Share

บทที่ 6

Penulis: เฉิงกวงโฮ่วถู่
“โรงพยาบาลโทรมา พ่อของฉันเขา..ฮึก.ฮือ..”

หญิงสาวร้องไห้ปานจะขาดใจ พยายามก้าวเท้าออกไปทันที "ไม่ได้การ ตอนนี้ฉันต้องไปโรงพยาบาล"

เย่ซิวตามมาทันในที่สุด "ให้ฉันไปกับเธอเอง"

หญิงสาวไม่อาจประคองสติได้ดังเดิม เธอต้องการไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เย่ซิวช่วยเธอปิดประตูร้านทั้งหมด

จากนั้น แท็กซี่คันหนึ่งก็เข้ามาจอดที่ข้างทาง

ทั้งสองคนรีบเข้าไปในรถอย่างรวดเร็ว เย่ซิวตะโกนบอกคนขับว่า "ไปโรงพยาบาล ด่วนเลยครับ!"

"ได้!"

คนขับเหยียบคันเร่งอย่างแรง จนรถพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

หญิงสาวส่งเสียงร้องตกใจอย่างไม่ทันระวัง ร่างกายของเธอโน้มไปข้างหน้ากะทันหัน เกือบจะชนเข้ากับเบาะด้านหน้า

เย่ซิวเอื้อมมือไปคว้าเธออย่างรวดเร็ว

แต่การยื่นมือไปคว้าตัวเธอ กลับเป็นสร้างปัญหาขึ้นแทน

เย่ซิวรีบหยุดการกระทำดังกล่าวทันที "ขอโทษที ฉันไม่ได้ตั้งใจ"

หญิงสาวส่ายหน้าอย่างไม่ถือสา ถ้าอยู่ในสถานการณ์ปกติเธอคงจะเขินอายจนทำอะไรไม่ถูก แต่ตอนนี้จิตใจของเธอจดจ่อเพียงเรื่องของผู้เป็นพ่อเท่านั้น

ทันใดนั้น คนขับก็สบถขึ้น "ให้ตายเถอะ! ข้างหน้ารถติดเป็นบ้า ดูเหมือนจะมีอุบัติเหตุ"

"ฉันจะทำยังไงดี?" เธอกังวลมากเสียจนน้ำตาแทบเอ่อล้น

เมื่อเย่ซิวมองออกไปนอกรถ จึงเห็นว่ารถยังคงติดสะสมเป็นระยะทางยาว

ดูจากสถานการณ์แล้ว เป็นเรื่องยากที่จะแก้ไขได้ทัน ไม่เพียงเท่านั้นยังต้องใช้เวลาอีกหลายชั่วโมง ในการแก้ปัญหาการจราจรดังกล่าวอีกด้วย

เย่ซิวหยิบเงินสิบหยวนส่งให้คนขับ "เราจะลงตรงนี้ครับ"

หลังจากพูดจบ เขาก็ดึงเธอลงจากรถ

"พี่ ตอนนี้เราควรทำยังไงดี? พ่อของฉันเขารอต่อไปไม่ได้อีกแล้ว"

เธอกังวลจนน้ำตาไหลอาบแก้ม รู้สึกราวกับหัวใจถูกบดขยี้

จู่ ๆ เย่ซิวช้อนร่างเธอขึ้นแล้วพูดว่า "โรงพยาบาลอยู่ที่ไหน? ฉันจะพาเธอไปที่นั่นเอง"

หญิงสาวตกใจ "นี่…ทางไปโรงพยาบาลยังอีกไกล พี่รีบปล่อยฉันลงเถอะ"

"ไม่เป็นไร ฉันยังแข็งแรงอยู่ สิ่งสำคัญตอนนี้คือต้องไปช่วยพ่อเธอให้ได้"

เธอรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก

เธอชี้บอกทางไปโรงพยาบาลให้เขา ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงลมพัดหวีดหวิวในหูของเธอ

เย่ซิวออกแรงที่เท้าทั้งสองข้าง และความเร็วที่ระเบิดออกมาอย่างกะทันหันของเขานั้นเทียบได้กับความเร็วของกระทิงป่าที่ออกวิ่งอย่างบ้าคลั่ง!

