ครืดดด ครืดดด เสียงโทรศัพท์ฉันดังขึ้นอีกรอบ แต่รอบนี้ไม่ใช่แตงโม เบอร์ที่โชว์ขึ้นมาเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก
" สวัสดีค่ะ " ฉันรับสายเบอร์แปลกคนนั้น " สวัสดีครับ " เสียงจากปลายสายพูดขึ้นมา " คุณเป็นใครคะ " ฉันถามไปอย่างสงสัย เพราะปกติไม่เรยมีเบอร์ที่ฉันไม่ได้รู้จักโทรหา เพราะฉันไม่เคยให้เบอร์ใครมั่วๆ มีแค่เพื่อนสนิท และครอบครัวฉันเท่านั้น " พึ่งเจอกันไม่กี่วัน จำกันไม่ได้แล้วเหรอครับ " เสียงปลายสายพูดจายียวนกวนประสาท ซึ่งรู้ได้จากน้ำเสียงที่พูดมา " แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไงคะ แต่ละวันฉันเจอคนเยอะแยะ " ฉันพูดไปอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ " แล้วเธอเป็นข่าวกับใครล่ะ " พอฉันได้ยินคำนี้ภาพในหัวฉันตั้งแต่วันงานคอน และที่โรงอาหารเมื่อ 3-4 วันก่อนผุดขึ้นมาในหัวเป็นเรื่องเป็นราว " คะ คุณ !! " " ใช่ ฉันเอง " " แล้วคุณมีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่าคะ แล้วรู้จักเบอร์ฉันได้ยังไง แล้วทำไมตอนสัมภาษณ์คุณไม่ปฏิเสธไปเลยว่าไม่เคยรู้จักมาก่อน แล้วทำไมต้องไปพูดแบบนั้นด้วยคะ คุณไม่น่าพูดเลยว่าเคยเจอฉันมาก่อน ถ้าตอบไปว่าฉันเป็นแฟนคลับคนหนึ่งก็พอแล้วค่ะ เรื่องจะได้ไม่บานปลายไปมากกว่านี้ ตอนนี้ในโชเชียลพูดถึงเรากันมากกว่าเดิมเลยนะคะ !! " ฉันรัวไปเป็นชุด เพราะมันอัดอั้นใจมาก คุณโทรมาแบบนี้ก็ดีจะได้เคลียร์ๆ กันไปให้จบๆ จะได้ไม่ต้องมายุ่งอะไรกันอีก ชีวิตฉันช่วงนี้ลำบากมาก จะออกไปไหนก็ไม่ได้ มีแต่สายตาที่จ้องมองมา แถมยังซุบซิบต่อหน้าฉันก็มี ซึ่งฉันไม่ชิน บอกตรง!! " ใจเย็นๆ ครับ ผมจะตอบข้อไหนก่อนดีล่ะครับ " คนปลายสายยังพูดจายียวนกวนประสาทอย่างใจเย็นเหมือนไม่ทุกข์ร้อนอะไรทั้งสิ้น " ตอบมาทุกข้อนั่นแหล่ะค่ะ " ฉันตอบกลับไปเสียงเข้ม ด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ให้ปลายสายรู้ไปเลยว่าฉันไม่พอในเอามากๆ ที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น " ข้อแรกผมมีธุระกับคุณครับ ส่วนที่ถามว่าผมเอาเบอร์คุณมาจากไหนเรื่องนี้มันไม่ได้ยากสำหรับผมครับ " คนปลายสายตอบกับมาน้ำเสียงไม่รู้ร้อนรู้หนาว " แล้วไงคะ " " ส่วนเรื่องสัมภาษณ์ผมก็แค่พูดความจริงเท่านั้นเองครับ ผมไม่ชอบโกหก " เรื่องนี้ที่เขาตอบมามันก็จริงของเขา ถ้าวันหนึ่งมีคนแอบถ่ายรูปเราที่เจอกันดาดฟ้าเข้ายิ่งจะไปกันใหญ่ " โอเคค่ะ มีแค่นี้ใช่ไหมคะ งั้นฉันวางก่อนนะคะ " ฉันพูดพร้อมกับกำลังจะวางมือถือลง " เดี๋ยวก่อนครับ ผมอยากนัดเจอคุณ " ฉันตกใจมาก นัดเจอฉันงั้นเหรอ " นัดเจอฉัน