“เจ้าหนู แม่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อของเธอเป็นใคร หยุดคิดถึงพ่อได้แล้วล่ะ ตอนนี้แค่มีแม่ทูนหัวก็พอแล้วแหละใช่ไหม?” ไรลีย์เคาะหัวเด็กน้อย 'เธอไม่ชอบป้าขนาดนั้นเลยเหรอ?'“ผมไม่สน แม่สัญญากับผมแล้วว่าแม่จะพาผมมาหาพ่อ!” เด็กน้อยยังคงอ้าปากกล่าวคำพูดเมื่อเห็นท่าทีจ้ำม่ำของเซบาสเตียน ไรลีย์ก็อดใจไม่ไหวจนจูบเด็กน้อยเข้าที่แก้ม “แก้มเธอจะเด้งนิ่มไปไหนล่ะเนี่ย?”เซบาสเตียนเผยหน้าซีดแทน “แม่ครับ... ป้าคนนี้แอบแต๊ะอั๋งผม!”ทั้งนี้ ชารอนเลี้ยงได้ดูเซบาสเตียนด้วยตัวเองและเธอเองก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกับคนอื่น ดังนั้น เซบาสเตียนจึงเป็นเหมือนเด็กติดแม่และไม่ค่อยได้พบเจอคนอื่นมากนัก“จูบถือว่าเป็นการแต๊ะอั๋งงั้นเหรอ?” ไรลีย์หัวเราะชารอนเองก็หัวเราะออกมาเช่นกัน ก่อนที่เธอจะ 'ช่วย' ลูกชายของตนให้พ้นจากอ้อมแขนของเพื่อนสนิท “เจ้าตัวเล็กแค่กลัวคนแปลกหน้าน่ะ แต่ถ้าเขาได้อยู่กับเธอมากขึ้น เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเองแหละ”ไรลีย์เลิกคิ้ว “เอาล่ะ งั้นป้าจะให้เธออยู่กับป้าหนึ่งวันเต็ม ๆ เลย!" ไรลีย์กล่าวคำพูดออกมาด้วยน้ำเสียงกึ่งบังคับเซบาสเตียนพ่นลมหายใจและหันกลับมากอดแม่ของตัวเองพร้อมกับเผยยิ้มด้วยความดีใจ
ไซม่อนเดินเข้าไปในห้องทำงานของประธาน ส่วนแฟรงกี้เองก็เดินตามหลังมา“ท่านประธานแซคคารี่ครับ ผมได้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นมาแล้วครับ” แฟรงกี้กล่าวไซม่อนเพียงแค่นั่งลงและขมวดคิ้วเล็กน้อยทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น "ว่ามา" แฟรงกี้หยิบรายงานประวัติออกมา “ผู้หญิงคนนั้นชื่อชารอน เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เธอย้ายออกมาจากนอร์เทิร์น ซิตี้และไปเรียนต่อที่เมืองเอ็มคันทรี่ เมื่อหนึ่งปีก่อน เธอได้รับรางวัลการออกแบบตกแต่งภายในระดับโลก และบังเอิญ... เธอได้สมัครเข้าทำงานเป็นนักออกแบบภายในของบริษัทเราด้วยครับ"ไซม่อนจับริมฝีปากของตนและไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ 'งั้นก็หมายความว่าตอนนี้เราเป็นหัวหน้าของเธองั้นเหรอ?'เมื่อห้าปีที่แล้ว เธอย้ายออกมาจากนอร์เทิร์น ซิตี้...ไซม่อนพลันนึกถึงคืนหนึ่งเมื่อห้าปีที่แล้ว เขาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศและกำลังเตรียมพร้อมที่จะรับช่วงต่อจากตระกูลแซคคารี่ ในระหว่างพิธีการเข้ารับตำแหน่ง ไซม่อนได้ดื่มไวน์แก้วหนึ่งที่ใส่ยาลงไป หลังจากนั้น เขาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นแต่ทว่า เมื่อตื่นขึ้นจากการหลับใหลในวันรุ่งขึ้น ไซม่อนไม่พบเจอผู้หญิงคนไหนเลย ถึงอย่างไร ไซม่อนก็สังเกตเห็
