“ผมได้ข่าวมาว่าคุณปู่เป็นลมไป ตอนนี้อาการของเขาเป็นยังไงบ้างเหรอครับ?” โฮเวิร์ดถามไซม่อนทันทีหลังจากเข้ามาพยาบาลเป็นคนบอกโฮเวิร์ดว่าไซม่อนอยู่ในห้องนี้ ด้วยเหตุนั้น เขาจึงรีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้มองดูผู้คนที่อยู่ข้างในเลยไซม่อนชำเลืองมองและกล่าวคำพูดอย่างแผ่วเบา “ก็ปัญหาเดิม ๆ ตอนนี้คุณหมอกำลังรักษาคุณปู่อยู่”ท้ายที่สุด โฮเวิร์ดก็เห็นทุกคนที่อยู่ในห้อง เขาในตอนนี้รู้สึกอึดอัดใจไม่น้อย 'ชารอนอีกแล้วเหรอ?'ไรลีย์พูดขึ้นทันทีโดยไม่ลังเล “ใครอนุญาตให้นายเข้ามากัน? ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!”ชารอนได้แต่กัดริมฝีปาก เธอไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เธอเพียงแค่นั่งข้างเตียงและดูแลลูกชายเท่านั้น เธอไม่แม้แต่จะมองไปที่โฮเวิร์ดเลยทันทีที่โฮเวิร์ดเห็นเด็กน้อย สายตาของเขาพลันหยุดนิ่ง 'ทำไมเด็กคนนั้น... หน้าเหมือนลุงจังล่ะ?!'โฮเวิร์ดรีบมองกลับไปที่ลุงของตัวเองทันที 'เขาเป็นลูกของลุงไซม่อนหรือเปล่านะ?''ไม่หรอกมั้ง ลุงไซม่อนยังไม่มีแฟนเลยด้วยซ้ำ ลุงน่าจะยังไม่มีลูกหรอก''ลูกไม่มีพ่องั้นเหรอ? ลุงไซม่อนคงไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นหรอก!'ระหว่างที่โฮเวิร์ดมองดูเซบาสเตียน ไรลีย์ก็พุ่งเข้ามาบั
ทั้งนี้ ชารอนไม่คาดคิดเลยว่าพ่อของเธอจะฝากอะไรไว้ให้ เมื่อห้าปีก่อน ท่านจากไปโดยที่ชารอนไม่ได้กล่าวคำร่ำลาเลยด้วยซ้ำ ทว่า หลังจากไปเคารพหลุมศพของคุณพ่อที่สุสานแล้ว เธอก็ย้ายออกมาจากนอร์เทิร์น ซิตี้ทันที เนื่องด้วยสถานแห่งนี้ไม่ต้อนรับเธออีกต่อไปแล้ว“โอเคค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะติดต่อกลับไป”ทว่า คุณหมอคอลลินส์ยังคงต้องดูแลผู้ป่วยรายอื่น ด้วยเหตุนั้น เขาจึงทิ้งเบอร์ติดต่อไว้และรีบจากไปในวันรุ่งขึ้น ชารอนป้อนข้าวป้อนน้ำและป้อนยาให้ลูกชาย เธอต้องทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ลูกชายรู้สึกปวดท้องอีก หลังจากนั้น ชารอนก็ไปส่งลูกชายของเธอที่โรงเรียนอนุบาลพร้อมกับปลีกตัวไปทำงานทันทีที่ชารอนมาถึงบริษัท เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากสำนักงานเลขานุการ เธอถูกเรียกตัวไปที่ห้องทำงานของประธานแซคคารี่อีกครั้ง ดูเหมือนว่าไซม่อนต้องการพบเธอไม่นานหลังจากนั้น ชารอนก็มาถึงห้องทำงานของประธานแซคคารี่ ไซม่อนยืนอยู่ข้างหน้าต่างที่ทอดยาวจากเพดานจรดพื้น เขากำลังคุยโทรศัพท์กับคนอื่นอยู่ เมื่อเห็นว่าชารอนมาถึงแล้ว ไซม่อนจึงบอกให้ชารอนนั่งรอก่อนไม่นานนัก ไซม่อนก็วางสายและเดินเข้ามานั่งลงบนเก้าอี้ผู้บริหาร พร้อมกับดึงเอกสาร