เขาวิ่งไปตามช่องว่างระหว่างรถ

ผู้ขับขี่บนท้องถนนเหล่านั้นเห็นเงาวาบผ่าน และกระแสลมหมุนวนทำให้เอาผมของพวกเขาเสียทรงไป

"เมื่อกี้มันอะไรกัน?"

"ซุปเปอร์แมน?"

"โอ้พระเจ้า หยิบมือถือมาถ่ายรูปสิ!"

ความเร็วของเย่ซิวเร็วเกินไป ทำให้หญิงสาวต้องก้มศีรษะของเธอแนบลงแผ่นอกของเขาเพื่อที่จะรู้สึกดีขึ้น

เมื่อได้ยินการเต้นของหัวใจที่มั่นคงและทรงพลังของเย่ซิว เธอก็รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

เย่ซิววิ่งผ่านท้องถนนและตรอกซอกซอยซึ่งเดิมทีต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่าครึ่งชั่วโมง แต่เขากลับมาถึงโรงพยาบาลได้ภายในสิบนาที

เขาวางหญิงสาวลง เธอรีบวิ่งไปที่หอผู้ป่วยทันที

ภายในหอผู้ป่วย มีชายวัยกลางคนนอนอ่อนแรงอยู่ในนั่น

เขามีผิวหนังหมองคล้ำและใบหน้าตอบ กลิ่นเหม็นคละคลุ้งลอยออกมาจากร่างกาย

นี้คือสภาวะใกล้ตาย

หมอหลายคนยืนอยู่หน้าเตียงผู้ป่วยและส่ายหน้าเบา ๆ

"เขาไตวาย ช่วยไม่ได้แล้ว"

"น่าเสียดาย ถ้าเราสามารถทำการปลูกถ่ายไตได้เมื่อเดือนที่แล้ว เขาก็อาจจะรอดก็ได้"

ในบรรดาหมอเหล่านี้ มีหมอคนหนึ่งที่ดูสะดุดตาเป็นพิเศษ

นั่นคือสาวสวยที่ดูอายุประมาณสามสิบปี

ใบหน้าของเธออ่อนเยาว์ ประกอบกับการแต่งหน้าบาง ๆ

มู่ชิงมีจมูกโด่งได้รูป และมีริมฝีปากเล็กราวกับลูกเชอร์รี่

แม้เธอจะสวมเสื้อคลุมตัวใหญ่ แต่ก็สามารถมองเห็นความเย่อหยิ่งที่อยู่ภายในได้ลาง ๆ

หมอผู้ชายหลายคนจ้องมองไปที่เธอเป็นครั้งคราว ด้วยความปรารถนาที่มีเพียงผู้ชายเท่านั้นที่จะเข้าใจ

"พ่อ!"

หญิงสาวรีบวิ่งเข้าไป เมื่อเห็นชายบนเตียงพยาบาล น้ำตาก็ไหลทันที

"คุณหมอคะ ตอนนี้พ่อเป็นยังไงบ้าง?"

หมอคนสวยถอนหายใจ "เตรียมจัดพิธีศพให้เขาเถอะ"

ดวงตาของหญิงสาวมืดลง เธอเกือบจะเป็นลมล้มพับไป

เธอส่ายหน้าอย่างแรง "ไม่ได้นะ พ่อของฉันยังอายุไม่มากเท่าไหร่เลย เขาจะตายได้ยังไง? ได้โปรดช่วยเขาด้วยนะคะ"

หมอคนสวยถอนหายใจ "เราก็อยากช่วย แต่ไม่มีไตที่เข้ากับเขาได้เลย และไตก็มีราคาอย่างน้อยห้าแสนหยวนเข้าไปแล้ว..."

