Share

บทที่ 5

Author: เฉิงกวงโฮ่วถู่
ที่หน้าร้าน หญิงวัยกลางคนชี้ไปที่เย่ซิวแล้วตะโกนเสียงดังลั่น "ไสหัวไปให้ไกล ๆ เลย อย่ามาขัดขวางธุรกิจของฉัน!"

ในความเห็นของเธอ เย่ซิวซึ่งสวมชุดผ้าขี้ริ้วและสะพายถุงผ้าเก่า ๆ ไม่ต่างอะไรจากขอทาน

เย่ซิวพูดว่า "ผมไม่ใช่ขอทาน ผมมาซื้อเสื้อผ้า ผมมีเงิน"

หญิงวัยกลางคนกอดอกและเยาะเย้ยครั้งแล้วครั้งเล่า "ขอทานอย่างแกจะมีเงินสักเท่าไหร่เชียว สิบหยวนหรือว่ายี่สิบหยวนล่ะ? แกไม่มีปัญญาซื้อเสื้อผ้าที่นี่ได้หรอกนะ ห้ามเข้ามาในร้านของฉัน อย่าทำให้ร้านของฉันสกปรก"

เย่ซิวระงับความโกรธ "ผมบอกคุณไปแล้วนี่ว่าผมมีเงิน ถ้าคุณเปิดร้านทำธุรกิจ ทำไมถึงไม่ให้ผมเข้าไปล่ะ?"

หญิงวัยกลางคนโกรธมาก "แกยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอ? ถ้าไม่ไป ฉันจะไม่ยั้งมือแล้วนะ"

หลังจากพูดจบ เธอก็หยิบไม้กวาดข้างประตูขึ้นมาและจ้องเย่ซิวด้วยสีหน้าดุร้าย

“พี่ชายคนนี้ อยากจะซื้อเสื้อผ้าเหรอคะ? มาที่ร้านฉันก็ได้นะ”

ทันใดนั้นเอง เสียงอ่อนหวานเสียงหนึ่งก็ดังมาจากร้านข้าง ๆ

เย่ซิวหันกลับไปมอง เห็นว่าเธอเป็นหญิงสาวอายุประมาณสิบแปดหรือสิบเก้าปีกำลังพูดกับเขาอย่างเขินอาย

เธอดูไร้เดียงสามาก สวมกางเกงยีนส์และเสื้อยืดสีขาว

ผมถูกถักเป็นเปียสองข้าง ทั้งร่างเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเยาว์วัย

หญิงวัยกลางคนเยาะเย้ยและดูถูก "แหม ยัยเด็กคนนี้นี่เอง ขนาดขอทานก็ยังไม่เว้น ถ้าพ่อเธอที่อยู่โรงพยาบาลรู้เรื่องนี้เข้า ไม่รู้ว่าจะโกรธจนตายไปเลยรึเปล่า?”

ร้านทั้งสองตั้งอยู่ติดกัน แต่ธุรกิจของพวกเธอนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ร้านที่เปิดโดยหญิงสาว มักจะมีคนมาซื้อหลังเลิกงานหรือเลิกเรียนอยู่เสมอ

แต่ฝั่งเธอกลับเงียบเหงา

เมื่อวันเวลาผ่านไป หญิงวัยกลางคนย่อมเกิดความริษยาและไม่พอใจ

หญิงสาวหน้าแดงก่ำ “คุณป้า ...อย่าพูดอะไร… หยาบคายแบบนี้ได้ไหมคะ?”

ทันใดนั้นเสียงของหญิงวัยกลางคนก็แหลมปรี๊ด "ตาแกบอดหรือไงหา? แกสิป้า ดูไม่ออกเหรอว่าฉันอายุแค่สามสิบปีเท่านั้น!"