“เธอคือ...” ไซม่อนกำลังคิดหาวิธีที่จะแนะนำชารอนให้คุณพ่อของตัวเองรู้จัก“ท่านประธานแซคคารี่คะ ดูเหมือนว่าคุณจะลืมพาคู่มาด้วยนะคะ” ชารอนซึ่งกำลังถูกห้ามปราบกล่าวคำพูดออกมาด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเศร้าใจไซม่อนเลิกคิ้ว 'คู่งั้นรึ?'“ให้เธอเข้ามาสิ” ดักลาสกล่าวสายตาที่แข็งทื่อและเฉียบคมของดักลาสเริ่มสำรวจชารอน อันที่จริง ดักลาสไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนปรากฏตัวเคียงข้างลูกชายขอตนมานานหลายปีแล้ว 'หรือว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนพิเศษของลูกชายเรา?'ชารอนรู้สึกดีใจมากที่เธอได้รับอนุญาตให้เข้าไปในงาน เธอเผยยิ้มและเดินเข้าไปในโรงแรมพร้อมกับเชิดหน้า “ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ผู้อำนวยการแซคคารี่” เธอทักทายดักลาสอย่างสุภาพ ทว่า ดักลาสเพียงแต่จ้องมองชารอนตั้งแต่หัวจรดเท้า นั่นทำให้เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเธอละสายตาจากดักลาสและหันไปสังเกตเห็นว่าไซม่อนกำลังจ้องมาที่ตน หัวใจของชารอนพลันเต้นแรงอย่างรวดเร็ว แต่สุดท้ายแล้ว เธอก็หลบสายตาของไซม่อน เธอไม่กล้าสบตาเขาเลยด้วยซ้ำ'หรือเขาจะเป็นพวกโรคจิตกันนะ?'“ไซม่อน เธอเป็นคู่ของลูกงั้นเหรอ?” ดักลาสมองดูลูกชายอย่างสงสัย เพราะไซม่อนค่อนข้างเงียบไซม่อนพลันชำเลืองม
ชารอนเดินเข้าไปในโรงแรมพร้อมกับควงแขนของไซม่อน หลังจากนั้น เธอก็เห็นแม่ของโฮเวิร์ดที่ชื่อว่าฟิโอน่าและ...แซลลี่!แซลลี่พลันจ้องมองชารอนด้วยความประหลาดใจ ทว่า ชารอนกัดริมฝีปากและจับแขนของไซม่อนแน่นกว่าเดิมทว่า เสียงของแซลลี่สั่นเครือเล็กน้อย “ชารอนเหรอ?”พวกเธอไม่ได้เจอหน้ากันเป็นเวลาห้าปีแล้ว อีกทั้ง ชารอนในปัจจุบันก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วด้วย ถึงแม้ว่าหน้าตาจะยังไม่เปลี่ยน แต่ชารอนในตอนนี้ก็ดูจะมีความมั่นใจและเย่อหยิ่งมากขึ้นกว่าแต่ก่อนแซลลี่สังเกตเห็นการยั่วยุในดวงตาของชารอนอย่างชัดเจน เธอควงแขนไซม่อนเพื่อแสดงตัวว่าตัวเองเป็นผู้ชนะแซลลี่ถึงกับตกตะลึงฟิโอน่าเองก็สังเกตเห็นชารอนเช่นกัน ผู้หญิงจอมเจ้าเล่ห์ที่นอกใจลูกชายของเธอเมื่อห้าปีก่อน!“โฮเวิร์ด เธอมาที่นี่ทำไมกัน?” ฟิโอน่ามองดูลูกชายด้วยสายตาเคร่งขรึมทว่า ชารอนเผยยิ้มและตอบก่อนที่โฮเวิร์ดจะพูดออกมาด้วยซ้ำ "คุณป้าคะ วันนี้หนูแค่จะมาแสดงความยินดีกับโฮเวิร์ดและแซลลี่ค่ะ"แซลลี่กำหมัดและจ้องมองไปที่ชารอนโดยไม่พูดอะไรสักคำฟิโอน่ารู้สึกทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เธอโบกมือเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อไล่ชารอนออกไปทัน