เธอตระหนักดีว่าสถานะทางการเงินของครอบครัวหญิงสาวคนนี้ไม่ค่อยดีนัก

แม้จะมีไต แต่ก็เกรงว่าจะทำอะไรไม่ได้อยู่ดี

ใบหน้าของหญิงสาวซีดมากจนน่ากลัว เธอรู้สึกราวกับฟ้ากำลังจะถล่ม

เธอสูญเสียแม่ไปตั้งแต่อายุยังน้อยและเติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูจากพ่อ

โลกทั้งใบกลายเป็นสีดำต่อหน้าต่อตาเธอ

เย่ซิวเดินเข้าไปในหอผู้ป่วยด้วยเช่นกัน

เมื่อมองไปที่ชายบนเตียงพยาบาล เขาก็เดินเข้าไปใกล้และตรวจชีพจรของเขาทันที

จากนั้นเขาก็พูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ทุกคนในหอผู้ป่วยตกใจ

"ไม่ต้องห่วง ฉันช่วยพ่อเธอได้"

หญิงสาวเบิกตากว้าง "พี่ นี้พี่พูดจริงเหรอ?"

ก่อนที่เย่ซิวจะทันได้ตอบ หมอชายคนหนึ่งก็แสดงท่าทีโกรธเกรี้ยว "คุณเป็นใคร? อย่ามาพูดเรื่องไร้สาระที่นี่นะ!"

หมอชายอีกคนกล่าวเสริม "เขาไตวายขั้นรุนแรงแล้ว และเป็นที่ไตทั้งสองข้างด้วย ไม่มีทางที่จะช่วยชีวิตเขาได้เลย"

"คุณอยากใช้วิธีนี้หลอกผู้หญิงใช่ไหม? นั่นน่ารังเกียจมาก!"

หมอคนสวยก็ขมวดคิ้ว ความประทับใจแรกของเธอที่มีต่อเย่ซิวนั่นแย่มาก

เมื่อเผชิญกับคำถาม เย่ซิวจึงพูดอย่างใจเย็น "ไตของเขาล้มเหลวทั้งสองข้าง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางรอดเลย"

คุณหมอคนสวยยิ่งรังเกียจเย่ซิวมากกว่าเก่า "อย่างนั้นก็บอกฉันมาสิว่าคุณจะช่วยเขายังไง?"

แม้แต่อาจารย์หมอของเธอที่เคยศึกษาด้วยในต่างประเทศก็ยังไม่กล้ารับปากว่ารักษาเขาได้

เธอไม่เชื่อหรอก เด็กหนุ่มอย่างเขาจะสามารถช่วยชีวิตคนไข้ของเธอได้

หากเธอเชื่อก็แปลว่า ทักษะทางการแพทย์ทั้งหมดที่เธอได้เรียนรู้มาตลอดหลายปีนั้นเป็นเพียงเรื่องตลอดไม่ใช่หรือ?

สายตาของเย่ซิวจ้องมองไปที่หญิงสาว สิ่งสำคัญคือต้องทำให้เธอเชื่อใจเขา เขาถึงจะสามารถช่วยเธอได้

"อวัยวะภายในทั้งห้าของร่างกายมนุษย์สอดคล้องกับธาตุทั้งห้า ตับเป็นตัวแทนของธาตุไม้ หัวใจคือธาตุไฟ ม้ามคือธาตุดิน ปอดคือทองคำ และไตคือธาตุน้ำ"

"และในบรรดาธาตุทั้งห้า ทองคือแหล่งกำเนิดน้ำ"

"ดังนั้นเพียงแค่ใช้การฝังเข็มเพื่อกระตุ้นความแข็งแรงของปอดและบำรุงไต"

"ธาตุทั้งห้าก็จะถูกกระตุ้นเพื่อสร้างวงจรหมุนเวียน และสามารถนำไปสู่การรักษาโรค"

เย่ซิวอธิบายอย่างง่าย ๆ แต่มีหมอไม่กี่คนจากทั้งหมดในอาณาจักรหลงเถิงที่สามารถกระตุ้นอวัยวะภายในทั้งห้าได้ด้วยการฝังเข็ม

