Share

บทที่ 7

Penulis: เฉิงกวงโฮ่วถู่
"หยุดนะ! คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเรื่องบ้า ๆ กับคนไข้ของฉัน!" หมอคนสวยโกรธมากจนหน้าขึ้นสีแดง แววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

หมอชายหลายคนเมื่อเห็นการกระทำของเย่ซิว ก็พากันมาล้อมตัวเขาเอาไว้

เย่ซิวขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจคนเหล่านี้และมองไปที่หญิงสาว "นี่คือพ่อของเธอ ขึ้นอยู่กับเธอว่าจะตัดสินใจให้ช่วยหรือไม่"

ในการรักษาผู้ป่วย ขั้นตอนแรกคือต้องได้รับความยินยอมจากครอบครัวเสียก่อน

"ฉัน... พี่ได้โปรดช่วยพ่อด้วยเถอะ อย่างไรเสียผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่มีทางแย่ไปกว่านี้แล้ว หมออย่าทำให้พี่เขาต้องลำบากใจเลย"

หมอคนสวยพูดด้วยความขุ่นเคืองว่า "น้องสาว อย่าไปหลงกลเขานะ เด็กคนนี้มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเขาไม่ใช่คนดี!"

"หุบปาก!"

ทันใดนั้น เย่ซิวก็ตะโกนขึ้นเสียงดัง

เสียงของเขาดังราวกับเสือคำรามอย่างดุร้ายทำให้ทุกคนในหอผู้ป่วยต่างตกใจ แววตาของพวกเขาก็เผยให้เห็นความกลัว มีเพียงผู้ป่วยที่ไร้สติและหญิงสาว

เย่ซิวตะคอกอย่างเย็นชา "แม้แต่คนในครอบครัวเขาก็เห็นด้วย พวกคุณคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงได้กล้าพูดอะไรแบบนี้?"

หลังจากพูดแล้ว เย่ซิวจึงเพิกเฉยต่อคนที่หว่าดกลัว และเขาเริ่มดำเนินการทันที

ขั้นแรก เขาฆ่าเชื้อเข็มเงินด้วยแอลกอฮอล์ จากนั้นจึงเริ่มทำการฝังเข็ม

วิญญาณสิบสามเข็ม

มีเพียงวิธีนี้ ผสานกับพลังลมปราณที่แข็งแกร่งของเขาเองเท่านั้นที่สามารถช่วยชีวิตคนได้

การแสดงออกของเย่ซิวดูจริงจัง ขณะที่เขาปักเข็มเข้าไปในจุดฝังเข็มทีละจุด

"เขาต้องตายแน่!" หมอคนสวยกัดฟัน "นี่มันฆาตกรรมชัด ๆ!"

เธอโกรธมากและรู้สึกราวกับว่าอาชีพของเธอกำลังถูกตั้งคำถาม

"เกิดอะไรขึ้น?"

น้ำเสียงที่ฟังดูมีอายุเล็กน้อยดังลอยมาจากด้านหลัง

หมอหลายคนหันไปและพบเข้ากับชายชราผมขาวครึ่งศีรษะ ผู้มีจิตใจดียืนอยู่ตรงนั้น

"ผู้อำนวยการเฉิน!"

"เจอผู้อำนวยการเฉินก็ดีเลย!"

"เรื่องเป็นอย่างนี้ค่ะ..." หมอคนสวยอธิบายสถานการณ์ให้ผู้อำนวยการเฉินฟัง

"ไร้สาระ!" ผู้อำนวยการเฉินมองไปที่เตียงผู้ป่วย

แต่ครู่ต่อมา รูม่านตาของเขาก็หดตัวลงอย่างกะทันหันและเขาก็พูดว่า "นี่มัน...ฮึ! วิญญาณสิบสามเข็มงั้นเหรอ?"

