“เมื่อวานฉันขับรถไปที่รีสอร์ท แต่พอขับไปได้ครึ่งทางรถก็เสีย บังเอิญเขาผ่านมาทางนั้นพอดี เขาก็เลยอาสาจะพาฉันไปส่ง แต่ระหว่างทางไปที่นั่นเราเจอดินถล่มโดยไม่คาดคิดค่ะ”เมื่อฟังคำอธิบายของเธอ ยูจีนก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น “นั่นก็หมายความว่าผมเป็นหนี้บุญคุณเขาจริง ๆ” เขาหยุดชั่วครู่แล้วตบไหล่เธอ “ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะตอบแทนบุญคุณเขาแทนคุณเอง เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเป็นหนี้เขา”ชารอนสับสนกับข้อเสนอของเขาและโบกมือให้เขา “ฉันปล่อยให้คุณทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกค่ะ แม้ว่าหนี้บุญคุณจะต้องได้รับการชดใช้ แต่ฉันก็ควรจะเป็นคนชดใช้มันเอง”“คุณหรือผมเป็นคนชดใช้แล้วมันแตกต่างกันยังไง? อย่างไรก็ตาม ผมตัดสินใจเรื่องนี้แล้ว” เขาสรุปให้เธอทันที สรุปก็คือเธอไม่ได้รับอนุญาตให้ยุ่งเกี่ยวกับไซม่อนชารอนรู้สึกผงะเมื่อได้ยินข้อสรุปอย่างกะทันหันของยูจีน หากมีคนอื่นอยู่ด้วยในขณะนี้ พวกเขาคงเข้าใจความสัมพันธ์ของพวกเขาผิดอย่างแน่นอน จากการได้เห็นท่าทีที่ต้องการจะปกป้องเธอมากเกินไปของยูจีน ไม่น่าแปลกใจเลยที่พี่ชายคนรองของเขาจะเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นแฟนของเขา“ฉันคิดว่าคุณไม่ควรใส่ใจเรื่องส่วนตัวของฉันมากเกินไปนะคะยูจีน ท
ชารอนและชายคนนั้นจ้องมองกันอยู่ภายในรถ รอยยิ้มบนริมฝีปากของเธอเริ่มเกร็งขึ้น เธออธิบายเหตุผลให้เขาฟังมากมาย แต่เขาได้ตั้งใจฟังบ้างหรือเปล่า?บางทีเขาอาจจะยังไม่พอใจกับคำอธิบายของเธอเธอไม่สามารถรักษารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอไว้ได้อีกต่อไป และในที่สุดชายคนนั้นก็พูดว่า “คุณกำลังบอกว่าผมกล่าวหาคุณแบบผิด ๆ งั้นเหรอ? คุณแค่พยายามที่จะปิดบังเรื่องความสัมพันธ์ของเรา เพื่ออนาคตของเรา? แค่นั้นจริงเหรอ?”"ก็ใช่น่ะสิคะ เรื่องบางเรื่องก็ไม่ควรเปิดเผยให้คนอื่นรับรู้มากจนเกินไป ดังนั้นเราจึงไม่ควรทำตัวโจ่งแจ้ง”ใบหน้าของไซม่อนยังคงดูตึงเครียด เขายกคางของเธอขึ้นแล้วพูดว่า “ชารอน เรื่องของเราจะไม่ถูกปิดเป็นความลับไปตลอดหรอก คุณเข้าใจไหม?""ฉันรู้ค่ะ มันก็เหมือนกับตอนที่เราเคยแต่งงานกัน มันเป็นการแต่งงานที่ไม่ถูกเปิดเผย แต่ก็ยังถูกกฎหมาย”สีหน้าของเขาผ่อนคลายลงเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ อย่างไรก็ตาม เขายังคงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย “แล้วคราวนี้คุณจะชดใช้ให้ผมยังไงล่ะ?”ชดใช้? เมื่อกี้เธอทำอะไรผิด?เขามักจะหาข้ออ้างมาให้เธอชดใช้เขาอยู่เสมอ!เธอเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาของชายคนนั้น และลังเลเล็กน้อย