ดวงตาของหญิงสาวเป็นประกายเมื่อได้ยินเช่นนั้น "จริงเหรอ? งั้นพี่ช่วยพ่อฉันด้วยนะ"

หมอคนสวยหัวเราะเย้ยหยัน "ไร้สาระ! อะไรคือปอดเป็นทอง ไตเป็นน้ำ ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ทางวิทยศาสตร์เลยสักนิด น้องสาวอย่าได้หลงกลเขา เขาดูไม่ใช่คนดีตั้งแต่แรกแล้ว "

หมอผู้ชายอีกหลายคนเมื่อเห็นหญิงสาวใสซื่อบริสุทธิ์อย่างเธอ ก็ยิ่งไม่ต้องการให้เธอถูกหลอกและพากันเอ่ยปากพูด

"ใช่แล้ว น้องสาวเธอลองมองเด็กหนุ่มคนนี้ให้ดีสิ เขาอายุเท่าไหร่ เขาจะมีความสามารถในการรักษาคนได้ยังไง?"

"ต้องเชื่อหมอสิ เรื่องรักษาคนต้องไว้ใจเรา"

"ถูกต้อง น้องสาว เธอต้องดูให้ดี ๆ เข้าไว้"

เพราะเหตุผล หญิงสาวจึงสับสนอีกครั้ง

เธอพบว่าสิ่งที่หมอพูดดูคล้ายจะถูกต้อง

เย่ซิวดูเด็กเกินไป เขาดูไม่ต่างไปจากนักเรียนมัธยมปลายด้วยซ้ำ

ในด้านทักษะทางการแพทย์ ตามสามัญสำนึกของคนทั่วไป ยิ่งอายุมากทักษะทางการแพทย์ก็จะยิ่งมากตามไปด้วย

เย่ซิวมองไปที่หญิงสาว "อย่างไรเสีย หมอก็บอกนี่เองว่าไม่สามารถช่วยพ่อของเธอ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมไม่ให้ฉันลองดูล่ะ?"

หญิงสาวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "ถ้าอย่างนั้น... พี่ ก็ลองดูสิ"

ตอนนี้เธอไม่เหลือทางเลือกอื่นแล้ว

โรงพยาบาลแห่งนี้ เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในเจียงเฉิงแล้ว

พวกเขาทุกคนบอกว่าไม่สามารถช่วยพ่อของเธอได้ และเธอเองก็หมดหวังแล้วเช่นกัน

เย่ซิวพยักหน้าและหยิบเข็มเงินที่เขามีออกมา

จู่ ๆ หมอคนสวยก็ก้าวไปข้างหน้าและตะคอกใส่เย่ซิวเสียงดัง "หยุดนะ!"

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1262

    “ภรรยา…”ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกขัดจังหวะเสียก่อนผู้อาวุโสคนหนึ่งที่อยู่เวรข้างนอกรีบวิ่งเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบหลัวเวยเวยไม่พอใจเล็กน้อย “ทำไมถึงได้รีบร้อนขนาดนี้”“เรียนภรรยาเจ้าสำนัก สำนักโอสถส่งคนมาแล้วครับ”หลัวเวยเวยสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นทันที ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ก็พลันจริงจังขึ้นมาเช่นกันหลัวเวยเวยตอบสนองอย่างรวดเร็ว “ไปเชิญเขามาที่ห้องประชุม”ไม่นานนัก ชายหนุ่มท่าทางโอหังคนหนึ่งก็เชิดหน้าเดินมาถึงห้องประชุมเมื่อเห็นหลัวเวยเวยก็ไม่โค้งคำนับอะไรสักนิด กลับนั่งลงบนที่นั่งอย่างไม่เกรงใจหลัวเวยเวยนั่งอยู่บนที่สูง สองฝั่งเป็นผู้อาวุโสมากมายเมื่อเห็นภาพแบบนี้เธอก็ไม่ได้โกรธอะไร และไม่กล้าโกรธด้วยความแข็งแกร่งของสำนักโอสถไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะเทียบได้ แม้จะมีผู้บำเพ็ญตนระดับปฐมญาณอีกร้อยคน พวกเขาก็ไม่กล้าทำอะไรสำนักโอสถอยู่ดีหลัวเวยเวยมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนเหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิบนใบหน้า “น้องชายเดินทางมาถึงนี่ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรจะชี้แนะเหรอ”ชายหนุ่มผู้นั้นกวาดสายตามองหลัวเวยเวยด้วยสายตาโลภหากหลัวเวยเวยมีสถานะต่ำกว่านี้ ด้วยชื่อเสียงของการเป็นทูตของสำนักโอสถ เขาก็สามารถ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1261