เขาตกใจมาก ไม่อาจละสายตาได้เลย

หมอคนสวยถาม "ผู้อำนวยการ วิญญาณสิบสามเข็มคืออะไรคะ?"

ผู้อำนวยการเฉินตอบกลับโดยไม่ละสายตาไปจากเย่ซิว "วิญญาณสิบสามเข็มเป็นวิชาการฝังเข็มที่เก่าแก่และทรงพลังที่สุดในสมัยโบราณ เมื่อใช้วิชานี้แล้ว ต่อให้อยากตายก็คงไม่ง่าย!"

หมอหลายคนที่ได้ยินดังนั้น ในใจพลันเกิดความสงสัยเป็นอย่างมาก

โลกนี้จะมีทักษะทางการแพทย์เช่นนี้ได้อย่างไร?

ในขณะนี้เย่ซิวฝังเข็มเล่มสุดท้ายลงไปแล้ว

เข็มทั้งสิบสามเล่มก็สั่นเล็กน้อยต่อเนื่องกัน

ทันใดนั้นเอง ชีพจรของผู้ป่วยก็หายไปกะทันหัน อุปกรณ์ส่งเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้น

หมอคนสวยตกใจจนหน้าซีด "เขาตายแล้ว คุณกำลังก่อเหตุฆาตกรรม!"

เย่ซิวเอ่ยขึ้น "หุบปากซะ ยายโง่!"

ตั้งแต่เขาเข้ามาผู้หญิงคนนี้ก็พูดจาไม่ยอมหยุด น่ารำคาญจริง ๆ

ใบหน้าของหมอคนสวยเปลี่ยนเป็นซีดขาว นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกด่าแบบนี้!

ขณะที่เธอกำลังจะเอ่ยปากด่ากลับ สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้าทำให้เธอลืมไม่ลงไปชั่วชีวิต!

ขณะที่เย่ซิวค่อย ๆ ดึงเข็มเงินออกมาทีละเล่ม

เมื่อเข็มเงินเล่มสุดท้ายถูกดึงออกมา ผู้ป่วยที่หมอเหล่านั้นยอมแพ้ไปแล้วก็ลืมตาขึ้น

แม้ว่าเขาจะยังดูอ่อนแอมาก แต่บนใบหน้าของเขาก็ปรากฏเลือดฝาดขึ้นเล็กน้อย

เมื่อมองดูคลื่นไฟฟ้าหัวใจอีกครั้ง มันก็ค่อย ๆ เคลื่อนตัวขึ้นสู่ระยะปลอดภัย

"พ่อคะ พ่อเป็นยังไงบ้าง?"

หญิงสาวรีบวิ่งเข้าไปและร้องไห้ด้วยความดีใจ

"พ่อ...ได้นอนพักแล้วรู้สึกดีขึ้นมาก"

"ฮือ ๆ ดีจังเลยค่ะ" หญิงสาวมีความสุขมากเสียจนพูดอะไรไม่ออกด้วยซ้ำ

"เป็นไปไม่ได้!" หมอคนสวยเซถอยไปสองสามก้าว และภาพตรงหน้าที่เธอเห็นก็เกินกว่าความรู้ที่เธอมีอยู่

หมอชายคนอื่น ๆ ต่างก็ทำหน้าราวกับเห็นผีเช่นกัน

ผู้อำนวยการเฉินก้าวไปข้างหน้าเย่ซิวอย่างรวดเร็ว และเอ่ยปากอย่างสุภาพ "สวัสดี ฉันเฉินฮุยเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งนี้ ฉันขอถามได้ไหม คุณเรียนรู้ทักษะทางการแพทย์นี้จากใครกัน?"

ภาพนี้ทำให้หมอหลายคนตกตะลึงอีกครั้ง

ผู้อำนวยการเฉินมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมและเป็นที่เคารพนับถือของผู้คนมากมาย

แม้แต่คนที่มีฐานะทางสังคมสูงก็ยังต้องเกรงใจเขา เมื่อได้พบหน้า

แต่ตอนนี้พวกเขากลับเห็นผู้อำนวยการเฉินแสดงความเคารพต่อเด็กหนุ่ม พูดจาอย่างให้เกียรติเป็นที่สุดอีกด้วย?

