ไซม่อนเชยคางของชารอนขึ้นเพื่อมองดูเธอ เขาจ้องมองใบหน้าเล็กที่เงาราวกับกระเบื้องเคลือบของเธอด้วยดวงตาที่แคบลง “คุณให้ความสำคัญกับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่ดีกว่าเหรอ? หากคุณต้องการจะไถ่โทษให้ตัวเองจริง ๆ ก็มาเป็นผู้หญิงของผม และทำให้ผมมีความสุข”สรุปว่าเขายังคงตั้งใจจะขอให้เธอกลับไปหาเขางั้นเหรอ? เธอไม่เคยคิดเลยว่าชายคนนั้นจะทำตัวเจ้าเล่ห์ได้ขนาดนี้!ทันใดนั้น ชารอนก็โอบแขนของเธอไว้รอบคอของเขา และเธอก็ถามเขาด้วยน้ำเสียงขี้เล่นว่า “แล้วเมื่อไหร่คุณจะให้สถานะที่ชัดเจนกับฉันล่ะคะ?”“คุณต้องการสถานะแบบไหนล่ะ? การเป็นผู้หญิงของผมมันยังไม่พออีกเหรอ?” เสียงของไซม่อนลดลงเป็นน้ำเสียงที่ฟังดูซุกซนชารอนแสร้งทำเป็นไม่พอใจกับคำพูดของเขา และโต้กลับว่า “แม้แต่ซัมเมอร์ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของคุณ แล้วคุณจะไม่ให้อะไรฉันเลยเหรอคะ?”ไซม่อนขยับเข้ามาใกล้เธอ หน้าผากของเขาแนบชิดเธอ ขณะที่นิ้วยาวของเขาลูบไล้บนแก้มของเธอ “ผมจะยกตัวตนทั้งหมดของผมให้กับคุณ แล้วสถานะที่ไร้ความหมายยังจะมีประโยชน์อะไรอีก?”เธอดึงมือของชายคนนั้นออก ก่อนจะเอียงศีรษะไปด้านข้างเพื่อหลบหลีกริมฝีปากของเขาที่ใกล้เข้ามา จากนั้นเธอก
ในขณะที่คนขับกำลังจะเหยียบคันเร่ง จู่ ๆ ก็มีรถยนต์คันหนึ่งแล่นเข้ามาขวางทางพวกเขาเอาไว้ถนนเล็ก ๆ ในหมู่บ้านบนภูเขานั้นกว้างพอสำหรับให้รถยนต์เพียงคันเดียวแล่นผ่านเท่านั้น ทันทีที่มีรถคันอื่นขับเข้ามาในทางตรงข้าม พวกเขาก็ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้“มีคนขวางทางเราอยู่ครับ ท่านประธานแซคคารี่” คนขับรายงานเจ้านายที่นั่งอยู่บนเบาะหลังไซม่อนรู้สึกกระวนกระวายใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และการมีใครบางคนมาขวางทางของพวกเขา ยิ่งทำให้เขารู้สึกอารมณ์เสียมากกว่าเดิม ไอ้สารเลวคนไหนกล้ามาขวางทางเขาแบบนี้?ชารอนมองผ่านกระจกหน้ารถ เธอเห็นรถเบนท์ลีย์สีดำจอดอยู่ข้างหน้า และหมายเลขป้ายทะเบียนคือ...เธอจำได้ว่ามันเป็นรถของใคร และรู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมาทันที และแน่นอน เธอเห็นยูจีนกำลังก้าวลงมาจากรถคันนั้น ขณะที่หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความกังวลอีกครั้ง“ดูเหมือนจะเป็นประธานยูจีนนะครับ” คนขับรถรายงานไซม่อนอีกครั้ง“ฉันเห็นแล้ว” ไซม่อนตอบอย่างเย็นชายูจีนสามารถมาเดินทางมาที่นี่ได้ทันทีที่ถนนโล่ง ใครกันที่บอกข้อมูลเขาเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ได้อย่างถูกต้องแม่นยำนัก?ไซม่อนหรี่ตาลง ขณะหันไปมองผู้หญิงที่อยู่ข้าง