    เห็นเพียงหานเฟิงหยิบคริสตัลขนาดเท่าฝ่ามือออกมาจากแหวนผนึกของ แล้ววางลงตรงหน้าเย่ซิว“นี่มันอะไร?” เย่ซิวรู้สึกงุนงงเล็กน้อยคริสตัลเป็นรูปหญิงสาว พื้นผิวเต็มไปด้วยรอยร้าวมากมายหญิงสาวในคริสตัลกอดกระบี่ยาวไว้ในอ้อมแขน ผมยาวสยายดวงตาคมกริบ ดูเหมือนงานแกะสลักวิจิตรบรรจงมาก เหมือนมีชีวิตจริง ๆหานเฟิงเอ่ย “นี่คือผู้พิทักษ์กระบี่ เป็นการดำรงอยู่ที่พิเศษมาก มีตำนานเกี่ยวกับเธอมากมายแต่ที่น่าเชื่อถือที่สุดคือเซียนกระบี่ที่แข็งแกร่งคนหนึ่งได้ผนึกปฐมญาณและเจตจำนงแห่งกระบี่ของตนเองด้วยวิชาลับ ก่อนที่จะเสียชีวิตลงผ่านไปหลายพันปี จนกระทั่งหลายหมื่นปี ก็ได้กลายเป็นรูปปั้นที่เราเห็นอยู่นี้หากสามารถฟักตัวมันออกมาได้ มันจะจงรักภักดีต่อเจ้านายตลอดไป ไม่มีวันทรยศ และยังมีพลังมหาศาล”เย่ซิวสนใจขึ้นมาทันที “แล้วจะฟักตัวมันออกมาได้ยังไง?”“ต้องใช้เลือดของตัวเอง และต้องใช้ในปริมาณที่มหาศาลนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนถึงไม่แตะต้องมันเลยแม้จะได้มาก็ตาม เพราะปริมาณที่ต้องการมันมากเกินไปมีคนประเมินไว้ว่าแม้จะรดเลือดร้อยกรัมลงไปทุกวัน ก็ยังต้องทำต่อเนื่องถึงสิบปีมีผู้แข็งแกร่งสักกี่คนที่จะทนไ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1260