"ต้องขอโทษด้วยแต่ผมบอกไม่ได้จริง ๆ"

อาจารย์ของเย่ซิวได้เตือนเขาตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้วว่าไม่ควรเปิดเผยตัวตนของเขา ไม่ว่าในเวลาใดก็ตาม

เย่ซิวเดาว่าบางทีอาจเป็นเพราะอาจารย์อาจทำให้หลายคนขุ่นข้องหมองใจในตอนที่เขายังเด็ก?

แต่แท้จริงแล้วเขาคิดผิด

อาจารย์ไม่ยอมให้เขาเปิดเผยตัวตนของท่าน เพราะในช่วงเวลานั้นเขาได้ช่วยชีวิตผู้คนไว้มากเกินไป

ในหมู่ผู้คนที่อาจารย์ได้เคยช่วยเหลือไว้มีบุคคลที่มีอำนาจอยู่ในนั้นด้วย

หากตัวตนของเย่ซิวถูกเปิดเผย เขาไม่จำเป็นต้องฝึกฝนอะไรเลย และจะได้รับการยกย่องจากบุคคลที่ทรงพลังเหล่านั้นทันที

นี่เป็นสิ่งที่อันตรายมาก

เฉินฮุยค่อนข้างผิดหวัง แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก แต่เขากลับหยิบนามบัตรของเขาออกมาแล้วยื่นให้เย่ซิว

"น้องชายมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม บางทีเราอาจมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันในอนาคตได้ ใช่ไหม?"

เย่ซิวเห็นว่าชายชราคนนี้ดูท่าทางใช้ได้ เขาจึงไม่ได้ปฏิเสธและหยิบนามบัตรไป

"ผู้อาวุโสอย่างคุณดูไม่เลวเลย แต่ลูกน้องของคุณนั้นไม่ไหวเลยจริง ๆ ขาดคุณสมบัติอย่างมาก"

เย่ซิวพูดประโยคนี้ขณะมองหน้าหมอคนสวย

เธอทั้งโกรธทั้งโมโห แต่ก็ไม่อาจโต้แย้งได้

มันเป็นปัญหาของเธอจริง ๆ

เฉินฮุยยิ้มอย่างขมขื่น "มู่ชิงมีนิสัยสุดโต่งเล็กน้อย หวังว่าคุณจะไม่ถือสา"

เย่ซิวไม่อยากทะเลาะผู้หญิง เขาจึงเอ่ยเพียงว่า "ช่วยจัดการเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้ก็พอ"

มู่ชิงนึกอยากเอ่ยปาก แต่ถูกสายตาของเฉินฮุยห้ามไว้ เธอรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก

หากเป็นเช่นนี้ ก็หมายความว่าพวกเขาไร้ความสามารถไม่ใช่หรือ?

แต่ในความคิดของเย่ซิวคิด สถานะทางครอบครัวของหญิงสาวไม่สู้ดีนัก

การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลต่อเนื่องจะต้องมีค่าใช้จ่ายสูงมาก

และชีวิตพ่อของเธอในตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้วเพียงแค่ต้องพักฟื้นที่บ้านสักระยะหนึ่ง

เฉินฮุยพยักหน้า "เอาล่ะ ให้มู่ชิงจัดการเรื่องนี้เถอะ"

มู่ชิงเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ยิ่งเธอหงุดหงิด เธอก็ยิ่งไม่พอใจมากขึ้นเท่านั้น

เพียงแต่เธอไม่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งของเฉินฮุย เธอจ้องมองเย่ซิวอย่างดุร้ายก่อนไป

จากนั้นเธอก็จงใจเดินกระแทกรองเท้าส้นสูงและจากไปพร้อมกับเสียงรองเท้านั้น

……

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ขั้นตอนการออกจากโรงพยาบาลก็เสร็จสิ้น

ทั้งสามคนออกจากโรงพยาบาล

ในระหว่างทาง พ่อและลูกสาวต่างรู้สึกขอบคุณเย่ซิวเป็นอย่างมาก

เขาไม่เพียงช่วยชีวิตคนเท่านั้น แต่ยังช่วยชีวิตครอบครัวและอนาคตของหญิงสาวไว้อีกด้วย

ในระหว่างการสนทนา เย่ซิวก็ได้รู้ชื่อของหญิงสาวเธอชื่อหลิ่วเมิ่งอิ๋นและพ่อของเธอชื่อหลิ่วมู่

เมื่อส่งสองพ่อลูกกลับถึงบ้าน เย่ซิวก็พร้อมที่จะจากไป

ใบหน้าหลิ่วเมิ่งอิ๋นเปลี่ยนเป็นสีแดง "พี่เย่ นี่มันก็ดึกมากแล้ว ทำไมไม่อยู่ทานอาหารและพักค้างคืนที่นี่ล่ะ?"

หลิ่วมู่ยังกล่าวอีกว่า "ใช่แล้ว คุณเป็นผู้มีพระคุณของเรา หากคุณจากไปแบบนี้ พวกเราคงจะไม่สบายใจไปตลอดชีวิต"

ภายใต้การโน้มน้าวของพ่อและลูกสาว เย่ซิวจึงตอบตกลงที่จะอยู่ที่นี่ในคืนนี้

หลิ่วมู่ยังคงอ่อนแอมาก ดังนั้นเมื่อเขากลับถึงบ้าน เขาจึงเข้าไปพักผ่อนที่ห้องนอนเทันที

หลิ่วเมิ่งอิ๋นไปซื้อผักที่ตลาดอย่างมีความสุข

วันนี้เป็นวันที่เธอมีความสุขที่สุดในรอบสิบกว่าปี

ก่อนไปตลาด หลิ่วเมิ่งอิ๋นดึงเย่ซิวมานั่งในห้องของเธอ

เพราะช่วงนี้เธอยุ่งมาก ห้องนั่งเล่นจึงสกปรกและรกมากทำให้ไม่มีที่เหลือให้นั่ง

หลังจากนั้นเธอก็จากไปพร้อมใบหน้าแดงก่ำ

เย่ซิวนั่งอยู่บนขอบเตียงและมองไปรอบ ๆ

ทันใดนั้น เขาก็เห็นอะไรบางอย่างที่มีสีขาว

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1407

    “ว่าไง?”“ก่อนนายจะไป มาฝึกกับฉันอีกครั้งเถอะ!”น้ำเสียงของเธอแน่วแน่มาก เธอแทบจะพูดผ่านไรฟันที่กัดแน่น เหมือนกำลังเดินเข้าสู่ลานประหารยังไงยังงั้นเย่ซิวถอนหายใจเงียบ ๆเธอก็คงรับไม่ได้จริง ๆ กับการที่ทั้งสองฝั่งกลายเป็นศัตรูกันนี่น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็ได้ งั้นก็ให้เธอสมหวังก็แล้วกันผ่านไปกว่าสามชั่วโมง แสงทั้งสองสายก็พุ่งออกไปคนละทิศทางแสงหนึ่งในนั้นคือเฉินอิ๋งอิ๋งที่ตาแดงก่ำ พลางเอ่ยเสียงสั่น “ฮือ ๆ ๆ ฉันอกหักเหรอเนี่ย…”……เมื่อเย่ซิวกลับมาถึงสำนัก ก็เห็นหลัวเวยเวยเดินกลับมาจากข้างนอกพอเธอเห็นเขา ใบหน้าของเธอก็ฉายแววยินดีออกมา “สัตว์วิญญาณหรือปีศาจที่มีสายเลือดแข็งแกร่งที่นายให้ฉันช่วยตามหาน่ะ ตอนนี้ได้ข่าวแล้วนะ”“จริงเหรอ? เล่าให้ฟังหน่อยเร็ว”หลัวเวยเวยเม้มริมฝีปากเล็กน้อย “มีงานประมูลงานหนึ่งจะจัดขึ้นพรุ่งนี้ สถานที่อยู่ที่เมืองหนึ่งที่ห่างจากที่นี่ประมาณห้าร้อยกิโลเมตร ในงานจะมีของประมูลชิ้นหนึ่ง เป็นปีศาจที่มีสายเลือดหมีเพลิงบรรพกาลอยู่เล็กน้อย”สีหน้าเย่ซิวเปลี่ยนไปเล็กน้อยหมีเพลิงบรรพกาลเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายมากมันเป็นปีศาจที่บ้าคลั่งโดยธรรมช