“เมื่อวานฉันขับรถไปที่รีสอร์ท แต่พอขับไปได้ครึ่งทางรถก็เสีย บังเอิญเขาผ่านมาทางนั้นพอดี เขาก็เลยอาสาจะพาฉันไปส่ง แต่ระหว่างทางไปที่นั่นเราเจอดินถล่มโดยไม่คาดคิดค่ะ”เมื่อฟังคำอธิบายของเธอ ยูจีนก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น “นั่นก็หมายความว่าผมเป็นหนี้บุญคุณเขาจริง ๆ” เขาหยุดชั่วครู่แล้วตบไหล่เธอ “ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะตอบแทนบุญคุณเขาแทนคุณเอง เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเป็นหนี้เขา”ชารอนสับสนกับข้อเสนอของเขาและโบกมือให้เขา “ฉันปล่อยให้คุณทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกค่ะ แม้ว่าหนี้บุญคุณจะต้องได้รับการชดใช้ แต่ฉันก็ควรจะเป็นคนชดใช้มันเอง”“คุณหรือผมเป็นคนชดใช้แล้วมันแตกต่างกันยังไง? อย่างไรก็ตาม ผมตัดสินใจเรื่องนี้แล้ว” เขาสรุปให้เธอทันที สรุปก็คือเธอไม่ได้รับอนุญาตให้ยุ่งเกี่ยวกับไซม่อนชารอนรู้สึกผงะเมื่อได้ยินข้อสรุปอย่างกะทันหันของยูจีน หากมีคนอื่นอยู่ด้วยในขณะนี้ พวกเขาคงเข้าใจความสัมพันธ์ของพวกเขาผิดอย่างแน่นอน จากการได้เห็นท่าทีที่ต้องการจะปกป้องเธอมากเกินไปของยูจีน ไม่น่าแปลกใจเลยที่พี่ชายคนรองของเขาจะเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นแฟนของเขา“ฉันคิดว่าคุณไม่ควรใส่ใจเรื่องส่วนตัวของฉันมากเกินไปนะคะยูจีน ท
ชารอนและชายคนนั้นจ้องมองกันอยู่ภายในรถ รอยยิ้มบนริมฝีปากของเธอเริ่มเกร็งขึ้น เธออธิบายเหตุผลให้เขาฟังมากมาย แต่เขาได้ตั้งใจฟังบ้างหรือเปล่า?บางทีเขาอาจจะยังไม่พอใจกับคำอธิบายของเธอเธอไม่สามารถรักษารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอไว้ได้อีกต่อไป และในที่สุดชายคนนั้นก็พูดว่า “คุณกำลังบอกว่าผมกล่าวหาคุณแบบผิด ๆ งั้นเหรอ? คุณแค่พยายามที่จะปิดบังเรื่องความสัมพันธ์ของเรา เพื่ออนาคตของเรา? แค่นั้นจริงเหรอ?”"ก็ใช่น่ะสิคะ เรื่องบางเรื่องก็ไม่ควรเปิดเผยให้คนอื่นรับรู้มากจนเกินไป ดังนั้นเราจึงไม่ควรทำตัวโจ่งแจ้ง”ใบหน้าของไซม่อนยังคงดูตึงเครียด เขายกคางของเธอขึ้นแล้วพูดว่า “ชารอน เรื่องของเราจะไม่ถูกปิดเป็นความลับไปตลอดหรอก คุณเข้าใจไหม?""ฉันรู้ค่ะ มันก็เหมือนกับตอนที่เราเคยแต่งงานกัน มันเป็นการแต่งงานที่ไม่ถูกเปิดเผย แต่ก็ยังถูกกฎหมาย”สีหน้าของเขาผ่อนคลายลงเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ อย่างไรก็ตาม เขายังคงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย “แล้วคราวนี้คุณจะชดใช้ให้ผมยังไงล่ะ?”ชดใช้? เมื่อกี้เธอทำอะไรผิด?เขามักจะหาข้ออ้างมาให้เธอชดใช้เขาอยู่เสมอ!เธอเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาของชายคนนั้น และลังเลเล็กน้อย