เมื่อได้ยินเสียงของโฮเวิร์ด ชารอนก็ถึงกับตกตะลึง ภาพงานวิวาห์ของเธอในคืนนั้นเริ่มท่วมท้นเข้ามา ความโหดร้ายของโฮเวิร์ดและการขาดความเชื่อใจในตัวเธอทำให้ชารอนค่อนข้างรู้สึกผิดหวังโฮเวิร์ดวางซองเอกสารไว้บนโต๊ะทำงาน เมื่อก้มลงมอง เขาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ทันใดนั้น สีหน้าของโฮเวิร์ดพลันเปลี่ยนไป เขาถึงกับต้องหรี่ตามอง “เธอ... ชารอนเหรอ?!” การปรากฏตัวของชารอนทำให้โฮเวิร์ดประหลาดใจไม่น้อย 'เธอกลับมางั้นเหรอ?'ทว่า ชารอนไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมา ทันใดนั้น ไซม่อนซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ผู้บริหารพลันเหลือบมองทั้งสองด้วยความรู้สึกสนใจ “เป็นอะไรไปล่ะ? รู้จักกันด้วยเหรอ?”"ไม่ค่ะ!" ชารอนตอบกลับโดยไม่ได้คิดซ้ำสองเลยด้วยซ้ำ โฮเวิร์ดเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “อันที่จริง เราไม่รู้จักกัน ชารอนที่ฉันเคยรู้จักตายไปนานแล้ว”ท้ายที่สุดแล้ว ชารอนก็เงยหน้าขึ้นมองโฮเวิร์ด ทั้งสองสบตากัน บรรยากาศรอบกายเริ่มตึงเครียด สุดท้าย ชารอนก็จัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ เพราะนี่เป็นวันแรกที่เธอต้องรายงานตัวต่อบริษัท ถ้าเธอต้องมาต่อกรหรือมีปัญหากับโฮเวิร์ด หลายสิ่งหลายอย่างคงไม่ออกมาด
หลังจากวันทำงานอันแสนวุ่นวายสิ้นสุดลงแล้ว ชารอนก็กลับบ้าน เธอรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยทว่า ไรลีย์ทำงานเสร็จเร็วกว่าชารอน เธอจึงออกไปรับเซบาสเตียนกลับมาจากโรงเรียนอนุบาลก่อน“กลับมาแล้วเหรอ? ทำงานวันแรกเป็นยังไงบ้างล่ะ? ทุกอย่างโอเคไหม?” ไรลีย์ถามชารอนเหลือบมองเธอ “ทำไมเธอไม่บอกฉันก่อนล่ะว่าตระกูลแซคคารี่เป็นเจ้าของบริษัทเซ็นทรัลคอร์ปอเรชั่น?" “งั้นแสดงว่าเธอได้เจอกับคุณไซม่อนแล้วสิ เขาเป็นไงบ้างล่ะ? เขาหล่อหรือเปล่า?”ชารอนจ้องเขม็งไปที่เธอ “เขาหล่อแล้วเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ? เขาเป็นลุงของโฮเวิร์ด!”"แล้วยังไงล่ะ?! ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเข้าสู่บริษัทเซ็นทรัลคอร์ปอเรชั่นได้บ้างล่ะ? เธอน่าจะรู้สึกดีที่ได้ถูกจ้างงานมากกว่านะ ไม่ว่าเขาจะเป็นลุงของใครก็ช่างเถอะ เธอกลัวว่าคุณไซม่อนจะร่วมมือกับโฮเวิร์ดแล้วสร้างปัญหาให้เธอหรือยังไงกัน?"ชารอนขมวดคิ้ว เธอไม่สะทกสะท้านอะไรเลย อันที่จริง ชารอนเพียงแค่ไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับใครก็ตามในตระกูลแซคคารี่เลยในตอนนั้นเอง เซบาสเตียนเดินออกมาจากห้องนอนและจับหน้าท้องตัวเองเอาไว้ “แม่ครับ ผมปวดท้อง”ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ชารอนก็ดึงลูกชายเข้าหาตัว เธอสั