    อาจเป็นเรื่องการล้างแค้น หรือไม่ก็…ที่นี่มีบางสิ่งที่เธอต้องการ หรือให้ความสำคัญอยู่?สารพัดความคิดแล่นผ่านหัวเย่ซิวในพริบตา ทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึงสองวินาทีสุดท้ายเย่ซิวก็ตอบตกลงที่ผ่านมาเขาได้ประโยชน์จากผู้หญิงคนนี้ไม่น้อย ถ้าว่ากันตามเหตุและผล เขาก็ควรจะตอบแทนบุญคุณเธอบ้างยิ่งไปกว่านั้น ก็แค่จุดธูปวันละสามครั้งเองจากนั้นเขาก็รีบออกไปด้วยตัวเอง ไปซื้อธูปจันทน์คุณภาพดีที่สุด พร้อมทั้งโต๊ะบูชาและกระถางธูปมาชุดหนึ่งเมื่อกลับมาถึงห้องก็จัดวางโต๊ะและกระถางธูปไว้ตรงหน้าเตียงน้ำแข็งเย่ซิวหยิบธูปขึ้นมาสามดอกแล้วจุดไฟจากนั้นก็เห็นสายควันบาง ๆ ลอยวนเล็กน้อย แล้วค่อย ๆ ถูกดูดเข้าสู่จมูกของผู้หญิงคนนั้นเย่ซิวนั่งดูอยู่พักหนึ่ง ก็ยังไม่เข้าใจกลไกเบื้องหลัง สุดท้ายเขาก็พาเสี่ยวไป๋ที่กำลังฟักตัวกับเสี่ยวอวี่ออกไปจากห้องหญิงสาวคนนี้มีภูมิหลังลึกล้ำเกินหยั่งรู้หลังจากตอบแทนบุญคุณเธอเสร็จแล้ว เย่ซิวคิดว่าคงต้องตัดขาดความเกี่ยวข้องกับเธอจะดีกว่าใครจะรู้ว่าในอนาคต ผู้หญิงคนนี้จะนำหายนะแบบไหนมาสู่ตัวเขาบ้างยังไงตอนนี้เย่ซิวก็สามารถหาศิลาวิญญาณได้ด้วยตัวเองแล้ว ความจำเป็นที่ต้องพึ่งพ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1259

    “ไม่ต้องหรอก เธอไปพักผ่อนเถอะ” เย่ซิวส่ายหน้าปฏิเสธเสี่ยวโหรวสีหน้าหม่นลงทันที “เพราะข้าเป็นเผ่าปีศาจใช่ไหมเจ้าคะ คุณชายจึงไม่สนใจข้า...”“ไม่ใช่แน่นอน” เย่ซิวหยิกจมูกเธอเบา ๆ “เธอมีเสน่ห์มาก ไม่มีผู้ชายคนไหนไม่ชอบหรอกแต่ก็นะ ฉันอยากให้เธอมาเป็นผู้จัดการใหญ่ของฉัน ความสัมพันธ์ของเราจะได้ไม่ยุ่งยากซับซ้อน”ความเศร้าในใจเสี่ยวโหรวหายวับไปกับตา เธอรีบตอบตกลงอย่างดีใจสุด ๆ “เข้าใจแล้ว ข้าจะทำให้ดีที่สุดเจ้าค่ะ”เทียบกับการเป็นแค่ของสวยงามไว้โชว์ เธออยากเป็นคนที่เย่ซิวสามารถพึ่งพาได้มากกว่าส่วนเรื่องของแม่ เธอก็เลือกที่จะลืมมันไปแววตาเธอฉายแววลังเลวูบหนึ่ง แล้วพึมพำเบา ๆ “หลายปีที่ผ่านมา ข้าทำตามคำสั่งของท่านแม่มาตลอด ก็ถือว่าตอบแทนบุญคุณหมดแล้วขอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวที่ข้าจะทำเพื่อตัวเอง ตามหาความสุขของตัวเองบ้าง”เย่ซิวเดินเข้าไปในห้องที่วางเตียงน้ำแข็งไว้เสี่ยวไป๋ยังคงหลับลึกอยู่ขนนกของเสี่ยวอวี่ยิ่งขาวสะอาดมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ปล่อยพลังปีศาจออกมา ยังอยู่ในช่วงสะสมพลังพอเห็นเย่ซิว เสี่ยวอวี่ก็พุ่งเข้ามากระโดดเกาะบนอกเขาทันทีเย่ซิวลูบขนที่นุ่มเหมือนผ้าไหมของเสี่ยวอวี่เ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1258