นัดทำไมคะ " ฉันถามกลับไปอย่างสงสัย ฉันกลัวเป็นข่าวอีก " ฉันไม่ไปค่ะ ฉันกลัวเป็นข่าวอีก " ฉันบอกไปตรงๆ ไม่อ้อมค้อม " นัดเจอที่มหาวิทยาลัยก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปหา " " ฮ่ะ ! มะ ไม่นะ !! " ฉันยังพูดไม่จบก็... ตื้ดด ตื้ดดด พอคนปลายสายพูดจบคนที่โทรมาก็ตัดสายไปอย่างดื้อๆ " อะไรกันเนี่ยยย ชีวิตฉันนน ฮือออ " ฉันร้องออกมาพร้อมกับเอามือยีผมตัวเองแรงๆ ตอนนี้ฉันจะเป็นบ้าอยู่แล้ว เกิดอะไรขึ้นกับฉัน !! มหาวิทยาลัย กว่าฉันจะผ่านสายตาคนที่จ้องมองฉันมาได้ ฉันแทบจะกัดลิ้นตัวเองให้ตายๆ ไปเลย ห้องเรียน " ส้มส้ม " แตงโมเรียกฉันที่กำลังเดินมา แตงโมมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า วันนี้ฉันแต่งตัวนักศึกษาตามปกติ แต่ฉันใส่หมวกสีดำ แว่นตาดำ พร้อมกับใส่แมสปิดหน้าปิดตาไว้ แต่คนที่ขึ้นชื่อว่าเพื่อนฉันกลับจำฉันได้ คนอื่นที่ไม่รู้จักฉันคงจำฉันไม่ได้หรอกมั้ง " เพื่อนฉันเป็นถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย " แตงโมพูดขึ้นพร้อมกับยังไม่ละสายตาจากการมองการแต่งตัวของฉันวันนี้ พอเรียนเสร็จคาบเช้า ฉันหลีกเลี่ยงไปที่คนเยอะๆ เช่นโรงอาหารที่ฉันเคยไปกินทุกๆ วัน สวนสาธารณะที่ฉันเคยไปนั่งเล่น ตอนนี้กลับต่างกันฉันได้นั่งกินขนมปัง น้ำ ลูกชิ้น ที่ขายใต้ตึกคณะของฉันก็เท่านั้น ใช่ค่ะ ตอนนี้ฉันนั่งกินอยู่ใต้ตึกคณะ เฮ้ออออ กรี๊ดดดดด พี่ม่อนมาแก พี่ม่อนมา เสียงกรี๊ดร้องของคนที่อยู่ใต้ตึกคณะ และนอกคณะวิ่งตามคนที่กำลังเดินมุ่งหน้ามาทางฉัน พร้อมกับบอดี้การ์ดอีก 4 คน คนที่เดินมาหาฉันคนแรก ใส่ชุดกางเกงยีนส์สีดำ เสื้อยืดสีแดง รองเท้าผ้าใบสีขาว พร้อมแว่นตาดำ และอีก 4 คน ใส่สูทสีดำทุกคน " กะ แก ส้มส้ม " แตงโมตบไหล่ฉันซึ่งกำลังกินขนมปังอยู่ " อะไรของแก ฉันกินอยู่ " ฉันพูดเสียงอู้อี้ไม่รู้เรื่องเพราะขนมปังกำลังอยู่ในปากของฉัน " พะ พี่ม่อนมา " ฮ่ะ! ฉันมองไปตามนิ้วที่แตงโมชี้ไป เจอผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังฉัน เขาบอกว่าจะมาหาฉัน เขามาจริงๆ และมาแบบนี้คนอื่นเขาก็เห็นกันหมด คนที่อยู่รอบๆ เอามือถือขึ้นมาถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอกันยกใหญ่ " คะ คุณ มะ มา ทำไม " ฉันพูดไม่รู้เรื่องเลยตอนนี้ ทั้งตกใจ ตื่นเต้น และขนมปังยังอยู่ในปากอยู่เลย " ผมบอกแล้วไงว่าจะมาหาคุณ " เขาตอบด้วยหน้าตานิ่งๆ ไม่ได้สนใจคนที่มองมาทางเรา ส่วนเพื่อนของฉันก็กรี๊ดเหมือนที่คนอื่นๆ เขากรี๊ดกัน " แตงโม !! " ฉันหันไปทำหน้าเข้มใส่เพื่อน ให้เก็บอาการไว้ก่อน " คุณมีอะไรกับฉันหรือเปล่าคะ " " ผมจะรับผิดชอบคุณเอง " " ฮะ !!! " ฉันกับแตงโมร้องออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย5 ปีผ่านไปผ่านไปนานหลายปีทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิม สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือฉันกับพี่ฐาตอนนี้ได้แต่งงานกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเราจัดงานแต่งงานอย่างใหญ่โตสมเกียรติตระกูลฤกษ์รักษ์ และตอนนี้สิ่งที่สำคัญในชีวิตฉันมากที่สุดก็คือ ฐิสา ลูกสาวคนเดียวของฉัน ที่ตอนนี้เธอก็อายุได้ 4 ขวบแล้ว ฐิ มาจากตัวอักษาย่อ ฐ ของพี่ฐา ส่วน ส เป็นตัวอักษรย่อจากชื่อของฉันเอง ลูกของเราก็เลยได้ตั้งชื่อว่า ฐิสา ตามชื่อม๊าและป๊าของเธอฐิสาหน้าตาจะออกไปทางคุณพ่อของเธอ คือถอดแบบหน้าตากันมาเป๊ะเหมือนกับเป็นคนคนเดียวกัน และที่ผ่านมาในช่วงที่ฉันท้อง คนที่แพ้ท้อง เหม็นอาหาร ก็เป็นพี่ฐาที่เป็นแทนฉันทั้งหมด ส่วนฉันก็ได้แต่อุัมท้องฐิสาอย่างที่แทบไม่มีอาการของคนแพ้ท้องเลย คุณพ่อกับคุณแม่ทางฝั่งของพี่ฐาบอกกับฉันว่าพี่ฐาคงจะรักฉันเอามากๆเลย เขาถึงกับแพ้ท้องแทนฉันหนักมากขนาดนี้ ^^ก่อนที่ฉันจะคลอดฐิสาพี่ฐาก็ได้ซื้อบ้านหลังใหญ่ไว้หลังหนึ่ง พี่ฐาบอกว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว เราจะอยู่คอนโดแบบนี้ไม่ได้ เราจะต้องมีบ้าน มีห้องนอนของลูกๆ ซึ่งพี่ฐาบอกว่าจะไม่ยอมมีน้องฐิสาแค่คนเดียวเป็นแน่ :)" ม๊าขาาาา " เสียงเล็กๆ ใสๆ ดังแว่วขึ้
หลายวันผ่านไปหลายวันผ่านไปฉันก็ตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือสอบอย่างหนัก และก็สอบเสร็จจนครบหมดทุกวิชา ก็คงเหลือแค่รอเกรดออกเท่านั้นถ้าผ่านหมดฉันก็จะไปยื่นทำเรื่องขอจบการศึกษาทันทีในส่วนของด้านพี่ฐา พี่ฐาก็ทำงานอย่างหนักจนไม่มีเวลามารับฉันเหมือนดั่งเมื่อก่อน และเรื่องที่ฉันจะบอกเขาในวันงานรับปริญญานั้นก็เลยต้องเก็บเอาไว้ก่อน เรื่องของฉันมันคงไม่สำคัญมากกว่าเรื่องงานของเขาหรอก -..-ส่วนผู้หญิงที่โทรมาหาพี่ฐาในคืนนั้น พี่ฐาบอกว่าเธอเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทของพ่อของเขาเอง และพวกเขาก็สนิทกันเหมือนพี่น้องมาตั้งแต่เด็กๆ และเธอก็แต่งงานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย แสดงว่าคืนนั้นที่เขาไม่ยอมบอกกับฉันก็เพื่อที่เขาจะได้แกล้งฉัน พี่ฐาบอกกับฉันว่าอยากเห็นฉันหึงหวงเขาบ้าง ^^ฟอดดดดดด ~ พี่ฐาที่พึ่งเลิกงานกลับมาเขาก็เดินมาหอมแก้มฉันที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยรอยยิ้มที่แสนคิดถึง" เป็นยังไงบ้างครับ เหนื่อยไหม " พี่ฐานั่งลงข้างๆฉันพร้อมกับโอบไหล่บางของฉันเอาไว้หลวมๆ" ข้อสอบง่ายกว่าที่คิดนะคะ ^^ " ฉันที่พึ่งสอบเสร็จและกลับมาที่คอนโดบอกกับพี่ฐาออกไป และตอนนี้ฉันก็ยังสวมอยู่ในชุดนักศึกษาอยู่เลย" เมียพี่เก่งอยู่แ