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1406

    ทั่วร่างของเธอแผ่ไอหมอกสีชมพูเข้มออกมา ส่งผลให้พลังต่อสู้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเย่ซิวส่ายหน้า ผู้หญิงคนนี้นี่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริง ๆเขาใช้พลังแค่เพียงหนึ่งในสิบเท่านั้นเองแถมยังไม่ได้ใช้วิชาโลกีย์หลอมเซียนด้วยซ้ำในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ให้เธอได้สัมผัสว่าความสิ้นหวังที่แท้จริงมันเป็นยังไงกันเถอะเขาใช้วิชาโลกีย์หลอมเซียนพร้อมกับปล่อยพลังออกมาห้าส่วนในทันทีชั่วพริบตาเดียว เฉินอิ๋งอิ๋งก็แทบจะรับมือไม่ไหว ดวงตาโตคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง“นายมันแย่เกินไปแล้ว ฉันเป็นผู้หญิงนะ ไม่คิดจะออมมือให้หน่อยเหรอ”เฉินอิ๋งอิ๋งแค้นเย่ซิวจนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันเย่ซิวตอบอย่างจริงจัง “ฉันมองเธอเป็นคู่ต่อสู้ ในเมื่อเป็นคู่ต่อสู้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะออมมือ ถ้าฉันทำอย่างนั้นมันก็เท่ากับไม่ให้เกียรติเธอ เธอว่าไหมล่ะ”เฉินอิ๋งอิ๋งอ้าปากจะเถียง แต่สุดท้ายก็ไม่รู้จะพูดอะไรกลับไปดีหมอนี่พูดถูกทุกอย่าง แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกหงุดหงิดขนาดนี้ก็ไม่รู้หลังจากพยายามฝืนสู้ต่อไปได้แค่ห้านาที เธอก็เริ่มตามจังหวะของเย่ซิวไม่ทันแล้ว และรีบร้องขอให้เขาหยุดแต่เย่ซิวยังใช้วิชาโลกีย์หลอมเซียนอย่างต่อ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1405