ก่อนหน้านี้ ชารอนแค่เอ่ยปากชวนไซม่อนเต้นรำ แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะตอบตกลงเต้นกับเธอจริง ๆใครจะไปรู้ล่ะว่าคนที่เอ่ยปากชวนกลับกลายเป็นฝ่ายเฉยชา? เธอขยับไปมาตามจังหวะเท้าของไซม่อนในตอนนี้ ผู้ชายตรงหน้าคือทั้งหมดที่ชารอนเห็นเท่านั้น ภายใต้แสงไฟคริสตัลระยิบระยับ ใบหน้าสุดผ่องใสของชายผู้นี้ทำให้เขาดูหล่อมากกว่าเดิมไปอีกมันให้ความรู้สึกราวกับว่าดวงตาสีดำสุดลึกล้ำของไซม่อนมีพลังวิเศษที่สามารถดึงดูดชารอนได้ตามด้วยโน้ตดนตรีตัวสุดท้าย ทั้งสองมาถึงขั้นตอนสุดท้ายในการเต้นรำ แขนของไซม่อนโอบกอดชารอนไว้ เธออยู่ภายในอ้อมแขนของหนุ่มรูปงาม ชารอนเงยหน้าขึ้นและมองเข้าไปในดวงตาของไซม่อน ภายในเสี้ยววินาที ทั้งคู่ดูเหมือนจะหลงลืมทุกสิ่งอย่างทว่า ทันทีที่ชารอนได้ยินเสียงปรบมือดังมาจากบริเวณรอบข้าง เธอจึงรีบสะบัดตัวออก ชารอนสลัดตัวออกจากอ้อมกอดของไซม่อนโดยไม่รู้ตัวเธอก้มศีรษะลง "ฉันขอไปหาอะไรดื่มสักหน่อย" เธอเดินออกจากลานเต้นรำไป ท่าทีของชารอนค่อนข้างเร่งรีบไซม่อนมองดูชารอนที่ดูเหมือนกำลังจะวิ่งหนี เขาพลันกัดริมฝีปาก 'ผู้หญิงคนนี้... เธอเขินอยู่หรือยังไงกัน?'ท้ายที่สุด ชารอนก็มาถึงจุดวางเครื่
ชารอนยืนอยู่ตรงข้ามกับแซลลี่ ทุกคนรวมทั้งโฮเวิร์ดต่างก็กำลังมองดูทั้งสอง ทว่า โฮเวิร์ดยืนอยู่ไม่ไกลจากพวกเธอมากนักโฮเวิร์ดขมวดคิ้วและรู้สึกสงสัยว่าแซลลี่กำลังคิดทำอะไรอยู่ดูเหมือนว่าแซลลี่กำลังเผยรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ออกมาระหว่างที่มองไปที่ชารอน เธอบอกกฎ "คุณช่วยตอบคำถามฉันก่อนได้ไหมคะ? และถ้าตอบผิด คุณก็จะถูกลงโทษ""พูดมาสิ" ชารอนมองเข้าไปในดวงตาของแซลลี่ 'ปลอมมากเลยนะแซลลี่! กระแดะทำเป็นไม่รู้จักกันต่อหน้าสาธารณะ!'ดวงตาของแซลลี่เป็นประกายอย่างเย็นชา “ฉันขอถามคุณหน่อยได้ไหมว่าคุณคุยอะไรกับสามีของฉันที่ทางเดินด้านนอกเมื่อครู่?”ชารอนขมวดคิ้วทันทีที่รู้ว่าแซลลี่กำลังวางแผนอะไรอยู่“สำหรับคำถามนั้น ฉันว่าคุณควรไปถามโฮเวิร์ดมากกว่านะ เพราะเขาเป็นคนที่ลากฉันออกไปข้างนอก”“ฉันถามเขาแล้ว และเขาบอกว่าคุณกำลังพยายามจะจีบเขา เป็นแบบนั้นจริงเหรอ?!” แซลลี่กล่าวคำพูดอย่างเย็นชาออกมาโดยคิดว่าชารอนต้องทำความผิดอะไรสักอย่างเอาไว้แน่ความโกลาหลเกิดขึ้นท่ามกลางฝูงชนบนเวทีทันที ผู้คนเริ่มกระซิบกระซาบกันดวงตาของชารอนเป็นประกายอีกครั้ง ทว่า เธอยังไม่ได้ถูกเปิดโอกาสให้พูดเลย แซลลี่พลันชี้นิ้วมาท