“ได้โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วยครับคุณยีนส์ เรา... เราถูกจ้างให้มาทำงานของเรา” ทั้งสองร้องขอความเมตตาขณะคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด“ใครจ้างพวกแกมา” เธอถามอย่างเย็นชา“คือ…” ทั้งสองมีสีหน้าลำบากใจ ดูเหมือนพวกเขาจะรู้สึกวิตกกังวลอยู่ไม่น้อยชารอนขอมีดคม ๆ เล่มหนึ่งจากบอดี้การ์ดแล้วนั่งลง เธอจงใจโบกมีดไปมาต่อหน้าชายทั้งสองก่อนจะพูดว่า “ฉันได้ยินมาว่าถ้าใครเป็นคนไม่ซื่อสัตย์ พวกเขาจะไม่มีทางพูดโกหกได้อีก ถ้าเราตัดลิ้นของพวกเขาออก ในเมื่อพวกแกไม่ยอมบอกความจริงกับฉัน ฉันคิดว่าลิ้นของพวกแกก็คงไม่มีประโยชน์อีกต่อไป งั้นฉันตัดมันออกเลยดีกว่า”ขณะที่เธอพูดคำเหล่านี้ เธอชี้มีดคมกริบไปที่ริมฝีปากของอันธพาลคนหนึ่ง และเตรียมพร้อมที่จะตัดมัน...“ผมยอมบอกแล้ว ผมจะเล่าให้คุณฟังทุกอย่าง! อย่าทำร้ายผมเลย!” อันธพาลร้องขอความเมตตาอย่างหวาดกลัว“งั้นก็รีบพูดมา!” เธอวางมีดไว้ข้างริมฝีปากของชายคนนั้น เธอเตรียมที่จะตัดมันทิ้งถ้าเขาไม่ยอมพูดความจริง“คือ… คุณลุค เธอให้เงินเรา และบอกให้เรามาลักพาตัวคุณครับ”"คุณลุค? แกหมายถึง แซลลี่ ลุค เหรอ?” ชารอนขมวดคิ้ว นอกจากแซลลี่ที่ชั่วร้ายแล้ว เธอก็นึกไม่ออกว่าจะมีคนที่ช
ภายในโกดังเก่าแห่งหนึ่ง มือของชารอนถูกมัดไว้ด้านหลัง ขณะที่เธอนอนอยู่บนพื้น กลุ่มคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอคือพวกอันธพาลที่ลักพาตัวเธอมา“ฉันบอกแกแล้วไงว่าอย่าขัดขืน มันไม่มีประโยชน์หรอก…” พวกอันธพาลหัวเราะอย่างชั่วร้าย และไร้ซึ่งจิตสำนึก“ไอ้พวกบ้า! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ! ถ้าพวกแกกล้าแตะต้องฉันแม้แต่นิดเดียว พวกแกได้เห็นดีแน่!” ชารอนจ้องมองอันธพาลเหล่านั้น และตะคอกด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง“ชิ แกคิดว่าแกเป็นคุณหนูไฮโซจากตระกูลเศรษฐี หรือเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์หรือไง? ทำไมเราจะแตะต้องแกไม่ได้? หืม?"พวกอันธพาลยังคงเยาะเย้ยเธอต่อไป"แกพูดถูก ฉันอาจจะไม่ใช่ลูกสาวของตระกูลเศรษฐี และฉันก็ไม่ใช่เจ้าหญิง แต่แกควรรู้เอาไว้ว่าฉันเป็นผู้หญิงของท่านประธานไซมอน แซคคารี่ คิดให้รอบคอบก่อนที่แกจะพยายามทำให้เขาขุ่นเคือง มันจะดีกว่าถ้าแกปล่อยฉันไปตอนนี้!”พวกอันธพาลหันไปมองหน้ากัน พวกเขารู้สึกตกใจกับคำพูดของเธออยู่ไม่น้อย หากเธอเป็นผู้หญิงของไซมอน แซคคารี่ จริง ๆ พวกเขาคงไม่กล้าทำให้เขาขุ่นเคืองใจอย่างแน่นอน“ไม่ต้องไปฟังคำพูดไร้สาระของเธอหรอก เธอไม่ใช่ผู้หญิงของประธานแซคคารี่อีกต่อไปแล้ว ประธานแซคคารี่หย่า