“ได้โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วยครับคุณยีนส์ เรา... เราถูกจ้างให้มาทำงานของเรา” ทั้งสองร้องขอความเมตตาขณะคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด“ใครจ้างพวกแกมา” เธอถามอย่างเย็นชา“คือ…” ทั้งสองมีสีหน้าลำบากใจ ดูเหมือนพวกเขาจะรู้สึกวิตกกังวลอยู่ไม่น้อยชารอนขอมีดคม ๆ เล่มหนึ่งจากบอดี้การ์ดแล้วนั่งลง เธอจงใจโบกมีดไปมาต่อหน้าชายทั้งสองก่อนจะพูดว่า “ฉันได้ยินมาว่าถ้าใครเป็นคนไม่ซื่อสัตย์ พวกเขาจะไม่มีทางพูดโกหกได้อีก ถ้าเราตัดลิ้นของพวกเขาออก ในเมื่อพวกแกไม่ยอมบอกความจริงกับฉัน ฉันคิดว่าลิ้นของพวกแกก็คงไม่มีประโยชน์อีกต่อไป งั้นฉันตัดมันออกเลยดีกว่า”ขณะที่เธอพูดคำเหล่านี้ เธอชี้มีดคมกริบไปที่ริมฝีปากของอันธพาลคนหนึ่ง และเตรียมพร้อมที่จะตัดมัน...“ผมยอมบอกแล้ว ผมจะเล่าให้คุณฟังทุกอย่าง! อย่าทำร้ายผมเลย!” อันธพาลร้องขอความเมตตาอย่างหวาดกลัว“งั้นก็รีบพูดมา!” เธอวางมีดไว้ข้างริมฝีปากของชายคนนั้น เธอเตรียมที่จะตัดมันทิ้งถ้าเขาไม่ยอมพูดความจริง“คือ… คุณลุค เธอให้เงินเรา และบอกให้เรามาลักพาตัวคุณครับ”"คุณลุค? แกหมายถึง แซลลี่ ลุค เหรอ?” ชารอนขมวดคิ้ว นอกจากแซลลี่ที่ชั่วร้ายแล้ว เธอก็นึกไม่ออกว่าจะมีคนที่ช
ภายในโกดังเก่าแห่งหนึ่ง มือของชารอนถูกมัดไว้ด้านหลัง ขณะที่เธอนอนอยู่บนพื้น กลุ่มคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอคือพวกอันธพาลที่ลักพาตัวเธอมา“ฉันบอกแกแล้วไงว่าอย่าขัดขืน มันไม่มีประโยชน์หรอก…” พวกอันธพาลหัวเราะอย่างชั่วร้าย และไร้ซึ่งจิตสำนึก“ไอ้พวกบ้า! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ! ถ้าพวกแกกล้าแตะต้องฉันแม้แต่นิดเดียว พวกแกได้เห็นดีแน่!” ชารอนจ้องมองอันธพาลเหล่านั้น และตะคอกด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง“ชิ แกคิดว่าแกเป็นคุณหนูไฮโซจากตระกูลเศรษฐี หรือเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์หรือไง? ทำไมเราจะแตะต้องแกไม่ได้? หืม?"พวกอันธพาลยังคงเยาะเย้ยเธอต่อไป"แกพูดถูก ฉันอาจจะไม่ใช่ลูกสาวของตระกูลเศรษฐี และฉันก็ไม่ใช่เจ้าหญิง แต่แกควรรู้เอาไว้ว่าฉันเป็นผู้หญิงของท่านประธานไซมอน แซคคารี่ คิดให้รอบคอบก่อนที่แกจะพยายามทำให้เขาขุ่นเคือง มันจะดีกว่าถ้าแกปล่อยฉันไปตอนนี้!”พวกอันธพาลหันไปมองหน้ากัน พวกเขารู้สึกตกใจกับคำพูดของเธออยู่ไม่น้อย หากเธอเป็นผู้หญิงของไซมอน แซคคารี่ จริง ๆ พวกเขาคงไม่กล้าทำให้เขาขุ่นเคืองใจอย่างแน่นอน“ไม่ต้องไปฟังคำพูดไร้สาระของเธอหรอก เธอไม่ใช่ผู้หญิงของประธานแซคคารี่อีกต่อไปแล้ว ประธานแซคคารี่หย่า
