหรอก พ่อเขาเป็นถึงนายกเทศมนตรีเชียวนะ! ”หลังจากที่ได้ยินคำพูดของคนรอบข้าง ในใจของซูเสี่ยวโหรวก็ยิ่งเป็นกั
“นายบ้านี่พูดว่าอะไรนะ?!”เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฟย จางเฮ่าก็ยิ่งโกรธจนตัวสั่น!จางเฮ่าที่ถูกเลี้ยงแบบตามใจแต่เด็ก ไม่เคยหัวร้อนขนาดนี้มาก่อน!“นายคู่ควรที่จะใช้นามสกุลฉันงั้นเหรอ?ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน!”หลินเฟยมองไปยังจางเฮ่าที่ไม่มีทีท่าจะยอมอ่อนข้อให้ จึงพุ่งเข้าไปชกจางเฮ่าอีกครั้งโดยทันทีชกจนจางเฮ่าไม่มีเรี่ยวแรงจะสู้กลับ!ทันใดนั้นเองมีเสียงเกรี้ยวกราดดังมาจากที่ไม่ไกลนัก“หยุดนะ!กล้าดีมาจากไหน!”“กล้าทำร้ายคนกลางถนนได้ยังไง ยังมีกฎหมายอยู่หรือเปล่า?”“ดูเหมือนว่านายจะไม่รู้ว่าคำว่าตายสะกดยังไง!”หลังจากที่ได้ยินเสียงนั้น หลินเฟยก็หันกลับมาเห็นเพียงแต่ชายวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้า มองไปยังหลินเฟยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นด้านหลังของเขามีรถหลายคันที่นำชายฉกรรจ์ราวๆ สิบกว่าคนลงรถมา ต่างมองไปที่หลินเฟยแล้วกำหมัดแน่น“จาง……จางกุ้ยเฉวียนมาแล้ว!”เมื่อเห็นแบบนี้ คุณลุงคุณป้าที่ขายผักอยู่รอบๆ ก็รู้สึกกลัวขึ้นมา แล้วรีบถอยออกในทันที พวกเขารู้ในทันทีว่าชายคนที่นำพรรคพวกมานั้นก็คือ จางกุ้ยเฉวียน นายกเทศมนตรีของเมืองนี้นี่ไม่ใช่คนธรรมดาที่พวกเขาจะสามารถต่อกรได้ถ้
จางกุ้ยเฉวียนจ้องมองไปยังหลินเฟย สีหน้าและแววตานั้นเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม“นายกล้าดียังไงมากล่าวหาฉัน? นายห่วงตัวเองก่อนเถอะ...”จางกุ้ยเฉวียนไม่ทันได้พูดจบ เขาก็อ้าปากกว้างด้วยความตกใจขณะนี้ หลินเฟยก็พุ่งเข้ามาในกลุ่มถึงแม้ว่าในมือของพวกอันธพาลจะกำท่อเหล็กอยู่ แต่ว่าต่อหน้าหลินเฟยพวกเขาก็ไม่กล้าปะทะแต่อย่างใดตอนนี้หลินเฟยได้พุ่งเข้ามาอยู่ในกลุ่มราวกับว่าหมาป่าเข้ามาอยู่ในฝูงแกะ และเขาก็ได้ต่อยพวกนั้นให้ล้มลงอย่างรวดเร็วผู้คนโดยรอบเหมือนเห็นเหตุการณ์นี้ต่างพากันปรบมือกันเกลียว แต่ทว่าหลินเฟยกลับเดินไปที่จางกุ้ยเฉวียนด้วยสีหน้าเยาะเย้ยในตอนนี้จางกุ้ยเฉวียนก็ไม่ได้มีท่าทีอวดดีเหมือนกับเมื่อก่อน แววตาของเขากลับมีแต่ความกลัว บนหน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น“นาย....”“นายจะทำอะไร?”พอได้ยินเช่นนั้นหลินเฟยก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น“ฉันต้องทำอะไรล่ะ?”“แน่นอนว่าก็ต้องสั่งสอนนายอีกสักหน่อยยังไงล่ะ!”เมื่อเห็นหมัดของหลินเฟยต่อยเขาจนร่วง จางกุ้ยเฉวียนแทบจะไม่สนใจศักดิ์ศรี ตัวของเขากลิ้งลงไปเหมือนกับลูกบอล ไม่สามารถหลบหนีไปได้เลยหมัดนี้แทบจะทำให้อุจจาร
ตอนนี้หลินเฟยต้องการออกไปจากจางกุ้ยเฉวียน ผู้คนเหล่านี้ก็ไม่กล้าที่จะขัดขวางเขาแม้ว่าจะแฝงไปด้วยความน่ากลัวก็ตามไม่นานหลินเฟยก็ได้ขับรถพาซูเสี่ยวโหรวกลับหมู่บ้านเถาฮวาโดยเร็วในระหว่างทางกลับหมู่บ้าน ซูเสี่ยวโหรวถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอตบไปที่หน้าอกของตัวเองและพูดกับหลินเฟยว่า“หลินเฟย ก่อนหน้านี้ฉันตกใจจริงๆนะ”“ขอบคุณนายมากนะ พวกเราถึงได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย!”“แต่ว่าหลังจากนี้นายก็ต้องระวังตัวด้วยนะ อย่าใจร้อนแบบนี้เป็นอันขาด”“นายก็ต้องรู้ว่าคนที่นายมีเรื่องด้วยคือนายกเทศมนตรี พวกเราจะทำอย่างไรถ้าเกิดพวกเขาเข้ามาหาเรื่องอีก? ”ซูเสี่ยวโหรวพูดถึงตรงนี้จิตใจของเธอก็รู้สึกหวาดกลัว เธอโน้มตัวไปข้างหน้าและมองไปที่หลินเฟยดูสายตากังวลเมื่อซูเสี่ยวโหรวตบไปที่หน้าอกของเธอ ลูกพีชอันอวบอ้วนทั้งสองลูกที่สั่นเทาตามแรงมือของเธอได้ดึงดูดความสนใจของหลินเฟยหลินเฟยทั้งขับรถทั้งแอบมองไปที่ลูกพีชสองลูกนั้น ยุ่งจนพันกันอย่างยุ่งเหยิงในตอนนี้ซูเสี่ยวโหรวขยับตัวโน้มเอนไปข้างหน้า ทำให้เข็มขัดนิรภัยคาดลูกพีชสองลูกนั้นอย่างแน่นขนัดช่วงเวลานี้ทำให้ดึงดูดความสนใจของหลินเฟยได้อย่างสิ้นเชิ