“ผมคิดว่าคุณอย่างน้อยน่าจะอายุสักห้าสิบแล้วเสียอีกนะ ป้า” เย่ซิวแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชาแล้วเดินไปที่ร้านของหญิงสาว

หญิงวัยกลางคนโกรธมาก เธอพูดอย่างอาฆาตมาดร้าย "หญิงร้ายชายเลว!"

หลังจากถ่มน้ำลายลงบนพื้น เธอก็หันหลังกลับเข้าไปในร้านไป

ประกายแสงเย็นเยียบวาบผ่านดวงตาของเย่ซิว เขาลอบดีดนิ้วออกไป

พลังงานสายหนึ่งจึงถูกยิงออกไปและแทรกซึมเข้าไปในจุดชีพจรจุดหนึ่งของหญิงวัยกลางคน

แต่เธอไม่รู้เรื่องนี้แม้แต่น้อย

เขาเดินตามหญิงสาวเข้าไปในร้าน

ร้านนี้ไม่ใหญ่นัก แต่ประเภทเสื้อผ้ากลับมีครบครัน

“พี่ชาย คุณอยากได้แบบไหนเหรอคะ?”

หญิงสาวอ่อนโยนมาก ดวงตาของเธอกระจ่างใสมากเช่นกัน

เธอไม่ได้รู้สึกดูถูกหรือรังเกียจที่เย่ซิวสวมเสื้อผ้าซอมซ่อเลย

เย่ซิวมองไปรอบ ๆ

สำหรับเรื่องเสื้อผ้า เขาไม่ค่อยใส่ใจมากนัก ตราบใดที่สวมใส่สบายและเหมาะกับตัว แค่นั้นก็พอแล้ว

เขาชี้ไปที่ราวแขวนเสื้อผ้าราวหนึ่ง "ชุดกีฬาสีขาวตัวนั้น และก็ชุดสีดำนั่น"

หญิงสาวพยักหน้า "พี่ชายสูงประมาณหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรสินะ ถ้าอย่างนี้ก็ต้องใส่ไซซ์เอ็กซ์เอ็กซ์แอล รอสักครู่นะคะ..."

เย่ซิวถูกใจเสื้อผ้าสองชุดที่แขวนอยู่ด้านบน

เธอหยิบไม้สอยผ้ามา แต่ยังขาดความยาวไปอีกนิดเดียว จึงยกเก้าอี้มาปีน

แต่ไม่รู้ว่าตัวเองยืนไม่มั่นคง พริบตา ร่างเล็กก็เอนไปข้างหลัง

“กรี๊ด!!!”

หญิงสาวกรีดร้องออกมา โลกหมุนวน ความหวาดกลัวอย่างหนักหน่วงเข้าครอบงำหัวใจของเธอ

จบสิ้นแล้ว เธอรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย

แต่เพียงชั่วครู่ต่อมา เธอก็ตกมาอยู่ในอ้อมแขนอันอบอุ่น

เย่ซิวอุ้มหญิงสาวไว้ "เธอโอเคใช่ไหม?"

“อ๋า?!” หญิงสาวคิดว่าคราวนี้เธอจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่ ๆ แต่ใครจะรู้ว่าเธอจะได้รับการช่วยเหลือจากเย่ซิว

บนตัวของเย่ซิวมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยส่งมา บวกกับพลังความเป็นชายที่แข็งแกร่ง

ทำให้หัวใจของหญิงสาวเต้นระรัว เธอเขินอายมาก ใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำ ได้ยินเพียงเสียงหวานพูดตะกุกตะกักเล็กน้อย "ขอบคุณค่ะพี่ชาย คุณปล่อยฉันลงได้ไหมคะ"

เย่ซิววางเธอลงเบา ๆ "ในอนาคตก็ระวังให้มากหน่อยนะครับ"

“อื้ม…” หญิงสาวก้มหน้างุด หน้าเธอแดงขึ้นกว่าเก่าอีก

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ชายแบบนี้

“ฉันหยิบเองแล้วกัน”