วันนี้เป็นวันงานรับปริญญาของพี่ม่อนที่มหาวิทยาลัย แฟนคลับต่างก็พากันมารวมตัวกันเป็นร้อยๆคนเต็มสนามฟุตบอล พร้อมกับมีเวทีให้พี่ม่อนขึ้นไปพูดคุยกับแฟนคลับอีกด้วย ส่วนคนที่เป็นต้นเรื่องในการจัดงานในครั้งนี้จะเป็นใครไม่ได้เลยนอกจากคู่จิ้นเก่าของเขาก็คือ น้องเรนั่นเอง" ไอ้เรมันทำบ้าทำบออะไรของมันวะ " หลังจากขึ้นไปรับปริญญาเสร็จเรียบร้อยแล้ว พี่ฐาก็บ่นพึมพำอย่างหงุดหงิดทันที" ยังไงก็ต้องขึ้นไปบนเวทีนะคะ ขึ้นไปขอบคุณแฟนคลับพี่ฐาสักหน่อย ยังไงเขาก็ยังชื่นชมและคอยติดตามพี่ฐามาตลอดนะคะ " ฉันพูดอธิบายให้คนที่ไม่ค่อยจะชอบเข้าสังคมได้เข้าใจ " ฉันไม่ได้ ไม่ชอบแฟนคลับนะ ฉันแค่ไม่ชอบที่ไอ้เรมันจัดการอะไรแล้วไม่บอกกันก่อน " พี่ฐาหยุดเดินและก็พูดขึ้นมาอย่าหัวเสีย" พี่ม่อนนนนครับบบบ" เสียงบุคคลที่พี่ฐาพึ่งพูดถึงดังขึ้น พร้อมกับน้องเรรีบวิ่งหอบหืดเข้ามาหาพี่ฐาทันที" ไปกันครับ แฟนคลับรอที่สนามฟุตบอลกันเต็มเลย " น้องเรบอกพร้อมกับดึงแขนพี่ฐาให้วิ่งตามไปทันที ฉันที่เห็นภาพน่ารักแบบนั้นก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้ ทำเป็นบ่นให้น้องเร แต่ก็ยังทำตามใจน้องมันอยู่ดี ^^กรี๊ดดดดด!!!!congratulationsฐากูร ฤกษ์รักษ์
" ส้มส้ม!! "ฉันที่กำลังนั่งทำรายงานอยู่ก็ต้องรีบหันหน้าไปตามเสียงเรียกของผู้ชายที่แทบจะคุ้นหู พร้อมกับสายตาของคนในร้านจับจ้องมองไปที่ชายหนุ่มรูปหล่อที่ใส่ชุดสูทสีน้ำเงินที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงจ้องมองดูฉันที่นั่งอยู่บนโต๊ะทำรายงานกับเพื่อนๆอยู่" พะ พี่ฐา " ฉันเรียกชื่อแฟนของฉันเบาๆด้วยความตกใจ ฉันมาถึงร้านไม่ถึงชั่วโมงพี่ฐาก็มาหาฉันถึงนี่เลยเหรอเนี่ย ก่อนจะออกมาฉันได้ส่งข้อความไปบอกพี่ฐาพร้อมกับส่งโลเคชั่นร้านเอาไว้ให้พอเป็นพิธีเพื่อรายงานว่าฉันไปไหนให้เขาได้รับรู้ แต่ฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะตามมาหาฉันถึงที่นี่ -..-พี่ฐาไม่ได้ตอบกลับอะไรแต่เขาดึงเก้าอี้มานั่งลงข้างๆฉันพร้อมกับจ้องมองพวกฉันทำรายงานกัน จนเพื่อนชายทั้งสองคนของฉันดูเกร็งๆกันไปหมด" รับเครื่องดื่มอะไรเพิ่มไหมครับ " เมื่อพี่ฐาลูกค้าผู้มาใหม่นั่งลง เจเจก็เดินเข้ามาพร้อมกับถามลูกค้าตามมารยาท ส่วนพี่ฐาที่ได้เจอกับเจเจอีกครั้งหลังจากที่เคยเจอกันมาแล้วครั้งหนึ่งเขาถึงกับขมวดคิ้วเข้มของเขาเข้าหากันทันที" มาที่นี่ได้ยังไงวะ " พี่ฐาที่ไม่ได้ถามแต่แค่พูดบ่นๆออกมาคนเดียวเท่านั้น" แฮะๆ ^^ พอดีเจเจเปิดสาขาเพิ่มที่นี่ค่ะ " ฉันบอกกับพี่ฐ