    คนที่ปรากฏตัวต่อหน้าเย่ซิวคือเด็กสาวคนหนึ่งที่ใส่กระโปรงสั้นจู๋ ขาเรียวยาวสวมถุงน่องสีเนื้อนั่นไม่ใช่ใครอื่น เฉินอิ๋งอิ๋งนั่นเอง!เธอเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ผิวขาวจนเหมือนเรืองแสงได้ เส้นผมใสเหมือนคริสตัลดูเหมือนจะสูงขึ้นเล็กน้อยด้วย ร่างกายเต็มไปด้วยเสน่ห์โดยธรรมชาติทั้งร่างของเธอเปล่งประกายความงามที่น่าตะลึงออกมาจากภายในสู่ภายนอกเย่ซิวประหลาดใจเล็กน้อย “เธอกลับมาเร็วขนาดนี้เลยเหรอ ได้รับการถ่ายทอดพลังมาแล้วเหรอ?”เฉินอิ๋งอิ๋งเชิดหน้า “แน่นอนสิ นายคิดว่าฉันเป็นใครกัน”จากท่าทางของเธอก็รู้เลยว่าได้ผลประโยชน์กลับมาไม่น้อยแน่เย่ซิวโบกมือเรียกเธอ “เอามา”“อะไรเหรอ?”“ก็ของล้ำค่ากับทรัพยากรที่อยู่ในถ้ำนั่นไง อย่าคิดจะตุกติกนะ เธอสาบานไว้แล้วไม่ใช่เหรอ”“อ๋อ เรื่องนั้นเหรอ” เฉินอิ๋งอิ๋งหัวเราะคิกคัก “ฉันไม่คิดจะผิดสัญญาหรอกน่า แต่ก่อนจะให้ นายต้องตกลงเงื่อนไขของฉันก่อน”เย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย “เงื่อนไขอะไร?”“ฉันอยากให้นายอยู่กับฉันทั้งคืน”พูดจบ เธอก็ยักคิ้วให้เขาเล็กน้อยแค่ท่าทางกับน้ำเสียง ใครเป็นผู้ใหญ่ก็ดูออกว่าเธอหมายถึงอะไร“เรื่องสองอย่างนี้มันดูไม่ค่อยเก

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1404

    เหนือกว่าสมบัติวิญญาณก็คืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ตามตำนาน ว่ากันว่าทั้งโลกนี้มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์อยู่แค่สามชิ้นเท่านั้น และล้วนอยู่ในการครอบครองของสำนักระดับหนึ่งทั้งสามแห่งแต่ตอนนี้เย่ซิวมีมันอยู่ในมือ ซึ่งก็อาจจะเป็นชิ้นที่สี่ถ้าข่าวนี้หลุดรั่วออกไป จะต้องมียอดฝีมือจำนวนมากพุ่งตรงมาเพื่อบดเขาให้แหลกเป็นผุยผงแน่เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ เขาก็รู้สึกขนลุกเกรียวก่อนจะตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครทั้งสิ้น“เอาล่ะ ไว้เจอกันใหม่เมื่อถึงคราวมีวาสนาต่อกัน”หญิงสาวเอื้อมมือไปคว้าหลุมดำข้างหลัง แล้วก็หายตัวไปต่อหน้าต่อตาเย่ซิวไม่มีแม้แต่แรงสั่นสะเทือนของอากาศ ราวกับว่าเธอไม่เคยมีอยู่จริงเย่ซิวอดคิดไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งถึงระดับไหนกันแน่?หรือว่าจะเป็นเซียนเขาส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะเริ่มหลอมรวมเจดีย์ทองคำเข้ากับร่างกาย แล้วเก็บมันไว้ในห้วงแห่งจิตสำนึกทันทีทันทีที่เข้าไป มันก็เบียดเอากระบี่หายนะกับสัตว์วิญญาณกิเลนออกจากตำแหน่งกลาง ส่วนตัวเองก็ยึดตำแหน่งนั้นเอาไว้แทน เจดีย์ทองคำช่างโอหังนักเย่ซิวเพียงแค่คิด ก็สามารถเข้าสู่ภายในเจดีย์ได้ทันทีราวกับว่าเขาหลุดเข