เย่ซิวหยิบไม้สอยผ้า ไปปลดเสื้อผ้าทั้งสองชุดลงมาด้วยตัวเอง

เด็กสาวชี้ไปทางซ้าย “ห้องลองเสื้ออยู่ตรงนั้นค่ะ”

เย่ซิวหยิบเสื้อผ้าและเดินตรงไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

รูปร่างของเย่ซิวนั้นสูงโปร่ง ภายนอกอาจจะดูผ่ายผอม แต่ร่างกายของเขากลับเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ไม่มีไขมันส่วนเกินสักนิด

ทุกตารางนิ้ว ทั้งเลือดและเนื้อของเขาล้วนเต็มไปด้วยพลังที่พร้อมจะระเบิดออกมา นับว่าสมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง

รูปร่างแบบนี้ของเขา หากผู้หญิงสวย ๆ เหล่านั้นได้เห็น พวกเธอจะต้องกรีดร้องออกมาทันที

เปลี่ยนไปสวมชุดกีฬาสีขาวแล้วยัดเสื้อผ้าเก่า ๆ ใส่ถุงผ้า

ลองขยับตัวเล็กน้อย ขนาดกำลังพอดีเลย

ต้องบอกว่าไก่งามเพราะคน คนงามเพราะแต่ง

แม้ว่ามันจะเป็นเพียงชุดกีฬาธรรมดา ๆ แต่เมื่อมันถูกสวมอยู่บนร่างกายของเย่ซิว ก็ยังให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปเล็กน้อย

ใบหน้าของเขาเกลี้ยงเกลา ไว้ผมสั้น ดูทรงพลังไม่น้อย

หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อย ภาพลักษณ์ของเขาก็เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน

เย่ซิวพึงพอใจมาก เดินออกจากห้องลองเสื้อผ้า

ทันใดนั้นดวงตาของหญิงสาวเป็นประกาย "พี่ชาย คุณหล่อมากเลย!"

การบ่มเพาะพลังหลายปีทำให้เขามีหุ่นที่สมบูรณ์แบบมาก บวกกับใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา ทำให้ผู้คนรู้สึกดีกับเขาได้อย่างง่ายดาย

ไม่รู้ว่าหญิงสาวกำลังคิดอะไรอยู่ พวงแก้มที่เพิ่งหายขึ้นสีของเธอ จึงกลับมาเป็นเช่นเดิมอีกครั้ง

“มีรองเท้าไหม? ขอรองเท้าผ้าใบสีขาวให้ฉันคู่หนึ่งด้วย” เย่ซิวกล่าว

“โอ้ มีค่ะ” หญิงสาวตื่นจากภวังค์ รีบไปหารองเท้าผ้าใบสีขาวคู่หนึ่งให้เย่ซิว

เย่ซิวลองสวมมันดู และพบว่าขนาดมันพอดีและสวมสบายมาก ดีกว่ารองเท้าผ้าขาด ๆ ของเขาหลายขุม

“ทั้งหมดนี้ราคาเท่าไหร่?”

เด็กสาวคิดคำนวณ "เสื้อผ้าราคาชุดละสองร้อยหยวนค่ะ ส่วนรองเท้าหนึ่งร้อยห้าสิบหยวน...แต่ฉันขอรับจากพี่ชายแค่ห้าร้อยหยวนก็พอแล้ว"

“ไม่ได้หรอก ฉันจะให้เธอเสียเปรียบไม่ได้” เย่ซิวส่ายหน้า

ทันทีที่เขาเข้ามาในร้าย ก็พบว่าเสื้อผ้าที่หญิงสาวสวมใส่ มีอายุนานหลายปีแล้ว

นอกจากนี้มือเธอยังมีริ้วรอยมากมาย ไม่เนียนละเอียดเหมือนกับเด็กผู้หญิงทั่ว ๆ ไป เห็นได้ชัดว่ามีชีวิตที่ยากลำบากเคี่ยวกรำ

ดูเหมือนสถานการณ์ของหญิงสาวจะไม่ได้ดีนัก

ตอนที่เธออยู่ที่หน้าประตู เหมือนกับจะได้ยินว่าพ่อของเธอป่วยเข้าโรงพยาบาลรึเปล่านะ?