1 เดือนผ่านไปตอนนี้ฉันก็ได้ขึ้นปี 4 เป็นปีสุดท้ายในการเรียนคณะนิติศาสตร์ในรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว แต่การเรียนของฉันก็ยังไม่สิ้นสุดเพราะฉันจะต้องเรียนต่อเนติบัณฑิตอีกและฉันมีแพลนเอาไว้ว่าเรียนจบก็จะสมัครสอบตั๋วทนายเอาไว้ด้วยเหมือนกัน อีกอย่างฉันลงเรียนให้จบภายใน 3 ปีครึ่ง เพราะจะได้รีบเรียนต่อ และพี่ฐาบอกว่าอยากให้ฉันมาทำงานฝ่ายกฎหมายในบริษัทของเขา แรกๆฉันก็ปฏิเสธไปแล้วแหล่ะเพราะกลัวคนอื่นๆจะหาว่าฉันใช้เส้นสายในฐานะแฟนท่านประธานเข้ามา แต่พี่ฐาบอกว่าเขาจะรับพนักงานตามเกณฑ์ที่เขาได้กำหนดไว้ปกติ และจะมีการสอบสัมภาษณ์งานทุกคน จะไม่มีใครได้สิทธิพิเศษในการเข้ามาทำงานเหนือกว่าคนอื่นๆ สิ่งที่นอกเหนือจากคนอื่นๆที่จะได้พิเศษนั้นก็คือตัวของเขาเอง เพราะฉันเป็นแฟนของเขา ^^" พี่ฐาคะ เสร็จหรือยังคะ " ฉันตะโกนถามพี่ฐา ที่แต่งตัวอยู่ในห้องแต่งตัว เพราะตอนนี้มันจะสายแล้วนะสิ และฉันก็ต้องไปเรียน ฉันบอกกับพี่ฐาว่าฉันจะไปเรียนเองแต่พี่ฐาก็ไม่ยอม" มาแล้วครับๆ ขอโทษทีนะ เมื่อคืนเมียจัดดุไปหน่อย ^^ " พี่ฐาที่กำลังเดินออกมาจากห้องแต่งตัวพร้อมกับติดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองพูดมาพร้อมกับรอยยิ้มกวนประสาทที่ส่งมาให
หลังจากที่ฉันกับพี่ฐาพร้อมกับพ่อแม่เดินทางกลับมาจากโรงแรม ตอนนี้พวกเราก็พากันนั่งกินข้าวที่โต๊ะอาหารภายในบ้านซึ่งพวกเราได้พากันซื้อมาจากข้างนอกเข้ามากินกัน ทีแรกพ่อของฉันเสนอว่าจะเป็นคนทำอาหารให้กินเอง แต่พี่ฐาบอกว่า...กลับมากันเหนื่อยๆอยากให้พ่อกับแม่ได้พักผ่อน เขาเลยเลือกที่จะซื้ออาหารกลับมากินที่บ้านกันเอง" ไง ไอ้ลูกชายมาอยู่ที่นี่กันเองเหรอ " เสียงทุ้มของใครบางคนที่เดินเข้ามาในบ้านพูดขึ้นมา จนทำให้ฉัน พี่ฐา และพ่อกับแม่หันไปมองที่ต้นเสียงนั้นทันที" คุณพ่อ! "" คุณลุง! "" 0.0 "" มาได้ยังไงครับ! "เมื่อบุคคลที่เดินเข้ามาใหม่เป็นชายวัยกลางคนที่แต่งตัวด้วยชุดสูทสีดำราคาแพง พร้อมกับมีบอดี้การ์ดเดินเข้ามาด้วยกันอีกสองคน ส่วนที่มาด้วยอีกเป็นสิบๆก็พากันยืนรออยู่ข้างนอกบ้าน" ขะ ใครเหรอลูก " แม่ของฉันหันไปถามพี่ฐาด้วยท่าทางตกใจไม่น้อย ที่เห็นผู้ชายเข้ม ใบหน้าไร้รอยยิ้ม พร้อมกับลูกน้องอีกมากมายที่มาที่บ้านของพวกท่าน" พะ พ่อผมเองครับ " พี่ฐาตอบกลับแม่ของฉันพร้อมกับรอยยิ้มแหยๆ" ชะ เชิญนั่งก่อนครับ พวกเรากำลังกินข้าวกันอยู่พอดีเลย " พ่อของฉันยืนขึ้นพร้อมกับผายมือให้คุณลุงฐานัทไปนั่งที่เก