ชารอนพลันได้สติ หัวใจของเธอกำลังเต้นแรง ชารอนก้มศีรษะลงและกัดริมฝีปาก อันที่จริง เธอรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยไซม่อนรู้สึกตะขิดตะขวงใจทันทีที่เห็นชารอนเผยท่าทีเช่นนั้น และก็เป็นอีกครั้งที่ไซม่อนสามารถจับกลิ่นของชารอนได้ มันเป็นกลิ่นที่เขาต้องการสูดดมมาโดยตลอดไซม่อนชำเลืองมองชารอนอย่างละเอียดกว่าเดิมบรรยากาศระหว่างทั้งสองในตอนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าพลันดังขึ้นใกล้พวกเขา“ชาร์ เธอได้ยามาหรือยังน่ะ?” ไรลีย์และเซบาสเตียนรออยู่ในห้องผู้ป่วยมาระยะหนึ่งแล้ว ด้วยเหตุนี้ ไรลีย์จึงตัดสินใจออกมาตามหาชารอน เนื่องด้วยเธอไม่รู้ว่าชารอนหายไปไหน ชารอนสงบสติอารมณ์ 'ให้ตายสิ! เราลืมลูกชายของตัวเองได้ยังไงกันล่ะเนี่ย?'“อ่า ฉันได้ยามาแล้ว เซบาสเตียนเป็นยังไงบ้างล่ะ?”“เขาดีขึ้นแล้ว แต่หมอบอกว่าเขายังต้องกินยาอยู่” ไรลีย์มองไปยังชายร่างสูงสุดเย็นชาที่ยืนอยู่ข้างชารอน ดวงตาของไรลีย์เริ่มเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น “นี่เจ้านายของเธอไม่ใช่เหรอ ชาร์? ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ?”'ไม่คิดเลยว่าคุณไซม่อนจะหล่อมากขนาดนี้ เขาหล่อกว่าที่เห็นในโทรทัศน์เสียอีก แต่ยังไงก็เถอะ ผู้ชายคนนี
“ผมได้ข่าวมาว่าคุณปู่เป็นลมไป ตอนนี้อาการของเขาเป็นยังไงบ้างเหรอครับ?” โฮเวิร์ดถามไซม่อนทันทีหลังจากเข้ามาพยาบาลเป็นคนบอกโฮเวิร์ดว่าไซม่อนอยู่ในห้องนี้ ด้วยเหตุนั้น เขาจึงรีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้มองดูผู้คนที่อยู่ข้างในเลยไซม่อนชำเลืองมองและกล่าวคำพูดอย่างแผ่วเบา “ก็ปัญหาเดิม ๆ ตอนนี้คุณหมอกำลังรักษาคุณปู่อยู่”ท้ายที่สุด โฮเวิร์ดก็เห็นทุกคนที่อยู่ในห้อง เขาในตอนนี้รู้สึกอึดอัดใจไม่น้อย 'ชารอนอีกแล้วเหรอ?'ไรลีย์พูดขึ้นทันทีโดยไม่ลังเล “ใครอนุญาตให้นายเข้ามากัน? ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!”ชารอนได้แต่กัดริมฝีปาก เธอไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เธอเพียงแค่นั่งข้างเตียงและดูแลลูกชายเท่านั้น เธอไม่แม้แต่จะมองไปที่โฮเวิร์ดเลยทันทีที่โฮเวิร์ดเห็นเด็กน้อย สายตาของเขาพลันหยุดนิ่ง 'ทำไมเด็กคนนั้น... หน้าเหมือนลุงจังล่ะ?!'โฮเวิร์ดรีบมองกลับไปที่ลุงของตัวเองทันที 'เขาเป็นลูกของลุงไซม่อนหรือเปล่านะ?''ไม่หรอกมั้ง ลุงไซม่อนยังไม่มีแฟนเลยด้วยซ้ำ ลุงน่าจะยังไม่มีลูกหรอก''ลูกไม่มีพ่องั้นเหรอ? ลุงไซม่อนคงไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นหรอก!'ระหว่างที่โฮเวิร์ดมองดูเซบาสเตียน ไรลีย์ก็พุ่งเข้ามาบั