แบบนี้ เย่ซิวยิ่งไม่อาจเอาเปรียบหญิงสาวตัวเล็ก ๆ อย่างเธอ

แต่หญิงสาวกลับยืนกรานว่า "เมื่อครู่ พี่ชายช่วยฉันไว้ ดังนั้นฉันเลยขอให้ส่วนลดคุณก็แล้วกัน"

นี่เป็นเด็กสาวที่มีหลักการของตัวเองคนหนึ่ง ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เธอก็ไม่ยอมรับเงินจากเย่ซิวมากไปกว่านี้

“อืม…เอาแบบนี้แล้วกัน” เย่ซิวคิดวิธีที่จะประนีประนอม

“ฉันยังไม่ได้กินข้าวเลย ฉันให้เธอห้าร้อยห้าสิบหยวน ให้เธอเลี้ยงข้าวฉันดีไหม?”

หญิงสาวคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า "เอาสิคะ ก็แค่อาหารง่าย ๆ มื้อเดียวเอง"

หลังจากพูดจบ เธอก็มองไปที่เย่ซิวอย่างประหม่า กลัวว่าเขาจะปฏิเสธ

หลายปีที่ผ่านมา มีชายหนุ่มหลายคนตามจีบเธอ

ในหมู่พวกเขา มีแม้กระทั่งเศรษฐีฐานะสูงส่งด้วย

แต่หญิงสาวก็ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย

ด้วยเหตุผลบางอย่าง เมื่อเธอมองไปที่เย่ซิว มันกลับทำให้เธอรู้สึกแตกต่างออกไป

เย่ซิวยิ้มและพูดว่า "ฉันเพิ่งลงมาจากภูเขา กินอะไรก็ได้ทั้งนั้น"

“ถ้างั้นก็เยี่ยมไปเลย” หญิงสาวยิ้มจนตาหยี ดวงตาของเธอโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว

กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง

ทันใดนั้นเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์รุ่นเก่าก็ดังขึ้น

หญิงสาวหยิบมันขึ้นมาและกดรับ หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที ใบหน้าของเธอก็ถอดสี โทรศัพท์ร่วงลงพื้นพร้อม ๆ กับที่เธอหมดเรี่ยวแรงและทรุดตัวตามลงไป

เย่ซิวมือไวตาไว คว้าหญิงสาวเข้ามากอดอย่างรวดเร็ว "เกิดอะไรขึ้นเหรอ?"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1407

    “ว่าไง?”“ก่อนนายจะไป มาฝึกกับฉันอีกครั้งเถอะ!”น้ำเสียงของเธอแน่วแน่มาก เธอแทบจะพูดผ่านไรฟันที่กัดแน่น เหมือนกำลังเดินเข้าสู่ลานประหารยังไงยังงั้นเย่ซิวถอนหายใจเงียบ ๆเธอก็คงรับไม่ได้จริง ๆ กับการที่ทั้งสองฝั่งกลายเป็นศัตรูกันนี่น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็ได้ งั้นก็ให้เธอสมหวังก็แล้วกันผ่านไปกว่าสามชั่วโมง แสงทั้งสองสายก็พุ่งออกไปคนละทิศทางแสงหนึ่งในนั้นคือเฉินอิ๋งอิ๋งที่ตาแดงก่ำ พลางเอ่ยเสียงสั่น “ฮือ ๆ ๆ ฉันอกหักเหรอเนี่ย…”……เมื่อเย่ซิวกลับมาถึงสำนัก ก็เห็นหลัวเวยเวยเดินกลับมาจากข้างนอกพอเธอเห็นเขา ใบหน้าของเธอก็ฉายแววยินดีออกมา “สัตว์วิญญาณหรือปีศาจที่มีสายเลือดแข็งแกร่งที่นายให้ฉันช่วยตามหาน่ะ ตอนนี้ได้ข่าวแล้วนะ”“จริงเหรอ? เล่าให้ฟังหน่อยเร็ว”หลัวเวยเวยเม้มริมฝีปากเล็กน้อย “มีงานประมูลงานหนึ่งจะจัดขึ้นพรุ่งนี้ สถานที่อยู่ที่เมืองหนึ่งที่ห่างจากที่นี่ประมาณห้าร้อยกิโลเมตร ในงานจะมีของประมูลชิ้นหนึ่ง เป็นปีศาจที่มีสายเลือดหมีเพลิงบรรพกาลอยู่เล็กน้อย”สีหน้าเย่ซิวเปลี่ยนไปเล็กน้อยหมีเพลิงบรรพกาลเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายมากมันเป็นปีศาจที่บ้าคลั่งโดยธรรมช