เธอถอนหายใจอย่างแรงแล้วดึงมือออก จากนั้นเธอก็โยนกล่องสีดำใบเล็กที่นำติดตัวมาด้วยให้กับพวกอันธพาล “พวกแกลองเปิดกล่องนี้ดูแล้วนับเงินให้เรียบร้อย ฉันคิดว่าฉันคงไม่ติดค้างอะไรพวกแกอีก นับเงินเสร็จแล้วก็เริ่มการแสดงได้เลย!”“เธอคิดจะทำอะไรน่ะ แซลลี่” ชารอนถามอย่างสงสัยแซลลี่มองเธออีกครั้งแล้วเยาะเย้ย “ทำไมเธอถึงรีบร้อนนักล่ะ?” จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นและหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเธอแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นความเจ็บปวดและความสิ้นหวังบนใบหน้าของชารอน!“ทำไม...ทำไมเธอถึงใจร้ายขนาดนี้? ทำไมเธอต้องทำร้ายฉันด้วย!”“เรื่องนี้เธอคงต้องโทษตัวเองนะ เธอเป็นคนทำให้โฮเวิร์ดขอหย่ากับฉัน และนั่นก็ทำให้ฉันเกลียดเธอมาก!” เธออยากให้ชารอนตายต่อหน้าเธอตรงนั้น แต่ถึงกระนั้น เธอก็ไม่อยากปล่อยให้ชารอนตายเร็วจนเกินไป เธอต้องทรมานชารอน และทำให้เธอได้พบกับสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเธอก่อน!“ฮ่า… เธอน่ะเกลียดฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เธอเองไม่ใช่เหรอที่ทำให้ผู้จัดการคุกต้องตาย? ยิ่งไปกว่านั้น เธอจงใจทำให้ตัวเองตกบันได และฆ่าลูกชายในท้องของเธอ แล้วโยนความผิดทุกอย่างมาให้ฉัน! และมีครั้งหนึ่งที่พวกอันธพาลลักพาตัวฉัน และ
"หยุด! ไม่งั้นผมยิงจริง ๆ นะ!” ไซมอนขู่ ขณะเล็งปืนที่เขาคว้ามาจากตำรวจที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาไปที่แซลลี่เขาสามารถหยุดแซลลี่จากการทำร้ายชารอนจนถึงแก่ชีวิตได้ แต่ก็ยังทำให้เธอสั่นเล็กน้อยจนทิ้งบาดแผลที่ลึกยิ่งกว่าไว้ที่คอของชารอน และเลือดสีแดงก็เริ่มไหลอาบตามร่างกายของเธอ...อาการปวดแสบปวดร้อนที่คอทำให้ชารอนหายใจลำบาก อย่างไรก็ตาม เธอกลับรู้สึกกังวลเกี่ยวกับไซมอน ซึ่งกำลังถือปืนอยู่ในมือของเขามากกว่า เธอไม่อยากให้เขาต้องพลั้งมือฆ่าใครตายเพราะเธอยิ่งไปกว่านั้น แซลลี่ไม่สมควรที่จะตายง่าย ๆ แบบนี้!รูม่านตาของไซมอนขยายออกเมื่อเขาเห็นเลือดที่ไหลอาบคอของชารอน เขาจ้องมองแซลลี่ด้วยสายตาอาฆาต ก่อนจะตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวว่า "ปล่อยเธอซะ!"แซลลี่ตกตะลึง แต่เธอก็ดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว เธอมองไซมอนด้วยสีหน้าเย้ยหยัน เธอรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่สามารถยอมรับชะตากรรมในปัจจุบันของเธอได้ “คุณห่วงเธอมากขนาดนั้นเลยเหรอ ไซมอน? คุณไม่กลัวว่าวันหนึ่งเธอจะทรยศคุณงั้นเหรอ?”“หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว ผมบอกให้ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!”มือของแซลลี่ที่ถือมีดสั่นเล็กน้อย ความรู้สึกเกลียดชังอย่างสุดซึ้งปรา