    หลัวเวยเวยเป็นคนตอบคำถามนั้นให้เขา “ก็แค่เรื่องแย่งชิงแหล่งทรัพยากรกับพื้นที่อยู่อาศัยนั่นแหละ เผ่าปีศาจก็ต้องใช้ทรัพยากรในการพัฒนาเหมือนกันแถมพวกเราที่เป็นผู้บำเพ็ญตน สำหรับพวกมันแล้วก็คือวัตถุดิบชั้นเลิศ เป็นโอสถวิเศษสำหรับการฝึกฝนของพวกมันเลยล่ะ”“แล้วตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?” เย่ซิวเริ่มรู้สึกกังวลตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการคือสภาพแวดล้อมที่มั่นคง เพื่อให้ตัวเองสามารถพัฒนาและเติบโตได้หากรอบตัวเต็มไปด้วยความวุ่นวายไม่สงบ มันก็จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการพัฒนาของเขา“ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายก็สู้กันแบบกินกันไม่ลง ไม่มีใครเหนือกว่าใครหรอก”เย่ซิวค่อยเบาใจลงมาหน่อยขอแค่มีช่วงเวลาแห่งความสงบประมาณสิบปี เขาก็มั่นใจว่าจะฝึกถึงระดับฝ่าด่านเคราะห์ แล้วไร้เทียมทานในโลกมนุษย์ได้แน่สุดท้าย เย่ซิวก็หันไปมองเฉินเยียนจือ “แล้วเธอล่ะ? มาหาฉันทำไม”เฉินเยียนจือตอบแบบไม่คิดอะไรเลย “ก็คิดถึงนายน่ะสิ”เย่ซิวยิ้มบางหลังจากนั้น เย่ซิวก็คุยเรื่องสัพเพเหระกับพวกเธอไปเรื่อยหลัวเวยเวยกับรั่วอวิ๋นนั่งคุยกันอีกสักพัก พอดูเวลาแล้วก็ต้องลุกขึ้นเตรียมตัวกลับก่อนกลับ หลัวเวยเวยยังไม่ลืมลากเฉินเยียน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1257

    รั่วอวิ๋นเริ่มออกอาการลนลานอย่างเห็นได้ชัดภายใต้สายตาของเย่ซิว เธอไม่มีทางพูดความคิดลึก ๆ ในใจออกไปได้อยู่แล้ว ได้แต่ปากแข็งเอ่ยไปว่า “ฉันแค่มาดูว่าฝีมือกลั่นโอสถของนายพัฒนาขึ้นบ้างหรือเปล่า ถ้ายังแย่อยู่ นายก็ทำให้ฉันเสียหน้าพอดีสิ”ปากไม่ตรงกับใจขนาดนี้ เย่ซิวยังรู้สึกได้เลย แต่เขาไม่ได้แฉออกมาตรง ๆ “งั้นก็สบายใจได้เลยครับ ตอนนี้ผมกลั่นโอสถระดับสูงได้แล้วนะ”“อะไรนะ?!”สิ้นเสียงพูดนั้น ผู้หญิงทั้งสี่คนในที่นั้นก็ร้องอุทานออกมาพร้อมกันด้วยความตกตะลึง จนเสียงดังสะเทือนไปทั่วเสี่ยวโหรวทำหน้าตาเลื่อมใสสุดขีด “คุณชายเก่งเกินไปแล้วเจ้าค่ะ”ในตาของหลัวเวยเวยสะท้อนแสงบางอย่างออกมา เธอไม่พูดอะไร เพียงจ้องเขานิ่ง ๆ ตาไม่กะพริบเฉินเยียนจือเองก็มีสีหน้าแบบเดียวกับเสี่ยวโหรวส่วนรั่วอวิ๋นกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “ที่พูดออกมานั่นแน่ใจเหรอ อย่าโม้น่า แม้แต่ฉันตอนนี้ยังกลั่นได้แค่โอสถกลางระดับเท่านั้นเองนะ”“แน่นอนว่าเรื่องจริง ก็เพราะท่านอาจารย์สอนเก่งไง ลูกศิษย์ก็เลยเก่งกว่าอาจารย์แล้ว”เย่ซิวประจบไปเบา ๆ คำหนึ่ง ก็ทำเอารั่วอวิ๋นยิ้มแก้มแทบปริ หางแทบชี้ขึ้นฟ้า รู้สึกปลื้มปริ่มเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status