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1406

    ทั่วร่างของเธอแผ่ไอหมอกสีชมพูเข้มออกมา ส่งผลให้พลังต่อสู้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเย่ซิวส่ายหน้า ผู้หญิงคนนี้นี่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริง ๆเขาใช้พลังแค่เพียงหนึ่งในสิบเท่านั้นเองแถมยังไม่ได้ใช้วิชาโลกีย์หลอมเซียนด้วยซ้ำในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ให้เธอได้สัมผัสว่าความสิ้นหวังที่แท้จริงมันเป็นยังไงกันเถอะเขาใช้วิชาโลกีย์หลอมเซียนพร้อมกับปล่อยพลังออกมาห้าส่วนในทันทีชั่วพริบตาเดียว เฉินอิ๋งอิ๋งก็แทบจะรับมือไม่ไหว ดวงตาโตคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง“นายมันแย่เกินไปแล้ว ฉันเป็นผู้หญิงนะ ไม่คิดจะออมมือให้หน่อยเหรอ”เฉินอิ๋งอิ๋งแค้นเย่ซิวจนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันเย่ซิวตอบอย่างจริงจัง “ฉันมองเธอเป็นคู่ต่อสู้ ในเมื่อเป็นคู่ต่อสู้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะออมมือ ถ้าฉันทำอย่างนั้นมันก็เท่ากับไม่ให้เกียรติเธอ เธอว่าไหมล่ะ”เฉินอิ๋งอิ๋งอ้าปากจะเถียง แต่สุดท้ายก็ไม่รู้จะพูดอะไรกลับไปดีหมอนี่พูดถูกทุกอย่าง แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกหงุดหงิดขนาดนี้ก็ไม่รู้หลังจากพยายามฝืนสู้ต่อไปได้แค่ห้านาที เธอก็เริ่มตามจังหวะของเย่ซิวไม่ทันแล้ว และรีบร้องขอให้เขาหยุดแต่เย่ซิวยังใช้วิชาโลกีย์หลอมเซียนอย่างต่อ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1405