ในโรงพยาบาล แพทย์กำลังยุ่งอยู่กับการพันแผลที่คอของชารอน ตำแหน่งของบาดแผลนั้นอยู่ในจุดที่อันตราย ถ้าแซลลี่ออกแรงมากกว่านี้ ชารอนอาจจะเสียชีวิตไปแล้วหลังจากที่พวกเขาออกจากโรงพยาบาล ทั้งสองก็เข้าไปนั่งในรถ และชารอนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจก่อนจะพูดว่า "ช่วงนี้ฉันดวงตกหรือไงนะ? ทำไมฉันถึงได้รับบาดเจ็บอยู่เรื่อย”ไซมอนขมวดคิ้วและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “พระเจ้ากำลังบอกให้คุณกลับมาหาผมโดยเร็วที่สุด ผมเป็นคนเดียวที่สามารถปกป้องคุณได้”ชารอนเอียงศีรษะไปด้านข้างแล้วจ้องหน้าเขา และในที่สุด เธอก็เม้มปากแล้วพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่าพระเจ้าพยายามจะสื่ออะไรกับฉัน แต่ฉันรู้ว่าถ้าคุณยิงเธอช้ากว่านั้น ฉันคงตายด้วยน้ำมือของแซลลี่ไปแล้ว” ดังนั้น นี่ก็หมายความว่าเขาได้ช่วยชีวิตเธอไว้อีกครั้งชายคนนั้นเหยียดแขนออก แล้วดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอดของเขาอีกครั้ง จากนั้นเขาก็พูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ชีวิตของคุณเป็นของผม ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เอาชีวิตคุณไปจากผมได้!”แม้ว่าคำพูดของชายคนนั้นจะฟังดูหนักแน่น แต่ชารอนก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาได้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้หลายต่อหลายครั้งแล้วชารอนโน้มตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเขา และถอนหายใจเฮื
รถของไซมอนจอดอยู่บนถนนฝั่งตรงข้าม เนื่องจากบริเวณนั้นมีผู้คนค่อนข้างหนาแน่นชารอนตั้งใจที่จะไปรอรับลูกชายของเธอตรงประตูโรงเรียน แต่ไซมอนบอกเธอว่าตรงนั้นมีคนอยู่เยอะเกินไป และเขาไม่อยากให้เธอไปยืนเบียดเสียดกับคนอื่น เขาจึงบอกให้คนขับรถเข้าไปรับลูกชายของพวกเขาแทนหลังจากนั้นไม่นาน คนขับก็เข้าไปรับลูกชายของพวกเขาออกมา แต่พวกเขากลับเห็นว่ามีเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งเดิมตามมาด้วย ชารอนคิดว่าเธอคงเป็นเพื่อนร่วมชั้นของลูกชายเมื่อชารอนเห็นเด็กหญิง เธอก็เริ่มจินตนาการถึงฉากตอนที่ลูกชายของเธอแก่กว่านี้อีกสองสามปี และพาแฟนสาวกลับมาบ้านเพื่อแนะนำให้พ่อกับแม่ได้รู้จัก“เพื่อนตัวน้อยของลูกคือใครจ้ะ เซบาสเตียน?”“แม่ครับ นี่คือซีเลีย เธอนั่งเรียนโต๊ะเดียวกับผม วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ แต่พ่อกับแม่ของเธอยุ่งจนไม่มีเวลาพาเธอไปฉลองครับ ผมขอพาเธอไปฉลองวันเกิดแทนได้ไหมครับแม่?”กลายเป็นว่ามันคืองานเลี้ยงฉลองวันเกิด ไม่น่าแปลกใจเลยที่วันนี้เด็กชายโทรหาทั้งเธอและไซมอน“ได้สิจ้ะ แต่ลูกจะต้องบอกพ่อแม่ของเธอก่อน ไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจคิดว่าซีเลียหายตัวไป และพวกเขาจะต้องเป็นห่วงเธออย่างแน่นอน”“สวัสดีค่ะค