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1403

    พอธูปขนาดมหึมาทั้งสามดอกจุดติด ก็เริ่มลุกไหม้อย่างรวดเร็วกลิ่นหอมของธูปกลายเป็นรูปมังกรสามตัว พุ่งเข้าสู่จมูกของหญิงสาวที่นอนอยู่จากนั้นเตียงน้ำแข็งด้านล่างของเธอก็เริ่มละลายอย่างรวดเร็วภายใต้สายตาของเย่ซิว จนกระทั่งเผยให้เห็นหลุมสีดำขนาดเท่ากำปั้นพลังวิญญาณปะทุออกมาจากหลุมนั้นอย่างต่อเนื่องจิตใจของเย่ซิวถึงกับสะเทือน ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าพลังวิญญาณมาจากที่ไหนหลุมนี้อาจจะเชื่อมต่อกับแดนสวรรค์แห่งใดแห่งหนึ่ง หรือไม่ก็เชื่อมไปยังอีกโลกหนึ่งโดยตรง“วูม!”ธูปขนาดมหึมาทั้งสามดอกไหม้หมดภายในเวลาไม่ถึงสิบวินาที และพลังทั้งหมดก็ถูกหญิงสาวดูดซับเข้าไปในร่างแล้วเธอก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและนั่นเป็นดวงตาแบบไหนกันนะ?!จิตใจของเย่ซิวถึงกับสั่นสะเทือนเขาเห็นดาราจักรหมุนเวียนในดวงตาคู่นั้น เห็นภูเขาและแม่น้ำเปลี่ยนแปลง เห็นสุริยันจันทราหมุนเวียน เห็นสรรพสิ่งกำเนิดและดับสูญ!เมื่อหญิงสาวเอ่ยปาก เสียงของเธอก็ราวกับเสียงดนตรีจากสวรรค์แว่วอยู่ข้างหูเย่ซิว ส่งผลกระทบอย่างมหาศาล ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณของเขาราวกับถูกชำระล้าง“ขอบคุณที่ช่วยเหลือ”เย่ซิวได้สติกลับมา ก่อนจะมองหญิงสาวตร

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1402

    อีกข้อหนึ่งก็คือต้องมีจิตใจที่แน่วแน่มั่นคงพอไม่อย่างนั้นจะถูกพลังอันแข็งแกร่งจากภายนอกกัดกร่อนจิตใจได้ง่าย แล้วสุดท้ายก็จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตครึ่งคนครึ่งปีศาจแต่สำหรับเย่ซิวแล้ว ข้อเสียสองข้อนี้ไม่ใช่ปัญหาเลยร่างกายของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้บำเพ็ญระดับรวมกายาเสียอีกจิตใจก็มั่นคงดั่งเหล็กกล้าเรียกได้ว่าวิชาลับนี้เหมือนถูกสร้างมาเพื่อเขาโดยเฉพาะทั้งร่างกายและจิตใจของเขาล้วนแข็งแกร่งเกินมนุษย์ถ้าสามารถหาสัตว์วิญญาณหรือปีศาจที่มีสายเลือดทรงพลังมาฝังลงในจุดลมปราณได้ พลังต่อสู้ของเขาจะพุ่งสูงขึ้นแบบก้าวกระโดดแน่นอนอารมณ์ของเขาดีขึ้นทันตา ขนาดตอนมองเฉินเฟยเจี๋ยก็ยังรู้สึกว่าเธอน่ามองมากกว่าเดิมผู้หญิงคนนี้คือเทพแห่งโชคลาภของเขาโดยแท้ เป็นเหมือนสาวน้อยผู้ส่งของวิเศษมาให้คิดได้ดังนั้น เย่ซิวก็ลุกขึ้นยืนยิ้มพลางเอ่ยว่า “ขอบคุณมากนะคุณเฉิน งั้นผมคืนให้คุณก็แล้วกัน”พูดจบก็ยื่นหนังสือเล่มนั้นคืนให้เฉินเฟยเจี๋ยเฉินเฟยเจี๋ยรับไปแล้วเก็บไว้เรียบร้อย ก่อนจะเตือนเย่ซิว “อย่าลืมนะ วิชาลับนี้สำคัญมาก ห้ามรั่วไหลแม้แต่นิดเดียว ถ้าใครเห็นเข้าก็ต้องทำให้เขาหายไป ไม่อย่างนั้นพวกเราจ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status