    คนที่ปรากฏตัวต่อหน้าเย่ซิวคือเด็กสาวคนหนึ่งที่ใส่กระโปรงสั้นจู๋ ขาเรียวยาวสวมถุงน่องสีเนื้อนั่นไม่ใช่ใครอื่น เฉินอิ๋งอิ๋งนั่นเอง!เธอเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ผิวขาวจนเหมือนเรืองแสงได้ เส้นผมใสเหมือนคริสตัลดูเหมือนจะสูงขึ้นเล็กน้อยด้วย ร่างกายเต็มไปด้วยเสน่ห์โดยธรรมชาติทั้งร่างของเธอเปล่งประกายความงามที่น่าตะลึงออกมาจากภายในสู่ภายนอกเย่ซิวประหลาดใจเล็กน้อย “เธอกลับมาเร็วขนาดนี้เลยเหรอ ได้รับการถ่ายทอดพลังมาแล้วเหรอ?”เฉินอิ๋งอิ๋งเชิดหน้า “แน่นอนสิ นายคิดว่าฉันเป็นใครกัน”จากท่าทางของเธอก็รู้เลยว่าได้ผลประโยชน์กลับมาไม่น้อยแน่เย่ซิวโบกมือเรียกเธอ “เอามา”“อะไรเหรอ?”“ก็ของล้ำค่ากับทรัพยากรที่อยู่ในถ้ำนั่นไง อย่าคิดจะตุกติกนะ เธอสาบานไว้แล้วไม่ใช่เหรอ”“อ๋อ เรื่องนั้นเหรอ” เฉินอิ๋งอิ๋งหัวเราะคิกคัก “ฉันไม่คิดจะผิดสัญญาหรอกน่า แต่ก่อนจะให้ นายต้องตกลงเงื่อนไขของฉันก่อน”เย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย “เงื่อนไขอะไร?”“ฉันอยากให้นายอยู่กับฉันทั้งคืน”พูดจบ เธอก็ยักคิ้วให้เขาเล็กน้อยแค่ท่าทางกับน้ำเสียง ใครเป็นผู้ใหญ่ก็ดูออกว่าเธอหมายถึงอะไร“เรื่องสองอย่างนี้มันดูไม่ค่อยเก

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1404

    เหนือกว่าสมบัติวิญญาณก็คืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ตามตำนาน ว่ากันว่าทั้งโลกนี้มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์อยู่แค่สามชิ้นเท่านั้น และล้วนอยู่ในการครอบครองของสำนักระดับหนึ่งทั้งสามแห่งแต่ตอนนี้เย่ซิวมีมันอยู่ในมือ ซึ่งก็อาจจะเป็นชิ้นที่สี่ถ้าข่าวนี้หลุดรั่วออกไป จะต้องมียอดฝีมือจำนวนมากพุ่งตรงมาเพื่อบดเขาให้แหลกเป็นผุยผงแน่เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ เขาก็รู้สึกขนลุกเกรียวก่อนจะตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครทั้งสิ้น“เอาล่ะ ไว้เจอกันใหม่เมื่อถึงคราวมีวาสนาต่อกัน”หญิงสาวเอื้อมมือไปคว้าหลุมดำข้างหลัง แล้วก็หายตัวไปต่อหน้าต่อตาเย่ซิวไม่มีแม้แต่แรงสั่นสะเทือนของอากาศ ราวกับว่าเธอไม่เคยมีอยู่จริงเย่ซิวอดคิดไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งถึงระดับไหนกันแน่?หรือว่าจะเป็นเซียนเขาส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะเริ่มหลอมรวมเจดีย์ทองคำเข้ากับร่างกาย แล้วเก็บมันไว้ในห้วงแห่งจิตสำนึกทันทีทันทีที่เข้าไป มันก็เบียดเอากระบี่หายนะกับสัตว์วิญญาณกิเลนออกจากตำแหน่งกลาง ส่วนตัวเองก็ยึดตำแหน่งนั้นเอาไว้แทน เจดีย์ทองคำช่างโอหังนักเย่ซิวเพียงแค่คิด ก็สามารถเข้าสู่ภายในเจดีย์ได้ทันทีราวกับว่าเขาหลุดเข