ทั้งนี้ ชารอนไม่คาดคิดเลยว่าพ่อของเธอจะฝากอะไรไว้ให้ เมื่อห้าปีก่อน ท่านจากไปโดยที่ชารอนไม่ได้กล่าวคำร่ำลาเลยด้วยซ้ำ ทว่า หลังจากไปเคารพหลุมศพของคุณพ่อที่สุสานแล้ว เธอก็ย้ายออกมาจากนอร์เทิร์น ซิตี้ทันที เนื่องด้วยสถานแห่งนี้ไม่ต้อนรับเธออีกต่อไปแล้ว“โอเคค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะติดต่อกลับไป”ทว่า คุณหมอคอลลินส์ยังคงต้องดูแลผู้ป่วยรายอื่น ด้วยเหตุนั้น เขาจึงทิ้งเบอร์ติดต่อไว้และรีบจากไปในวันรุ่งขึ้น ชารอนป้อนข้าวป้อนน้ำและป้อนยาให้ลูกชาย เธอต้องทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ลูกชายรู้สึกปวดท้องอีก หลังจากนั้น ชารอนก็ไปส่งลูกชายของเธอที่โรงเรียนอนุบาลพร้อมกับปลีกตัวไปทำงานทันทีที่ชารอนมาถึงบริษัท เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากสำนักงานเลขานุการ เธอถูกเรียกตัวไปที่ห้องทำงานของประธานแซคคารี่อีกครั้ง ดูเหมือนว่าไซม่อนต้องการพบเธอไม่นานหลังจากนั้น ชารอนก็มาถึงห้องทำงานของประธานแซคคารี่ ไซม่อนยืนอยู่ข้างหน้าต่างที่ทอดยาวจากเพดานจรดพื้น เขากำลังคุยโทรศัพท์กับคนอื่นอยู่ เมื่อเห็นว่าชารอนมาถึงแล้ว ไซม่อนจึงบอกให้ชารอนนั่งรอก่อนไม่นานนัก ไซม่อนก็วางสายและเดินเข้ามานั่งลงบนเก้าอี้ผู้บริหาร พร้อมกับดึงเอกสาร
“เธอคือ...” ไซม่อนกำลังคิดหาวิธีที่จะแนะนำชารอนให้คุณพ่อของตัวเองรู้จัก“ท่านประธานแซคคารี่คะ ดูเหมือนว่าคุณจะลืมพาคู่มาด้วยนะคะ” ชารอนซึ่งกำลังถูกห้ามปราบกล่าวคำพูดออกมาด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเศร้าใจไซม่อนเลิกคิ้ว 'คู่งั้นรึ?'“ให้เธอเข้ามาสิ” ดักลาสกล่าวสายตาที่แข็งทื่อและเฉียบคมของดักลาสเริ่มสำรวจชารอน อันที่จริง ดักลาสไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนปรากฏตัวเคียงข้างลูกชายขอตนมานานหลายปีแล้ว 'หรือว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนพิเศษของลูกชายเรา?'ชารอนรู้สึกดีใจมากที่เธอได้รับอนุญาตให้เข้าไปในงาน เธอเผยยิ้มและเดินเข้าไปในโรงแรมพร้อมกับเชิดหน้า “ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ผู้อำนวยการแซคคารี่” เธอทักทายดักลาสอย่างสุภาพ ทว่า ดักลาสเพียงแต่จ้องมองชารอนตั้งแต่หัวจรดเท้า นั่นทำให้เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเธอละสายตาจากดักลาสและหันไปสังเกตเห็นว่าไซม่อนกำลังจ้องมาที่ตน หัวใจของชารอนพลันเต้นแรงอย่างรวดเร็ว แต่สุดท้ายแล้ว เธอก็หลบสายตาของไซม่อน เธอไม่กล้าสบตาเขาเลยด้วยซ้ำ'หรือเขาจะเป็นพวกโรคจิตกันนะ?'“ไซม่อน เธอเป็นคู่ของลูกงั้นเหรอ?” ดักลาสมองดูลูกชายอย่างสงสัย เพราะไซม่อนค่อนข้างเงียบไซม่อนพลันชำเลืองม