เธอถอนหายใจอย่างแรงแล้วดึงมือออก จากนั้นเธอก็โยนกล่องสีดำใบเล็กที่นำติดตัวมาด้วยให้กับพวกอันธพาล “พวกแกลองเปิดกล่องนี้ดูแล้วนับเงินให้เรียบร้อย ฉันคิดว่าฉันคงไม่ติดค้างอะไรพวกแกอีก นับเงินเสร็จแล้วก็เริ่มการแสดงได้เลย!”“เธอคิดจะทำอะไรน่ะ แซลลี่” ชารอนถามอย่างสงสัยแซลลี่มองเธออีกครั้งแล้วเยาะเย้ย “ทำไมเธอถึงรีบร้อนนักล่ะ?” จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นและหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเธอแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นความเจ็บปวดและความสิ้นหวังบนใบหน้าของชารอน!“ทำไม...ทำไมเธอถึงใจร้ายขนาดนี้? ทำไมเธอต้องทำร้ายฉันด้วย!”“เรื่องนี้เธอคงต้องโทษตัวเองนะ เธอเป็นคนทำให้โฮเวิร์ดขอหย่ากับฉัน และนั่นก็ทำให้ฉันเกลียดเธอมาก!” เธออยากให้ชารอนตายต่อหน้าเธอตรงนั้น แต่ถึงกระนั้น เธอก็ไม่อยากปล่อยให้ชารอนตายเร็วจนเกินไป เธอต้องทรมานชารอน และทำให้เธอได้พบกับสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเธอก่อน!“ฮ่า… เธอน่ะเกลียดฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เธอเองไม่ใช่เหรอที่ทำให้ผู้จัดการคุกต้องตาย? ยิ่งไปกว่านั้น เธอจงใจทำให้ตัวเองตกบันได และฆ่าลูกชายในท้องของเธอ แล้วโยนความผิดทุกอย่างมาให้ฉัน! และมีครั้งหนึ่งที่พวกอันธพาลลักพาตัวฉัน และ
"หยุด! ไม่งั้นผมยิงจริง ๆ นะ!” ไซมอนขู่ ขณะเล็งปืนที่เขาคว้ามาจากตำรวจที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาไปที่แซลลี่เขาสามารถหยุดแซลลี่จากการทำร้ายชารอนจนถึงแก่ชีวิตได้ แต่ก็ยังทำให้เธอสั่นเล็กน้อยจนทิ้งบาดแผลที่ลึกยิ่งกว่าไว้ที่คอของชารอน และเลือดสีแดงก็เริ่มไหลอาบตามร่างกายของเธอ...อาการปวดแสบปวดร้อนที่คอทำให้ชารอนหายใจลำบาก อย่างไรก็ตาม เธอกลับรู้สึกกังวลเกี่ยวกับไซมอน ซึ่งกำลังถือปืนอยู่ในมือของเขามากกว่า เธอไม่อยากให้เขาต้องพลั้งมือฆ่าใครตายเพราะเธอยิ่งไปกว่านั้น แซลลี่ไม่สมควรที่จะตายง่าย ๆ แบบนี้!รูม่านตาของไซมอนขยายออกเมื่อเขาเห็นเลือดที่ไหลอาบคอของชารอน เขาจ้องมองแซลลี่ด้วยสายตาอาฆาต ก่อนจะตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวว่า "ปล่อยเธอซะ!"แซลลี่ตกตะลึง แต่เธอก็ดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว เธอมองไซมอนด้วยสีหน้าเย้ยหยัน เธอรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่สามารถยอมรับชะตากรรมในปัจจุบันของเธอได้ “คุณห่วงเธอมากขนาดนั้นเลยเหรอ ไซมอน? คุณไม่กลัวว่าวันหนึ่งเธอจะทรยศคุณงั้นเหรอ?”“หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว ผมบอกให้ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!”มือของแซลลี่ที่ถือมีดสั่นเล็กน้อย ความรู้สึกเกลียดชังอย่างสุดซึ้งปรา