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1403

    พอธูปขนาดมหึมาทั้งสามดอกจุดติด ก็เริ่มลุกไหม้อย่างรวดเร็วกลิ่นหอมของธูปกลายเป็นรูปมังกรสามตัว พุ่งเข้าสู่จมูกของหญิงสาวที่นอนอยู่จากนั้นเตียงน้ำแข็งด้านล่างของเธอก็เริ่มละลายอย่างรวดเร็วภายใต้สายตาของเย่ซิว จนกระทั่งเผยให้เห็นหลุมสีดำขนาดเท่ากำปั้นพลังวิญญาณปะทุออกมาจากหลุมนั้นอย่างต่อเนื่องจิตใจของเย่ซิวถึงกับสะเทือน ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าพลังวิญญาณมาจากที่ไหนหลุมนี้อาจจะเชื่อมต่อกับแดนสวรรค์แห่งใดแห่งหนึ่ง หรือไม่ก็เชื่อมไปยังอีกโลกหนึ่งโดยตรง“วูม!”ธูปขนาดมหึมาทั้งสามดอกไหม้หมดภายในเวลาไม่ถึงสิบวินาที และพลังทั้งหมดก็ถูกหญิงสาวดูดซับเข้าไปในร่างแล้วเธอก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและนั่นเป็นดวงตาแบบไหนกันนะ?!จิตใจของเย่ซิวถึงกับสั่นสะเทือนเขาเห็นดาราจักรหมุนเวียนในดวงตาคู่นั้น เห็นภูเขาและแม่น้ำเปลี่ยนแปลง เห็นสุริยันจันทราหมุนเวียน เห็นสรรพสิ่งกำเนิดและดับสูญ!เมื่อหญิงสาวเอ่ยปาก เสียงของเธอก็ราวกับเสียงดนตรีจากสวรรค์แว่วอยู่ข้างหูเย่ซิว ส่งผลกระทบอย่างมหาศาล ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณของเขาราวกับถูกชำระล้าง“ขอบคุณที่ช่วยเหลือ”เย่ซิวได้สติกลับมา ก่อนจะมองหญิงสาวตร

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1402

    อีกข้อหนึ่งก็คือต้องมีจิตใจที่แน่วแน่มั่นคงพอไม่อย่างนั้นจะถูกพลังอันแข็งแกร่งจากภายนอกกัดกร่อนจิตใจได้ง่าย แล้วสุดท้ายก็จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตครึ่งคนครึ่งปีศาจแต่สำหรับเย่ซิวแล้ว ข้อเสียสองข้อนี้ไม่ใช่ปัญหาเลยร่างกายของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้บำเพ็ญระดับรวมกายาเสียอีกจิตใจก็มั่นคงดั่งเหล็กกล้าเรียกได้ว่าวิชาลับนี้เหมือนถูกสร้างมาเพื่อเขาโดยเฉพาะทั้งร่างกายและจิตใจของเขาล้วนแข็งแกร่งเกินมนุษย์ถ้าสามารถหาสัตว์วิญญาณหรือปีศาจที่มีสายเลือดทรงพลังมาฝังลงในจุดลมปราณได้ พลังต่อสู้ของเขาจะพุ่งสูงขึ้นแบบก้าวกระโดดแน่นอนอารมณ์ของเขาดีขึ้นทันตา ขนาดตอนมองเฉินเฟยเจี๋ยก็ยังรู้สึกว่าเธอน่ามองมากกว่าเดิมผู้หญิงคนนี้คือเทพแห่งโชคลาภของเขาโดยแท้ เป็นเหมือนสาวน้อยผู้ส่งของวิเศษมาให้คิดได้ดังนั้น เย่ซิวก็ลุกขึ้นยืนยิ้มพลางเอ่ยว่า “ขอบคุณมากนะคุณเฉิน งั้นผมคืนให้คุณก็แล้วกัน”พูดจบก็ยื่นหนังสือเล่มนั้นคืนให้เฉินเฟยเจี๋ยเฉินเฟยเจี๋ยรับไปแล้วเก็บไว้เรียบร้อย ก่อนจะเตือนเย่ซิว “อย่าลืมนะ วิชาลับนี้สำคัญมาก ห้ามรั่วไหลแม้แต่นิดเดียว ถ้าใครเห็นเข้าก็ต้องทำให้เขาหายไป ไม่อย่างนั้นพวกเราจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status