ชารอนถูกไซม่อนอุ้มออกไป มันเป็นค่ำคืนที่มีลมหนาวพัดผ่าน ด้วยเหตุนั้น ชารอนจึงตัวสั่นเทาและรู้สึกหนาวเหน็บไวน์ของแซลลี่ทำให้เสื้อผ้ารอบหน้าอกของชารอนเปียกโชก ผมของชารอนเองก็เปียกไปหมดเลยเช่นกัน นอกจากนี้ เสื้อของชารอนยังเปื้อนเนยอีกด้วย เมื่อเห็นตัวเองอยู่ในสภาพเช่นนี้ ชารอนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอับอายขึ้นมา“ขอบคุณนะคะ แต่ช่วยปล่อยฉันเดินเถอะค่ะ” เธอกล่าวเบา ๆ กับไซม่อนในตอนนั้นเอง รถคันหนึ่งขับเข้ามาจอดตรงหน้าทั้งสองไซม่อนปล่อยให้เธอเดิน ทว่า ชารอนเหลือบไปเห็นว่าชุดสูททรงตะวันตกของไซม่อนในตอนนี้ก็เลอะเนยค่อนข้างเยอะเช่นกัน เธอรู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้น “ต้องขอโทษด้วยนะคะ ฉันทำเสื้อคุณเปื้อนอีกแล้ว คุณช่วยถอดเสื้อออกมาก่อนได้ไหม? เดี๋ยวฉันเอาไปซักให้”ไซม่อนยังคงยืนนิ่งและมองชารอน ในตอนแรก ไซม่อนเพียงแค่สงสัยเท่านั้นว่าทำไมเธอถึงยืนกรานที่จะเป็นคู่ควงของตนก่อนเข้าไปในโรงแรม ไซม่อนคิดว่าเธอมาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา ถึงกระนั้น ดูจากสถานการ์ในตอนนี้แล้ว ดูเหมือนว่าชารอนคงตั้งใจจะมาทำลายงานเลี้ยงจริง ๆ แต่ท้ายที่สุด ชารอนก็ต้องมารู้สึกอับอายด้วยเช่นกัน ไซม่อนไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย เขา
แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์น่าตกใจตรงหน้า แต่สีหน้าของไซม่อนก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย เขาเดินเอ้อระเหยตรงไปข้างหน้า “ผมกลับบ้านแล้วครับ คุณพ่อ” ไซม่อนกล่าวทักทายดักลาสซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะ หลังจากนั้น ไซม่อนก็หันไปมองอีกคนข้างกาย “พี่สะใภ้ก็มาด้วยเหรอ?”ฟิโอน่าเป็นพี่สะใภ้ของไซม่อน เมื่อห้าปีที่แล้ว พี่ชายของไซม่อนเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ดังนั้น เขาจึงต้องกลับไปรับช่วงต่อจากตระกูลแซคคารี่หลังจากพี่ชายของไซม่อนเสียชีวิต ฟิโอน่าและโฮเวิร์ดได้ย้ายออกไป ทั้งสองทำเช่นนั้นเพราะไม่อยากอยู่ในบ้านหลังนี้ พวกเขาต่างก็ต้องเห็นสิ่งของหลายอย่างซึ่งเป็นเหมือนตัวกระตุ้นความทรงจำของคนที่เสียไปดักลาสมองดูไซม่อนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาถามขึ้นด้วยเสียงเข้ม “ลูกไปไหนมา? ทำไมเพิ่งกลับมาถึงบ้านเอาป่านนี้ล่ะ?”ไซม่อนเลิกคิ้วและรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าตลก “พ่อครับ ผมโตแล้วนะ กลับบ้านช้าไม่เห็นเป็นอะไรเลย”อันที่จริง ไซม่อนรู้ดีว่าพ่อของตนถามแบบนั้นเพราะต้องการที่จะรู้ว่าเขาได้อยู่กับชารอนหรือไม่ดักลาสพ่นลมหายใจเสียงดัง “ผู้หญิงที่ชื่อว่าชารอนอยู่ไหนกันล่ะ? เธอเข้ามาทำลายงานเลี้ยงไ